ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic avengers x OC] She is our 'Family' [END]

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter15 : Infinity begin

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 803
      87
      24 ก.ค. 64

    Chapter15


     

    นั่นแหละ...เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นตอนที่หนูไม่อยู่

     หลังจากที่เฟลิเซียปล่อยโฮร้องไห้มาพักใหญ่ตอนนี้เธอก็สงบลงและเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม แต่ก็ยังคงมีน้ำตาเอ่อและไหลซึมเป็นระยะๆ โทนี่เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับเธอฟังแน่นอนว่าเป็นไปตามที่เขาคาด เธอช็อคและไม่อยากเชื่อว่าสิ่งนี้มันจะเกิดขึ้นจริงๆแต่เธอก็เข้าใจทั้งเขาและอีกฝ่าย ไม่มีใครอยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นแต่สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว เขาให้ฟรายเดย์ฉายภาพการต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่สนามบินในประเทศเยอรมันให้เธอได้เห็น เกิดความเจ็บปวดขึ้นภายในจิตของเฟลิเซียเพราะทุกคนต่างก็เป็นคนที่เธอรักและหันมาต่อสู้กันเองด้วยเหตุปัจจัยหรือเหตุผลบางอย่างของทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดล้วนแต่ทำให้เธอรู้สึกแย่เพราะไม่ว่าจะโทนี่หรือสตีฟ พวกเขาก็เป็นครอบครัวที่เธอรัก

    แล้วเรื่องบรานส์ล่ะ

     เธอนอนหนุนตักโทนี่ในขณะที่เขานั่งหลังพิงกระจกหน้าต่าง โทนี่ลูบหัวปลอบเธอเบาๆ พลางก้มมองเธอที่นอนหนุนตะแคงมองไปยังกรอบรูปตั้งโต๊ะที่มีรูปพวกเขาที่เคยถ่ายเป็นรูปหมู่และทีม ซึ่งเธอนำมันมาอัดใส่กรอบเอาไว้และวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงกับโต๊ะอ่านหนังสือ รวมไปถึงรูปของโทนี่และเพพเพอร์ที่เธอถ่ายเองก็เช่นกันเธอก็นำมาอัดกรอบใส่เก็บเอาไว้

    หืม?

    เรื่องที่เขาฆ่าพ่อแม่ป๊า...หมายถึงป๊าจะให้อภัยเขารึเปล่า?

    เรื่องนั้นมันก็...ไม่รู้สิ มันก็พูดยากมันอาจจะยากเกินกว่าหรืออาจจะเหนือกว่าการให้อภัยไปแล้ว ถึงจะบอกว่าบรานส์ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองถูกไฮดราครอบงำจิตใจมันก็...เขาเงียบไป

     เฟลิเซียค่อยๆลุกขึ้นมานั่งและเขยิบไปนั่งข้างๆโทนี่ หลังเธอพิงกระจกเช่นกันก่อนที่จะค่อยๆหยิบทิชชู่มาซับน้ำตาอีกครั้งและยิ้มให้กับโทนี่ ซึ่งเขาก็เลิกคิ้วเล็กน้อยและรอฟังว่าเธอจะพูดอะไรต่อไป

    ถ้าเป็นหนู...หนู...คง...

     

     

    2 ปีต่อมา

    หลายชั่วโมงก่อนหน้านี้

     จากเหตุการณ์ที่ทำให้เฟลิเซียช็อคและเสียใจ กับการที่สมาชิกที่เป็นทั้งทีมและครอบครัวในเวลาเดียวกันแตกออกเป็นเสี่ยงๆเนื่องด้วยหลายๆปัจจัย แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังเป็นครอบครัวคนสำคัญของเธอ รวมไปถึงเธอเองก็เป็นสมาชิกคนสำคัญของพวกเขาด้วยเช่นกัน จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้เวลาก็ได้ล่วงเลยมาแล้วจนถึงสองปี สองปีที่ไม่มีเสียงหัวเราะจากสตีฟ นาตาชา คลินท์ วันด้า วิชั่นหรือแซม และอาจจะรวมไปถึงบรูซกับธอร์ ที่เจอกันครั้งสุดท้ายก็ราวๆสามปีที่แล้ว นับจากที่วันด้าและวิชั่นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอเวนเจอร์ส

