คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Chapter19 : Return to the earth
Chapter19
23วันหลังจากนั้น
Upstate New York, New Avengers Facility
บรรยากาศมหานครนิวยอร์กและแมนแฮตตันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลังจากการดีดนิ้วของทานอสมันส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนเกือบครึ่งจักรวาล เมืองที่เคยเนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย ในตอนนี้กลับสงบและเงียบเหงาหลายครอบครัวต้องสูญเสียคนที่ตนเองรักไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว หลายๆเมืองก็เงียบสงบราวกับเป็นเมืองร้างไร้ผู้คน เหลือไว้เพียงแค่ร่องรอยว่าเมืองนี้หรือที่แห่งนี้เคยมีชีวิตและสีสันมากแค่ไหน ท้องทะเลที่ไม่เคยสงบเพราะมีการล่องเรือยนต์อยู่ตลอดเวลา ในตอนนี้ก็เหลือไว้เพียงแค่คลื่นทะเลที่คอยกระทบฝั่ง รวมไปถึงชายหาดที่แทบจะไม่มีร่องรอยการวิ่งเล่นเหมือนครั้งก่อนๆที่ผ่านมา
“ตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง?”
“ยังไม่ยอมออกจากห้อง เพพเพอร์กำลังจะพาเธอเข้านอน”
“ฉันไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนี้เลยสตีฟ”
“ฉันก็เหมือนกัน...แต่ก็หวังว่าเธอจะกลับมาร่าเริงเร็วๆนี้ ถึงสถานการณ์ตอนนี้มันจะไม่อำนวยก็เถอะ แต่ก็ไม่อยากให้เธอเป็นแบบนี้เหมือนกัน”
นาตาชาสงสารเฟลิเซียจับใจ นับตั้งแต่กลับมาจากวากันด้า เฟลิเซียก็ขังตัวเองอยู่ในห้องตลอดและแทบไม่ออกจากห้องแต่ก็ไม่ได้อดอาหาร โดยปกติจะออกมากินข้าวพร้อมหน้ากับพวกเขา แต่สองสามอาทิตย์มานี้ออกมานับครั้งได้พวกเขาให้ฟราย์เดย์คอยรายงานพวกเขาตลอดหากเธอเป็นอะไรไป
“ฟรายเดย์บอกว่าวัดค่าความรู้สึกติดลบได้สูง บรูซก็เลยจัดยาให้เมื่อเช้านี้แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ เธอชอบสะดุ้งตื่นกลางดึกตลอด”
นิ้วของโรดีส์วาดไปบนจอภาพ จอมอนิเตอร์แสดงให้เห็นภาพเฟลิเซียที่กำลังนอนหนุนตักเพพเพอร์ที่กำลังลูบหัวปลอบเธออย่างเงียบๆ ร่างบางกำลังหลับตาพริ้มใบหน้าที่เคยสดใสในตอนนี้ก็เศร้าหมองเล็กน้อย ขอบตาคล้ำจากการนอนไม่หลับเป็นเวลาหลายวัน ภายในห้องเงียบสงัดมีเพียงแค่แสงไฟจากโคมข้างเตียงเท่านั้นที่ให้ความสว่าง เฟลิเซียค่อยๆลืมตาขึ้นมาและลุกขึ้นนั่ง
“ขอโทษนะคะคุณแม่...”
