ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สลับคู่จิ้น ให้ฟินเวอร์ 2

    ลำดับตอนที่ #1 : Is This Love/แปลว่ารัก ใช่หรือเปล่า?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.15K
      35
      7 ก.พ. 59



         Is This Love/แปลว่ารัก ใช่หรือเปล่า??

          

    สำหรับผม...คนตรงหน้าตอนนี้ คือทุกๆอย่างที่หล่อหลอมให้ผมมีตัวตน มีสังคม มีความรู้สึก เค้าเป็นทั้งความรัก ความหวัง กำลังใจ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หยดน้ำตา และเป็นคลื่นไฟฟ้าที่พออยู่ใกล้ๆ ทำให้ใจผมเต้นแรงทุกที

    ==> ผม...ไวท์ ณวัชร เลิฟแซ่บ


     ( ^ _______________________ ^ )

    ผมอยากจะเมินใส่คนตรงหน้า แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ไม่อยากรับรู้เรื่องของเค้า...แต่พออยู่ใกล้ หัวใจเต้นแรง ปากก็ชอบพูดเรื่องไร้สาระ " ผมรักพี่นะครับ " เค้าจะรู้ตัวไหม ว่าโลกของผมเปลี่ยนไป ตั้งแต่วันที่เค้าเข้ามา

    ==> ผม...กัปตัน ชลธร เลิฟแซ่บ


                       ไม่รู้ว่าจะเรียกสถานะของสองเราว่าอย่างไงดี แต่อย่างน้อยผมก้กำลังอมยิ้ม ที่ตอนนี้เรานามสกุลเดียวกัน (เลิฟแซ่บ) ครอบครัวเลิฟแซ่บ เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ มีสมาชิกหน้าใหม่หน้าเก่า ก็อย่างที่บอก ไม่เลิศ ไม่แซ่บ ==> มาเป็นครอบครัวเดียวกับเราไม่ได้หรอก


                       จากที่ผมเคยกีดกันเรื่องการแต่งตัวของพี่ไวท์ ชอบให้แต่งตัวธรรมดา โทรมๆ แค่อยากให้ความโทรม ความเฉย มาเป็นเกราะป้องกัน ออร่าความน่ารักไม่ให้มันทะลุออกมาสู่สายตาประชาคมโลก ... แต่คงจะปิดไม่อยู่แล้ว?? ตอนนี้คนตรงหน้าผม เข้าสอบติดตระกลูเลิฟแซ่บเรียบร้อยแล้ว


                       สายตาจริงจังเวลาที่ต้องเข้าคลาสเรียนแอคติ้ง เป็นอีกสิ่งนึ่งที่ผมไม่เคยเห็น และกำลังรู้สึกหลงไหล เวลาที่พี่ไวท์ตั้งใจทำอะไร ผมเชื่อว่ามันจะต้องสำเร็จ มีบางทีที่น้อยใจเหมือนกัน ผมกลัวว่าพี่ไวท์จะลืมไป ว่าเหตุผลที่เค้าอยากเข้ามาทำงาน ในวงการนี้คืออะไร...??

    ไวท์ : " พี่อยากจะได้คู่ควรกับคนที่พี่รัก จะได้หาเงินมาใช้จ่ายในเรื่องของเรา " 

    นี้คือเหตุผมที่ผมจำได้ ==> หวังว่าพี่เค้าจะรู้ตัวนะ ว่าเค้าทำเพื่อให้ผมมีความสุขอยู่ แต่ทำไมผมรู้สึกเหงาจัง ... (o><o) สารท้าดวลเกมส์ ไลน์ฝันดี คำพูดทะลึ่งหยอกล้อ เสียงลมหายใจที่คุ้นเคย มันจางหายไปไหนหมด ... รอบๆตัวผมตอนนี้มีแต่งาน เรียนหนังสือ เรียนการแสดง เรียนร้องเพลง เวิร์คช็อป และ ปุณณ์ /// พี่ไวท์คนดีของผม หายไปไหน 

              
                     คลาสเรียนแอคติ้งวันนี้ พวกเรากำลังเรียนฟิลลิ่งดราม่า บิ้วอารมย์ บีบน้ำตากันอยู่ครับ ... ผมโชคดีหน่อย เพราะบทที่ได้รับ โดยบุคลิกแล้วเป็นคนร่าเริงแจ่มใส เวลาที่ต้องเศร้า จึงแสดงออกแค่ทางแววตา ไม่หนักหนาถึงขั้นต้องร้องไห้ พรั่งพรูน้ำตาออกมา แต่กับพี่ไวท์ที่ยังแข็งเป็นก้อนหินอยู่นี่ ผมไม่แน่ใจว่าเค้าจะทำได้ไหม? ... วันที่แคส เล่นลื่นไหลดีมากอ่ะ แต่พอได้เล่นจริง มันต้นไม้ชัดๆ 



     อาจารย์แอคติ้ง

    " ให้ทุกคนจับคู่ของตัวเองนะ มาจับฉลากเอาโจทย์นี้ไป แล้วลองสร้างจินตนาการดูว่าเราจะตีโจทย์ออกมาให้เพื่อนๆ ได้ดูยังไงดี " 

                       
          ... " ตอนแรกรักแทบไม่ต้องใช้เวลา แต่พอจะลาทำไมมันทรมานอย่างนี้ " ...


