คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : พายุฝน,คน กับความรัก
ยุนโฮมารับแจจุงที่โรงเรียนเหมือนเคย และเป็นเช่นเคยที่ยุนโฮไม่แม้แต่จะมองไปที่ร่างบางแม้แต่น้อย เป็นเวลาเกือบอาทิตย์หนึ่งแล้วที่แจจุงต้องทนกับความอึดอัดแบบนี้ แจจุงที่แอบเบือนหน้าไปตรงหน้าต่างทุกครั้งที่น้ำตาไหลอย่างช่วยไม่ได้ และเพื่อไม่ให้ยุนโฮสังเกตเห็น เค้าต้องแกล้งทำเป็นหลับไปอย่างนั้น สายตาที่เย็นชาและท่าทีที่ห่างเหิน….แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าการที่ต้องจากไปไกลในอีกหนึ่งมุมโลก แจจุงไม่ได้ชอบความเจ็บปวด แต่ทว่าความเจ็บปวดในตอนนี้น้อยกว่านัก น้อยกว่าการลาจากกันไกลมากมาย
รถติดเป็นเวลานานเหลือเกิน แจจุงรู้สึกหนาวจนจับใจ เมื่อข้างนอกฝนยังตกหนักไม่ยอมหยุด ยุนโฮจึ๊กปากเมื่อเห็นป้ายที่บอกว่าถนนพัง เวลาแบบนี้ถ้าไม่รอไปอีกสองสามชั่วโมงก็ต้องขับรถอ้อมโลกไปยังบ้างของเค้า แต่ทว่ารถติดแบบนี้ไม่มีสิทธิ์ ยุนโฮทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งรอคอยเจ้าหน้าที่ให้เคลียร์ถนนให้เสร็จ แจจุงเริ่มตัวสั่น ยุนโฮถอดเสื้อนอกของตัวเองออกทันทีเมื่อสังเกตุเห็น เค้าค่อยๆวางมันไว้บนตัวของร่างบางที่กำลังเอาหัวอิงหน้าต่างมองลอดหยุดน้ำมากมายไปยังถนนที่คร่าคร่ำไปด้วยรถ แจจุงสะดุ้ง การสบตาครั้งแรกในรอบหนึ่งอาทิตย์ทำเอาทั้งคู่ทำอะไรไม่ถูก
“คุณยุนโฮใส่เถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย” แจจุงยื่นเสื้อคืน
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ…ใส่ซะ ฉันไม่หนาว” ว่าแล้วก็ดึงเสื้อนอกของตัวเองคืนก่อนจะดันตัวให้ร่างบางเอนนอนที่เดิม เสื้อนอกตัวเดิมถูกวางทับร่างบางอีกครั้ง แจจุงแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร่างบางเกลียดตัวเองเหลือเกินที่อ่อนแอและมักจะพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนโยนของร่างสูงเสมอ คำพูดที่ไม่ได้เจือไปด้วยความห่วงใยแต่ทว่าขวานผ่าซากชวนให้หาเรื่องไม่ได้ทำให้แจจุงรู้สึกแย่เลยสักนิด หากแต่การกระทำต่างหากที่สำคัญ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทุกคำพูดเย็นชาตั้งแต่หกปีที่แล้วมาจนถึงเดี๋ยวนี้ถึงทำร้ายแจจุงได้น้อยมาก เพราะการกระทำที่อ่อนโยนบ่งบอกว่าเป็นห่วงร่างบางเสมอนั่นไง
แต่นั่นก็ยิ่งทำให้คิมแจจุงตัดใจได้ยากขึ้น
“คุณยุนโฮ…ผมไม่ไปอเมริกาหรอกนะครับ”
“……….” ไม่มีคำถามหรือคำโต้เถียงใดๆ จองยุนโฮเพียงแต่รอคำต่อไปที่ร่างบางจะเอื้อนเอ่ย
“เพราะถึงคุณยุนโฮจะไล่ผมไปที่ไหน ไกลแค่ไหน ถ้าผมกลับมาแล้ว ความรู้สึกผมก็ไม่เปลี่ยนแปลง ความรู้สึกที่บอกว่ารักคุณยุนโฮ…. ไม่มีวันเปลี่ยนไปแน่นอนครับ”
“พอเถอะคิมแจจุง ฉันเหนื่อยมากแล้ว…. อย่าทำให้ฉันปวดหัวไปมากกว่านี้เลย” ยุนโฮถอดแว่นออกแล้วนวดจมูกคมสันเหมือนอย่างเคย แสดงให้เห็นถึงความไม่สนใจในคำพูดของร่างบาง แจจุงไม่ย่อท้อ
“ถ้างั้นผมของถามคุณยุนโฮอีกครั้ง……”
“………….” ยุนโฮใจเต้นไม่เป็นส่ำ เหงื่อเริ่มแตกผลั่กทั้งๆที่อากาศหนาวเย็น รู้ดีว่าคำถามของร่างบางคืออะไร
“คุณยุนโฮคิดยังไงกับผมครับ”
“……………….”
