ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic avengers x OC] She is our 'Family' [END]

    ลำดับตอนที่ #29 : We are Avengers We are 'family' [END]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      88
      23 ส.ค. 64


     We are Avengers We are 'family'



     

    Fairburn, Georgia 

    บ้านริมทะเลสาบ

     

    เฮ้...

    ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ

    สบายดีนะ?

    ก็เรื่อยๆ

     นาตาชาทักทายและกอดโรดีส์เล็กน้อยตามด้วยคลินท์ที่กอดทักทายด้วยเช่นกัน ทั้งสามคนได้รับการติดต่อจากเพพเพอร์เมื่อคืนวานนี้ ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ในการติดต่อครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ทั้งสามคนแต่ยังมีคนอื่นๆด้วยเช่นกันที่ได้รับการติดต่อจากเธอ

    เธอได้บอกรึเปล่าว่ามีอะไรอยากให้ช่วย?คลินท์เปิดประเด็น

    ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน...บอกแค่ว่ามันเกี่ยวกับโทนี่แล้วจะแจ้งรายละเอียดให้รู้ตอนมาถึง

    หรือว่า...จะยังไม่หายเศร้ากับเรื่อง...

    ก็อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ คงจะร้ายแรงน่าดูคลินท์หันไปมองนาตาชา

    เอ่อ...หวัดดีฮะ

    ไงไอ้หนู

    พวกคุณก็ได้รับการติดต่อมาเหมือนกันหรอฮะ?

    พวกนายก็ด้วยหรอ?แซม

    แซม! บรานส์!”

    ลมอะไรหอบมากันล่ะเนี่ยบรูซ

    ฉันก็อยากรู้เหมือนกันวันด้า

    ฉันว่าแปลกๆนะ...นายคิดเหมือนกันไหม?

    ฉันก็คิดเหมือนนายนั่นแหละบัค

     สมาชิกอเวนเจอร์สมาพร้อมหน้ากันเกือบทุกคนแต่ที่ขาดไปก็คือธอร์กับวิชชั่น ทั้งหมดมองหน้ากันและขมวดคิ้วอย่างฉงนใจปนรู้สึกแปลกใจ หากโทนี่ยังคงไม่ก้าวเดินต่อและยังผูกใจเจ็บกับการจากไปของเฟลิเซียอยู่เขาก็น่าจะเก็บตัวอยู่เงียบๆ มีเพพเพอร์และมอร์แกนอยู่ข้างๆ เขาไม่จำเป็นที่จะต้องเรียกทีมมากันพร้อมหน้าแบบนี้เสียด้วยซ้ำ

     หรือว่าจะมีเรื่องด่วนอะไรจริงๆ?

     สตีฟรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกและไม่ชอบมาพากล

     หลังจากการคืนมณีทุกเม็ดตามช่วงเวลาของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สตีฟได้เต้นรำกับเพ็กกี้เมื่อตอนที่เขาย้อนเวลากลับไปและได้เกษียณตัวเองส่งต่อมอบโล่ให้กับแซมได้เป็นกัปตันอเมริกาคนต่อไปและอาศัยอยู่ที่ใดที่หนึ่งในบรู๊คลิน บัคกี้ได้รับการให้อภัยโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาและเกิดขึ้น แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลอีกทีในแง่ของการบำบัดจากผลกระทบที่เขาถูกทรมานมาอย่างยาวนาน นาตาชายังคงคอยจัดการกับพวกคนไม่ดีเธอยังคงดำเนินชีวิตของเธอต่อไปตามคำมั่นที่ได้ให้เอาไว้กับตัวเองว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือต่ออย่างคุ้มค่า และไปเยี่ยมที่บ้านของคลินท์บ้างเป็นบางเวลา ส่วนคลินท์เริ่มจะวางมือแล้วและใช้เวลาไปกับครอบครัวซะส่วนใหญ่ ส่วนบรูซก็ยังคงค้นคว้าทดลองศึกษาสิ่งใหม่ๆตามแบบของตน ส่วนวันด้าปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียวในแห่งใดแห่งหนึ่งซึ่งก็ไม่มีใครรู้แน่ชัด หากวิชชั่นยังอยู่พวกเขามีแผนที่จะไปใช้ชีวิตอย่างสงบร่วมกันที่เวสต์วิว ปีเตอร์ก็ยังคงใช้ชีวิตปกติสุขของเขาที่รัฐควีนส์ เป็นเด็กนักเรียนมัธยมและเป็นสไปเดอร์แมนคอยจัดการกับพวกคนที่ไม่ดีเหมือนเดิม โรดีส์ก็ยังคงทำงานให้กับทางการทหารเป็นปกติ

    แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน?

