ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Prince Club +ปริศนารักเจ้าชาย+ online

    ลำดับตอนที่ #3 : บันทึกลับในห้องของคุณแม่

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 48


    ตอนที่3  บันทึกลับในห้องของคุณแม่



            “โมเอะชั้นอยากไปบ้านคุณตาจังเลย แต่ว่าตอนนี้ชั้นคงไปไม่ได้แล้วล่ะ”มินะเอามือเท้าคางอยู่ที่ม้ากินอ่อนใต้ต้นจามจุรีต้นใหญ่นั่งซึมระบายความในใจให้กับโมเอมิฟัง

            “แกไม่มีตั๋วเครื่องบินไปเมืองไทยใช่ม้าไม่เป็นไรเดี๋ยวชั้นออกให้เรื่อง ชิว ชิว (_ _)”โมเอมิพูดด้วยอ่านหนังสือการ์ตูนไปด้วย

           อันที่จริงอันเรื่องความไม่มีมารยาทก็เป็นคุณสมบัติต้นๆ ของโมเอมิอยู่เหมือนกัน เพราะถูกเลี้ยงอย่างตามใจมาจนเคยชินและใช้เงินเป็นใหญ่มาตลอดไม่เคยโดนขัดใจเพราะใครๆ ต่างก็กลัวอำนาจเงินของโมเอมิทั้งนั้น

            “มันไม่ใช่อะไรหรอกเมื่อวานคุณพ่อบอกว่าคุณตาน่ะหนีไปเพราะไม่ชอบหน้าคุณพ่อแล้วก็คงจะเกลียดชั้นไปด้วยคุณพ่อเลยไม่อยากให้ชั้นไปที่นั่น”มินะพูดเสียงเศร้าพลางดูดนมกล่องไปด้วย

            “นี่พ่อแกกับตาแกเนี่ยไม่รู้จะปัญญาอ่อนกันไปถึงไหนทำให้แกต้องรับกรรมไปด้วย*0*”โมเอมิว่าทำหน้าเซ็งสุดขีด

            “พ่อชั้นเค้าคงไม่ปัญญาอ่อนหรอกแต่ว่าคุณตาน่ะฟอร์มจัดเองต่างหาก d-0-b”มินะทำปากจู๋ไม่พอใจแล้วพูดอย่างกลั้นใจจะอารมณ์ดีสุดๆ

            “นี่ชั้นว่านะแกไม่ต้องคิดมากปิดเทอมนี้ไปเที่ยวกับชั้นก็ได้ ตาแกอยู่เมืองไทย ใช่มะปิดเทอมนี้เดี๋ยวเราไปจองตั๋วกัน”โมเอมิชี้มาที่มินะขยับนิ้วชี้เหมือนสั่ง

            “ไม่เป็นไรชั้นเกรงใจ(-- ) ( --)”มินะส่ายหัวหันไปมองรอบๆแก้เซ็ง

            “งั้นก็ตามใจแกไปกันเหอะโรงเรียนใกล้เข้าละ”โมเอมิลุกขึ้นเก็บของ

       แล้วทั้งสองก็เดินตรงไปที่หอนาฬิกาหน้าอาคารเพื่อดูเวลาเตรียมเข้าเรียนแล้วก็จะอ้อมไปเอางานที่โรงอาหารที่โมเอมิสั่งทากาฮาชิทำ

            เมื่อเดินเข้าไปในห้องมัธยม3Aแล้วอาจารย์ก็เตรียมสอนทันที เมื่ออาจารย์ออกไปแล้วก็เป็นเวลาพัก10นาทีเพื่อเตรียมเรียนคาบต่อไป นักเรียนในห้องทั้งชายหญิงต่างแปลงกายเป็นผีตองเหลืองแยกย้ายหาที่คุยจ้าล่ะหวั่น

            “พวกแกเล่นอะไรกันน่ะ”โมเอมิเอามือไขว้หลังเดินวางอำนาจไปยังกลุ่มนักเรียนหญิงที่นั่งข้างหน้าต่างที่นั่งทำนายดวงประจำวันกันอยู่

