ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic avengers x OC] She is our 'Family' [END]

    ลำดับตอนที่ #26 : Chapter24 : Lost and fight again

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 675
      59
      26 ธ.ค. 64

    Chapter24

     

     วู่ม!

    ได้มาครบไหม?

    แปลว่านี่ใช้ได้จริงงั้นหรอ?

     บรูซเปิดประเด็นเป็นคนแรกหลังจากที่หน้ากากเปิดออกพร้อมกับชุดสูทพิเศษที่หายไปและเผยให้เห็นชุดที่แท้จริง โรดีส์หันมาถามพวกเขาพร้อมกับวัตถุทรงกลมที่เขาถือเอาไว้ในมือเฟลิเซียยืนอยู่ระหว่างบรูซและโทนี่ เธอกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อเช็คว่าว่าสมาชิกในทีมนั้นกลับมาครบหรือไม่  ในตอนนั้นเองที่เธอไม่เห็นสายลับรัสเซียจู่ๆเธอรู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

    แล้ว...แนทล่ะคะ?

     ทันทีที่ร่างบางเอ่ยถามขึ้นเธอได้ยินเสียงคนทรุดนั่งลงกับพื้น เจ้าของสมยานามฮอว์กอายเปียกปอนราวกับว่าเขาพึ่งตกน้ำมาสีหน้าเรียบนิ่งและดวงตาว่างเปล่า วินาทีนั้นเองเธอได้แต่พึมพำในใจกับตนว่าขอให้ไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคิด ใบหน้าของเธอเริ่มร้อนผ่าวคลินท์เงยหน้ามองพวกเขาก่อนที่จะสบตากับเธอ หยาดน้ำตาเริ่มเอ่อก่อนที่มันจะไหลอาบแก้มเธออย่างช้าๆ พวงแก้มถูกฉาบด้วยธารแห่งน้ำตาไม่มีเสียงสะอื้นออกมาจากปากของเธอ เฟลิเซียรู้สึกแตกหักอีกครั้งแววตาว่างเปล่าแต่ก็เคล้าไปด้วยความรู้สึกเศร้า เหงาและเจ็บปวด ความรู้สึกที่ไม่สามารถอนุมานหรือนิยามมันออกมาได้ มันทั้งโหวงทั้งหน่วงในความรู้สึก

    อีกนาทีเจอกัน

     แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นนาทีที่ไม่ได้พบกันอีกแล้ว

    เฟซี่...

     เธอทรุดฮวบลงกับพื้นคลินท์ยิ่งรู้สึกแย่ ความสดใสของทีมถูกแทนที่ด้วยความเศร้าหมองไปชั่วขณะ โทนี่ค่อยๆย่อตัวลงข้างๆลูกสาวตนเฟลิเซียโผเข้าสู่อ้อมกอดของเขาอย่างเงียบๆ ปล่อยให้ธารน้ำตาแห่งความเสียใจมันไหลออกมาเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกที่มันกำลังพรั่งพรูในตอนนี้ สตีฟและบรูซก็รู้สึกเศร้าไม่ต่างจากเธอรวมถึงคนอื่นๆ บรรยากาศจึงเข้าสู่สภาวะเงียบงันพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอที่ดวงตา

    ริมทะเลสาบ

    เธอมีครอบครัวไหม?

    มีสิ...เราไง

     เฟลิเซียเหม่อมองไปยังทะเลสาบตรงหน้า ตอนนี้เธอและพวกเขาบางส่วนกำลังนั่งอยู่ตรงจุดที่เหมือนศาลาริมน้ำเอาไว้นั่งพักผ่อนหรือชมวิวตรงทะเลสาบ มีหลังคาคอยบดบังแดดหรือบดบังฝน เฟลิเซียนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ที่มุมหนึ่งของเสาและกำลังนั่งฟังบทสนทนาที่กำลังมีอยู่ตอนนี้ด้วยไปพลางๆ

    อะไรอ่ะ?ธอร์เดินเข้ามา

    ห๊ะ?โทนี่เงยหน้าขึ้นมองเขา

    ทำอะไรเนี่ย...ทำอะไร? เจ้าทำเหมือนแนทตายทำไมเจ้าต้องทำเหมือนว่านางตาย เรามีมณีแล้วไม่ใช่หรอ...ขอแค่เรามีมณีแคป! เราก็คืนชีพนางได้เลิกดราม่าเราคืออเวนเจอร์ส ดึงสติหน่อย!”บุตรแห่งโอดินเอ่ยขึ้นมา

    เธอคืนชีพไม่ได้คลินท์แย้งเขา

    เอ่อ...อะไร...อะไรยังไง?ธอร์ถามอย่างไม่เข้าใจ

    ของแนทไม่ได้...ไม่ได้เขาก้มหน้าเล็กน้อย

    หึๆ ขอโทษนะไม่ได้จะว่าแต่พวกนายมันช่างชาวโลกโอเค๊? นี่มันพลังอวกาศพูดว่าไม่ได้ตอนนี้จะด่วนสรุปไปไหม?