    พวกเราก็พึ่งจะมาถึงก่อนพวกนายไม่นาน...ยังไม่เจอใครเลย

    นี่ถ้ากวนโอ้ยกันเลิกคบนะบอกก่อน

     โรดีส์เป็นคนแรกที่เดินนำพวกเขาไปก่อนและเคาะประตูบ้าน แต่ไม่มีเสียงตอบรับเขาจึงเคาะอีกสองสามครั้งและถือวิสาสะเปิดประตูพบว่าไม่ได้ล็อค นาตาชาเดินเข้าไปภายในบ้านและกวาดสายตามองไปรอบๆบ้าน ดูทุกส่วนและทุกมุมก็ไม่พบใครเลยจึงหันมาส่ายหัวให้กับคนอื่นๆที่รออยู่ข้างนอกเพื่อเป็นคำตอบว่าไม่มีใคร

    นายรู้เรื่องอะไรกับเขารึเปล่า?แซมถามปีเตอร์

    ไม่ฮะ...เอ่อ แต่ผมได้รับการติดต่อจากคุณสตาร์คเมื่อเช้านี้บอกว่ามีเรื่องอยากให้ช่วย ผมก็เลยรีบมาที่นี่เลย

    เดี๋ยวนะ...เมื่อกี้นายบอกสตาร์คติดต่อนาย?

    ใช่ฮะ

    มีใครได้รับการติดต่อจากสตาร์คบ้าง?

    ไม่นะของฉันเพพเพอร์ติดต่อมา

    ฉันก็ด้วย

      เท่ากับว่าตอนนี้มีเพียงปีเตอร์เท่านั้นที่ได้รับการติดต่อจากโทนี่โดยตรง วินาทีนั้นปีเตอร์รู้สึกตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะเพราะเขาเป็นแกะดำเพียงแค่คนเดียว ทั้งหมดจึงหันมาเพ่งเล็งเขาทันที เด็กหนุ่มจึงยกมือขึ้นและส่ายหน้าว่าเขาไม่รู้อะไรด้วย

    สตาร์คพูดอะไรกับนาย?บัคกี้เปิดประเด็น

    เอ่อ...เขาบอกว่าเขาคิดค้นอุปกรณ์อะไรสักอย่างได้ก็เลยอยากให้ผมมาช่วย

    มันเกี่ยวกับอะไร?บรูซถามเขา

    ไม่ได้บอกละเอียดฮะว่าเกี่ยวกับอะไร แต่ก่อนที่คุณสตาร์คจะตัดสายจากผมเห็นพูดประมาณว่า...รอป๊าก่อนนะเฟซี่ อะไรแบบนี้...จริงด้วย! เขานัดเจอผมที่โรงรถ!”

    รอป๊าก่อนนะเฟซี่....สตีฟทวนคำ

    ไม่ต้องหาวิธีที่จะพาหนูกลับมา

    รีบไปที่โรงรถ

    เดี๋ยวๆ อะไรๆเกิดอะไรขึ้น!?”แซมมองสตีฟที่จู่ๆก็มีท่าทีที่ลุกลี้ลุกลน

    จำได้ไหมที่เฟซี่บอกว่าไม่ต้องหาวิธีพากลับมา

    แล้วมัน...ยังไง?นาตาชาขมวดคิ้ว

    ปีเตอร์ได้ยินโทนี่พูดว่ารอป๊าก่อนนะเฟซี่ สมมติว่าโทนี่ไม่ได้หาวิธีพาเธอกลับมาแต่ว่าจะไปหาเธอแทนล่ะ?

    ไปหาเธอแทน...นายคิดว่าโทนี่จะฆ่าตัวตาย?