     เฟลิเซียยอมรับว่าแรกๆมันค่อนข้างเหงาจนเกือบจะอ้างว้าง ที่ที่เคยเป็นที่ประจำของแต่ละคนก็ว่างเปล่า แต่เพราะยังมีโทนี่ เพพเพอร์ อาจจะรวมไปถึงปีเตอร์ ทำให้ความรู้สึกเหงามันก็พอทุเลาเบาลงแต่ก็ยังทำให้เธอรู้สึกคิดถึงพวกเขา เธอเฝ้าหวังว่าสักวันจะได้รับการติดต่อจากใครสักคนหรือคงมีสักวันที่จะได้อยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้ง

    เฮ้...คิดอะไรอยู่รึเปล่า ยืนเงียบเชียว

    ก็...นิดหน่อยค่ะ

    ใจคงไม่ได้แอบลอยไปหาหนุ่มๆที่ไหนใช่ไหม?

     เฟลิเซียยิ้มและส่ายหัวให้กับโทนี่ ก่อนที่จะเดินไปอยู่ข้างๆเพพเพอร์ คนเป็นแม่จึงกอดและใช่มือโอบเอวลูกสาวตนเอาไว้พร้อมกับยิ้ม ในตอนนี้เธออายุ22ปีบริบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากเด็กสาวที่รู้จักกันในนามลูกสาวของมหาเศรษฐีเพลย์บอยและสมาชิกของทีมเวนเจอร์ส Black magician ในตอนนี้ก็ได้เติบโตเป็นหญิงสาวสะพรั่งอย่างเต็มตัว ด้วยส่วนสูงที่เพิ่มขึ้น ผมจากที่ยาวอยู่แล้วเธอก็ยังคงปล่อยให้ยาวสยายจากบั้นเอวในตอนนี้ยาวไปจนถึงต้นขา แต่ก็มีการมัดรวบเป็นหางม้าเพื่อความเรียบร้อย แม้ว่าอายุจะบรรลุนิติภาวะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ความหวงของโทนี่ก็ยังคงทวีคูณมากยิ่งขึ้นและไม่มีท่าทีว่าจะลดละ แต่ก็ยังให้อิสระเธอในการออกไปเที่ยวกับปีเตอร์ หรือออกไปเที่ยวเพียงลำพังตามที่เธอต้องการ แต่ก็ยังดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ

      ในตอนนี้ทั้งสามพ่อแม่และลูกกำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะในยูนิฟอร์มชุดเสื้อแขนยาวแบบแจ็คเก็ตกางเกงขายาว ชุดของโทนี่และเพพเพอร์มีคล้ายกัน ส่วนเฟลิเซียอยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีดำมีฮู๊ด สวมทับกางเกงขาวยาวทรงสกินนี่เอวสูง รองเท้าผ้าใบดำตัดขอบขาว

    เดี๋ยวป๊าขอคุยกับแม่กันสองต่อสองแป๊บนะ

    ค่ะป๊า~”

     เธอพยักหน้ารับและปล่อยให้ทั้งสองคนเดินนำเธอไปก่อน เฟลิเซียค่อยๆยกมือขึ้นและค่อยๆสอดมือเข้าไปในคอเสื้อของตน เธอแตะเบาๆที่สร้อยเส้นสีดำที่มีอัญมณีสีขาวบริสุทธิ์เม็ดงามซ่อนอยู่ จากเหตุการณ์ที่ฐานบาโฟเมตถูกโค่นล้มกับพลังที่แท้จริงที่ซ่อนและไหลเวียนอยู่ในตัวเธอได้ตื่นขึ้น ก็ล่วงเลยมาเป็นเวลาสามปีเศษแล้วเช่นกัน เธอรู้สึกเหมือนมันพึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองยังคงเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆคนเดิมแม้ว่าในตอนนี้จะโตขึ้นมากแล้วก็ตามและแน่นอนเธอยังคงคิดสมาชิกคนอื่นๆในทีมเหมือนเดิม

    ...