“คุณยุน………”
“ฟังนะ คิมแจจุง…มันไม่สำคัญว่าฉันจะคิดยังไงกับเธอ….. แต่ฉันไม่สามารถรับความรู้สึกของเธอได้ ฉันเป็นผู้ปกครองของเธอ! เป็นเหมือนพ่อของเธอคนหนึ่ง….มันเป็นไปไม่ได้ เข้าใจไหม!?”
“ใช่…. ครับ….. งั้นผมจะถามอีกครั้ง….”
“….”
“ถ้ารอบๆรถคันนี้ไม่มีใครเลย ไม่มีรถที่ติดกันยาวขนาดนี้ ไม่มีคนที่กำลังซ่อมถนน ไม่มีแม้แต่คุณนายจอง จุนซู ไม่มีพ่อบ้านซอ ไม่มีจางเฮริม ไม่มีคำว่าผู้ปกครอง ไม่มีคำว่าเด็กที่เก็บมาเลี้ยง……….”
“……..”
“แล้วคุณยุนโฮคิดยังไงกับผมครับ” แจจุงเอ่ยในขณะที่น้ำตาไหลรินจนร่วงหล่นบนเสื้อสูทหรูของยุนโฮ ใบหน้าที่เคยดูเป็นเด็กกลับขึงขังและจริงจังจนยุนโฮตกใจ ในตอนนี้ในของยุนโฮหล่นวูบ เค้าตั้งใจหลบสายตาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนั้น เหงื่อยังคงแต่พลั่ก ยุนโฮหลับตา
“ถ้าคุณรักผมบ้างสักนิด….ได้โปรด….หรือถ้าคุณเกลียดผม เพียงแค่…. ฮึก…. แค่คุณบอกผมว่าเกลียดผม ผมก็ยินดี….ผมยินดีจะไปที่ไหนก็ได้ที่คุณอยากให้ไป….ไม่ว่าจะเป็นบนสวรรค์หรือนรก ผมก็จะยอมไป…..ฮืออออออออ” แจจุงใช้หลังมือขยี้ตาไปมา
“โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!” ยุนโฮชกพวงมาลัยแรงพอที่จะทำให้เสียงแตรรถดังไปทั่ว ดีหน่อยที่เสียงฝนกลบไปได้บ้าง แต่ก็ยังดังพอที่จะทำให้แจจุงสะดุ้งจนหยุดร้องไห้
“ฉันเกลียดนาย…..”
“………..”
“เกลียดนาย……พอใจหรือยัง!! คิมแจจุง….อยากได้ยินนักใช่ไหม ฉันเกลียดนาย ฉันเกลียดนาย!!” ยุนโฮตะโกนใส่แจจุงจนตัวโยน เป็นครั้งแรกที่แจจุงรู้สึกว่ายุนโฮน่ากลัวที่สุดเท่าที่เจอมา ยุนโฮหอบแฮ่ก เมื่อกี้เค้าตะโกนจนเสื้อเลือดปูดโปน แจจุงสะอึกสะอื้นอีกครั้ง เค้าหมดความหวังแล้ว ทุกอย่าง เค้าทำตามที่จุนซูบอกแล้วว่าให้สู้จนถึงที่สุด ตอนนี้มันหมดแล้ว ความหวังสุดท้ายของเค้า ทุกอย่างจบลงแล้ว สุดท้ายเค้าต้องไปอเมริกาและต้องลืมยุนโฮตามที่ชางมินบอก
“ฮึก…..” แจจุงเอามือปิดปากกลั้นเสียงร้องไว้ ยุนโฮได้แต่เอาหน้าฟุบลงตรงพวงมาลัยโดยที่ไม่หันไปพูดอะไรกับร่างบางอีก แจจุงทนไม่ไหวแล้ว ร่างบางไม่สามารถนั่งอยู่ตรงนี้ได้อีกต่อไป
แกร๊ก!
