คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : Special Chapter : Our Story (Tom Holland x OC )
*แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง(และฟิน?)เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาบิดเบือน*
2015
“เฮ้! เอญ่า!”
“สวัสดีค่ะโรเบิร์ต~”
“ไม่เจอกันแป๊บเดียวโตขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย”
“เด็กสมัยนี้โตไวจนน่ากลัวจริงๆ”
“น่าเสียดายที่เราไม่ได้เข้าฉากด้วยกันเลย”
โรเบิร์ตเจ้าของบทมหาเศรษฐีเพลย์และใจบุญไอรอนแมนทักทายเด็กสาวทันทีที่เธอเดินเข้ามาในกองถ่าย
คริส อีแวนส์ เดินเข้ามาทักทายอีกคนพร้อมกับกอดเธอเล็กน้อย วันนี้เป็นวันแรกที่เธอได้ถ่ายทำฉากของเธอในอเมริกาหลังจากที่บินไปถ่ายทำฉากเล็กๆของเธอในประเทศกรีซ
และวันนี้ก็ยังเป็นวันสุดท้ายของคนอื่นๆที่ถ่ายทำฉากต่างๆจนหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่พวกเขารู้ว่าเธอจะมาจึงอยู่รอดูเธอเข้าฉาก
“ไม่ไปทักทายเธอหน่อยหรอ?”
“เอ่อ...ไม่ดีกว่า
คิดว่าไม่ดีกว่า”
“เขินเธอ?”
“เปล่า”
แอนโทนี่เจ้าของบทฟัลคอนมองคนที่นั่งอยู่ตรงจุดพักเล็กน้อย
เขาสังเกตคนที่อายุน้อยกว่าตนกำลังแอบมองเด็กสาวที่เดินเข้ากองถ่ายมาเป็นระยะๆ ทอม
ฮอลแลนด์ เหมือนต้องมนตร์บางอย่างเพราะเขาไม่สามารถละสายตาไปจากเด็กสาวได้
แม้ว่าจะพยายามไม่มองแต่เขาก็ยังคงแอบมองเธออยู่ดี
“...แต่ฉันว่าใช่”
แอนโทนี่เดินจากไปพร้อมกับเข้าไปทักทายเอญ่าในขณะที่เซบาสเตียนเจ้าของบทบัคกี้กำลังแนะนำตัวเพราะเป็นการพบกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการ
บอกตามตรงเขาทึ่งและตะลึงในรอยยิ้มกับความน่ารักและเป็นกันเองของเธอจริงๆ
ทั้งๆที่เธอพึ่งจะพบกับเซบาสเตียนครั้งแรกแต่ก็เหมือนเธอกับเขารู้จักกันมานานเสียอย่างนั้น
เขาเองก็อยากจะเข้าไปทักทายเธอบ้างแต่ก็ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกประหม่าขึ้นมา...
“อย่าลืมนะว่าวันนี้นายมีฉากที่ต้องเข้ากับเธอ”
“ถามจริง?”
“จริงสิ! ฉันว่าวันนี้ฉันก็บอกนายอยู่นะฮอลแลนด์…และฉันก็บอกแล้วด้วยว่าเธอจะมา”
‘โอ้...แม่เจ้า...’
เขาได้แต่อุทานและกรีดร้องอยู่ภายในใจ
กับคนอื่นเขายังรู้สึกเฉยๆกับมีประหม่าไปบ้างแต่พอเห็นเธอแล้วไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกประหม่ามากขนาดนี้
รู้สึกใจเต้นแรงประดุจมือกลองกำลังรัวกระเดื่องที่ใจตนเอง ทอมเห็นผลงานของเธอมาก่อนแล้วซึ่งอาจจะก่อนที่เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฮอลลีวูดด้วยซ้ำ
เขาจำไม่ได้ว่าเห็นเธอโลดแล่นบนจอโทรทัศน์ครั้งแรกตอนไหนแต่รู้ตัวอีกทีเขาก็ติดตามผลงานของเธอไปแล้วโดยปริยาย
เขาฝันลมๆแล้งๆว่าคงมีสักครั้งและสักวันที่จะได้ร่วมงานกันแต่ทำได้แค่หวังและฝันเพราะเหมือนจะไกลเกินเอื้อม
เนื่องจากเธออยู่ในแวดวงทางฝั่งเอเชียมากกว่าสากล
แบบนี้เรียกว่าตกหลุมรักรึเปล่านะ?
หรือรักแรกพบดีล่ะ?
ผลงานของเธอส่วนใหญ่ถูกจำกัดอยู่แค่ภายในประเทศแต่ก็มีบางผลงานของเธอที่ถูกนำเข้ามาฉายในฝั่งยุโรปกับอเมริกา
ทันทีที่เขาได้รู้ว่ามีภาพยนตร์ที่เธอแสดงเข้าฉายไม่ว่าจะบทเล็กหรือบทใหญ่เขามักจะจองตั๋วรอบหนังไปดูเสมอๆและมีช่องรายการบางรายการที่เธอไปออกเขาก็ดูเกือบตลอด
เขาตกหลุมรักความน่ารักและสดใสของเธอจริงๆ
‘นายเห็นอันนี้รึยัง?’