            “คือพวกเราทำนายดวงกันอยู่”เจ้าของไพ่ตอบกลัวๆ กล้า เอามือบังไพ่สุดฤทธิ์กลัวโมเอมิจะโยนทิ้งหน้าต่างเหมือนคราวก่อนอีก

            “ทำนายให้ชั้นหน่อยสิ”โมเอมิหย่อนก้นนั่งตรงเก้าอี้ว่างข้างตัวยกขาขึ้นมาไขว่ห้าง

            “เอ่อ..คือว่ามีคนต่อคิวอยู่”เจ้าของไพ่ตอบกลัวๆ กล้าๆ

            “แล้วแกเป็นเจ้าของแกจะลัดให้ชั้นไม่ได้รึไงเล่า!”โมเอมิตบโต๊ะ

            “เอ่อ..ได้สิ”เจ้าของไพ่ตอบอย่างจำยอม Y_Y

            “ไม่เอาน่าโมเอะ คนอื่นเค้ามาต่อคิวนานแล้วนะ”มินะพยายามดึงโมเอมิออกจากโต๊ะนั้น

            “มาก่อนแล้วไงล่ะเธอไม่ได้ยินที่เจ้าของเค้าพูดเหรอเค้าจะให้ชั้นก่อน ใช่มะ!!”โมเอมิเถียงหัวชนฝา แล้วไปตะคอกกับเจ้าของไพ่ต่อ

            “เอ่อ…เรามาทำนายกันดีกว่านะ”เจ้าของไพ่แทรกเอามือกวาดไพ่มารวมกัน

            เธอคงจะไม่ต้องการให้โมเอมิอารมณ์เสียมากกว่านี้แล้วพังโต๊ะเรียนเธอระเนระนาดไปอีก แล้วเธอก็สับไพ่แล้ววางลาดบนโต๊ะเรียนที่ถูกสมมุติให้เป็นโต๊ะทำนาย

            “เลือก3ใบจ๊ะ”เจ้าของไพ่พูด

             โมเอมิเลือกมั่วตามแต่จะหยิบได้โดยเลือกเอาไพ่ที่อยู่ข้างบนหมด

            “คำทำนายนะจ๊ะ ด้านความรักเธอจะได้เจอความรักในไม่ช้านี้กับชายหนุ่มที่สุดแสนจะเพอร์เฟคแต่เมื่อเธอได้เค้าแล้วเธอจะต้องสูญเสียสิ่งที่เธอรักที่สุดไป ส่วนการเรียนนะจ๊ะที่อาจจะต้องเปลี่ยนสถานที่เรียนใหม่แต่ราศีเธอจะลดลงทันทีเมื่อเปลี่ยนที่เรียน ส่วนเพื่อนนะจ๊ะ เธอจะต้องดูแลเพื่อนให้ดี อย่าปล่อยให้อะไรมาบดบังสายตาเพื่อให้เธอกับเพื่อนแตกคอกันเชื่อมั่นในเพื่อนเธอจะดีที่สุด”พอเจ้าของไพ่ทำนายจบใบหน้าที่ตั้งใจของโมเอมิก็เปลี่ยนไป

            “มันหมายความว่ายังไงที่แกพูดชั้นงงไปหมดแล้ว”โมเอมิกอดอกถามคิ้วชนกันเล็กน้อย

            “ชั้นบอกไม่ได้หรอกจ๊ะมันเป็นความลับของสวรรค์ชั้นบอกเธอได้แค่นี้”เจ้าของไพ่บอกหน้าเริ่มถอดสีเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดต่อไป

            \"เอ่อ..โมเอะอย่าคิดมากน่าเรื่องแค่นี้อย่างมงายเลยให้ชั้นทำนายต่อดีกว่า”มินะว่า

            เธอช่วยไกล่เกลี่ยให้โมเอมิออกมาพ้นรัศมีที่จะทำลายโต๊ะของนักเรียนคนนั้นให้พังพินาศ  แล้วก็นั่งลงที่โต๊ะนั้นแทนที่ของโมเอมิแล้วเลือกไพ่3ใบ

