ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เหตุผลที่คุณตาต้องจากไป
ตอนที่2- - -เหตุผลที่คุณตาต้องจากไป
ที่บ้านของมินะ
        “กลับมาแล้วค่ะ”มินะถอดรองเท้าด้วยตะโกนบอกพ่อด้วย
        “กลับมาแล้วเหรออาบน้ำก่อนป่ะเดี๋ยวลงมากินสุกี้ยากี้ด้วยกันวันนี้พ่อลงมือทำเป็นพิเศษเลยนะ^0^”พ่อตะโกนออกมาจากห้องครัว
        “คุณพ่อคะคุณแม่ชอบกินสุกี้ยากี้ใช่มะ”มินะเสียงอ่อยลงตอนที่เกาะประตูห้องครัวโผล่แต่หัวเข้าไปพูดกับพ่อ
        “โธ่!ลูกอย่าคิดมากสิแค่เรารำลึกความหลังเท่านั้นเอง”คุณพ่อเดินออกมาจากห้องครัวด้วยชุดสูทที่สวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน พยายามปรับน้ำเสียงให้เข้มแข็งเหมือนเดิมเมื่อนึกถึงภรรยาที่จากไป พลางโอบกอดมินะไว้ในอ้อมแขน
        “เดี๋ยวหนูมานะคะ”มินะดันตัวออกแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบน
        มินะหายไปอยู่นานแล้วกลับลงมาพร้อมกรอบรูปที่ด้านในมีรูปขาวดำเป็นรูปของผู้หญิงที่ใส่ชุดกิโมโนที่ด้านหลังเป็นกลีบซากุระที่โปรยปรายในยามฤดูร้อนที่แสนเศร้า
        “คุณแม่คะ มานั่งกินข้าวกับพวกเรานะคะ”มินะเอารูปนั้นตั้งตรงมุมหนึ่งของโต๊ะ
        “คุณไม่ต้องห่วงนะโทโมโกะผมจะดูแลมินะให้ดีที่สุด”พ่อเอามือลูบกระจกกรอบรูปตรงหน้าคุณแม่
        “พ่อคะสอบปลายภาคเสร็จแล้วหนูอยากไปหาคุณตาค่ะ”มินะเอ่ยขึ้นขณะที่คีบเนื้อวัวบนเตา
        “ไปทำไมล่ะลูกคุณตาเค้าไม่ชอบหน้าพวกเราหรอกขืนไปเค้าก็คงไม่ต้อนรับเสียเที่ยวเปล่าๆ”คุณพ่อชะงักกึกเมื่อได้ยินมินะพูดอย่างนี้เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงเสียเหลือเกิน
        “แล้วทำไมคุณตาเค้าถึงไม่ชอบเราล่ะคะ”มินะสงสัย ทำหน้ามุ่ย
  มันเป็นอย่างนี้มานมนานตั้งแต่เธอเกิดไม่มีใครต้องการให้เธอพูดถึงตากับยายเลยมีเพียงแต่จะทำให้เธอลืมไปซะว่าเคยมีตากับยายอยู่
        “เรื่องมันเป็นอย่างนี้ลูก”พ่อนั่งรำลึกความหลัง .
