ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ FIC SJ] โต๊ะเล็กๆของเราสอง [WonHae]

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดโต๊ะ

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 54


    ตอนที่1  เปิดโต๊ะ

    “เซ็งโว้ย!!!

    “เป็นบ้าอะไรของมึงซีวอน แหกปากหาMy Love มึงหรอ”เยซองบ่นเพื่อนตัวเองที่อยู่ๆก็โวยวายออกมากลางห้องเรียนทำให้เพื่อนๆในห้องพากันมองมายังคนโวยวายเป็นจุดเดียวก่อนจะหันไปสนใจเรื่องของตนเองต่อเพราะรู้ว่ายังไงซะมันก็ต้องตะโกนอย่างนี้ไปอีกนาน

    “ก็ดูดิแมร่ง มองไปทางไหนก็แต่คนเป็นแฟนกันทั้งนั้นเลยกูหมันไส้ มึงเข้าใจกูไหมเยซอง กูอยากมีแฟนมั่ง”ซีวอนมองออกไปนอกหน้าต่างห้องเรียนที่มีบรรดานักเรียนชายต่างพากันเดินกันขวักไข่วซึ่งส่วนใหญ่จะเดินกันเป็นคู่ๆบางคู่ก็แทบจะเดินอุ้มกันให้เห็นอยู่แล้วถึงแม้จะเป็นโรงเรียนชายล้วนก็เถอะก่อนจะหันมาโอดครวญใส่เยซองที่ทำหน้าเบื่อโลกอยู่ข้างๆ

    “มึงก็หาสิ เอาแต่นั่งดูคนอื่นอยู่ได้แล้วก็มาบ่น รู้ไหมว่าพวกกูรำคาญ”ฮันคยองเสนอความเห็นปนจิกกัดเล็กน้อยพอประมาณ

    “ถ้ากูหาได้จะมานั่งบ่นให้พวกมึงฟังหรอ ตั้งแต่กูเลิกกับสเตฟานี่ กูยังไม่เจอใครโดนจังๆสักทีเลยว่ะแมร่ง”ซีวอนบ่นกระปอดกระแปด ก็ตั้งแต่เลิกกับสเตฟานี่เค้าก็ยังไม่เคยคบใครจริงๆจังๆสักทีมีแค่ผ่านไปผ่านมาพอจะเอาเข้าจริงคุณเธอโบกมือบ๊ายบายให้ซะก่อน นี่มันก็ตั้ง2ปีแล้ว โอ้ว...พระเจ้า... 2ปีที่ซีวอนคนหล่อไม่มีแฟน หล่อเฉาเฉา-*-

    “สมน้ำหน้า มัวแต่หลงตัวเองอยู่ได้มึงน่ะ คิดว่าคนนั้นคนนี้จะสยบคาอก แล้วเป็นไงสุดท้ายไม่เหลือสักคน”ฮันคยองยังไม่วายจะกัดเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้นั่งหน้ายู่ฟังที่ตนเองกัด

    “เออกูมันเรื่องมาก ก็ใครใช้ให้กูเกิดหล่อรวยล่ะวะ กูก็เลยหลงตัวเอง กูผิดด้วยหรอ”ซีวอนก็ยังไม่วายจะยกหางตัวเอง จนเพื่อนอย่างเยซองกับฮันคยองแทบจะเอาพื้นรองเท้าไปทาบกับตัวคนหล่อรวยสักทีเผื่อมันจะเลิกหลงตัวเองบ้าง

    “เออ มึงไอ้หล่อ พ่อรวยกูล่ะเชื่อมึงจริงๆ ยกหางตัวเองก็ได้นะ”เยซองแขวะเข้าให้หลังจากทนมานานกับความหลงตัวเองของเพื่อน