    ใช่ ฉันรู้ว่ามันเป็นอำนาจที่อยู่เหนือเบื้องบนขึ้นไปอีก แต่แนทก็ไม่อยู่แล้ว

    ใช่...แล้วไงล่ะ?

    อันนี้...มันคืนไม่ได้หรืออย่างน้อยตามที่ไอ้ผีแดงลอยได้บอกมา นายลองไปคุยกับเขาสิ! โอเค๊? ไปหยิบค้อนวิเศษ! แล้วเหาะไปคุยกับเขาดูสิ!”คลินท์พูดออกมาอย่างมีน้ำโห

      น้ำตายังคงอาบไหลแก้มของเฟลิเซียอยู่บ้างเล็กน้อย เธอปาดมันทิ้งไปอย่างเงียบๆโทนี่หันมามองเธออย่างห่วงๆ เขาสงสารลูกสาวของเขาจับใจเหมือนเธอถูกพรากความสุขไปอีกครั้ง ร่างบางคิดถึงอ้อมกอดของนาตาชาไม่ว่าจะเจอกัน ทักทายหรือมีเรื่องอะไรน่ายินดี นาตาชาจะเป็นอีกคนที่เธอมักจะกอดอยู่เสมอๆ แม้กระทั่งค่ำคืนที่ฝันร้ายก็ยังมีเธอคอยดูแล ศิลปะการต่อสู้ที่ไม่จำเป็นต้องใช้พลั งสายลับรัสเซียสาวก็เป็นคนสอนและถ่ายทอดมันให้กับเธอ

    มันควร...จะเป็นฉันน้ำเสียงเขาแผ่วลงแนทพลีชีพตัวเองเพื่อไอ้มณีบ้านั่น เธอเอาชีวิตไปแลก

    เธอไม่กลับมาแล้ว...ต้องทำให้มันคุ้มค่า ต้องให้คุ้มบรูซคำรามในตอนแรกพร้อมกับเหวี่ยงเก้าอี้ที่นั่งตัวยาวไปยังทะเลสาบตรงหน้า ก่อนที่จะหันมามองหน้าพวกเขาทุกคน

    คุ้มแน่สตีฟให้คำมั่น

     เฟลิเซียปาดน้ำตาอีกครั้งและลุกขึ้นยืน เธอยกมือขึ้นกำสร้อยคอในมือตนแน่นและหลุบตาต่ำลงเล็กน้อย ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมอย่างเงียบๆเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างได้

     

     เมื่อชั่วโมงแห่งการทำใจนั้นสิ้นสุด โทนี่ บรูซและร็อคเก็ต ลงมือจัดการนำมณีเหล่านั้นวางลงในตำแหน่งต่างๆบนถุงมือที่ถูกสร้างขึ้นคล้ายกับของทานอส มณีทั้งหกเม็ดเรืองแสงเป็นประกายเล็กน้อย ตอนนี้กำลังอยู่ในกระบวนการที่กำลังถกเถียงอยู่ว่าใครจะเป็นคนดีดและผลที่ได้คือบรูซจะเป็นคนดีดเอง

    จำเอาไว้นะ นำคนที่หายไปเพราะทานอสเมื่อห้าปีก่อนให้กลับคืนมาวันนี้ตอนนี้ แต่อย่าเปลี่ยนอะไรห้าปีที่ผ่านมาโทนี่กำชับ

    ตามนั้น

     ทุกคนจึงตั้งท่าเตรียมตัวให้พร้อมสตีฟสวมหมวกและถือโล่ขึ้นมา สก็อตสวมหน้ากาก โรดีส์อยู่ในชุดเกราะและสวมหน้ากากทันทีเพื่อความปลอดภัย ร็อคเก็ตสวมแว่นและธอร์ยืนกันเขาเอาไว้ ส่วนเฟลิเซียที่อยู่ใกล้ๆด้วยก็ยกมือขึ้นและหันฝ่ามือไปข้างหน้าเกิดเป็นคลื่นเกราะบาเรียสีดำทึบจากพลังของตน เธอกางมันกว้างพอที่จะกันบุตรแห่งโอดินและชายร่างแรคคูน โทนี่สวมเกราะเหล็กเขาเปิดใช้งานโล่เพื่อคุ้มกันตัวคลินท์เอาไว้