            “ว่าไงจ๊ะดวงของชั้นจะเป็นไงบ้าง”มินะเอียงคอถาม

            “เอ่อ..คือว่า”เจ้าของไพ่ลอบมองดูหน้าของโมเอมิไม่กล้าพูดเท่าไหร่เพราะว่าคำทำนายเป็นไปในทางที่ไม่ดี

            “แกก็บอกมาสิเดี๋ยวหมดพักก็ไม่ได้บอกซะหรอก”โมเอมิกอดอกว่าสงสายตาเหยียดๆ มองไปที่เจ้าของไพ่

            “คือคำทำนายบอกว่าด้านความรักอย่าไว้ใจคนรอบข้าง รอเท่านั้นที่จะสามารถหวังได้ การเรียนเธอจะต้องย้ายที่เรียนเนื่องจากปัญหาทางบ้านและเธออย่าไว้ใจเพื่อนสนิทมากเกินไปเพราะคนที่จะต้องมารับความเสียใจไม่ได้มีเธอเพียงคนเดียวแน่”เจ้าของไพ่พูดเสียงกระซิบกระซาบพยายามให้มินะได้ยินแค่คนเดียว

            “อ๋อ..นี่แกก็หมายความว่าชั้นน่ะจะทำร้ายมินะแล้วก็ให้มินะเลิกคบชั้นใช่มะ”โมเอมิเอาเรื่อง

            “เฮ้ย โมเอะเค้าก็แค่ทำนายตามหนังสืออย่าคิดมากสิ”มินะเอามือชักแขนที่โมเอมิยกขึ้นจะแหกหน้าเจ้าของไพ่

            “ตามบ้าตามบออะไรแกจำไม่ได้เหรอวันนั้นไอ้แก่นั่นมันบอกแกว่าอะไรสงสัยเป็นพวก18 มงกุฏทำงานกันเป็นขบวนการส่งลูกส่งหลานมาหาเงินถึงในนี้ แต่เสียใจนะแกก็รู้ว่ามินะกับชั้นซี้กันแค่ไหนสงสัยคำทำนายนี้คงต้องย้ายที่ไม่อยู่ในถังแล้วมั้ง”โมเอมิชูสมุดขึ้นสายตาก็แลไปที่ถังขยะหลังห้องในขณะที่เจ้าของทำหน้าเสีย

            “เฮ้ย! จารย์มาแล้ว”เสียงนักเรียนชายที่เป็นต้นห้องนั่งติดประตูตะโกนมา ในจังหวะที่โมเอมิหันไปมอง

            “ไปได้แล้ว”มินะพูดดึงสมุดออกจากมือปลิวไปตกอยู่ที่พื้นแล้วลากแขนโมเอมิออกมาก่อนที่จะทันเก็บ

            “แกจะชักชั้นทำไมแกรู้มั้ยมันเป็นแผนชั่วของอีพวกนั้นมันอยากให้แกเลิกคบชั้นมันกุเรื่อง มันเป็น18 มงกุฎ มันเป็น..”โมเอมิกลับมาที่โต๊ะก็นั่งบ่นฉอดแต่โดนมินะแทรกซะก่อน

            “เค้าจะทำอะไรก็เรื่องของเค้าแค่เราไว้ใจกันซื่อสัตย์ต่อกันแค่นั้นก็พอแล้วคำทำนายนั่นก็ไม่มีวันเป็นจริงหรอก แล้วเธอก็เลิกทำลายของของคนอื่นได้แล้วชั้นรู้ว่าเธอมีเงินแต่ของพวกนั้นคนอื่นอาจไม่หมายถึงเงินแต่มันคือคุณค่าทางจิตใจ”มินะพูดบ้างพอพูดจบก็หันไปสนใจกระดานต่อ

            “เชอะ..มันคือคุณค่าทางจิตใจ ชั้นจะบอกให้นะในโลกเนี๊ยะไม่มีอะไรที่เงินซื้อไม่ได้หรอก”โมเอมิเบ้ปาก



    ตอนเลิกเรียน

           นักเรียนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน ทยอยกันออกมาจากมุมต่างๆ ยังกะมดแตกรัง บางส่วนก็เกาะกลุ่มกันเป็นแก๊ง พวกม.ปลายบางส่วนก็ออกมากันเป็นคู่ๆ