        “แกจะแต่งงานกับมันไม่ได้นะโทโมโกะ”คุณตาออกคำสั่งกับแม่ของมินะ แล้วเขย่าแขนแรงๆ เหมือนกับว่าจะให้เธอตื่นจากความฝันบ้าๆ นั่นซะ
        “ทำไมล่ะคะคุณพ่อพงษ์เค้าไม่ดีตรงไหนคะ”แม่มินะเถียงเอามือเกาะแขนพ่อของมินะแน่น
        “ก็มัน มันเอ่อ..ก็ ชั้นไม่ชอบ”คุณตาเถียงหัวชนฝาในขณะที่คุณยายนั่งดื่มชามองตาปริบๆ
        \"ถ้าคุณพ่อยังฝังใจกับผู้หญิงไทยที่คุณพ่อรักแต่เค้าทิ้งคุณพ่อล่ะก็คุณพ่ออย่าเอามาเกี่ยวกับเรื่องนี้สิคะ”แม่ของมินะเอ่ยอย่างอัดอั้น เถียงสุดแรงเกิดไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
        “อ๋อ เรื่องนี้นี่เอง”พ่อของมินะเริ่มหายงงพลางหัวเราะเบา
        “นี่แกมีสิทธิอะไรมาหัวเราะใส่ชั้น โทโมโกะเข้าบ้านไป”คุณตาคุณตาส่งสายตาอาฆาต ชี้หน้าพ่อของมินะ
        “ไม่ค่ะจนกว่าคุณพ่อจะยอมให้เราแต่งงานกัน”แม่ของมินะเถียงหัวชนฝา อย่างกะนางเอกหนังไทย
        “นี่ถ้าแกยังยืนยันจะรักกับมันก็ออกจากบ้านชั้น”คุณตาชี้นิ้วไปทางประตู
        “คุณพ่อ!”แม่ของมินะสะอื้น
        “แกไม่ไปใช่มะ ชั้นไปก็ได้ยกบ้านนี้เป็นวิมานแกสองคนไปเลย”คุณตาบ่นพูดอย่างน้อยใจหันหลังไปพาคุณยายลุกขึ้นทำท่าจะไปเก็บของในห้อง
        “คุณพ่อพูดจริงเหรอคะ”แม่ของมินะลองใจ เริ่มปาดน้ำตาออก
        “แล้วมันเรื่องอะไรที่ชั้นจะต้องโกหกแก”คุณตาพูดอย่างเป็นต่อเพราะคิดว่าแม่ของมินะจะยอม หันหลังมามองแล้วเชิดหน้ากลับ
        “หนูจะไม่ไปค่ะ”แม่มินะเสียงหนักแน่น แสยะยิ้มตรงมุมปากอย่างมาดร้าย
        “นี่แกหมายถึงว่าชั้นจะต้องไปใช่มะ”คุณตาหน้าซีด ชี้นิ้วสั้นป้อมที่บัดนี้สั่นสะท้านด้วยแรงโกรธมาที่แม่ของมินะ
        “ไหนคุณพ่อบอกว่าพูดแล้วไม่คืนคำไงคะ”เแม่ของมินะพูดอย่างเป็นต่อ และยังแสยะยิ้มแบบนั้นต่อไป
        “ด้าย ชั้นจะไป”คุณตาลากเสียงแบบเสียงฟอร์มนิดๆเชิดหน้าจูงมือคุณยายเลื่อนประตูโชจิ (ประตูเลื่อนที่ทำจากกระดาษบางปะลงบนกรอบไม้สี่เหลี่ยมใช้กั้นห้องในบ้านแบบญี่ปุ่น) เข้าไปเก็บของ
        “เราจะไปกันจริงเหรอฮิโรเช่”คุณยายถามอย่างใจหายพลางมองรอบด้านทั้งผ้าเพดานและสวนด้านนอกเหมือนกับว่าเป็นการบอกลาพวกมัน
        “จริงสิคิโยโกะมันไม่เห็นหัวเราแล้วนี่บ้านเราก็ยกให้มันแล้วมันคงไม่อยากให้เราอยู่หรอก”คุณตาพูดน้ำเสียงตัดพ้อและส่งสายที่เปี่ยมไปด้วยพลังมามองคุณยายเป็นเชิงว่า ‘เชื่อชั้นเถอะ’
        “แล้วเราจะหนีไปที่ไหน”คุณยายมองคุณตาสีหน้ากังวลพลางจับมือคุณตา
        “ชั้นก็พอจะมีเงินอยู่บ้างเราไปจีนด้วยกันชั้นจะไปเปิดร้านติ่มซำที่นั่น”คุณตาจับคุณยายบีบไว้ และยังส่งสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นส่งต่อไปยังสายตาของหญิงที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาทั้งชีวิต
        “จะไปจริงๆน่ะเหรอ”คุณยายมองบริเวณโดยรอบ แล้วถามซ้ำอีกครั้งรอคอยคำตอบ