     แต่ความคิดและความคิดถึงบางอย่างก็ได้ถูกหยุดลง เธอปล่อยมือจากสร้อยที่ซ่อนไว้ในใต้เสื้อและยิ้มเล็กน้อย เธอเดาว่าโทนี่กำลังพูดคุยกับเพพเพอร์เรื่องฝันแปลกๆที่เขาฝันถึง และสงสัยอยากรู้ว่าเพพเพอร์กำลังตั้งครรภ์หรือเปล่า ถ้าหากกำลังตั้งครรภ์ก็หมายความว่าเธอกำลังมีน้องในเร็วๆนี้ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

     วู่ม!

    โทนี่ สตาร์ค

    “!?”

    ผม ดร.สตีเฟ่น สเตรจน์ อยากให้คุณมากับผม       

    “…”เพพเพอร์จับแขนโทนี่ทันทีโดยอัตโนมัติ

    โอ้ว...เอ่อ ยินดีด้วยเรื่องงานแต่งงานของพวกคุณ

     แต่ในจังหวะที่ทั้งสองกำลังจูบกันอยู่นั้นก็เป็นอันต้องแยกออกจากกัน ก็ปรากฏเป็นวงแหวนประตูมิติสีอมส้มคล้ายประกายไฟปรากฏขึ้น เฟลิเซียรีบเดินเข้าไปดูใกล้ๆทันที สิ่งที่เธอเห็นก็คือร่างของชายคนหนึ่งที่เดินออกมาจากมิตินั้นใส่ชุดเสื้อคลุมสีแดง พร้อมกับสวมใส่ชุดเครื่องแบบที่ดูแล้วน่าจะเป็นยูนิฟอร์มเฉพาะตัว สวมใส่สร้อยที่มีรูปร่างลักษณะแปลกตา

    เดี๋ยวก่อนนะ...

     ร่างบางพึมพำและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และนึกออกได้ในทันทีว่าบุคคลตรงหน้าคือคนที่เคยผ่าตัดและช่วยเมื่อตอนที่เธอบาดเจ็บหนัก จากอุบัติเหตุเหล็กซากปรักหักพังแทงเธอจนทะลุ

    คุณหมอสตีเฟ่น สเตรจน์

    ขอบคุณที่ยังจำกันได้เขาตอบกับเธอ ผมก็จำคุณได้...ที่เคยมารักษาเมื่อสองปีก่อน

     เฟลิเซียพยักหน้าและแอบทึ่งในเวลาเดียวกันที่ตัวเขาในตอนนี้กับที่เธอเจอเมื่อสามปีที่แล้วเหมือนเป็นคนล่ะคน

    ผมรู้ว่าคุณกำลังสงสัยว่าทำไมตอนนี้ผมถึงเป็นแบบนี้ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน...แล้วก็เรื่องของคุณผมรู้แล้วสตีเฟ่นพูดกับเฟลิเซียและหันกลับมาสนใจโทนี่ที่กำลังยืนงง

     จากศัลยแพทย์ประสาทที่เก่งและมีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่ง ผันตัวมาเป็นจอมเวทย์หรือพ่อมดอะไรเทือกๆนี้ นั่นคือสิ่งที่เฟลิเซียเข้าใจ การที่เขารู้เรื่องของเธอแล้วมันก็ยิ่งชัดเจนว่าเขารู้เรื่องพลังของเธอและเธอไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบัง

    นี่แต่งชุดมาแจกบัตรฟรีอะไรหรอ?โทนี่ขมวดคิ้ว

    พวกเราต้องให้คุณช่วย...ถ้าจะบอกว่าจักรวาลของเรากำลังมีภัยก็คงไม่เว่อร์เกิน

    ช่วยพวกเรา....

    บรูซ...

      โทนี่ถูกตัดบทจากหญิงสาวผู้เป็นลูก ดวงเนตรคู่งามจดจ้องไปยังผู้มาใหม่อีกหนึ่งคนที่เดินออกมาจากอีกฟากของประตูมิติด้วยเช่นกัน ชายร่างท้วมที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีแต่ก็นานมากแล้วที่ไม่ได้พบกัน เขาเปลี่ยนไปจนเธอเกือบจะจำไม่ได้ ทั้งโทนี่และเพพเพอร์ต่างก็ตะลึงงันไม่ต่างจากเธอ

    ไง...โทนี่

    บรูซ!”

    เพพเพอร์...

    ไง...

    เฟซี่...

    สวัสดีค่ะบรูซ...

