ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    dream love to starฝากฝันรักสู่ดวงดาว

    ลำดับตอนที่ #1 : start something new...

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 51


    Dream love to star

    ฝากฝันรักสู่ดวงดาว

     

    * ทุกอย่างที่ถูกเขียนไว้เป็นเพียงนามสมมุติเท่านั้น

     

                    ที่สุขุมวิท  ประเทศไทย  ปีค.ศ. 1996 เวลา09.00น.

                    ตาล...เดี๋ยวยกของๆลูกขึ้นไปจัดก่อน ส่วนข้าวของๆแม่กับพ่อ  แม่กับพ่อทำเอง... ห้องของลูกอยู่ริมสุดสีขาวนะ ข้าวของรกรุงรังอันเนื่องมาจากการย้ายบ้านใหม่ของครอบครัวน้ำตาล เด็กสาวร่างสูงโปร่งที่มีนิสัยร่าเริงชอบพูดชอบคุยผมซอยสั้นประบ่า ผิวขาวอมชมพูแววตาเข้มแข็ง มองดูแล้วเหมือนชายปนหญิงยิ่งนัก สำหรับเธอการย้ายบ้านครั้งเป็นการย้ายบ้านครั้งที่3แล้ว...

                    คะ เด็กสาวตอบสั้นๆพลางมองสัมภาระของตัวเองก่อนจะยกขึ้นไปบนห้องของตน เมื่อขึ้นไปถึงห้องนอนที่ฉาบด้วยสีขาวของเธอ เธอก็บ่นอุบอิบแสดงความรำคาญใจเล็กน้อย

                    เฮ้อ~ เบื่อจังยังมีเพื่อนได้ไม่เท่าไหร่ก็จากกันอีกแล้วนะ เด็กสาวทำหน้ามุ่ย ก่อนจะลุกขึ้นมาเก็บข้าวของตนเอง เมื่อทุกอย่างเข้าที่ เธอก็จัดการกุลีกุจรเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายอันเหม็นเน่าจากการไม่ได้อาบน้ำมาหนึ่งวันเต็ม

                    เธอนึกขำตัวเองเล็กน้อย ที่อยู่มาได้ยังไงโดยไม่อาบน้ำมาหนึ่งวันเต็ม

                    หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายจนสะอาด หอมชื่นใจตามแบบของสาวน้อยร่างสูง เธอเชคดูที่กระจกเล็กน้อยแล้วจึงลงมายังชั้นล่าง

                    แม่คะ ตาลหิวข้าวจังเลยทำกับข้าวให้ตาลหน่อยจิ นะนะนะคุณแม่สุดสวย~” สาวร่างสูงออดอ้อนผู้เป็นแม่ทำอาหารให้

                    ไม่ต้องมาอ้อนเลยเรานะ ทำไมไม่หัดทำเองบ้างละ โตไปจะได้ทำให้แฟนกินไง ผู้เป็นแม่สั่งสอนสาวน้อยตัวสูงแต่ดูเหมือนกับว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ฟังเลย

                    ก็ตาลอยากกินฝีมือแม่คนเดียวนี่นา น้า~ทำให้ทานหน่อยนะคุณผู้หญิงแสนสวย สาวน้อยร่างสูงออดอ้อนผู้เป็นแม่ยิ่งขึ้นจนผู้เป็นแม่ต้องยอมจำนน

                    ก็ได้แต่เราต้องมาช่วยแม่ด้วยนะ แม่ทำเสียงดุก่อนจะเข้าครัวพร้อมลูกมือตัวป่วนอีกหนึ่งคนที่ตามหลังไปติดๆ

                    หลังจากนั้นเวลาผ่านไป10นาที

                    เสร็จแล้ว!!” เด็กสาวร่างสูงร้องออกมาด้วยความดีใจ ดวงตาแพรวพราวระยิบระยับ น้ำลายหยดออกมา เพราะอาหารที่ตนได้ทำออกมาเสร็จซักที