        \"จริงสิ”คุณตาลุกขึ้นคุณตาส่งมือให้คุณยายเป็นที่ยึดเวลาลุก
        “เราจะไปด้วยยูกาตะแบบเนี๊ยะเหรอ”คุณยายก้มมองสภาพัวเองที่อยู่ในชุดยูกาตะมอซอ
        “ได้สิเรามีเงินซะอย่างไม่มีใครว่าหรอกเสื้อผ้าเราไปหาเอาข้างหน้าก็ได้”คุณตาลูบหลังคุณยายเป็นเชิงปลอบ
        “แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน”คุณยายไม่วายกังวลเธอหลับตาและภาวนาในใจให้มันเป็นความฝันซะ
        “บ้านเช่าข้างหน้ามีตั้งเยอะไม่ต้องกังวลหรอกน่า”คุณตาว่าพลางจูงมือคุณยายเลื่อนประตูโชจิแล้วเดินออกไปข้างนอก
        “คุณพ่อจะไปจริงๆน่ะเหรอคะO_____O”คุณแม่ตาโตมองกระเป๋าเสื้อผ้าที่คุณตากับคุณยายลากตามออกมาด้วย
        “จริงสิคนอย่างชั้นพูดแล้วไม่อยากคืนคำ”คุณตาเชิดหน้าทำหยิ่ง มองดูทั้งสองอย่างดูถูก
        “งั้นก็แล้วแต่คุณพ่อก็แล้วกันนะคะแต่ว่าหนูขอทำหน้าที่ลูกที่ดีอีกครั้งได้มั้ยคะ”คุณแม่เดินเข้ามาจับมือคุณตากับคุณยายไว้ แต่คุณตาสะบัดมือออกอย่างแรงเหมือนกับว่าจะให้สายใยความเป็นพ่อลูกนั้นหลุดออกไปด้วย
        “อย่าบอกนะว่าแกจะไม่แต่งงานกันมันแล้ว”คุณตาทำสีหน้าเหยียดๆมองไปทางคุณพ่อที่ยืนหน้าเสียอยู่ข้างหลังคุณแม่
        \"ผมไปรอข้างนอกนะโทโมโกะ”คุณพ่อกระซิบบอกเพราะบรรยากาศที่ตึงเครียดตอนนี้มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน
        “เปล่าหรอกค่ะ หนูจะไปส่งคุณพ่อน่ะค่ะ”คุณแม่ก้มหน้าบอกละอายใจ ไม่กล้าสู้หน้ากับการกระทำของตัวเอง
        “คุณแม่จะให้หนูไปส่งที่ไหนเหรอคะO______O”เมื่อพูดกับคุณตาไม่ได้ผลคุณแม่จึงหันไปพูดกับคุณยาย
        “ไปส่งที่สนามบินพอแล้วโทโมโกะ”คุณยายบอกอย่างเกรงอกเกรงใจ น้ำเสียงแฝงด้วยความเศร้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น
        “งั้นไปขึ้นรถเลยค่ะคุณแม่”คุณแม่จูงแขนคุณยายไปที่รถ
        “ไม่ต้องเชื้อเชิญให้ชั้นออกไปเร็วอย่างนั้นก็ได้ยังไงชั้นก็ไม่หน้าด้านพออยู่เป็นหนามยอกอกแกหรอก”คุณตาเย้ยหน้าใส่พูดลอยๆ แต่หวังให้คุณแม่ได้ยินเผื่อว่าจะเปลี่ยนใจเพราะใจจริงก็ไม่ได้อยากไปเท่าไหร่
        “ไปครับคุณพ่อ”คุณพ่อจะมาช่วยคุณตาถือกระเป๋า
        “ไม่ต้อง! ชั้นมีลูกแค่คนเดียวแต่ตอนนี้มันได้ตายจากไปแล้วไม่ต้องมาเรียกชั้นว่าพ่อ”คุณตาชักกระเป๋าหนีตะคอกซะจนคุณพ่อพูดอะไรไม่ออก
ที่สนามบิน
        “คุณพ่อรอนี่นะคะเดี๋ยวหนูไปซื้อตั๋วให้”คุณแม่บอกคุณตากับคุณยายให้นั่งรอที่ที่นั่ง แถวยาว
        “นี่ค่ะคุณพ่อตั๋วเดินทางโชคดีนะคะคุณพ่อ”คุณแม่น้ำตาซึม ยื่นตั๋วเครื่องบินให้ด้วยมือที่สั่นด้วยแรงสะอื้น
        “คนอย่างชั้นน่ะโชคดีอยู่แล้วแกไม่ต้องมาอวยพรหรอก”คุณตาบิดหน้าหนีเพราะน้ำตามันพาลจะไหล รีบฉวยตั๋วเครื่องบินมา
        “นั่งรออยู่นี่นะคะเครื่องจะออกตอนสามทุ่มนะคะคุณพ่อจำเที่ยวบินดีๆล่ะ”คุณแม่สั่งส่งท้าย น้ำตาไหลพราก
