คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : สิ่งที่ต้องจำเอาไว้
7
ไหงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะเนี่ย!!
หลังจากที่เม่นบอกให้ทุกคนแยกย้ายไปหาข้อมูลมาเพิ่มเติมผลสรุปคือไม่มีใครไปหามาเลยจ้า
ครั้งก่อนฉันล่ะพวกเธอสนุกสนานดี๊ด๊ากันจะเป็นจะตาย ตอนนี้แผ่วซะล่ะ
ลาสกับเพื่อนของเขาที่ชื่อไวท์บอกไม่ได้หาข้อมูลมาเพราะยุ่งอยู่กับโปรเจคจบ
ส่วนมีทมันก็อ่านหนังสือเตรียมบทเรียนล่วงหน้าจนลืมหาข้อมูลไปสนิทแล้วฉันดันกลายเป็นคนเดียวที่หาข้อมูลมาเฉยเลย
ติ๊ด~
เหมือนลาสจะส่งข้อความบางอย่างมา ฉันเดาว่ามันต้องเป็นข้อความสำนึกผิดเรื่องที่ไม่ได้หาข้อมูลมาชัวร์
แต่ตอนนี้ฉันไม่อารมณ์เล่นด้วยเลยปัดข้อความทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
เมื่อวันก่อนพึ่งเจอกันไปแท้ๆ
อุส่าห์ไม่คุยเรื่องนี้เพราะคิดว่าลาสน่าจะเตรียมตัวมา หนอย~ ต่อให้นายทำโปรเจคจบเสร็จ แต่ถ้าไม่จริงจังกับงานนี้
มีหวังคอนเนคชั่นหายหมดพอดี เรียนจบได้แต่งานน่ะจะเอาไหมหะ!
"ไม่เป็นไรๆ
เอาเป็นว่าวันนี้เรามาทวนแผนของสัปดาห์ที่แล้วอีกครั้งแล้วกัน"
เม่นพูดขึ้น
เห้ย...เอาง่ายๆงี้เลยอ่ะนะ เสียเวลาาาา แทนที่จะได้เริ่มงานแต่นี่ต้องมาเริ่มใหม่หมด เม่นจะใจดีเกินไปแล้ว ตัวเองเป็นโค้ชแท้ๆนะ ดุซักหน่อยก็ได้ เตือนสติกันนิดนึงอ่ะ ถ้าปล่อยให้แบบนี้ต่อไปมีหวังถูกมองว่าเป็นทีมที่เหลาะแหละกันพอดี ฉันไม่อยากถูกเหมารวมไปด้วยนะ ยังไงก็เคยเป็นแชมป์งานนี้มาก่อนด้วย ไม่ชอบการทำงานแบบนี้เลย เริ่มแรกมาก็ไม่ให้ความใส่ใจกันแล้วอ่ะ
"อ้าว
ป้าจะไปไหนอ่ะ?"
มีททักขึ้นเมื่อเห็นฉันเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตู
ถ้าจะพูดอะไรเดิมๆฉันขอตัวไปสูดอากาศด้านนอกยังจะดีซะกว่า
"ห้องน้ำ"
ฉันตอบสั้นๆแล้วเดินออกมา
ถ้าไม่คิดที่จะแข่งกันจริงๆก็ไม่มีประโยชน์ที่ฉันจะให้คำแนะนำอะไร
ในขณะที่คนอื่นเขากำลังคิดงานของตัวเองจนหัวแทบแตกแต่ทีมฉันดันนั่งคุยกันแบบสบายใจเฉิบ
ทำไมฉันถึงได้รู้สึกไม่พอใจขนาดนี้กันนะ
ฉันคิดพลางเดินมานั่งลงที่ม้านั่งที่สวนสาธารณะข้างๆ
ช่วงเวลานี้ไม่ค่อยมีคนออกมาเดินมากนัก ฉันถอดหมวดออกแล้วมองต้นไม้ใบหญ้าอย่างเลื่อนลอย
ลมเย็นสบายดีแหะ~ พักสายตาหน่อยแล้วกัน~
เพราะงานร่วมงานนี้หรือเปล่านะ
รู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับไปสมัยตอนอยู่ BME อีกครั้งเลย
เหมือนตอนสมัยที่ยังคบกับอลันอยู่ ทุกครั้งที่มีการสุ่มจับฉลาก ไม่ว่าจะตอนทำงาน
สันทนาการหรือแม้แต่แข่งงาน BMC ฉันกับเขาไม่เคยได้แยกกลุ่มกันเลยซักครั้ง
สมัยนั้นฉันคิดไปเองว่ามันต้องเป็นพรหมลิขิตขอเราสองคนแน่ๆ
แต่ตอนนี้มันก็ได้พิสูจน์ว่าฉันเพ้อเจ้อไปเอง...