    ฟรายเดย์เริ่มมาตรการบาร์นดอร์ได้

    ค่ะเจ้านาย

     เมื่อAIตอบรับประตูโดยรอบรวมถึงทั้งบานหน้าต่างและหลังคามีประตูสีดำสนิทซึ่งสร้างมาจากวัสดุชั้นดีบดบังแสงจากด้านนอกและเพื่อป้องกันผลกระทบจากภายใน ที่อาจจะส่งผลต่อภายนอก เพื่อความปลอดภัยจึงปิดทั้งจากข้างในและด้านนอก

    ทุกคนคืนสู่เหย้า

     วู่ม!

    “…”

     สิ่งที่เธอกำลังเห็นในตอนนี้คือบรูซกำลังร้องโอดโอยด้วยความเจ็บจากคลื่นพลังของมณีทั้งหก เขาทรุดตัวลงกับพื้นและจับถุงมือในมือตนเอาไว้เล็กน้อย พลังกำลังไหลเวียนเข้าสู่กายของเขาพร้อมกับแขนที่กำลังถูกพลังที่ไม่อาจจะอนุมานได้นี้แผดเผา เขารู้สึกทรมานแต่ก็ยังพอทนและยังพอรับไหว

     กึ่ก!

    บรูซ!”

     เมื่อถึงจังหวะที่พลังได้ผสานเข้าสู่กายของเขาเต็มที่จนไม่อาจจะทนได้อีกต่อไป ร่างยักษ์ดีดนิ้วก่อนที่เขาจะล้มลงและถุงมือก็หลุดออกจากมือของเขา สตีฟร้องลั่นและรีบวิ่งเข้าไปดูเพื่อตรวจสอบอาการ คลินท์เตะถุงมือให้พ้นทาง เฟลิเซียทรุดลงข้างๆและมองเขาอย่างห่วงๆ โทนี่จัดการใช้ไอความเย็นเกิดเป็นน้ำแข็งแช่แขนของบรูซเอาไว้ชั่วขณะเพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้นและความเย็นนี้จะได้บรรเทาความแสบร้อนที่ถูกพลังจากมณีนั้นแผดเผา ประตูด้านนอกค่อยๆเปิดออกเมื่อทุกอย่างดูสงบลงเฟลิเซียค่อยๆลุกขึ้นและทอดสายตามองไปยังหน้าต่างที่เป็นบานกระจกใส โทรศัพท์ของคลินท์มีสายเรียกเข้าจากภรรยาของเขาลอร่า วินาทีแห่งความดีใจและมีความสุขได้ก่อขึ้นในตัวเขา ชายหนุ่มรับโทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับภรรยาของเขาเล็กน้อย

    ดูเหมือนจะได้ผล....

     ฟิ้ว!

     ตู้ม!

    “!?”

     ตู้ม!

     ตู้ม!

     ตู้ม!

     ฝูงห่าของระเบิดมิดไซด์จากยานอวกาศปริศนาที่อยู่เหนือน่านฟ้าได้พุ่งลงมายังตัวอาคาร มันระเบิดและทำลายตัวอาคารจนกลายเป็นซากปรักหักพัง ทุกคนในห้องค่อยๆไหลลงสู่พสุธาเบื้องล่างเพราะไม่มีอะไรยึดเกาะ กระจัดกระจายกันออกไปแต่ล่ะจุดแต่ละทิศทาง ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นไวแบบที่ไม่มีใครทันได้ตั้งตัว ระเบิดได้ทำลายตัวอาคารและบริเวณโดยรอบจนไม่เหลือชิ้นดี

     

    อึ่ก…”

     เหมือนเธอหมดสติไปชั่วครู่หนึ่งทันทีที่รู้สึกตัวก็พบกับความมืดรวมถึงเศษซากตึกที่กำลังทับถมร่างของเธอเอาไว้ เฟลิเซียพยายามตั้งสติและรวบรวมสมาธิใช้พลังดึงตัวเองขึ้นมาจากซากพื้นปูนและเศษดินที่ทับถมเป็นกองใหญ่ เหล็กและกระจกบางส่วนถูหรือเชือดเฉือนไหล่ขวาของเธอจนเกิดเป็นแผลเล็ก ทำให้รู้สึกแสบแต่ก็ไม่ได้มากจนถึงขั้นทนไม่ได้ เนื้อตัวมอมแมมและเปรอะเปื้อนเศษฝุ่นดำๆ แก้มขวามีแผลจนเลือดไหลเล็กน้อย

     ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นยืนและกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณรอบๆที่ไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีกต่อไปแล้ว เศษซากทั้งหลายทับถมรวมกันเป็นกองภูเขา เหนือน่านฟ้ามืดทะมึนเพราะมีฝุ่นและควันปกคลุม จากภาพบรรยากาศตรงหน้ามันทำให้เธอนึกถึงฉากในหนังสงครามเพราะที่นี่ก็อาจจะไม่ต่างอะไรจากสนามรบ ร่างของโทนี่ถูกเหวี่ยงไปอีกทางจนหมดสติ ร่างบางรีบวิ่งไปหาพ่อของเธอทันทีพร้อมกับเรียกสติของเขาให้ตื่นขึ้นจากการสลบไสล เมื่อหันกลับไปมองอีกด้านปรากฏเป็นภาพสตีฟกำลังต่อสู้กับทานอสจากอดีตกันอย่างดุเดือด โล่ของเขาถูกตัดขาดไปบางส่วนก่อนที่จะถูกเหวี่ยงไปอีกทางและล้มลง

    ตลอดชีวิตที่ข้าชนะศึก...ล้างผลาญ สังหารหมู่ ไม่มีเรื่องส่วนตัวทานอสเปรยขึ้นในขณะที่มองไปรอบๆก่อนที่จะหันกลับมามองสตีฟ

    แต่ตอนนี้บอกเลย สิ่งที่ข้าจะทำกับดาวของคนหัวแข็งน่าขุ่นเคืองเช่นโลก...คือความสุขของข้าอย่างมากมหาศาล

    กองทัพของทานอสปรากฏตัวขึ้นฝันร้ายครั้งที่สองก็ได้เริ่มขึ้น ฝูงเอาท์ไรเดอร์หลายฝูงวิ่งออกมาจากตัวฐาน พร้อมกับกองกำลังจากต่างดาวตั้งแต่ตัวเท่ามนุษย์ไปจนถึงขนาดใหญ่ยักษ์ที่กำลังลอยแหวกว่ายอยู่เหนือน่านฟ้าและเตรียมรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย ทุกสิ่งทุกอย่างผิดไปจากที่วางเอาไว้ทั้งหมดในตอนแรก สภาพทั้งสามคนสะบักสะบอมดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เฟลิเซียเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาในใจเพราะเธอกลัวมันจะซ้ำรอยเหมือนเมื่อห้าปีก่อนที่ผ่านมา โทนี่ค่อยๆลุกขึ้นเมื่อได้สติแล้วเมื่อเห็นว่าลูกสาวเขายังปลอดภัยดีเขาก็โล่งใจแต่ก็ไม่ซะทีเดียวเพราะบาดแผลที่ไหล่ขวาและแขนของเธอ เฟลิเซียค่อยๆยืนขึ้นและจ้องมองไปยังสตีฟที่เดินไปประจันหน้ากับบุรุษร่างยักษ์

     เธอจะไม่ยอมให้เขามาทำลายหรือทำร้ายใครอีกเป็นครั้งที่สอง...

     เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงกางแขนออกและกำลังดึงพลังตนออกมาก็เป็นอันต้องหยุดชะงัก เมื่อเธอเห็นวงแหวนประตูมิติเปิดออกมาปรากฏเป็นร่างของทีชาล่า ชูริและโอโคเย่ ความกังวลและความกลัวในใจเหมือนจะทุเลาลง ความสิ้นหวังจนเกือบหม่นหมองเหมือนถูกปัดเป่าหายไป จากนั้นประตูอีกนับไม่ถ้วนก็ถูกเปิดออกเรื่อยๆ ฟัลคอนบินออกมาจากประตูมิติที่ราชาแห่งวากันด้าเดินออกมา ไม่ใช่เพียงแค่ที่พื้นดินด้านบนก็มีประตูมิติเช่นกัน ทั้งยานรบและยานพาหนะที่มีพลรบอยู่ เสียงผู้คนเฮลั่นกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ กำลังพลและผู้มาจากทั่วทุกสารทิศหลายๆแห่งและหลายๆประเทศทั่วโลก

    ทุกๆคน...