    “เหอะ...เรื่องนั้นช่างมันเหอะ ที่สำคัญตอนนี้กูอยากมีแฟนกับเค้ามั่งอ่ะ พวกมึงช่วยหน่อยสิกูเฉาเฉาแล้วนะเว้ย”เยซองกับฮันคยองมองหน้ากันก่อนจะส่ายหัวอย่างหน่ายๆแต่ก่อนที่ทั้งคู่จะเอ่ยอะไรออกไปก็ดันมีเสียงของใครคนหนึ่งดังแทรกขึ้นมาพอที่จะทำให้คนที่ตะโกนอยากมีแฟนต้องขมวดคิ้วมองด้วยความไม่พอใจ

    “แฟนไม่ใช่ปัจจัย 5 จำเป็นด้วยหรอไง”

    “จำเป็น!!!”ซีวอนโพล่งออกมาทันทีทำให้คนที่พูดประโยคเมื่อสักครู่หันขวับไปจ้องซีวอนโดยอัตโนมัติพร้อมกับสายที่ทำให้คนอื่นๆในห้องร้อนหนาวๆไปตามๆกัน เพราะรู้ฤทธิ์เดชของคนทั้งสองดี แต่ในขณะที่ทั้งสองต่างพากันจ้องกันอยู่นั้นบรรดาเพื่อนๆในห้องถึงจะร้อนๆหนาวๆแต่ก็ยังมีกิจกรรมหนึ่งที่เกิดขึ้นจากความไม่ถูกกันของทั้งคู่ซึ่งมีหัวโจกเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคิบอมซึ่งเป็นหัวหน้าห้องที่เกิดปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดจากการที่เห็นทงแฮกับซีวอนที่ชอบทะเลาะกันทำให้เพื่อนคนอื่นในห้องเหนื่อยหน่ายเค้าเลยนำเสนอไอเดียสุดเจิดนี้ขึ้นซึ่งคนอื่นภายในห้องก็พากันเห็นด้วยเต็มที่ซึ่งกิจกรรมนี้มีชื่อว่า โต๊ะเล็กๆของเราสอง

    “มึงว่าวันนี้ใครชนะ”เสียงผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น

    “กูข้างซีวอนว่ะ”

    “ไม่ๆกูทงแฮ”

    “เงินมาๆ เร็วเข้าก่อนมันสองคนจะทะเลาะกันเสร็จ”คิบอมที่ตอนนี้นั่งรับเงินมือเป็นระวิงพลางเร่งให้คนอื่นรีบวางข้างสักทีและอีกนานาเสียงที่พนันกันว่าวันนี้คู่นี้ใครจะชนะต่างก็ทยอยเอาเงินมาวางบนโต๊ะเรียนเล็กๆเลือกข้างที่ตนเองคิดว่าจะชนะร่วมทั้งเพื่อนสนิทของคนทั้งคู่ด้วย คิบอมตอนนี้นั่งยิ้มกริ่มมองดูเงินตรงหน้าที่เพื่อนพากันเอามาพนันกันอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจคู่ปรับทั้งสองเลยแม้แต่น้อย

    “มึงยุ่งอะไรด้วยซีวอน อย่ามาหาเรื่องกู”ทงแฮเริ่มประโยคแรกของกิจกรรมโต๊ะเล็กๆของเราสอง?ของวันนี้ด้วยอารมณ์หงุดหงิด เรียกความสนใจของบรรดาผู้ร่วมกิจกรรมได้ดีทีเดียว ก็เมื่อเช้าก่อนเข้าห้องเค้าเพิ่งถูกบอกรักจากรุ่นพี่แต่เค้าก็ปฏิเสธไปด้วยเหตุผลเดิมคือไม่อยากมีแฟน พอเข้ามาในห้องดันได้ยินไอ้คู่ปรับมันโวยวายเรื่องอยากมีแฟนอีกยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปอีกไหนจะยังเพื่อนสนิทอย่างฮยอกแจที่สรรหาหนุ่มๆสาวๆมาประเคนให้ทำให้เค้าพูดประโยคต้นเหตุที่ไปสะกิดต่อมแฟนลิซึ่มของไอ้คู่ปรับเข้าจนได้

