ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic avengers x OC] She is our 'Family' [END]

    ลำดับตอนที่ #32 : Special Chapter : Our Story (Tom Holland x OC )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 697
      49
      12 ก.ย. 64


    *แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง(และฟิน?)เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาบิดเบือน*



    2015


    เฮ้! เอญ่า!”

    สวัสดีค่ะโรเบิร์ต~”

    ไม่เจอกันแป๊บเดียวโตขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย

    เด็กสมัยนี้โตไวจนน่ากลัวจริงๆ

    น่าเสียดายที่เราไม่ได้เข้าฉากด้วยกันเลย

     โรเบิร์ตเจ้าของบทมหาเศรษฐีเพลย์และใจบุญไอรอนแมนทักทายเด็กสาวทันทีที่เธอเดินเข้ามาในกองถ่าย คริส อีแวนส์ เดินเข้ามาทักทายอีกคนพร้อมกับกอดเธอเล็กน้อย วันนี้เป็นวันแรกที่เธอได้ถ่ายทำฉากของเธอในอเมริกาหลังจากที่บินไปถ่ายทำฉากเล็กๆของเธอในประเทศกรีซ และวันนี้ก็ยังเป็นวันสุดท้ายของคนอื่นๆที่ถ่ายทำฉากต่างๆจนหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขารู้ว่าเธอจะมาจึงอยู่รอดูเธอเข้าฉาก

    ไม่ไปทักทายเธอหน่อยหรอ?

    เอ่อ...ไม่ดีกว่า คิดว่าไม่ดีกว่า

    เขินเธอ?

    เปล่า

     แอนโทนี่เจ้าของบทฟัลคอนมองคนที่นั่งอยู่ตรงจุดพักเล็กน้อย เขาสังเกตคนที่อายุน้อยกว่าตนกำลังแอบมองเด็กสาวที่เดินเข้ากองถ่ายมาเป็นระยะๆ ทอม ฮอลแลนด์ เหมือนต้องมนตร์บางอย่างเพราะเขาไม่สามารถละสายตาไปจากเด็กสาวได้ แม้ว่าจะพยายามไม่มองแต่เขาก็ยังคงแอบมองเธออยู่ดี

    ...แต่ฉันว่าใช่

     แอนโทนี่เดินจากไปพร้อมกับเข้าไปทักทายเอญ่าในขณะที่เซบาสเตียนเจ้าของบทบัคกี้กำลังแนะนำตัวเพราะเป็นการพบกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการ บอกตามตรงเขาทึ่งและตะลึงในรอยยิ้มกับความน่ารักและเป็นกันเองของเธอจริงๆ ทั้งๆที่เธอพึ่งจะพบกับเซบาสเตียนครั้งแรกแต่ก็เหมือนเธอกับเขารู้จักกันมานานเสียอย่างนั้น

     เขาเองก็อยากจะเข้าไปทักทายเธอบ้างแต่ก็ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกประหม่าขึ้นมา...

    อย่าลืมนะว่าวันนี้นายมีฉากที่ต้องเข้ากับเธอ

    ถามจริง?

    จริงสิ! ฉันว่าวันนี้ฉันก็บอกนายอยู่นะฮอลแลนด์และฉันก็บอกแล้วด้วยว่าเธอจะมา

    โอ้...แม่เจ้า...

     เขาได้แต่อุทานและกรีดร้องอยู่ภายในใจ กับคนอื่นเขายังรู้สึกเฉยๆกับมีประหม่าไปบ้างแต่พอเห็นเธอแล้วไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกประหม่ามากขนาดนี้ รู้สึกใจเต้นแรงประดุจมือกลองกำลังรัวกระเดื่องที่ใจตนเอง ทอมเห็นผลงานของเธอมาก่อนแล้วซึ่งอาจจะก่อนที่เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฮอลลีวูดด้วยซ้ำ เขาจำไม่ได้ว่าเห็นเธอโลดแล่นบนจอโทรทัศน์ครั้งแรกตอนไหนแต่รู้ตัวอีกทีเขาก็ติดตามผลงานของเธอไปแล้วโดยปริยาย เขาฝันลมๆแล้งๆว่าคงมีสักครั้งและสักวันที่จะได้ร่วมงานกันแต่ทำได้แค่หวังและฝันเพราะเหมือนจะไกลเกินเอื้อม เนื่องจากเธออยู่ในแวดวงทางฝั่งเอเชียมากกว่าสากล

     แบบนี้เรียกว่าตกหลุมรักรึเปล่านะ?

     หรือรักแรกพบดีล่ะ?

