ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ชื่อพันธุ์มังกรต่างๆ
1. จีนลูกไฟ (chinese fireball)
เป็นมังกรเอเชียเพียงพันธุ์เดียว และมีรูปร่างที่แปลกแตกต่างจากพันธุ์อื่น ๆ เกล็ดเรียบสีม่วง รอบใบหน้าที่สั้นและย่นมีระบายรรีบสีทองล้อมประดับไว้ดวงตาโปนโต เปลวไฟรูปร่างคล้ายดอกเห็ดที่มันพ่นออกมาในยามโกรธเป็นที่มาของชื่อพันธุ์ลูกไฟ น้ำหนักอยู่ระหว่าง2-4ตัน ตัวเมียจะใหญ่กว่าตัวผู้ ไข่เป็นสีทับทิมสดมีจุดสีทองเปลือกไข่มีค่าเพระนำไปใช้ประกอบเวทย์มนต์แบบจีนได้พันธุ์ลูกไฟมีนิสัยดุร้าย แต่มีความอดทนต่อมังกรสายพันธุ์เดียวกันสูงมากกว่ามังกรส่วนใหญ่ บางครั้งถึงกับยอมใช้อาณาเขตร่วมกันตัวอื่นถึง2ตัวพันธุ์จีนลูกไฟกินสัตว์เลี้ยงลูก ด้วยนมเป็นหลัก แม้ว่าจะชอบกินหมูหรือมนุษย์มากกว่าก็ตาม
2. นอร์เวย์หลังเป็นสัน (Norwegian Ridgeback)
นอร์เวย์หลังเป็นสันมีความคล้ายคลึงกันมังกรพันธุ์ฮังการีหางหนามในหลาย ๆ ด้าน แต่แทนที่จะมีหนามแหลมที่หาง มันจะมีสันสีดำสนิทยื่นออกมาจากหลังแทน พันธุ์หลังเป็นสันจะดุร้ายกับพันธุ์เดียวกันมากเป็นพิเศษทุกวันนี้มันจัดเป็นหนึ่ง ในสายพันธุ์มังกรที่หายากขึ้นทุกที มันเคยโจมตีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่บนดินมาแล้ว แทบทุกชนิดและที่ต่างจากมังกรทั่วไปคือ มันกินสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในน้ำด้วย รายงานที่ปราศจากหลักฐานระบุว่า มังกรพันธุ์นี้เคยโฉบเอาลูกปลาวาฬไปจากชายหาดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์เมื่อปี ค.ศ.1802 ไข่ของพันธุ์หลังเป็นสันแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ นักโทษแห่งอัสคาบันมีสีดำ และตัวอ่อนจะพัฒนาความสามารถในการพ่นไฟได้เร็วกว่าพันธุ์อื่น (ระหว่างหนึ่งถึงสามเดือนเท่านั้น)
3. เพรูเวียน ไวเปอร์ทูท (Peruvian Vipertooth)
หรือเปรูเขี้ยวพิษ เป็นมังกรพันธุ์เล็กที่สุด และบินได้เร็วที่สุด ความยาวอยู่ราว ๆ สิบห้าฟุต เกล็ดเรียบสีทองแดง และมีสันสีดำ เขาสั้น เขี้ยวมีพิษร้ายแรง พันธุ์เขี้ยวพิษโปรดปรานแพะและวัวแต่ก็ชื่นชอบรสเนื้อมนุษย์ด้วย จนสมาพันธ์พ่อมดนานาชาติจำเป็นต้องส่งผู้ควบคุมไปลดประมาณของ พันธุ์เขี้ยวพิษเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนหน้านั้นปริมาณของมักรนี้ ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ
4. ยูเครเนียน ไอรอนเบลลี (Ukrainian Ironbelly)
รือยูเครนกระเพาะเหล็ก เป็นมังกรพันธุ์ใหญ่ที่สุด น้ำหนักมากที่สุดถึง 6ตัน ตัวกลมป้อม บินได้ช้ากว่าพันธุ์เขี้ยวพิษและพันธุ์โรมาเนียเขายาว อย่างไรก็ตาม พันธุ์กระเพาะเหล็กมีอันตรายมากมันทำลายให้บ้านเรือนเรียบเป็นหน้ากลองได้ เกล็ดสีเทาเป็นมัน ตาสีแดงเข้ม กรงเล็บยาวและแหลมคมมาก มังกรพันธุ์กระเพาะเหล็กถูกเจ้าหน้าที่พ่อมดยูเครนจับตาดูอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่มีตัวหนึ่งโฉบไปหิ้วเรือใบ (โชคดีที่ว่างเปล่า) ที่ทะเลดำในปี ค.ศ.1799
5. โรมาเนียน ลองฮอร์น (Romanian Longhorn)
หรือโรมาเนียเขายาว มีเกล็ดสีเขียวดำเขาสีทองเป็นประกาย ซึ่งมันจะใช้เสียบเหยื่อย่างไฟของเขามันเมื่อเอาไปป่นเป็นผงแล้วมีค่ามาก ใช้เป็นเครื่องปรุงยาได้ ปัจจุบันนี้ดินแดนแหล่งกำเนิดของพันธุ์โรมาเนียเขายาว ได้กลายเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์มังกรที่สำคัญที่สุดในโลก ซึ่งพ่อมดทุกสัญขาติ ได้ศึกษามังกรพันธุ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด พันธุ์เขายาวถูกจัดอยู่ในโครงการ เพาะพันธุ์เร่งด่วนด้วย เนื่องจากจำนวนของมันลดต่ำลงในช่วงสองสามปีที่ ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นเพราะการซื้อขายเขาของมัน ซึ่งปัจจุบันจัดเป็นสินค้าซื้อขายได้
6. เวลส์สีเขียวธรรมดา (Common Welsh Green)
พันธุ์เวลส์สีเขียวนั้นสีกลมกลืนกับหญ้าเขียวสดที่บ้านเกิดของพวกมันเป็นอย่างดี มักจะทำรังอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งกำหนดไว้เป้นเขตอนุรักษ์เพื่อให้มันอยู่อาศัยถ้าไม่นับเหตุการณ์ที่อิลฟราคอมบ์ สายพันธุ์นี้ก็จัดอยู่ในประเภทที่สร้างปัญหาน้อยที่สุด มันชอบกินแกะเป็นอาหาร และจะหลีกเลี่ยงจากมนุษย์ ยกเว้นเมื่อถูกรบกวน พันธุ์เวลส์สีเขียวมีเสียงคำรามที่สูง ๆ ต่ำ ๆ เหมือนดนตรีอย่างน่าประหลาด และเป็นเสียงที่จดจำได้ง่าย มันจะพ่นไฟเป็นลำบาง ๆ ไข่เป็นสีน้ำตาลหม่น ๆ มีจุดสีเขียว
7. สวีเดนจมูกสั้น (Swedish Short-Snout)
เป็นมังกรสีฟ้าเหลือบเงินแสนสวย คนมักเอาหนังของมันมาทำถุงมือและโล่ เปลวไฟที่พ่นออกมาเป็นสีฟ้าใส ซึ่งเผาผลาญไม้และ กระดูกเป็นเถ้าถ่าน ได้ภายในไม่กี่วินาที พันธุ์จมูกสั้นฆ่ามนุษย์น้อยกว่ามังกรส่วนใหญ่ มันมักอาศัยอยู่ตามป่าและบริเวณภูเขาที่ไม่ทีคนอาศัยอยู่ จึงไม่มีวีรกรรมมากนัก