‘เห็น?’
‘ก็...อันนี้ไง’
เขายังจำช่วงเวลาในเช้าวันหนึ่งได้น้องชายเขายื่นมือถือให้ดูปรากฏเป็นรูปของเธอกับประวัติพอสังเขปที่เขาพอจะรู้อยู่แล้ว
แต่ที่ชวนให้ตะลึงก็คือเธอมาแคสบทบาทหนึ่งในจักรวาลMCU แต่ไม่มีปรากฏว่าเธอรับบทเป็นใครเมื่อสมองของเขาประมวลผลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง
หมายความว่าเธอกำลังจะเข้ามาโลดแล่นในวงการฮอลลีวูด! เขาจำไม่ได้ว่าดีใจมากแค่ไหนรู้ตัวอีกทีก็กอดน้องชายของตนเองไปแล้ว
เมื่อตัวอย่างหนังมาเขาก็ไม่พลาดเพราะอยากเห็นการปรากฏตัวของเธอ
เมื่อได้เห็นอีกฝ่ายในตัวอย่างหนังเขาก็ยิ่งตื่นเต้นและตั้งตารอคอยจนกระทั่งกำหนดฉายมาถึงเขาก็รีบจองตั๋วผ่านเว็บไซต์ทันที
และเมื่อหนังแยกภาคเดี่ยวของตัวละครที่เธอรับบทฉายเขาก็ไม่พลาดเหมือนกัน ไม่กี่ปีต่อมาเขาได้รับคัดเลือกให้แสดงบทของปีเตอร์
ปาร์คเกอร์หรือสไปเดอร์แมน เขากำลังจะมีบทบาทและได้โลดแล่นในจักรวาล MCU ในภาค civil war ของหนังแยกเดี่ยวกัปตันอเมริกาซึ่งเป็นภาค3
วันที่เขาได้บทมาอ่านเพื่อซักซ้อมและทำความเข้าใจเขาจำได้ว่าบทของปีเตอร์มีบทที่จะต้องได้เจอตัวละครของเธอ
ในภาคเดี่ยวของเธอจะมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ชนเธอซึ่งท้ายที่สุดก็กลายมาเป็นตัวละครของเขาในภายหลัง
แต่คนที่แสดงนั้นกลับไม่ใช่เขาบอกตามตรงว่าเขาเสียดายและตารางการถ่ายทำของเขาค่อนข้างแน่นจึงใช้แสตนด์อินแทน
ไม่เช่นนั้นคงเป็นการพบกันครั้งแรกของเขาและเธอย่างแท้จริง
ทอมอยากจะกรีดร้องดังๆเหมือนความฝันของเขากำลังจะกลายเป็นจริง
และวันนั้นก็มาถึงแล้วแต่เขาก็ไม่คิดว่าการถ่ายทำฉากนั้นจะมาถึงเร็วกว่าที่เขาคิด
หรือเขาลืมไปแล้วก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
“สวัสดี...เอ่อ...เอญ่า
มินาชิโระ”
“ทะ-ทอม ฮอลแลนด์!”
เขารู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองกำลังร้อนผ่าวและฝูงผีเสื้อกำลังกระพือปีกบินอยู่เต็มท้อง
ทอมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอมายืนอยู่ตรงหน้าของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนตนถูกซุ่มโจมตี
เขาลุกขึ้นยืนและจับมือทักทายเธอเล็กน้อย เมื่อได้สัมผัสทำให้ได้รู้ว่ามือของเธอนั้นนุ่มมากๆและเธอก็มีกลิ่นหอมคล้ายกับดอกไม้บางอย่าง
เอญ่าเตี้ยกว่าเขาเล็กน้อยอาจจะเพราะส่วนสูงของเธอที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อยจึงทำให้เธอดูโต
ซึ่งในความเป็นจริงหล่อนอายุน้อยกว่าเขาประมาณ 3 ปี
“ยินดีที่ได้รู้จัก...ฮอล-”
“เรียกทอม...”
“คะ?”
“เรียกทอม...ก็ได้นะ
เอ่อมินา...มินาอะไรนะ?”
“งั้น...เรียกเอญ่าก็ได้”
เธอหัวเราะเบาๆและยิ้มก่อนที่ทั้งสองจะปล่อยมือจากกันและกัน
เมื่อทักทายแนะนำตัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วช่างแต่งหน้าและช่างทำผมก็มาตามตัวเอญ่าไป
“ไว้เจอกันในฉากนะ”
“ดะ-ได้เลย”
เธอพูดกับเขาและโบกมือเล็กน้อยพร้อมกับขอตัว
เมื่อเธอเดินผ่านพ้นเขาไปแล้วตอนนั้นเองที่เขารีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าและก้มลงมองพื้นทันที
ใบหน้าร้อนผ่าวและออกจากแดงคล้ายมะเขือเทศหรืออาการแพ้อะไรบางอย่าง
ตัวเขาสั่นเล็กน้อยเพราะทั้งเขินทั้งดีใจ
“นายไหวไหมเนี่ย?”