     ผลงานของเธอส่วนใหญ่ถูกจำกัดอยู่แค่ภายในประเทศแต่ก็มีบางผลงานของเธอที่ถูกนำเข้ามาฉายในฝั่งยุโรปกับอเมริกา ทันทีที่เขาได้รู้ว่ามีภาพยนตร์ที่เธอแสดงเข้าฉายไม่ว่าจะบทเล็กหรือบทใหญ่เขามักจะจองตั๋วรอบหนังไปดูเสมอๆและมีช่องรายการบางรายการที่เธอไปออกเขาก็ดูเกือบตลอด เขาตกหลุมรักความน่ารักและสดใสของเธอจริงๆ

    นายเห็นอันนี้รึยัง?

    เห็น?

    ก็...อันนี้ไง

     เขายังจำช่วงเวลาในเช้าวันหนึ่งได้น้องชายเขายื่นมือถือให้ดูปรากฏเป็นรูปของเธอกับประวัติพอสังเขปที่เขาพอจะรู้อยู่แล้ว แต่ที่ชวนให้ตะลึงก็คือเธอมาแคสบทบาทหนึ่งในจักรวาลMCU แต่ไม่มีปรากฏว่าเธอรับบทเป็นใครเมื่อสมองของเขาประมวลผลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง หมายความว่าเธอกำลังจะเข้ามาโลดแล่นในวงการฮอลลีวูด! เขาจำไม่ได้ว่าดีใจมากแค่ไหนรู้ตัวอีกทีก็กอดน้องชายของตนเองไปแล้ว เมื่อตัวอย่างหนังมาเขาก็ไม่พลาดเพราะอยากเห็นการปรากฏตัวของเธอ เมื่อได้เห็นอีกฝ่ายในตัวอย่างหนังเขาก็ยิ่งตื่นเต้นและตั้งตารอคอยจนกระทั่งกำหนดฉายมาถึงเขาก็รีบจองตั๋วผ่านเว็บไซต์ทันที และเมื่อหนังแยกภาคเดี่ยวของตัวละครที่เธอรับบทฉายเขาก็ไม่พลาดเหมือนกัน ไม่กี่ปีต่อมาเขาได้รับคัดเลือกให้แสดงบทของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์หรือสไปเดอร์แมน เขากำลังจะมีบทบาทและได้โลดแล่นในจักรวาล MCU ในภาค civil war ของหนังแยกเดี่ยวกัปตันอเมริกาซึ่งเป็นภาค3 วันที่เขาได้บทมาอ่านเพื่อซักซ้อมและทำความเข้าใจเขาจำได้ว่าบทของปีเตอร์มีบทที่จะต้องได้เจอตัวละครของเธอ ในภาคเดี่ยวของเธอจะมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ชนเธอซึ่งท้ายที่สุดก็กลายมาเป็นตัวละครของเขาในภายหลัง แต่คนที่แสดงนั้นกลับไม่ใช่เขาบอกตามตรงว่าเขาเสียดายและตารางการถ่ายทำของเขาค่อนข้างแน่นจึงใช้แสตนด์อินแทน ไม่เช่นนั้นคงเป็นการพบกันครั้งแรกของเขาและเธอย่างแท้จริง

     ทอมอยากจะกรีดร้องดังๆเหมือนความฝันของเขากำลังจะกลายเป็นจริง และวันนั้นก็มาถึงแล้วแต่เขาก็ไม่คิดว่าการถ่ายทำฉากนั้นจะมาถึงเร็วกว่าที่เขาคิด หรือเขาลืมไปแล้วก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

    สวัสดี...เอ่อ...เอญ่า มินาชิโระ

    ทะ-ทอม ฮอลแลนด์!”

     เขารู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองกำลังร้อนผ่าวและฝูงผีเสื้อกำลังกระพือปีกบินอยู่เต็มท้อง

     ทอมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอมายืนอยู่ตรงหน้าของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนตนถูกซุ่มโจมตี เขาลุกขึ้นยืนและจับมือทักทายเธอเล็กน้อย เมื่อได้สัมผัสทำให้ได้รู้ว่ามือของเธอนั้นนุ่มมากๆและเธอก็มีกลิ่นหอมคล้ายกับดอกไม้บางอย่าง เอญ่าเตี้ยกว่าเขาเล็กน้อยอาจจะเพราะส่วนสูงของเธอที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อยจึงทำให้เธอดูโต ซึ่งในความเป็นจริงหล่อนอายุน้อยกว่าเขาประมาณ 3 ปี

    ยินดีที่ได้รู้จัก...ฮอล-

    เรียกทอม...

    คะ?

    เรียกทอม...ก็ได้นะ เอ่อมินา...มินาอะไรนะ?

    งั้น...เรียกเอญ่าก็ได้

     เธอหัวเราะเบาๆและยิ้มก่อนที่ทั้งสองจะปล่อยมือจากกันและกัน เมื่อทักทายแนะนำตัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วช่างแต่งหน้าและช่างทำผมก็มาตามตัวเอญ่าไป

    ไว้เจอกันในฉากนะ

    ดะ-ได้เลย

     เธอพูดกับเขาและโบกมือเล็กน้อยพร้อมกับขอตัว เมื่อเธอเดินผ่านพ้นเขาไปแล้วตอนนั้นเองที่เขารีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าและก้มลงมองพื้นทันที ใบหน้าร้อนผ่าวและออกจากแดงคล้ายมะเขือเทศหรืออาการแพ้อะไรบางอย่าง ตัวเขาสั่นเล็กน้อยเพราะทั้งเขินทั้งดีใจ

    นายไหวไหมเนี่ย?

