คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : chapter 1 : やくそく คำสัญญา
ฤดูใบไม้ผลิใต้ต้นซากุระที่ผลิบอกบานสะพรั่ง เด็กสาวสองคนกำลังยืนจ้องมองลงไปที่กล่องใบเล็กที่อยู่ในหลุมที่ทั้งสองขุดขึ้น กล่องที่เต็มไปด้วยความลับ และความทรงจำของคนทั้งสอง…
“นี่…พี่มิยูสัญญานะว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” สาวน้อยผมยาวร่างเล็กราวกับตุ๊กตาพูดขึ้นพร้อมชูนิ้วก้อยให้อีกฝ่าย
“อื้ม สัญญา… พี่จะไม่มีวันทิ้งฮารุกะไปแน่นอน”
นิ้วก้อยที่เกี่ยวกันไว้แน่นราวกับจะไม่มีวันปล่อยกันไป คำสัญญาใต้ต้นซากุระที่งดงาม คำสัญญาที่ในบางทีมันอาจจะไม่ได้คงอยู่ตลอดไป…
.
.
.
“นี่ฮารุกะ ฮารุกะ!!”
“ห้ะ ห้ะ อะไรหรอริโฮ” สาวน้อยผมสั้นร่างเล็กสะดุ้งขึ้นกับเสียงเรียกของเพื่อนตัวเอง
“จะเหม่อไปถึงไหน ฉันถามว่าวันที่ 16 นี้จะไปเที่ยวทะเลกับที่ห้องมั้ย นี่เธอได้ฟังครูพูดมั่งปะเนี่ย” ริโฮทำหน้าเซ็งกับเพื่อนตัวเองที่ดูเหมือนจะเหม่อออกนอกโลกไปแล้ว
“16 หรอ…”
’16 มีนา… มันวันนั้นนี่นา’
“ดูเหมือนจะไม่ได้น่ะริโฮ พอดีฉันมีธุระนิดหน่อย” ร่างเล็กพูดขึ้นพร้อมทำท่าขอโทษขอโพยเพื่อนที่ทำหน้าเซงไม่เลิกแถมยังดูจะงอนเธออีก
‘ขอโทษนะริโฮ แต่วันนั้นฉันมีทีที่ต้องไปแล้วจริงๆ’
.
.
“นี่ฮารุกะถามจริงๆนะ เธอมีคนที่ชอบอยู่แล้วรึเปล่า?” ริโฮพูดขึ้นมาระหว่างเดินไปป้ายรถบัสก็เพราะเธอเห็นเพื่อนรักเธอชอบเหม่อบ่อยๆน่ะสิ แถมช่วงนี้ยิ่งเหม่อบ่อยขึ้นเรียกก็ไม่หัน คุยอะไรด้วยก็ไม่ยอมฟัง เธอก็เลยสงสัยจนถามออกไป
“เอ้ะ ห้ะ อะไรอ่ะริโฮอยู่ดีๆก็มาถาม” ร่างเล็กทำหน้ามุ่ยและแอบงงกับคำถามของเพื่อนรัก
“ก็ฉันสงสัยหนิ พักนี้เหม่อบ่อย แถมมีคนมาจีบฮารุกะก็ไม่สนเลยซักคน แสดงว่าต้องมีตัวจริงในใจอยู่แล้ว ใช่มะใช่มะ” ริโฮคาดคั้นพร้อมใช้ไหล่สะกิดเพื่อนด้วยหน้าตาพร้อมแซวเต็มที่
“คนที่อยู่ในใจหรอ… เรียกว่ารักแรกดีกว่านะ” ฮารุกะลดเสียงตอนช่วงสุดท้ายลงราวกับจะให้ตัวเองได้ยินแค่คนเดียว
“อะไรนะ เมื่อพูดว่าอะไรนะฮารุกะ ไม่ได้ยินอ่ะ” ริโฮทำท่าสงสัยพร้อมกับเอียงหูฟัง ก็พูดเบาซะขนาดนั้นใครจะไปได้ยินกันล่ะ
“อ้ะ! รถมาแล้ว! ริโฮ บ๊ายบาย ไว้คุยกันใหม่นะ” ฮารุกะตัดบทด้วยการวิ่งขึ้นรถบัสและยังไม่ลืมหันมาโบกมือแลบลิ้นใส่เพื่อนของตัวเอง
“ชิ้ ตัดบทกันได้นะฮารุกะ จำไว้เลย! ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร ยัยเพื่อนบ้า” ริโฮตะโกนใส่รถบัสที่กำลังวิ่งผ่านหน้าไปพร้อมกับความคิดในใจ
‘ร่าเริงอย่างนี้ต่อไปนะฮารุกะ อย่ากลับไปเป็นเหมือนวันแรกที่เธอย้ายมาเลยนะ…’
.