“หวะ-ไหว ผมไหว”
“ไม่ได้เขินหรอก...ดูทรงแล้วน่าจะเดินไม่ไหว”
แอนโทนี่แซวทันทีและดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆเด็กหนุ่มชาวอังกฤษที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตาพวกเขา
โรเบิร์ต คริส แอนโทนี่และเซบาสเตียน เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างๆและแอบอมยิ้มกันเล็กน้อยเพราะพวกเขารู้จักอาการนี้ดี
“ฉันรู้นะว่านายกำลังปิ๊งเธอ...”
“ไม่! ผมไม่ได้...ปิ๊งอะไร”
“นายดูมีพิรุธ...”แอนโทนี่หรี่ตามอง
“ไม่เอาน่า...ยอมรับมาตรงๆเถอะว่านายปิ๊งเธอจริงๆ”เซบาสเตียนอมยิ้ม
“ถ้าไม่ปิ๊งจะเรียกว่าอะไรล่ะ?”โรเบิร์ตเลิกคิ้วเล็กน้อย
“มีข่าวซุบซิบวงในบอกว่าตอนหนังเธอเข้าฉาย
นายเข้าโรงหนังไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งในหนึ่งเดือนเพื่อไปดูภาพยนตร์เรื่องเดียวแถมยังเป็นหนังภาคเดี่ยวของเธออีกด้วย...”
“จริงจังเปล่าเนี่ย?”คริสมองโรเบิร์ตและหันกลับมามองทอมฮอลแลนด์อย่างไม่เชื่อสายตา
“อะ-เอ่อ...คือ...”
“อย่าแก้ตัวเลยทอม
ยิ่งพูดมันยิ่งชัดเจน”
แอนโทนี่ตัดบทเขาทันทียิ่งทำให้เขารู้สึกเขินจนประหม่ามากกว่าเดิม
เหมือนเขาถูกแฉและเปิดโปงความลับเสียอย่างนั้นแหละ ที่โรเบิร์ตพูดมาก็เป็นความจริงส่วนข่าวซุบซิบวงในอะไรนั่นก็ไม่มีหรอก
ในรายการหนึ่งที่เด็กหนุ่มเคยไปออกเจ้าตัวก็เป็นคนพูดที่ว่าสิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะทำมาก่อนคือการเข้าออกโรงหนังมากที่สุดประมาณ
5-6 ครั้งในหนึ่งเดือน อีกทั้งเขายังตอบพิธีกรเองด้วยว่าหนังเรื่องโปรดของเขาในช่วงนั้นก็คือ
Black Magician ที่เอญ่าเป็นคนรับบท
เชื่อแล้วว่าเขินจนลนจนลืมสิ่งต่างๆไปมันมีอยู่จริงๆ
“ชวนเธอเดตสิ”เซบาสเตียน
“เดี๋ยว!”
เขาร้องเสียงหลงจนทีมงานหันมามองทอมจึงต้องยกมือขึ้นปิดปาก
เมื่อทีมงานหันไปสนใจงานของตนเองต่อเขาจึงผละมือจากปากของตนและเปลี่ยนมาเป็นพูดเบาๆกับพวกเขาแทน
“เรายังไม่ทันได้รู้จักกันเลย”
“ก็รีบทำความรู้จักแล้วก็รีบชวนเธอออกเดตสิ”แอนโทนี่ไหวไหล่
พูดง่ายแต่ถ้าต้องทำมันก็ยากเสมอเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอะไรยังไงดีทอมยังไม่กล้าพอที่จะขอเธออกเดต
สิ่งที่เขากลัวคือกลัวว่าเธอจะปฏิเสธและถ้าเธอไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันกับเขาด้วยก็อาจจะยิ่งแล้วใหญ่
“ไม่รีบชวนตอนที่ยังมีโอกาสตอนนี้อาจจะไม่มีโอกาสได้ชวนอีกแล้วนะ
ไม่รีบทำความรู้จักกันตอนนี้ แล้วก็ไม่รีบชวนไปออกเดต...ระวังจะชวดแล้วเสียใจไปตลอดชีวิตนะ
เอาล่ะ! เตรียมตัวกันได้แล้ว!”
