ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic avengers x OC] She is our 'Family' [END]

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter12 : True power

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 894
      97
      17 เม.ย. 64

    Chapter12


     

    อย่าคิดว่าแกมีพลังมากกว่าฉันแล้วฉันจะชนะแกไม่ได้!!!”

    งั้นมาลองกันสักตั้งหน่อยไหมล่ะคะ?

     วู่ม!

     วู่ม!

    นั่นอะไรน่ะ!?”

     โทนี่อุทานขึ้นอย่างตกใจทันทีเมื่อมีอะไรบางอย่างพุ่งขึ้นมาจากเบื้องล่าง พอเขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าก็ปรากฏเป็นร่างของเด็กสาวที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี และใครบางคนที่เขาคาดว่าน่าจะเป็นตัวบอสขององค์กร

    เฟซี่!?”

     วันด้าร้องขึ้นสร้างความตะลึงให้กับสมาชิกคนอื่นๆที่วิ่งมารวมตัวกับเธอและวิชชั่น เฟลิเซียลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับคลื่นพลังงานขาวดำที่กำลังวิ่งวนไปรอบๆตัวของเธอ

    บอกทีว่านี่ไม่ใช่ความฝันคลินท์แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง

     สตีฟเองก็เช่นกันเขาก็แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เหมือนเมื่อเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่แล้วเธอยังเป็นเพียงแค่สาวน้อยน่ารัก สุภาพและอ่อนหวาน แต่มาในวันนี้ความรู้สึกมันแตกต่างกันออกไปราวกับเป็นคนล่ะคน ดูนิ่งขึ้นและดูแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม แต่ก็ยังซ่อนความนุ่มนวลและอ่อนโยนเอาไว้ภายใน

    เหมือนเด็กน้อยของพวกเราเติบโตขึ้นมากกว่าเดิมแล้วนะนาตาชายิ้ม

    ดูพลังของเธอสิ...มันดูไม่เหมือนเดิม ดูทรงพลังมากกว่าเดิมวันด้ายิ้มและชื่นชม

    เหมือนไม่ใช่เธอเลยจริงๆวิชชั่นคิด

     ฟึ่บ!

     ฟึ่บ!

     โทนี่ก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเหมือนกัน เธอหลบดัฟฟ์ทันทีเมื่อเขาใช้พลังโจมตีเธอและลอยตัวอยู่กลางอากาศด้วยพลังของเขา เฟลิเซียหลบอย่างพลิ้วไหว คล่องแคล่วและว่องไว เพลิงสีดำและขาวปรากฏขึ้นมาที่มือของเธอและซัดมันเข้าหาดัฟฟ์ทันที แต่อีกฝ่ายก็หลบได้อย่างเฉียดฉิวก่อนที่เขาจะใช้พลังยกดึงเศษซากปราสาทและฐานที่พังทลายลงขึ้นมาและขว้างมันใส่เธอ

     กึ่ก!

    โว้วๆ

    เจ้านายคะ มันกระเด็นไปทางเขตชุมชนค่ะ

     โทนี่หลบออกมาทันทีเมื่อเขากำลังจะถูกลูกหลง และจัดการทำลายเศษซากที่หักพังบางส่วนก่อนที่มันจะกระเด็นไปทางเขตชุมชนเข้า

    [“ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?”]

    ยังอยู่ดีครบ32 ฉันหนังเหนียวไม่ตายง่ายๆหรอก

    [“สตาร์ค...”]

    โอเค...โอเค...ฉันสบายดีไม่เป็นอะไร เห็นอย่างที่ฉันเห็นไหม?

    [“เต็มสองตาเลยล่ะ”]

     ตู้ม!

     ตู้ม!

     วู่ม!

    อย่างกับดูหนังแอคชั่นอยู่งั้นแหละเป็นคลินท์ที่พูดขึ้น

    [“ยังไงซะต้องเคลื่อนย้ายพลเรือนที่อยู่แถวๆนี้ก่อน ไม่งั้นโดนลูกหลงไปด้วยแน่ๆเพราะไม่รู้ว่ามันจะสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ๆมากน้อยแค่ไหน”]

    ถ้างั้นเดี๋ยวพวกฉันจะไปช่วยอพยพคนที่อยู่ใกล้ๆนี้ บาร์ตันไปกับโรมานอฟ ส่วนวันด้าไปกับวิชชั่นเดี๋ยวฉันจะไปทางนั้น ส่วนนายโทนี่คนระวังอย่าให้มันกระเด็นไปทางชุมชน

    [“จัดให้ตามคำขอ”]

     วู่ม!

