คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบท : กำเนิดเทพมารสวงสวรรค์
เมืองฟลอเทียร์ หรือมีอีกหลายชื่อว่า เมืองแห่งอนาคต เมืองแห่งพลัง ผู้คนในเมืองต่างเป็นผู้ใช้พลังจิตเกินกว่า 80% ของเมือง เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ ถึงจะขึ้นชื่อว่าเมืองแต่มีพื้นที่มากกว่า ทวีปยุโรปสักอีก
พลังจิตนั้นแต่ล่ะคนก็มีคนล่ะรูปแบบ โดยจะมีระดับ เลเวล 1- 10
ณ บนอาคารร้าง ฝั่งตะวันตกของเมืองฟลอเทียร์
" ฮ่าๆไม่คิดเลย ว่าวันนี้จะได้สังหารผู้ได้ขึ้นชื่อว่า พระเจ้าแห่งฟลอเทียร์ ราชันย์แห่งฟลอเทียร์ ราชันย์แห่งพลังจิต ลูเซียร์ ฟลอเรนส์ "
ผู้ชายวัยกลางคนมีหนวดเหนือปากมากมายหลายเส้น หน้าตาจัดว่า มหาโจรยังขอยกมือบายด้วยความพ่ายแพ้ต่อหน้าตา ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่หัวเราะเยาะเย้ย
แฮะๆ
ชายผู้ได้ชื่อว่า พระเจ้าแห่งฟลอเทียร์ มีเลือดไหลซึมไปทั่วบริเวณตัว
" แก !! "
ชายผู้เป็นราชันย์แห่งพลังจิตกัดฟันเรียก ด้วยน้ำเสียงที่โกรธสุดๆ
ชายหญิงกว่าพันคนรอบตัวชายหนุ่ม มีพลังจิตที่มีระดับมากกว่าเลเวล 4 จำนวนคนตอนนี้คือ เลเวล 5 400 คน เลเวล6 400 คน เลเวล 7 150 คน เลเวล 8 40 คน เลเวล 9 10 คน
" ถ้าพวกแกไม่วางยาฉันล่ะก็ ตายดีแน่ อักก!! "
พูดจบไม่ทันไร ชายหนุ่มก็บ่วนเลือดออกมาทันที
" ฮ่าๆ อุหู้วว จะตายอยู่แล้วยังปากดีอีก "
หัวกลุ่มครั้งนี้หัวเราะจนเสียงดังไปทั่วอาคารร้าง
" จัดการมันซะ วันนี้ ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าพระเจ้าจะไม่มีอยู่ในเมืองฟลอเทียร์อีกต่อไป ระวังตัวด้วยยังไงมันก็คือ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมือง ผู้ที่เป็นคนเดียวที่มีถึงพลัง เลเวล 10 "
ชายวัยกลางคนมีหนวดเขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมควักมือไปทางข้างหน้าเป็นสัญญาณว่า เริ่มจัดการได้
เหล่าชายหญิงจึงปลดปล่อยพลังจิตเต็มขีดจำกัด แล้วพุ่งมายังเป้าหมายข้างหน้านี้
" ได้ๆในเมือพวกเจ้ามาหาที่ตายเอง ไหนๆฉันก็จะตายแล้วจะทำให้พวกเจ้าตายด้วยเช่นกัน "
ตูมมมม!!!!
แรงกดดันมหาศาล จากพลังจิตเลเวล 10 ทำให้เหล่าชายหญิงที่เข้ามาขยับตัวไม่ได้ ตัวอาคารร้างเองเกรงว่าจะแตกร้าวเกือบหมดด้วยซ้ำ ต้นไม้ที่จู่ก็แตกระเอียดทันที เกรงว่าถ้ามีคนที่อยู่ในระดับเลเวลน้อยกว่าเลเวล 5 คง เหลือเพียงกองเลือดเท่านั้น เลเวล 6-7 ถึงกับยืนไม่ไหว ย่นเข่าลงแทบจะเอาหน้าลงพื้นทันที เลเวล 8 พอจะยืนได้ แต่ขยับไม่ได้ มีเพียงเลเวล 9 เท่านั้น ที่พอจะเคลื่อนไหวได้ นับว่าผู้ที่เป็น เลเวล10 นับว่าปรียบเป็นพระเจ้าได้เลยทีเดียว
อักก !!