8. แอนตี้โพเดี้ยน โอเพิลอาย (Antipodean Opaleye)
หรือแอนติโพเดี้ยนตาสีรุ้ง มีถิ่นกำเนิดในนิวซีแลนด์ แต่ต่อมาก็อพยพไปอยู่ออสเตรเลียเนื่องจากที่อยู่ในบ้านเกิดเริ่มจำกัด อาศัยอยู่ในหุบเขามากกว่าตามภูเขา ซึ่งแตกต่างจากมังกรทั่ว มังกรพันธุ์นี้มีขนาดกลาง(น้ำหนักระหว่าง 2-3 ตัน)
ตาสีรุ้งอาจจะเป็นมังกรพันธุ์ที่สวยงามที่สุดก็เป็นได้ มีเกล็ดมันวาวสีเหลืองรุ้ง และมีดวงตาหลากสีประกายปราศจากม่านตา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพันธุ์ มังกรพันธุ์นี้จะพ่นไฟสีม่วงเจิดจ้า ตามมาตรฐานมังกรถือว่าไม่ดุร้ายนัก ส่วนมากถ้าไม่หิวก็จะไม่ฆ่า อาหารโปรดคือแกะ แต่ก็เคยล่าเหยื่อที่ใหญ่กว่านั้น การฆ่าจิงโจ้ครั้งใหญ่ตอนปลายทศตวรรษที่ 1970 เป็นฝีมือของพันธุ์สีรุ้งตัวผู้ที่ถูกตัวเมียซึ่งมีอิทธิพลมากกว่าไล่ออกจากบ้าน ไข่ขสองมันสีเทาซีดและมักเกิ้ลที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมักเข้าใจผิดว่าเป็นฟอสซิล
9.ฮังการีหางหนาม (Hungarian Horntail)
คาดว่าดุร้ายที่สุดในบรรดามังกรทุกสายพันธุ์ พันธุ์ฮังการีหางหนาม มีเกล็ดสีดำ และรูปร่างคล้ายกิ้งก่า ตาสีเหลือง เขาสีบรอนซ์ และตลอดหางอันยาว เหยียดของมัน ก็มีหนามแหลมสีบรอนซ์เช่นเดียวกัน พันธุ์หางหนามพ่นไฟได้ไกลที่สุด (ไกลสุดถึง 15 ฟุต) ไข่สีเทาเหมือนสีเมนต์และเปลือกแข็งมากตัวอ่อนจะเจาะเปลือกไข่ ออกมาโดยใช้หาง ซึ่งมีหนามแหลมติดตัวมาตั้งแต่เกิด พันธุ์ฮังการีหางหนามกินแพะ แกะ และถ้าเป็นไปได้ก็จะกินมนุษย์เป็นอาหาร
10.เฮบริเดี้ยนสีดำ (Hebridean Black)
มังกรท้องถิ่นของอังกฤษอีกสายพันธุ์หนึ่งซึ่งดุร้ายกว่าพันธุ์ เวลส์สีเขียวเพื่อนร่วมถิ่นมาก พันธุ์เฮบริเดี้ยนสีดำใช้พื้นที่อยู่อาศัยถึง 100 ตารางไมล์ต่อ1 ตัว มันยาวได้ถึก 30 ฟุต เกล็ดไม่เรียบตาสีม่วงสุกใส และ มีสันเตี้ย ๆ แต่คมกริบเรียงเป็นแถวตลอดแนวหลัง ปลายหางมีหนามใหญ่ลักษณะเหมือนลูกศรและมีปีกเหมือนค้างคาวเฮบริเดี้ยน สีดำกินกวางเป็นอาหารหลัก แต่ก็เคยบินโฉบเอาสุนัขตัวใหญ่หรือแม้แต่แม่วัวไปกิน ตระกูลพ่อมดแมกฟัสดี้ที่มีถิ่นพำนักอู่ในเฮบริดีซมานับศตวรรษรับหน้าที่ดูแล ควบคุมมังกรประจำถิ่นพันธุ์นี้เรื่อยมาจนเป็นประเพณี
จาก http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=207250