     ปึ่ก!

    อึ่ก!”

     เฟลิเซียซัดดัฟฟ์ลอยไปไกลเล็กน้อยแต่ถึงกระนั้นก็ทำอะไรเขาไม่ได้มากนัก และเขาไม่ปล่อยให้การถูกโจมตีเสียเปล่า เขาใช้พลังอีกรูปแบบของตนดูดซับเอาพลังโจมตีของเธอมาและเสริมให้กับตัวเองและโจมตีเธอกลับด้วยพลังที่รุนแรงพอๆกัน

     วู่ม!

     ตู้ม!

     ชั่วพริบตาเดียวเพียงเท่านั้นเฟลิเซียที่ไม่ได้ตั้งรับการโจมตีให้ดีถูกเขาซัดกลับจนกระเด็นลงไปที่เศษซากของตึกที่อยู่ด้านล่างจนเกิดกลุ่มควันเล็กน้อย ดัฟฟ์แสยะยิ้มพลางใช้พลังยกเศษซากปรักหักพังที่อยู่ใกล้ๆขึ้นมาในจำนวนปานกลางและขนาดย่อมไม่ถึงกับใหญ่มาก ชูมาขึ้นเหนือตนเองแล้วเหวี่ยงทุ่มลงไปยังจุดที่เธอกระเด็นตกลงไปทันที

     ตู้ม!?

    “!?”

     กลุ่มก้อนเศษซากแตกกระจายไปทั่วบริเวณก่อนที่จะถึงเป้าหมาย เถาวัลย์มหึมาสีดำสนิทมากมายพวยพุ่งออกมาจากจุดที่เธออยู่ มันทำลายกลุ่มก้อนเศษซากนั้นทิ้งและพุ่งเข้าโจมตีเขาด้วย เขาจึงใช้พลังผ่ามันออกเป็นสองซีก

     ปึ่ก!

     ตู้ม!

     ดัฟฟ์ที่ไม่ได้ระวังหลังถูกเถาวัลย์ที่โผล่มาจากด้านหลังเขาซัดเข้าอย่างจัง และถูกจับเหวี่ยงไปอีกทางและลงเอยด้วยการถูกตรึงลงกับเนินซากของปราสาทเข้าอย่างจัง เฟลิเซียเดินออกมาจากกลุ่มควันทันทีพร้อมกับพลังงานสีดำสนิทแต่มีคลื่นพลังงานสีขาววนอยู่รอบๆฝ่ามือของเธอ

     กึ่ก!

     ดัฟฟ์พยายามจะใช้พลังและดิ้นให้หลุดจากพันธนาการที่เธอสร้างขึ้น แต่เธอก็กระทืบไปที่พื้นหนึ่งครั้งกลุ่มพลังสร้างเถาวัลย์และเถาไม้เลื้อยมากมายขึ้นมายึดติดและจับตรึงร่างของเขาเอาไว้ อีกทั้งมือซ้ายยังควบคุมพลังใช้คลื่นพลังบีบจับและยึดร่างของเขาเอาไว้ ร่างบางยกมือขวาขึ้นเหนือหัวรวมพลังเวทมนตร์ที่ฝ่ามือของเธอ

     วู่ม!

     โคร่ม!?

    รู้สึกจะมาทันเวลาพอดี

     ยังไม่ทันที่เธอจะได้จัดการเขา มีพลังเวทมนตร์ซัดเข้าที่ร่างของเธอจนตัวเธอปลิวไปอีกฟากฝั่งจนติดกำแพง จากความรุนแรงที่เธอถูกซัดไปนั้นทำให้กำแพงนั้นพังทลายลงในทันทีและเกิดฝุ่นควันเล็กน้อย ดัฟฟ์ใช้จังหวะนั้นใช้พลังของตนทำลายเถาวัลย์เหล่านั้นและใช้พลังดูดซับพลังของเธอมาเป็นของเขาเอง เขาลุกขึ้นยืนพลางหันไปยังทิศทางที่พลังนั้นซัดเธอจนกระเด็นไปอีกฟาก

    นายท่าน

     เบรคปรากฏตัวต่อหน้าเขาในสภาพค่อนข้างที่จะสะบักสะบอมและดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก หลังจากการระเบิดพลังของเธอเขาก็ถูกซัดกระเด็นไปไกล ทันทีที่เขาตั้งหลักได้จึงรีบมาที่นี่โดยเร็วที่สุดโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

     ฟึ่บ!

     วู่ม!