'โห
นี่เธอเขียนเองหมดเลยหรอ?'
'อื้ม!
เป็นไงเก่งไหมล่ะ ชมฉันหน่อยสิๆ'
'หึ
ถ้าเป็นฉันจะเอาโค้ดตรงนี้ กับตรงนั้นมารวมกัน แล้วก็...'
'ไม่ๆๆ
ครั้งนี้ฉันจะไม่ฟังอะไรนายทั้งนั้น ฉันจะเป็นคนทำให้ระบบนี้มันสมบูรณ์เอง
ถ้านายช่วยมันก็ไม่มีความหมายสิ'
'ฮะๆ
งั้นถ้าเกิดครั้งนี้เธอเขียนมันจนเสร็จแล้วเราได้ทำงานที่เดียวกันขึ้นมา
ฉันจะชมเป็นรางวัลให้ก็แล้วกัน'
'พูดจริงนะ?
นายจะชมฉันจริงๆนะ'
'แหงสิ
ฉันจะให้มากกว่านั้นก็ยังได้เลย'
'ทะลึ่ง!'
'ฮะๆๆๆ
แฟนฉันนี่อยู่ด้วยแล้วไม่มีเบื่อเลยจริงๆ'
แต่สุดท้ายตอนฉันเขียนมันเสร็จนายก็เอามันไป
สุดท้ายเราก็ไม่ได้ทำงานที่เดียวกัน
คงเพราะแบบนั้นนายก็เลยไม่ชมฉันเลยแม้แต่คำเดียว
ฉันตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาเรือนโตที่ตั้งอยู่กลางสวนสาธารณะ
นาฬิกานี้จะดังในตอนเที่ยงของวันแสดงว่าฉันเผลอหลับไปชั่วโมงกว่าได้
ปิดเสียงโทรศัพท์ไว้เลยไม่รู้สึกเลยว่ามีสายเรียกเข้าปานขนาดนี้
"ตื่นแล้วหรอ"
ฉันสะดุ้งเฮือกไปจนเกือบทำมือถือในมือตกพื้น
เมื่อได้ยินเสียงอลันดังอยู่ข้างๆ
คนที่ฉันไม่อยากเจอที่สุดในปฐพี ใครจะไปคิดว่าจะมานั่งไขว่ห้างฟังเพลงอยู่ข้างๆแบบนี้
นี่มีใครแกล้งฉันหรือเปล่า ภาพลางตา? ฝัน? ผี?...แต่อลันมันยังไม่ตายนี่เนอะ
ฉันค่อยๆเขยิบถอยออกมาห่างๆ
"ใจเย็นน่า
ครั้งนี้ฉันตั้งใจมาคุยดีๆด้วย"
"ไม่อ่ะ
ครั้งก่อนนายคุยไม่รู้เรื่องแถมยังใช้ความรุนแรงด้วย ฉันขอหลบไปดีกว่าเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง"
"ฉันก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงนะ
แต่ครั้งนี้ฉันตั้งใจจะคุยกับเธอจริงๆ"
อลันพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบ
ท่าทีของเขาต่างจากตอนที่เจอกันที่ร้านเหล้ามาก