.
ระหว่างทางกลับบ้านฮารุกะนึกถึงคำพูดที่ริโฮพูด
‘คนที่อยู่ในใจงั้นหรอ จะเรียกอย่างนั้นก็ได้มั้ง เพราะจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีวันซักวันที่จะลืมคนคนนั้นได้เลย’
.
.
.
7 ปีที่แล้ว
“โอ้ย! เจ็บเจ็บเจ็บ ฮือ” มิยาชิตะ ฮารุกะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เด็กน้อยร่างเล็กผมยาว ที่ตอนนี้กำลังนั่งกองอยู่กับพื้นพร้อมจับขาตัวเอง รีบวิ่งกลับบ้านไปหน่อยเพราะรายการโปรดจะมาเลยใช้ทางลัดหลังสวนแล้วดันสะดุดหินจนตัวเองล้มนั่งจุ้มปุ้กอยู่ใต้ต้นซากุระในสวนแห่งหนึ่ง
‘อีกนิดเดียวจะถึงบ้านแล้วแท้ๆ’
“เจ็บเจ็บ ฮารุกะเจ็บ ทำไงดี ฮือ จะสี่โมงแล้วด้วย รายการจะมาแล้ว ฮึก ฮึก ฮืออ” ร่างเล็กพูดพลางมองนาฬิกา สาเหตุหลักที่ร้องไห้น่าจะเป็นกลัวกลับไปดูรายการโปรดไม่ทันมากกว่าเจ็บขาซะอีก
“หืม ตัวเล็กมานั่งทำอะไรตรงนี้คะ” มีเสียงมาจากร่างสูงโปร่งผมซอยสั้น ที่เดินเปิดประตูรั้วออกมาจากบ้านเพราะได้ยินเสียงร้องไห้
“หนู…หนู…ฮึก ทีวี…ฮึก เจ็บขา… ฮึกฮึก ฮือออ” ร่างเล็กพูดไปสะอื้นไปไม่เป็นภาษา จนคนตัวสูงต้องนั่งยองๆพร้อมกับลูบหัวให้ใจเย็นขึ้น
“ใจเย็นนะคะ ตัวเล็ก เจ็บขาใช่มั้ย เดี๋ยวพี่พาไปส่งบ้านนะ ไม่ต้องร้องนะคะ” ร่างสูงปลอบเด็กตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม จนร่างเล็กหยุดร้องไห้ พร้อมกับพยักหน้ารัวๆ
“ขึ้นหลังพี่ เดี๋ยวพาไปส่งบ้าน บ้านตัวเล็กอยู่ไหนคะ” ร่างสูงพูดพลางหันหลังคุกเข่าให้คนตัวเล็กค่อยๆปีนขึ้นหลังอย่างทุรักทุเร
“ซอยสาม ฮึก บ้านหลังสุดท้าย เร็วๆหน่อยนะคะพี่รายการโปรดหนูจะมาแล้ว ฮึก” ร่างเล็กพูดพลางเอามือเช็ดน้ำตาบนหน้าตัวเอง
“นี่ตกลงร้องไห้เพราะเจ็บขา หรือร้องเพราะกลัวจะกลับไปดูทีวีไม่ทันเนี่ย ฮ่าๆ” ร่างสูงพูดพลางหัวเราะแล้วลุกขึ้นเดินพาเด็กขี้แงไปส่งที่บ้าน
ระหว่างเดินไปเรื่อยๆ ร่างสูงก็ชวนร่างเล็กคุยโน่นนี่กันอย่างถูกคอ หัวเราะกันคิกคักจนฮารุกะลืมทั้งเรื่องเจ็บขาและดูทีวีไปซะสนิท
