ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สลับคู่จิ้น ให้ฟินเวอร์ 2

    ลำดับตอนที่ #16 : ทฤษฎีสีชมพู สอนโดย กัส

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 59




    แพนด้าหนุ่ม - วิกิพีเดีย

    ร่างกายสมส่วน เพราะกินอาหารที่มีประโยชน์อย่างธัญพืช ผัก5สี

    อารมย์ดี เพราะไม่กินก็นอน และออกกำลัง

    กิจกรรมยามว่าง อ่านหนังสือปรัชญา

    โรคประจำตัว : ไม่มี (ไม่สิ เริ่มมีตั้งแต่เจอกัส)

    อาการตอนเจอกัส

     - อากาศไม่ร้อน ลมไม่แรง ฝนไม่ตก

     - รอบๆตัวเป็นสีชมพู


          ผมเป็นมนุษย์เพศชายปกตินี่ละครับ โลกก่อนที่จะได้มาทำงานให้วงการก็สุดแสนจะธรรมดา เรียน กิน นอน เที่ยว ออกกำลังกาย เรียกว่าโลกของผมแคบ .. ก็ว่าได้ ผมเลือกไปแคสติ้งเพราะอยากสร้างความกล้าแสดงออกให้ชีวิตตัวเองบ้าง ผมขี้อายและจมอยู่กับคำไม่กล้ามาตลอด ภาพของเพื่อนที่ไปแคสติ้งวันเดียวกันยังจำฝังใจ ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ผมเคยมองรอยยิ้ม และแววตาชวนหลงไหล จะมาอยู่หน้าผมตอนนี้เราได้ร่วมงานกัน มันเป็นระยะเวลาที่มีความสุข และเปลี่ยนโลกของผมไปทั้งใบเป็น " โลกสีชมพู "


    กัส : เฮ้ย!! ฟังอะไร เข้าเซฟโหมดอีกแล้วนะ เป็นอะไรรึเปล่า?

    ผม : เปล่าา ฟังเพลงทำสมาธิ

    กัส : เครียดไรว่ะ อกหักเหรอมึง ชอบทำหน้าเศร้านะช่วงนี้ (มือเอื้อมมาลูบแก้มเบาๆ)

    ผม : ..... (เขิน ดึงหน้าออกห่าง)

    กัส : รังเกียจกูหรอวะ (ยืนหน้าเข้าไปใกล้แทนมือ)

    ผม : สนใจกูด้วยหรอวะ^^(เขิน)

    กัส : สนใจดิ กูเป็นห่วงมึงนี่ถ้าแพ็คกลับไปดูแลที่บ้านได้ เอาไปด้วยแล้วเนี้ย


                                 คำพูดลอยๆที่หยุดผมไว้ทันที ผมไปต่อไม่เป็นแล้วครับ รู้สึกแค่หัวใจเต้นแรงมาก ไม่คิดว่าคนที่ผมชื่นชมเค้าจะอยู่ใกล้ๆตรงนี้ พูดกับผมแบบนี้ โลกของผมกับโลกของกัส ต่างกันมากนะครับ ถ้าผมคือสีเทา โลกของกัสคือสีรุ้งเลยที่เดียว กัสเที่ยวเตร่ เฮฮา ตามประสาหนุ่มโสดร้อยเปอร์เซน บางวันก็แฮงค์มาทำงาน กัสคือความสดใสยิ้มหยุดโลก เค้าคือสิ่งที่ผมอยากเป็น แต่ผมทำไม่เป็นนะสิ ไม่รู้จะสรรหามุกมาเล่นยังไงให้ขำ ทำหน้ายังไงให้ดูมีเสน่ห์ขนาดนั้น (วุฒิศักดิ์คลินิก ก็สร้างให้ผมไม่ได้)


    กัส : อย่าบอกนะมึงว่าอกหักจริงๆ

    ผม : เห้ย กูเครียดเรื่องฉากวันนี้ (กัสคว้าบทในมือผมไปอ่านทันที)

    กัส : ............... (อ่านบทหน้าเรียบตึง)

    ผม : ............... (มองแต่กัส)

    กัส : มึงอย่าบอกนะว่าตื่นเต้นที่จะได้จูบกัปตันอะ

    ผม : เฮ้ย!! ไม่ใช่

    กัส : อย่ามา กูเห็นมึงแอบมองกัปตันบ่อยๆ

    ผม : ตลกล่ะ กูไม่เคยมองใครนอกจากมึง (สายตาผมจิงจัง กัสเองก็จ้องมาที่ผม)

    กัส : แล้วมึงเครียดทำไม

    ผม : กูไม่เคยจูบใคร  (ระยะหน้าผมกับกัสใกล้กันมากๆ)

    ไวท์ : พวกมึงคุยไรกัน

    ผม-กัส : ............... (หันตามเสียงไวท์ทันที)

    ไวท์ : กูมาขัดจังหวะเปล่าวะ

    ผม - กัส - ไรท์ : เออ!!!



