ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic avengers x OC] She is our 'Family' [END]

    ลำดับตอนที่ #20 : Chapter18 : Lose

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 755
      78
      26 ธ.ค. 64

    Chapter 18


     

    เขาได้ตายเดี่ยว...เจ้าก็ด้วยหล่อนแสยะยิ้ม

    แต่เธอไม่ได้มาเดี่ยว

    ยังมีพวกเราอีกทั้งคน

     เคร้ง!

     สิ้นคำพูดของเฟลิเซียการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นในทันที เจ้าของเกศาน้ำเงินเข้มพุ่งเข้าโจมตีใส่นาตาชาทันที เฟลิเซียเดินเข้าไปประคองให้วันด้าลุกขึ้นตั้งหลัก และรีบเข้าไปช่วยนาตาชากับโอโคเย่พลางก้มหัวหลบล้อยักษ์ที่ยังเหลืออยู่และวิ่งผ่านไปมา กระบองเหล็กไฟฟ้าของนาตาชาฟาดและตั้งการ์ดรับดาบของอีกฝ่าย เฟลิเซียตรึงแขนและขาหล่อนเอาไว้ด้วยเถาไม้เลื้อย แต่ด้วยพละกำลังที่มากกว่าอีกฝ่ายจึงสลัดหลุดออกมาได้ง่ายๆและจัดการจับเฟลิเซียเหวี่ยงไปอีกทางเลยทันที พร้อมกับโอโคเย่ที่ถูกเธอเหวี่ยงจนล้มด้วยเช่นกัน

     นาตาชาที่ตั้งหลักได้ก่อนวิ่งเข้ามาและงัดดาบอีกฝ่ายจนหลุดมือ คนที่สูงกว่าพยายามตะบันเข้าที่หน้าแต่เพราะมีกระบองเหล็กไฟฟ้าจึงตั้งการ์ดรับเอาไว้ได้ แต่เธอล้มหงายหลังลงไปในที่สุด เอเลี่ยนสาวดึงดาบเรียวแหลมออกมาจากอุปกรณ์ที่มือซ้ายหมายที่จะจ้วงแทงนาตาชา

     กึ่ก!

    “!?”

     เฟลิเซียลุกขึ้นและนั่งคุกเข่าข้างหนึ่ง ใช้พลังเวทมนตร์สีขาวดำหยุดการกระทำของหล่อนเอาไว้ได้ทัน และถูกแทนที่ด้วยพลังเวทมนตร์สีแดงของวันด้า ร่างหล่นถูกจับเหวี่ยงไปเป็นจังหวะเดียวกันกับที่กงล้อเหล็กวิ่งกลับเข้ามา ใบเลื่อยนั้นตัดร่างของอีกฝ่ายจนแหลกละเอียดทันที เลือดสีน้ำเงินกระเซ็นใส่ใบหน้าของนาตาชาและเสื้อ เฟลิเซียก็โดนบ้างเล็กน้อย

    เห็นแล้วจะอ้วกนาตาชาปาดเลือดสีน้ำเงินออกจากใบหน้าของตนเอง

    ตอนนี้เรารีบไปหาวิชั่นก่อนเถอะค่ะ

    จริงด้วย!”

     วันด้า นาตาชาและโอโคเย่ รีบวิ่งไปยังป่าอันเป็นจุดหมายที่วิชั่นอยู่ในทันทีอย่างเร่งรีบ

     วู่ม!

    “!?”

     เฟลิเซียลุกขึ้นยืนกำลังจะตามพวกเขาไปแต่ก็เป็นอันต้องชะงัก อัญมณีที่สร้อยคอของเธอเรืองแสงอีกครั้ง แผ่นหลังรู้สึกร้อนราวกับกำลังอังอยู่ที่หน้าเตาอบหรือเตาหลอมเหล็ก มือเธอกุมที่สร้อยคอของเธอทันที มีภาพบางอย่างไหลเข้ามาในโสตประสาทดวงเนตรเบิกกว้าง 


     ฉึก!

    ไม่...ไม่...ไม่

     ภาพที่ปรากฏขึ้นในโสตความคิด มันฉายเป็นภาพของพ่อเธอกับชายผิวสีม่วงร่างยักษ์ สภาพของโทนี่ไม่คอยจะสู้ดีนัก ใบหน้ามอมแมมเปรอะเปื้อนด้วยคราบฝุ่นเล็กน้อย และมีแผลถลอกพร้อมกับเลือดที่บริเวณใบหน้า ชุดเกราะของเขาแตกหักจนแทบจะไม่เหลือชิ้นดี อาวุธของเขาถูกชายคนนั้นหักทิ้งก่อนที่จะแทงเข้าที่ท้อง เลือดค่อยๆไหลออกจากปากเขา

    ป๊า...!’