    หวะ-ไหว ผมไหว

    ไม่ได้เขินหรอก...ดูทรงแล้วน่าจะเดินไม่ไหว

     แอนโทนี่แซวทันทีและดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆเด็กหนุ่มชาวอังกฤษที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตาพวกเขา โรเบิร์ต คริส แอนโทนี่และเซบาสเตียน เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างๆและแอบอมยิ้มกันเล็กน้อยเพราะพวกเขารู้จักอาการนี้ดี

    ฉันรู้นะว่านายกำลังปิ๊งเธอ...

    ไม่! ผมไม่ได้...ปิ๊งอะไร

    นายดูมีพิรุธ...แอนโทนี่หรี่ตามอง

    ไม่เอาน่า...ยอมรับมาตรงๆเถอะว่านายปิ๊งเธอจริงๆเซบาสเตียนอมยิ้ม

    ถ้าไม่ปิ๊งจะเรียกว่าอะไรล่ะ?โรเบิร์ตเลิกคิ้วเล็กน้อย

    มีข่าวซุบซิบวงในบอกว่าตอนหนังเธอเข้าฉาย นายเข้าโรงหนังไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งในหนึ่งเดือนเพื่อไปดูภาพยนตร์เรื่องเดียวแถมยังเป็นหนังภาคเดี่ยวของเธออีกด้วย...

    จริงจังเปล่าเนี่ย?คริสมองโรเบิร์ตและหันกลับมามองทอมฮอลแลนด์อย่างไม่เชื่อสายตา

    อะ-เอ่อ...คือ...

    อย่าแก้ตัวเลยทอม ยิ่งพูดมันยิ่งชัดเจน

     แอนโทนี่ตัดบทเขาทันทียิ่งทำให้เขารู้สึกเขินจนประหม่ามากกว่าเดิม เหมือนเขาถูกแฉและเปิดโปงความลับเสียอย่างนั้นแหละ ที่โรเบิร์ตพูดมาก็เป็นความจริงส่วนข่าวซุบซิบวงในอะไรนั่นก็ไม่มีหรอก ในรายการหนึ่งที่เด็กหนุ่มเคยไปออกเจ้าตัวก็เป็นคนพูดที่ว่าสิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะทำมาก่อนคือการเข้าออกโรงหนังมากที่สุดประมาณ 5-6 ครั้งในหนึ่งเดือน อีกทั้งเขายังตอบพิธีกรเองด้วยว่าหนังเรื่องโปรดของเขาในช่วงนั้นก็คือ Black Magician ที่เอญ่าเป็นคนรับบท

     เชื่อแล้วว่าเขินจนลนจนลืมสิ่งต่างๆไปมันมีอยู่จริงๆ

    ชวนเธอเดตสิเซบาสเตียน

    เดี๋ยว!”

     เขาร้องเสียงหลงจนทีมงานหันมามองทอมจึงต้องยกมือขึ้นปิดปาก เมื่อทีมงานหันไปสนใจงานของตนเองต่อเขาจึงผละมือจากปากของตนและเปลี่ยนมาเป็นพูดเบาๆกับพวกเขาแทน

    เรายังไม่ทันได้รู้จักกันเลย

    ก็รีบทำความรู้จักแล้วก็รีบชวนเธอออกเดตสิแอนโทนี่ไหวไหล่

     พูดง่ายแต่ถ้าต้องทำมันก็ยากเสมอเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอะไรยังไงดีทอมยังไม่กล้าพอที่จะขอเธออกเดต สิ่งที่เขากลัวคือกลัวว่าเธอจะปฏิเสธและถ้าเธอไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันกับเขาด้วยก็อาจจะยิ่งแล้วใหญ่

    ไม่รีบชวนตอนที่ยังมีโอกาสตอนนี้อาจจะไม่มีโอกาสได้ชวนอีกแล้วนะ ไม่รีบทำความรู้จักกันตอนนี้ แล้วก็ไม่รีบชวนไปออกเดต...ระวังจะชวดแล้วเสียใจไปตลอดชีวิตนะ เอาล่ะ! เตรียมตัวกันได้แล้ว!”

