อ้อมกอดนี้เพื่อเยียวยา

ข้อมูลเบื้องต้น

มารู้จักวิธีการบำบัดสภาพจิตใจด้วยการสัมผัสกันดีกว่าค่ะ

เนื้อเรื่อง

                                              อ้อมกอดนี้เพื่อเยียวยา (HUG Therapy)

              คุณเคยรู้กันหรือไม่ว่า อ้อมกอด ของคนเราสามารถเยียวยาและรักษาโรคกันได้ด้วยนะคะ เพราะกอดคือการสัมผัสชนิดหนึ่ง  ซึ่งมีผู้รู้และสถาบันวิจัยหลายที่ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องสัมผัสบำบัดเอาไว้ดังนี้

             ทฤษฎีของสัมผัสบำบัดนี้  ในศูนย์ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการสัมผัส เช่น  สถาบันการวิจัยเรื่องการสัมผัสที่มหาวิทยาลัยไมอามี  (Touch Research  Institutes  at  The University of Miami School of Medicine)  ก็ได้นำเรื่องสัมผัสบำบัดมาเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของการบำบัดทางการพยาบาล  แล้วพบว่าผลที่รับเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก

             นอกจากนั้นแล้ว Dolores Krieger   R.N. Ph.D. ซึ่ง เป็นศาสตราจารย์ทางการพยาบาลที่ New York University และเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาการบำบัดด้วยการสัมผัส   กล่าวว่า บุคคลที่ได้รับการกอดจากผู้อื่น หรือได้กอดผู้อื่น  จะทำให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของ Hemoglobin  ทำให้เกิดการลำเลียงของ oxygen ไปเลี้ยงเนื้อเยื่อต่างๆ ทำงานได้อย่างทั่วถึง  ทำให้บุคคลนั้นเกิดความรู้สึกสดชื่น  มีชีวิตชีวาเพิ่มมากขึ้นด้วย

            มีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ช่วยยืนยันได้ว่าในผู้ป่วยสูงอายุ (อายุ70ปีขึ้นไป)   พบว่า เมื่อได้รับการกอดเพื่อบำบัด ทำให้ผู้สูงอายุ มี ภาวะสุขภาพจิตที่ดีขึ้น   มีความกระตือรือร้นมากขึ้น  มีความต้องการที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป และมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆเพิ่มมากขึ้นไปด้วย

           เพราะอะไร ทำไมกอดหรือการสัมผัสจึงสามารถเยียวยาและรักษาโรคได้ก็เพราะว่า

          การสัมผัสอันเต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใย จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า และลดระดับความวิตกกังวล   ดังนั้นมันจึงส่งผลทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ  มีพลังในการดำเนินชีวิต มีกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหาต่างๆที่เข้ามา   นอกจากนั้นแล้วการสัมผัสยังช่วยให้เด็กที่คลอดก่อนกำหนด ได้รับการชดเชยเสมือนอยู่ในตู้อบ  ทำให้เด็กเหล่านั้นเติบโตขึ้นมาแล้ว มีทักษะในการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น

          การกอดหรือการสัมผัสนั้น ถูกมองว่าให้ผลดีในด้านสภาพจิตใจค่อนข้างมาก  มันทำให้คนที่ถูกกอดรู้สึกดีต่อตนเองและผู้อื่น  ทำให้คลายความรู้สึกเหงา แล้วยังช่วยลดระดับความกลัวในจิตใจได้ด้วย ดังนั้นเมื่อความกลัวถูกขจัดออกไป คนๆนั้นก็เริ่มที่จะมั่นใจในตนเองมากขึ้นและกล้าที่จะเปิดประตูออกมาเพื่อเผชิญกับปัญหาที่กำลังกลัว   ที่สำคัญคือการกอดเป็นการทำให้คนที่คิดว่าไม่มีใครสนใจเขาเลย รู้สึกได้ว่าเขาก็มีความสำคัญ สิ่งนั้นส่งผลต่อสภาพจิตใจในเรื่องการสร้างความภูมิใจให้ผู้ที่ถูกกอดได้เป็นอย่างดี  

         ว่ากันว่าการกอดที่ปราศจากเรื่องอารมณ์ทางเพศยังสามารถถ่ายทอดพลัง และกำลังใจจากผู้กอดไปยังผู้ที่ถูกกอดได้เป็นอย่างดียิ่งด้วย

         การกอดเพื่อบำบัดไม่ได้จำกัดในเรื่องเพศ อายุ  หรือสภาวะใดๆของผู้กอดเลย เพียงแค่คุณมีใจที่จะอยากสัมผัสและถ่ายทอดพลังที่ดีๆจากตัวคุณไปสู่อีกคน แค่นี้คนรับสัมผัสก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นนั้นแล้ว

              ซาเทียร์    (Virginia Satir  , family  therapist)  ได้กล่าวเอาไว้ว่า
              คนเราต้องการการกอดวันละ  4 ครั้ง   เพื่อการดำรงชีวิตอยู่
              คนเราต้องการการกอดวันละ  8 ครั้ง เพื่อการดำเนินชีวิตต่อไป
              คนเราต้องการการกอดวันละ 12 ครั้ง เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี

          แล้วคุณล่ะวันนี้คุณกอดใครที่อยู่ข้างๆกายคุณบ้างหรือยัง ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นพ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง ลูกๆ หรือคู่ชีวิตของคุณเอง  อย่าลืมนะคะ ถ่ายทอดพลังในการสัมผัสให้คนที่รักบ้าง วันละครั้งสองครั้งก็ยังดีค่ะ อย่าปล่อยให้ใครบางคนต้องกอดตัวเองเพื่อบำบัดเลย จริงไหมคะ??

                                                                            

                                                                                 นางฟ้าในสายลม