คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Into
บอกยองแจทีว่ามหาลัยนี้เพิ่งเปิดเทอมไม่กี่วัน...ทำไมอาจารย์มอบหมายงานใหญ่ให้ปี 1 อย่างพวกผมเร็วแบบนี้ ก็ว่าทำไมคณะผมถึงรับน้องเสร็จไวกว่าเพื่อน ที่แท้ก็เพื่อจะได้มีเวลาทำงานชิ้นใหญ่นี้เสร็จทันกำหนด (ถ้าไม่ทันก็เตรียมกิน F ได้เลย) ไปปรึกษาพี่รหัสตัวเอง พี่แกก็แนะนำให้ไปหาพวกช่างภาพ เผื่อมีรูปถ่ายที่ตรงกับหัวข้อที่ผมได้ (เพราะพี่รหัสก็ทำแบบนั้น) ทำให้ผมต้องมาหาเพื่อนผมที่เรียนอยู่คณะนิเทศ เอกช่างภาพ
“ ฮงบิน! “ ผมเรียกเพื่อนผมทันทีเมื่อเจอ หมอนั่นกำลังเดินไปไหนไม่รู้
“ อ้าว ยองแจมีธุระอะไรเหรอ” พอเห็นเพื่อนถามแบบนี้ ทำให้ผมแทบจะเป็นลมกับความขี้ลืม
“ก็ที่โทรคุยอ่ะ ไอ้งานคะแนนเก็บ” ฮงบินพยักหน้าสองสามทีแต่ไม่ได้พูดอะไร นอกจากจับแขนผมแล้วดึงให้เดินตามมันไปด้านหลังคณะนิเทศที่เป็นสวนกว้างๆ เหมาะกับการซ้อมแสดงของพวกการแสดง หรือเป็นที่นั่งอ่านหนังสือของเด็กแพทย์ หรือที่ศึกษาของเด็กวิทย์หรือง่ายๆที่สำหรับทุกคณะที่ต้องการพักผ่อน
“ดูเหมือนเอกฉันก็โดนเหมือนนายนะ ยองแจ ^^ “ หลังจากมานั่งใต้ต้นไม้ ฮงบินก็เริ่มพูด ซึ่งมันทำให้ผมตกใจ ฮงบินก็โดนแบบผมงั้นเหรอ L
“แต่ก็ไม่ได้ยากหรอก เพราะเราเจอหัวข้อแล้ว”
“งั้นเหรอ ของพวกฮงบินทำแบบไหนกัน” เมื่อเห็นฮงบินบอกว่าเจอหัวข้อแล้วก็ค่อยโล่งไป เพราะถ้ายังไม่เจอคงไม่มีเวลามานั่งคุยกับผมอีกแน่
“แบบไหนก็ได้ เพราะงานนี้ก็ไม่ใช่งานใหญ่อะไร แถมเราก็ไม่อยากเข้าประกวดนั้น “
“ดีจัง แล้วได้หัวข้อแบบไหน”
“เสน่ห์ที่แอบแฝง” พอผมได้ยินหัวข้อของฮงบิน ผมก็นึกได้ทันทีว่าใครจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหัวข้อมัน
“ราวี่ เขายอมให้นายเอาเป็นแรงบันดาลใจเหรอ”
“อืม ^-^ แลกกับการที่เราต้องไปนั่งดูเขาซ้อมตอนเย็นนะ” พอพูดถึงแฟนตัวเองที่เป็นถึงนักกีฬาของคณะนี้ยิ้มเชียว อดไม่ได้ที่ผมจะแกล้งผลักหัวมัน แล้วเราก็นั่งคุยเล่นกันจนฮงบินต้องไปหาแฟนตัวเอง ทำให้ผมต้องเดินออกจากสวน เพื่อกลับไปห้องพักตัวเอง
.
.
.