เขาดูใจเย็นและสุขุมเหมือนกับอลันคนเดิมที่ฉันรู้จัก
เพราะแบบนั้นฉันถึงยอมนั่งอยู่ที่เดิมตามที่เขาต้องการ
ไม่รู้ว่าฉันตัดสินใจถูกหรือเปล่าแต่ลึกๆก็แอบดีใจที่เขาเข้ามาคุยด้วย
"ทีมเธอเป็นไงบ้าง"
"นายจะมาล้วงข้อมูลกันหรือไง"
"ฮ่าๆ
ถ้าทำงั้นมีหวังโดนไอ้เม่นเล่นแน่"
"นายกับเม่นก็สนิทกันดี
มีอะไรก็ไปถามมันเองเถอะ"
ฉันลืมเล่าไป ตอนก่อนที่พวกฉันจะคบกัน
ไอ้เม่นมันเคยเป็นคู่จิ้นกับอลันด้วยล่ะ
เพราะสองคนนี้อยู่ด้วยกัน ติดหนึบอย่างกับตังเม
ถ้าไม่จับซะก่อนฉันก็จะเป็นหนึ่งในแฟนคลับคู่จิ้นนี่เหมือนกัน
"พอรู้จากเม่นว่าเธออยู่ทีม
A
เลยแอบเดินไปส่องมาแต่พอไม่เห็นเธออยู่ในห้อง
เลยรู้ว่าเธอต้องแอบหนีมาหลบที่นี่แน่ๆ"
"ฉันก็ไม่ได้อยากหนีมาหรอกถ้าพวกนั้นไม่พูดแต่เรื่องเดิมๆน่ะ"
"หรอ
ให้ช่วยอะไรไหม?"
"ดูเหมือนนายจะว่างมากเลยสินะ
มีเวลามาช่วยทีมคนอื่นด้วย"
อลันชวนคุยเหมือนกับว่าระหว่างเราไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
แหม~ เก็บอาการเก่งเหมือนเดิมไม่มีผิด
ถ้าไม่รู้จบวิศวะนี่นึกว่าเรียนการแสดงมานะคะเนี่ย
"ฉันไม่ได้ห่วงพวกนั้น
ฉันห่วงเธอต่างหาก"
พอได้ยินว่าเขาเป็นห่วงทำให้ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา
ฉันกำมือตัวเองไว้แน่นโดยแอบเอาเล็บจิกเนื้อให้รู้สึกถึงความเจ็บเล็กน้อยเพื่อเรียกสติ
"ห่วง? อย่างฉันมีอะไรน่าห่วงทีไหนกัน"
สงบใจไว้ยัยไฮ หมอนี่มันตัวอันตราย
จิตใจต้องแน่วแน่น ห้ามเขวเพราะคำพูดพวกนี้เด็ดขาด
"ที่เธอออกมาแบบนี้แสดงว่าคนในทีมทำงานไปถูกใจเธอล่ะสิ
ฉันเดาถูกไหม?"
"ไม่ใช่
ฉันออกมาเพราะอยากอู้ต่างหาก"
"...ไอ้เม่นมันเคยบอกเธอหรือเปล่าว่าตอนเธอโกหกจะชอบเอียงหัวไปทางซ้ายน่ะ"
หึ่ย~ เม่นฉันเกลียดแก...