ชายหนุ่มต้องบ่สนเลือดมาอีกครั้งที่ใช้พลังเกินขีดจำกัด พร้อมจ้องมองเหล่าผู้ใช้พลังจิตทั้งหลาย
" นับว่านี้จะเป็นการโจมตีสุดท้ายของฉันก่อนจะจากโลกนี้ไป อย่าหวังเลยว่าพวกแก!! จะได้รอดไปมีชีวิตกัน "
ชายหนุ่มกัดฟันพูดด้วยความโกรธแค้น ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าจะมีประกายอะไรบางอย่าง
ควบคุมแรงโน้มถ่วง : อุกกาบาต
ชายหนุ่มกัดฟันอย่างยากลำบาก ก่อนที่จะพูดออกมา
เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เมฆที่กระจายตัวบนท้องฟ้าในยามกลางวันกับถูกอะไรบางอย่างพลักออกไปจนเผยให้เห็นสิ่งกำลงัตกลงมา
" อ..อุกกาบาต บ้าน่าา ไม่รอดแน่ "
ชายหนุ่มคนหนึ่งในเหล่ากว่า พัน คนได้พูดขึ้น
" ขนาดใหญ่ถึง 2 ใน 4 ของเมืองฟลอเทียร์ "
ผู้ที่เป็น 1 ใน 10ของผู้ใช้พลังจิตเลเวล 9 กล่าวขึ้น
" ฉันกับพวกนี้อีก 5 คน จะเป็นคนจัดการเอง พวกแกก็ช่วยสร้างบาเรียต้านทานแรงกดดันหน่อย ฉันใช้พลังไม่ได้เต็มที่หรอกถ้ายังมีมันอยู่"
เลเวล 9 คนหนึ่งพูดขึ้น มัน 6 คนเตรียมใช้พลังจิตเพือพลักดันอุกกาบาตไปตกที่อื่น ส่วนอีก 4 คนนั้นเริ่มทำการสร้างบาเรีย เพือต้านทานแรงกดดัน
" ฝันไปเถอะ "
ชายหนุ่มพูดขึ้นก่อนที่จะยกมือที่ขาวนวลมาอย่างช้าๆ
สลาย สสารที่อยู่ในระยะ 10 เมตรทั้งหมด
ชายหนุ่มพูดขึ้น พร้อมทั้งบาเรียและตัวอาคารไม่เว้นแม้แต่ร้องเท้าหรือเสื้อของพวกมันต่างหายไปหมด ไม่เหลือแม้แต่ซาก
" สุดท้ายแล้ว "
" ฉันจะให้รางวัลสำหรับพวกแกที่มาท้าทายฉันคนนี้ "
ชายหนุ่มลอยขึ้น ผมสีดำสด หน้าตาหล่อเหลา ดวงตาสีฟ้าอ่อน ผิวที่ขาวราวกับหยก ใส่เสื้อยืดและกางเกงสีดำ
" จะทำให้พวกแกไม่ต้องทรมาณไงล่ะ "
รังสีนิวเครียร์
แสงสว่างวาบไปทั่วบริเวณ เมื่อร่างกายโดนรังสีไปราวกับโดนความร้อนมหาศาลหลอมละลายหายไปทันที ไม่เหลือแม้แต่ซากศพ
" ถึงเวลาแล้วสินะ "
ชายหนุ่มที่งอยตัวอยู่บนพื้นดินกล่าวขึ้นแล้วเงยหน้าจ้องมองอุกาบาตที่ตนเองเรียกมาพร้อมถอดหายใจ ก่อนที่ร่างกายของเขาจะหายไปทันทีด้วยการทำลายตัวเอง
เพราะหลังจากสู้กับพวกมันมานานกว่า 7 วัน 7 คืนโดยไม่พัก จนพรรคพวกของพวกมันกว่าแสนคนเหลือเพียง พัน กว่าคน เขาก็บาดเจ็บสาหัสไม่ใช่น้อย และตอนนี้เขาเองก็คงเบื่อกับโลกนี้ซะแล้วสิ
ณ กระท่อมแห่งหนึ่ง ปรากฎร่างชายหนุ่มที่นอนผอมโซเซอยู่บนพื้น ลมหายใจที่ขาดหายไป หัวใจน้อยๆก็หยุดทำงาน แต่แล้วในวินาทีต่อมา ร่างกายมันเหมือนโดนอะไรบ้างอย่างมันกระตุ้น ร่างกายมันกระตุกอยู่สองสามครั้ง แล้วร่างกายของชายหนุ่มนั้นเริ่มลืมตาขึ้นมายังงงงวย