“อ้ะ ถึงแล้วบ้านหลังนู้นๆๆ” คนตัวเล็กยื่นมือชี้ไปยังบ้านของตัวเอง
‘กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง’ เมื่อเดินถึงหน้าบ้านร่างสูงก็กดกริ่งและรอสักพักจนมีผู้หญิงวัยกลางคนออกมาเปิดประตู
“ฮารุกะ เป็นอะไรไปลูกทำไมถึงขี่หลังให้พี่เค้ามาส่งแบบนี้” เมื่อผู้เป็นแม่เห็นลูกอยู่บนหลังของร่างสูงก็ถามขึ้นมาอย่างตกใจ
“พอดีหนูเห็นน้องเค้านั่งล้มอยู่หน้าบ้านน่ะค่ะ รู้สึกว่าขาจะแพลงเลยอาสามาส่งที่บ้าน…” ขณะที่ร่างสูงกำลังอธิบายอยู่ เหมือนคนตัวเล็กบนหลังจะนึกอะไรขึ้นได้เลยดิ้นแล้วเขย่าไปทั้งตัว
“รายการมาแล้ว!! พี่ตัวสูงพาหนูเข้าบ้านหน่อย!!”
“ทำไมพูดกับพี่เค้าอย่างนั้นล่ะลูก ขอโทษนะคะพอดีเด็กคนนี้ติดทีวีมาก” ผู้เป็นแม่กล่าวขอโทษเมื่อเห็นลูกของตนงอแงอยู่บนหลังของคนที่อุตส่าช่วยพามาส่ง
“ทีวีทีวี!!!”
“โอเคๆ ตัวเล็ก เดี๋ยวพี่ตัวสูงจะพาไปส่งถึงหน้าทีวีเลยนะ ฮ่าๆ” ร่างสูงพูดพร้อมกับหัวเราะ พลางก้มหัวขออนุญาตผู้เป็นแม่แล้วเดินเข้าบ้านไปส่งเด็กขี้แงถึงหน้าทีวี พอวางปุ้บ เจ้าเด็กตัวเล็กก็รีบคลานไปเปิดทีวีทันที ร่างสูงที่คิดว่าหมดหน้าที่ของตัวเองแล้วก็กำลังจะเดินออกไปจากห้อง
“ตัวเล็ก งั้นพี่ไปก่อนแล้วนะ ขาน่ะอย่าลืมทายาด้วย อย่ามัวแต่ดูทีวีเพลินล่ะ ฮ่าๆ” แต่ก็ยังไม่วายแซวเจ้าตัวเล็กก่อนจะกลับ
“ง่า พี่ตัวสูงอยู่ดูด้วยกันก่อนสินะๆๆ นะคะ” คนตัวเล็กคลานดุ้กดิ้กมากอดขาคนตัวโตกว่าพร้อมทำแก้มป่องอ้อนเต็มที่ ก็แหมปกติไม่มีใครมาดูกับฮารุกะเลยนี่นา คุณแม่ก็เอาแต่ทำงานบ้านส่วนคุณพ่อก็ยังไม่กลับ
“เกรงใจคุณแม่เค้านะตัวเล็ก…”
“นี่ ฮารุกะชวนพี่เค้าอยู่กินข้าวกับเราก่อนนะลูก!” ร่างสูงพูดยังไม่ทับจบ เสียงคุณแม่ของฮารุกะที่อยู่ในครัวก็ดังขึ้น
“ตามนั้นนะคะพี่ตัวสูง ฮิฮิ” ดูท่าทางเจ้าตัวเล็กจะพอใจมาก ยิ้มจนแก้มอมชมพูป่องจนน่าหยิก จนคนที่เห็นก็ได้แต่ยิ้มตามและนั่งลงหน้าทีวีข้างๆคนตัวเล็ก