ฉันเอียงคอกลับมาที่เดิมโดยอัตโนมัติแล้วขึงตาใส่อลันที่กำลังหัวเราะเยาะเย้ยฉันอยู่
ไม่รู้เลยว่าที่อลันมานั่งคุยแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร
แต่ฉันไม่ควรจะเสวนาไปมากกว่านี้แล้ว
"ไม่รู้ล่ะ
ฉันไม่อยากคุยกับนายแล้ว"
"เลิกเรียนต่อหมอเถอะไฮ"
คำพูดของอลันทำให้ฉันหยุดชะงักไปราวกับมีใครมาหยุดเวลาของฉันเอาไว้
"จนถึงตอนนี้นายก็ยังจะมาวุ่นวายกับชีวิตฉันไม่เลิกอีก"
"เธอนั่นล่ะคิดดูให้ดี
เสียเวลาอีกตั้งกี่ปีกว่าจะเรียนจบ
สู้เธอใช้ใบปริญญาที่มีไปสมัครงานดีๆซักที่ไม่ดีกว่าหรอ"
ถึงสิ่งที่อลันพูดจะดูมีเหตุผลแต่การที่ฉันตัดสินเลือกที่จะเรียนต่อคณะแพทย์มันไม่ได้เป็นเพราะต้องการจะประชดเขาซะหน่อย
ฉันเลือกมันเพราะฉันต้องการที่จะเป็นหมอเองต่างหาก
"ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันสิ
นายมายุ่งอะไรด้วย"
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้ยินคำพูดพวกนี้จากปากของเขา
ฟังแล้วอยากซัดหมอนี่ซักหมัดสองหมัด ถ้าเม่นอยู่ด้วยล่ะมีหวังได้เปิดงานแหง
"...งั้นเอาแบบนี้ดีกว่าไหมที่รัก"
"ใครที่รักแก - -*"
"ย้ายมาอยู่ทีมฉัน
เดี๋ยวฉันจะเป็นคนขอกรรมการที่จัดงานเอง จากนั้นพอพวกเราชนะการแข่ง BMC ครั้งนี้ได้ ฉันจะขอทางบริษัทEE ให้เสนอชื่อเธอ..."
"ขอปฏิเสธ!"
เรื่องมันผ่านมานานจนฉันไม่อยากจะสานต่อแล้ว
ถึงจะเสียดายแต่ฉันก็ไม่อยากสานต่อมันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบริษัท EE หรืองานพัฒนาบ้าอะไรฉันก็ไม่เอาแล้วทั้งนั้น
ที่ตั้งใจจะช่วยฉันก็เพราะต้องการให้ฉันไปเป็นผู้ช่วยนายอีกล่ะสิท่า
เหอะ...จะให้ฉันไปเป็นเงาของนายอีกนานแค่ไหนถึงจะพอกัน
ฉันไม่โง่แบบเดิมอีกต่อไปแล้วล่ะ
"เมื่อกี้ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยิน
แต่จากนี้ไปอย่ามาคุยเรื่องพรรค์นั้นกับฉันอีก"
"ไฮ..."
"แล้วฉันก็ไม่อยากทำให้แฟนของฉันไม่สบายใจ
ฉันรักเขามากเพราะงั้นถ้าไม่มีอะไรอย่าเข้ามาคุยกับฉันอีก"
พอได้ยินแบบนั้นอลันก็ผงะไป
"นี่เธอคบกับหมอนั่นจริงๆน่ะหรอ?"
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่น
"จะต้องให้พูดอีกกี่ครั้งนายถึงจะพอใจหะ
เราเลิกกันแล้วนะ"
"กี่ครั้งมันก็ไม่เคยพอหรอก"
เขาพูดพร้อมกับดึงฉันเข้าไปกอดแน่น
ในหัวของฉันขาวโพลนไปหมดเมื่อสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นรัว
พอฉันอยู่ในอ้อมกอดที่แสนคิดถึงนี้ก็เหมือนกับตัวเองถูกดูดเรี่ยวแรงไปจนหมด
ทั้งๆที่ใจแข็งมาได้ตั้งสามปี ไม่ติดต่อ ไม่ติดตาม
ไม่สนใจ ทำทุกอย่างเพื่อที่จะลืม แต่พอมาเจอตัวเป็นๆเข้า
เพียงไม่กี่นาทีฉันก็กลับกลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเขาอีกครั้ง
ขี้โกงนี่อลัน...ไม่รู้ว่านายมันขี้โกงหรือเป็นฉันที่มันโง่เอง
เจ็บที่ทีก็ไม่รู็จักจำ
'ถ้าเกิดมึงอลันมันจะคบกับใครขึ้นมาจริงๆ
แล้วมึงคิดว่าตัวเองไม่มีทางกลับไปอยู่ด้วยกันกับมันแบบเดิมได้...'