            “นี่มินะพรุ่งนี้วันเสาร์ไปไหนรึเปล่า”โมเอมิถามขณะที่ถือกระเป๋านักเรียนเดินตามหลังมินะมา

            “ไม่ล่ะชั้นต้องทำรายงานให้เสร็จใกล้สอบแล้ว”

            “นี่เมื่อกี้ชั้นเอางานไปฝากทากาฮาชิทำแกก็ไม่มาบอก มานี่เดี๋ยวชั้นกลับไปให้แกเอางานให้มันก่อน”โมเอมิลากแขนมินะกลับไปทาง เดิมเพื่อเอางานไปให้ทากาฮาชิทำแทน

            “ไม่ต้องหรอกชั้นทำเองได้”มินะว่าพลางเอามือแกะมือของโมเอมิออก

            “เธอน่ะก็ควรทำอะไรด้วยตัวเองบ้างนะ ชั้นรู้ว่าเธอได้สืบทอดกิจการแน่ แต่ถ้าวันนึงเธอไม่ได้สืบทอดกิจการของพ่อเธอใครมันก็ไม่แยแสเธอทั้งนั้น”มินะว่าอย่างเหลืออดกับพฤติกรรมที่โมเอมิทำ

           “OK.เธอทำได้ก็ทำไป”โมเอมิว่า

           “เชอะทำเป็นว่าจะทำอะไรด้วยตัวเองปัญญาอ่อนชะมัด”โมเอมิเบ้หน้า

           “ป่ะๆ กลับบ้าน คุณพ่อบ้านมารอนานแล้ว”โมเอมิเสเปลี่ยนเรื่องเพราะรู้ว่าเธอพูดอะไรลงไปบ้าง

    วันเสาร์ ตอนสายๆ ที่บ้านของมินะ

           “พ่อคะ หนังสือเรียนปีที่แล้วของหนูพ่อเอาไว้ไหนคะ”มินะเลื่อนประตูโชจิออกโผล่หน้าออกมาถามพ่อที่คร่ำเคร่งกับงานโฆษณา

           “อยู่ในห้องแม่อะลูก”คุณพ่อตอบมาโดยไม่ได้ละสายตาจากกระดาษที่กองเต็มโต๊ะ

        

           มินะเดินผ่านไปแล้วเลื่อนประตูโชจิอีกบานที่อยู่มุมห้อง เมื่อแรกที่เธอเปิดประตูออกเธอรู้สึกว่ามันไม่ได้เปลี่ยนไปเลยกลิ่นกุหลาบอ่อนๆจากน้ำหอมที่แม่เธอใช้เป็นประจำ ความรู้สึกอบอุ่นที่โอบกอดเธออยู่ทุกครั้งที่เธอเข้ามา เธอยืนมองห้องแห่งความหลังนี้อยู่นานก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปและมุ่งหน้าไปที่ชั้นวางที่มุมห้องมันเป็นชั้นวางเก่าๆ ทำจากไม้เนื้ออ่อนสีเข้ม ด้านข้างเพ้นท์ลายชายหญิงคู่หนึ่งทั่งหันหน้าให้กับแม่น้ำในภาพ เธอเดิมตรงเข้าไปที่ชั้นวางค้นหน้าหนังสือเรียนเก่าๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ

           “อยู่นี่นี่เอง”มินะยิ้มเมื่อไปเจอหนังสือที่ต้องการอยู่ล่างสุดและถูกผ้าหลายผืนบังไว้

          

           มินะดึงมันออกมาด้วยความแรงเพราะของที่ทับอยู่ก็หนังพอสมควร เมื่อเธอได้หนังสือเล่มนั้นมาก็มือสมุดเล่มๆเล็กๆ ตกอยู่ มินะเปิดดูด้วยความอยากรู้รูปต่างๆร่วงลงมา มันเป็นรูปของชายหญิงคู่หนึ่งที่ถ่ายในวันแต่งงานซึ่งเธอจำได้ดีมันคือพ่อกับแม่ของเธอนั่นเอง และอีกรูปหนึ่งเป็นรูปชายหญิงอีกคู่แต่ดูอายุมากแล้วภาพด้านหลังที่ทั้งสองอยู่นี้ดูเหมือนจะเป็นวัดแต่คงไม่ใช่ที่ญี่ปุ่นแน่ มินะพลิกด้านหลังของรูปมันเขียนด้วยภาษาญี่ปุ่นใจความว่า