เป็นมังกรเอเชียเพียงพันธุ์เดียว และมีรูปร่างที่แปลกแตกต่างจากพันธุ์อื่น ๆ เกล็ดเรียบสีม่วง รอบใบหน้าที่สั้นและย่นมีระบายรรีบสีทองล้อมประดับไว้ดวงตาโปนโต เปลวไฟรูปร่างคล้ายดอกเห็ดที่มันพ่นออกมาในยามโกรธเป็นที่มาของชื่อพันธุ์ลูกไฟ น้ำหนักอยู่ระหว่าง2-4ตัน ตัวเมียจะใหญ่กว่าตัวผู้ ไข่เป็นสีทับทิมสดมีจุดสีทองเปลือกไข่มีค่าเพระนำไปใช้ประกอบเวทย์มนต์แบบจีนได้พันธุ์ลูกไฟมีนิสัยดุร้าย แต่มีความอดทนต่อมังกรสายพันธุ์เดียวกันสูงมากกว่ามังกรส่วนใหญ่ บางครั้งถึงกับยอมใช้อาณาเขตร่วมกันตัวอื่นถึง2ตัวพันธุ์จีนลูกไฟกินสัตว์เลี้ยงลูก ด้วยนมเป็นหลัก แม้ว่าจะชอบกินหมูหรือมนุษย์มากกว่าก็ตาม
2. นอร์เวย์หลังเป็นสัน (Norwegian Ridgeback)
นอร์เวย์หลังเป็นสันมีความคล้ายคลึงกันมังกรพันธุ์ฮังการีหางหนามในหลาย ๆ ด้าน แต่แทนที่จะมีหนามแหลมที่หาง มันจะมีสันสีดำสนิทยื่นออกมาจากหลังแทน พันธุ์หลังเป็นสันจะดุร้ายกับพันธุ์เดียวกันมากเป็นพิเศษทุกวันนี้มันจัดเป็นหนึ่ง ในสายพันธุ์มังกรที่หายากขึ้นทุกที มันเคยโจมตีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่บนดินมาแล้ว แทบทุกชนิดและที่ต่างจากมังกรทั่วไปคือ มันกินสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในน้ำด้วย รายงานที่ปราศจากหลักฐานระบุว่า มังกรพันธุ์นี้เคยโฉบเอาลูกปลาวาฬไปจากชายหาดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์เมื่อปี ค.ศ.1802 ไข่ของพันธุ์หลังเป็นสันแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ นักโทษแห่งอัสคาบันมีสีดำ และตัวอ่อนจะพัฒนาความสามารถในการพ่นไฟได้เร็วกว่าพันธุ์อื่น (ระหว่างหนึ่งถึงสามเดือนเท่านั้น)
3. เพรูเวียน ไวเปอร์ทูท (Peruvian Vipertooth)
หรือเปรูเขี้ยวพิษ เป็นมังกรพันธุ์เล็กที่สุด และบินได้เร็วที่สุด ความยาวอยู่ราว ๆ สิบห้าฟุต เกล็ดเรียบสีทองแดง และมีสันสีดำ เขาสั้น เขี้ยวมีพิษร้ายแรง พันธุ์เขี้ยวพิษโปรดปรานแพะและวัวแต่ก็ชื่นชอบรสเนื้อมนุษย์ด้วย จนสมาพันธ์พ่อมดนานาชาติจำเป็นต้องส่งผู้ควบคุมไปลดประมาณของ พันธุ์เขี้ยวพิษเมื่อปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนหน้านั้นปริมาณของมักรนี้ ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ
4. ยูเครเนียน ไอรอนเบลลี (Ukrainian Ironbelly)