     โจทย์ที่ผมได้ มันดูตรงที่สุด ใช่ที่สุด แค่ผมเปิดม้วนกระดาษออกอ่าน ผมก็เริ่มอึ้งแล้ว!! นาทีนี้พี่ไวท์ยังอารมย์ดี พูดเล่นหยอกล้อ หัวเราะเสียงดังตามสไตล์เค้า ... คงไม่สังเกตว่าตอนนี้ แววตาผมกำลังอินกับบทบาทที่ได้รับไปแล้ว


    ผม : " พี่ไวท์ ไปซ้อมกันเหอะ "

    พี่ไวท์ : " โห้..กัป!! จิงจังไปป่ะ ขอพักหน่อยม่ะได้เหรอ "

    ผม : " อยากเป็น ต้นไม้พูดได้ก็เอาดิ ตามใจ "


                       ผมพูดเสียงเบาๆ แค่เราสองคน ไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวเค้าจะรับรู้ได้หรือยัง ว่าตอนนี้   ผมกำลังควบคุมอารมย์ให้ปกติอยู่ เหล่สายตาดูก็เห็นพี่ท่านเดินตามหลังมาแต่โดยดี ... ไม่มีโอ้เอ้แต่อย่างใด รู้สึกได้เลยว่าพี่ไวท์ตอนนี้ คงกำลังทำหน้ามึนงง เพราะไม่เคยเจออารมย์ผมโหมด  " ไม่สนุกนะ " เหมือนกัน                                                                                               


    พี่ไวท์ : " กัปตันคร๊าบบบ พี่หิวมากเลยอ่ะ หาไรกินก่อนได้ไหม น่ะๆๆ "
                  ( น้ำเสียงอ้อนสุดๆ เขย่าแขนผมแทบหลุด )

    ผม : " เค้าให้เวลาครึ่งชั่วโมงเองนะ!! จะแสดงอะไรยังไม่รู้เลย 
            " แล้วก็ไม่มีไรกินอ่ะ รอหน่อยได้ไหม " (นาทีนี้ผมสาดอารมย์ล้วนๆ )

    พี่ไวท์ : " แค่กัปตันโอเคร ทุกอย่างเรียบร้อย "

    ผม : " อะไร โอเคร "

    พี่ไวท์ : " ก็แค่พูดว่า โอเคร อ่ะ "

    ผม : " โอเคร๊!! ตามใจ "

                    หลังจากที่ผมเออออ ตามใจพี่ท่าน ก้มหน้าถอนหายใจ คิดวนไปวนมากับอารมย์นี้ " ทำไมมันรู้สึกสับสนนะ " เงยหน้าขึ้นมาเห็นพี่ไวท์ กำลังลื้อเป้ที่ติดตัวมาอย่างตั้งใจ ของที่ออกมาจากกระเป๋าทำให้ผมเพลอยิ้ม...

    พี่ไวท์ : " นี่ของกัปตัน ขนมปังสังขยา กับ น้ำส้ม อร่อย ไม่อ้วนน "

               " เวลากัปหิว ชอบทำหน้ายังเงี้ย พี่เลยเตรียมมาให้ "

    คือ กรูไม่ได้โมโหหิวป่ะว่ะ ... กรูกำลังน้อยใจโปรดเข้าใจด้วย!!
                 

                  ของกินถูกแกะอย่างเรียบร้อย ยัดใส่มือผมพร้อมกิน ถ้าพี่ไวท์ยกป้อน ได้คงทำไปแล้ว ==> เวลานี้เราได้แต่กินของที่อยู่ในมือไป แล้วใช้สายตาคุยกันเงียบๆ แววตาของคนตรงหน้าที่ผมคุ้นเคย เริ่มผ่อนคลายแรงกดดันในหัวใจผมได้บ้าง ... " อิ่มแล้ว พักสายตาแป๊บนะ!! "
    เสียงพี่ไวท์เอ่ย พร้อมทิ้งตัวลงนอน ยัดหูฟังเปิดเพลง /// คือต้องการความเป็นส่วนตัวสุดๆ แล้วเรื่องแอคติ่ง จะยังไง? บทไหน? ทำอะไร? ... คือ ช่วยรับรู้หน่อยได้ไหม??