“ทำอะไร…. แจจุง….. คิมแจจุง!!!! หยุดนะ!! เจ้าเด็กบ้าเอ๊ยยยย โธ่เว้ย!” ร่างบางเปิดประตูรถออกและหายไปทันทีโดยที่ทิ้งไว้เพียงเสื้อนอกของยุนโฮเท่านั้น ร่างสูงรีบปลดเซฟตี้เบลท์ออกแล้วลงจากรถทันที ฝนตกหนักมากประกอบกับเวลานี้เป็นเวลาสามทุ่มทำให้มืดจนแทบมองอะไรไม่เห็น ยุนโฮอาศัยแสงจากรถที่ติดมากมายช่วยมองหา ยุนโฮจึ๊กปาก เค้าดันทิ้งแว่นตาไว้ในรถเสียนี่
“คิมแจจุง!!!! คิมแจจุง!! นายอยู่ไหน… กลับขึ้นรถมาเดี๋ยวนี้นะ คิมแจจุง!!” ยุนโฮลูบน้ำออกจากใบหน้าเปียกฝนนั้น ก่อนจะวิ่งตามอะไรบางอย่างที่คล้ายกับร่างบางในชุดนักเรียนตรงไปยังยังจุดที่รถสิ่งสวนกันไปมาอย่างรวดเร็ว
“คิมแจจุง!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! มันอันตรายนะ กลับมา!!....”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! ตุ๊บ
“!!!!!!!!!!” ยุนโฮชะงักงัน เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้แทบทำให้เค้าจะกลายเป็นบ้าภายในสามวิ ยุนโฮแทบเดินไม่ได้ เค้าพยุงตัวเองให้เดินไปดูร่างที่นอนนิ่งบนถนน ฝนยังตกกระหน่ำ น่าเสียดายที่ฝนตกหนักขนาดนี้ ไม่เช่นนั้นคนแถวนั้นก็คงได้เห็นน้ำตาของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าร้องไห้ยากที่สุดในโลกก็ได้ล่ะมั้ง ยุนโฮทรุดลงวางเข่าบนพื้นถนนเปียก มือสั่นเทาเอื้อมไปแตะตัวของร่างที่นอนแน่นิ่งนั่นช้าๆ และก็พบว่าตัวเองยังทำใจไม่ได้ เค้าเปลี่ยนเอามือมากุมปากของตัวเอง
“ฮึ………ฮึก……..อือ……..ฮือออออออออออออออออออออออออออ!!!! ฮื้ออออออออ!!!” ยุนโฮกระหน่ำไห้แข่งกับสายฝน เค้าไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องร่างที่นอนอยู่ ยุนโฮตัวสั่นไปหมด เค้าทุบมือไปกับพื้นถนน
“คิมแจจุง……….คิมแจจุงงงงงงงงง!!!! ฮืออออออออออ ฉันขอโทษ…..ฉันโกหก…. ฉันโกหกทั้งหมด……ได้โปรดดดด อย่าทิ้งฉันไปนะ……ฉันอยู่ไม่ได้…. ถ้าเธอตายไปฉันจะอยู่ยังไง….ฮืออออออออออออออออออ ฉันรักเธอนะ ฉันขอโทษ ฮือออออออออ คิมแจจุง….”
