ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Limerence Boy แฟนของฉันเป็นคนคลั่งรัก

    ลำดับตอนที่ #7 : ถูกจับได้ซะแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 64



    6

     

         ระหว่างนั่งรถกลับกับเม่น บรรยากาศแม่งอึมครึมตั้งแต่เปิดประตูรถมาล่ะ พอปิดประตูเท่านั้นล่ะ นึกว่าจะถูกส่งไปประหาร

         ต้องการอะไรจากดิฉันอีกคะ ไหนว่าจะคุยไงก็คุยเด้ ไม่ชอบตอนที่มันบอกมีเรื่องคุยแล้วไม่พูดอ่ะ

         พอรถขับออกไปได้ซักพักฉันก็ตัดสินใจทำลายความเงียบนี้โดยการเปิดวิทยุที่หน้ารถมันซะเลย

     

    เพี๊ยะ!

     

         เม่นใช้มือข้างหนึ่งประคองพวงมาลัยรถไว้ ส่วนอีกข้างก็เอื้อมมาตีมือฉันพร้อมกดปิดวิทยุ

         ก็มันเงียบบบบ มันเงียบจนเหมือนแกจะขับรถพาฉันไปเชือดคองั้นล่ะ เปิดวิทยุให้มีเสียงนิดเสียงหน่อยก็ไม่ได้ ไอ้ขี้งก!

     

    "เมื่อกี้ไอ้ลัน มันบอกว่ากลับไปกับน้องอึนจูนะ"

     

    "อึนจูไหน?"

     

         ฉันถามกลับไป พร้อมมองเม่นด้วยสายตาอาฆาต

         อยู่ๆก็พูดขึ้นมา...ที่สำคัญทำไมคุณน้องอึนจงอึนจูนั่นต้องกลับพร้อมอลันด้วย รถประจำทางอ่ะรู้จักมะ เดินไปแค่สามนาทีก็ถึง BTS ล่ะ

     

    "น้องอึนจูที่เรียน BME ดาวม.M ไง...ไม่รู้จัก?"

     

    "ไม่-รู้-จัก"

     

         ฉันพูดออกไปเสียงแข็งและชัดเจนทุกพยางค์ ตอนแรกว่าอารมณ์ไม่ดีแล้วนะ แต่เรื่องนี้ทำฉันหัวอุ่นขึ้นมาทันทีเลย เป็นถึงดาวคณะแสดงว่าต้องสวยดิแบบนี้ เดี๋ยวกลับไปฉันจะไปตามส่องในเฟส

     

    "ไอ้ไฮ..."

     

    "ว่า?"

     

    "กูจะบอกไอ้ลันเรื่องที่มึงกับกูอยู่ทีมเดียวกันนะ แล้วก็เรื่องที่มึงเรียนต่อแพทย์ด้วย"

     

    "บอกเพื่อ? "

     

    "มันจะได้ตามง้อมึงถูกที่ไง"

     

    "เอ๊า! ไหงทรยศกูงี้อ่ะ!?!"

     

         เคืองมาก!! ทำไมทุกคนถึงชอบเข้าข้างอลันทุกทีเลยอ่ะ จริงอยู่ที่อลันก็เป็นเพื่อนเม่นนะแต่ฉันก็เป็นเพื่อนมันเหมือนกันนะ ไม่ยอมอ่ะ อะไรวะ- -*

     

    "มึงคิดว่าจะซ่อนตัวไม่ให้มันเจอตลอดหนึ่งเดือนได้หรอ ทั้งๆที่ต้องมาประชุมงานตึกเดียวกันแบบนี้เนี่ยนะ?"

     

         อึก...เจ็บใจแต่ก็จริง ถ้าอลันมารู้ทีหลังว่าฉันอยู่ทีมเดียวกับเม่น มีหวังหมอนั่นได้วิ่งมาระเบิดลงถึงที่แน่ ฉันเองก็ใส่หมวกปิดหน้าไปตลอดก็ไม่ได้ แต่ถ้าให้เจอหน้ากันอีก ฉันไม่รู้ว่าจะควบคุมตัวเองได้ไหม ครั้งก่อนอลันก็ดูอารมณ์ฉุนเฉียวกว่าปกติด้วย

     

    "ไฮ กูขอถามหน่อย"

     

    "...ว่า?"