     

    -ปัจจุบัน-

     

      โทนี่กับบรูซเข้าไปในมิติตามที่สตีเฟ่นต้องการ ในตอนแรกเฟลิเซียจะขอตามไปด้วยแต่โทนี่ให้การปฏิเสธ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเจอเรื่องที่มันอันตรายมากน้อยแค่ไหน เพื่อความปลอดภัยเขาจึงให้เธอกลับไปกับเพพเพอร์ ในตอนนี้เธอกำลังเดินอยู่ในสวนสาธารณะแต่คนละสถานที่กับเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้ ในตอนนี้เป็นสวนสาธารณะที่มีลานรูปปั้นและลานน้ำพุใกล้ๆใจกลางนิวยอร์ก เนื่องด้วยวันนี้ไม่มีเรียนเธอจึงออกมาเดินเล่นคนเดียวเงียบๆหลังจากที่แยกกับเพพเพอร์แล้ว การแต่งตัวยังคงเดิมเหมือนเมื่อเช้า เพียงแต่เปลี่ยนไปใส่เสื้อยืดแขนยาวสีขาวด้านในและใส่แจ็คเก็ตสีดำพับแขนเสื้อเล็กน้อย สวมใส่รองเท้าผ้าใบบูทสีดำเสริมส้นเล็กน้อย ผมที่ถูกรวบหางม้าไว้ในตอนแรกก็ปล่อยสยาย

     กึ่ก!

     กึ่ก!

     วินาทีที่กำลังเดินอยู่นั้นเอง เธอรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนประหลาดพร้อมกับเสียงบางอย่างที่ล่องลอยเข้ามาในโสตประสาทการรับฟัง เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอก็ได้รับคำตอบในทันที ยานอวกาศทรงประหลาดคล้ายโดนัทยักษ์วงแหวนยักษ์ปรากฏขึ้น พร้อมกับคลื่นแรงลมมหาศาลและเศษวัตถุเล็กๆน้อยที่พุ่งเข้าโจมตีเมือง คลื่นลมแรงพัดพาทุกสิ่งทุกอย่างที่ฐานไม่มั่นคงหลุดกระเด็นออกไป ผู้คนเริ่มแตกตื่นหวาดกลัว การจราจรเริ่มติดขัดและเกิดอุบัติเหตุรถชนกันเอง รวมไปจนถึงรถพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าเพราะไม่สามารถควบคุมหรือต้านแรงคลื่นลมนี้ได้

    ทางนี้ค่ะ! ฟรายเดย์เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยที

    ได้ค่ะ Miss”

     เฟลิเซียวิ่งเข้าไปช่วยอพยพผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงไปที่ที่ปลอดภัยให้ได้มากที่สุด ทั้งในตัวเมืองและบริเวณโดยรอบกำลังโกลาหลไม่ต่างกัน แต่ดูเหมือนในกลางเมืองจะวินาศสันตะโรกว่าบริเวณโดยรอบ

     ตู้ม!

     นั่นคือเสียงที่ดังขึ้นมาจากอีกฟากฝั่ง เธอพอจะเดาได้ในทันทีว่ามีการต่อสู้กันเกิดขึ้น ดูจากยานอวกาศทรงประหลาดนี้แล้ว และอิงตามที่สตีเฟ่นพูดไปก่อนหน้านี้ก็ยิ่งทำให้ชัดเจนว่าคงจะมีสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวมาเยือนและเป็นภัยต่อโลก

    เหวอ!”

     โคร่ม!

     ร่างบางหันไปตามทิศทางต้นเสียง บรูซร่วงหล่นลงมาจากวงแหวนประตูมิติพร้อมกับซากแท็กซี่คันเหลืองที่หักครึ่งท่อนตรงบริเวณลานสนามหญ้า เธอจึงรีบวิ่งไปดูเขาทันทีส่งมือไปดึงให้เขาลุกขึ้นยืน

    โอเค...ไหมคะ?

    ก็คิดว่าโอเค...แต่ฮัลค์ไม่ยอมออกมาเขาปัดฝุ่นและเศษใบไม้เศษหญ้าตามตัวเขาเล็กน้อย

    เผลอแป๊บเดียวโตขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย ตอนนั้นยังไม่สูงขนาดนี้เลยเขาพูดกับเธอ

    อันที่จริง...เราเจอกันล่าสุดก็เมื่อ...