“ลูกแม่!!!!!!” เสียงของหญิงอายุราวสี่สิบกว่าร้องตะโกนก้อง เธอทิ้งร่มที่กางอยู่ก่อนจะช้อนตัวร่างที่นอนนิ่งขึ้นมา
“อืออออ… แม่ฮะ” เด็กน้อยที่ส่วนสูงและตัวพอๆกับแจจุงค่อยๆลืมตาขึ้น ผู้เป็นแม่โอบกอดอีกครั้ง
“พระเจ้า!! นี่ลูกแค่หัวแตก…. โถ่ พระเจ้าคุ้มครอง โอ….มุนบินลูกแม่”
“คุณครับเป็นอะไรมากไหมครับ ผมเองเกือบชนเด็ก ขอโทษนะครับ แต่ไปโรงพยาบาลเถอะครับ ขึ้นรถผมไป” เจ้าของรถรีบวิ่งมาทันที ผู้เป็นแม่ได้แต่พยักหน้าสองสามทีก่อนจะอุ้มลูกของเธอขึ้นรถไปปล่อยให้ยุนโฮยืนอึ้ง
“คุณยุนโฮ……” ฝนเริ่มบางตาแล้ว ถึงเสียงจะแผ่วเบา แต่ยุนโฮก็ได้ยิน ร่างสูงหันหลังตามเสียง พบว่าเห็นร่างบางอยู่ตัวเปียกปอน ใบหน้ามีรอยแผลเล็กน้อย แจจุงกุมมือไปพลางร้องไห้ไปพลาง
“คุณยุนโฮ ฮือออออ ๆ พูดอีกครั้งได้ไหมครับ….ฮึก…. เมื่อกี้นี้ ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไห…….” ยังพูดไม่ทันขาดคำ แต่ร่างบางกลับถูกอุดด้วยอ้อมอกแกร่งจนพูดต่อไม่ได้ ยุนโฮกอดแจจุงแน่นทั้งๆที่ตัวยังสั่นเทิ่ม มือหนากดหัวของร่างบางให้ฝังลงบนอกแกร่งของตัวเอง
“เธอ…..เธอจริงๆใช่ไหม…..ตัวยังอุ่นๆ ใช่….ใช่แล้ว…คิมแจจุง” ยุนโฮพร่ำ
“ฮืออออออ ฮื้อออออออ” แจจุงกอดเอวของร่างสูงไว้แน่น ถึงแม้จะชื้นฝนแต่ร่างบางรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“เด็กบ้าเอ๊ย……..รู้ตัวไหมว่ากำลังจะฆ่าคนแก่….” ยุนโฮกดริมฝีปากไว้ที่ผมเปียกลู่ของร่างบาง
“ฮืออออออออออออ….ฮือออออออๆๆ”แจจุงร้องไห้โฮ สักพักหนึ่ง ยุนโฮจึงดันร่างบางออก พลางเอามือลูบไล้ใบหน้าซีดขาวที่มีรอยช้ำและเลือดออกเล็กน้อยของแจจุง ไม่วายยังปะป่ายไปทั้วทั้งตัวของร่างบาง
“เธอเป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า หื๊อ…. ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม” ยุนโฮเอ่ย เสียงอ่อนลงมากหลังจากที่ใช้พลังงานทั้งหมดในการร้องได้โฮกลางถนนเมื่อกี้นี้
“ไม่ครับ….ฮึก…..ผมกระโดดหลบทัน แค่แก้มกระแทกพื้นนิดหน่อย แล้วก็….เอามือยันไว้ นิ้วซ้นเลย…ฮึก…” แจจุงยกนิ้วชี้ข้างขวาที่เห่อบวมขึ้นมา แต่ยุนโฮไม่พูดอะไร เค้าดึงร่างบางเข้ามากอดอีกครั้งอย่างรักใคร่ ตอนนี้เค้าไม่สนอะไรทั้งนั้น รู้แต่ว่าร่างบางปลอดภัย เค้าไม่ต้องการอะไรแล้ว
------------------------
-------------
----
กลายเป็นว่าวันนี้เค้ากับยุนโฮต้องมาพักที่โรงแรมแทน หลังจากที่ทนรอให้ถนนซ่อมเสร็จไม่ไหว ที่สำคัญ ยุนโฮและแจจุงต่างก็ตัวเปียกมอมแมมกันทั้งคู่แล้วยังอาการบาดเจ็บนิดหน่อยของแจจุงที่มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเค้า ยุนโฮแวะซื้อชุดปฐมพยาบาลจากร้านสะดวกซื้อก่อนที่จะเช็คอินเข้าโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆ เวลานี้แจจุงอายจนแทบไม่อยากจะมองหน้าหรือสบตากับยุนโฮเลยแม้แต่น้อย เมื่อได้รู้ว่าต้องมาพักในโรงแรมกับยุนโฮสองต่อสอง
ที่สำคัญเค้าทั้งสองเพิ่งสารภาพรักกันไปหยกๆ!!