     ร่างบางพึมพำเบาๆและยิ้มเล็กน้อย คนที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตาและคุ้นเคยเป็นอย่างดีปรากฏกายขึ้น แม้แต่เพพเพอร์เองก็ด้วยเช่นกันเธออยู่ชุดเกราะเหล็กสีโทนครามที่พ่อของเธอทำให้เป็นของขวัญวันครบรอบ ร่างยักษ์ของสก็อตลุกขึ้นจากซากตึกและวางร่างของบรูซ โรดีส์และร็อคเก็ตลง

    อเวนเจอร์ส!”สตีฟตะโกนขึ้นพร้อมกับค้อนโยเนียร์ลอยมาที่มือของเขาและทุกคนที่ตั้งท่าเตรียมพร้อม

    รวมพลัง!”

    เฮ!!!!”

     เสียงเฮลั่นกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ ราชาแห่งวากันด้าออกนำตามด้วยเผ่าพรมแดน หน่วยดอร่า มิราเจ และราชองครักษ์ พร้อมกับเหล่าผู้มาเยือนและผู้ช่วยเหลือคนอื่นๆจากเกือบทั่วทุกมุมโลกเคลื่อนพลเข้าปะทะกับสัตรูที่อยู่ตรงหน้า ทั้งทางภาคพื้นดินและอากาศ ทานอสเองก็ยกดาบตนขึ้นเป็นสัญญาณของการเปิดศึกอย่างเป็นทางการ เหล่าไพร่พลและกองกำลังจากต่างดาววิ่งเข้าประจัญหน้าและเข้าปะทะกับศัตรูของนายตนทันทีทั้งภาคพื้นดินและอากาศเหมือนกับอีกฝ่าย

      เฟลิเซียที่วิ่งออกตัวพร้อมๆกันกับคนอื่นใช้พลังส่งตัวเองให้ลอยขึ้นเหนือพื้น ก่อนที่เธอจะซัดและปลดปล่อยพลังเวทมนตร์ใส่ศัตรูตรงหน้า ออร่าพลังสีขาวดำครอบคลุมไปทั่วทั้งกายดวงเนตรเรืองแสงสีไข่มุกอมชมพู เธอกางแขนออกและวาดมือไปบนอากาศเหล่าเถาวัลย์และเถาไม้เลื้อยปรากฏขึ้นมาจากผืนดิน จัดการพันธนาการซัดเหวี่ยงให้พ้นทาง ร่างบางดึงพลังออกมาและรวมรวมเอาไว้ที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง พลังสีขาวและดำค่อยๆหลอมรวมกันก่อนที่เธอจะผลักมันออกไปเพื่อโจมตีใส่ศัตรูตรงหน้า

     กรร!

     สุนัขประหลาดจากต่างดาวถูกร่างบางซัดพลังเวทมนตร์ใส่อย่างรุนแรงจึงกระเด็นไปอีกทาง ส่วนกำลังพลของทานอสที่ระดับความสูงพอๆกับมนุษย์เข้าปะทะกับหล่อนหลังจากนั้นแต่ก็ถูกเธอใช้พลังผลักออกไปและถูกเถาวัลย์หนามสีดำจับเหวี่ยงและทุ่มลงกับพื้น เมื่อเธอกระทืบเท้าลงพื้นดิน เหล่ารากไม้และเถาวัลย์คล้ายปีศาจผุดขึ้นมาพร้อมที่จะกัดกินและสวาปามศัตรูตรงหน้า เมื่อพันธนาการเอาไว้ได้แล้วก็จะจัดการลากพวกมันหายไปราวกับถูกธรณีสูบ

    อ๊ะ...ป๊า!”

     เฟลิเซียหันไปเห็นพ่อของตนที่กำลังพลาดท่าและถูกเหวี่ยงจนล้มลง เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปหมายที่จะช่วยแต่เด็กหนุ่มจากควีนส์มาช่วยเอาไว้ได้ทันก่อน พร้อมกับศัตรูร่างยักษ์ที่ถูกสก็อตเหยียบซ้ำจนแน่นิ่ง

    โอ้แม่เจ้า! คุณต้องไม่เชื่อว่าเกิดอะไรขึ้น! จำตอนเราอยู่ในอวกาศได้ไหมแล้วผมกลายเป็นฝุ่น...ผมคงหมดสติแล้วพอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นคุณแล้ว แต่ยังดีเจอดร.สเตรนจ์เขาบอกห้าปีแล้วเร็ว! รีบไปช่วยแล้วเขาก็ทำวงไฟเหลืองๆแบบที่เขาชอบทำบ่อยๆ

    ถามจริง...