รือยูเครนกระเพาะเหล็ก เป็นมังกรพันธุ์ใหญ่ที่สุด น้ำหนักมากที่สุดถึง 6ตัน ตัวกลมป้อม บินได้ช้ากว่าพันธุ์เขี้ยวพิษและพันธุ์โรมาเนียเขายาว อย่างไรก็ตาม พันธุ์กระเพาะเหล็กมีอันตรายมากมันทำลายให้บ้านเรือนเรียบเป็นหน้ากลองได้ เกล็ดสีเทาเป็นมัน ตาสีแดงเข้ม กรงเล็บยาวและแหลมคมมาก มังกรพันธุ์กระเพาะเหล็กถูกเจ้าหน้าที่พ่อมดยูเครนจับตาดูอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่มีตัวหนึ่งโฉบไปหิ้วเรือใบ (โชคดีที่ว่างเปล่า) ที่ทะเลดำในปี ค.ศ.1799
5. โรมาเนียน ลองฮอร์น (Romanian Longhorn)
หรือโรมาเนียเขายาว มีเกล็ดสีเขียวดำเขาสีทองเป็นประกาย ซึ่งมันจะใช้เสียบเหยื่อย่างไฟของเขามันเมื่อเอาไปป่นเป็นผงแล้วมีค่ามาก ใช้เป็นเครื่องปรุงยาได้ ปัจจุบันนี้ดินแดนแหล่งกำเนิดของพันธุ์โรมาเนียเขายาว ได้กลายเป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์มังกรที่สำคัญที่สุดในโลก ซึ่งพ่อมดทุกสัญขาติ ได้ศึกษามังกรพันธุ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด พันธุ์เขายาวถูกจัดอยู่ในโครงการ เพาะพันธุ์เร่งด่วนด้วย เนื่องจากจำนวนของมันลดต่ำลงในช่วงสองสามปีที่ ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นเพราะการซื้อขายเขาของมัน ซึ่งปัจจุบันจัดเป็นสินค้าซื้อขายได้
6. เวลส์สีเขียวธรรมดา (Common Welsh Green)
พันธุ์เวลส์สีเขียวนั้นสีกลมกลืนกับหญ้าเขียวสดที่บ้านเกิดของพวกมันเป็นอย่างดี มักจะทำรังอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งกำหนดไว้เป้นเขตอนุรักษ์เพื่อให้มันอยู่อาศัยถ้าไม่นับเหตุการณ์ที่อิลฟราคอมบ์ สายพันธุ์นี้ก็จัดอยู่ในประเภทที่สร้างปัญหาน้อยที่สุด มันชอบกินแกะเป็นอาหาร และจะหลีกเลี่ยงจากมนุษย์ ยกเว้นเมื่อถูกรบกวน พันธุ์เวลส์สีเขียวมีเสียงคำรามที่สูง ๆ ต่ำ ๆ เหมือนดนตรีอย่างน่าประหลาด และเป็นเสียงที่จดจำได้ง่าย มันจะพ่นไฟเป็นลำบาง ๆ ไข่เป็นสีน้ำตาลหม่น ๆ มีจุดสีเขียว
7. สวีเดนจมูกสั้น (Swedish Short-Snout)
เป็นมังกรสีฟ้าเหลือบเงินแสนสวย คนมักเอาหนังของมันมาทำถุงมือและโล่ เปลวไฟที่พ่นออกมาเป็นสีฟ้าใส ซึ่งเผาผลาญไม้และ กระดูกเป็นเถ้าถ่าน ได้ภายในไม่กี่วินาที พันธุ์จมูกสั้นฆ่ามนุษย์น้อยกว่ามังกรส่วนใหญ่ มันมักอาศัยอยู่ตามป่าและบริเวณภูเขาที่ไม่ทีคนอาศัยอยู่ จึงไม่มีวีรกรรมมากนัก