     

    "สมมติว่าถ้าอยู่ๆอลันมันทำใจเรื่องมึงได้แล้วไปคบกับน้องอึนจูขึ้นมาจะทำยังไง?"

     

    "ฝันไปเถอะ"

     

    "โห~ ตอบมั่นจังวะ"

     

    "แหงดิ ก็..."

     

         ฉันเบรคตัวเองก่อนที่จะพูดอะไรสิ้นคิดออกไป

     

    '...ก็เขาเป็นของฉันนี่'

     

         นี่ฉันคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย!! เราเลิกกันแล้วนะ ของฉันบ้าบออะไร

    เม่นเหลือบหางตามามองฉันครู่หนึ่ง แล้วก็กลับไปมองทางตามเดิม

     

    "ลึกๆแล้ว ตัวมึงก็ยังคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของมันอยู่ กูพูดถูกไหม?"

     

    "......"

     

    "นี่ล่ะเรื่องที่กูอยากคุยกับมึง ไฮ ตกลงมึงจะเอายังไงกันแน่ จะเลิกกับมันจริงๆ หรือ มึงแค่ลงโทษมันเท่านั้นวะ แต่จะเรียกว่าลงโทษกูว่ามันก็แรงเกินไปหน่อยนะ"

     

    "อย่างมึงจะไปรู้อะไร แล้วกูก็เลิกกับมันแล้วจริงๆ มีแต่มันนั่นล่ะที่ยังไม่ยอมเลิก"

     

    "งั้นต่อให้มันตามง้อ มึงก็จะไม่กลับไปใช่ไหม?"

     

    "...อืม"

     

    "แล้วต่อให้มันคบกับน้องอึนจูจริงๆ มึงก็โอเค?"

     

    "ไม่โอเค!!"

     

         ฉันพูดสวนกลับไปเสียงดัง เม่นนี่ถึงกับสะดุ้งโหยง

         เออใช่! ยอมรับก็ได้ ฉันยังรักมันอยู่ รักอลันอยู่ตลอดเวลานั่นล่ะ ขนาดสามปีผ่านมาก็ไม่มีวันไหนที่ลืมเรื่องของมันได้เลย ฉันมันคนขี้แพ้พอใจหรือยัง

         ฉันไม่ต้องการกลับไป แต่ถ้าจะต้องเห็นใครมาแทนที่ ฉันก็ไม่พอใจเหมือนกันนั่นล่ะ

         โอเค...โอเคหรอ? ถามมาได้ยังไง ลองมาตกอยู่ในสถานการณ์ของฉันดูไหมเล่า อยากจะรู้จริงๆว่าแกจะทำยังไง ถ้ายอมคบต่อก็เหมือนคนโง่ ฉันถึงได้เลือกอีกทางคือการบอกเลิกไงล่ะ

     

    "เห้ยๆ นี่แค่คุยกันเองนะ ขึ้นทำไมมึงอ่ะ"

     

    "มึงเป็นคนพูดขึ้นมาเองนี่"

     

    "...แล้วแฟนใหม่มึงนี่ใครวะ?"

     

         ฉันเม้มริมฝีปากแน่น กลับอารมณ์ไม่ทัน - -^

         ไอ้พวกนี้มันต้องคุยกันมาก่อนแล้วแน่ๆ เม่นต้องเป็นหมากตัวหนึ่งที่อลันวางไว้เพื่อที่จะมาเกลี้ยกล่อมให้ฉันใจอ่อน แหงแซะ

     

    "อลันเล่าให้ฟังแล้วหรอ?"