          

           ‘นี่แม่เองนะโทโมโกะ เราสองคนไม่ได้ไปจีนอย่างที่ฮิโร่เช่ตั้งใจไว้เค้าหยิบตั๋วสลับกับผู้ชายอีกคนหนึ่งเราเลยมาลงที่เมืองไทย ฮิโรเช่เลยจะไปซื้อตั๋วอีก2ใบเพื่อกลับไปจีนแต่ว่าเรากลับโดนวิ่งราวกระเป๋าเงินค่าตั๋วไม่พอ แม่กับพ่อเลยมาเช่าห้องแถวนั้นเปิดร้านติ่มซำ

    ฮิโรเช่เค้าไม่รู้ว่าแม่เขียนมาแต่แม่ยังอยากติดต่อแกแกตอบแม่มาตามที่อยู่นี้ด้วย’

                                                                                      คิโยโกะ

           “หาเจอรึยังลูก”พ่อเปิดประตูเข้ามา

           “เออ เจอแล้วค่ะ”เธอซ่อนบันทึกเล่มนั้นไว้ข้างหลัง

        คุณพ่อยิ้มให้ด้วยความเอ็นดูก่อนจะปิดประตูแล้วเดินออกไป มินะจึงเปิดอ่านต่อ

                    

          ‘ชั้นต้องยอมเสียสละขนาดนี้เลยหรือ ชั้นต้องยอมเสียพ่อและแม่ให้ไปตกระกำลำบากเพียงเพื่อผู้ชายคนเดียวหรือ ตอนนี้ชั้นรู้แล้วว่ากรรมมันมีจริงชั้นกำลังจะตายเรื่องนี้ชั้นไม่อยากให้พงษ์และมินะลูกสาวของชั้นรู้ ชั้นจะบอกลูกยังไงดีเกิดวันหนึ่งไม่มีพงษ์มินะจะอยู่กับใคร ชั้นอยากจะบอกเรื่องนี้กับมินะ  ชั้นรู้สึกว่าชั้นอ่อนแรงไปทุกที สักวันเมื่อชั้นตาย บันทึกเล่มนี้อาจจะเปิดเผยแล้ว มินะถ้าลูกได้อ่านในเวลานี้ แม่อยากให้ลูกได้ใช้ชีวิตอยู่กับตาและยายในช่วงชีวิตสุดท้ายของท่าน’



           “หนูได้อ่านแล้วค่ะคุณแม่ หนูจะทำตามความปรารถนาของแม่ค่ะ”มินะน้ำตาคลอพูดกับสมุดบันทึกเล่มนั้นเธอยัดมันใส่ในเสื้อกันหนาวด้านหน้าแล้วเดินออกจากห้องนั้นไปยังห้องนอนของเธอ

           “โมเอมิเราจะยังไปเมืองไทยตอนปิดเทอมนี้ใช่มะ”มินะใช้โทรศัพท์มือถือของเธอโทรหาโมเอมิ

           “ถ้าแกต้องการชั้นก็จะไป”โมเอมิตอบ

           “ตอนนี้ชั้นไม่มีทางเลือกชั้นไปเจอสมุดบันทึกของแม่ชั้นชั้นต้องไปใช้ชีวิตที่เมืองไทยเพื่อดูแลคุณตาคุณยายในบั้นปลายชีวิต”มินะพูดด้วยหยุดสะอื้นด้วย

           “แล้วไงล่ะ”

           “ชั้นต้องการให้แกช่วยหาที่เรียนให้ชั้นด้วย”มินะว่าต่อ

           “แกจะย้ายที่เรียนเหรอ แกจะไม่อยู่ญี่ปุ่นแล้วน่ะเหรอ”โมเอมิน้ำเสียงร้อนรน

           “แกก็รู้ว่าแม่ชั้นตายแล้วชั้นคิดว่าชั้นน่าจะทำอะไรสักอย่างแล้วตอนนี้ชั้นก็ค้นพบว่าชั้นควรทำอะไร”