โรเบิร์ตตบบ่าพลางลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากจุดนี้เพราะเขาเองก็ต้องรีบไปเตรียมตัวเพื่อถ่ายทำฉากต่อไปด้วยเช่นกัน
ทอมมองเขาที่เดินออกไปพร้อมกับแอนโทนี่และเซบาสเตียนเองก็ขอตัวด้วยเช่นกัน
“ถูกปฏิเสธอาจจะเจ็บก็จริง...แต่ก็อย่างน้อยๆก็ได้ทำความรู้จักกับได้ชวนเธอออกเดต
อย่างที่โรเบิร์ตบอก...อาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตก็ได้ถ้านายไม่ลองเสี่ยงดู”
คริสทิ้งท้ายเอาไว้อีกคนก่อนที่เขาจะขอตัวออกไปอย่างเงียบๆ
ทีมงานมาตามทอมเพื่อให้เขาเตรียมพร้อมและเตรียมตัวเข้าฉากที่ปีเตอร์กับเฟลิเซียจะได้เจอกันครั้งแรก
ช่างทำผมกำลังทำผมให้กับเธออย่างเงียบๆ เอญ่าสวมใส่ชุดใหม่ซึ่งเป็นชุดที่ทางทีมเสื้อผ้าได้เตรียมเอาไว้ให้
พร้อมกับกำลังบรรจงแต่งเติมใบหน้าของเธอให้มีสีสันด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย
ชุดเสื้อแขนยาวสีกรมท่าและกระโปรงทรงดินสอสีครีม รองเท้าเป็นส้นเข้มสายรัดสีดำ (Chapter14 : Broken)
“พร้อมนะ”
ผู้กำกับเรียกพร้อมกับแสงไฟและตัวกล้องที่จัดตั้งอยู่ในองศาที่เหมาะสม
มีกล้องวางอยู่หลายมุมและหลายทิศทาง ทอมเดินเข้าฉากไปอย่างเงียบๆเขาไปยืนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกจัดเซ็ตเอาไว้ซึ่งซีนนี้เขาต้องรอให้เธอเดินมาเรื่อยๆพร้อมกับตัวละครของโรเบิร์ต
มีบทสนทนากับตัวละครที่ชื่อแฮปปี้เล็กน้อยก่อนที่เธอจะหันมาส่งยิ้มให้เขา
ให้ตายเถอะ...
เขารู้สึกประหม่ามาก...!
“เอ่อ...หวัดดีฮะ ผะ-ผม...ขอโทษผมลืมบท”
“คัต! เฮ้! นายไหวไหมฮอลแลนด์?”ผู้กำกับถาม
“ไหวครับ!”
น้ำเสียงของเขาค่อนข้างประหม่าและสั่นเครือเล็กน้อย
ตอนนี้ใจเขาเต้นแรงอีกครั้งถ้ามันทะลุออกมาเต้นข้างนอกได้ก็คงออกมาแล้วจริงๆ
บทที่ท่องจำมาก็ลืมและหายไปในพริบตาโสตประสาทและสมองรู้สึกรวนไปหมด
ใบหน้าร้อนผ่าวเขามีความรู้สึกว่าเหมือนหน้าตัวเองกำลังแดงอยู่แน่ๆ
โอ้พระเจ้า...หัวใจเขาจะวาย
“ไม่สบายรึเปล่า?”
“ไม่ๆ ปกติดี...ฉันโอเค
ฉันไหว”
เอญ่าถามทอมด้วยความเป็นห่วงพอเขาตอบมาแบบนั้นเธอก็โล่งใจ
โรเบิร์ตยกมือของเวลานอกผู้กำกับจึงพยักหน้า
ร่างสูงลากเด็กหนุ่มออกไปที่นอกเฟรมการถ่ายทำทันทีและบีบไหล่เด็กหนุ่มเบาๆเพื่อให้เขาสงบสติอารมณ์ให้ใจเย็นลง
โรเบิร์ตเชื่อแล้วว่าเด็กสาวมีผลและอิทธิพลกับทอมจริงๆ ด้วยอาการเขินและประหม่าที่มันแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
“นายต้องใจเย็นๆ”โรเบิร์ตย้ำ
บอกตามตรงทอมรู้สึกว่าตนไม่ค่อยเป็นมืออาชีพเลยและรู้สึกแย่
ถ้าหากทุกๆคนรวมถึงเธอต้องมาเหนื่อยหลายๆเทคเพราะเขาแบบนั้นเธอคงไม่ปลื้มเขาเป็นแน่
พอคิดได้ดังนั้นเขาก็รู้สึกฮึดขึ้นมาแปลกๆและพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
เมื่อถูกเรียกเข้าฉากอีกครั้งการถ่ายทำก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างเงียบๆ
อาจจะมีลืมอะไรไปบ้างนิดหน่อยแต่โรเบิร์ตก็พยายามช่วยส่งต่อบทให้เขารวมถึงเอญ่าก็ด้วยเช่นกัน
เขาอมยิ้มเกือบตลอดทุกการถ่ายทำและความเคอะเขินก็ยังคงอยู่แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่จนทุกสิ่งทุกอย่างนั้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
“ขอบคุณคุณสตาร์ค…เจอกันฮะ”
“แล้วเจอกันใหม่ปีเตอร์”
“ขอบคุณฮะ…เอ่อ...ผมขอกอดก่อนที่...ผมจะไปได้ไหมฮะ?”