     เบรคถูกดึงเข้ามาใกล้ๆร่างสูงทันที พลังงานมหาศาลค่อยถูกดึงออกมาจากร่างของเบรคอย่างช้าๆ ดัฟฟ์ค่อยๆดูดซับและดูดกลืนพลังเวทมนตร์จากเบรค ตาขาวของดัฟฟ์ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ออร่าพลังงานสีดำเช่นเดียวกับต้นไม้ปีศาจกระจายและหมุนเวียนไปรอบๆตัวทั้งสองคน ดัฟฟ์รู้สึกได้ถึงพลังกายที่ค่อยๆเพิ่มพูนขึ้นมาอย่างมหาศาล

    “Hail…Baphomet!!!!!”

    บาโฟเมตจงเจริญ!

    “!?”

     เฟลิเซียที่ตั้งหลักได้เธอตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอ ร่างบางใช้พลังลอยตัวจากพื้นที่ตรงนั้นทันที ใช้พลังหยิบยกสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเธอขึ้นมาเพื่อที่จะสกัดและหยุดยั้งสิ่งที่ดัฟฟ์กำลังทำ

     ตู้ม!

     แต่ก็ไร้ผลเพราะเธอไม่สามารถยับยั้งได้ทัน

    คราวนี้อะไรอีก?

    ตรวจพบคลื่นพลังงานมหาศาลค่ะเจ้านายฟรายเดย์รายงาน จากข้างล่างค่ะ

     โทนี่ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลห่างกันมากรับรู้ได้ถึงคลื่นบางอย่างที่กระจายและผ่านอากาศออกมา ฟรายเดย์สแกนและรายงานเขาอีกครั้งทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ยิ่งทำให้เขารู้สึกห่วงเธอมากขึ้นกว่าเดิม

     คลื่นพลังมหาศาลระเบิดออกมาจากตัวของดัฟฟ์อย่างรุนแรงจนมันสร้างความเสียหายไม่แพ้กับเธอและกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างเป็นรัศมีหลายกิโล เฟลิเซียใช้พลังสร้างโดมเถาวัลย์หนามเป็นที่กำบังและป้องกันร่างของตนเองเอาไว้พร้อมกับคลื่นพลังงานที่ล้อมเธอเอาไว้อีกชั้นแต่มันก็ร้าวและแตกออก เมื่อการระเบิดออกของพลังนั้นจบลงร่างไร้วิญญาณของเบรคถูกเหวี่ยงไปอีกทาง เฟลิเซียลดและเปิดตัวโดมป้องกันออกทันที และจัดการเหวี่ยงพลังของเธอใส่อีกฝ่ายทันทีอย่างรุนแรง

     กึ่ก! วู่ม!

    ไร้ประโยชน์น่า

    “!?”

     ทันทีที่พลังของเธอถึงตัวของเขา แทนที่ตัวของเขาจะกระเด็นออกไปแต่เขากลับสามารถดูดซับพลังของเธอเข้าสู่กายของเขาทันที และโต้กลับเธอซัดเธอด้วยพลังที่รุนแรงกว่า เฟลิเซียจึงใช้พลังลอยตัวหลบการโจมตีของเขาและออกจากบริเวณนั้นในทันที

    คิดว่าจะหนีพ้นงั้นหรอ?

     เขาใช้พลังพุ่งทะยานตัวตามเธอไปในทันที ก่อนที่จะเหวี่ยงพลังเวทมนตร์สีดำสนิทใส่เธออีกครั้งโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวและก็ถูกพลังนั้นซัดเข้าเต็มๆและลอยกระเด็นออกไปอีกทาง แต่เมื่อเธอตั้งหลักได้อีกครั้งก็เหวี่ยงพลังของเธอใส่เขาอีกครั้งทั้งรัวและซัดเหวี่ยงพลังอย่างไม่ลดละและไม่แม้แต่จะออมแรง

    อะไรกัน...ก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลยนี่ เมื่อเทียบกับการที่ฉันเอาพลังของเจ้าพวกนั้นมายังดูรุนแรงกว่าเธออีกนะ หรือเอาพลังไปลงกับการระเบิดก่อนหน้านี้หมดแล้ว? ช่างน่าสงสาร...