     โรเบิร์ตตบบ่าพลางลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากจุดนี้เพราะเขาเองก็ต้องรีบไปเตรียมตัวเพื่อถ่ายทำฉากต่อไปด้วยเช่นกัน ทอมมองเขาที่เดินออกไปพร้อมกับแอนโทนี่และเซบาสเตียนเองก็ขอตัวด้วยเช่นกัน

    ถูกปฏิเสธอาจจะเจ็บก็จริง...แต่ก็อย่างน้อยๆก็ได้ทำความรู้จักกับได้ชวนเธอออกเดต อย่างที่โรเบิร์ตบอก...อาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้ถ้านายไม่ลองเสี่ยงดู

     คริสทิ้งท้ายเอาไว้อีกคนก่อนที่เขาจะขอตัวออกไปอย่างเงียบๆ ทีมงานมาตามทอมเพื่อให้เขาเตรียมพร้อมและเตรียมตัวเข้าฉากที่ปีเตอร์กับเฟลิเซียจะได้เจอกันครั้งแรก ช่างทำผมกำลังทำผมให้กับเธออย่างเงียบๆ เอญ่าสวมใส่ชุดใหม่ซึ่งเป็นชุดที่ทางทีมเสื้อผ้าได้เตรียมเอาไว้ให้ พร้อมกับกำลังบรรจงแต่งเติมใบหน้าของเธอให้มีสีสันด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย ชุดเสื้อแขนยาวสีกรมท่าและกระโปรงทรงดินสอสีครีม รองเท้าเป็นส้นเข้มสายรัดสีดำ (Chapter14 : Broken)

    พร้อมนะ

     ผู้กำกับเรียกพร้อมกับแสงไฟและตัวกล้องที่จัดตั้งอยู่ในองศาที่เหมาะสม มีกล้องวางอยู่หลายมุมและหลายทิศทาง ทอมเดินเข้าฉากไปอย่างเงียบๆเขาไปยืนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกจัดเซ็ตเอาไว้ซึ่งซีนนี้เขาต้องรอให้เธอเดินมาเรื่อยๆพร้อมกับตัวละครของโรเบิร์ต มีบทสนทนากับตัวละครที่ชื่อแฮปปี้เล็กน้อยก่อนที่เธอจะหันมาส่งยิ้มให้เขา

     ให้ตายเถอะ...

     เขารู้สึกประหม่ามาก...!

    เอ่อ...หวัดดีฮะ ผะ-ผม...ขอโทษผมลืมบท

    คัต! เฮ้! นายไหวไหมฮอลแลนด์?ผู้กำกับถาม

    ไหวครับ!”

     น้ำเสียงของเขาค่อนข้างประหม่าและสั่นเครือเล็กน้อย ตอนนี้ใจเขาเต้นแรงอีกครั้งถ้ามันทะลุออกมาเต้นข้างนอกได้ก็คงออกมาแล้วจริงๆ บทที่ท่องจำมาก็ลืมและหายไปในพริบตาโสตประสาทและสมองรู้สึกรวนไปหมด ใบหน้าร้อนผ่าวเขามีความรู้สึกว่าเหมือนหน้าตัวเองกำลังแดงอยู่แน่ๆ

     โอ้พระเจ้า...หัวใจเขาจะวาย

    ไม่สบายรึเปล่า?

    ไม่ๆ ปกติดี...ฉันโอเค ฉันไหว

     เอญ่าถามทอมด้วยความเป็นห่วงพอเขาตอบมาแบบนั้นเธอก็โล่งใจ โรเบิร์ตยกมือของเวลานอกผู้กำกับจึงพยักหน้า ร่างสูงลากเด็กหนุ่มออกไปที่นอกเฟรมการถ่ายทำทันทีและบีบไหล่เด็กหนุ่มเบาๆเพื่อให้เขาสงบสติอารมณ์ให้ใจเย็นลง โรเบิร์ตเชื่อแล้วว่าเด็กสาวมีผลและอิทธิพลกับทอมจริงๆ ด้วยอาการเขินและประหม่าที่มันแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

    นายต้องใจเย็นๆโรเบิร์ตย้ำ

     บอกตามตรงทอมรู้สึกว่าตนไม่ค่อยเป็นมืออาชีพเลยและรู้สึกแย่ ถ้าหากทุกๆคนรวมถึงเธอต้องมาเหนื่อยหลายๆเทคเพราะเขาแบบนั้นเธอคงไม่ปลื้มเขาเป็นแน่ พอคิดได้ดังนั้นเขาก็รู้สึกฮึดขึ้นมาแปลกๆและพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง เมื่อถูกเรียกเข้าฉากอีกครั้งการถ่ายทำก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างเงียบๆ อาจจะมีลืมอะไรไปบ้างนิดหน่อยแต่โรเบิร์ตก็พยายามช่วยส่งต่อบทให้เขารวมถึงเอญ่าก็ด้วยเช่นกัน เขาอมยิ้มเกือบตลอดทุกการถ่ายทำและความเคอะเขินก็ยังคงอยู่แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่จนทุกสิ่งทุกอย่างนั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

    ขอบคุณคุณสตาร์คเจอกันฮะ

    แล้วเจอกันใหม่ปีเตอร์

    ขอบคุณฮะเอ่อ...ผมขอกอดก่อนที่...ผมจะไปได้ไหมฮะ?

