คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : อย่าเข้าใจฉันผิด/โปรดอย่าเข้าใจฉันผิด
" ฉันก็ไม่อยากจะทำให้เธอต้องเสียใจ "
" และก็ไม่อยากไม่อยาก เป็นคนทำร้ายเทออย่างนี้ "
" ถึงเแม้ทุกสิ่ง ทุกอย่างที่ฉันทำแล้วดูไม่ดี "
" แต่ขอสักที ถ้าเธอจะมีจิตใจ "
กัปตัน : " พี่ไวท์จอดรถเหอะ "
ผม : " จอดไมอ่ะ "
กัปตัน : " ก็เราขับวนที่เดิมมาหลายรอบแล้ว!! "
ผม : " บ้า!! ทะเลมันก็เหมือนๆกัน จำผิดแล้ว "
กัปตัน : " จริง!! ดูดิ "
ภาพตรงหน้าผมตอนนี้ยังเป็นหาดทรายเดิมที่เราเพิ่งถ่ายรูปเล่นกันไป ผมยอมจำนนต่อหลักฐานตรงหน้า ก้มหน้าฟุบไปกับพวงมาลัย ... อารมย์ผมตอนนี้เป็นศูนย์ มันไม่มีความรู้สึก ความกังวล ความกลัว ความโกรธ ไม่มีอะไรเลยทั้งในหัวใจ และในสมอง ทำได้เพียงสูดหายใจแรงๆ เพื่อในอ๊อกซิเจน ไปเลี้ยงสมองบ้างเท่านั้น
กัปตัน : " ถ้าพี่ไวท์ไม่รู้จะไปไหน เรากลับบ้านกันไหม? นอนเล่นเกมส์อยู่บ้านก็ได้นะ เหนื่อยมามากแล้ว "
เจ้าของเสียงพูดจาแบบเด็กติดเกมส์ แต่แววตาแฝงความหมาย .. น้องคงมีคำถามมากมาย ที่อยากรู้ แต่ไม่อยากถาม ผมคิดชั่งใจอยู่สักพัก ก่อนจะรวบรวมเรี่ยวแรง และเล่าเรื่อทั้งหมดออกไป
ผม : " มีอะไรที่สงสัย? ถามได้นะ..พี่พร้อมจะตอบ "
กัปตัน : " ถามได้จริงน่ะ?? "
แววตาน้องลิงโลดทันทีที่ผมเอ่ยปาก คำถามของน้องก็คงจะเป็นเรื่องของน้อยหน่า ผมพยักหน้าช้าๆ สมองสรรหาคำที่จะไม่ทำร้ายจิตใจน้องไว้ในหัว
กัปตัน : " พี่ไวท์ หายโกรธยัง!! "
(อ้าว..ผิดคาด ผมจ้องหน้าคนถาม พยายามอ่านสายตานั้น ว่ามันใช่สิ่งที่เค้าอยากรู้จริงๆหรือเปล่า?? )
ผม : " พี่ไม่เคยโกรธกัป ถ้าจะโกรธ โกรธตัวเองมากกว่าที่ปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ "
กัปตัน : " แปลว่าพี่รู้อยู่แล้ว? "
ผม : " อืมมมมรู้ แค่ไม่คิดว่าเค้าจะใจร้ายขนาดนี้ "
กัปตัน : " เล่ามา!! " (หน้านิ่ง น้ำเสียงเย็นชา)
ผม : " ก็ตั้งแต่วันบ้านหญิง อยู่ในครัวเค้าบอกชอบพี่ ขอคบกับพี่ แต่พี่คิดว่าเค้าล้อเล่นเลยไม่ได้สนใจ หลังจากนั้นก็ส่งไลน์มาหาแทบทุกวันพี่ก็ไม่ได้ตอบนะ เค้าก็ดีกะกัปตันเสมอต้นเสมอปลาย ช่วยเหลือกันดี ก็น่าจะเป็นเพื่อนที่ดีกันได้ไม่คิดว่าเค้าจะใจร้าย คิดแย่ๆแบบนี้ได้ พี่ขอโทษนะที่รู้แต่ไม่ยอมบอก "
กัปตัน : " สรุปคือเค้าชอบพี่ เค้าไม่ได้ชอบผมเหรอ?? "
ผม : " กัป เสียใจหรือเปล่า? "
กัปตัน : " (นิ่งมากๆ) .. ก็มีบ้าง เพื่อนทั้งคน "
ผม : " แค่เพื่อนใช่ไหม? "