......
'...มึงก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดหรือแสดงท่าทางหึงหวงแบบนั้นอีกนะไฮ'
คำพูดของเม่นทำให้ฉันได้สติ
พลัก!
ฉันรวบรวมแรงที่มีผลักอลันออกไป ใช่ไฮ
เธอต้องเกลียดชายคนนี้ให้ได้ คนที่ทำลายความเชื่อใจของเธอ ละเลยความรู้สึกของเธอ
คนที่ไม่พยายามรักษาเธอเอาไว้ ถ้าลืมไม่ได้ก็เกลียดเขาซะเพื่อตัวของเธอเอง
"ไฮ..."
อย่านะ...อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น...
ที่ผ่านมาฉันบล็อคการติดต่อจากทุกคนในคณะ
บล็อคเบอร์มือถือ บล็อคไลม์ บล็อคทุกอย่าง
แต่ฉันไม่ได้จริงจังขนาดที่ปลอมแปลงเครือข่ายสัญญาณเพื่อให้เขาตามจับไม่ได้ซักหน่อย
คนที่มีความสามารถระดับนายมีหรอที่จะหาทางติดต่อฉันไม่ได้
ขนาดครั้งก่อนนายยังหาทางโทรมาหาฉันได้เลย
ทำไมถึงได้ปล่อยให้เวลามันผ่านมานานขนาดนี้ แล้วทำไมถึงพึ่งมาพยายามเอาป่านนี้
ในตอนที่ฉันอยู่ได้โดยไม่มีนายแล้วอยู่ๆจะโผล่หัวมาทำไม
ตุบ...
ฉันนี่แทบหัวใจวายพอได้รู้ว่ามีใครบางคนมาแตะที่ไหล่ของฉัน
เมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็สบเข้ากับลาสที่มาในสภาพเหงื่อท่วมตัว
ฉันได้ยินเสียงหอบเหนื่อยของเขาชัดเจนมากอย่างกับมีพยาธิสิงอยู่ในปอด ใครก็ได้เอาสเตตมาให้ฉันที
ฉันอยากเช็คให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้หายใจผิดปกติ ไม่ก็เรียกรถพยาบาล
ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลให้หมอนี่ที จะหอบตายแล้วมั้ง!
ฉันรีบลุกขึ้นให้เขานั่ง
แต่ลาสกลับส่ายหัวปฏิเสธ
"ในที่สุด...ก็เจอจนได้"
เขามองหน้าฉันอย่างโล่งใจก่อนที่จะเทน้ำหนักตัวมาพิงที่ไหล่ของฉัน
"ไหวไหมเนี่ยลาส
ให้ฉันเรียกรถพยาบาลไหม?"
"ผมแค่เหนื่อยไฮ
หายใจแปบๆเดี๋ยวดีขึ้นแล้ว"
โถ พ่อยอดมนุษย์
มาทีแล้วฉันแทบจะจับนายส่งเข้าห้องฉุกเฉิน วิ่งไปไหนมาทำไมเหงื่อออกขนาดนี้เนี่ย
"แกอีกแล้วหรอวะ"
พออลันเจอลาส เหมือนเห็นสายฟ้าช็อตใส่กัน
เปี๊ยะๆ
เอาแล้วไง อีกไม่นานฉันว่าต้องมีเรื่องกันแน่ๆ
"หวัดดีค้าบบ"
ลาสยกมือแตะคิ้วทัก พร้อมขยิบตาให้ฉัน
เท่านั้นล่ะ อลันนี่ตั้งท่าพร้อมมีเรื่องขึ้นมาทันที
อย่าไปกวนตีนเขาสิลูกกก กวนฉันคนเดียวก็พอ
อย่างน้อยๆก็ไม่โดนต่อยแน่ๆล่ะ(แต่โดนหยิกแทน)
"แกใส่เสื้องาน BMC อย่าบอกนะแกก็แข่งกับเขาด้วย"
"เห็นแล้วก็ไม่น่าถาม"
"อยู่ทีมไหนหะ?"