" อ้าวไม่ใช่ว่าฉันตายแล้วหรอ "
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆแต่แล้วกลับทรงตัวไม่อยู่จนคว่ำไปกับพื้น
มันเอามือจับที่หน้าของตัวเองก่อนที่จะรู้สึกอะไรแปลกๆ ที่มือของมันเล็กกว่าเดิม มันเริ่มแสดงท่าทางตกใจและเริ่มสำรวจร่างกายตัวเอง
' นี่มันไม่ใช่ร่างกายตูนี้หว่า "
ชายหนุ่มคุ้นคิดออกมา แต่แล้วกลับ มีเสียงพยัคฆ์คำรามออกมาจากท้อง ทำให้ชายหนุ่มกุ้มท้องด้วยความหิว
" รู้แล้ว รู้แล้วน้า "
ชายหนุ่มบ่นเบาๆ แต่ก็ยังสงสัยอยู่ดีกว่าที่นี้คือที่ไหน ชายหนุ่มไม่มีอาการตกใจไปมากกว่านี้ เมื่อรู้ว่านี้ไม่ใช่ร่างกายตัวเอง เขาเป็นผู้ใช้พลังจิต แน่นอมย่อมต้องมีความใจเย็นเป็นนิสัย ถึงบางทีอาจจะมีไฟลุกขึ้นหัวบางก็เถอะ
พอก้าวออกมาจากกระท่อมโทรมๆนั้น ก็มีอย่างแทรกซ้อนเข้ามาในสมอง จนทำให้ชายหนุ่มเผลอพูดไม่ทันรู้ตัว
" เด็กคนนี้อายุ 10 ปี เป็นนายน้อยแห่งตระกูลชิง แต่ในวันครบรอบอายุ 8 ปี เขาได้ไปทดสอบต่อศิลาว่าตนเองมีพลังปราณหรือไม่ แต่แล้ว ชีวิตนายน้อยก็พลิกพัน ตัวศิลาไม่ได้ส่องแสงหรือ เปล่งสว่างอย่างไร จึงมีสิ่งเดียวที่คนเรานั้นพูดได้
ตั้งแต่วันนั้นมันก็ถูกไล่ออกจากตระกูลพ่อแม่ไม่ใยดีอะไรเลย พี่น้องก็มองดูถูกด้วยสายตาเหยียดยาม ญาติพี่น้องก็มองด้วยสีหน้าเย็นชา จนถึงปัจจุบัน มันอดข้าวมานานกว่า 2 เดือน ทั้งยังโดนพวกตระกูลชิงที่ไม่พอใจในตัวมันทำร้ายอีก "
ชายหนุ่มนึกไปแล้วรู้สึกสงสารร่างกายนี้ทันที
" ไม่ต้องห่วงในเมือฉันอยู่ในร่างกายนี้แล้ว จะแก้แค้นให้เจ้าล่ะกัน เอ๊ะไม่สิฉันต้องเปลี่ยนคำพูดเป็น ข้าสินะ อืมๆ "
ชายหนุ่มพยักหน้าไปกับคำพูดของตัวเอง
แต่ไม่ทันไรเสียงคำรามในท้องก็ตระโกนขึ้นมาอีกครา
" เออน่าๆ รู้แล้วๆ "
ชายหนุ่มกล่าวออกไป
"ต่อไปนี้ชื่อของข้าคือ ชิงหลาง "
ชายหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยความมั่นใจ
" เอาล่ะๆออกไปหาของกินในป่าละกันยังไงดูจากความทรงจำของไอ้หนูนี้ มันก็อยู่กลางป่าอยู่แล้ว "
ชิงหลางผู้มีจิตวิญญาณของราชันย์แห่งเมืองฟลอเทียร์กล่าวขึ้นพร้อมเดินก้าวออกจากประตู แต่ไม่ทันก้าวออกก็มีอะไรบางอย่างแทรกซ้อนจนทำให้ชิงหลางต้องพูดขึ้นมาอีกครั้ง
" ยังมีอีกหรอ "
ชิงหลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
อักก !!