“ไม่เป็นไร...แม่เข้าใจ โทนี่จะต้องปลอดภัยแม่เชื่ออย่างนั้น”
“หนูก็เชื่ออย่างนั้นค่ะ ป๊าจะต้องปลอดภัย”
เพพเพอร์ค่อยๆจุมพิตที่หน้าผากของเฟลิเซียเบาๆ เธอเข้าใจหัวอกของลูกสาวเธอดีว่ามันรู้สึกแย่ขนาดไหน หัวอกคนเป็นแม่ก็ไม่อยากเห็นลูกสาวตนเป็นแบบนี้ เธอได้แต่ภาวนาว่าสักวันโทนี่จะต้องกลับมา ถ้าหากนี่คือฝันร้ายของเธอและทุกๆคน เธออยากจะตื่นแล้วลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไปเสียให้หมด
“อยากออกไปเดินเล่นคลายเครียดสักหน่อยไหมเฟซี่? แล้วเดี๋ยวแม่จะพาหนูเข้านอน”
เฟลิเซียพยักหน้ารับและหยิบเสื้อคลุมมาคลุมตัว สองแม่ลูกพากันเดินออกจากห้องอย่างช้าๆ แต่ในขณะที่กำลังเดินลงบันไดอยู่นั้นเอง ทั้งสองรับรู้และรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนบางอย่าง ดวงเนตรสองคู่สบกันเล็กน้อยและไม่รอช้า เพพเพอร์และเฟลิเซียรีบวิ่งไปยังสนามหญ้าด้านนอกทันที พร้อมกับสตีฟ นาตาชา โรดีส์และบรูซ ที่วิ่งตามพวกเธอมาแบบติดๆ ยานบินลำยักษ์ค่อยๆลงจอดอย่างช้าๆ เธอเห็นแสงออร่าใต้ท้องยาน หล่อนเป็นผู้ที่ยกยานลำยักษ์นี้มายังที่นี่ ผมของเธอเป็นสีบลอนด์ทองและอยู่ในชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงินแดง เมื่อถึงพื้นออร่าพลังของเธอก็หายไป
ใจเฟลิเซียเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น เมื่อประตูยานถูกเปิดออกมาปรากฏเป็นบุรุษที่เธอภาวนาถึงเขาในทุกๆวัน เนบิวล่าค่อยๆประคองโทนี่ลงมาอย่างช้า สตีฟจึงรีบวิ่งเข้าไปหาเขาและรับช่วงต่อประคองอีกฝ่ายลงมา น้ำตาเอ่อทันทีโดยอัตโนมัติเพพเพอร์วิ่งโผเข้ากอดโทนี่อย่างโล่งอกที่คนที่เธอรักได้กลับคืนสู่บ้านอีกครั้ง
“ขอบคุณพระเจ้า...”เพพเพอร์กอดเขาแน่น
“ไม่เป็นไรเพพ...ไม่เป็นไร...”
“ป๊า!”
“เฟซี่...”
โทนี่หอมแก้มคนรักของตนพร้อมกับปลอบเธอ ทันทีที่คลายอ้อมกอดจากเพพเพอร์ เฟลิเซียจึงเข้าสู่อ้อมกอดของเขาอีกครั้ง โทนี่เอ่ยขอบคุณพระเจ้าในใจที่เพพเพอร์และเฟลิเซียรอด เขาหอมหัวลูกสาวตนเบาๆและลูบหลังปลอบ
“โทรมขึ้นเยอะรึเปล่า?”