"คนดีทำไมออกมานานจังครับ
รู้ไหมผมหาตั้งนานแน่ะ"
ลาสเมินคำถามอลันแล้วหันมาหาฉันแบบไม่รู้ไม่ชี้
"แกอยู่ ม.ไหน
ใครเป็นโค้ชไหนบอกมาดิ"
"อยู่ที่ไหนก็ไม่สำคัญ
เพราะแค่มีคนดีอยู่ด้วย ผมก็ชื่นใจแล้ว"
ลาสตอบกลับไปอย่างกวนๆแล้วเอียงหัวมาชนหัวของฉันเบาๆ
ฉันพึ่งรู้ว่าลาสนี่มีพรสวรรค์ในการกวนประสาทอลันเป็นที่สุด
แค่เจอหน้าไม่ถึงห้านาที อลันก็หลุดจนชักสีหน้าออกมาเรียบร้อย
ขอยกตำแหน่งชายหน้าตาดีที่มีดีกรีโคตรกวนส้นตีนให้นายนับตั้งแต่วันนี้เลย
อลันลุกออกจากม้านั่งแล้วเดินเข้ามาพร้อมกระชากข้อมือของฉันไป
จังหวะที่กำลังจะเสียหลักฉันก็ถูกลาสคว้าไว้
เท่านั้นไม่พอลาสอาศัยจังหวะนั้นถีบเข้าที่ท้องของอลันจนเขากระเด็นออกไป
ก่อนอลันจะกลิ้งไปนอนคว่ำกับพื้น ดีที่เขาผละมือออกจากข้อมือฉันก่อน
ไม่งั้นฉันคงถูกดึงไปด้วย
"อลัน!"
ฉันเรียกชื่อเขาออกไปด้วยความตกใจ
เตรียมจะวิ่งเข้าไปดูอาการของเขา แต่วินาทีนั้นฉันก็ถูกลาสหยุดเอาไว้ซะก่อน
ถึงนี่เป็นการแสดงก็ตามแต่ถึงขนาดต้องถีบกันขนาดนี้เลยหรอ
แต่ดีดูเหมือนอลันจะไม่เป็นอะไรมาก
เขาลุกขึ้นมาพร้อมมองค้อนไปทางลาส
"ไอ้เด็กเวรนี่!
ทำบ้าอะไรวะ!?!"
"ครั้งก่อนที่พี่ต่อยมาผมไม่ได้ถือสาอะไร
แต่รอบนี้พี่มาแตะต้องแฟนผมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดนแค่นี้น่ะยังน้อยไป"
ตอนแรกฉันคิดว่านายเรียบร้อย
ต่อมาก็เข้าใจว่าเป็นคนกวนตีน แต่ตอนนี้ดันกลายเป็นนักเลงไปซะแล้วววว
รู้ว่าเลือดมันร้อนแต่อยากจะบอกทุกคนเลยว่าใจเย๊นนนน
"ชักจะเหลืออดแล้วนะเว้ย..."
"หยุดดดดด!!
พอเลยทั้งคู่นั่นล่ะ ถ้าไม่หยุดฉันจะ..."
เอ่อ...ตั้งใจจะหยุดสองคนนี้แต่ดันไม่รู้ว่าจะขู่ว่าอะไรดี
ตอนนี้ทั้งลาสและอลันหันมามองฉันเป็นสายตาเดียว
เขาคงลุ้นอยู่ว่าฉันจะพูดอะไรต่อ เอาไงดีอาวุธก็ไม่มี แรงก็สู้เขาไม่ได้
เอาอะไรไปขู่ดี...