     เขาไม่สะทกสะท้านและยินดีให้เธอซัดพลังใส่ตัวเขาอย่างเต็มที่ ยิ่งเธอรัวพลังใส่เขามากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งดูดซับมันมาเป็นของตัวเองมากยิ่งขึ้นและเหวี่ยงพลังนั้นกลับใส่เธออย่างรุนแรงหลายเท่าตัว

    ดูท่าไม่ค่อยดีเลยแฮะ

     สตีฟเปิดประเด็นในขณะที่พวกเขากำลังเคลื่อนย้ายพลเรือนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงให้ออกไปจากบริเวณนี้ให้ได้มากที่สุด และหาเขตพื้นที่ความปลอดภัยให้กับพวกเขาเพื่อที่จะได้ไม่ถูกลูกหลงหรือรับผลกระทบจากการต่อสู้นี้ เขาเฝ้าสังเกตเธอผ่านจากชั้นๆหนึ่งจากตึกที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆกันนี้

    หวังว่าทางนั้นจะไม่เป็นอะไรนะนาตาชา

    ทางนั้นเป็นยังไงบ้างสตาร์ค?”คลินท์

    [“ไม่มีพลเรือนแถวๆนี้แล้ว แล้วก็จากที่ให้ฟรายเดย์สแกน เหมือนพลังของหมอนั่นจะเพิ่มขึ้นนะมีศพเพิ่มด้วย แบบว่าเอิ่ม...ศพไม่ค่อยสวยเท่าไหร่”]

    เหมือนเธอจะเหนื่อยๆยังไงก็ไม่รู้สิ...ไม่ทำอะไรแบบนี้มันจะดีหรอ?วิชชั่นถามพวกเขา

    ฉันเองก็ห่วงเธอเหมือนกันวันด้ามองสตีฟ

    อย่าว่าแบบนั้นแบบนี้เลยนะ ฉันเองก็เป็นห่วงเธอเหมือนกันแต่ฉันก็เชื่อใจว่าเธอจะสามารถยุติเรื่องราวทั้งหมดนี้ลงได้ด้วยตัวเอง เพราะถ้าฉันเป็นเธอก็คงไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่งกับการต่อสู้นี้ ตอนนี้เราทำได้แค่เฝ้าดูอยู่ห่างๆแค่นั้น

    [“ถูกอย่างที่แคปพูดนั่นแหละ”] เสียงของโทนี่ดังผ่านอุปกรณ์สื่อสาร ในขณะที่เขาค่อยๆร่อนลงไปยังดาดฟ้าของตึกอาคารที่อยู่ใกล้ๆแถวๆนี้และไม่ห่างไกลจากตัวป่ามาก

    [“แต่ถ้าดูท่าทีแล้วมันไม่มีท่าทีว่าจะจบ หรือเธอตกอยู่ในอันตรายมากกว่านี้ฉันจะเข้าไปช่วยเธอเอง”]

     

    ถ้ายอมแพ้และขอร้องให้ฉันไว้ชีวิตหรือมาเป็นพวกฉันตอนนี้ก็ยังทันนะ

    ฉันก็ยังคงยืนยันคำเดิม...และยังคงเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของฉัน ต่อให้ฉันต้องแพ้หรือต่อให้ฉันต้องถูกกำจัด ฉันก็ไม่มีทางไปเป็นพวกของคุณเด็ดขาดและไม่มีวันด้วย

    ฉันล่ะนับถือความใจแข็งจนวินาทีสุดท้ายของเธอจริงๆ หึ! แต่น่าเสียดายจริงๆอายุแค่นี้จะต้องมาจบชีวิตลงตรงนี้ ทั้งๆที่ยอมมาเปลี่ยนใจมาเป็นพวกฉันตั้งแต่แรกหนทางและอนาคตจะได้ยาวไกลกว่านี้แท้ๆ

     ร่างของทั้งสองคนๆลอยอยู่ในระดับเดียวกัน มือของเธอค่อยๆกวาดและวาดลงบนอากาศพร้อมกับคลื่นพลังมหาศาลที่ปล่อยออกมาจากตัวเธอ กลุ่มก้อนพลังเล็กๆค่อยๆหลอมรวมกันจนเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่พลังงานสีดำสนิทมีคลื่นเส้นสีขาวเรืองแสงวิ่งวนไปรอบๆตัวพลัง พร้อมกับบรรยากาศรอบๆตัวของเธอเริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง

     วู่ม!

    อึ่ก!? หึ! ก็บอกแล้วไงว่าไร้ประโยชน์! ยิ่งทำแบบนี้ก็เท่ากับยิ่งเพิ่มพลังให้กับฉันนะรู้ไหม!?”