8. แอนตี้โพเดี้ยน โอเพิลอาย (Antipodean Opaleye)
หรือแอนติโพเดี้ยนตาสีรุ้ง มีถิ่นกำเนิดในนิวซีแลนด์ แต่ต่อมาก็อพยพไปอยู่ออสเตรเลียเนื่องจากที่อยู่ในบ้านเกิดเริ่มจำกัด อาศัยอยู่ในหุบเขามากกว่าตามภูเขา ซึ่งแตกต่างจากมังกรทั่ว มังกรพันธุ์นี้มีขนาดกลาง(น้ำหนักระหว่าง 2-3 ตัน)
ตาสีรุ้งอาจจะเป็นมังกรพันธุ์ที่สวยงามที่สุดก็เป็นได้ มีเกล็ดมันวาวสีเหลืองรุ้ง และมีดวงตาหลากสีประกายปราศจากม่านตา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพันธุ์ มังกรพันธุ์นี้จะพ่นไฟสีม่วงเจิดจ้า ตามมาตรฐานมังกรถือว่าไม่ดุร้ายนัก ส่วนมากถ้าไม่หิวก็จะไม่ฆ่า อาหารโปรดคือแกะ แต่ก็เคยล่าเหยื่อที่ใหญ่กว่านั้น การฆ่าจิงโจ้ครั้งใหญ่ตอนปลายทศตวรรษที่ 1970 เป็นฝีมือของพันธุ์สีรุ้งตัวผู้ที่ถูกตัวเมียซึ่งมีอิทธิพลมากกว่าไล่ออกจากบ้าน ไข่ขสองมันสีเทาซีดและมักเกิ้ลที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมักเข้าใจผิดว่าเป็นฟอสซิล
9.ฮังการีหางหนาม (Hungarian Horntail)
คาดว่าดุร้ายที่สุดในบรรดามังกรทุกสายพันธุ์ พันธุ์ฮังการีหางหนาม มีเกล็ดสีดำ และรูปร่างคล้ายกิ้งก่า ตาสีเหลือง เขาสีบรอนซ์ และตลอดหางอันยาว เหยียดของมัน ก็มีหนามแหลมสีบรอนซ์เช่นเดียวกัน พันธุ์หางหนามพ่นไฟได้ไกลที่สุด (ไกลสุดถึง 15 ฟุต) ไข่สีเทาเหมือนสีเมนต์และเปลือกแข็งมากตัวอ่อนจะเจาะเปลือกไข่ ออกมาโดยใช้หาง ซึ่งมีหนามแหลมติดตัวมาตั้งแต่เกิด พันธุ์ฮังการีหางหนามกินแพะ แกะ และถ้าเป็นไปได้ก็จะกินมนุษย์เป็นอาหาร
10.เฮบริเดี้ยนสีดำ (Hebridean Black)
มังกรท้องถิ่นของอังกฤษอีกสายพันธุ์หนึ่งซึ่งดุร้ายกว่าพันธุ์ เวลส์สีเขียวเพื่อนร่วมถิ่นมาก พันธุ์เฮบริเดี้ยนสีดำใช้พื้นที่อยู่อาศัยถึง 100 ตารางไมล์ต่อ1 ตัว มันยาวได้ถึก 30 ฟุต เกล็ดไม่เรียบตาสีม่วงสุกใส และ มีสันเตี้ย ๆ แต่คมกริบเรียงเป็นแถวตลอดแนวหลัง ปลายหางมีหนามใหญ่ลักษณะเหมือนลูกศรและมีปีกเหมือนค้างคาวเฮบริเดี้ยน สีดำกินกวางเป็นอาหารหลัก แต่ก็เคยบินโฉบเอาสุนัขตัวใหญ่หรือแม้แต่แม่วัวไปกิน ตระกูลพ่อมดแมกฟัสดี้ที่มีถิ่นพำนักอู่ในเฮบริดีซมานับศตวรรษรับหน้าที่ดูแล ควบคุมมังกรประจำถิ่นพันธุ์นี้เรื่อยมาจนเป็นประเพณี
จาก http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=207250
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น