กัปตัน : " ห่า...แค่เพื่อน!! มรึงก็เห็นกรูกลัวมรึงเข้าใจผิดขนาดไหน สุดท้ายเป็นกรูเนี้ยเข้าใจผิดเอง "
เวลาที่กัปตัน กรู มรึง มัน คืออยู่โหมดปกติครับ เด็กอินเตอร์นี่ใครสอนการใช้ภาษามาครับ พูดกับที่รักแบบนี้ได้ไง .. แต่เค้าก็พูดกับผมคนเดียวหล่ะคับ
กัปตัน : " น้อยหน่าเค้าจะเกลียดผมหรือเปล่า?? "
กัปตัน : " ถ้าเป็นอย่างอื่นก็ให้ได้นะ แต่เป็นมรึง!! กรูให้ใครไม่ได้อ่ะ กรูก็รักมากเหมือนกัน "
คำพูดเบาๆ ที่เหมือนพูดกับตัวเอง ทำให้คนอยู่ใกล้อย่างผมฟัง รู้สึกได้ชัดเจนมาก .. ว่าเค้าพูดออกมาจากใจจริงๆ ผมคว้าคอน้องเอาหน้าผากไปแตะกันไว้ ปลายจมูกเราตอนนี้ชิดระดับที่หายใจยังรู้สึกได้ เวลานี้ขอใช้ร่างกายให้กำลังใจกันและกันนะ
สองร่างนอนกอดกายกันอยู่บนเตียงนุ่มๆร่างกายอ่อนเพลียจากการขับรถทำให้ผมเมื่อยไปทั้งตัว ซ้ำยังมาโดนขาหมูทับอีก .. หน้าแป้นแล้นของคนข้างๆ นอนหลับสนิท กลนสะท้านดังเดิม แหม่ๆๆ น่าจะสงสารพี่บ้างนะ ขับรถไปหาตั้งแต่ตี3 ไปปุ๊บ-กลับปั๊บ ยังไม่ได้หลับสักงีบเลย ตอนที่ลากสังขารกลับเข้าบ้าน ทั้งป๊า ม๊า แป้ง แสดงอาการชัดเจนมากว่าสงสัย อยากรู้อยากเห็น แต่ผมขอตัวมานอนก่อนและก็เป็นอย่างที่เห็นล่ะครับ ผมพยายามเอาแขนที่ใช้นอนแทนหมอน ออกจากหัวกัปให้ได้ ยันตัวลุกขึ้น มองหน้ากัปจากมุมนี้มันน่านัก อดใจไม่ไหว ก้มไปจุ๊บเหม่งเบาๆซักที
แอร๊ดดดดด !!! หันสายตาไปตามเสียง คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือ ม๊าผมเองครับ ทำหน้าสะพรึงมาก สายตาที่ประสานกันอยู่ดูอึดอัด ม๊าค่อยถอยตัวออกจากห้องไปเบาๆ ผมรีบเด้งตัวออกจากเตียงวิ่งตาม ม๊าาาาาาาาาา...
ม๊า : " ไวท์ ลูกหิวกันไหม? ม๊าเตรียมของกินไว้ในตู้เย็นนะลูก "
( ม๊าพยายามทำหน้านิ่ง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น )
ผม : " ม๊าเห็นแล้ว ม๊าไม่ว่าไวท์เหรอ? ที่.... เออ.. "
ม๊า : " ม๊า ขอโทษนะลูก ม๊าน่าจะเคาะประตูก่อน "
ผม : " ไม่ ไม่ใช่ ... ม๊าไม่ได้ทำไรผิด ไวท์เองไวท์ผิด.. ไวท์ผิดปกติหรือเปล่า? "
ม๊า : " จริงๆ ม๊าก็เป็นคุณแม่ยุคใหม่ที่ทันเหตุการณ์บ้านเมืองนะ แม่ก็พอจะดูรู้ เพียงแต่ม๊ายังทำตัวไม่ถูก แต่สุดท้าย...ถ้าลูกรักใครม๊าก็รักด้วย น้องเค้าน่ารัก ใครอยู่ใกล้ก็ต้องรัก ไวท์ไม่ผิดอะไรหรอกลูก "
(ผู้หญิงเป็นเพศที่มีหลากหลายอารมย์ ซับซ้อน ผมอ่านสายตาของม๊า แม้ม๊าจะพูดให้ผมรู้สึกดี แต่แววตาม๊าดูเศร้าป่นประหม่า ม๊าพยายามจะซ้อนความตกใจ ทำเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมรู้ดีว่าใจม๊า ... ยังรับไม่ได้)
