คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หล่อไม่พอหรือว่าอ่อนหัด
หลังจากที่เดินออกมาจากห้องเรียนทงแฮก็เดินตรงไปยังห้องพยาบาลทันทีก่อนจะขออนุญาติอาจารย์ที่คุมห้องเข้าไปนอนพักโดยอ้างว่าไม่สบายทั้งที่จริงๆแล้วเค้าเองไม่ได้เป็นอะไรเลยเพียงแค่อยากหลบออกมาเพื่อพักผ่อนจิตใจให้สบายขึ้นเท่านั้นเองก่อนจะเดินไปที่เตียงแล้วทิ้งตัวลงนอน และจากการปะทะคารมกับซีวอนครั้งนี้มันทำให้เค้าต้องหวนคิดถึงเรื่องราวต่างที่ทำให้ตัวเองไม่อยากจะมีแฟน อดีตที่ยากจะลืมเลือน ใช่ว่าตัวเองไม่อยากจะมีแฟนเค้าก็อยากมีเหมือนคนอื่นทั่วๆไป แต่ติดที่คำคำเดียวนั่นก็คือ กลัว กลัวไปทุกอย่างมันเริ่มมาจากที่เห็นเวลาพ่อแม่ทะเลาะกันไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่เค้าก็จะเห็นทั้งทะเลาะกันตลอดแล้วตามมาด้วยการทุบตี ด่าทอต่างๆนานา ตั้งแต่เด็กๆมันทำให้เค้าไม่เชื่อว่าความรักของคนเป็นแฟนกันมันดีอย่างที่คนอื่นเค้าพูดกัน ต่อมาก็เพื่อนแต่ละคนของตัวเองเวลามีแฟนบทจะดีก็ดี บทจะร้ายก็ร้ายมาให้เค้าเห็นบ่อยๆมันยิ่งเพิ่มความกลัวให้แก่ตัวเค้าเองขึ้นไปทุกที แต่บอกไปใครจะเชื่อแม้แต่คิบอมกับฮยอกแจที่เป็นเพื่อนสนิทเค้ายังไม่เอ่ยปากบอกถึงสาเหตุและเหตุผลพวกนี้ให้พวกนั้นรับรู้เลย แต่เวลาใครถามเค้าก็จะบอกไปแค่ว่าไม่อยากมี เบื่อ ด้วยเหตุผลเดิมๆ และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เค้าไม่กล้าที่จะคบใครเป็นแฟนและเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้ากลัวมาที่สุดในตอนนี้ กลัวว่าถ้ามีใครรู้แล้วอาจจะทำให้เค้ากลายเป็นคนแปลกประหลาดไปเลยก็ได้ คิดมาถึงตรงนี้ทงแฮได้แต่แค่นยิ้มให้กับตัวเองเมื่อนึกถึงเหตุผลที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่ปัญหาที่มาจากครอบครัวและก็ปัญหาของบรรดาเพื่อนที่มีแฟน ปัญหาพวกนั้นอาจเป็นปัญหาเริ่มแรกที่ทำให้เค้ามาเจอกับปัญหาที่เค้ากำลังเผชิญในปัจจุบันเลยก็ว่าได้
“นี่...”ทงแฮหันไปตามเสียงเรียกก็พบว่าชายหนุ่มคนหนึ่งนอนตะแคงหันมาจ้องเค้าอยู่ก่อนแล้ว ทงแฮได้แต่ขมวดคิ้วมองอย่างงง
“นาย?”