     จนกระทั่งบทดำเนินมาถึงจุดที่ตัวปีเตอร์กำลังจะกลับ เอญ่าเบิกตากว้างเล็กน้อยในตอนแรกแต่ก็แค่ชั่วครู่เธอยิ้มให้กับเขาเล็กน้อยก่อนที่จะอ้าแขนและค่อยๆเดินเข้าไปกอดอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ ทั้งสองตัวละครสวมกอดกันอย่างอบอุ่นก่อนที่จะคลายกอดจากกันพร้อมกับทอมที่หันไปตอบโต้กับตัวละครโทนี่ของโรเบิร์ต

     บอกตามตรงเอญ่ารู้สึกเขิน...

     เพราะในบทไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการกอดเอาไว้เลยสักบรรทัดเดียว อนุมานได้ว่าทอมเพิ่มส่วนนี้ลงไปในบทเองหรือก็คือเล่นนอกบทนั่นเอง ผู้เขียนบทและผู้กำกับที่อยู่หลังกล้องมองหน้ากันเล็กน้อยแต่พวกเขาก็ไม่ได้สั่งหยุดปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นดำเนินต่อไป พวกเขายังคงถ่ายทำฉากเดิมนี้ซ้ำๆวนไปมาเพื่อที่จะหาฉากที่ดีที่สุดเพื่อใส่ลงไปในภาพยนตร์และหลังจากถ่ายฉากนี้ การถ่ายทำฉากนี้ซ้ำๆหลายๆครั้งเป็นต้นไปก็ไม่มีการขอกอดจากตัวละครของทอมอีกเลย

     

     ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านไปได้อย่างราบรื่นจนกระทั่งเลิกกองในที่สุดละปิดกล้องภาค Civil war อย่างเป็นทางการเอญ่าบอกลาโรเบิร์ตและผู้กำกับ อีกทั้งก่อนที่เธอจะขอตัวออกไปเธอก็บอกขอบคุณทีมงานทุกๆคน รวมถึงขอบคุณนักแสดงคนอื่นๆที่อยู่รอเธอถ่ายทำจนทุกอย่างเรียบร้อยไปได้ด้วยดี

    เอ่อ...เอญ่า

    เฮ้...เธอหันไปทักทายทอมที่เดินมายืนข้างๆเธอแต่ก็ยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้

    คิดว่ากลับไปแล้ว

     เธอหันไปยิ้มให้กับทอมเล็กน้อยร่างสูงยิ้มและเกาแก้มตัวเองเล็กน้อยด้วยความเขินกับประหม่าเพราะเมื่อนึกถึงฉากถ่ายทำที่เขากอดเธอ ตอนแรกทอมคิดว่าเอญ่าอาจจะโกรธเพราะเขาเล่นนอกบทซึ่งอันที่จริงมันก็อยู่เหนือความคาดหมายของเขาเหมือนกัน ในความเป็นจริงในหัวเขาตอนนั้นเขาตั้งใจที่จะขอกอดเธอก่อนกลับ แต่กลายเป็นว่าเขาดันขอกอดเธอในฉากเลยเดี๋ยวนั้น เอญ่าอึ้งและมีท่าทีเคอะเขินเล็กน้อยด้วยเช่นกันแต่ถึงกระนั้นเธอก็ตามน้ำเล่นไปกับเขาด้วยโดยที่ไม่ขัดหรือทักท้วงอะไร

    พอดีอยู่คุยงานนิดหน่อยก่อนกลับน่ะ...แล้วเธอยังไม่กลับ?

    กะว่าจะเดินเล่นกับหาอะไรกินแถวๆนี้ก่อนกลับน่ะ

    เอ่อ...ถ้าไม่รังเกียจให้ฉันเป็นไกด์ให้ไหมไม่ก็เดินเป็นเพื่อน พอดีรู้จักร้านอาหารกับร้านขนมอร่อยๆแถวๆนี้...แต่ถ้าไม่ต้องการก็---

    รบกวนด้วยนะเอญ่ายิ้มให้กับเขา ขอบคุณนะ

    ดะ-ด้วยความยินดี

     เขาคิดว่าเขาคงหูฝาดไปแน่ๆแต่ไม่เลย! เธอยิ้มและตอบรับเขาทันทีเอญ่าตัดบทเขาก่อนที่เขาจะพูดจบด้วยซ้ำ ทอมกำลังจะพูดว่าถ้าหากเธอไม่ต้องการและอยากใช้เวลาส่วนตัวเขาก็จะไม่เข้าไปก้าวก่ายในช่วงเวลาของเธอ เอญ่าตอบรับเขาด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่ยินดีเป็นอย่างมากอีกทั้งยังกล่าวขอบคุณเขาอีกด้วย วินาทีต่อจากนี้ไปจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งสองเริ่มทำความรู้จักกันและกัน ความเขินและความประหม่าที่เขามีในตอนแรกมันก็ค่อยๆเบาบางและจางลงแต่ก็ไม่ได้หายไปเสียทีเดียว เขายังคงเสียอาการกับความน่ารักและรอยยิ้มของเธอ เขาเริ่มขอเธอออกเดตและเอญ่าก็ตอบตกลงความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ ไม่มีอะไรหวือหวาจนน่าเกลียดหรือหวานเลี่ยนมากจนเกินไป จากเพื่อนร่วมงานและนักแสดงร่วมจักรวาล MCU ในที่สุดทั้งสองก็คบกันในปีต่อมาและกลายเป็นแฟนกันไปโดยปริยาย

     นักแสดงหลายๆคนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองต่างก็ร่วมยินดีกับทอมและเอญ่า ต่อให้ไม่บอกพวกเขาก็รู้และเห็นออร่าความรักสีชมพูที่แผ่ออกมาจากทั้งสองคน เนื่องจากความกลัวกับอิทธิพลของแฟนๆที่อาจจะส่งผลกระทบกับเขาและเธอได้ทั้งสองจึงเก็บความสัมพันธ์ไว้เป็นความลับ ทุกๆคนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ทั้งสองก็เต็มใจช่วยกันเก็บเป็นความลับ แต่ในสักวันพวกเขาจะเปิดเผยให้แฟนได้รู้อย่างแน่นอนเพราะไม่ว่าจะช้าหรือเร็วพวกเขาก็ต้องรู้อยู่ดี


    2016

    เฮ้...ดูนี่สิ

    อะไร...เกิดอะไรขึ้น?

     แฮร์รี่น้องชายของทอมร้องขึ้นและยื่นสมาร์ทโฟนของตนให้กับพี่ชายของตนดวงตาของทอมเบิกกว้างเล็กน้อยด้วยความตกใจ ประหลาดใจและทึ่งในเวลาเดียวกัน นับตั้งแต่การถ่ายทำ Civil war สิ้นสุดลงก็ผ่านล่วงเลยมาเป็นเวลาเกือบปี ภาพยนตร์เข้าโปรแกรมฉายในโรงภาพยนตร์กระแสตอบรับดีมากจนเป็นที่น่าพอใจ สิ่งที่แฮร์รี่ให้ทอมดูคือโซเชียลมิเดียที่กำลังพูดถึงตัวภาพยนตร์โดยส่วนใหญ่ชื่นชมตัวนักแสดงพร้อมกับชื่นชมผู้กำกับและชื่นชมฉากต่อสู้หรือสิ่งต่างๆ ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้รู้สึกทึ่งเพราะหากเป็นคำชื่นชนนักแสดงก็น่าจะรู้สึกดีใจและซาบซึ้งที่คนดูชอบ เพราะเหมือนที่ทุ่มเทไปกับการแสดงก็คุ้มเหนื่อยแล้ว

     แต่สิ่งที่สะดุดตาทอมไม่ใช่ในทั้งหมดที่กล่าวมา

    #พีทเฟซี่ #ทอมฮอลแลนด์เอญ่า

     แฮชแท็กตัวละครของเธอและเขากับชื่อเขาและเธอขึ้นเทรนด์เป็นอันดับสามของโซเชียลมิเดีย เมื่อกดเข้าไปดูก็ยิ่งทำให้เขาอึ้งและทึ่งหนักมันไม่ใช่การพูดถึงในเชิงลบหรือแง่ลบ ที่เขาอึ้งเพราะไม่คิดว่าแฟนๆจะพูดถึงตัวละครของเขากับเธอด้วย ยกตัวอย่างเช่น...

     

    ฉันชอบเคมีของตัวละครกับนักแสดงมากๆ อยากให้ทั้งสองเป็นมากกว่าพี่น้อง!

    #พีทเฟซี่

    --------------------------------------------------

    ฉันชอบซีนที่พวกเขากอดกันมาก! T//-//T เคมีทั้งสองคนดีมาก

    ฉันอยากให้พวกเขาได้ร่วมงานกันอีก! อยากให้มีซีนด้วยกันเยอะๆ

    #พีทเฟซี่ #ทอมฮอลแลนด์เอญ่า

    ----------------------------------------------

    @marvels ได้โปรด! ขอซีนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันเยอะๆ ฉันรักพวกเขา!

    #พีทเฟซี่

    ---------------------------------------------

       

     เขาและเธอได้มีโอกาสไปดูหนังรอบปฐมทัศน์ด้วยกันพร้อมกับนักแสดงคนอื่นๆ ทอมกับเอญ่าไม่คิดว่าเขาจะเลือกซีนที่ทั้งสองกอดกันมาใส่ลงในภาพยนตร์ พอเห็นคนพูดถึงเขาและเธอแล้วมันทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เหนือความคาดหมายแบบไม่ทันได้ตั้งตัวจริงๆ แฮชแท็กอาจจะพูดถึงประมาณหนึ่งไม่ได้มากจนเกินไปหรือน้อยจนไม่มี เหมือนแฟนๆพร้อมสนับสนุนความสัมพันธ์ของเขาและเธอสองคนพอเห็นแบบนี้เขาเองก็รู้สึกดีใจแต่ก็ไม่ได้มีความคิดที่จะเปิดเผยให้แฟนๆได้รับรู้ทันที เขาและเธออยากให้อะไรๆมั่นคงมากกว่านี้ก่อน

    [“เฮ้...เห็นที่ฉันส่งไปรึยัง?”]