เขาถามเฟลิเซียด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง เธอยิ้มบางและพยักหน้ายอมรับกับเขาเล็กน้อย สตีฟและเพพเพอร์ค่อยๆพากันประคองร่างของเขาเข้าไปด้านในกันอย่างเงียบๆเพื่อให้บรูซได้ตรวจร่างกาย หากสังเกตด้วยตาเปล่าจะเห็นได้ว่าเขาผอมลงและโทรมกว่าเป็นไหนๆ หนวดเคราไม่ได้โกนใบหน้าซีดเซียวเล็กน้อย
วีลแชร์ที่มีร่างของโทนี่อยู่ค่อยๆถูกเข็นเข้าไปภายในอาคารอย่างช้าๆ พร้อมกับเสื้อผ้าเขาที่ถูกเปลี่ยน เครื่องปฏิกรณ์อาร์คเรืองแสงเด่นอยู่ที่กลางอกของเขา แขนถูกเจาะเพื่อให้น้ำเกลือและให้เขาได้ทานอาหารอ่อนๆ หลังจากที่ขาดน้ำขาดอาหารมาร่วมเกือบๆสามสัปดาห์ ข่าวร้ายที่ทิ่มแทงใจเฟลิเซียอีกข่าวคือการสูญเสียปีเตอร์ แน่นอนเธอและปีเตอร์สนิทกันด้วยความสัมพันธ์แบบพี่สาวกับน้องชาย ในตอนนี้เกิดความตรึงเครียดภายในห้องส่วนกลาง เฟลิเซียกำลังช่วยเพพเพอร์จัดเตรียมที่นอนให้กับโทนี่อย่างเงียบๆ
“คงจะดีขึ้นมาบ้างแล้วสินะ”
“พอเห็นโทนี่ก็ดูคลายกังวลไปบ้าง...แต่ก็ยังห่วง”
เพพเพอร์ตอบบรูซในขณะที่เฟลิเซียกำลังหันหลังให้ทั้งสอง บรูซค่อยๆหันไปมองเฟลิเซียเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเธอโทรมจริงๆแต่ก็น้อยกว่าโทนี่ อาจจะเพราะฝันร้ายและช็อคกับทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นเร็วเกินที่เธอจะรับมือกับมันได้ จากเหตุการณ์ต่างๆที่เขาพลาดไปและได้มารู้ในภายหลัง เหมือนใจเธอสลายไปแล้วก็ตอนที่ทีมแตก คนสำคัญต้องกระจัดกระจายอยู่ที่ต่างๆและไม่สามารถติดต่อกันได้ชั่วขณะ พอรวมตัวกันอีกครั้งความสุขที่ครอบครัวเกือบพร้อมหน้า ก็ถูกทานอสช่วงชิงไป
“อ๊ะ...ป๊า!”
เมื่อเฟลิเซียเข้าไปในห้องส่วนกลางอีกครั้งก็พบกับโทนี่ที่ล้มฟุบลงไปกับพื้นแล้ว แครอลช่วยประคองขึ้นมาทันทีที่เขาล้ม ร่างของโทนี่ถูกประคองไปที่เตียงที่จัดเตรียมเอาไว้ บรูซจึงให้ยาคลายเครียดแก่เพื่อให้เขาได้พักผ่อนเต็มที่จากความเหนื่อยล้าที่เขาต้องต่อสู้เพื่อให้ตนอยู่รอดในอวกาศ
เนบิวล่าได้บอกพิกัดและที่ที่คาดว่าทานอสน่าจะอยู่ หลังจากที่เขาได้ทำภารกิจของเขาลุล่วงและสำเร็จ พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะไปเผชิญหน้าอีกครั้งโดยที่ครั้งนี้จะมีแครอลไปด้วยกันกับพวกเขาด้วย
และเฟลิเซียเข้ามาได้จังหวะตรงที่...