    ทำไรฮะ...โอ้ว...

      วินาทีที่ได้เห็นเด็กหนุ่มเฟลิเซียก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้น้ำตาคลอเล็กน้อยแต่เธอก็ปาดมันทิ้ง หน้ากากของโทนี่และปีเตอร์เปิดออกเด็กหนุ่มร่ายยาวบอกเล่าในตอนที่เขานั้นตื่นมาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนที่จะถูกมหาเศรษฐีดึงเข้าไปกอดเอาไว้อย่างแนบแน่นราวกับคิดถึงคนที่เขารักเหมือนลูกชาย

    โฮ่...รู้สึกดีจัง

     เฟลิเซียจึงค่อยๆเดินเข้าไปหาจากฝั่งด้านหลังของโทนี่ ปีเตอร์ที่หลับตาจากการที่ซึมซับความรู้สึกจากอ้อมกอดผู้ที่เปรียบเสมือนพ่อ

    เฮ้...พึ่งรู้ว่าตาคุณเรืองแสงได้ด้วย! ไม่อยากจะเชื่อเลย----

     เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็พบเข้ากับเธอเมื่อโทนี่คลายกอด เขาจึงทักเธอขึ้นอย่างตะลึงงันและตกใจ เฟลิเซียวิ่งเข้ากอดปีเตอร์ทำให้เขาเกือบจะเสียหลักไปเล็กน้อย สิ่งที่เขาพูดถูกตัดบทด้วยอ้อมกอดของเธอ เด็กหนุ่มกอดเธอตอบเหมือนคิดถึงหญิงสาวผู้เปรียบเสมือนพี่สาวไม่ต่างกัน

     ยินดีต้อนรับกลับมานะพีท...

    ขอบคุณฮะ...แล้วนั่น...เอ่อ...ไปทำอะไรมาเขายิ้มเล็กน้อยก่อนที่ทั้งสองจะคลายกอดออกจากกัน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเขาเห็นแผลที่ไหล่ของเธอ

    อุบัติเหตุนิดหน่อย สบายมาก

    กลัวจะไม่หายนี่สิโทนี่ยิ้ม

     เพพเพอร์ที่อยู่ในสูทเกราะเหล็กสีครามมองมาจากมุมหนึ่งในขณะที่กำลังช่วยจัดการศัตรู เธอแอบอมยิ้มใต้หน้ากากเล็กน้อยเพราะในที่สุดตอนนี้ก็เหมือนจะพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว รอยยิ้มสดใสของลูกสาวตนที่ไม่ได้เห็นมาร่วมสัปดาห์ในที่สุดเธอก็ได้เห็นอีกครั้งก็ทำให้รู้สึกโล่งใจมากขึ้นกว่าเดิม จากนั้นทั้งสามคนก็ต่างคนต่างแยกออกจากตรงจุดนั้นเพื่อไปจัดการศัตรูและช่วยเหลือคนอื่นๆต่อ

     กึ่ก!

     เฟลิเซียยกซากปรักหักพังบางส่วนที่กองพะเนินอยู่ขึ้นมา ก่อนที่จะเหวี่ยงเข้าใส่ไพร่พลลูกน้องของทานอส เพื่อช่วยเหลือคนที่กำลังเสียเปรียบหรือพลาดท่าและเคลียร์ทางบางส่วน ตอนนี้คลินท์กำลังหลบหลีกและปะทะเข้ากับศัตรู เขาไม่สามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่หรือเต็มกำลังเพราะกำลังถือถุงมือที่มีมณีอยู่

     กรร!

    “!?”

     เฟลิเซียที่กำลังจะวิ่งเข้าไปช่วยรับช่วงต่อถูกซุ่มโจมตีจากด้านหลัง เอาท์ไรเดอร์กระโจนใส่เธอจนเธอหน้าคะมำไปกับพื้น เธอยกมือขึ้นกำลังจะใช้พลังตนจัดการแต่ก็มีคลื่นหมอกพลังงานสีแดงผ่านหน้าเธอไปและจัดการเหวี่ยงเจ้าสุนัขเอเลี่ยนให้พ้นไปอีกทาง เมื่อตั้งตัวลุกขึ้นได้เธอจึงหันไปยังต้นตอที่มาและยกยิ้มขึ้น

    วันด้า!”