    เห็นแล้ว

    [“...แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?”]

    มันก็...บอกไม่ถูก จะว่าเขินก็เขิน...ดีใจก็ดีใจ แล้วก็รู้สึกประหม่านิดหน่อย

     เอญ่ากำลังวิดีโอคอลกับทอมหลังจากที่เขาส่งภาพคอมเมนต์ที่เธอและเขากำลังถูกพูดถึงมาให้ดูร่างบางจึงเข้าโซเชียลมิเดียของตนเอง เธอก็แทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเองเหมือนกัน ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าวเล็กน้อยยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกเขินซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่แฟนๆให้ความสนใจและรู้สึกมีความสุขไปกับเคมีของตัวละครและนักแสดง

    แล้วนายล่ะ?

    [“ก็รู้สึกเหมือนกัน...ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี]”ทอมยิ้ม

    [“วันหนึ่งเราจะบอกพวกเขาด้วยกัน...ก็หวังว่าพวกเขาจะสนับสนุนพวกเราต่อเมื่อเราเปิดเผยความสัมพันธ์แล้ว...แต่ก็แอบกลัวอยู่เหมือนกัน]”

    ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงฉันก็เชื่อว่าพวกเขาจะยังคงสนับสนุนพวกเราต่อ...ไม่ใช่แค่พวกเขา ฉันเองก็ด้วยจะอยู่ข้างๆนายแบบนี้สนับสนุนและกำลังใจนายเสมอ

    [“…ฉันเองก็ด้วย...ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ก็จะอยู่ข้างๆไม่ไปไหนสนับสนุนเธอเสมอ ไม่ว่าจะตอนทุกข์หรือสุขก็จะอยู่กับเธอตรงนี้”]

    เหมือนกำลังขอฉันแต่งงานทางอ้อมเลยนะ

    [“...”]

    “…”

     เอญ่ารู้สึกเขินแต่ก็ต้องเป็นอันอมยิ้มเมื่อสมองของเขากำลังประมวลผลถึงคำพูดที่เขาพูดออกไป ทอมอมยิ้มอย่างเขินๆและเกาศีรษะของตัวเองแก้เขินก่อนที่จะแทนที่ด้วยเสียงหัวเราะของทั้งสองคน

    [“วันพรุ่งนี้นี้ว่างไหม?”] เขาถามส่วนเอญ่าพยักหน้าเป็นคำตอบ

    [“งั้นเจอกันที่เดิม...รักนะ”]

    แล้วเจอกัน...รักเหมือนกัน

     ร่างบางยิ้มและโบกมือลาเขาเมื่อการสนทนาสิ้นสุด เอญ่าทิ้งตัวลงบนที่นอนเมื่อนึกถึงประโยคที่เขาพูดไม่ว่าจะตอนทุกข์หรือสุขก็จะอยู่กับเธอตรงนี้ ใบหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อยก่อนที่เธอจะหยิบหมอนขึ้นมาปิดหน้าเล็กน้อยเพราะความเขิน เอญ่าไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้เป็นแฟนกับเขาในความเป็นจริงเธอเองก็ตามผลงานของเขาอยู่อย่างเงียบๆด้วยเช่นกันเพียงแต่ไม่เคยบอกให้เขาได้รู้ พอตอนรู้ว่าจะได้ร่วมงานกับเขาก็ทั้งดีใจและตื่นเต้นด้วยในเวลาเดียวกันแต่ก็ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะขอเธอออกเดตจนเป็นแฟนกันในที่สุด เขาไม่ได้จีบเธอแบบหยอดมุกจนหวานเลี่ยนส่วนใหญ่จะพูดคุยทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ วันหยุดหรือวันไหนที่ว่างตรงกันก็พากันไปเที่ยวหรือหากิจกรรมอะไรบางอย่างที่สามารถทำร่วมกันได้ เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเธอมีโอกาสได้ไปเที่ยวอังกฤษกับเขาพร้อมกับพี่น้องของทอมก็ด้วยและมีโอกาสได้พบปะกับพ่อแม่ของอีกฝ่าย ทอมเองก็มีโอกาสได้พบกับพ่อแม่และพี่น้องของเธอด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นฤกษ์งามยามดีที่ทอมขอเอญ่าเป็นแฟนโดยที่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายและครอบครัวรับรู้โดยทั่วกัน

    “…ขอแต่งงาน?