    “กูต้องยุ่งสิ ก็มึงปากหมานี่ พูดมาได้ว่าแฟนไม่ใช่ปัจจัย 5 เฮอะ!! ไม่รู้หรอไงว่าแฟนมันสำคัญยิ่งกว่าปัจจัย 1-2-3-4-5 ของมึงอีก”ทงแฮหรี่ตามองคนพูดก่อนจะยกยิ้มมุมปากเพราะพอจะเดาอาการอยากมีแฟนของซีวอนที่เข้าขั้นโคม่าได้

    “แล้วยังไงกูจะพูดอะไรก็ปากกู แล้วมึงมาเดือดร้อนอะไร มึงจะมีก็เรื่องของมึงสิ...อ่อ แต่ลืมไปว่าตอนนี้มึงไม่มีใครเอานี่น่า ก็เลยครั่นเนื้อครั่นตัว”ทงแฮพูดก่อนจะเหยียดยิ้มอย่างกวนอารมณ์ของซีวอนที่ปะทุหนักขึ้นทุกที

    “ทงแฮ!!! มึงหมายความว่าไงครั่นเนื้อครั่นตัวมึงพูดให้ดีๆนะ”ซีวอนที่ตอนนี้ตาวาวด้วยความโมโหตะคอกเสียงดังใส่ทงแฮ

    “กูก็พูดอย่างที่กูอยากพูด มึงจะเข้าใจยังไงก็เรื่องของมึงสิสมองก็อยู่กับมึงเอง”ทงแฮยักไหล่ก่อนหันกลับไปทำให้ซีวอนยิ่งโมโหหนัก

    “เออ...ทำมาเป็นปากดีถึงมึงจะบอกว่ากูครั่นเนื้อครั่นตัวอยากมีแฟนกูก็ยอมรับ อย่างน้อยกูก็ไม่ตายด้าน แต่ผิดกับมึงทงแฮ...หึ...เท่าที่กูรู้มามึงไม่เคยมีแฟนนี่ ไม่รู้ว่าป่านนี้มัน...จะด้านแล้วหรือเปล่า”ซีวอนพูดอย่างที่รู้มาว่าทงแฮไม่เคยมีแฟนสักคนซึ่งเค้าเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรซึ่งตอนแรกเค้าไม่ค่อยสนใจอะไรแต่พอมีเรื่องทะเลาะกันขึ้นมาทำให้เค้าต้องซึมซับเรื่องของคู่ปรับคนนี้เข้ามาอย่างช่วยไม่ได้เพื่อเป็นข้อมูลในการตั้งรับและรุกฝ่ายตรงข้ามซึ่งครั้งนี้ท่าทางมันจะใช้ได้ผลทีเดียวเพราะทงแฮหันกลับมามองเค้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อทีเดียวบวกกับหน้าที่เริ่มจะมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรืออายทำให้ซีวอนก็ส่งยิ้มกวนๆให้ไปซึ่งมันเป็นเหมือนเชื้อไฟดีดีนี่เอง

    “ซีวอน!!!”ทงแฮที่ตอนนี้โมโหขึ้นมาอีกครั้งทั้งทีเมื่อกี้มันเริ่มจะทุเลาลงไปบ้างแล้ว ทั้งที่เค้าไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดแต่ดูเหมือนซีวอนจะไม่ยอมจบง่ายๆ แถมยังจะเอาเรื่องของเค้ามาประจานอีก มันน่าโมโหนัก อยากจะถีบมันให้หลุดวงโคจรโลกไปไกลๆ