จนกระทั่งบทดำเนินมาถึงจุดที่ตัวปีเตอร์กำลังจะกลับ
เอญ่าเบิกตากว้างเล็กน้อยในตอนแรกแต่ก็แค่ชั่วครู่เธอยิ้มให้กับเขาเล็กน้อยก่อนที่จะอ้าแขนและค่อยๆเดินเข้าไปกอดอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ
ทั้งสองตัวละครสวมกอดกันอย่างอบอุ่นก่อนที่จะคลายกอดจากกันพร้อมกับทอมที่หันไปตอบโต้กับตัวละครโทนี่ของโรเบิร์ต
บอกตามตรงเอญ่ารู้สึกเขิน...
เพราะในบทไม่ได้กล่าวถึงเรื่องการกอดเอาไว้เลยสักบรรทัดเดียว
อนุมานได้ว่าทอมเพิ่มส่วนนี้ลงไปในบทเองหรือก็คือเล่นนอกบทนั่นเอง ผู้เขียนบทและผู้กำกับที่อยู่หลังกล้องมองหน้ากันเล็กน้อยแต่พวกเขาก็ไม่ได้สั่งหยุดปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นดำเนินต่อไป
พวกเขายังคงถ่ายทำฉากเดิมนี้ซ้ำๆวนไปมาเพื่อที่จะหาฉากที่ดีที่สุดเพื่อใส่ลงไปในภาพยนตร์และหลังจากถ่ายฉากนี้
การถ่ายทำฉากนี้ซ้ำๆหลายๆครั้งเป็นต้นไปก็ไม่มีการขอกอดจากตัวละครของทอมอีกเลย
ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านไปได้อย่างราบรื่นจนกระทั่งเลิกกองในที่สุดละปิดกล้องภาค
Civil war อย่างเป็นทางการเอญ่าบอกลาโรเบิร์ตและผู้กำกับ
อีกทั้งก่อนที่เธอจะขอตัวออกไปเธอก็บอกขอบคุณทีมงานทุกๆคน
รวมถึงขอบคุณนักแสดงคนอื่นๆที่อยู่รอเธอถ่ายทำจนทุกอย่างเรียบร้อยไปได้ด้วยดี
“เอ่อ...เอญ่า”
“เฮ้...”เธอหันไปทักทายทอมที่เดินมายืนข้างๆเธอแต่ก็ยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้
“คิดว่ากลับไปแล้ว”
เธอหันไปยิ้มให้กับทอมเล็กน้อยร่างสูงยิ้มและเกาแก้มตัวเองเล็กน้อยด้วยความเขินกับประหม่าเพราะเมื่อนึกถึงฉากถ่ายทำที่เขากอดเธอ
ตอนแรกทอมคิดว่าเอญ่าอาจจะโกรธเพราะเขาเล่นนอกบทซึ่งอันที่จริงมันก็อยู่เหนือความคาดหมายของเขาเหมือนกัน
ในความเป็นจริงในหัวเขาตอนนั้นเขาตั้งใจที่จะขอกอดเธอก่อนกลับ
แต่กลายเป็นว่าเขาดันขอกอดเธอในฉากเลยเดี๋ยวนั้น
เอญ่าอึ้งและมีท่าทีเคอะเขินเล็กน้อยด้วยเช่นกันแต่ถึงกระนั้นเธอก็ตามน้ำเล่นไปกับเขาด้วยโดยที่ไม่ขัดหรือทักท้วงอะไร
“พอดีอยู่คุยงานนิดหน่อยก่อนกลับน่ะ...แล้วเธอยังไม่กลับ?”