ผม : " ไม่ต้องห่วงนะครับ ยังไงไวท์ก็รักม๊าที่สุด "
ผมสวมกอดผู้หญิงคนนี้ กอดไว้แน่นๆ เหมือนจะใช้กำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ส่งผ่านให้คนในอ้อมกอดได้รู้สึกอบอุ่น คลายความกังวล อยากให้รู้เพียง...ผมยังเป็นลูกชายที่น่ารักคนเดิมของม๊า
ผม : " ให้โอกาสไวท์นะม๊า ไวท์ก็ไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกัน ไวท์รู้แค่น้องเป็นแรงผลักดัน ที่ทำให้ไวท์อยากทำอะไรที่ดีๆ "
ผมประดิษฐ์คำพูดที่สวยหรูไม่เป็นครับ ในเวลานี้คิดอย่างไง...ผมก็พูดออกไปอย่างงั้น ผมเชื่อว่าความรู้สึกจะชี้นำเรา ให้เดินไปในทิศทางที่สุข หรือทุกข์ได้เสมอ เพียงแต่ตอนนี้ ... ผมมีความสุขมากจริงๆ และเชื่อว่าม๊าจะรับรู้ได้
แม่-ลูก สุขสันต์ ลงมาคลุกตัวอยู่ในครัวเตรียมอุ่นอาหาร ใครจะเชื่อว่าวันนึ่ง คนที่ไม่เคยคิดจะเข้าครัวกำลังจัดแจงเทนี่นั้น เข้าอุ่นในไมโครเวฟ โดยมีม๊าคอยชี้นิ้วบอก บางทีคนเราก็เปลี่ยนกันได้นะ
เสียงหัวเราะหยอกล้อเจื้อยแจ่วของยัยแป้ง บวกเสียงม๊าขานรับมุขฝืดๆกันอย่างสนุกสนาน ภาพตรงหน้าผมตอนนี้มันดูมีความสุข มีสีสันต์มากกว่าตอนที่เราไปนั่งในภัตราคารหรู หมดมื้อละเป็นหมื่นซะอีก (T T)
อาหารอุ่นพร้อมทานแล้ว .. " เดี๋ยวไวท์ไปตามหัวเหม่งก่อนนะครับ " ผมได้แต่พูด เพราะสิ้นเสียงผม เหม่งน้อยก็เดินเข้าครัวมา ทำจมูกฟุดฟิด ราวกับละเมอตามกลิ่นอาหาร บรรยากาศระหว่างเรา 4 คนตอนนี้ ผมสังเกตได้ว่าม๊าดูเงียบไป หน้าดูนิ่งจนผมรู้สึกได้ ..
ม๊า : " เดี๋ยว แป้งกะไวท์ ไปซื้อนมที่ปากซอยปะลูก นมหมดตั้งแต่เมื่อคืน ม๊าลืมซื้อ "
แป้ง : " โห่ม๊า!! คืนนี้ไม่กินก็ได้คะ แป้งขี้เกียจออกไปอ่ะ "
ผม : " ไปเหอะ พี่อยากกิน "
ผมรู้ดีว่า ผมไม่ควรขัดใจ และเชื่อใจม๊าของผม ว่าม๊าไม่ใช่แม่ผัวใจร้าย อย่างในละครน้ำเน่าแน่
==> ม๊าไวท์ <==
ในยุคที่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกแบบนี้ การเลี้ยงดูเด็กๆให้อยู่ในกรอบ ที่ดีงามไม่ใช่เรื่องง่ายๆ วันนี้ไวท์ กะแป้ง เติบโตเป็นเด็กที่น่ารัก สดใส คนเป็นแม่อย่างเราต้องคอยประคอง คอยชี้แนะ คอยส่งเสริม ... คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คงเป็น ไวท์
ลูกชายของม๊าถูกเลี้ยงมาแบบลูกคุณหนู 100%สุภาพนุ่มนวลเป็นบุคลิคที่น่ารักของไวท์ แต่ความขี้น้อยใจ ขี้งอน งองแงแบบเด็กๆ ก็เป็นจุดอ่อนของไวท์เช่นกัน ถ้าไปเจอคนไม่ดี คนที่อ่านจุดอ่อนนี้ออก เอาชนะใจไวท์ได้ไม่ยากเลย ...