    “เรียกทำไมครับ หรือว่าอยากจะให้ซีวอนคนนี้ช่วยทดสอบว่า...มันด้านอย่างที่พูดหรือเปล่า”ซีวอนพูดอย่างอารมณ์ดีเมื่อเริ่มรู้สึกว่าตนเองเริ่มจะเป็นต่อในครั้งนี้ ส่วนทงแฮที่ตอนนี้กำลังพยายามระงับอารมณ์เดือดของตนเองถึงแม้ว่ามันจะเป็นไปได้อย่างยากเย็นก็ตาม ก่อนจะลุกขึ้นพาตัวเองเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะเรียนที่ซีวอนนั่งอยู่ทางหลังห้อง ซีวอนเองได้แต่เลิกคิ้วมองการมาของทงแฮอย่างสนใจ

    “กูว่านะ ก่อนที่มึงจะมาทดสอบกู มึงเอาเวลาไปพิจารณาตัวเองดีกว่าไหม ว่าทำไมมันถึงทำให้บรรดาเด็กๆของมึงแต่ละคนไม่มีใครยอมเป็นแฟนมึงสักคนน่ะ แล้วก็เลิกกวนกูสักทีกูจะลอกการบ้าน”พูดจบก็หันหลังเดินกลับไปนั่งยังโต๊ะเรียนของตัวเองทันทีโดยไม่สนใจซีวอนที่นั่งกำหมัดด้วยความโมโหมองตามหลังคู่ปรับที่ตัวเล็กกว่า และแล้วครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้คิบอมนั่งอมยิ้มมองซีวอนกับทงแฮสลับกันไปมาก่อนจะมองเงินที่ได้มาจากผลสรุปของกิจกรรม โต๊ะเล็กๆของเราสอง เพราะมันเท่ากับว่าเค้านั้นได้รับทรัพย์ถึงมันจะไม่มากมายแต่มันก็เป็นความสนุกสนานอย่างหนึ่งนั่นเอง แล้วนี่ก็ยังรวมไปถึงคนอื่นๆที่พากันเชียร์ข้างทงแฮที่ได้รับทรัพย์หน้าบานไปตามๆกันส่วนคนที่เสียเงินก็หน้าเซ็งไปตามๆกันแต่ละคนก็ได้แต่หวังแก้มือกับกิจกรรมนี้ในครั้งต่อไปเท่านั้นเอง

    “ไงมึง ฮยอกแจได้มาเท่าไหร่คราวนี้”ทงแฮถามขึ้นหลังจากที่ปะทะฝีปากกับคู่ปรับเสร็จก็กลับมานั่งลอกการบ้านเงยหน้าถามเพื่อนตัวเองที่เพิ่งกลับมานั่งที่ตัวเองซึ่งอยู่ข้างๆกัน

    “ก็นิดหน่อยน่า...โหย ไม่ทำหน้าเครียดอย่างนั้นหรอกน่าเดี๋ยวแบ่งให้เอาป่ะ”ฮยอกแจอ้อนเพื่อนตัวเองที่นั่งหน้าเครียด

    “พวกมึงนี่เป็นเพื่อนที่ดีกันจังเลยนะ เห็นความทุกข์ของกูเป็นเรื่องตลกกันไปหมด”ทงแฮบ่นอย่างเคืองๆกับการกระทำของบรรดาเพื่อนๆตัวเองที่เอาเค้ากับซีวอนมาเป็นเรื่องพนันขันต่อกันอย่างสนุกสนาน

    “โถ่...ก็แค่หากิจกรรมยาม...”                                                                                                                             

    “หุบปากไปเลยมึงคิบอม ตัวดีเลยมึงน่ะตัวตั้งตัวตีดีนัก หาเล็กหาน้อยกับชีวิตกูจัง”คิบอมที่ถูกทงแฮตาขวางใส่ถึงกับหุบปากโดยทันทีที่ยังพูดไม่จบ ก่อนจะทำเป็นบีบนวดออดอ้อนเพื่อนซี้ที่นั่งหน้าบูดอยู่ตรงกลางระหว่างเค้ากับฮยอกแจ