                 ไว้อาลัยแด่เด็กชาย ไวท์ ณวัชร ผู้หลับไหล 
    คนที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ ผมไม่เคยคิดจะผลักไส้เค้าไปไหน ไม่เคยอยากให้เค้าหายไป แต่ถ้าเค้าอยู่แล้วหัวใจต้องเต้นแรงแบบนี้ ไม่เป็นตัวเองแบบนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเรียกว่าความสุขหรือเปล่า??  คนที่มีความรักต้องมีความสุขใช่ไหม??


                     สายตาของผมจับจ้องอยู่ที่หน้าสวยได้รูป ดวงตาปิดสนิท ขนตาที่งอนยาวเรียงเส้น ริมฝีปากส้มฝาดเจือรอยยิ้ม เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนพริ้วไหวสลวย ผมเอื้อมมือไปเกลี้ยกเส้นผมที่ปกหน้าให้เข้าที่ ยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่นเองได้ นี่ก็ใกล้เวลานัดเข้าคลาสแล้ว ... คนกันเองทั้งนั้น จะอายอะไรว่ะ!!


    ผม : " พี่ไวท์ตื่นเหอะ เข้าเรียนแล้ว " (พี่ไวท์ขยี้ตา ทำหน้าอึน)

           " พี่ไวท์ แล้วเราจะแสดงอะไรดีอ่ะ " (พี่ไวท์รับฟัง แต่ไม่เข้าใจ)

           " ไม่เป็นไรหรอกเนอะ คนกันเองทั้งนั้น " (พี่ไวท์พยักหน้าเห็นด้วย)

    พี่ไวท์ : " กัปตันพูดแค่ อืม , ก็ได้ , โอเคร ประมาณเนี้ย "

               " เดี๋ยวพระเอกจัดเอง นายเอกมีอารมย์รวมก็พอ " (สายตาวิ๊งวับ หื่นนิดๆ)


                 พี่ไวท์ลุกขึ้นยืน แล้วยื่นมือมาเหมือนอยากช่วยผมให้ลุกขึ้น ... บางทีผมก้ปรับโหมดไม่ทันนะ แต่ก็ยอมส่งมือให้ดึงขึ้นแต่โดยดี กระเป๋าเป้เราทั้งสองใบตอนนี้อยู่ที่พี่ไวท์เรียบร้อยแล้ว มือข้างที่จับผมอยู่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อย


                   ตอนนี้เราเดินจูงมือกัน ... ผมมองตามมือที่จับกันไว้ จนจะถึงห้องเรียนแล้ว ผมกระดุกมือนิดๆเป็นการเตือนว่าให้ปล่อยได้แล้ว ... แรงตอบรับที่ส่งกลับมา กระชับมือเราให้แน่นกว่าเดิม ประตูห้องเรียนเปิดรอไว้พร้อม อีกไม่กี่ก้าวคนในห้องจะได้เห็นแล้ว .. ผมกระตุกมืออีกที คราวนี้พี่ไวท์หยุด ทำหน้านิ่งมองหน้าผม เหมือนจะถามว่า มีอะไร? ก้มมองมือเรา แล้วสอดปลายนิ้วประสานกันไว้


                    แสดงความเป็นเจ้าของกว่าเดิมป่ะ? พร้อมทั้งเดินนำ เข้าห้องเรียนไปอย่างไม่สะทกสะท้านกับสายตาหมู่มวลเลิฟแซ่บ เสียงโห้ร้องเริ่มทำให้ผมสะดุ้ง เสียงล้อเลียนในตอนนี้ ทำให้หน้าผมบางลงไป 10 มิลล่ะ ทำได้แต่ก้มหน้าแล้วเดินตามอย่างเด็กว่าง่าย!! นอกจากจะเดินอ้อยอิ่งราวกับประกวดนางงามแล้ว พี่ท่านยังแวะทักทายตลอด ใครแซว ก็เอาแต่พยักหน้ายิ้ม ... มรึงง ช่วยถามกรูก่อนได้ไหม ว่าพร้อมจะออกสื่อหรือเปล่า??



                      เริ่มจับฉลากเปิดการสอบแอคติ่งดราม่า ผมเหลือบมองหน้าที่ไวท์ ดูจิงจังราวกับรวบรวมสมาธิอยู่ผมเองก็อยากจะอ้าปากถามนะ แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนดี + หล่อ + หน้าตาดี + มีสเน่ห์ + ไม่อ้วน และ ไม่ชอบเซ้าซี้ (เห้อๆ) ... เราก็ควรเชื่อใจคนที่เรารักใช่ป่ะ??