    ไม่ก็สร้างเครื่องเดินทางข้ามเวลาย้อนเวลากลับไปเพื่อหามณีนั่นแล้วพาเธอกลับมาแบบที่ช่วยแนท ไม่ก็ขังตัวเองไว้ที่ช่วงเวลานั้นแล้วไม่กลับมาอีกเลย

    ถ้าทำแบบนั้นก็จะขัดกับสิ่งที่เธอขอเอาไว้...และถ้าเกิดขึ้นคราวนี้ได้ยุ่งเหยิงแน่ไม่ก็โลกทางนั้นกับทางนี้ก็ต้อง...พินาศ

    คุณสตาร์ค!”

     ไวเท่าความคิดพวกเขารีบวิ่งไปยังโรงจอดรถทันทีก่อนที่อะไรก็ไม่รู้จะวุ่นวายและยุ่งเหยิงไปมากกว่านี้ เมื่อไปถึงประตูโรงรถถูกเปิดกว้างและที่พื้นมีแผ่นวงกลมอะไรบางอย่างกำลังเรืองแสงอยู่และสายไฟระโยงรยางค์ไปทั่วทั้งห้อง โทนี่กำลังยืนอยู่ใจกลางสิ่งนั้นและที่ข้อมือของเขาก็มีอุปกรณ์บางอย่างคล้ายกับที่เขาเคยสร้างเมื่อตอนเดินทางข้ามเวลา

    คิดว่าจะมาไม่ทันบอกลากันซะแล้ว

    มันไม่ตลกเลยนะโทนี่

    อะไร? ตลกอะไรกัน? ฉันแค่ทำในสิ่งที่ฉันอยากจะทำฉันผิดตรงไหน?

    ผิดตรงที่นายกำลังทำลายความตั้งใจของเธอนาตาชากอดอกพลางมองเขาอย่างไม่ค่อยจะพอใจ

    และก็กำลังจะทิ้งคนที่ตัวเองรักเอาไว้ข้างหลังวันด้าพูด

    ฉันเข้าใจนะว่านายยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย...แต่นายไม่ควรทำแบบนี้

    ไม่แคป...นายไม่เข้าใจ เพราะนายยังไม่เป็นพ่อแบบฉัน

    นั่นไม่ใช่ประเด็น…”สตีฟกอดอก

    ใช่ นั่นแหละประเด็นโรเจอร์ นายยังไม่เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อ...ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าพวกนายจะมารั้ง หรือจะมาอะไรก็ตามฉันไม่สนใจแล้วขอเอาแต่ใจตัวเองบ้าง ที่ฉันเรียกพวกนายมาก็แค่อยากเห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้ายมันก็เท่านั้นแหละ เอาล่ะ! ไว้เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการ!”

    วันด้า

    ได้แคป

     ไม่ต้องให้อธิบายว่าเขาให้เธอทำอะไร  ก่อนที่โทนี่จะกดกลไกใดๆหมอกควันเวทมนตร์สีแดงได้หยิบยกร่างเขาลอยขึ้นเหนือพื้น ปีเตอร์ยิงใยแมงมุมมัดตัวของโทนี่เอาไว้ทันทีจากนั้นวันด้าจึงค่อยๆวางร่างของเขาลงอย่างช้าๆ โทนี่แสยะยิ้มเล็กน้อยเหมือนเขาคิดมาแล้วว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เมื่อถูกวางลงกับพื้นโทนี่เหยียบกลไกบางอย่างที่ถูกซ่อนเอาไว้ตรงฐานที่เขายืนอยู่ทันที ก่อนที่จะเกิดเป็นกลุ่มควันโขมงมากมายคละคลุ้งไปทั่วทั้งโรงรถ

    โทนี่!”

     คลินท์รีบวิ่งเข้าไปดูใกล้เลยพร้อมกับคนอื่นๆ เมื่อควันจางลงร่างของโทนี่ยังคงยืนอยู่กับที่เหมือนเดิมแต่เขาสลัดใยของปีเตอร์หลุดแล้ว จากนั้นก็มีพัดลมตัวยักษ์พัดพาควันออกไปจนหมด พร้อมกับริบบิ้นหลากสีสันพวยพุ่งออกมาจากฐานวงกลม ทั้งหมดมองหน้ากันก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะตกลงสู่สภาวะความเงียบนาตาชากอดและขมวดคิ้ว เธอมองอย่างไม่พอใจและไม่เข้าใจเล็กน้อย

    เล่นบ้าอะไรของนายเนี่ยสตาร์ค?