    “ไรวะ แค่นี้เองอย่าคิดมากสิ มึงเนี่ยถือเป็นตัวทำเงินของกูเลยนะ มึงสำคัญกับมากนะเว้ย”คิบอมที่พยายามบีบนวดพร้อมกับพูดโน้มน้าวถึงความสำคัญของทงแฮที่ต่อการหากินของตัวเอง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลแถมยังเหมือนจะไปกระตุ้นต่อมโมโหเข้าให้ซะอีก

    “หรอ กูสำคัญกับมึงขนาดนั้น...งั้นกูจะบอกอะไรให้นะ กูไม่รู้สึกชอบความสำคัญนั้นเลยแล้วกูก็ไม่ชอบให้ใครเอาเรื่องของกูมาประจานด้วย...อ่อ การบ้านลอกเสร็จแล้วฝากส่งด้วย แล้วบอกอาจารย์ด้วยว่ากูไม่สบายขอไปนอนพัก”พูดจบก็ลุกขึ้นถือกระเป๋านักเรียนพาดบ่าเดินออกจากห้องเรียนไปเลยพร้อมด้วยเสียงปิดประตูที่ดังลั่นทำเอาคนที่อยู่ภายในห้องสะดุ้งกันเป็นแถว ส่วนคนต้นเรื่องกิจกรรมก็ได้แต่หันมายิ้มแหยๆให้กับฮยอกแจที่นั่งเกาหัวอย่างรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย

    “คิบอม ทงแฮเป็นอะไรอ่ะ”

    “มันโมโห ที่กูเอามันมาพนันว่ะ”คิบอมตอบชินดงที่หันมาถามเมื่อเห็นทงแฮจู่ๆก็ออกจากห้องเรียนไปส่วนซีวอนที่เห็นว่าคู่ปรับตัวเองเดินออกจากห้องไปถึงกับถอนหายใจออกมาส่วนตัวก็ยังโมโหคู่ปรับคนนี้อยู่แต่เค้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทงแฮถึงได้อารมณ์เสียมากมายขนาดนี้ทั้งที่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เค้ากับทงแฮทะเลาะกันแล้วเพื่อนเอามาเล่นกันสนุกๆ ตัวเค้าเองซะอีกที่ต้องเครียดอับอายขายหน้าสุดๆ พูดมาได้ว่าให้พิจารณาตัวเอง พอคิดมาถึงตรงนี้อารมณ์ที่เริ่มจะเห็นใจคู่ปรับที่ตัวเล็กกว่าอันตรธานหายไปทันทีแทนที่ด้วยอารมณ์ขุ่นมัวที่ต่อมาจากการปะทะกะนเมื่อครู่โดยอัตโนมัติแล้วในหัวก็มีคำถามต่างๆผุดขึ้นมาอย่างมากมาย“กูอ่อนหัดขนาดนั้นเลยหรอวะ” “มิเชลก็ชมว่ากูเก่งนี่” “ยูนะออกจะติดใจนี่หว่า” และอื่นอีกมากมายที่พยายามจะเข้าข้างตัวเองแบบสุดๆ จนเพื่อนอย่างเยซองที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับย่นคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองนั่งหน้าเครียดคิ้วขมวดกันยุ่ง

    “มึงเป็นอะไรซีวอน เคื่องพวกกูแบบทงแฮหรอไง”คำถามของเยซองทำเอาฮันคยองที่หนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรมต้องหันมามองด้วยกลัวว่าเพื่อนตัวเองจะคิดมากอย่างทงแฮถึงแม้เค้าเองจะรู้ว่าซีวอนไม่ใช่คนคิดมากเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

    “เปล่า กูรู้ว่าเป็นสันดานของพวกมึง กูไม่ซีเรียส แต่กูกำลังคิดว่า...กูอ่อนหัดอย่างที่ไอ้หมวยทะเลมันด่าหรือเปล่า




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×