     น้ำตาค่อยๆเอ่อล้มและอาบแก้มของเธอพร้อมกับภาพที่ค่อยๆจางหายออกไปจากโสตความคิด ดวงเนตรที่เรืองแสงในตอนแรกก็ค่อยๆกลับมาเป็นปกติ แสงของมณีค่อยๆดับวูบลง ความรู้สึกร้อนที่หลังจางลงแทนที่ด้วยความรู้สึกเย็นยะเยือก

    ป๊าจะต้องไม่เป็นอะไร...เขาจะต้องไม่เป็นไร


     เฟลิเซียภาวนาขอให้มันไม่ใช่เรื่องจริง ขอให้มันเป็นเพียงแค่ภาพหลอนที่จิตเธอสร้างมันขึ้นมาเอง เธอรีบปาดน้ำตาและรีบวิ่งไปรวมพลในทันที มือเธอสั่นและรู้สึกตัวสั่นเล็กน้อย ทั้งวิตกกังวลทั้งประหม่า แต่ยังไงตอนนี้เธอก็ต้องสะกดและอดกลั้นความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ก่อน

     ตู้ม!

     ธอร์ที่อยู่ด้านนอกของโดมบาเรียกำลังทำลายฐานที่เอาไว้ปล่อยให้พวกเอาท์ไรเดอร์ออกมา เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วทั้งวากันด้า เฟลิเซียวิ่งมายังป่าอันเป็นเป้าหมายทันที เธอตามมาสมทบพร้อมกับคนอื่นๆที่มารวมพลอยู่กันก่อนแล้ว อีกฝั่งเป็นวันด้าที่นั่งอยู่ข้างๆวิชั่น ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติแต่ก็ไม่น่าไว้วางใจ สายลมพัดมาเอื่อยๆ ทำให้ใบไม้ไหวและเริ่มร่วงหล่น ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบลงอย่างน่าใจหาย ความรู้สึกเย็นยะเยือกเข้าสัมผัสชวนให้รู้สึกหนาวแปลกๆชอบกล

     มันน่าอึดอัด...

     ร่างบางรู้สึกหนาวและอึดอัดกับบรรยากาศอึมครึมเช่นนี้ ความวิตกเริ่มพุ่งขึ้นสูงจากตอนแรกที่พยายามสะกดเอาไว้ เธอกำมือแน่นพร้อมกับมองไปรอบๆ รวมถึงคนอื่นๆก็เช่นกัน

    ยังไงเนี่ย...นาตาชาพึมพำและครุ่นคิด

     ครืน...

    “!?”

     เสียงคล้ายลมพายุดังขึ้นจากที่ด้านหลังของพวกเขา มีกลุ่มควันคล้ายเมฆครึ้มปรากฏขึ้นพร้อมกับลมกรรโชกแรง ปรากฏเป็นชายร่างยักษ์ผิวสีม่วง เขามาพร้อมกับถุงมือสีทองที่โดดเด่นด้วยมณีห้าเม็ดและห้าสีที่อยู่บนถุงมือ เขาคนนี้คือชายที่ปรากฏขึ้นในภาพความคิดเมื่อครู่นี้ เธอพอจะเดาได้ว่าเขาคือใคร เฟลิเซียยกมือขึ้นและเตรียมรับมือตามสัญชาตญาณ พลังเวทมนตร์สีขาวปรากฏขึ้นที่มือซ้ายและสีดำที่มือขวา สีหน้าของเธอเรียบนิ่งพร้อมตั้งรับและโจมตีทุกเมื่อ

    หมอนี่แหละ

     ทันทีที่บรูซยืนยันก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างมันชัดเจน สตีฟถือโล่ไวเบรเนี่ยมสีดำขึ้นมาทันทีและรีบวิ่งเข้าหาอีกฝ่าย บรูซเป็นคนแรกที่วิ่งไปแต่ยังไม่ทันที่จะได้โจมตีหรือทำสิ่งใด ร่างจักรกลของเขาลอยหวือทะลุผ่านตัวทานอสไป จากพลังของมณีนี้เองทำให้บรูซลอยเข้าไปติดกับก้อนหินยักษ์ด้านหลัง และฝังตัวอีกฝ่ายเอาไว้ในก้อนหินทันที สตีฟถูกโยนไปอีกทาง ทีชาล่าถูกเหวี่ยงพื้น และแซมก็ถูกเขาซัดไปอีกทาง พร้อมกับโรดีส์ที่ถูกเขาบีบด้วยพลังมณีและถูกเหวี่ยงออกไป นาตาชาถูกตรึงเอาไว้กับพื้น โอโคเย่ก็ถูกเหวี่ยงพร้อมกับหอก