“เธอไปอาบน้ำซะ นี่… ใส่เสื้อฉันไปก่อน พอดีมีไว้ในรถหลายตัว กันฉุกเฉิน”
“ครับ” แจจุงรับมาก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ยุนโฮยืนสงสัยจนแทบจะหลุดขำออกมาครั้งแรกในรอบหกปีเลยทีเดียว ยุนโฮเองก็ไปอาบน้ำในห้องหนึ่ง เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงได้ ยุนโฮออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดแขนยาวตัวเก่ง กับกางเกงวอร์มขายาว ก่อนจะหันไปมองตรงประตูห้องน้ำ แจจุงในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่โคร่งจนแทบจะเห็นไหล่ปิดบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วจนเหมือนไม่ได้ใส่อะไรยกเว้นเสื้อเชิ้ตเพียงตัวเดียว ทำเอายุนโฮหันไปมองทางอื่นแทบไม่ทัน เค้าหลับตาลง(ถึงจะอยากมองภาพเมื่อกี้อีกครั้งชัดๆก็เหอะ)
ให้ตายสิ….ถ้าไม่เห็นว่าแจจุงบาดเจ็บ เค้าจะไม่มีทางพาเด็กคนนี้มาอยู่ด้วยกันสองต่อสองในโรงแรมเป็นอันขาด เพราะเค้าเองเนี่ยแหละ ที่จะต้องมาอดทนอดกลั้นจนแทบจะกัดลิ้นตายไปก่อน
“มานั่งตรงนี้สิ” ยุนโฮตบเตียงเบาๆ ก่อนที่จะคุ้ยหาอะไรบางอย่างในถุงก๊อบแก๊บ แจจุงมานั่งแต่โดยดี ยุนโฮนั่งชันเข่าตรงหน้าแจจุง ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของยุนโฮอยู่ในระดับสายของแจจุงพอดี แจจุงได้แต่เขินหน้าแดง แต่ร่างสูงไม่ได้สังเกตุเพราะง่วนอยู่กับการเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์อยู่
“โอ๊ย!” แก้มบวมเล็กน้อยเพราะแรงกระแทกทั้งยังมีเลือดออกซิบๆ ยุนโฮค่อยๆเอาสำลีแตกเบาๆที่แผล แต่แจจุงกลับดันออกเพราะเจ็บ ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นผล ยุนโฮกำมือของร่างบางไว้แน่นไม่ให้ดื้อจะดันแขนของเค้าออกอีก
“เสร็จแล้ว” ในเวลาไม่นานนัก แก้มบวมปูดก็ถูกปิดทับด้วยผ้าก๊อตสะอาดนุ่ม ทำให้แจจุงรู้สึกดีขึ้น ยุนโฮดึงแขนข้างที่นิ้วเจ็บของแจจุงขึ้นมาทายาให้อย่างอ่อนโยน
“หายเจ็บหรือยัง”
“หายเจ็บ….ตั้งแต่ที่คุณยุนโฮบอกว่ารักผมแล้วล่ะครับ” แจจุงเอ่ยพร้อมยิ้มกริ่ม ทำเอายุนโฮแทบจะลุกไม่ทันเลยทีเดียว
“คุณยุนโฮ?” แจจุงลุกตาม แต่ยุนโฮก็ยังคงเดินหนี
“อย่ามองนะ” ยุนโฮเอี้ยวตัวหลบเมื่อแจจุงพยายามดึงแขนเค้าให้หันหลังกลับมา