ถ้าเกิดยองแจหรือฮงบินสังเกตุรอบข้างคงเห็นใครบางคนถ่ายภาพพวกเขา ก่อนที่คนๆนั้นจะเดินออกจากสวนก่อนหน้าทั้งสอง พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ เมื่อเดินมาที่ร้านกาแฟแถวมหาลัยแล้วดูรูปที่เพิ่งถ่ายมา
“อา เมื่อว่าเราจะได้แรงบันดาลใจที่ตรงกับหัวข้อแล้วสินะ J 555”
“ไอ้ดำ!! อย่างเพิ่งเข้าโลกส่วนตัวแก มาช่วยงานร้านก่อนโว้ย”
เสียงแหล่มจากห้องครัวดังเข้ามา ทำเอาเขาที่กำลังเพลินกับการดูรูปอยู่ถึงกับเซ็ง เมื่อถูกเรียกว่าดำ (ไม่ได้ดำโว้ย! เขาเรียกผิวสีแทน)
แต่ถ้าให้เถียงกับพี่สาวที่ขึ้นชื่อว่าปากจัด แถมยังเป็นหญิงโสด(อายุครึ่งของห้าสิบ) ชายหนุ่มต้องของโบกธงขาวก่อน ดังนั้นถ้าชายหนุ่มยังไม่รีบออกจากโลกส่วนตัวแล้วไปประจำที่เคาเตอร์ เกรงจะไม่ได้ถ่ายภาพอีกตลอดชีวิต เลยรีบไปทำหน้าที่ตนทันที
.
.
.
“ จุงฮง จงออบ อยากกินอะไรก็สั่งนะ มื้อนี้ไอ้ฮิมชานเลี้ยง ”
“ ช่ายยย พี่เลี้ยง....ไอ้กุกจ่าย ”
เสียงหัวเราะของผมกับจุงฮงดังขึ้นเมื่อรับเมนูจากมือพี่พนักงาน เพราะประโยคสนทนาระหว่างเพื่อนสนิทที่มักจะกัดกันตลอดอย่างพี่ฮิมชานและพี่ยงกุก หลังจากที่มีพี่ฮิมชานย้ายมา ก็มักจะมีโมเม้นแบบเพื่อนที่ชอบกัดกันตลอด เวลาอยู่กับสี่คน และวันนี้หลังเลิกเรียน พี่ยงกุและพี่ฮิมชานก็มารับผมกับจุงฮงกลับบ้าน โดยแวะกินข้าวก่อนที่ร้านใกล้คอนโด
“ จุงฮง อ่ะมะเขือเทศที่จุงฮงชอบ ” เสียงพี่ยงกุกที่ตักเอามะเขือเทศในจานตัวเองไปให้จุงฮง ไอ้เพื่อนของสนิทผมก็ยิ้มกว้างทันทีที่มีคนให้ของโปรด ทำให้...
แหวะ x2
“ จงออบ พี่ฮิมชาน เป็นอะไรหรือเปล่าฮะ ” ครับ ทั้งผมกับพี่ฮิมชานก็ร้องออกมาโดยไม่ได้นัดกัน
“เปล่าหรอก พี่แค่กินไปกินมา อาหารมันเลี่ยนขึ้นมาเฉยๆ เนอะจงออบบี้”
พี่ฮิมชานตอบจุงฮง แล้วหันมาถามความเห็นผม
“ ฮะ ” ซึ่งแน่นอนว่าผมรับทัน จุงฮงก็ดูไม่สงสัย ทั้งทีความจริง...ผมและพี่ฮิมชานกินอาหารเผ็ดกัน แต่ก็คงมีพี่ยงกุกที่สังเกต เลยเอื้อมมือจะมาตบหัวพี่ฮิมชาน และแน่นอนพี่ฮิมชานก็หลบมาอยู่หลังผม และการโต้วาทีของเพื่อนคู่กัดก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
-----------------------------------
*แก้ไขเนื้อหาค่ะ เพิ่มความยาวของแต่ละตอน
คือเราจะกลับมาแก้เนื้อหาคำผิด และเรียบเรียงให้ใหม่หมด
เปิดตัวทุกคู่ ในอินโทร คอมเม้นหน่อยนะ
ความคิดเห็น