                  อยู่หน้าเซตซ้อมคิว เริ่มถ่ายซีนที่กดดันนี่สักที พี่ผกก.ใช้วิธีรันยาวคือมันเป็นภาพกิจกรรมนันทนาการ เล่นจริงไปเรื่อยๆกล้องก็เก็บหลายๆมุมไปครับ คิวลูกปิงปองตกนี่ผมทำใจให้ชินไม่ได้สักที คือเขินเหมือนกันแต่ก็ผ่านมาได้จนถึงซูมริมฝีปาก เป็นการเก็บชอตภาพนิ่งที่กดดันผมมาก มีทั้งไวท์ทั้งกัสที่ประกบตากล้องอยู่ ผมมองหน้ากัสบ่อยๆแต่กัสจะแสร้งมองไปทางอื่นตลอด จะไม่อึดอัดได้ไง .. เป็นอะไรของเค้านะ


                   การประกบปากค้างไว้ 30 วินาที เชื่อว่าใจผมเต้นรัวไปมากกว่า30แน่นอนพี่ผกก. เหมือนจงใจแกล้งเรา เพราะมันนานจนอดจะเม้มปากเข้าหากันไม่ได้ เสียงคัทที่คุ้นเคยหายไปกลายเป็นเสียงไวท์ คัททททททท!!! ไม่ใช่แค่สั่งคัทยังบอก กู๊ดเทค(ผ่าน)เองเรียบร้อย เดินดุ่มๆมาหน้าเซตลากผมไป .. ไป.. ไปด่าสิครับ ก็มันทั้งรักทั้งหวงของมัน  ช่องแคบที่กั้นไว้สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนนี้เหมือนมันไม่มีอากาสหายใจ ใครเคยโดนมือไวท์เข้าสักที สองทีจะรู้ครับว่าฉายามาเฟีย ส่วนหนึ่งมาจากมือมันหนักด้วย อย่าถามว่าผมรู้ได้ไงก็ไอ้ไวท์เพิ่งลากแล้วผลักผมลงเมื่อกี้นี้เอง พอไวท์ออกไป คนที่เดินสวนกลับเข้ามาเป็นกัส สายตาเย็นชานี่คืออะไร อย่าบอกนะว่าโกรธอีกคน .. คือผมทำตามหน้าที่ป่ะวะ?


    กัส : เป็นไงจูบแรกของมึง ถูกใจไหมวะ?

    ผม : มึงอะไรอีกคนเนี้ย มันไม่ใช่จูบโว๊ยแค่ปากชนปากนะเฮ้ย

    กัส : มีโอกาสแล้วทำไมไม่จูบไปเลยละ

    ผม : บ้าสิ กูก็อยู่เฉยๆนะมึง อย่ามาโกรธดิ๊

    กัส : กูไม่ได้โกรธ

    ผม : มึงโกรธ ดูดิหน้าเดียวกับไอ้ไวท์เลย

    กัส : มึงแค่ยืนเฉยๆเหรอ?

    ผม : ใช่ กูไม่ได้....*&^#D^*()_+


                      พูดยังไม่ทันจบประโยค ริมฝีปากกัสตรงเข้ามาประกบปากผมพอดี ไม่ทิ้งโอกาสให้ผมได้หันหนี ริมฝีปากที่ขยับตัวอย่างรวดเร็ว ยิ่งตอกย้ำให้รู้ว่าผมเป็นฝ่ายถูกจูบอยู่ กัสระบายความอัดอั้นผ่านริมฝีปากมา ความนุ่มนวลอ่อนหวานที่ผมเคยฝันไว้ถูกกลบหายไปกับริมฝีปากนี้ จังหวะทีบดย้ำๆ ดูดดึงริมฝีปากบนล่างกัสทำมันได้ยอดเยี่ยมมาก ผมยืนเก้ๆกังๆไม่รู้จะทำยังไงดี กัสเว้นช่วงจังหวะหายใจกดสายตามองผม ริมฝีปากเรายังแตะกันอยูตลอด ก่อนที่รอบ2จะตามมาผมค่อยๆปรับตัวและจูบตามอย่างนุ่มนวล กว่าที่ริมฝีปากของเราจะบดคลึงไปในจังหวะเดียวกันได้ผมก็เว้นช่วงหายใจอีกหลายๆที จูบค่อยๆนุ่มนวลขึ้นเรื่อย ปลายลิ้นที่ลุกล้ำเข้าโลมเลียริมฝีปากด้านในของผม ค่อยๆเกี่ยวพันกัน ยิ่งกัสดูดปลายลิ้นผมนานเท่าไรความหวานยิ่งส่งต่อมามากเท่านั้น