    จบงานนี้โดนพักงานยาวแน่วันด้ายิ้มและพูดติดตลกเนื่องจากแผลที่แขนของเฟลิเซียมันค่อนข้างเด่น

     สองผู้ครอบครองพลังกอดกันเล็กน้อยก่อนที่จะคลายกอดออกจากกัน คลื่นพลังงานสีสการ์เล็ตแผ่นออกมาจากตัววันด้า ดวงเนตรของเธอเรืองด้วยสีแดงเดียวกันกับพลังตน ทีชาล่ารับช่วงต่อถุงมือแต่ก็ถูกทานอสขวางทางเอาไว้ถุงมือจึงกระเด็นจากตัวเขา แม่มดแดงและนักเวททมิฬมองหน้ากันเล็กน้อยและพยักหน้าให้กัน ทั้งสองใช้พลังส่งตัวเองให้ลอยไปยืนขวางทางเอาไว้ก่อนที่ทานอสจะได้ถุงมือไป สีหน้าและแววตาของวันด้าเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน มันแทนที่ด้วยความโกรธและขุ่นเคือง แต่ลึกๆก็ซ่อนความเศร้าสียใจเอาไว้

    แกบังอาจ...พรากทุกสิ่งไปจากฉัน!”

    เจ้าเป็นใครข้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำ

    เดี๋ยวก็รู้

     หล่อนตอบในขณะที่พลังสีแดงค่อยๆส่งตัวของหล่อนให้ลอยขึ้นเหนือพื้น ออร่าพลังครอบคลุมกายพร้อมกับดึงพลังมาไว้ที่ฝ่ามือ เธอยกซากเศษเหล็กและซากอาคารขึ้นมาและจัดการซัดพลังเหล่านั้นใส่เขา เฟลิเซียวาดมือไปบนอากาศเถาวัลย์ลอยขึ้นมาจากพื้นดินและพยายามที่จะตรึงร่างเขาเอาไว้ แต่ก็ถูกคมดาบของเขาตัดขาดเมื่อวันด้าเข้าประชิดตัวได้เขาพยายามที่จะกดคมดาบยักษ์ลงที่ตัวเธอแต่มีคลื่นพลังวันด้ากั้นเอาไว้ เฟลิเซียร่ายพลังอีกครั้งคราวนี้มีเถาไม้เลื้อยรัดคอของเขาเอาไว้ทำให้เขาเสียงจังหวะ เมื่อสบโอกาสวันด้าจึงง้างมือขวาและฟาดพลังใส่ร่างสูงอย่างเต็มเหนี่ยวจนตัวเขาเซถอยเล็กน้อยพร้อมกับตัวดาบที่หักบิ่นไปด้านหนึ่ง

    ไปช่วยทางนั้นเฟซี่...ทางนี้ฉันจัดการเอง

     ไม่ต้องรอให้พูดซ้ำสองหญิงสาวบ้านสตาร์คจึงพยักหน้า และรีบวิ่งไปยังปีเตอร์ซึ่งเป็นจุดหมายของตนทันที ร่างของทานอสล้อมด้วยพลังของวันด้าเขาถูกยกลอยขึ้นเหนือพื้นถูกดึงชุดเกราะและถูกตรึงแขนเอาไว้ เขาเจ็บเพราะเหมือนกำลังจะถูกแม่มดตรงหน้าฉีกออกเป็นชิ้นๆ

    ถล่มปูพรม!”

    แต่ท่านครับ! กองทัพเรา!”

    ทำตามที่สั่ง!”

     ตู้ม!

     ยานรบมหึมาที่อยู่เหนือน่านฟ้าทำการยิงถล่มลงมายังพื้นเบื้องล่าง โดยไม่สนว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกับตนหรือไม่ วันด้ากระเด็นไปอีกทางอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ทานอสหลุดออกจากพันธนาการของเธอในทีสุด เฟลิเซียพยายามหลบลำแสงที่ถูกยิงมาจากด้านบนเมื่อมองหาปีเตอร์ตอนนี้ในมือเขามีถุงมือเพราะรับช่วงต่อ แต่เขากำลังแย่เพราะกำลังถูกพวกเอาท์ไรเดอร์รุม

    เอาอยู่! เอาอยู่...โอเคไม่อยู่แล้วล่ะ ช่วยด้วย!”

    เด็กควีนส์...รับนะ!”สตีฟเหวี่ยงโยเนียร์ไปทางเขา

     

    ปีเตอร์! เหวอ!”