     

    "อือ"

     

         เห็นไหมล่ะ พวกผู้ชายชอบเข้าข้างกันเองอยู่เรื่อย

     

    "คนไหนอ่ะ ใช่พี่บอลที่ตามจีบมึงตอนปีหนึ่ง?"

     

    "เหอะ"

     

    "จิล สถาปัตย์?"

     

    "เหอะ"

     

    "...ไอ้เจมที่ทำรายงานกับเราของปีสองปะ?"

     

    "ไอ้นั่นมันเป็นเกย์ เลิกเดาเหอะ เดาไปก็ไม่ถูกหรอก"

     

    "เอ๊า แล้วใครวะ?"

     

         ฉันนี่นั่งคิดอยู่หลายนาทีว่าจะบอกดี หรือไม่บอกมันดี เม่นมันก็ไม่ใช่พวกปากสว่างหรอกแต่ประเด็นคือกลัวมันหลุดต่อหน้าอลันนี่ล่ะ

         เอาไงดี...จะโกหกว่าเป็นคนอื่นดีไหม แต่ถ้าโกหกหลายเรื่องพร้อมกันเดี๋ยวมันจะโป๊ะอ่ะดิ

     

    "...ไอ้ลาสหรอ?"

     

         O_O!! ฉันมองไปที่เม่นอย่างอึ้งๆ พยายามข่มตัวเองไว้ไม่ใช่แสดงท่าทีเลิกลักออกไป เอาล่ะ สูดหายใจเข้าไปลึกๆ หนึ่ง...สอง...หนึ่ง...สอง

     

    "น้องที่พึ่งรู้จักกันวันนี้อ่ะนะ? มึงจะบ้าหรอ เจอกันแค่นั้นจะเป็นแฟนกูได้ไง"

     

    "อ้าว! งั้นแสดงว่ามึงพึ่งเคยเจอน้องเขาวันนี้? "

     

    "ก็ใช่อ่ะดิ แถมกูยังไม่เคยคุยกับน้องเขาเลยด้วยซ้ำ"

     

    "งั้นทำไมก่อนกลับมันถึงหันมาโบกไม้โบกมือให้มึงวะ?"

     

         สรุปที่เห็นไม่ได้หลอนไปเลยค่ะท่านผู้ชม

     

    "ตอนไหน? ไม่เห็นรู้เรื่อง"

     

    "ไฮ เวลามึงโกหกมึงชอบเอียงหัวไปทางซ้าย เลิกแถ"

     

         โธ่! ทำไมถูกจับได้ง่ายแบบนี้เนี่ย ลาสบ้า! ไอ้เด็กบ้าๆๆๆๆๆ เพราะนายแท้ๆเลย!

     

    "เฮ่อ...เดี๋ยวกูเล่าทุกอย่างให้ฟังเอง แต่มึงสัญญาก่อนว่าจะไม่บอกอลันเด็ดขาด"

     

    "ทำไมถึงบอกไม่ได้วะ?"

     

    "ถ้ามึงไม่สัญญามากูจะไม่เล่าล่ะ"

     

    "เออๆ กูสัญญา ว่ามาเลย..."

     

         ฉันนี่เล่าตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน จนวันที่เจอกับอลันอีกครั้งที่ร้านเหล้าแต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่ขอให้ลาสมาให้แกล้งเป็นแฟนให้ เพราะเฉไฉไปว่าที่ต้องคบกันแบบลับๆเพราะกลัวคนที่อยู่คณะเดียวกันเพ่งเล็ง เดิมเพราะว่าฉันเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสาขานี้มาก่อน ถ้ามีใครรู้เรื่องที่เลิกกับอลันแล้วไปคบรุ่นน้องในคณะ เดี๋ยวลาสจะลำบากเอา

     

    "...กูแม่งไม่คิดเลยว่าไอ้ลันมันจะทำกับมึงขนาดนี้อ่ะ แถมยังปิดเรื่องนี้กับพวกกูอีก อยากกลับไปซัดหน้ามันชิพหาย"

     

    "ก่อนมึงทำให้กูเปิดก่อนนะ"

     

    "แสดงว่าคนที่น่าสงสารที่สุดในนี้ ก็น่าจะเป็นลาสเปล่าวะ?"