        “แกรีบๆไปเสวยสุขกันซะไม่ต้องมาห่วงชั้น”คุณตาออกปากไล่แล้วชักให้คุณยายนั่งลงตรงเก้าอี้
    คุณแม่เดินจากไปทั้งน้ำตาโดยมีคุณพ่อประคองไว้
        “ดู๊ ดูมันกลัวว่าชั้นจะรั้งมันไว้รึไง”คุณตาทำท่าทางหยิ่งเหมือนเดิมเพื่อให้ความหยิ่งมาแทนความอาลัยบนใบหน้า
        “เฮ้อ! ขอพักก่อนะ”คุณตาวางของทุกอย่างไว้ข้างลำตัว
        “ไปไหนครับคุณตา”มีชายหนุ่มเดินมานั่งข้างข้างคุณตา
        “เรื่องของชั้น”คุณตาเชิดหน้าหนีจนชายหนุ่มที่นั่งข้างๆจ๋อยสนิท
        “อ้อ อย่าขโมยของๆชั้นนะโว้ยเดี๋ยวต่อยไม่เลี้ยงเลย”คุณตาขู่แต่ชายหนุ่มบิดหน้าหนีซะ
        “อี่ส์O^O”คุณตายกกำปั้นจะต่อยแต่คุณยายห้ามซะก่อน
        “ฮิโรเช่เที่ยวบินที่เราจะไปออกแล้วนะ ป่ะอย่าไปต่อล้อต่อเถียงกับเค้าเลย
    เสียงประชาสัมพันธ์ก็ประกาศให้ผู้โดยสารขาออกขึ้นเครื่อง
        “ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้หนุ่ม”คุณตาตีหน้ายักษ์ใส่พลางเก็บของและตั๋วเครื่องบิน
ตายแล้ว!!!!!!!>o
ที่บ้านของมินะ
        “กลับมาแล้วค่ะ”มินะถอดรองเท้าด้วยตะโกนบอกพ่อด้วย
        “กลับมาแล้วเหรออาบน้ำก่อนป่ะเดี๋ยวลงมากินสุกี้ยากี้ด้วยกันวันนี้พ่อลงมือทำเป็นพิเศษเลยนะ^0^”พ่อตะโกนออกมาจากห้องครัว
        “คุณพ่อคะคุณแม่ชอบกินสุกี้ยากี้ใช่มะ”มินะเสียงอ่อยลงตอนที่เกาะประตูห้องครัวโผล่แต่หัวเข้าไปพูดกับพ่อ
        “โธ่!ลูกอย่าคิดมากสิแค่เรารำลึกความหลังเท่านั้นเอง”คุณพ่อเดินออกมาจากห้องครัวด้วยชุดสูทที่สวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน พยายามปรับน้ำเสียงให้เข้มแข็งเหมือนเดิมเมื่อนึกถึงภรรยาที่จากไป พลางโอบกอดมินะไว้ในอ้อมแขน
        “เดี๋ยวหนูมานะคะ”มินะดันตัวออกแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบน
        มินะหายไปอยู่นานแล้วกลับลงมาพร้อมกรอบรูปที่ด้านในมีรูปขาวดำเป็นรูปของผู้หญิงที่ใส่ชุดกิโมโนที่ด้านหลังเป็นกลีบซากุระที่โปรยปรายในยามฤดูร้อนที่แสนเศร้า
        “คุณแม่คะ มานั่งกินข้าวกับพวกเรานะคะ”มินะเอารูปนั้นตั้งตรงมุมหนึ่งของโต๊ะ
        “คุณไม่ต้องห่วงนะโทโมโกะผมจะดูแลมินะให้ดีที่สุด”พ่อเอามือลูบกระจกกรอบรูปตรงหน้าคุณแม่
        “พ่อคะสอบปลายภาคเสร็จแล้วหนูอยากไปหาคุณตาค่ะ”มินะเอ่ยขึ้นขณะที่คีบเนื้อวัวบนเตา
        “ไปทำไมล่ะลูกคุณตาเค้าไม่ชอบหน้าพวกเราหรอกขืนไปเค้าก็คงไม่ต้อนรับเสียเที่ยวเปล่าๆ”คุณพ่อชะงักกึกเมื่อได้ยินมินะพูดอย่างนี้เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงเสียเหลือเกิน
        “แล้วทำไมคุณตาเค้าถึงไม่ชอบเราล่ะคะ”มินะสงสัย ทำหน้ามุ่ย
  มันเป็นอย่างนี้มานมนานตั้งแต่เธอเกิดไม่มีใครต้องการให้เธอพูดถึงตากับยายเลยมีเพียงแต่จะทำให้เธอลืมไปซะว่าเคยมีตากับยายอยู่
        “เรื่องมันเป็นอย่างนี้ลูก”พ่อนั่งรำลึกความหลัง .