     ด้านหลังของเธอวิชั่นกำลังขอร้องให้วันด้าทำลายมณีไปพร้อมกับตน บทสนทนาเล็กๆแต่กลับเคล้าไปด้วยความเจ็บปวดและความเศร้า เฟลิเซียเข้าใจหัวอกของวันด้า ความกลัวและความวิตกของเธอก็ยิ่งเพิ่มพูน อะดีนารีนเริ่มสูบฉีด

     มันจะต้องไม่ใช่แบบที่เธอคิด...

     มันจะต้องลงเอยด้วยดี...

     ในตอนนี้ครอบครัวเกือบจะพร้อมหน้ากันอีกครั้งแล้ว เธอไม่อยากที่จะสูญเสียใครคนใดคนหนึ่งไป ในเมื่อทุกคนก็กำลังจะกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งแล้ว

     ร่างบางวาดมือไปบนอากาศ ด้วยความรู้สึกกลัวที่กำลังพรั่งพรูและเอ่อล้นออกมาเป็นน้ำตาที่กำลังไหลอาบแก้ม พลังงานขาวดำค่อยๆหลอมรวมกันและซัดใส่บุรุษร่างยักษ์ทันทีในจังหวะที่เขาไม่ได้ตั้งตัวทำให้เขาเซเล็กน้อย  สตีฟจึงรีบเข้าหาเขาทันทีในจังหวะนั้นต่อยเข้าที่ตัวเขาและเสยคางทานอส ทั้งหมดนี้เป็นการยื้อและถ่วงเวลาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้วันด้าทำลายมณี

     วันด้าต้องทำลายมณีทั้งน้ำตา...

    มันจะต้อง...ไม่จบลงแบบนี้...

     เฟลิเซียคิดและน้ำตาก็ยังไม่หยุดไหลรินออกมาเธอกัดปากตัวเองแน่น เท้ากระทืบลงที่พื้นรากไม้ยักษ์พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน เธอพยายามจับและพันธนาการร่างของทานอสเอาไว้แต่ด้วยพลังจากมณี เขาเปลี่ยนให้รากไม้เหล่านั้นกลายเป็นฝูงผีเสื้อและบินหายไป เธอพยายามล็อคและหยุดเขาเอาไว้ ตรึงด้วยเถาวัลย์อีกครั้งเพื่อช่วยสตีฟที่พยายามจะถอดถุงมือจากออกจากเขา

     ผัวะ!

    สตีฟ!!!!”

     เขาใช้พลังจากมณีสลัดตัวเองให้หลุดจากเถาวัลย์นี้ ก่อนที่จะตะบันเข้าที่หน้าสตีฟอย่างแรงจนล้มฟุบไปกับพื้น เฟลิเซียตะโกนทั้งน้ำตา ดวงเนตรเรืองแสงอีกครั้งคลื่นพลังรายล้อมไปทั้งกายของเธอ พลังซัดเหวี่ยงใส่ทานอสทันทีพลังเวทมนตร์ที่พุ่งออกจากตัวเธออย่างรุนแรงและพยายามสะกัดเขาเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

    “…”

     ทานอสนับถือในความพยายามของคนตรงหน้าเขาจริงๆ เธอมีพลังเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากจากการเห็นครั้งแรกเมื่อตอนที่เขาเปิดมิติเข้ามายังที่นี่ เพื่อมณีเม็ดสุดท้ายเขายกถุงมือขึ้นและพลังจากมณีพยายามต้านพลังของเธอเอาไว้ เขาเห็นความกลัวในดวงเนตรที่กำลังหลั่งน้ำตา มันทำให้เขานึกถึงกาโมร่าลูกสาวของเขา รากไม้ปรากฏขึ้นที่พื้นที่ครั้งมันรัดตัวของทานอสเอาไว้และพยายามที่จะดึงร่างของเขาให้ลงไปในหลุมนั้น

     กึ่ก!

    เปล่าประโยชน์

    “!?”