“ฉันชื่อ นิชคุณ เรียกว่า คุณ เฉยๆก็ได้ แล้วนายล่ะ”นิชคุณลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิมองมายังทงแฮพร้อมกับยืนมือมาทำความรู้จัก
“เอ่อ...ฉันชื่อ ทงแฮ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”ทงแฮก็ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิแบบเค้าบ้างก่อนจะยื่นมือไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่อย่างงงๆอีกเช่นเคย
“พอดี ฉันเพิ่งมาเรียนที่นี่วันแรกเลยยังปรับตัวไม่ค่อยได้น่ะ ฉันเป็นคนไทยนะ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน”นิชคุณยิ้มตาหยีตามแบบฉบับของตัวเองพลอยทำให้ทงแฮโล่งใจขึ้นมาเยอะบวกกับการแนะนำของเพื่อนใหม่ทำให้เค้ารู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น
“นายอยู่ปีอะไรล่ะ ฉันเรียนม.ปลายปี2”ทงแฮแนะนำตัวเองบ้างเพื่อทำความคุ้นเคยกับเพื่อนใหม่ตรงหน้า แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะมองทงแฮอย่างไม่เชื่อเพราะสังเกตได้จากตาที่โตขึ้นตอนที่บอกว่าอยู่ปี2-*-
“ฉันก็ปี2 แล้วก็จะได้เรียนห้องBน่ะ”นิชคุณตอบพร้อมรอยยิ้มเหมือนเดิมจนทงแฮยังนึกว่าหมอนี่มันจะหุบยิ้มเป็นไหม
“งั้นก็ห้องเดียวกันนะสิ ฉันก็อยู่ห้องBเหมือนกัน”
“ ดีจัง ฉันจะได้มีเพื่อนนี่ก็ยังกลัวเหมือนกันนะเนี่ย แค่ปรับตัวเข้าสภาพอากาศที่นี่ฉันก็แย่แล้วนะ โชคดีที่ได้เจอนายทำให้ฉันหายประหม่าไปเยอะเลยเลย”
“อืม แล้วนายโอเคหรือยังล่ะ”
“ก็..เออใช่...ลืมไปว่าฉันต้องนอนก่อนนะเมื่อกี้เพิ่งกินยาไปเกือบลืมแนะพอดีเป็นหวัดนิดหน่อยน่ะ...แล้วนี่ฉันให้ ฉันว่านายไม่เหมาะกับน้ำตาหรอกนะ ทงแฮ”พูดจบนิชคุณก็ล้มตัวลงนอนทันทีปล่อยให้ทงแฮนั่งมองผ้าเช็ดหน้าในมือก่อนจะเลื่อนมือตัวเองมาแตะที่แก้มของตัวเอง นี่เค้าร้องไห้หรอ ทงแฮได้แต่มองผ้าเช็ดหน้าในมือสลับกับเจ้าของที่ให้มาก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ
“ขอบใจนะ”ทงแฮพึมพำก่อนจะล้มตัวลงนอนบ้างโดยไม่ทันเห็นรอยยิ้มของคนที่ตนเองคิดว่านอนหลับที่ผุดขึ้นมาทั้งที่นอนหลับอยู่
“เฮ้ย ซีวอนมึงดูนั่น ทงแฮมันเดินมากับใครวะไม่เคยเห็นหน้า”ฮันคยองชี้ลงมาจากหน้าต่างห้องเรียนไปยังเป้าหมายที่อยู่ด้านล่างทำให้ซีวอนต้องหันไปมองบ้าง
“นั่นดิใครวะ เด็กใหม่แหงๆ แต่มันหน้าตาดีวะ ดูดิแล้วมาเดินกับทงแฮถ้ากูไม่รู้จักนะกูนึกว่ามันเป็นแฟนกันแน่ๆ โดยเฉพาะทงแฮกูแทบจะไม่ค่อยจะเห็นมันยิ้ม แต่ทีกับไอ้นี่เดินยิ้มหน้าบานซะ”ฮยอกแจที่นั่งกินขนมอยู่ด้วยอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา ส่วนซีวอนที่ยืนมองจากริมหน้าต่างได้แต่ขมวดคิ้วมองตามพร้อมทำหน้าบอกบุญไม่รับโดยที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรู้สึกไม่พอใจเวลาเห็นทงแฮยิ้ม โดยเฉพาะยิ้มให้กับไอ้คนนั้นหรือว่าตัวเองจะอิจฉาที่ทงแฮจะมีแฟนก่อนซะเอง แต่อาการเหล่านี้ของซีวอนก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของใครคนหนึ่งได้และคนคนนั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากราวกับว่าเค้ากำลังจะได้เห็นอะไรที่มันสนุกน่ะสิ