     ทอมเองก็อมยิ้มเล็กน้อยและรู้สึกเขินไม่ต่างกันเมื่อเอญ่าทักเขาแบบนั้น พอมาคิดดูดีๆคำพูดของเขาก็เหมือนเขากำลังท่องคำสัตย์สาบานในพิธีวิวาห์หรืออะไรเทือกๆนั้นจริงๆ แต่พอวาดฝันถึงภาพอนาคตข้างหน้าก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขพิลึก จากที่คิดว่ารักของเขาและเธอคงจะเป็นไปไม่ได้แต่ในวันนี้ก็เป็นไปแล้ว เขารู้สึกโชคดีและมีความสุขมากๆตอนที่รู้ว่าเธอก็รู้สึกแบบเดียวกันกับเขามันยิ่งกว่าถูกรางวัลใหญ่ ยิ่งพ่อแม่พี่น้องของเขากับเธอให้การสนับสนุนและเห็นด้วยกับความสัมพันธ์ก็ยิ่งทำให้รู้สึกมีความสุขมากยิ่งกว่าเดิม

     รู้สึกเหมือนได้ปฏิบัติภารกิจชีวิตสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างราบรื่นและได้ค่าประสบการณ์ชีวิตแบบล้นหลามจนไม่มีที่ให้เก็บอีกแล้ว

     

     

     

    *โบนัส*

    2017

     

    เฮ้...ฉันไม่ได้ตายจริงๆนะ

    ก็เธอเล่นจนฉันรู้สึกเหมือนเธอจะหายไปจริงๆ

    เชื่อเขาเลย

    บางทีฉันก็รู้สึกว่าฮอลแลนด์ชักจะเหมือนเด็กห้าขวบที่ชอบงอแงเข้าไปทุกที

     คริสอมยิ้มส่วนแอนโทนี่ก็กอดอกและแอบจิกกัดทอมเบาๆ แต่ก็จิกกัดด้วยความเป็นมิตรไม่ใช่ความเกลียดชัง ภาพตรงหน้าของพวกเขาและตรงหน้านักแสดงหลายๆคนในตอนนี้คือทอมกำลังกอดเอญ่าไม่ปล่อยเนื่องจากมันเป็นซีนสะเทือนอารมณ์ที่เฟลิเซียกำลังจะหายไปโดยที่ปีเตอร์ทำได้แค่สะอื้นร้องไห้อยู่เฉยๆ ทอมบอกกับเอญ่าว่าถ้าเขาเป็นคนเขียนบทจะไม่ยอมให้เธอต้องตายอย่างแน่นอน เหมือนบทของเขาทำได้เพียงแค่ร้องไห้และเห็นเธอหายไปต่อหน้าต่อตา

    ไม่เอาน่าชู่...ไม่ร้อง~”

     เอญ่ายิ้มให้กับเขาเมื่อเขาค่อยๆคลายกอดจากเธอ สองมือค่อยๆจับแก้มของเขาเบาๆอย่างนุ่มนวลพร้อมกับปาดน้ำตาให้กับเขาซึ่งใครเห็นต่างก็คิดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนเอญ่าเป็นพี่เลี้ยงส่วนของเขาจริงๆ เหมือนเป็นทุกอย่างให้กับเขาแล้วจริงๆ ทอมเข้าถึงอารมณ์ของปีเตอร์ผสมกับความรู้สึกของเขาที่จินตนาการว่ากำลังจะเสียเธอไปมันยิ่งทำให้เขาไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้แม้จะสั่งคัตแล้ว หญิงสาวพยายามปลอบเขาพักใหญ่ๆจนตอนนี้เขาเริ่มหยุดร้องไห้แล้วแต่ก็ยังมีสะอื้นอยู่บ้าง

    ไปร้านขนมด้วยกันก่อนกลับได้ไหม?เขาถาม

    แน่นอน~”

    เฮ้! คู่นั้นน่ะ! ถ้าไม่รีบถ่ายซีนต่อไปกองทัพมดจะบุกสตูล่ะนะ!”

    จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ! แล้วเจอกันฉากต่อไป

     จุ๊บ!

    เฮ้!”

     เอญ่าใช้จังหวะที่ทอมเผลอเขย่งปลายเท้าจุ๊บแก้มเขาไปหนึ่งทีก่อนที่จะรีบวิ่งหนีเขาทันที จากที่กำลังหงอยๆเศร้าๆอยู่เขารู้สึกเหมือนตื่นเต็มตา ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความเขินที่เธอมอบให้กับเขาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

    ร้ายกาจ

     ทอมยิ้มและแตะแก้มตนเองเบาๆก่อนที่จะไปเตรียมตัวให้พร้อมในฉากต่อไป

     

    --------------------------------------------------------------

    หวังว่าจะชอบกันนะคะ > <

    คิดถึงรีดนะคะ ;v;

    ขอบคุณค่ะ~

     

     

     

     







    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×