                    ตาล... ไปเรียกคุณพ่อมาก่อนเดี๋ยวแม่ตักข้าวไว้รอ คุณแม่พูดขัดทันทีที่เห็นเด็กสาวร่างสูงกำลังจะเขมือบอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ

                    เด็กสาวทำหน้าผิดหวังเล็กน้อยและรีบวิ่งไปตามคุณพ่อสุดชีวิต

                    ทานละนะคะ เด็กสาวพูดขึ้นก่อนจะลงมือสวาปามอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า

                    ตาล... ค่อยๆกินก็ได้เดี๋ยวติดคอหรอกลูก ผู้เป็นพ่อปรามสาวน้อยแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะมุ่นอยู่กับการกินอาหารที่วางอยู่ตรงหน้ามากกว่า

                    อุบ แคก แคก แคก เสียงไอของเด็กสาวร่างสูงดังขึ้นหลังจากสวาปามอาหารเร็วเกินไปโดยไม่ดื่มน้ำตามเข้าไปเลย

                    ไม่ต้องกลัวใครมาแย่งเราหรอก เฮ้ย... นี่ยังจะเพิ่มข้าวอีกเหรอเนี่ยเชื่อเลยลูกคนนี้ ผู้เป็นพ่อทำท่าหนักใจเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วงว่า ลูกเราเป็นผู้หญิงจริงรึเปล่าทำไมไม่มีความอ่อนหวานเอาซะเลย

                    อืม... ตาลแม่หาโรงเรียนให้ลูกแล้วนะเดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ไปส่ง

                    คร้าบบบ เด็กสาวร่างสูงพูดก่อนจะหันไปม่วนกับการกินอาหารต่อ พลางคิดในใจว่าเพื่อนใหม่อีกแล้วเหรอเนี่ย... หวังว่าคงไปได้สวยนะ...

                   

                   

                    หันมาที่อีกฟากหนึ่งของประเทศ

    ที่เมืองโตเกียว  ประเทศญี่ปุ่น  ปีค.ศ.1996

                    คุณหนูยูมิโกะคะ ตื่นได้แล้วคะคุณหนู หญิงสาววัยกลางคนชาวญี่ปุ่นเรียกชื่อเด็กสาวแสนสวยที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียง

                    ใครว่าฉันอยู่ตรงนั้นละ ฉันอยู่ตรงนี้ต่างหากนามิ เด็กสาวร่างเล็ก เงียบขรึมใส่ชุดยูกาตะนั่งบนระเบียงหน้าต่างดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนส่งมาให้หญิงสาววัยกลางคน

                    คุณหนูคะ ได้เวลาแล้วคะ หญิงสาววัยกลางคนพูดพร้อมฉีดยิ้มให้สาวน้อยร่างเล็ก

                    ไปนะ เดี๋ยวก็กลับมาแล้วละ เด็กสาวพูดขึ้นพร้อมเดินจากห้องของตนไป  สำหรับยูมิโกะแล้วนามิเป็นแม่นมที่เธอรักมากที่สุดคนหนึ่ง เป็นเพียงคนเดียวที่เข้าใจเธอซึ่งผิดกับคนที่เป็นแม่แท้ๆของเธอเอง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆจะไม่ถามเรื่องอื่นนอกจากการปฏิบัติตัวของเธอีที่โรงเรียน และวันนี้ก็เป็นวันที่เธอจะต้องไปแข่งขันจัดดอกไม้เพื่อเป็นชื่อเสียงของวงตระกูล

                   

                    ถึงที่จัดดอกไม้เมืองเกียวโต

                    เมื่อหญิงสาวร่างเล็กก้าวเท้าลงจากรถลีมูซีนสุดหรูของแม่เธอก็ต้องเจอกับกองทัพนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ หญิงสาวร่างเล็กทำได้เพียงแต่ยิ้มรับหน้ากล้องเท่านั้น เพราะผู้ตอบการสัมภาษณ์แทนเธอก็คือแม่ของสาวน้อยนั่นเอง

                    เมื่อเข้าไปในพิธีจัดดอกไม้ตามวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงัดเพราะต้องการชมความงามของหญิงสาวและความงามของดอกไม้ควบคู่กัน