     ทันทีที่พลังโจมตีเข้าที่ตัวเขาโดยตรง เขาไม่ได้ซัดเหวี่ยงมันกลับแต่กลับเริ่มสูบพลังของเธอมาเป็นของตัวเอง หากมองจากมุมใดมุมหนึ่งจะเห็นเป็นเส้นพลังที่วิ่งเป็นเส้นตรงจากตัวของเธอวิ่งเข้าหาตัวเขาเป็นจำนวนมหาศาล แทนที่เฟลิเซียจะหยุดการกระทำนั้นลงแต่เธอกลับยิ่งดึงพลังของเธอออกมามากขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าเริ่มแสดงออกถึงความเหนื่อยล้าแม้แววตาเธอจะมุ่งมั่นมากเพียงใดก็ตาม ร่างกายที่ลอยอยู่ด้วยพลังก็ค่อยๆลดระดับลงไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถึงขั้นร่วงหล่นลงในวูบเดียว

    เฟซี่!?”

     กึ่ก!

    นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!?”

     โทนี่ที่อยู่ด้านล่างเห็นท่าไม่ดีจึงจะรีบไปช่วยเธอ แต่กลับถูกรั้งเอาไว้ด้วยรากไม้ที่มันโผล่ขึ้นเหนือพื้นปูนของดาดฟ้าไม่เพียงแค่ขาแต่ยังล็อคตัวของเขาเอาไว้ด้วย ก่อเป็นโดมไม้สานขังเขาเอาไว้ รวมไปถึงทางฝั่งของสตีฟที่ถูกเถาวัลย์หนามล้อมเอาไว้ วิชชั่นกำลังจะไปช่วยแต่ก็ถูกวันด้าฉุดรั้งเอาไว้ไม่ให้เขาไป เป็นการเตือนกลายๆว่าเธอไม่ต้องการให้พวกเขาเข้ามา

    อัตราชีพจรกำลังลดลงต่ำ อาการเหนื่อยล้าพุ่งขึ้นสูง

     ฟรายเดย์รายงานหลังจากโทนี่ให้สแกนเธอจากระยะไกล นั่นยิ่งทำให้เขาใจคอไม่ดีและยิ่งกังวลมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก

     บรรยากาศโดยรอบแปรเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน ท้องฟ้าที่สว่างสดใสในตอนแรกในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยกลุ่มก้อนเมฆครึ้มเหมือนเมฆฝนปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า มันทั้งอึมครึมและชวนให้รู้สึกอึดอัดจนน่าใจหายและน่าตกใจ อุณหภูมิเริ่มลดต่ำลงแต่ก็ไม่ได้ถึงกับหนาวเหน็บมันเย็นจนน่าขนลุก พลเรือนยิ่งแตกตื่นและหวาดกลัวมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม แม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่มีรายงานคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็ตาม

    ...

     คลื่นพลังและเส้นพลังที่เขาสูบมาจากเธอถูกตัดขาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับร่างของเธอที่ล่องลอยอยู่ในห้วงอากาศ ไร้เรี่ยวแรงและอยู่ในสภาพที่ดูแล้วไม่ค่อยจะสู้ดีเสียเท่าไหร่นัก

    ช่างเป็นพลังที่คุ้มค่าสมกับการรอคอยจริงๆ หึเขาหัวเราะในลำคอ

    ในที่สุดฉันก็ได้มันมาครอบครองแล้ว! ทีนี้แหละไม่ว่าใครหน้าไหนก็หยุดฉันไม่ได้แล้ว! จงสิโรราบให้กับฉันจงรับรู้และซาบซึ้งและจงคุกเข่าให้แก่ฉันผู้นี้ซะ!! เจ้าพวกมนุษย์อ่อนแอและน่าโง่ทั้งหลาย!”

     เขาตะโกนลั่นพร้อมกับพลังมนตร์ดำที่แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งห้วงอากาศโดยรอบ บรรยากาศชวนให้พวกเขารู้สึกสิ้นหวังชอบกล มันค่อยๆแผ่กระจายไปรอบๆในรัศมีวงกลมหลายกิโลเมตรครึ่งหนึ่งของผืนป่าและอีกครึ่งหนึ่งของชุมชน เขาค่อยๆหันไปยังร่างของเธอที่ยังคงลอยเอื่อยอยู่และลดระดับห่างไปจากเขา เฟลิเซียในสายตาของเขาตอนนี้อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นและดูอ่อนล้าเหลือเกิน

    เอาล่ะ...ก่อนที่ฉันจะฆ่าเธอ เพื่อแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาและสงเคราะห์ให้กับเธอ ฉันจะแสดงให้เธอเห็นถึงความพินาศย่อยยับของมวลมนุษย์โง่ๆไร้ประโยชน์ กับพวกอเวนเจอร์สที่เธอรักและภูมิใจมันนักหนา ฉันจะบดขยี้พวกมันต่อหน้าต่อตาเธอ! จงลิ้มรสชาติแห่งความสิ้นหวังนี้ไปซะ!!!!”