        “แกจะแต่งงานกับมันไม่ได้นะโทโมโกะ”คุณตาออกคำสั่งกับแม่ของมินะ แล้วเขย่าแขนแรงๆ เหมือนกับว่าจะให้เธอตื่นจากความฝันบ้าๆ นั่นซะ
        “ทำไมล่ะคะคุณพ่อพงษ์เค้าไม่ดีตรงไหนคะ”แม่มินะเถียงเอามือเกาะแขนพ่อของมินะแน่น
        “ก็มัน มันเอ่อ..ก็ ชั้นไม่ชอบ”คุณตาเถียงหัวชนฝาในขณะที่คุณยายนั่งดื่มชามองตาปริบๆ
        \"ถ้าคุณพ่อยังฝังใจกับผู้หญิงไทยที่คุณพ่อรักแต่เค้าทิ้งคุณพ่อล่ะก็คุณพ่ออย่าเอามาเกี่ยวกับเรื่องนี้สิคะ”แม่ของมินะเอ่ยอย่างอัดอั้น เถียงสุดแรงเกิดไม่ยอมแพ้เหมือนกัน
        “อ๋อ เรื่องนี้นี่เอง”พ่อของมินะเริ่มหายงงพลางหัวเราะเบา
        “นี่แกมีสิทธิอะไรมาหัวเราะใส่ชั้น โทโมโกะเข้าบ้านไป”คุณตาคุณตาส่งสายตาอาฆาต ชี้หน้าพ่อของมินะ
        “ไม่ค่ะจนกว่าคุณพ่อจะยอมให้เราแต่งงานกัน”แม่ของมินะเถียงหัวชนฝา อย่างกะนางเอกหนังไทย
        “นี่ถ้าแกยังยืนยันจะรักกับมันก็ออกจากบ้านชั้น”คุณตาชี้นิ้วไปทางประตู
        “คุณพ่อ!”แม่ของมินะสะอื้น
        “แกไม่ไปใช่มะ ชั้นไปก็ได้ยกบ้านนี้เป็นวิมานแกสองคนไปเลย”คุณตาบ่นพูดอย่างน้อยใจหันหลังไปพาคุณยายลุกขึ้นทำท่าจะไปเก็บของในห้อง
        “คุณพ่อพูดจริงเหรอคะ”แม่ของมินะลองใจ เริ่มปาดน้ำตาออก
        “แล้วมันเรื่องอะไรที่ชั้นจะต้องโกหกแก”คุณตาพูดอย่างเป็นต่อเพราะคิดว่าแม่ของมินะจะยอม หันหลังมามองแล้วเชิดหน้ากลับ
        “หนูจะไม่ไปค่ะ”แม่มินะเสียงหนักแน่น แสยะยิ้มตรงมุมปากอย่างมาดร้าย
        “นี่แกหมายถึงว่าชั้นจะต้องไปใช่มะ”คุณตาหน้าซีด ชี้นิ้วสั้นป้อมที่บัดนี้สั่นสะท้านด้วยแรงโกรธมาที่แม่ของมินะ
        “ไหนคุณพ่อบอกว่าพูดแล้วไม่คืนคำไงคะ”เแม่ของมินะพูดอย่างเป็นต่อ และยังแสยะยิ้มแบบนั้นต่อไป
        “ด้าย ชั้นจะไป”คุณตาลากเสียงแบบเสียงฟอร์มนิดๆเชิดหน้าจูงมือคุณยายเลื่อนประตูโชจิ (ประตูเลื่อนที่ทำจากกระดาษบางปะลงบนกรอบไม้สี่เหลี่ยมใช้กั้นห้องในบ้านแบบญี่ปุ่น) เข้าไปเก็บของ
        “เราจะไปกันจริงเหรอฮิโรเช่”คุณยายถามอย่างใจหายพลางมองรอบด้านทั้งผ้าเพดานและสวนด้านนอกเหมือนกับว่าเป็นการบอกลาพวกมัน
        “จริงสิคิโยโกะมันไม่เห็นหัวเราแล้วนี่บ้านเราก็ยกให้มันแล้วมันคงไม่อยากให้เราอยู่หรอก”คุณตาพูดน้ำเสียงตัดพ้อและส่งสายที่เปี่ยมไปด้วยพลังมามองคุณยายเป็นเชิงว่า ‘เชื่อชั้นเถอะ’