           “OK.เดี๋ยววันจันทร์ค่อยพูดกันใหม่ว่าแกจะเอายังไงกันแน่”

           “ชั้นตัดสินใจแน่นอนแกช่วยหาข้อมูลที่เรียนให้หน่อยแล้ววันจันทร์เอาข้อมูลนั้นมาแล้วตกลงกัน”มินะสรุป

           “OK.ๆ เดี๋ยวเจอกันวันจันทร์นะ หวัดดี”โมเอมิกล่าวลาแล้ววางสาย



    เช้าวันจันทร์ ที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นจามจุรี

           “เราจะปิดเทอมใหญ่ 2 มีนาคม แล้ววันที่ 1 เมษายน เราจะได้ขึ้นม.4กันแล้วล่ะ”โมเอมิอ่านข้อความจากกระดาษที่ได้มาจากห้องธุรการ

           “ชั้นให้แกน่ะหาโรงเรียนใหม่ให้ไม่ได้หาวันเปิดภาคกับปิดภาค”มินะว่า

           “แกก็ฟังก่อนสิ”โมเอมิตะคอก

           “ที่ญี่ปุ่นจะเปิดเทอมสิงหาคมแต่ที่ไทยจะเปิดพฤษภาคมถ้าแกจะย้ายจริงๆแกก็ต้องรอ2เดือน มันนานมากเลยนะคิดดูดีๆ”โมเอมิบอกข้อมูล

           “แกจะให้ชั้นย้ายไปปีการศึกษาหน้าเลยรึไง เราแค่ย้ายกลางเทอม อย่างน้อยถ้าเราย้ายไปตอนนี้เราก็จะอยู่เทอมสอง”มินะว่า

           “นี่แกจะให้ชั้นกลับไปซ้ำเทอมสองอย่างนั้นนะเหรอ”โมเอมิตกใจ

           “นี่แกหมายความว่า”มินะชี้หน้า

           “ชั้นจะย้ายไปกับแก”โมเอมิชี้ตอบกลับเพื่อคลายความข้องใจ

           “งั้นเราก็มาเลือกที่เรียนกัน”โมเอมิกางแผนที่ประเทศไทยแบบขยายใหญ่ออก

           “ขนาดนั้นเลยเหรอ”มินะมองขนาดของแผนที่แทบจะมองได้เลยว่าบ้านใครเป็นบ้านใคร

           “เออน่า บ้านตาแกอยู่ตรงไหนล่ะ”โมเอมิเท้าสะเอวถาม

           “อยู่ถนนยุทธภพซอย4”

           “ยุทธภพซอย4อยู่ไหนๆ”โมเอมิพึมพำไล่นิ้วไปตามแผนที่

           “นี่ไงๆ”มินะเอามือชี้ตรงจุดที่ไม่ห่างมือโมเอมิเท่าไหร่นัก

           “ตอนนี้เราก็แค่หาโรงเรียนที่ใกล้รัศมีบ้านตาแก”โมเอมิว่าล้วงกระเป๋ากระโปรงเอาดินสอออกมาวงรัศมีของโรงเรียนที่ใกล้ๆ

           “มินะแกดูโรงเรียนนี้สิ”โมเอมิชี้ไปที่โรงเรียนโรงเรียนหนึ่งที่มีชื่อว่าPrince and Princess College

            “วิทยาลัยเจ้าชายและเจ้าหญิงเหรอ แกแน่ใจนะว่ามันไม่ใช่วังน่ะ”มินะว่า

            “เอาล่ะตกลงทันทีที่สอบเสร็จชั้นจะขอใบรับรองจบมัธยมต้นแล้วเราจะไปที่นี่ในฐานะนักเรียนม.ต้นอีกครั้ง”โมเอมิว่าพลางเก็บแผนที่อันแสนละเอียดยิบนั้นลงกระเป๋านักเรียน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×