“กะว่าจะเดินเล่นกับหาอะไรกินแถวๆนี้ก่อนกลับน่ะ”
“เอ่อ...ถ้าไม่รังเกียจให้ฉันเป็นไกด์ให้ไหมไม่ก็เดินเป็นเพื่อน
พอดีรู้จักร้านอาหารกับร้านขนมอร่อยๆแถวๆนี้...แต่ถ้าไม่ต้องการก็---”
“รบกวนด้วยนะ”เอญ่ายิ้มให้กับเขา “ขอบคุณนะ”
“ดะ-ด้วยความยินดี”
เขาคิดว่าเขาคงหูฝาดไปแน่ๆแต่ไม่เลย! เธอยิ้มและตอบรับเขาทันทีเอญ่าตัดบทเขาก่อนที่เขาจะพูดจบด้วยซ้ำ
ทอมกำลังจะพูดว่าถ้าหากเธอไม่ต้องการและอยากใช้เวลาส่วนตัวเขาก็จะไม่เข้าไปก้าวก่ายในช่วงเวลาของเธอ
เอญ่าตอบรับเขาด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่ยินดีเป็นอย่างมากอีกทั้งยังกล่าวขอบคุณเขาอีกด้วย
วินาทีต่อจากนี้ไปจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งสองเริ่มทำความรู้จักกันและกัน ความเขินและความประหม่าที่เขามีในตอนแรกมันก็ค่อยๆเบาบางและจางลงแต่ก็ไม่ได้หายไปเสียทีเดียว
เขายังคงเสียอาการกับความน่ารักและรอยยิ้มของเธอ เขาเริ่มขอเธอออกเดตและเอญ่าก็ตอบตกลงความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ
ไม่มีอะไรหวือหวาจนน่าเกลียดหรือหวานเลี่ยนมากจนเกินไป
จากเพื่อนร่วมงานและนักแสดงร่วมจักรวาล MCU
ในที่สุดทั้งสองก็คบกันในปีต่อมาและกลายเป็นแฟนกันไปโดยปริยาย
นักแสดงหลายๆคนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองต่างก็ร่วมยินดีกับทอมและเอญ่า
ต่อให้ไม่บอกพวกเขาก็รู้และเห็นออร่าความรักสีชมพูที่แผ่ออกมาจากทั้งสองคน
เนื่องจากความกลัวกับอิทธิพลของแฟนๆที่อาจจะส่งผลกระทบกับเขาและเธอได้ทั้งสองจึงเก็บความสัมพันธ์ไว้เป็นความลับ
ทุกๆคนที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ทั้งสองก็เต็มใจช่วยกันเก็บเป็นความลับ แต่ในสักวันพวกเขาจะเปิดเผยให้แฟนได้รู้อย่างแน่นอนเพราะไม่ว่าจะช้าหรือเร็วพวกเขาก็ต้องรู้อยู่ดี
2016
“เฮ้...ดูนี่สิ”
“อะไร...เกิดอะไรขึ้น?”
แฮร์รี่น้องชายของทอมร้องขึ้นและยื่นสมาร์ทโฟนของตนให้กับพี่ชายของตนดวงตาของทอมเบิกกว้างเล็กน้อยด้วยความตกใจ
ประหลาดใจและทึ่งในเวลาเดียวกัน นับตั้งแต่การถ่ายทำ Civil war สิ้นสุดลงก็ผ่านล่วงเลยมาเป็นเวลาเกือบปี
ภาพยนตร์เข้าโปรแกรมฉายในโรงภาพยนตร์กระแสตอบรับดีมากจนเป็นที่น่าพอใจ สิ่งที่แฮร์รี่ให้ทอมดูคือโซเชียลมิเดียที่กำลังพูดถึงตัวภาพยนตร์โดยส่วนใหญ่ชื่นชมตัวนักแสดงพร้อมกับชื่นชมผู้กำกับและชื่นชมฉากต่อสู้หรือสิ่งต่างๆ
ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้รู้สึกทึ่งเพราะหากเป็นคำชื่นชนนักแสดงก็น่าจะรู้สึกดีใจและซาบซึ้งที่คนดูชอบ
เพราะเหมือนที่ทุ่มเทไปกับการแสดงก็คุ้มเหนื่อยแล้ว
แต่สิ่งที่สะดุดตาทอมไม่ใช่ในทั้งหมดที่กล่าวมา
#พีทเฟซี่ #ทอมฮอลแลนด์เอญ่า
แฮชแท็กตัวละครของเธอและเขากับชื่อเขาและเธอขึ้นเทรนด์เป็นอันดับสามของโซเชียลมิเดีย
เมื่อกดเข้าไปดูก็ยิ่งทำให้เขาอึ้งและทึ่งหนักมันไม่ใช่การพูดถึงในเชิงลบหรือแง่ลบ
ที่เขาอึ้งเพราะไม่คิดว่าแฟนๆจะพูดถึงตัวละครของเขากับเธอด้วย ยกตัวอย่างเช่น...
ฉันชอบเคมีของตัวละครกับนักแสดงมากๆ
อยากให้ทั้งสองเป็นมากกว่าพี่น้อง!
#พีทเฟซี่
--------------------------------------------------
ฉันชอบซีนที่พวกเขากอดกันมาก! T//-//T เคมีทั้งสองคนดีมาก
ฉันอยากให้พวกเขาได้ร่วมงานกันอีก! อยากให้มีซีนด้วยกันเยอะๆ
#พีทเฟซี่ #ทอมฮอลแลนด์เอญ่า
----------------------------------------------
@marvels
ได้โปรด! ขอซีนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันเยอะๆ ฉันรักพวกเขา!
#พีทเฟซี่
---------------------------------------------
เขาและเธอได้มีโอกาสไปดูหนังรอบปฐมทัศน์ด้วยกันพร้อมกับนักแสดงคนอื่นๆ
ทอมกับเอญ่าไม่คิดว่าเขาจะเลือกซีนที่ทั้งสองกอดกันมาใส่ลงในภาพยนตร์ พอเห็นคนพูดถึงเขาและเธอแล้วมันทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เหนือความคาดหมายแบบไม่ทันได้ตั้งตัวจริงๆ
แฮชแท็กอาจจะพูดถึงประมาณหนึ่งไม่ได้มากจนเกินไปหรือน้อยจนไม่มี
เหมือนแฟนๆพร้อมสนับสนุนความสัมพันธ์ของเขาและเธอสองคนพอเห็นแบบนี้เขาเองก็รู้สึกดีใจแต่ก็ไม่ได้มีความคิดที่จะเปิดเผยให้แฟนๆได้รับรู้ทันที
เขาและเธออยากให้อะไรๆมั่นคงมากกว่านี้ก่อน
[“เฮ้...เห็นที่ฉันส่งไปรึยัง?”]