     เปรี้ยง!

     จากนั้นเขาก็ชูมือขึ้นเหนือหัวตน สองมือผสานดึงพลังเวทมนตร์ที่รุนแรงออกมาอย่างมากมายมหาศาล เกิดเป็นกลุ่มคลื่นพลังขนาดมหึมาและดำทะมึนมีแสงฟ้าแลบสีขาววูบวาบตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องดังก้องไปทั่วท้องฟ้า ยิ่งเขาทำให้พลังนั้นยิ่งใหญ่ขึ้นมาเท่าไหร่ ควันสีดำและคลื่นพลังก็ยิ่งกระจายแผ่ไปทั่วบริเวณโดยรอบมากขึ้นเท่านั้น

    จบกันสักที!!!”

     เขาค่อยๆซัดเหวี่ยงและทุ่มพลังนั้นไปยังพื้นที่ที่มีพลเรือนกับทีมอเวนเจอร์สอยู่ในทันที เมื่อเขาสูบและดูดซับพลังมาจากเฟลิเซียแล้วมันก็ยิ่งทำให้พลังที่ถูกซัดออกไปนี้ทวีคูณความรุนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มันพุ่งเป็นเส้นตรงไปยังเป้าหมายทันทีราวกับอุกบาตขนาดยักษ์ที่กำลังจะเข้าพุ่งชน วันด้าจึงใช้พลังของตนสร้างเกราะพลังงานสีแดงขึ้นมาทันทีตามสัญชาตญาณ เพื่อลดความเสียหายให้ได้มากที่สุดในระหว่างที่คนอื่นๆกำลังรีบพาผู้คนออกไปจากตรงนั้นให้ได้มากที่สุด

     วู่ม!!!

    “!?”

    คนที่จะต้องย่อยยับ คนที่จะต้องพังพินาศ คนที่จะต้องลิ้มรสแห่งความสิ้นหวังน่ะ...มันคุณต่างหาก...ดัฟฟ์

    เป็นไป...ไม่ได้...

    แน่นอน...ว่ามันเป็นไปได้

     จากร่างที่กำลังค่อยๆลอยเคว้งและเตรียมี่จะร่วงหล่นลงสู่พื้นดินได้ทุกเมื่อ และสภาพร่างกายดูเหนื่อยล้าในตอนแรกแต่ในตอนนี้กลับเปลี่ยนไปราวกับว่าเป็นคนละคนร่างของเธอลอยอยู่ในระดับเดียวกันกับเขา ก่อนที่พลังของเขาจะถึงพื้นเบื้องล่างกลับถูกพลังสีขาวบริสุทธิ์ที่รุนแรงกว่าเข้าปะทะและขจัดพลังของเขาเพื่อเปลี่ยนวิถีทิศทางของมันและเบี่ยงไปอีกทาง พลังของเขาถูกพลังของเธอพุ่งเข้าใส่จนกระทั่งพลังของเขากระจายออกจากกันและแผ่ออกไปเหมือนคลื่นน้ำในทะเล

      ดวงตาสีน้ำตาเข้มเปลี่ยนไปเป็นสีขาวไข่มุกและเรืองแสง ท้องฟ้าที่มืดมัวในตอนแรกก็ค่อยๆเปลี่ยนไปในตรงบริเวณที่เธออยู่ พลังงานสีขาวและดำแผ่ออกมาจากตัวเธออีกครั้งเป็นพลังที่ดูแข็งแกร่งและมันทำให้บรรยากาศรอบๆตัวเธอให้ความรู้สึกอ่อนโยนแต่ก็แข็งแกร่งด้วยในเวลาเดียวกัน คลื่นพลังแผ่กระจายออกไปจนกระทั่งมันกลบคลื่นพลังจากดัฟฟ์ไปจนเกือบจะหมด มือซ้ายของเธอเป็นพลังเวทมนตร์สีขาว ส่วนมือขวาเป็นพลังเวทมนตร์สีดำสนิทที่ตัวพลังมีประกายแสงสีขาวเล็กน้อย