“ไม่เอา จะดู คุณยุนโฮเป็นอะไรครับ” สงสัย แต่ก็แอบเห็นหูของร่างสูงแดงแปลกๆ
“อย่ามองหน้าฉันตอนนี้นะ” ไม่ให้มอง แต่สุดท้ายแจจุงเหลือบเห็น ยุนโฮเอามือปิดปาก ทั้งหน้าแดงจนถึงหู เกิดมาครั้งแรกก็เพิ่งเคยเห็น “ยุนโฮอาย”เนี่ยแหละ แจจุงหัวเราะคิกคัก
“หยุดหัวเราะได้แล้วน่า” เริ่มเปลี่ยนจากหน้าแดงกลายเป็นแสร้งขึงขังเหมือนเดิม
“ไม่เอา… ก็คุณยุนโฮน่ารักนี่ ฮิๆๆๆ” แจจุงยังคงล้อเล่นสนุกปาก แถมยังหัวเราะหนักกว่าเดิม ร่างสูงหยุดอายไปซะดื้อๆ เมื่อได้เห็นใบหน้าสวยกำลังยิ้มร่าเริงเหมือนแต่ก่อน ความจริงวันนี้เป็นเรื่องที่ผิดพลาดมากเลยสำหรับเค้า แต่ทว่าจะทำยังไงได้ เมื่อได้ลองทำตามใจตัวเอง ความสุขที่เคยถูกกักเก็บไว้ ก็ล้นปรี่จนเค้าแทบจะสำลักความสุขจนตายเลยเมื่อได้อยู่กับร่างบางแบบนี้
“พอใจแล้วก็ไปนอนซะ เดี๋ยวจะเป็นหวัด”
“……………” กลายเป็นแจจุงที่หน้าแดงแทน เมื่อรู้สึกตัวอีกทีว่าห้องนี้มีเตียงเดียว อากัปกิริยาลุกลี้ลุกลน ทำให้ยุนโฮเข้าใจว่าแจจุงกำลังคิดอะไรอยู่
“ถ้าเธอลำบากใจ ฉันจะเอาฟูกมานอนข้างล่างนะ”
“เอ่อ ไม่ครับ พื้นเย็นก็เย็น เจ็บหลังด้วย…………..เรา………นอนด้วยกัน………เถอะครับ” ประโยคหลังเบาซะแทบจะไม่ได้ยิน แต่ยุนโฮแน่ใจว่าแจจุงพูดอะไร
“แน่ใจนะ”
“ครับ”
“งั้นก็นอนกันเถอะ” ทั้งคู่นอนข้างๆกัน ยุนโฮพยายามทำสมาธิ รวบรวมไม่ให้ตัวเองทำอะไรลงไป บางทีคืนนี้เค้าอาจจะไม่ได้นอนเลยก็ได้ ส่วนคนตัวเล็กข้างๆกลับหลับตาพริ้มไม่ได้คิดอะไรเลย
“คุณยุนโฮ……”
“หื้อ”
“กอดผมทีได้ไหม”
“!!!” พูดไม่พูดเปล่า ถามยังไม่ทันตอบ แต่คิมแจจุงผู้ใจกล้าที่สุดในรอบปีกำลังเบียดตัวเองเข้าหายุนโฮ ทั้งยังเอามือของยุนโฮมาโอบไว้ที่เอวของร่างบางอีกด้วย ยุนโฮถอนหายใจ ก่อนจะเป่าลมออกจากปากเมื่อร่างนุ่มนิ่มแนบชิด อาบกาศหนาวเย็นกลายเป็นร้อนทันที แต่ทว่ายุนโฮดันตัวเองให้แนบชิดกับร่างบางมากขึ้น ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของแจจุงแทบจะชิดกับซอกคอของร่างสูงแล้ว ยุนโฮใจเต้นไม่เป็นส่ำ คืนนี้น่าจะเป็นคืนที่เค้าไม่สามารถนอนได้จริงๆอย่างแน่นอน ในเมื่อลมหายใจของร่างบางยังรดอกเค้าอยู่อย่างนี้
“คุณยุนโฮครับ”
“หื้อ”
“วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุดในโลกเลยครับ”
“อือ…..”