     

         อ่าว...ไหงกลายเป็นลาสได้เนี่ย เม่นพูดมาแบบนั้นฉันเลยเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

     

    "ก็มึงคบกับน้องเขาทั้งๆที่มึงยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ ถ้าน้องเขารู้แม่งไม่เสียใจแย่หรอวะ?"

     

    "พูดให้มันดีๆ ใครลืมแฟนเก่าไม่ได้"

     

    "มึงไง- -"

     

         ชิ! สมแล้วที่คบกับอลันมันได้ เซนต์ดีทั้งคู่เลย ปีศาจจจ พวกแกมันเป็นปีศาจจจ อีกอย่างลาสจะมาเสียใจอะไร ยังมีหน้ามาแหย่ กวนตีนฉันอยู่ทุกวี่ทุกวัน ถ้าเกิดมันชอบฉันจริงๆ ป่านนี้ไม่ใจสลายตายแล้วหรอ

     

    "เรื่องลาสกูคงปิดไอ้ลันไม่ได้หรอกเพราะยังไงพวกมันก็เคยเจอกันแล้วนี่ แต่ถ้าเกิดไรขึ้นกูจะช่วยห้ามให้เองแล้วกัน"

     

    "ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยค่ะ"

     

    "ไอ้ไฮ กับน้องเขานี่มึงจริงจังแน่ปะ หรือความจริงมึงแค่คบกับน้องเพื่อกันไอ้ลันมันเฉยๆ"

     

    "อย่าเพ้อเจ้อย่ะ กูจริงจังตลอดนั่นล่ะ"

     

         ไม่ได้โกหกนะ ถ้าคบใครฉันก็ต้องจริงจังกับคนๆนั้นอยู่แล้ว แต่กับลาสมันเป็นแค่การคบกันแบบหลอกๆ อีกอย่างลาสก็มีคนที่ชอบอยู่แล้วด้วย ที่ตั้งเงื่อนไขไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ปลอมๆนี่ ส่วนหนึ่งก็เพราะอยากช่วยเขาจริงๆนี่ล่ะ

         พอคุยไปคุยมา รถของเม่นก็มาหยุดลงตรงหน้าหอพักของฉันแล้ว พอฉันกำลังจะเปิดประตูออกเม่นมันก็จิกหัวฉันเอาไว้อีกครั้ง

     

    "มันเจ็บนะโว้ยย!!"

     

    "ถ้าเกิด..."

     

    "...?"

     

    "ถ้าเกิดมึงอลันมันจะคบกับใครขึ้นมาจริงๆ แล้วมึงคิดว่าตัวเองไม่มีทางกลับไปอยู่ด้วยกันกับมันแบบเดิมได้... "

     

    "......"

     

    "...มึงก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดหรือแสดงท่าทางหึงหวงแบบนั้นอีกนะไฮ"

     

    "พูดจบแล้วใช่ไหม ปล่อยซักทีกูจะขึ้นไปอ่านหนังสือ"

     

    "อ่ะๆ ถือว่ากูเตือนในฐานะเพื่อนแล้วกัน ไปล่ะ"

     

         เม่นพลักฉันออกมาจากรถแล้วก็ขับออกไป

         ต่อให้แกไม่มาบอกฉันก็รู้อยู่แล้ว เรื่องนั้นฉันรู้ดีกว่าใครทั้งนั้น ไม่ได้ต้องการคนมาซ้ำเติมซักหน่อย

     

     

         หลายวันต่อมา...