    ก็แบบ...อยากจัดปาร์ตี้ฉลองที่ได้กลับมาเจอกัน กลัวเรียกมาแบบธรรมดาโลกไม่จำก็เลยลองหาทำอะไรแปลกใหม่ เป็นไง? ไม่เอาน่าโรมานอฟ นี่อุตส่าห์คิดมาเพื่อพวกนายโดยเฉพาะเลยนะ

    ตลกมากเลยเพื่อนโรดีส์ประชด

    เอ่อ...ทั้งหมดนี่?

    อ๋อ เจ้าอุปกรณ์พวกนี้น่ะหรอ? ของปลอมหมดเลย

    เพเพอร์กับมอร์แกนไปไหน?

    ก็ไปช็อปปิ้งกันสองคนแม่ลูก

    เขาหันไปทางปีเตอร์โทนี่ยิ้มเมื่อมองดูดีๆแผ่นวงกลมที่พื้นแท้จริงก็แค่ไฟวงที่มีรีโมทสำหรับเท้าเหยียบซ่อนอยู่ สายไฟทั้งหมดก็เป็นแค่พร๊อพประกอบที่โทนี่สร้างขึ้นมาเพียงเท่านั้น เขายังคงทำหน้าทะเล้นอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาไหวไหล่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    แค่บอกว่าจะจัดปาร์ตี้กันดีๆแค่นี้ก็มาแล้วแซมกอดอกและหน่ายกับเขาไม่ต่างจากคนอื่น

     ถ้าไม่ติดว่าบัคกี้เคยมีกรณีเขาคงชกโทนี่ไปแล้วจริงๆ บรูซเองก็ส่ายหน้าไม่ต่างจากคนอื่นๆ แม้แต่ปีเตอร์ยังเอือมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกเขาเดินเข้าไปใกล้เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าโทนี่ไม่เป็นอะไร และช่วยเขาแกะใยแมงมุมบางส่วนออกพร้อมกับตรวจสอบว่าทั้งหมดนี้ไม่ได้มีกลไกอะไรซับซ้อนหรือซ่อนไว้อีก เพราะคงไม่มีใครอยากโดนเขาเซอร์ไพรส์สองเด้งแน่ๆ

    บอกกันดีๆก็ได้สตีฟถอนหายใจ เล่นแบบนี้ตกอกตกใจกันหมด

    วันหลังถ้าเล่นแบบนี้อีกคราวนี้เลิกคบแล้วจริงๆนะ

    ถ้างั้นขอตัว...ก่อนนะ...

    งั้นฉัน...ขอ...ด้วย

    จะไม่อยู่ฉลองปาร์ตี้ด้วยกันก่อนจริงๆหรอคะ?

    ฟะ-เฟซี่...

     วันด้าเป็นคนแรกที่เห็นร่างบางยกมือขึ้นปิดปากอย่างไม่อยากเชื่อสายตา นาตาชาเป็นคนต่อมาที่เห็นและช็อคไปชั่วขณะ ใบหน้าสายลับสาวจะเรียกว่าเหมือนเห็นผีก็คงมิปานเพราะทั้งอึ้งและตะลึงด้วยในเวลาเดียวกัน เมื่อสองสาวนิ่งไปจึงกลายเป็นจุดสนใจทันที สตีฟและคนอื่นๆจึงหันตามไป หญิงสาวเกศาดำยาวปรากฏตัวขึ้นในชุดเดรสสีคราม

    ฮึก...!”

     วันด้าเป็นคนแรกที่วิ่งเข้าไปกอดเธอพร้อมกับนาตาชา ร่างบางกอดตอบสองสาวอย่างแนบแน่นเหมือนทั้งสองได้น้องสาวคนสำคัญกลับคืน นาตาชาร้องไห้ไม่ต่างจากวันด้าที่กำลังสะอื้น กลิ่นอายอ้อมกอดอุ่นที่เธอคิดถึงบัดนี้มันได้หวนคืนกลับมาแล้ว เฟลิเซียน้ำตาคลอเล็กน้อยและสวมกอดทั้งสองด้วยความคิดถึงไม่ต่างกัน

    อย่าหายไปแบบนั้นอีกได้โปรด...