     ร่างของเฟลิเซียลอยหวือไปอีกทางไม่ต่างจากวันด้าเพราะไม่ได้ตั้งรับให้ดี เธอกระเด็นไปและกลิ้งจนฝุ่นตลบอบอวลเล็กน้อย เนื้อตัวเธอจึงมอมแมมไปด้วยฝุ่นและดินอีกครั้ง ค้อนโยเนียร์ช่วยชีวิตปีเตอร์เอาไว้ก่อนที่เพพเพอร์จะเข้ามาช่วยและเหวี่ยงส่งเขาให้กับวัลคิรีที่อยู่บนม้าบิน

     ตู้ม!

     เมื่อลำแสงตัดผ่านทำให้วัลคิรีเสียการควบคุมและร่วงหล่นจากม้าบิน ทันทีที่เด็กหนุ่มถึงพื้นเขาก็รีบวิ่งต่อแต่ก็ถูกลำแสงจากกระบอกปืนด้านบนโจมตีลงตรงหน้าพอดีทำให้เขากระเด็นออกมา หน้ากากของเขาแตกออกเป็นเสี่ยงๆและถุงมือร่วงหล่นจากมือเขาเด็กหนุ่มขดตัวกอดตัวเองกลมเพื่อปกป้องและป้องกันตนตามสัญชาตญาณ

    ...?

     จู่ๆทุกอย่างก็เงียบสงบลง เฟลิเซียค่อยๆตั้งตัวขึ้นมาและเงยหน้ามองไปยังท้องฟ้า ปากกระบอกปืนบนยานรบยิงโจมตีอะไรบางอย่างที่กำลังมุ่งมาทางนี้

     ตู้ม!

    แม่มาแล้ว!”ร็อคเก็ตร้องขึ้นด้วยสีหน้าที่ดีใจ

    คุณ...แครอล!”

     คลื่นแสงสีทองพวยพุ่งมาอย่างรวดเร็วและตัดผ่านทะลุยานรบยักษ์ปรากฏเป็นร่างของหญิงสาวเกศาทองในชุดเครื่องแบบแดงน้ำเงิน ยานรบค่อยๆร่วงหล่นลงสู่พื้นน้ำทันทีเพราะถูกทำลายภายในจนเสียหายและไม่สามารถควบคุมได้

    หวัดดีผม...ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์

    ไงปีเตอร์ ปาร์คเกอร์...มีอะไรจะให้ฉันไหม?

     เธอทักทายเขาทันทีเมื่อลงถึงพื้นสไปเดอร์แมนหนุ่มกำลังนอนกอดถุงมืออยู่จากตอนแรกที่นอนกอดตัวเอง จมูกเขามีเลือดออกเล็กน้อยและค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆพลางส่งถุงมือให้กับเธอ

    คุณจะฝ่ากองทัพมันไหวหรอ?

     เขาถามอย่างหวั่นใจเมื่อมองไปยังภาพตรงหน้าเหล่าไพร่พลชุดใหม่กำลังพากันวิ่งออกมาและพร้อมที่จะต่อสู้กับพวกเขา เฟลิเซียกับวันด้าใช้พลังลอยตัวและส่งตัวเองมาสมทบจุดที่แครอลกับปีเตอร์อยู่ทันที


    อย่าห่วงเลยวันด้ามองเขา

    กองหนุนมาแล้วโอโคเย่

    สบายใจได้...พีทเฟลิเซียมองเขา

     หญิงแกร่งทุกคนได้มารวมตัวกันอยู่ตรงนี้แล้ว ศัตรูตรงหน้าเองก็พากันวิ่งเข้ามาปะทะเฟลิเซียกึ่งวิ่งกึ่งเดินและดึงพลังของตนออกมา เธอกับวันด้าลอยขึ้นเหนือพื้นคลื่นพลังสีแดงกับขาวดำล้อมร่างของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่กำลังแหวกว่ายอยู่บนอากาศเอาไว้ พลางจับพวกมันเหวี่ยงมาชนกันอย่างเต็มแรง ก่อนที่จะแยกกันออกไปคนละทิศทางเพื่อกำจัดไพร่พลที่เหลือ

     

    ------------------------------------------------------------

    ไรท์มาอัพแล้วค่ะเย้!

    พอเป็นภาคเผด็จศึกแล้วบรรยายพาร์ทต่อสู้อาจจะดูเมาๆหน่อยนะคะ

    *ไหว้ย่อ*

    ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

    วันนี้เอารูปที่ไรท์วาดมาฝากด้วยค่ะ

    เป็นเฟซี่กับปีเตอร์นั่นเอง > <

    ไรท์วาดเองค่ะ (ฮา) อาจจะวาดพีทไม่ค่อยเท่เท่าไหร่

     

     

     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×