“เป็นอะไรซีวอน หน้าเหมือนคนขี้ไม่ออก”เยซองเอ่ยแซวเพื่อนตัวเองที่นั่งทำหน้ายุ่งอยู่ข้างๆ ก็หลังจากที่เค้ากับซีวอนลุกไปดูทงแฮที่ฮันคยองชี้ให้ดู พอกลับมานั่งซีวอนก็ทำหน้าเหมือนคนขี้ไม่ออกซะอย่างนั้น
“เรื่องของกู”
“อ้าว ไอ้นี่กูอุตส่าห์ห่วงมึง มาพาลใส่กูอีก”เยซองปากก็บ่นแต่แววตานี่สิช่างตรงกันข้ามถ้าซีวอนจะหันมามองสักนิดก็คงจะเห็นว่ามันช่างแฝงไปด้วยความขบขันเต็มเปี่ยม
“ห่วงเรื่องมึงเหอะ การบ้านเสร็จหรือยังไม่ต้องยุ่งกับกู”เยซองได้แต่ยักไหล่กับอาการพาลแบบไม่มีสาเหตุของเพื่อนตัวเอง ก่อนจะเดินไปหาเป้าหมายที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดที่จะทำให้เค้ามีการบ้านส่งอาจารย์ในคาบบ่ายซึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียวในห้องก็ว่าได้และก็เป็นคนเดียวอีกนั่นแหละที่ไม่ร่วมทำกิจกรรมเมื่อเช้า
“เฮ้ย คยูฮยอนเอาการบ้านมาลอกมั่ง”คนถูกเรียกเงยหน้าจากหนังสือเล่มหนาก่อนจะขยับแว่นตาอันหนาเตอะให้เข้าที่เข้าทางมองคนที่มายืมการบ้านไปลอก
“เมื่อไหร่คุณจะทำเองบ้างครับคุณเยซอง ทำแบบนี้มันไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองนะครับ แล้วถ้าเวลาไปสอบคุณจะทำไม่ได้เอานะครับ แล้วอีกอย่าง...”ยังไม่ทันที่คยูฮยอนจะพูดจบก็ถูกคนยืมการบ้านลอกเบรคไว้ซะก่อน
“พอ หยุดเลย ฉันขี้เกียจฟังนายบ่นฉันอย่างนี้ทุกวันไม่เบื่อบ้างหรือไงคยูฮยอน เฮ่อ”
“แต่มันเป็นผลประโยชน์ของตัวคุณเองนะครับ คุณน่าจะเข้าใจ ถึงแม้ว่าผมจะให้คุณลอกผมก็ไม่ได้เสียอะไรมีแต่คุณเท่านั้นแหละครับที่จะเสีย แทนที่คุณจะหัดทำเองซะบ้างเผื่อว่าจะเข้าใจจะได้ทำเองโดยไม่ต้องมาขอผมลอกอยู่อย่างนี้ ผม...โอเคหยุดก็ได้ครับ นั่นมันก็ตัวคุณเอง”พอเห็นหน้าเยซองที่ยืนทำหน้าออดอ้อนอย่างนั้นทำให้คยูฮยอนที่ทำท่าจะพูดต่อต้องหยุดพูดก่อนจะหยิบสมุดการบ้านส่งให้และเลิกให้ความสนใจคนตรงหน้า หันมาสนใจหนังสือที่อ่านค้างไว้อยู่แทน
“ขอบใจนะ”เยซองก้มลงไปกระซิบข้างๆหูของคยูฮยอนก่อนจะเอามือขยี้ผมอย่างเอ็นดูแล้วเดินกลับไปนั่งลอกการบ้านที่โต๊ะอย่างอารมณ์ดีปล่อยให้คนที่นั่งอ่านหนังสือเล่มหนานั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว
“หึ อารมณ์ดีจริงนะมึง แบ่งให้กูลอกมั่ง”เยซองเงยหน้ามองฮันคยองที่มายืนค้ำหัวแล้วยังจะไปสะกิดเพื่อนอีกคนให้ลุกขึ้นเพื่อจะเอาเก้าอี้มานั่งลอกการบ้านกับตัวเอง เยซองได้แต่กระตุกยิ้มที่มุมปากแล้วก้มลงไปลอกการบ้านต่อโดยไม่สนใจสายตาที่มองอย่างหมันไส้ของฮันคยองที่มองมาหลังจากที่จัดที่ทางให้พร้อมสำหรับการลอกการบ้าน
“ถ้าอิจฉานัก ก็ไปหาของมึงเองสิ ได้ข่าวว่าตอนนี้ไปม้อเด็กโรงเรียนอื่นไม่ใช่ไง ไม่ตามไปคุมล่ะ”ปากพูดแต่มือก็ยังสาละวนอยู่กับการลอกการบ้านที่ต้องส่งในคาบบ่ายที่จะถึงนี้อย่างขะมักเขม้น