    อย่าทำแบบนี้อีก...

    สัญญาค่ะวันด้า...สัญญาค่ะแนทหนูกลับมาแล้วค่ะ

    ยินดีต้อนรับกลับบ้าน...

    ขอบคุณค่ะทั้งสองคน...

    นายทำแบบนั้นได้ยังไงสตาร์ค?คลินท์หันมามองเขาทันทีอย่างไม่อยากจะเชื่อ

    นาย...พาเธอกลับมา?สตีฟถาม

    ไม่บาร์ตัน...ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยโทนี่มีคนส่งเธอกลับมา...

    ใคร?บรูซขมวดคิ้วเล็กน้อย

    คนทางนู้นตอนนี้เธอไม่มีพลังพิเศษอะไรอีกแล้ว

     หากเป็นเมื่อก่อนก็คงไม่มีใครเชื่อ ไม่มีใครรู้ว่าโลกหลังความตายนั้นมีอยู่จริงไหมหรือโลกหน้าที่รอคอยเราอยู่มีจริงหรือเปล่า ไม่มีใครสามารถคาดเดาหรือหยั่งรู้ได้จนกว่าเราจะไปพบเจอด้วยตัวของเราเองและไม่มีใครที่ตายแล้วกลับมาบอกหรือเล่าให้ฟัง แต่ของลูกสาวเขานั้นต่างออกไปเหมือนเธอไม่เคยตาย ต่อให้เฟลิเซียไม่กลับมาลูกสาวของเขาก็ไม่เคยตายจากไป อาจจะรวมถึงคนอื่นๆก็คิดเช่นเดียวกันเธอจะยังคงมีชีวิตอยู่ในใจของพวกเขาตลอดไป ช่วงเวลาที่เฟลิเซียหายไปไม่ได้หมายความว่าเธอตาย เหมือนแค่หายไปพักผ่อนและกลับมาหาพวกเขาในวันที่เธอนั้นฟื้นตัวแข็งแรงแล้ว

    ...ต่อให้ไม่มีอีกแล้วเธอก็ยังคงเป็นครอบครัวของพวกเราสตีฟยิ้มและโทนี่เห็นด้วย

    พูดได้ดี...แบบนี้ดีก็...ไม่แย่เท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละเธอจะได้ไม่ต้องเอาชีวิตไปทำอะไรเสี่ยงๆแบบนั้นอีกแล้ว

    เฮ้...

    สวัสดีค่ะแซม...สวัสดีค่ะบัคกี้ ผมทรงใหม่เท่มากเลยค่ะ

    ขอบคุณบัคกี้ยิ้ม

    ห้ามจีบลูกสาวฉัน

    แน่นอนว่าไม่บัคกี้ยิ้มและส่ายหัว

     เมื่อเธอปาดน้ำตาแล้วก็เข้ากอดแซมกับบัคกี้เล็กน้อย และเข้าไปทักทายบรูซกับโรดีส์ ในที่สุดรอยยิ้มกับความสดใสที่พวกเขาคิดถึงก็ได้หวนคืนกลับมาแล้ว เฟลิเซียยังคงนุ่มนวลและอ่อนโยนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ความอบอุ่นแผ่กระจายไปทั่วโดยรอบอีกครั้งเหมือนไฟที่มอดดับไปในตอนนี้ก็ได้ถูกจุดติดขึ้นอีกครั้ง

     สวนดอกไม้ที่มืดครึ้มได้แสงสว่างกลับคืนมาแล้ว...

     ครั้งนี้พวกเขาจะไม่ยอมสูญเสียแสงอาทิตย์อันอบอุ่นนี้ไปอีกแล้ว จะปกป้องหล่อนด้วยชีวิตและจะมอบรอยยิ้มกับความรักให้กับเธอเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมาอย่างไม่มีเสื่อมคลาย

    ไว้ว่างๆเดี๋ยวจะพาไปเล่นกับเด็กๆที่ฟาร์ม

    ขอบคุณนะคะคลินท์

     คลินท์เป็นคนต่อมาที่เธอเดินมาหาและสวมกอดเขา คลินท์ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็คงไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้แล้วในจุดๆนี้

    หวา! สตีฟคะ!”