    อึ่ก

      มีแสงสีขาววาบปรากฏตรงบริเวณอกของเธอก่อนที่จะเปล่งแสงสว่างจ้าออกมา ดัฟฟ์ยกมือเพื่อบดบังแสงนั้นและป้องกันการมองเข้าที่แสงนั้นโดยตรง เมื่อแสงวูบดับไปปรากฏเป็นสร้อยสายสีดำและตัวสร้อยก็มีอัญมณีสีขาวบริสุทธิ์ปรากฏขึ้น คลื่นพลังค่อยๆก่อตัวเกิดเป็นเงาบางอย่างที่ด้านหลังของเธอดวงตาของเขาเบิกกว้างทันทีที่เห็น ลักษณะเงาคล้ายกับต้นไม้ปีศาจและถ้าหากตาของเขาไม่ฝาด เหมือนเขาจะเป็นเงาร่างของใครบางคนที่มันซ้อนทับอยู่ที่ด้านหลังของเธออีกที แต่ไม่ปรากฏลักษณะที่แน่ชัดและชัดเจนว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายจากนั้นเงานั้นก็ค่อยๆจางลงไป

    น่าเสียดายนะคะ...ที่ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เป็นไปดั่งที่คุณหวังเอาไว้ ฉันบอกคุณแล้วว่าฉันไม่ยอมมาจบเห่อยู่ที่นี่แน่นอนและไม่ยอมให้คุณทำอะไรพวกเขาเด็ดขาดเธอยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยพร้อมกับประสานพลังเวทสีขาวดำที่ฝ่ามือตนเข้าด้วยกัน

    I am Black Magicianเฟลิเซียยิ้มให้กับเขา

     วู่ม!

     ทันทีที่พลังสีขาวดำของเธอพุ่งเป็นเส้นตรงซัดเข้าที่ตัวเขา เขาจึงทำแบบเดิมดูดซับและสูบพลังของเธออีกครั้งเพื่อที่จะได้เปลี่ยนนำพลังของเธอมาเป็นของตัวเองและใช้จัดการกับเธอ ตัวของเขามีพลังกระจายออกมาอีกครั้ง

     แต่...

    อึ่ก! หึ! ไร้ประโยชน์น่า! ไม่ว่าแกจะดึงพลังออกมามากแค่ไหนฉันก็จะสูบมันให้หมด! ไม่ให้...อึ่ก นี่มันบ้าอะไรกัน!?”

     มันไม่เหมือนเดิม...!

    ในเมื่อคุณอยากได้มันมากฉันก็จะให้จนกว่าคุณสูบไปจนกว่าคุณจะพอใจ แต่ฉันก็ไม่รับประกันนะ...ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นยังไง...

    อึ่ก! นี่มันบ้าอะไรกัน! หยุดนะ!”

     ดัฟฟ์รู้สึกแปลกและไม่เหมือนเดิมเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นภายในตัวของเขา ร่างกายของเขามีพลังวิ่งวนและมีแสงวูบวาบใต้ผิวหนังของเขา ในตอนแรกที่เขาสูบพลังมาจากเธอมันทำให้เขามีความรู้สึกเหมือนตัวเขาได้รับพลังเพิ่มและรู้สึกเปี่ยมไปด้วยพลังมากมาย อีกทั้งยังพร้อมใช้พลังนี้ในการโต้กลับแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาไม่สามารถหยุดสูบพลังของเธอได้ เหมือนเขาดูดซับมันมามากจนเกินไปจนเขาเริ่มรู้สึกอึดอัดเหมือนตัวของเขาจะระเบิดและแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

    อ๊าก!!!!!!!”

     เมื่อพลังที่เขาสูบมานั้นมันมากล้นเกินไป เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองให้หยุดได้จนในที่สุดและท้ายที่สุดกายของเขาก็สลายไปพร้อมกับพลังที่มากล้นจนเกินควบคุมนี้ ทันทีที่เขาสลายไปต่อหน้าต่อตาของเธอและเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคน พลังที่เขาสูบไปค่อยๆวิ่งกลับมาหาเธออย่างช้าๆเฟลิเซียวาดมือขึ้นไปบนอากาศเล็กน้อยพลังนั้นค่อยๆลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าและกระจายไปทั่วอากาศหมู่เมฆครึ้มค่อยๆสลายไปพร้อมๆกับพลังที่แตกกระจายออกปรากฏเป็นท้องฟ้าสดใสดังเดิมอีกครั้ง

    เฟซี่!”

    ป๊า!?”

     ทันทีที่เท้าของเธอเหยียบพื้นและโทนี่หลุดออกจากพันธนาการที่เธอสร้างเอาไว้ เขาออกจากชุดเกราะและวิ่งมาหาเธอทันที สองพ่อลูกแทบจะกระโดดกอดกันในทันทีเมื่อคลายกอดโทนี่จับตัวเธอหมุนเล็กน้อยเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าเธอไม่เป็นอะไร

    ป๊าไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?