     เขาใช้มณีเปลี่ยนรากไม้เหล่านี้ให้กลายเป็นผีเสื้ออีกครั้ง อาศัยจังหวะที่เธอกำลังตกใจใช้มณีอีกเม็ดผลักร่างเธอออกไปให้พ้นทาง ร่างของเฟลิเซียลอยหวือเหนือกลางอากาศและร่วงหล่นใส่ตอไม้ตอนหนึ่งทำให้หัวเธอกระแทก เขาตรึงเธอเหมือนที่กับเขาตรึงร่างของนาตาชาเอาไว้เป็นการป้องกันไม่ให้เธอลุกขึ้นมาตอบโต้เขาได้อีก

     วู่ม!

     ในที่สุดวันด้าก็ทำได้สำเร็จ มณีของวิชั่นแตกออกเป็นเสี่ยงๆพร้อมกับคลื่นพลังงานสีทองที่มันระเบิดออกมาและกระจายไปทั่วทุกบริเวณ น้ำตาของเฟลิเซียยังคงไหลออกมาไม่ขาดสาย การที่วันด้าทำสำเร็จนั่นก็หมายความว่าเขาได้สูญเสียคนที่เขารักไปแล้ว

     เหมือนทุกอย่างจะจบ...

     แต่ก็ไม่

    ไม่!!!”

     เขาใช้มณีเวลาย้อนเพื่อย้อนร่างของวิชั่นก่อนที่จะถูกทำลายกลับมา มือแกร่งดึงมณีออกจากหน้าผากของเขาอย่างไม่ปราณี ร่างของวิชั่นถูกทิ้งลงกับพื้นอย่างไร้เยื่อใยร่างของวันด้าถูกโยนกระเด็นไปอีกทาง เขาจัดการวางมณีเม็ดสุดท้ายลงที่ถุงมือทันทีอย่างไม่รอช้า ร่างแกร่งรับรู้และรู้สึกได้ถึงพลังจากมณีทั้งหก ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น ธอร์ขว้างสตอร์มเบรกเกอร์มายังทานอส ขวานสายฟ้าปักลงที่กลางอกของเขาพอดี ทานอสคุกเข่าลงข้างหนึ่งและสบตากับบุตรแห่งโอดินที่แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

    บอกแล้วไง...ว่าแกต้องชดใช้ด้วยชีวิต

    อึ่ก!”

     ธอร์ดันและกดขวานที่ฝังอยู่ที่ตัวของทานอส ร่างยักษ์จึงรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิมและดวงตาเบิกกว้าง เขาอ้าปากค้างด้วยความเจ็บปวดยิ่งออกแรงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บมากขึ้นเท่านั้น ทานอสก้มหน้าเล็กน้อยและพยายามหายใจ

    เจ้า...น่าจะเล็งที่หัวของข้า!”

    ไม่!”

      ในที่สุดสิ่งที่น่ากลัวที่สุดและไม่อยากให้เกิดก็ได้เกิดขึ้น ทานอสดีดนิ้วและด้วยพลังมหาศาลจากมณีแขนซ้ายของเขามีรอยไหม้เกรียมเกิดขึ้นเพราะพลังที่มากเกินไปของมณีทั้งหกเม็ด ถุงมือเขาเกือบไม่เหลือชิ้นดี วินาทีต่อมาทานอสใช้พลังจากมณีพาตนเองหายไปจากที่แห่งนี้

    มันอยู่ไหน...

     สตีฟที่ตั้งหลักได้และเดินออกมาหาธอร์เป็นคนแรก เฟลิเซียที่หลุดจากพันธนาการของทานอสแล้ว เธอรีบตั้งหลักและรีบวิ่งมารวมตัวกับพวกเขาทันที สภาพของเธอในตอนนี้มอมแมมไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่หน้าผากมีเลือดไหลซิบจากการกระแทกลงที่ตอไม้ ทั้งสามมองหาเขาอีกครั้งแต่ก็ไร้วี่แวว

    สตีฟ...


     บัคกี้เดินออกมาพร้อมกับอาวุธคู่ใจ สิ่งที่เป็นฝันร้ายและไม่อยากให้เกิดมันก็ได้เริ่มขึ้น จู่ๆร่างของบัคกี้ก็ค่อยๆสลายและล้มลงกลายเป็นฝุ่นหายไป เฟลิเซียยกมือปิดปากตนน้ำตาที่แห้งเหือดไปก่อนหน้านี้เริ่มเอ่ออีกครั้ง

    ไม่...

    เฟซี่...