                    หมายเลข7 ซากิ ยูมิโกะ

                    เสียงกรรมการเรียกชื่อคนต่อไปซึ่งคนต่อไปก็คือสาวร่างเล็กนั่นเอง เธอไม่มีท่าทางตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อยมีเพียงความสง่างามของผู้ดี ควบคู่กับความงามของสาวร่างเล็กทำให้ผู้เป็นแม่ของเธอฉีกยิ้มร่าพร้อมชูคอเพื่อประกาศชัยชนะ

                    เมื่อพิธีจัดดอกไม้เสร็จสิ้นลงก็ได้เวลาประกาศชื่อผู้ชนะเลิศ

                    คนที่ชนะเลิศการแข่งจัดดอกไม้ครั้งนี้คือ... คุณซากิ ยูมิโกะครับ

     

                    หญิงสาวร่างเล็กเดินขึ้นไปบนเวทีเพื่อรับรางวัลด้วยท่วงท่าที่สง่างา และกลับมาด้วยท่าทางที่สง่างามเช่นเคยโดยมีผู้เป็นแม่ฉีกยิ้มร่าตามหลัง เมื่อจบการแข่งสองแม่ลูกก็เดินขึ้นรถคันหรูของพวกเธอกลับมายังคฤหาสน์ของพวกเธอ

                    และก่อนร่างเล็กจะลงจากรถผู้เป็นแม่ก็พูดขึ้น

                    เดี๋ยว...ยูมิโกะทำได้ดีมากพรุ่งนี้แกจะต้องชนะพิธีชงชาให้ได้นะ ที่เหลือฝากด้วยละ ผู้เป็นแม่บอกกับร่างเล็กก่อนจะนั่งรถออกไป

                    ร่างเล็กนึกในใจพลางคิดว่า อย่ามาหวังอะไรกับคนอย่างชั้นจะได้ไหม...

     

     

                    วันรุ่งขึ้นที่กรุงเทพ

                    เฮ้อ~ น่าเบื่อจังเลยรถจะติดอีกนานมั้ยแม่ เด็กสาวร่างสูงถามด้วยท่าทีหงุดหงิดก่อนจะเปิดเพลงวิทยุฟัง

                    คอยเตือน...และบอกไว้อย่าเผลอไปมีใจให้กับเธอ
    และไม่มีทาง...ที่จะเปิดใจ ...ที่จะปล่อยใจให้ผูกพัน
    แต่ฉันมันคงเหงาอยู่เกินไป ก็เลยไม่อาจฝืนเก็บในใจ

    ทุกครั้งที่เธออยู่ตรงนี้ ในใจคนๆนี้
    ก็อยากบอกความจริงให้เธอรู้

                      **I think I love you ยิ่งคิดยิ่งมั่นใจ
    Cause I miss you วันไหนไม่เจอเธอแล้ว
    ใจมันจะลนลาน ดูมันเดียวดาย
    ก็ใจมันร่ำร้องอยากพบเธอ
                     I'm falling for you ไม่รู้เพราะอะไร
    Now I need you รู้เพียงแค่วันนี้
    แค่มีเธอเคียงกาย มีเธอในใจ
    ก็อบอุ่นไม่เหมือนอย่างที่เคย I love you

                     เราต่างกัน แต่ผูกพัน ฉันรู้ เป็นเพื่อนเธอคนหนึ่ง
    ก็เราไม่เคยห่างกัน แต่คิดจะมาคบกัน ไม่รู้จะรักกันได้อย่างไง
    ได้แต่คิดและทบทวนอยู่ในใจ ...ก็ยังมัวทนฝืนอยู่ทำไม
     ทุกครั้งที่เธออยู่ตรงนี้ ในใจคนๆนี้
    ก็อยากบอกความจริงให้เธอรู้

                      **

                     ก็ยังยืนยันอยู่กับใจตัวเองก่อน
    ที่ยืนยันที่จะรักเธอเท่านั้น Oh! Yeah...
    ก็ค้นรักที่ตามหา รอเพียงเวลาจะเผยใจกัน แต่ฉันยังกลัวๆ
    แต่ฉันยังไม่กล้าบอกเธอ ให้รู้