“เห็นแล้ว”
[“...แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?”]
“มันก็...บอกไม่ถูก
จะว่าเขินก็เขิน...ดีใจก็ดีใจ แล้วก็รู้สึกประหม่านิดหน่อย”
เอญ่ากำลังวิดีโอคอลกับทอมหลังจากที่เขาส่งภาพคอมเมนต์ที่เธอและเขากำลังถูกพูดถึงมาให้ดูร่างบางจึงเข้าโซเชียลมิเดียของตนเอง
เธอก็แทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเองเหมือนกัน ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าวเล็กน้อยยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกเขินซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่แฟนๆให้ความสนใจและรู้สึกมีความสุขไปกับเคมีของตัวละครและนักแสดง
“แล้วนายล่ะ?”
[“ก็รู้สึกเหมือนกัน...ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี]”ทอมยิ้ม
[“วันหนึ่งเราจะบอกพวกเขาด้วยกัน...ก็หวังว่าพวกเขาจะสนับสนุนพวกเราต่อเมื่อเราเปิดเผยความสัมพันธ์แล้ว...แต่ก็แอบกลัวอยู่เหมือนกัน]”
“ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงฉันก็เชื่อว่าพวกเขาจะยังคงสนับสนุนพวกเราต่อ...ไม่ใช่แค่พวกเขา
ฉันเองก็ด้วยจะอยู่ข้างๆนายแบบนี้สนับสนุนและกำลังใจนายเสมอ”
[“…ฉันเองก็ด้วย...ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง
ก็จะอยู่ข้างๆไม่ไปไหนสนับสนุนเธอเสมอ ไม่ว่าจะตอนทุกข์หรือสุขก็จะอยู่กับเธอตรงนี้”]
“เหมือนกำลังขอฉันแต่งงานทางอ้อมเลยนะ”
[“...”]
“…”
เอญ่ารู้สึกเขินแต่ก็ต้องเป็นอันอมยิ้มเมื่อสมองของเขากำลังประมวลผลถึงคำพูดที่เขาพูดออกไป
ทอมอมยิ้มอย่างเขินๆและเกาศีรษะของตัวเองแก้เขินก่อนที่จะแทนที่ด้วยเสียงหัวเราะของทั้งสองคน
[“วันพรุ่งนี้นี้ว่างไหม?”]
เขาถามส่วนเอญ่าพยักหน้าเป็นคำตอบ
[“งั้นเจอกันที่เดิม...รักนะ”]
“แล้วเจอกัน...รักเหมือนกัน”
ร่างบางยิ้มและโบกมือลาเขาเมื่อการสนทนาสิ้นสุด
เอญ่าทิ้งตัวลงบนที่นอนเมื่อนึกถึงประโยคที่เขาพูดไม่ว่าจะตอนทุกข์หรือสุขก็จะอยู่กับเธอตรงนี้
ใบหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อยก่อนที่เธอจะหยิบหมอนขึ้นมาปิดหน้าเล็กน้อยเพราะความเขิน เอญ่าไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้เป็นแฟนกับเขาในความเป็นจริงเธอเองก็ตามผลงานของเขาอยู่อย่างเงียบๆด้วยเช่นกันเพียงแต่ไม่เคยบอกให้เขาได้รู้
พอตอนรู้ว่าจะได้ร่วมงานกับเขาก็ทั้งดีใจและตื่นเต้นด้วยในเวลาเดียวกันแต่ก็ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะขอเธอออกเดตจนเป็นแฟนกันในที่สุด
เขาไม่ได้จีบเธอแบบหยอดมุกจนหวานเลี่ยนส่วนใหญ่จะพูดคุยทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ
วันหยุดหรือวันไหนที่ว่างตรงกันก็พากันไปเที่ยวหรือหากิจกรรมอะไรบางอย่างที่สามารถทำร่วมกันได้
เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเธอมีโอกาสได้ไปเที่ยวอังกฤษกับเขาพร้อมกับพี่น้องของทอมก็ด้วยและมีโอกาสได้พบปะกับพ่อแม่ของอีกฝ่าย
ทอมเองก็มีโอกาสได้พบกับพ่อแม่และพี่น้องของเธอด้วยเช่นกัน
ซึ่งเป็นฤกษ์งามยามดีที่ทอมขอเอญ่าเป็นแฟนโดยที่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายและครอบครัวรับรู้โดยทั่วกัน
“…ขอแต่งงาน?”