        “แล้วเราจะหนีไปที่ไหน”คุณยายมองคุณตาสีหน้ากังวลพลางจับมือคุณตา
        “ชั้นก็พอจะมีเงินอยู่บ้างเราไปจีนด้วยกันชั้นจะไปเปิดร้านติ่มซำที่นั่น”คุณตาจับคุณยายบีบไว้ และยังส่งสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นส่งต่อไปยังสายตาของหญิงที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาทั้งชีวิต
        “จะไปจริงๆน่ะเหรอ”คุณยายมองบริเวณโดยรอบ แล้วถามซ้ำอีกครั้งรอคอยคำตอบ
        \"จริงสิ”คุณตาลุกขึ้นคุณตาส่งมือให้คุณยายเป็นที่ยึดเวลาลุก
        “เราจะไปด้วยยูกาตะแบบเนี๊ยะเหรอ”คุณยายก้มมองสภาพัวเองที่อยู่ในชุดยูกาตะมอซอ
        “ได้สิเรามีเงินซะอย่างไม่มีใครว่าหรอกเสื้อผ้าเราไปหาเอาข้างหน้าก็ได้”คุณตาลูบหลังคุณยายเป็นเชิงปลอบ
        “แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน”คุณยายไม่วายกังวลเธอหลับตาและภาวนาในใจให้มันเป็นความฝันซะ
        “บ้านเช่าข้างหน้ามีตั้งเยอะไม่ต้องกังวลหรอกน่า”คุณตาว่าพลางจูงมือคุณยายเลื่อนประตูโชจิแล้วเดินออกไปข้างนอก
        “คุณพ่อจะไปจริงๆน่ะเหรอคะO_____O”คุณแม่ตาโตมองกระเป๋าเสื้อผ้าที่คุณตากับคุณยายลากตามออกมาด้วย
        “จริงสิคนอย่างชั้นพูดแล้วไม่อยากคืนคำ”คุณตาเชิดหน้าทำหยิ่ง มองดูทั้งสองอย่างดูถูก
        “งั้นก็แล้วแต่คุณพ่อก็แล้วกันนะคะแต่ว่าหนูขอทำหน้าที่ลูกที่ดีอีกครั้งได้มั้ยคะ”คุณแม่เดินเข้ามาจับมือคุณตากับคุณยายไว้ แต่คุณตาสะบัดมือออกอย่างแรงเหมือนกับว่าจะให้สายใยความเป็นพ่อลูกนั้นหลุดออกไปด้วย
        “อย่าบอกนะว่าแกจะไม่แต่งงานกันมันแล้ว”คุณตาทำสีหน้าเหยียดๆมองไปทางคุณพ่อที่ยืนหน้าเสียอยู่ข้างหลังคุณแม่
        \"ผมไปรอข้างนอกนะโทโมโกะ”คุณพ่อกระซิบบอกเพราะบรรยากาศที่ตึงเครียดตอนนี้มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน
        “เปล่าหรอกค่ะ หนูจะไปส่งคุณพ่อน่ะค่ะ”คุณแม่ก้มหน้าบอกละอายใจ ไม่กล้าสู้หน้ากับการกระทำของตัวเอง
        “คุณแม่จะให้หนูไปส่งที่ไหนเหรอคะO______O”เมื่อพูดกับคุณตาไม่ได้ผลคุณแม่จึงหันไปพูดกับคุณยาย