ชิงหลางกุ้มหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ความรู้อันมหาศาลที่เกี่ยวกับลมปราณ อยู่วนไปวนมาในหัวสมองของชิงหลาง
" ชักหน้าสนุกแล้วสิลมปราณหรอ อักก ปวดหัวโว้ยย "
ชิงหลางกล่าวออกมาด้วยความเจ็บปวด
แฮกๆ
" ทีนี้คงออกได้แล้วมั้ง หิวจะแย่แล้ว "
ชิงหลางก้าวเท้าออกจากกระท่อมโทรมนั้นอย่างไม่มีอะไรมาขัดขวาง
พอมองไปยังต้นไม้น้อยใหญ่นับไม่ถ้วนดูท่าทางที่นี้คงเป็นป่าดงดิบ
ชิงหลางประกายความคิดทดลองอะไรหน่อย
เทเลพอร์ท
ชิงหลางกล่าวออกมาเบาๆก่อนที่จะหายตัวไปพร้อมปรากฎตัวที่หน้าต้นไม้ตนหนึ่งที่ห่างจากจุดเดิม 8 เมตร
" นับว่ายังใช้พลังจิตได้ คงเป็นเพราะมันเป็นพลังจิตที่ติดมาจากวิญญาณสินะ "
ชิงหลางพยักหน้าด้วยพอใจอย่างน้อยตอนนี้เขาคงสามารถหาอาหารได้
" การเทเลพอร์ทมีข้อเสียอยู่อย่าง 1คือต้องเคยเห็นสถานที่นั้นๆมาก่อนจึงจะเทเลพอตล์ได้ "
ชิงหลางกล่าวออกมา
" ก่อนอื่นต้องทำอาวุธก่อน "
ชิงหลางย่อตัวลงเอามือแตะพื้นก่อนที่จะพูดว่า
ควบคุมสสาร
ดินบริเวณกลายเป็นโคลนที่แบะออกไป มารวมตัวกันเกิดเป็นดาบยาวประมาณ 70 เซนติเมตร สีน้ำตาล
" อืม ยังพอใช้ได้อย่างน้อยก็คงฆ่าสัตว์เป็นอาหารได้ "
ชิงหลางกล่าวพรางมองอาวุธในมือ แล้วเดินเข้าป่าที่หนาทึบทันที
" ใครกันนะที่ส่งเรามาที่นี้ พร้อมกับข้อมูลลมปราณ ถ้าให้เดาดูจากการที่เคยอ่านนิยายหรือการ์ตูนพวกนั้นมาล่ะก็ พระเจ้า ..... ล่ะมั้ง "
#อย่าลืม เม้น
#อย่าลืม กดหัวใจ
#เป็น กำลังใจ ให้ไรต์นะ
ใครที่อยากมามาอ่านนิยายๆสนุกๆจากไรท์ มาคุย มาเป็นเพื่อนเล่น สามารถเม้นไอดีไลน์หรือส่งข้อความลับ เดะเชิญเข้ากลุ่ม หรือแบบ มาเตือนให้ไรท์เขียนได้น่ะ555555555555555
ความคิดเห็น