         @Aa Cafe

         ฉันมาคาเฟ่ตามที่ได้สัญญากับลาสไว้ ทว่าเมื่อมาถึงก็พบว่าลาสได้มานั่งรอก่อนแล้ว เขานั่งเคาะคีย์บอร์ดโดยไม่สนโลกภายนอกเลยแม้แต่น้อย

         ไม่ค่อยได้เห็นใครที่นั่งสนุกกับการเขียนโค้ดได้นอกจากตัวฉันมาก่อน ลาสดูจะมีความสุขกับงานของตัวเองเอามากๆเลย น่าอิจฉาจัง

     

    "แอบมองผมอยู่หรอครับ? คุณแฟนสุดที่รัก~"

     

         อยู่เงียบๆก็หล่อดีอยู่แล้ว ไม่น่าเปิดปากพูดเล๊ย

         ฉันกลอกตาขณะที่หย่อนก้นลงบนเก้าอี้พร้อมเปิดแล็ปท็อปคู่ใจขึ้นมา พอฉันละสายตาจากหน้าจอก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องฉันอยู่

     

    "มีอะไร?"

     

    "ทำไมวันนี้ดูพี่อารมณ์ไม่ดีเลยอ่ะ โกรธอะไรผมเปล่า"

     

         จะว่าไปก็อารมณ์ไม่ดีจริงๆนั่นล่ะแต่ไม่ได้เป็นเพราะนายหรอกนะ

         ลาสพับหน้าจอแล็ปท็อปลง เขาเท้าคางแล้วอมยิ้มออกมา ส่งสายตาออดอ้อนเหมือนกับน้องหมาโกลเด้นรีทริฟเวอร์ที่กำลังรอคำสั่งจากเจ้านายมาทางฉัน

         งื้อ~ทำเอาใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเลยเนี่ย

     

    "หายโกรธผมเถอะนะ"

     

         โอ๊ยยย ไม่ใช่นาย! อย่ามาง้อเหมือนตัวเองทำผิดมาได้ไหม ><!!

     

    "เก็บท่าทางแบบนั้น ไปใช้คนที่นายแอบชอบนู้น"

     

    "ก็ทำอยู่นี่หว่า"

     

    "หะ ว่าไงนะ?"

     

    "อ้อ เปล่าๆ ไม่ได้พูดไร^^"

     

         แต่เหมือนเมื่อกี้ฉันได้ยินว่านายพูดอยู่นะ - -

     

    "จะว่าไป ลาสดูไม่เห็นตกใจเลยนะที่รู้ว่าฉันเป็นรุ่นพี่คณะเดียวกัน หน้านายนี่นิ่งยังกับรู้อยู่ก่อนแล้วงั้นล่ะ"

     

         ลาสชะงักรอยยิ้มไปแวบนึง ก่อนจะปรับสีหน้าให้กลับมายิ้มหวานอีกครั้ง

     

    "ตกใจมากเลยต่างหาก ผมเป็นคนเก็บสีหน้าเก่งไง พี่เลยดูไม่ออก"

     

         จะจริงหรือเปล่านะ ลาสมองหน้าฉันคล้ายกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง

         ฉันหลบสายตาแล้วกลับไปสนใจหน้าจอตัวเอง

     

    "อะ...อีกอย่างนะ ฉันจะไปโกรธอะไรนายได้ไง ครั้งก่อนนายก็แกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉันแล้วนี่"

     

    "พี่ไม่รู้หรอกว่าผมเสียใจแค่ไหน พี่ดูเย็นชากับผมมากเลย"

     

    "จากนี้ก็น่าจะคุยกันได้บ้างแล้วล่ะ ไหนๆก็อยู่ทีมเดียวกันนี่"

     

    "จริงนะ? O.O"

     

    "ฉันเริ่มอยากจะแก้เงื่อนไขที่ตั้งไว้อยู่เหมือนกัน รู้สึกเหมือนมันจะไม่จำเป็นแล้วยังไงไม่รู้"

     

    "หึ ที่จริงจะให้แกล้งเป็นคนไม่รู้จักก็สนุกดีนะครับ ผมแสดงเก่งจะตาย ใครก็จับไม่ได้หรอก"

     