        “ไปส่งที่สนามบินพอแล้วโทโมโกะ”คุณยายบอกอย่างเกรงอกเกรงใจ น้ำเสียงแฝงด้วยความเศร้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น
        “งั้นไปขึ้นรถเลยค่ะคุณแม่”คุณแม่จูงแขนคุณยายไปที่รถ
        “ไม่ต้องเชื้อเชิญให้ชั้นออกไปเร็วอย่างนั้นก็ได้ยังไงชั้นก็ไม่หน้าด้านพออยู่เป็นหนามยอกอกแกหรอก”คุณตาเย้ยหน้าใส่พูดลอยๆ แต่หวังให้คุณแม่ได้ยินเผื่อว่าจะเปลี่ยนใจเพราะใจจริงก็ไม่ได้อยากไปเท่าไหร่
        “ไปครับคุณพ่อ”คุณพ่อจะมาช่วยคุณตาถือกระเป๋า
        “ไม่ต้อง! ชั้นมีลูกแค่คนเดียวแต่ตอนนี้มันได้ตายจากไปแล้วไม่ต้องมาเรียกชั้นว่าพ่อ”คุณตาชักกระเป๋าหนีตะคอกซะจนคุณพ่อพูดอะไรไม่ออก
ที่สนามบิน
        “คุณพ่อรอนี่นะคะเดี๋ยวหนูไปซื้อตั๋วให้”คุณแม่บอกคุณตากับคุณยายให้นั่งรอที่ที่นั่ง แถวยาว
        “นี่ค่ะคุณพ่อตั๋วเดินทางโชคดีนะคะคุณพ่อ”คุณแม่น้ำตาซึม ยื่นตั๋วเครื่องบินให้ด้วยมือที่สั่นด้วยแรงสะอื้น
        “คนอย่างชั้นน่ะโชคดีอยู่แล้วแกไม่ต้องมาอวยพรหรอก”คุณตาบิดหน้าหนีเพราะน้ำตามันพาลจะไหล รีบฉวยตั๋วเครื่องบินมา
        “นั่งรออยู่นี่นะคะเครื่องจะออกตอนสามทุ่มนะคะคุณพ่อจำเที่ยวบินดีๆล่ะ”คุณแม่สั่งส่งท้าย น้ำตาไหลพราก
        “แกรีบๆไปเสวยสุขกันซะไม่ต้องมาห่วงชั้น”คุณตาออกปากไล่แล้วชักให้คุณยายนั่งลงตรงเก้าอี้
    คุณแม่เดินจากไปทั้งน้ำตาโดยมีคุณพ่อประคองไว้
        “ดู๊ ดูมันกลัวว่าชั้นจะรั้งมันไว้รึไง”คุณตาทำท่าทางหยิ่งเหมือนเดิมเพื่อให้ความหยิ่งมาแทนความอาลัยบนใบหน้า
        “เฮ้อ! ขอพักก่อนะ”คุณตาวางของทุกอย่างไว้ข้างลำตัว
        “ไปไหนครับคุณตา”มีชายหนุ่มเดินมานั่งข้างข้างคุณตา
        “เรื่องของชั้น”คุณตาเชิดหน้าหนีจนชายหนุ่มที่นั่งข้างๆจ๋อยสนิท
        “อ้อ อย่าขโมยของๆชั้นนะโว้ยเดี๋ยวต่อยไม่เลี้ยงเลย”คุณตาขู่แต่ชายหนุ่มบิดหน้าหนีซะ
        “อี่ส์O^O”คุณตายกกำปั้นจะต่อยแต่คุณยายห้ามซะก่อน
        “ฮิโรเช่เที่ยวบินที่เราจะไปออกแล้วนะ ป่ะอย่าไปต่อล้อต่อเถียงกับเค้าเลย
    เสียงประชาสัมพันธ์ก็ประกาศให้ผู้โดยสารขาออกขึ้นเครื่อง
        “ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้หนุ่ม”คุณตาตีหน้ายักษ์ใส่พลางเก็บของและตั๋วเครื่องบิน
ตายแล้ว!!!!!!!>o
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น