     เพล้ง!

     ตู้ม!

    สามปีที่แล้ว...เอาเป็นว่าไว้ค่อยคุยกันนะคะบรูซ

     เฟลิเซียที่ตั้งหลักได้เป็นคนแรกรีบวิ่งไปยังทิศทางที่มีวัตถุบางอย่างทะลุข้ามตัวตึกมายังจุดที่เธอกับบรูซอยู่ ซึ่งอันที่จริงแล้วคือพ่อของเธอถูกอาวุธบางอย่างที่คล้ายๆค้อนติดโซ่รัดตัวเอาไว้และเหวี่ยงมาจนถึงฝั่งนี้จนพื้นดินเป็นรอยลาก และต้นไม้ก็รับแรงกระแทกอย่างจังจนเกิดเป็นรอย

    โทนี่!”

    ป๊า!”

    เฮ้ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเนี่ยเขาถามเฟลิเซียและค่อยๆลุกขึ้นพร้อมกับบรูซที่วิ่งมาสมทบ

    เป็นอะไรไหม? หมู่หรือจ่า!?”บรูซถาม

    ยังไปได้สวย...สวยอยู่ แถวนี้มันอันตรายเขาบอกเป็นกลายๆว่าให้เฟลิเซียออกไปจากตรงนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง

    แล้วนายล่ะจะช่วยไหม?

    พยายามเรียกแล้ว แต่มันไม่ออกมา

    หลบค้อน!”

     วู่ม!

     บุรุษเหล็กพุ่งตัวผลักให้บรูซหลบให้พ้นทาง เฟลิเซียอ้าแขนและกางมือออกพอประมาณพลังงานสีดำและมีประกายแสงสีขาวปรากฏขึ้นที่มือขวา เธอซัดเหวี่ยงคลื่นพลังงานนั้นใส่เอเลี่ยนร่างยักษ์จนกระเด็นและเซหงายหลังไป พลังงานสีขาวแต่ก็มีคลื่นพลังสีดำปนปรากฏขึ้นที่มือซ้าย สองมือประกอบและประสานคลื่นพลังเวทหลอมรวมกัน จากนั้นเฟลิเซียก็อ้าแขนกางมือซัดเหวี่ยงคลื่นพลังขนาดย่อมนั้นออกไป แม้จะดูเบาบางแต่ก็แฝงไปด้วยความรุนแรงจนอีกฝ่ายกระเด็นออกไปอีกครั้ง พอเอเลี่ยนร่างยักษ์ลุกขึ้นมาตั้งหลักได้ก็จัดการเหวี่ยงค้อนมายังเธอทันที โทนี่จึงรีบเข้ามารับช่วงต่อเบี่ยงเบนค้อนนั้นไปอีกทาง จัดการยิงคลื่นลำแสงใส่อีกฝ่าย

    ไม่อยู่แค่แป๊บเดียว...เดี๋ยวนี้ทำแบบนี้ได้แล้วหรอบรูซมองเฟลิเซียอย่างทึ่งๆ

    ต้องอัพเดตกันอีกเยอะเลยค่ะ

     วู่ม!

     คลื่นลำแสงที่ปล่อยออกจากชุดของโทนี่ ถูกเกราะของอีกฝ่ายสะท้อนได้ทำให้แสงคลื่นกระจายออกไปรอบๆจนตัดผ่านต้นไม้หักโค่นล้ม เฟลิเซียยกมือขึ้นเหนือหัวสร้างพลังงานบาเรียบางๆขึ้นมาเพื่อป้องกันคลื่นนั้นซัดใส่ตัวเองและป้องกันตัวเองจากต้นไม้ที่กำลังโค่นล้มใส่ รวมไปถึงกันไม่ให้บรูซโดนลูกหลงด้วย

    ไม่!”

     นั่นคือเสียงคำรามจากฮัลค์ที่เธอได้ยิน บรูซทรุดตัวลงนอนเพราะจนแล้วจนรอดและจนท้ายที่สุดฮัลค์ก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเขา

    หวัดดี ไง คุณสตาร์ค!”

    พีท!”เฟลิเซียเรียกอีกฝ่าย

    หวัดดีฮะ!”