    รู้เลยนะว่าไม่มีใครห้ามใคร

     สตีฟกอดและยีศีรษะเธอจนผมเธอยุ่งเหยิง ความโกรธและขุ่นเคืองที่พวกเขามีในตอนแรกนั้นจางหายไปโดยฉับพลัน เหมือนไม่เคยมีอะไรที่ทำให้พวกเขาโกรธเกิดขึ้น เฟลิเซียหน้ามุ่ยเล็กน้อยแต่ก็แค่แกล้งทำเพียงเท่านั้น เมื่อผละจากเขาปีเตอร์เป็นคนต่อไปที่โผเข้ากอดเธอ อดีตผู้ครองพลังเวทสาวกอดสไปเดอร์แมนหนุ่มแนบแน่น ปีเตอร์ยิ้มอย่างมีความสุขและดีใจ ในตอนแรกเขาคิดว่าพี่สาวของตนคงเป็นเพียงแค่ภาพโฮโลแกรมแน่ๆ แต่เปล่าเลยนี่คือเธอจริงๆพี่สาวใจดีของเขา

    ยินดีต้อนรับกลับฮะ

    ขอบคุณนะพีท

    มีเรื่องอยากเล่าให้ฟังเยอะแยะเลยฮะเขาคลายกอดและอมยิ้มเล็กน้อย

    อยู่ฟังทั้งวันยังได้

    แต่ก่อนอื่น...

    เอ๊ะ

     วันด้ายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนที่หมอกควันสีแดงจะรายล้อมตัวของเฟลิเซียเอาไว้ นาตาชาหันไปสบตากับคลินท์เล็กน้อย รวมถึงคนอื่นๆเองก็มองหน้ากันราวกับรู้ใจกันในทันที

    รู้สึก...ไม่ค่อยดีเลยแฮะ

    จะไปไหนฮะคุณสตาร์คปีเตอร์ขวางเขาเอาไว้และแสยะยิ้มเล็กน้อย

    เราจะลงโทษสองพ่อลูกกันยังไงดีนะ?

    ก็...

    สลายโต๋!”

    เฮ้! หยุดนะ!”

     เฟลิเซียกับโทนี่มองหน้ากันเล็กน้อย สองพ่อลูกส่งยิ้มให้กันก่อนที่จะต่างคนต่างรีบวิ่งออกจากโรงรถเพื่อเอาตัวรอด เกิดเป็นเสียงหัวเราะและการวิ่งเล่นไล่จับขึ้นทันที บ้านที่เคยเงียบสงัดในตอนนี้กำลังถูกเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขกลับมาเติมเต็มทุกแห่งหน ครอบครัวใหญ่ที่เคยเศร้าหมอง บัดนี้ก็ได้ถูกชะล้างจางหายไปทีละนิดๆและตายหายไปกับอดีตที่ผ่านมา

     เฟลิเซีย เฮโลน่า หรือ เฟลิเซีย สตาร์ค เธอจะยังคงเป็นครอบครัวคนสำคัญของพวกเขาตลอดไป แม้ว่าตอนนี้จะไร้ซึ่งอำนาจหรือพลังวิเศษใดๆนั่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ที่ผ่านมาในสายตาของพวกเขาเธอก็คือเธอ เด็กสาวและหญิงสาวธรรมดาแต่แสนวิเศษ ด้วยความสุภาพอ่อนหวาน อีกทั้งยังอ่อนโยนแม้ว่าจะถูกเกลียดหรือมีคนไม่ชอบ

    ต่อให้เธอไม่มีพลังเหล่านั้นพวกเขาก็ยังคงรักเธอเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน และก็เป็นเช่นนี้เสมอมานับตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักกันจวบจนปัจจุบัน

     

    ขอบคุณที่ส่งเธอกลับคืนมายังอ้อมกอดของพวกเขา

    เฟลิเซีย เฮโลน่า

    (เฟลิเซีย สตาร์ค)