“อะไรกัน รายการโปรดนี่คือแข่งวอลเลย์หรอเนี่ย ชอบวอลเล่ย์บอลหรอ?” เมื่อหันไปถามหาคำตอบก็เห็นเพียงหัวเล็กที่พยักงึกงักโดยที่ดวงตาไม่ยอมละไปจากจอทีวีเลยซักนิด
พอรายการการแข่งจบคุณแม่ของฮารุกะก็เรียกไปกินข้าวเย็นพอดี เจ้าตัวเล็กพูดไม่ยอมหยุดถึงการแข่งที่พึ่งจบลงไปทีมที่ตัวเองเชียร์ชนะมั่งล่ะ เก่งที่สุดมั่งล่ะ ซักวันฮารุกะจะไปอยู่ในทีมนี่ให้ได้มั่งล่ะ จนผู้เป็นแม่ต้องหยิกเบาๆเข้าที่แก้มเป็นสัญญาณว่าให้กินข้าวได้แล้ว ร่างสูงที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ก็ได้แต่ยิ้มให้กับความน่ารักตรงหน้า
“งั้นหนูกลับก่อนนะคะ อาหารอร่อยมากขอบคุณมากๆเลยค่ะคุณน้า ขอบคุณมากๆเลยนะคะ”
“น้าสิต้องขอบคุณอุตส่าพาฮารุกะมาส่ง แถมยังอยู่เป็นเพื่อนเล่นให้น้องอีก ขอบคุณมากๆเลยนะจ๊ะ”
ร่างสูงยิ้มพร้อมโค้งบอกลาผู้เป็นแม่ของคนตัวเล็กพลางเปิดประตูเดินออกจากบ้านไป
“นี่! พี่ตัวสูง! พี่ชื่ออะไรอะ หนูชื่อมิยาชิตะ ฮารุกะ ป.3 ห้อง 1 อยู่โรงเรียนประถมโอกายามะ!” ร่างสูงเดินออกมาได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงตะโกนแนะนำตัวอย่างเต็มยศไล่หลังมา พอได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่อมยิ้มก่อนจะหันกลับไปตอบเด็กน้อยที่ยืนเกาะประตูอยู่
“พี่ชื่อ มิยู นากาโอกะ มิยู ป.6 ห้อง 1 โรงเรียนเดียวกับเธอแหละตัวเล็ก แล้วก็… อยู่ชมรมวอลเล่ย์บอลด้วยนะ”
และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับ นากาโอกะ มิยู
_________________
สวัสดีค่า ไรท์มือใหม่ฝากตัวด้วยนะคะ ;_;
เนื้อเรื่องดูเหมือนจะเศร้า แต่ที่จริงมันก็ไม่เศร้าน้า(เอ้ะยังไง?)
55 อยากให้ทุกคนติดตามอ่านกันนะคะ จะพยายามแต่งและอัพให้เร็วที่สุด
อ่านแล้วคอมเม้นให้กำลังใจหรือติชมได้เลยนะคะ
ไรท์อยากรู้ความคิดเห็นรีดเดอร์ค่า ><
หวังว่าจะสนุกกับการอ่านไม่เบื่อกันนะคะ
ขอบคุณที่(หลง?)เข้ามาอ่านค่า 555555555555555555555
ความคิดเห็น