     ระหว่างทีละความสนใจไปเพียงชั่วครู่เดียว เด็กหนุ่มในชุดยูนิฟอร์มลายใยแมงมุมหรือสไปเดอร์แมนก็ปรากฏตัวขึ้นและหยุดการโจมตีจากอีกฝ่ายเอาไว้ ก่อนที่มันจะมาถึงตัวของโทนี่

    ไอ้หนู! มาได้ไง?

    มาทัศนศึกษากับโรงเรียน!”

     ปีเตอร์ถูกเหวี่ยงไปยังลานน้ำพุ ระหว่างนั้นโทนี่ก็เริ่มอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดให้เด็กหนุ่มฟังผ่านอุปกรณ์สื่อสาร เมื่อตั้งหลักได้และยิงใยแมงมุมเพื่อยึดติดกับอีกฝ่ายแต่ก็ถูกเหวี่ยงออกไปอีกครั้ง เฟลิเซียวิ่งเข้าไปแต่ก็รักษาระยะห่างและวาดมือขวาที่ล้อมไปด้วยคลื่นหมอกสีดำและคลื่นพลังงานไปบนอากาศ ปรากฏเป็นเถาวัลย์สีดำขึ้นมาจากพื้น จัดการจับมัดและพันธนาการผู้บุกรุกเอาไว้ เธอกำมือเพื่อให้เถาวัลย์นั้นรัดกุมเขาเอาไว้ให้แน่น ก่อนที่จะถูกซากแท็กซี่สีเหลืองที่ตกมากับบรูซก่อนหน้านี้ฟาดเข้าให้อย่างจัง แต่ถึงกระนั้นการต่อสู้ก็ยังไม่ยุติ

     ฟิ้ว!

    นั่นมัน

     มีอะไรบางอย่างผ่านหน้าพวกเขาไป ที่เฟลิเซียพอจะมองออกและเห็นก็คือเป็นร่างของสตีเฟ่นที่น่าจะกำลังสลบไสลอยู่ แต่ผ้าคลุมสีแดงนั้นกำลังพาเขาหนีจากมนุษย์ต่างดาวอีกคนที่กำลังตามไล่จับร่างเขามาแบบติดๆ

    นั่นไงพ่อมด!”โทนี่ร้องขึ้น ไปเร็ว!”

    ได้ฮะ!”

     ปีเตอร์ตอบรับคำและรีบยิงใยแมงมุมไปตามไปยังทิศทางเดียวกันกับที่สตีเฟ่นล่องลอยผ่านไปตามคำสั่งของโทนี่ อย่างไม่ลดละและไม่คลาดสายตา

    ไม่เป็นไรกันนะ?หว่องถาม

    คิดว่านะคะ

     ตู้ม!

    “!?”

     โทนี่ถูกจับอีกอีกครั้งด้วยอาวุธของอีกฝ่าย เฟลิเซียกำลังจะรีบวิ่งเข้าไปช่วยแต่วงแหวนมิติปรากฏขึ้นพร้อมกับเอเลี่ยนร่างยักษ์ที่ถูกส่งไปยังที่แห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งปกคลุม

    เหวอ!”

     บรูซร้องเสียงหลง วงแหวนประตูมิตินั้นถูกปิดลงพร้อมกับแขนเจ้าเอเลี่ยนถูกตัดขาดตอนที่วงแหวนนั้นปิดตัวลง ชายผู้เป็นหนึ่งเดียวกันกับฮัลค์จึงเตะมือที่ขาดให้ห่างและให้ไปไกลๆจากตน

    อ๊ะ...ป๊า!”

    ไม่ต้องห่วง...ป๊าจะรีบไปช่วยพ่อมดกับพีท แล้วป๊าจะรีบกลับมา!”

     เจ้าของเกราะเหล็กทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไป เขากำลังไล่ตามยานอวกาศทรงประหลาดที่แต่เดิมมันอยู่ใกล้ตัวเมืองนิวยอร์ก แต่ในตอนนี้มันได้ลอยออกชั้นบรรยากาศของโลกออกไปแล้ว

     

    ---------------------------------------------------------------------------

    หลังจากหายต๋อมไปนาน

    มาอัพแล้วค่ะ!


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×