ทอมเองก็อมยิ้มเล็กน้อยและรู้สึกเขินไม่ต่างกันเมื่อเอญ่าทักเขาแบบนั้น
พอมาคิดดูดีๆคำพูดของเขาก็เหมือนเขากำลังท่องคำสัตย์สาบานในพิธีวิวาห์หรืออะไรเทือกๆนั้นจริงๆ
แต่พอวาดฝันถึงภาพอนาคตข้างหน้าก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขพิลึก จากที่คิดว่ารักของเขาและเธอคงจะเป็นไปไม่ได้แต่ในวันนี้ก็เป็นไปแล้ว
เขารู้สึกโชคดีและมีความสุขมากๆตอนที่รู้ว่าเธอก็รู้สึกแบบเดียวกันกับเขามันยิ่งกว่าถูกรางวัลใหญ่
ยิ่งพ่อแม่พี่น้องของเขากับเธอให้การสนับสนุนและเห็นด้วยกับความสัมพันธ์ก็ยิ่งทำให้รู้สึกมีความสุขมากยิ่งกว่าเดิม
รู้สึกเหมือนได้ปฏิบัติภารกิจชีวิตสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างราบรื่นและได้ค่าประสบการณ์ชีวิตแบบล้นหลามจนไม่มีที่ให้เก็บอีกแล้ว
*โบนัส*
2017
“เฮ้...ฉันไม่ได้ตายจริงๆนะ”
“ก็เธอเล่นจนฉันรู้สึกเหมือนเธอจะหายไปจริงๆ”
“เชื่อเขาเลย”
“บางทีฉันก็รู้สึกว่าฮอลแลนด์ชักจะเหมือนเด็กห้าขวบที่ชอบงอแงเข้าไปทุกที”
คริสอมยิ้มส่วนแอนโทนี่ก็กอดอกและแอบจิกกัดทอมเบาๆ
แต่ก็จิกกัดด้วยความเป็นมิตรไม่ใช่ความเกลียดชัง
ภาพตรงหน้าของพวกเขาและตรงหน้านักแสดงหลายๆคนในตอนนี้คือทอมกำลังกอดเอญ่าไม่ปล่อยเนื่องจากมันเป็นซีนสะเทือนอารมณ์ที่เฟลิเซียกำลังจะหายไปโดยที่ปีเตอร์ทำได้แค่สะอื้นร้องไห้อยู่เฉยๆ
ทอมบอกกับเอญ่าว่าถ้าเขาเป็นคนเขียนบทจะไม่ยอมให้เธอต้องตายอย่างแน่นอน เหมือนบทของเขาทำได้เพียงแค่ร้องไห้และเห็นเธอหายไปต่อหน้าต่อตา
“ไม่เอาน่า…ชู่...ไม่ร้อง~”
เอญ่ายิ้มให้กับเขาเมื่อเขาค่อยๆคลายกอดจากเธอ
สองมือค่อยๆจับแก้มของเขาเบาๆอย่างนุ่มนวลพร้อมกับปาดน้ำตาให้กับเขาซึ่งใครเห็นต่างก็คิดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนเอญ่าเป็นพี่เลี้ยงส่วนของเขาจริงๆ
เหมือนเป็นทุกอย่างให้กับเขาแล้วจริงๆ ทอมเข้าถึงอารมณ์ของปีเตอร์ผสมกับความรู้สึกของเขาที่จินตนาการว่ากำลังจะเสียเธอไปมันยิ่งทำให้เขาไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้แม้จะสั่งคัตแล้ว
หญิงสาวพยายามปลอบเขาพักใหญ่ๆจนตอนนี้เขาเริ่มหยุดร้องไห้แล้วแต่ก็ยังมีสะอื้นอยู่บ้าง
“ไปร้านขนมด้วยกันก่อนกลับได้ไหม?”เขาถาม
“แน่นอน~”
“เฮ้! คู่นั้นน่ะ!
ถ้าไม่รีบถ่ายซีนต่อไปกองทัพมดจะบุกสตูล่ะนะ!”
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ!
แล้วเจอกันฉากต่อไป”
จุ๊บ!
“เฮ้!”
เอญ่าใช้จังหวะที่ทอมเผลอเขย่งปลายเท้าจุ๊บแก้มเขาไปหนึ่งทีก่อนที่จะรีบวิ่งหนีเขาทันที
จากที่กำลังหงอยๆเศร้าๆอยู่เขารู้สึกเหมือนตื่นเต็มตา ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความเขินที่เธอมอบให้กับเขาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
‘ร้ายกาจ’
ทอมยิ้มและแตะแก้มตนเองเบาๆก่อนที่จะไปเตรียมตัวให้พร้อมในฉากต่อไป
--------------------------------------------------------------
หวังว่าจะชอบกันนะคะ >
<
คิดถึงรีดนะคะ ;v;
ขอบคุณค่ะ~
ความคิดเห็น