    ไม่เป็นไร? ไม่เป็นไรหรอ! รู้ไหมหัวใจป๊าเกือบจะวาย!”เขาดุเธอเล็กน้อยและดึงเธอเข้ามากอดอีกครั้ง

    ขอโทษค่ะป๊า...มัน...เรื่องมันยาวเฟลิเซียยิ้มแห้งและขอโทษอย่างรู้สึกผิด

    วันหลังไม่เอาแบบนี้อีกแล้วนะรู้ไหม!?”

    คงไม่มีวันหลังให้ทำแบบนี้แล้วแหละนะสตีฟยิ้ม

    แนท! ทุกคน!”

    เฮ้ๆใจเย็นๆเด็กน้อย

     นาตาชากอดและลูบหัวเธออย่างปลอบประโลม พร้อมกับคลินท์ที่ตบบ่าเล็กน้อย เมื่อนาตาชาคลายกอดจากเธอวันด้าเป็นรายต่อไปที่รีบวิ่งเข้ามาหาเธอและกอดเธอก่อนที่จะดุเธอไปตามระเบียบด้วยอีกคน

    แน่นอนว่าจะไม่มีวันหลังให้หนีออกจากบ้านแบบนี้อีกแล้ว...ป๊า...ภูมิใจในตัวหนูมากๆเลยนะเฟซี่โทนี่ยิ้มและลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน

    พวกเราก็เหมือนกันสตีฟยิ้ม

    ร้ายไม่เบานาตาชาแซว

    เก่งมากยัยหนูคลินท์ชม

    เหมือนจะมีคนมีพลังสูสีแล้วนะวิชชั่นยิ้มและโอบไหล่วันด้า

    แน่นอนวันด้ายิ้มอย่างภูมิใจ

    เธอช่วยพวกเราเอาไว้!”หนึ่งในพลเรือนร้องขึ้น

    เธอไม่ได้เป็นเหมือนในข่าวจริงๆด้วย!”

    เธอคือ...ฮีโร่!!!!!”

     เสียงของเหล่าพลเรือนดังแว่วๆมา สร้างรอยยิ้มให้กับพวกเขาได้ไม่น้อย อย่างน้อยนี่ก็เป็นบทพิสูจน์ให้พลเรือนและผู้คนได้เห็นว่าเธอไม่ใช่ปีศาจอย่างที่พวกเขาเคยครหาเธอเอาไว้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

    ขอบคุณทุกๆคน...ขอบคุณนะคะ!”เฟลิเซียยิ้มและขอบคุณพวกเขามากๆ

    อ๊ะ...จริงสิ...เธอนึกอะไรบางอย่างได้

    เดี๋ยว! เฟซี่! จะไปไหน!?”

    มีเรื่องที่จะต้องทำอยู่อีกอย่าง...เดี๋ยวหนูมาขอเวลาแค่แป๊บเดียว

     เธอขอปลีกตัวแยกไปจากพวกเขาทันทีแบบไม่อธิบายให้พวกเขาฟังเลยสักนิด เธอวิ่งไปยังจุดที่ตัวปราสาทนั้นพังทลายลงและใช้พลังนำร่างของเธอไปยังจุดที่เป็นชั้นใต้ดินที่เธอถูกจับเอาไว้ก่อนหน้านี้

    อยู่ที่ไหนกันนะ

     เธอมองไปรอบๆซากปรักหักพังที่ตอนนี้มันพังจนไม่เหลือชิ้นดีและไม่รู้ว่าเคยเป็นอะไรมาก่อนบ้าง เธอวาดมือไปในอากาศเล็กน้อยเพื่อยกเศษซากเหล่านั้นให้ลอยขึ้นและพยายามกวาดสายตาของไปรอบๆจนกระทั่งได้พบกับคนที่เธอกำลังตามหา

     เฮลก้า...

     ร่างของเฮลก้าลอยออกมาพร้อมกับเศษซากปราสาทที่ถูกวางลงอย่างช้า เฟลิเซียวางร่างของเฮลก้าเอาไว้ตรงหน้าเธอพร้อมกับทิ้งตัวนั่งลงข้างๆร่างของเธอ มือของเธอปัดเศษฝุ่นและเกลี่ยผมออกจากใบหน้าร่างไร้วิญญาณ ใบหน้าซีดเซียวและผิวกายก็เย็นเฉียบจนน่าใจหาย

    เรา...ออกไปจากที่นี่กันเถอะ

     กึ่ก!

     ฉึก!

     ---------------------------------------------------------------------------------------------

    มีไฟมันก็จะยาวๆหน่อยๆค่ะ (ฮา)


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×