                    **

                    ร่างสูงทำเสียงในลำคอประกอบกับเพลงที่เปิด  โดยมีผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางคิดว่า ลูกเราก็มีความเป็นหญิงเหมือนกันนะ

                    แม่วันนี้วันอะไร สาวน้อยร่างสูงพูดขึ้น

                    วันกะ...ก็วันศุกร์ไง นี่ลูกไม่รู้เหรอ ผู้เป็นแม่รีบปรามปากตัวเองทันทีเพราะเกือบหลุดสิ่งที่ไม่สามารถพูดออกไปได้

                    เปล่า... เด็กสาวร่างสูงพูดพลางหน้าทำหน้าเศร้าเล็กน้อยทำให้ผู้เป็นแม่เกือบหลุดปากหลายครั้ง และที่เธอถามคำถามนี้เพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ 

                    เอ้า...ถึงแล้ว เข้ากับเพื่อนให้ได้นะสู้ๆ!!” เด็กสาวหลุดจากความภวังค์แห่งความเศร้ามาแล้วหันไปยิ้มให้แม่ของเธอ ก่อนจะลุกออกไป

                   

                    ที่โรงเรียนใหม่

                    เอาละนะทุกคน วันนี้เรามีนักเรียนใหม่หนึ่งคน ขอให้เป็นเพื่อนกันไว้นะครูประจำชั้นของเด็กสาวร่างสูงพูดขึ้น ทำให้ร่างสูงเกร็งนิดๆ

                    สะ...สวัสดีคะชื่อวิทรานันท์ สุริยะกาลอายุ16ปีแล้ว ชื่อเล่นน้ำตาลยินดีที่ได้รู้จักฝากเนื้อฝากตัวด้วยด้วยนะ ร่างสูงยิ้มและโค้งตัวอย่างสุภาพ

                    งั้นเธอไปนั่งข้างหัวหน้าห้องนะ มินตราฝากเพื่อนด้วยนะ ครูชี้ไปที่ที่นั่งข้างหน้าต่างซึ่งมีสาวสวยนั่งข้างๆโต๊ะของเธอ

                    คะ เด็กสาวตอบสั้นๆแล้วเดินไปยังที่นั่งของตัวเอง

                    ดีจ้ะ ชื่อมินตรา มินตรา วิทยาวัลย์เป็นหัวหน้าห้องเรียกสั้นๆว่ามินก็ได้ยินดีที่ได้รู้จักนะ สาวสวยข้างสาวสูงทักทายพร้อมรอยยิ้มแสนหวานทำให้สาวสูงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

                    ยินดีเช่นกัน มินเรียกอย่างนี้ได้ใช่มั้ย ร่างสูงถามแสนสวย

                    ได้ซิ ไม่ได้จดลิขสิทธ์ไว้ซักหน่อย สาวสวยพูดพลางหัวเราะร่างสูงทำให้ร่างสูงหัวเราะตามไปด้วย

                    นี่...คุณหัวหน้าห้องกับนักเรียนใหม่ ครูจำได้นะว่าให้เราสองคนสนิทกันแต่ไม่ได้หมายความว่าคุยกันในห้องได้นะ ครูทำเสียงดุก่อนจะหันกลับไปสอนต่อ

                    เห็นมั้ยโดนดุเลย สาวสวยที่นั่งข้างๆกระซิบบอกร่างสูง

                    เพราะมินนั่นแหละ ทำให้ตาลโดนดุเลย ร่างสูงบ่นกลับ

                    อ้าว ก็ผิดทั้งคู่นั่นแหละ สาวสวยโต้กลับ

                    แต่ที่ผิดมินต่างหาก ร่างสูงพูด

                    กะ...

    อะแฮ่ม

    ยังไม่ทันสาวสวยจะพูดขึ้นก็มีเสียงจากสาวใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างหน้าห้องขัดขึ้น ทำให้สาวสวยหยุดการสนทนาเมื่อครู่นั้นโดยเร็ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×