“ใครของกู ไม่มีซะล่ะ มึงอย่าเอามันมาเกี่ยวกับกูได้ไหมขอเหอะ”ฮันคยองบ่นอย่างรำคาญเมื่อนึกไปถึงคนที่เยซองหมายถึง แค่คิดอารมณ์ก็เสียขึ้นมาตะงิดๆ
“ทำเป็นปากดี ทำไมทีตอนอยู่ต่อหน้ามึงไม่เก่งอย่างนี้ล่ะเห็นหงอทุกทีมึงอ่ะ”เยซองเงยหน้าขึ้นมาพูดอย่างกวนๆ
“ที่กูไม่ทำ กูเห็นว่ามันเป็นรุ่นพี่หรอก มึงอย่ามา อีกอย่างคนอย่างนั้นใครได้เป็นแฟนมันคงล่มจมตลอดชาติ” ฮันคยองบ่นอย่างโมโหเมื่อรู้สึกว่าถูกเยซองพูดแทงใจดำแต่ก็ยังจะแถออกไปแบบไม่ยอมรับความจริง
“หรอ...ปากแข็งไปเหอะมึงแล้วจะเป็นแบบไอ้ซีวอนมัน”เยซองพูดจบก็เก็บสมุดการบ้านที่นั่งลอกทันทีก่อนจะลุกขึ้นจะเดินไปยังโต๊ะเจ้าของสมุดการบ้าน
“เฮ้ย!!...เดี๋ยวสิกูยังลอกไม่เสร็จเลย”ฮันคยองจับแขนของเยซองไว้ทันก่อนที่เพื่อนตัวเองจะเดินไปคืนสมุดการบ้าน
“ก็ลอกสมุดกูไง”เยซองหันมาบ่นใส่ ก็แค่ลอกจากสมุดตัวเค้าเองจะยากอะไร
“โห ลายมือมึงเนี่ยนะ กูอ่านไม่ออก เอาของคยูฮยอนมาให้กูลอกเหอะ”
“เสียใจ กูหวงของกู ถ้ามึงอ่านไม่ออกก็ไม่ต้องลอก”พูดจบก็ดึงแขนออกจากการจับของฮันคยองทันทีแล้วเดินไปยังเป้าหมายของหัวใจที่นั่งอ่านหนังสือไม่สนใจใครอยู่ ฮันคยองได้แต่ทำหน้าแหยๆมองสมุดการบ้านของเพื่อนตัวเองก่อนจะหันไปหาเพื่อนอีกคนที่นั่งเยื้องอยู่ตรงหน้าอย่างซีวอน
“ซีวอนมึงเอาการบ้านมาให้กูลอกมั่งดิ”ซีวอนที่นั่งหน้าเครียดอยู่มองหน้าฮันคยองก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ฮันคยองต้องทำใจลอกแบบสะกดคำจากสมุดการบ้านเยซองทันที
“มึงว่ากูหล่อไม่พอ หรือกูอ่อนหัดวะ ถึงยังไม่มีแฟนสักที”
“อ่ะ”คยูฮยอนเงยหน้ามองสมุดที่วางอยู่ตรงหน้าก่อนจะไล่สายตาขึ้นไปมองคนที่เอามาคืน
“เสร็จแล้วหรอครับ”ถามกึ่งประชดนิดๆจนคนเอามาคืนอดที่ยิ้มออกมาไม่ได้
“หึ...ใจจริงก็ไม่อยากเสร็จหรอก แต่แค่เห็นหน้านายฉันก็เสร็จได้แล้วล่ะ”เยซองที่พูดส่อสองแง่สองง่ามหย่างหน้าตายผิดกับคนที่ฟังที่ตอนนี้หน้าเริ่มจะมีเลือดฝาดขึ้นมาเป็นริ้วๆอย่างอดไม่ได้เพราะดันจินตนาการไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“คุณ...คุณนี่มัน”
“ขอบคุณนะครับ”เยซองก้มลงไปกระชิบที่ข้างหูแถมยังจงใจเอาปลายจมูกของตัวเองเฉี่ยวแก้มนิ่มๆนั้นอีกทำให้คนที่นั่งหน้าแดงอยู่แล้วกลับแดงขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัวก่อนตัวเองจะเอาขยี้ผมคนที่นั่งเขินอย่างเอ็นดูแล้วเดินยิ้มหน้าบานกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง
“ผมอายนะ คนบ้า”คยูฮยอนนั่งพึมพำกับตัวเองก่อนจะพยายามตั้งใจอ่านหนังสือที่อยู่ในมือต่อทั้งที่ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเค้ากำลังสั่นอย่างช่วยไม่ได้
------------------------------------------------------
หายไปนาน ไม่รู้ว่ายังจะมีใครหลงมาอ่านอีกหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ (หัวเราะทั้งน้ำตา -*-)
แต่ยังไงก็นะ ก็ยังอยากจะมาอัพอยู่อีก เรื่อยๆ ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องหนึ่ง เนอะ ^0^
ความคิดเห็น