                      เสียงสวรรค์มาเยือนแล้ว ถึงคิวคู่ของผมต้องออกไปแล้ว...ทำไงดีๆ ทำไงดีว่ะ??
     เป็นธรรมเนียมครับ ใครออกมาหน้าห้อง โดนแซวเสียหลักหมดอ่ะ...บอกตรงๆ วันนี้ใจผมไม่ได้สนใจฟังคำแซวเหล่านั้นเลย ใจคิดวกวนอยู่แต่เรื่องของตัวเองล้วนๆ


                     เราสองคนหันหน้าเข้าหากัน พี่ไวท์รวบมือผมทั้งสองข้างมาไว้ที่ตำแหน่งหัวใจ แววตาของพี่ไวท์ตอนนี้กำลังรวบรวมสมาธิสุดๆ ผิดกับสายตาของผมที่ล่อกแล่ก ประหม่า

    พี่ไวท์ : " ถ้าตอนนี้กัปมีความสับสน หวั่นไหว "
               " อยากจะรู้ว่าคนนี้ยังเหมือนเดิมไหม เรื่องของเราจะเป็นไปแบบไหน "
               " ขอให้มองที่พี่ ฟังพี่ ให้โอกาสพี่ "
               " จากวันที่เราได้บอกรักกัน ไม่เคยมีวันไหนที่ใจไม่เต้นแรง "
               " ไม่เคยมีวันไหนที่เรื่องอื่นสำคัญกว่า เรื่องของเรา "
               " ไม่เคยมีใคร หรืออะไร เปลี่ยนใจพี่ ที่รักกัปตันเหมือนเดิม "
               " ให้พี่ได้ดูแลกัปนะ "

    ผม : " อืม ก็ได้ "

                 ตอนนี้จะให้ผมพูดอะไรได้หล่ะครับ คำพูดที่พรั่งพรูออกมามีการเน้นเสียง ทิ้งจังหวะที่บีบคั้นอารมย์ผมมาก บอกตรงๆ น้ำตาผมซึมตั้งแต่คำว่า " ให้โอกาสพี่ " แล้ว เสียงที่สั่นเครือ พยายามเปร่งคำพูดที่แสนจะวิเศษออกมา บรรยากาศที่เงียบกริบ ราวกับในห้องนี้มีเราแค่สองคน ทำให้ผมลืมอาย ประโยคสุดท้ายที่ว่า " ให้พี่ดูแลกัปนะ " น้ำตาผมไหล พร้อมๆกับพี่ไวท์เลยด้วยซ้ำ พึ่งรู้ว่าความรู้สึกสุข จนพูดไม่ออกมันเป็นอย่างนี้เอง


                คัทททท!!! เสียงปรบมือ กรี๊ดกร๊าด ปลุกเราจะโลกสีชมพู ให้มาอยู่ในโลกเสือ สิง กระทิง แรด อีกครั้ง ความอายเริ่มทำให้ผมต้องรีบปาดน้ำตาอย่างไว ไม่รู้ยังทันหรือเปล่า มีใครแอบถ่ายรูปหวานๆของเราไว้ไหมเนี้ย!!

    อจ.แอคติ้ง : " แสดงได้ดีนะคะ เออแต่เราให้โจทษ์เป็นดราม่า เศร้า เลิกรัก ไม่ใช่เหรอค่ะ "

    พี่ไวท์ : " อารมย์ดราม่า เศร้า ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกกันนี่ครับ ผมว่าแค่ขอโอกาสดูเศร้ากว่า ทั้งเศร้า ทั้งลุ้น ว่าเราจะทำให้เค้าใจอ่อนได้ไหม "

    พี่ไวท์ : " ผมว่าปุณณ์ ... ปุณณ์คงไม่ยอมรู้สึก " แต่พอจะลาทำไมมันทรมานยังงี้ " หรอกครับ ก็เค้ารักไปแล้ว "
               " ผมก็เหมือนปุณณ์ รักแล้วรักเลย "


                         จบคำอธิบายของพี่ไวท์ สายตาที่ส่งมาตอนนี้...อ่านง่ายอ่ะ ว่าหมายถึงกรู  เห้อๆ>>แรงเหวี่ยงของโลกทำให้หัวใจผมพองโต ยิ้มแก้มแทบปริ " โอเค กลับที่ได้ " มือพี่ไวท์โอบไหล่ พาผมเดินตลอดทาง ดีนะที่มีหลัก...ตอนนี้ขาเริ่มไม่มีแรงหล่ะ ยิ่งเสียงแซวเนี้ย ... แซวซะเซเลย พวกมรึง!!!


                         ขึ้น 1กต กลับบ้านอย่างอารมย์ดี " กัปตันฟังเพลงนี้ดิ "

    " เรื่องแบบนี้ เค้าเรียกว่ารัก รักคือรักใช่ไหม "

    " ที่ทำให้โลกใบนี้สวยงามสดใส "

    " เป็นดั่งรุ้งบนฟ้าสีคราม ที่กลายเป็นความงดงาม "

    " ใน เช้า วันใหม่ /// Is this love? "


            
          





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×