"จะ...จะแก้ผ้ามันตรงนี้นี่ล่ะ!!"
"ได้/เอาเลย"
นึกว่าจะช่วยห้าม - -*
ทีแบบนี้ล่ะตอบแบบสามัคคีกันเชียว
ไอ้พวกโรคจิต!!!
"โอ๊ย
ฉันพูดไปงั้นล่ะแต่นายสองคนห้ามต่อยกันเด็ดขาดเข้าใจไหม!?!"
ถึงสองคนนั้นจะยอมหยุดตามที่ฉันบอก
แต่อลันก็ยังจ้องลาสเขม็ง ส่วนลาสเองก็จ้องกลับไม่แพ้กัน ยัง...ยังไม่หยุดอีก - -*
ขอกระบองเหล็กให้ฉันที ฉันอยากจะตีหัวแล้วเอามาปรับทัศนคติกันทั้งคู่เลย
"ครั้งนี้จะยอมปล่อยไปก่อนแล้วกัน
แต่ยังไม่ยอมปล่อยเธอไปหรอกนะไฮ"
อลันทิ้งท้ายไว้ก่อนที่เดินกลับไปที่ตึกรวมของ BMC และจนถึงตอนนี้ลาสก็ยังไม่เอาหัวออกไปซักที จะวางอยู่อีกนานไหมเนี่ย หนัก!
"เธอคุยอะไรกับแฟนเก่าหรอ?"
ฉันโดนหัวลาสออกก่อนที่ตอบกลับไป
"หมอนั่นก็ถามนู่นนี่ไปเรื่อยล่ะ"
"แค่คุยก็ไม่เคยต้องกอดกันเลยนี่"
"เห็นด้วยหรอ!?!"
"อือ - -"
ทำเสียงไม่พอใจทำไม นายไม่ได้เป็นแฟนฉันนะ
เดี๋ยวเถอะ...
"แล้วทำไมอยู่ๆถึงได้ออกมาตามหาฉันล่ะ?"
"ไม่อ่านในไลม์กลุ่มเลยหรอ
คนในทีมเขากลับกันหมดแล้ว"
"หะ!?! กลับหมดแล้วหรอ"
"อือ
เพราะตอนนี้ไม่รู้จะเริ่มงานจากตรงไหนก่อนดี เฮียเม่นเลยบอกให้กลับไปก่อน
คนอื่นๆเขาก็เห็นด้วยเลย...แยกย้าย"
พัง...ทีมนี้พังแน่ๆ
เราเริ่มรู้สึกอยากย้ายไปทีมอลันขึ้นมาแล้วสิ ไอ้เม่นนนน
ทำไมปล่อยไปง่ายแบบนี้ล่ะเพื่อนนนน
"งั้นฉันกลับไปเก็บของที่ห้องก่อนล่ะกัน"
"อ่อ
ถ้าของไฮล่ะก็เฮียเม่นเก็บให้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในรถผม"
เออเนอะ เม่นมันเข้าใจไปว่าลาสเป็นแฟนฉันนี่นา
ก็ดี ขี้เกียจเดินกลับไปแล้วเหมือนกัน
"แล้วนี่หลังจากนี้
ไฮจะไปไหนต่อ?"
"ก็ต้องกลับหอสิ
จะให้ไปไหนล่ะ"
"แสดงว่าว่างใช่ไหม?"
"ไม่ได้ว่างซักหน่อย
ฉันก็ต้องเอาเวลาไปอ่านหนังสือเหมือนกันนะ - -"
"งั้นไปที่ๆหนึ่งกับผมก่อนแล้วกัน"
"ไปไหน?"
ลาสหันมาขยิบตาแล้วเขยิบเข้ามากระซิบที่ข้างหูของฉัน
"เดทไง"
ความคิดเห็น