    ไม่...ได้โปรด...ไม่ มันต้องไม่ใช่แบบนี้...ฮึก

     เธอหันไปยังทิศทางที่มีคนเรียกชื่อเธอ เฟลิเซียรีบวิ่งไปยังร่างของวันด้าด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอรีบโผกอดร่างของวันด้าแต่มันก็สายไปเสียแล้ว ร่างบางคว้าได้เพียงแค่เศษฝุ่นธุลีเพียงเท่านั้น


    ฮึก...

    เฟซี่!”

     นาตาชาวิ่งออกมาทันที สตีฟทิ้งตัวลงข้างๆเฟลิเซียที่กำลังคุกเข่าร้องไห้และปล่อยโฮ ความเจ็บปวดทิ่มแทงใจพวกเขา ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของเธอ แต่รวมถึงพวกเขาไม่สามารถพิทักษ์ชีวิตผู้คนที่ถูกคร่าหายไปเกือบครึ่งจักรวาลได้ ตัวการก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

    พระเจ้า...สตีฟทรุดตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยล้า

     นาตาชาค่อยๆทิ้งตัวลงอีกฝั่งและดึงเฟลิเซียเข้าสู่อ้อมกอดของตน หญิงสาวที่อายุน้อยกว่าค่อยๆปล่อยโฮและร่ำไห้ออกมาอย่างช้าๆ เธอกอดนาตาชาเอาไว้แน่น ในตอนนี้พวกเขายังไม่รู้แน่ชัดว่าชะตาของโทนี่และปีเตอร์กับคนอื่นๆเป็นเช่นไรบ้าง แต่เฟลิเซียเชื่อว่าพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ในตอนนี้ทั้งความกลัว ความเหนื่อยล้า และความกังวล ทุกสิ่งทุกอย่างมันกำลังถาโถม

     ต้องสูญเสียผู้คนไปครึ่งจักรวาล...

     ต้องสูญเสียสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว และอีกสามชีวิตที่ไม่รู้ชะตากรรมซึ่งอยู่บนดาวไททัน

    ฮึก...ฮือ...

    ชู่...ไม่เป็นไรนะเฟซี่...ไม่เป็นไรนาตาชาปลอบเธออย่างอ่อนโยน

     ใบหน้าที่มักจะเปื้อนรอยยิ้มอยู่เสมอ ถูกฉาบด้วยสายน้ำตาที่กำลังอาบแก้มและหลั่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย พวกเขารู้สึกหดหู่และใจหายอย่างบอกไม่ถูก เท่ากับว่าพวกเขานั้นพ่ายแพ้จากการถูกรุกรานในครั้งนี้

     โรดีส์สงสารคนที่เปรียบเสมือนหลานสาวจับใจ เขามองเธออย่างเวทนา จากเหตุการณ์ที่ทำให้ทีมต้องแตกแยกโดยที่พวกเขาไม่ได้ล่ำลาเธอด้วยตัวเอง จนกระทั่งพวกเขากลับมารวมตัวเป็นครอบครัวกันอีกครั้ง แต่ก็ถูกพรากไปอีกครั้งด้วยเช่นกัน เหมือนกับเธอถูกพรากช่วงเวลาที่ควรจะมีความสุขไป รวมไปถึงคนอื่นๆก็ด้วยเช่นกัน

     ช่างน่าเวทนาเหลือเกิน...

     จะเรียกว่าใจสลายก็เรียกไม่ได้เต็มปากแต่ก็ใกล้เคียง เธอยังคงอยู่ในอ้อมกอดของนาตาชา ในตอนนี้คนสำคัญอีกคนก็คือเพพเพอร์ เธอหวังว่าแม่ของเธอจะไม่เป็นอะไรและก็หวังว่าพ่อเธอจะไม่เป็นอะไรเช่นกัน แต่ความหวังมันก็ช่างริบหรี่เสียเหลือเกิน...

    เฟซี่...เฟซี่...เฮ้ บรูซ! ช่วยมาดูเธอหน่อย

    เฟซี่!?

     สตีฟค่อยๆเข้าไปใกล้ๆเพื่อดูว่าเธอเป็นอะไรพลางค่อยๆอุ้มเธอมาจากนาตาชา บรูซออกจากหุ่นและรีบเข้ามาดูเธอในทันที

    คิดว่าคงช็อคจนสลบไปน่ะ

    พวกเรา...กลับกันเถอะ

     

    ---------------------------------------------------------------------------

    ร้องหงิงเลยค่ะ ;;-;;

     

     

     

     

     

     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×