“งั้นก็ไปจัดการไอ้เว-ร นี่กัน”
“สุภาพหน่อยค่ะสตีฟ”
“…”
ทั้งห้องเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ทั้งหมดทั้งมวลพากันหันมามองเฟลิเซียทันที เธออมยิ้มเล็กน้อยแม้ในตอนนี้มันค่อนข้างจะตรึงเครียดอยู่ก็ตาม เป็นครั้งแรกที่เธอพึ่งเคยได้ยินสตีฟพูดคำหยาบออกมาแบบนี้ เมื่อสมองของสตีฟเริ่มประมวลผลเขาก็รู้และเข้าใจในทันทีว่าตนพึ่งเอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกไป เขาอมยิ้มเล็กน้อยไม่ใช่เพราะเขาพูดคำหยาบ แต่เป็นเฟลิเซียที่ทักขึ้นด้วยรอยยิ้มแรก หลังจากผ่านมาแล้วร่วมสามสัปดาห์ เหมือนความสดใสและความอบอุ่นที่พวกเขามักจะได้รับอยู่เสมอมันจางหายไป
“เอาล่ะ...ไปเตรียมตัวกันเถอะ”
นาตาชาเป็นคนตัดบททุกคนจึงแยกย้าย แต่ก่อนที่เธอจะตามพวกเขาออกไปนาตาชาเดินเข้ามากอดเฟลิเซียเบาๆอย่างนุ่มนวล ร่างบางตอบรับอ้อมกอดนั้นทันทีและยิ้มเล็กน้อย
“ตอนนี้โทนี่คงต้องการกำลังใจเป็นอย่างมาก แล้วก็เป็นช่วงเวลาแห่งครอบครัว...รออยู่ที่นี่นะ”
“แล้วเจอกันค่ะแนท”
“แล้วเจอกันเฟซี่”
หน้าผากของแม่ม่ายดำสัมผัสกับนักเวททมิฬเบาๆ ก่อนที่เธอจะแยกไปเพื่อเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับทานอสอีกครั้ง แม้ว่าความหวังจะริบหรี่และน้อยนิดก็ตามที ดวงเนตรสีน้ำตาลเข้มค่อยๆมองแผ่นหลังของนาตาชาและคนอื่นๆที่ค่อยๆเดินจากไปอย่างช้าๆ
“เอ๊ะ...”
“อย่าห่วงไปเลยเฟซี่...ครั้งนี้ไม่พลาดแน่”
ธอร์เดินมาใกล้ๆเธอและวางมือลงบนหัวพลางขยี้ศีรษะเธอเบาๆอย่างนึกเอ็นดู ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดมาตลอดนับตั้งแต่สงครามที่วากันด้าสิ้นสุด เฟลิเซียจับมือเขาเบาๆและยิ้มให้เล็กน้อยพลางพยักหน้ารับ
“เสียใจด้วยนะคะธอร์...เรื่อง...โลกิ”
“ขอบใจนะเฟย์ ถ้าโลกิยังอยู่แล้วได้เห็นเจ้าฝีมือเก่งฉกาจขึ้นมากขนาดนี้คงทึ่งจนไม่อยากจะเชื่อแน่ๆ”
มีความเศร้าปรากฏขึ้นในแววตาของธอร์ เขาค่อยๆเดินจากเธอไปพร้อมกับขวานสตอร์มเบรกเกอร์ ตัวเฟลิเซียเคยพบกับโลกิก็เมื่อนานมาแล้ว ในเหตุการณ์ที่เขานำกองทัพจากต่างดาวอย่างพวกชิทอรี่มาบุกนิวยอร์ก นั่นคือครั้งแรกที่เธอได้พบกับเขาและธอร์ จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เกิดความเสียหายและความวุ่นวายไปทั่วทุกพื้นที่ พร้อมกับเป็นการเปิดตัวทีมอเวนเจอร์สอย่างเป็นทางการ พอนึกถึงแล้วก็เกิดความเศร้าหมองขึ้นมาในจิตใจแต่ก็คงไม่เท่าธอร์ที่รักน้องชายตนมากกว่าผู้ใดในแอสการ์ด
“แล้วจะรีบกลับมา”
แครอลหันมาพูดกับเฟลิเซีย ร่างบางพยักหน้าให้กับเธอเล็กน้อย ก่อนที่จะโบกมือให้กับคนอื่นๆที่กำลังขึ้นยาน รวมไปถึงเนบิวล่ากับร็อคเก็ตด้วยเช่นกัน ทันทีที่ยานทะยานหายไปแสงรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่ก็มาเยือนอีกครั้ง ในตอนนี้สิ่งที่เธอพอจะทำได้ก็คือดูแลโทนี่กับเพพเพอร์อยู่ทางนี้
วู่ม!