         พอได้เห็นท่าทีที่แสนจะภูมิใจของลาส มันทำให้ฉันฉีกยิ้มหวานพร้อมกับหยิกแก้มเขาไปหนึ่งที

     

    "โอ๊ยๆๆ"

     

    "จ้าๆ เก่งเหลือเกินเพราะนายหันมาโบกไม้โบกมือนี่ล่ะ ไอ้เม่นมันถึงจับได้ไงว่าเรารู้จักกันน่ะ"

     

    "ไม่ใช่ว่าพี่ไปเผยไต๋ให้เขาจับได้หรอ...โอ๊ยๆๆๆ"

     

    "เงียบไปเลยยยยย"

     

    "โอย~ เฮียเม่นรู้เรื่องที่เราแกล้งคบกันแล้วหรอครับเนี่ย"

     

    "เรื่องนั้นไม่ได้บอก ฉันบอกไปว่าเราคบกันจริงๆน่ะ"

     

         ถ้าฉันจดจ่อกับงานของทีมมากกว่านี้บางทีอาจจะลืมของอลันไปได้ช่วงหนึ่งแต่ถ้าทำแบบนั้นเวลาที่ต้องเจอกันเข้าจริงๆมีหวังฉันทำตัวไม่ถูกแน่

     

    "นี่ลาส"

     

    "ครับ?"

     

    "ไม่ต้องเรียกฉันว่าพี่แล้วก็ได้นะ"

     

         ลาสอึ้งและไม่แสดงอาการแปลกใจมากนัก กำลังคิดอะไรอยู่กันนะ

     

    "งั้นขอเรียกว่า 'ที่รัก' หรือไม่ก็ 'คนดี' ได้ไหมครับ^_^"

     

         ในหัวประมวลผลอยู่ซักพัก...L O A D I N G . . .

     

    "ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นซักหน่อยตาบ้า!"

     

         ฉันเสียอาการจนเพลินตัวไปหยิกแก้มเขาอีกครั้ง ทั้งๆที่ถูกหยิกอยู่แท้ๆแต่กลับทำหน้ามีความสุขจนอออกหน้าออกตาซะได้ หรือที่จริงหมอนี่เป็นมาโซคิสม์ = =;

         ฉันผละมือออก...ไม่ต้องมาทำหน้าตาใสซื่อแถวนี้นะยะ ครั้งนี้ฉันไม่หลงกลหรอก

     

    "ฉันแค่รู้สึกขัดๆเท่านั้นเอง นายน่ะเดี๋ยวพูดเพราะ เดี๋ยวพูดห้วน ที่จริงไม่ใช่คนสุภาพหรอกใช่ไหม"

     

    "อ้าว รู้ด้วยหรอ?"

     

    "ยังไงตอนนี้เราก็เป็นเหมือนเพื่อนกันแล้ว จะเรียกไฮเฉยๆก็ได้ ฉันไม่ติดอะไรหรอก"

     

    "โอเค งั้นถ้าอยู่กันสองคนขอเรียก 'คนดี' ได้ไหม"

     

    "-____-"

     

    "ขอบคุณครับ"

     

    "ยังไม่ได้อนุญาตเลย!"

     

         ลาสหัวเราะออกมาลั่น เฮ่อ! นี่นับวันฉันยิ่งรับมือหมอนี่ยากเข้าไปทุกทีๆ

         หึ่ยยยยย ถึงจะหงุดหงิดแค่ไหนแต่หน้าตอนเขาหัวเราะมันทำให้ฉันโกรธไม่ลงอีกแล้ว อยากเอามือไปหยิบแก้มนุ่มๆนั่นอีกซักที คนอะไรผิวดี๊ดี ดีกว่าผู้หญิงแบบฉันอีก นี่น่ะหรอความแตกต่างของอายุ ฮรือออT^T

         เราอายุห่างกันตั้งห้าปี ไม่มีทางที่ฉันจะถูกเด็กขนาดนี้ปั่นหัวเอาได้หรอก

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×