วันที่ไวท์หาเงินได้เอง จากการถ่ายแบบ เค้าแบ่งเงินเป็นสามส่วน ส่วนนึ่งพาหัวเหม่งไปเที่ยว อีกส่วนเก็บเข้าธนาคารไว้ และส่วนสุดท้ายซื้อของขวัญมาให้ ... ม๊ายังจำวันที่ไวท์เข้ามากอด และยื่นของขวัญให้ได้ดี สิ่งของที่อยู่ในกล่องเป็นเพียงต่างหูคู่เล็กๆ แต่มันเป็นเงินก้อนแรกที่ไวท์ภูมิใจมาก แววตาของลูกชายตอนนั้น ทำให้รู้สึกได้เลยว่าวันนี้เค้าเปลี่ยนไปแล้ว
ภาระของไวท์ ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน ตั้งใจทำอย่างดีไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ... ม๊าเองยังเคยสงสัยว่าจะเหนื่อยทำไปทำไม? ในเมื่อม๊าก็เลี้ยงลูกให้สบายได้อยู่แล้ว อะไรที่ลูกอยากได้ขอแค่บอก...ม๊าจะหามาให้
คำตอบที่ได้กลับมาคือ
" ยังไงผมก็ต้องไปเฝ้าที่กองอยู่แล้ว ก็ไปถ่ายด้วยเลยได้ตังค์ด้วยนะ "
ตอนที่ฟังไวท์พูด แอบสงสัยมากว่า แววตาแบบนั้นใช่คนกำลังมีความรักหรือเปล่า?? แล้วทำไมต้องไปเฝ้า แล้วคำตอบก็เริ่มชัดเจนขึ้นทุกวันๆ
เมื่อบ้านเราได้มีลูกคนใหม่ เป็นเด็กหัวเหม่ง นิสัยดี ร่าเริง ตั้งแต่เด็กคนนี้เข้ามาเป็นส่วนนึ่งของครอบครัว...รู้สึกได้ ถึงความอบอุ่น เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม เด็กคนนี้มีพลังพิเศษที่คนอยู่ใกล้ๆ..จะมีความสุขไปด้วย
ม๊า : " หัวเหม่ง ลูกไปเที่ยวมาสนุกไหมครับ "
กัปตัน : " สนุกดีครับม๊า ม๊าน่าจะได้ไปด้วย ทะเลสวยมากครับ "
ม๊า : " แล้วทำไมหนู ไม่ชวนพี่ไวท์ไปด้วยล่ะลูก? "
กัปตัน : " ชวนแล้ว พี่ไวท์ไม่ไปครับ "
ม๊า : " ลูกชายม๊านี้ปากกับใจไม่ตรงกันเลยเนอะ บอกไม่ไปอดใจไม่ไหว สุดท้ายก็ไปอยู่ดี สงสัยจะห่วงหัวเหม่งนะลูก "
พยายามแอบสังเกตสีหน้าลูกเหม่ง ตอนนี้เหมือนเด็กน้อยจะรู้ตัวว่าโดนล้ออยู่ มือที่เคยช่วยยกนี่นั้น เริ่มอ่อนแรงทำของตกเสียงสนั่น สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คงแค่หัวเราะกลบเกลื่อนเพราะไม่อยากให้บรรยากาศตรึงเครียดเกินไป
ม๊า : " พี่ไวท์นะ เมื่อก่อนติดม๊าแจเลย เพื่อนฝูงก็ไม่มี ไอ้ที่จะขับรถออกไปคนเดียวดึกดื่น เป็นไปไม่ได้เลย แต่นี่สงสัยจะห่วงหนูนะ หรือไม่ก็อยากไปเที่ยวด้วยแน่เลย "
กัปตัน : " ม๊าฮ่ะ ตอนนี้พี่ไวท์ก็ยังติดม๊าเหมือนเดิมครับ "
ม๊า : " ทะเลสวยเหรอลูก ไว้วันหลังเราไปเที่ยวกันเนอะ ชวนคุณพ่อคุณแม่หนูไปด้วย ไปกันเยอะๆสนุกดี "
กัปตัน : " ได้ครับ "
ม๊า : " ป่ะลูกไป รีบๆจัดโต๊ะให้เสร็จจะได้รีบกิน รีบนอน นอนดึกไม่ดี เป็นหมีแพนด้าม๊าไม่รู้ด้วยนะ "
ไวท์ที่เข้ามาระหว่างบทสนทนา ดูจากสีหน้าที่อยากรู้อยากเห็นก็พอจะเดาได้ว่าเค้ากังวลใจ รีบชิงตัดบทแล้วออกจากสถานการณ์ตรงนี้ดีกว่า ไม่อยากทำให้เด็กๆอึดอัด เพราะคนเป็นพ่อแม่ที่ดี ต้องเลี้ยงลูกเหมือนเราเป็นเพื่อนๆกันคุยกันได้ทุกเรื่อง คอยสังเกตการณ์ห่างๆดีกว่า คนไหนที่ลูกรัก เราก็ควรจะรักด้วย
แต่เพราะพ่อ แม่ทุกคนรักลูก ... แม่น้องกัปตัน ก็ควรรับรู้เรื่องนี่ เด็กๆควรคบกันในสายตาของผู้ใหญ่ ถ้ามันสุขสมหวังดีงาม ก็ดีไม่ต้องมานั่งเสียใจ แต่ถ้าวันไหนผิดพลาด เสียใจ พ่อแม่ได้เป็นเสาหลักคอยประคองลูกๆทั้งสอง
ความคิดเห็น