    ความสดใสแห่งอเวนเจอร์ส

     

     

     

    [END]

     

     

    จบแล้วค่ะฮู่เร่! ขอบคุณทุกๆคอมเมนต์และทุกๆกำลังใจที่มีให้กับไรท์กันมาอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณที่ร่วมเดินทางกันมาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้ายนะคะ ไรท์ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ จากความตั้งใจแรกที่จะจบภายในสี่ปี+กับความหมดไฟ แต่เพราะรีดเดอร์ไรท์ก็เลยไฟลุกท่วมจบได้ไวกว่ากำหนดที่ได้วางเอาไว้มากๆค่ะ TT ไรท์ดีใจนะคะที่ได้แต่งฟิคชั่นเรื่องนี้ขึ้นมา จะพูดว่าเป็นความเอาแต่ใจก็ได้ค่ะที่ไม่อยากให้หนังจบแบบนั้น (ร้องไห้)

     นอกจากรีดเดอร์แล้วยังมีคนที่อยากขอบคุณอีกหนึ่งคนค่ะ คือเพื่อนของไรท์เองที่ช่วยผลักดัน(แนะนำ/จุดประกายไอเดีย) หลายๆอย่างทำให้ไรท์ทำฟิคนี้ออกมาได้ด้วยดีอย่างที่ตั้งใจหวังไว้ จะเรียกว่าเป็น Co-Producer หรือ Exclusive Producer ก็น่าจะได้ค่ะ(ฮา) เพราะปรึกษาพูดคุยเพื่อทำฟิคออกมาให้ดีที่สุดค่ะ เพื่อสนองนีทและเพื่อคนอ่านไรท์ตั้งใจทำออกมามากๆและดีใจมากๆค่ะที่ผลตอบรับดีมากๆT//////T อาจจะไม่ได้แมสมาก แต่ดีต่อใจไรท์ค่ะเพราะกังวลเหมือนกันเนื่องจากเป็นแนวครอบครัว รีดเดอร์ทุกคนก็คือกำลังใจและแรงผลักดันที่สำคัญไม่แพ้กันค่ะ ขอบคุณนะคะ ไรท์ขอบคุณมากๆจริงๆทุกครั้งที่อ่านคอมเมนต์มันเป็นปริ่มไปทั้งหัวใจเลยค่ะ เหมือนไรท์ทำมิชชั่นชีวิตสำเร็จไปอีกหนึ่ง

    ส่วนอันนี้รูปวาดน้อนที่ไรท์จ้างเพื่อนวาดมาค่ะเย้ (คนที่ไรท์ได้กล่าวถึงไปข้างต้น)


    (ขออภัยในความฮาร์ดคอร์ของลายน้ำค่ะ(ฮา) ไรท์เป็นคนใส่เอง)

    หากสนใจจ้างวาด สามารถDM ไปสอบถามได้นะคะ

    ที่นี่เลย!

    รับประกันงานคุณภาพและดจีย์มากๆ!

    https://twitter.com/Kuro_Hitsuji




    ยังไม่หมดยังมีอีกค่ะ (ฮา) 

     

    อันนี้ก็จ้างวาดมาเหมือนกัน หากสนใจติดต่อได้ทางไอจีนี้เลยค่ะ

    รับประกันงานคุณภาพอีกงานค่ะ!

    https://www.instagram.com/nn_ninette/

    รักนะคะ 3,000 ขอบคุณค่ะ

     ยังสามารถติดผลงานฟิคมาร์เวล บัคกี้ x OC ของไรท์ได้อีกหนึ่งนะคะ

    ที่นี่เลยค่ะ https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2205327 

    ส่วนอีกที่ที่รีดอะไร้ต์เลยค่ะ(NCในเด็กดีจะตัดไปลงที่ รีดอะไร้ต์นะคะ) : 

    https://www.readawrite.com/a/7114308e098027bf1a87bcb5a66ec482


     

    ฟิคจบแล้วแต่ก็ยังมีตอนพิเศษมาให้อ่านกันบ้างประปรายนะคะ >< ไว้เจอกันค่ะ

    ขอบคุณนะคะ!

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×