แล้วก็มีสิ่งที่จะต้องไขความข้องใจและความสงสัยในความลับที่มันซ่อนอยู่ในมณีสีขาวบริสุทธิ์ที่เธอกำลังครอบครองอยู่ด้วยเช่นกัน มันเรืองแสงอีกครั้งและค่อยๆดับวูบลง จากสิ่งที่เธอเห็นชั่วขณะในตอนนั้นมันดันกลายเป็นความจริง บางทีมณีอาจจะกำลังพยายามบอกอะไรบางอย่างกับเธอ หลักฐานคือรอยแผลของโทนี่ที่เธอเห็น แต่มันไม่ได้บอกหรือแสดงให้เธอเห็นทุกอย่าง บางครั้งมันก็มาในรูปแบบของฝันร้ายที่เธอกลัวเหลือเกิน โดยเฉพาะในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
เธอค่อยๆแตะก่อนที่จะกำมันเอาไว้อย่างแนบแน่น สองขาค่อยๆย่างก้าวถอยหลังและกลับเข้าไปในตัวอาคารทันที จัดการล้างหน้าและแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่คอยดูแลโทนี่อยู่กับเพพเพอร์จนกว่าอาการเขาจะทรงตัวและดีขึ้นมากกว่านี้
ตอนนี้เธอจะมามัวนั่งร้องไห้อยู่ไม่ได้แล้ว!
5เดือนหลังจากนั้น
Fairburn, Georgia
บ้านริมทะเลสาบ
“เพพ! ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องน่ะ เดี๋ยวจัดการเอง!”
“ฉันแค่ท้องนะโทนี่”
“คุณแม่นั่งอยู่เฉยๆนี่แหละค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการเอง”
“เฟซี่ก็เป็นไปด้วยอีกคน”
“ทำดีมากเฟซี่”
สองพ่อลูกแท็กมือกันเล็กน้อย เฟลิเซียจัดการยกของมาจากมือของผู้เป็นแม่และจัดการวางมันลงบนโต๊ะที่อยู่ไกลจากจุดที่เพพเพอร์อยู่ หลังจากที่พักรักษาตัวจนหายดีทันทีที่เขากลับมาแข็งแรงเป็นปกติ โทนี่ย้ายออกจากตึกอเวนเจอร์ส พร้อมกับบ้านหลังใหม่และซื้อฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด บ้านหลังนี้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและรายล้อมไปด้วยป่าไม้ มันค่อนข้างสงบและร่มรื่นทำเลค่อนข้างดี ภายนอกบ้านก็เป็นไม้เกือบจะทั้งหมด ดีไซน์ค่อนข้างสวยและกลมกลืนท่ามกลางธรรมชาติ
“เชื่อเขาเลย...ทั้งพ่อทั้งลูก”
หญิงสาวผมบลอนด์ทองอยากจะมองบนรอบที่ล้านของวัน เธอค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาเบาๆโดยที่มือก็จับท้องของตนด้วย เพพเพอร์กำลังตั้งครรภ์อายุครรภ์ในตอนนี้คือห้าเดือนโดยประมาณ นับว่าเป็นข่าวดีมากๆสำหรับโทนี่และเฟลิเซีย ในที่สุดสิ่งที่เขาฝันเมื่อตอนก่อนที่ทานอสจะมาก็กลายเป็นจริง เฟลิเซียดีใจยิ่งกว่าถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่หนึ่ง หลังจากที่รู้เพศทารกในครรภ์แน่ชัดก็ยิ่งทำให้เธอมีความสุขและรู้สึกยินดี แต่พอนึกถึงปีเตอร์ขึ้นมาก็ทำให้รู้สึกเศร้าเล็กน้อย คิดว่าปีเตอร์ก็น่าจะดีใจไม่ต่างกัน
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้ลืมครอบครัวสำคัญของเธออีกครอบครัวอย่างอเวนเจอร์ส เฟลิเซียยังคงติดต่อและไปมาหาสู่อยู่บ้าง โทนี่ไม่ได้ตัดขาดการติดต่อจากทางฝั่งสตีฟเสียทีเดียวแต่เขาก็ต้องการใช้เวลากับครอบครัวของเขาในตอนนี้ ไม่ต้องการสิ่งใดไปมากกว่านี้แล้ว แค่ครอบครัวพร้อมหน้าเท่านี้ก็พียงพอแล้ว
“มื้อค่ำจะหม่ำอะไรดี? ชีสเบอร์เกอร์ไหม?”