                       เสียงไวท์ให้จังหวะว่ามีคนจะเข้ามาเปลี่ยนเสื้อแล้ว ผมไม่รู้สูตรหรอกนะ แค่เดาเอาเพราะกัสหยุดแล้วก็ลากผมออกมา ก่อนที่จะมีคนอื่นสวนเข้าไป เรารวมตัวกันอยู่สี่คน สองคู่ มือไวท์โอบเอวกัปตันไปตลอดทาง ส่วนผมสมองยังเบลอจากจูบแรกอยู่ โชคดีที่มีมือกัสจูงไว้ค่อยๆเดินตามกันไป


                   ซีนสุดท้ายของวันนี้จบลงสักที ทั้งเหนื่อยทั้งเมื่อยอาบน้ำเตรียมเข้านอนแล้วนึกถึงสมัยเข้าค่าย กิจกรรมเข้าค่ายคือเราจะได้ไปนอนค้างคืนกับคนที่เรารัก ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นหญิงหรือชาย โรงนอนเดียวกันหรือคนละโรงนอนอย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าเค้าหลับอยู่ใกล้ๆ ที่นอนขนาดหนึ่งคนปูเรียงติดๆกันอย่างค่ายทหาร ผมนอนติดกับกัส จังหวะที่ล้มตัวลงนอน รู้สึกว่ามีของแข็งๆมารองอยู่ที่คอ มองดีๆก็คือแขนของกัสที่เผยออกมาสอดหลังคอผมไว้ ก่อนจะใช้กำลังแขนรวบตัวผมไปกองอยู่บนอกกัสทันที

    กัส : ห่มผ้าให้กูด้วย

    ผม : ผ้าห่มมึงอยู่ไหนอะ

    กัส : ห่มผืนเดียวกันนั่นแหละ

    ผม : .................... ( มองมัน )

    กัส : ทำไม ไม่ได้หรอ?

    ผม : ก็เปล่าา

     

                  ร่างเราสองคนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน มีอุ่นบ้าง เย็นวูบๆบ้าง ปลายนิ้วกัสบนแผ่นหลังผมพริ้วไหวจนบางทีผมเผลอปล่อยเสียงกระเส่าออกมา กัสหยอกล้อ แซวอย่างอารมย์ดี ผมก็อยากโต้ตอบอยู่หรอก แต่กัสไม่ปล่อยให้ปากผมว่างสักที ...


    กัปตัน : พี่เงินพี่กัสเบาๆหน่อยดิ คนจะนอน




    เนื้อเพลง ทฤษฎีสีชมพู



    เธอ เธอเป็นสีชมพู เธอมีโลกของเธออยู่
    ที่ฉันไม่อาจล่วงรู้และไม่เคยเข้าไป
    ส่วนฉันเป็นสีเทา มีแต่ความเหงารอบๆ กาย
    ไม่รู้เลยมีความหมายอะไรมากกว่านี้

    แต่เธอและฉันก็เดินเข้ามาชิดใกล้
    มาทำให้ฉันแปรเปลี่ยนเป็นสีใหม่
    เมื่อชีวิตของเราไหลปนกัน
    โลกของฉันก็ดูจะเปลี่ยนสีไป

    อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน
    เมื่อเราต่างเทสีผสมละลายเข้าด้วยกัน
    โลกของฉันและเธอก็สดใส กว้างใหญ่ขึ้นกว่าวันนั้น
    เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา

    เราผลัดกันเดินเข้าไป สู่โลกคนละใบ
    สุดท้ายก็ต่างไม่รู้ ว่าโลกของใครเป็นของใคร
    เมื่อในวันนั้นเธอเข้ามาใกล้ๆ
    มาทำจนฉันแปรเปลี่ยนเป็นสีใหม่
    และเมื่อสีของเราไหลรวมกัน
    โลกของฉันก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปทั้งใบ

    อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน
    เมื่อเราต่างเทสีผสมละลายเข้าด้วยกัน
    โลกของฉันและเธอก็สดใส กว้างใหญ่ขึ้นกว่าวันนั้น
    เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา

    เมื่อเธอได้เข้ามา ฉันก็ได้เห็นอะไรขึ้นมากกว่า
    จากนี้และเรื่อยไป จากนี้ทั้งหัวใจ
    ก็คงจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมใช่ไหม

    อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน
    เมื่อเราต่างเทสีผสมละลายเข้าด้วยกัน
    ก็คงจะเป็นไปตามทฤษฏีที่เขาบอกไว้ว่ามัน
    เมื่อสีทั้งสองผสมกันนั้น

    ก็คงไม่มี อะไรที่จะเป็นเหมือนเดิมได้อย่างวันนั้น
    เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา

    ...อ้างอิง http://sz4m.com/t5770




    เปิดจองแฟนฟิคเรื่องนี้ เล่มสองแล้วน่าา ใครอยากอ่านเงินกัสมาๆ มาๆจับจองเป็นเจ้าของได้เลยจ้า ทักเลยคะ Line : venus909








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×