เขาค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเพพเพอร์และถูกเธอตีแขนไปหนึ่งที มือของเขาค่อยๆลูบท้องของเธออย่างอ่อนโยนเผื่อเจ้าตัวเล็กในครรภ์จะดิ้นทักทายเขาบ้าง แต่ก็ดูเหมือนจะไร้วี่แววโทนี่เซ็งนิดหน่อยแต่ก็ค่อยๆก้มจูบท้องของเพพเพอร์เบาๆ
เฟลิเซียมองภาพตรงหน้าแล้วก็อมยิ้มเล็กน้อย มันอบอุ่นจนเธอไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ เฟลิเซียค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเพพเพอร์ มือบางค่อยๆแตะและสัมผัสกับท้องของเพพเพอร์เบาๆ วินาทีนั้นเองที่เธอสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่ส่งมาจากภายใน ทารกตัวน้อยดิ้นราวกับกำลังตอบรับสัมผัสและทักทายหญิงสาวที่กำลังจะกลายเป็นพี่สาวคนโต ดวงเนตรเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น ใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มหวานละมุน
“ดูเหมือนจะชอบให้เฟซี่จับมากกว่าคุณนะโทนี่”
“เอ๊ะ...ขี้โกงนี่ เสกให้น้องดิ้นใช่ไหมเฟซี่?”
“เปล่านะคะป๊า หนูเปล่า”
“ต้องเสกให้น้องดิ้นแน่ๆ ยอมรับมาซะดีๆ”โทนี่พูดอย่างติดตลก
“แค่นี้ก็รู้แล้วว่าโตขึ้นจะติดใคร”เพพเพอร์ยิ้ม
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากอยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ มีบ้านให้กลับมีคนให้คิดถึงและมีคนรอคอยอยู่ที่บ้าน จากเด็กที่ไม่เคยรู้จักสิ่งที่เรียกว่าครอบครัว ไม่เคยได้รับความรักอย่างแท้จริง จนกระทั่งได้รับความรักจากโทนี่และเพพเพอร์ ได้รู้จักครอบครัวใหญ่ที่เรียกว่าอเวนเจอร์ส เธอได้รับความรักและได้สัมผัสสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวจากพวกเขา ไม่ใช่แค่จากโทนี่หรือเพพเพอร์แต่เป็นสมาชิกอเวนเจอร์สทุกๆคน ในตอนนี้เธอไม่อยากที่จะสูญเสียใครไปอีกแล้ว แต่ลึกๆก็ยังคงเฝ้าหวังว่ามีวิธีที่นำพาวันด้า ปีเตอร์และคนอื่นๆกลับมาได้
ในตอนนี้ขออยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆก็เพียงพอแล้ว...
“เอาล่ะ...มาเตรียมมื้อค่ำกันเถอะ”
“เดี๋ยวหนูช่วยค่ะ”
“เอ่อ...ถ้างั้นฉันก็----”
“คุณรออยู่ตรงนี้เถอะโทนี่”
“แต่---”
“ไม่มีแต่ค่ะป๊า”
“ก็ได้”
คราวนี้เฟลิเซียแท็กทีมกับเพพเพอร์ ทำให้โทนี่ยกธงขาวยอมแพ้แต่โดยดีและยอมนั่งลงอย่างเงียบๆ เฟลิเซียจึงเดินเข้าครัวไปพร้อมๆกันกับเพพเพอร์เพื่อทำอาหารมื้อค่ำ
--------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้ก็อาจจะละมุนๆผสมหน่วงๆเศร้าๆนิดหนึ่งค่ะ
ความคิดเห็น