“ผมรักคุณยุนโฮ รักมากที่สุดในโลกเลย” ยุนโฮกดริมฝีปากลงบนกลุ่มผมหนาสีน้ำตาลเข้าเบาๆอย่างรักใคร่
“นายรู้ไหมว่าตอนที่ฉันคิดว่านายโดนรถชน….. ฉันเกือบจะเป็นบ้าไปแล้ว ตอนนั้นฉันคิดอะไรไม่ออกเลย….. เพราะฉันไม่เคยคิดสักวินาทีเดียวว่า จะไม่ได้เจอหน้านายอีก…… ถ้านายเป็นอะไรไป…. ฉันจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย…..” แจจุงเงยหน้าขึ้นมองยุนโฮ ดวงตาสวยมีน้ำตาคลอเอ่อขึ้นมา ยุนโฮเช็ดน้ำตาที่ไหลล้นริมจมูกรั้นนั้น ก่อนที่จะค่อยๆเคลื่อนใบหน้าเข้าจูบเบาๆที่ริมฝีปากอิ่ม แจจุงหลับตาพริ้มรับจูบหวานละมุน ยุนโฮกัดริมฝีปากล่างเป็นเชิงขออณุญาตก่อนจะแลบเลียและดูดดุนเอาความหวานทั้งหมดกลืนลงไปในลำคอของตัวเอง แจจุงขนลุกเมื่อได้รับรสสัมผัสอ่อนละมุน อะดรีนาลีนกำลังพลุ่งพล่านในตัวจนแทบจะทนไม่ไหวเมื่อร่างบางตอบรับจูบหวานและเรียนรู้มันอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่นาที
แจจุงดันให้ร่างสูงนอนเอนไปกับเตียง กลายเป็นว่าตอนนี้ร่างบางทาบทับอยู่บนตัวของยุนโฮ มือของร่างสูงวางไว้บนเอวบาง ต่างคนต่างแย่งกันคุมเกมส์กันทั้งคู่ จนยุนโฮเริ่มคิดว่าชักจะเตลิดกันไปใหญ่ ต่างจากแจจุงที่ยังคงกัดดุนริมฝีปากของร่างสูงอย่างไร้เดียงสา ยุนโฮใช้โอกาสที่ร่างบางหายใจดันให้แจจุงอยู่ข้างล่างกายของเค้า
“หลับซะแจจุง….. มากกว่านี้ไม่ได้”
“………………………………..ครับ” แจจุงหน้าแดง เมื่อร่างสูงรู้ทันว่ากำลังคิดลามก แจจุงได้แต่ก้มหน้างุด และพยายามข่มตาให้หลับ แต่เพราะความเหนื่อยอ่อนในเวลาไม่กี่นาทีก็ทำให้ร่างบางหลับสนิท ปล่อยให้ร่างสูงต้องกุมขมับ อยากจะลุกหนีลงไปนอนข้างล่างก็ไม่ได้ ติดที่ว่าร่างบางนอนซบอกของตัวเองอยู่ แขนอีกข้างก็ได้แต่พยุงเอวบางของแจจุงไว้ เฮ้อ…. เค้าก็ไม่ได้เป็นพระอิฐพระปูนนี่นะ ถึงไม่รู้ว่าตัวเองทำไมแรงยั่วของร่างบางได้ขนาดนี้ แต่ก็รู้สึกขอบคุณสมาธิของตนเองอยู่มากที่ไม่ทำให้เรื่องเลยเถิดไปกันใหญ่
เพราะแต่เรื่องที่เกิดในวันนี้ก็มากพอยู่แล้ว….
นั่นทำให้เค้ายิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีก……
กับเรื่องเมื่อหกปีก่อน…..
ยุนโฮถอนหายใจ… วันนี้ถึงจะเป็นเรื่องที่ผิดพลาดจนยากที่จะอภัยให้ตัวเองที่ใจอ่อนได้ขนาดนี้….เค้าเป็นคนที่เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก… เป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุด ยุนโฮนึกแขยงตัวเองหลายครั้งในรอบวัน แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่กลับมาหัวเราะแล้วยิ้มได้อย่างมีความสุข ยุนโฮก็ลืมความผิดชอบชั่วดีไปจนหมดสิ้น ทั้งยังน้ำตาที่รินไหลไม่หยุดในหลายๆรอบที่เค้าทำให้ร่างบางเจ็บปวด
ถ้ายุนโฮคิดไม่ผิด การที่เรื่องราวเป็นแบบนี้….. อาจจะดีแล้วก็ได้…..
แต่ถ้าแจจุงได้รู้ความจริง….เค้าจะทรมานแค่ไหนกันนะ
---------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------
---------------
เกือบสามวันที่ยูชอนขาดการติดต่อ มือถือยังคงติดต่อไม่ได้เช่นเคย และไม่ว่าจะไปรอที่คอนโดของยูชอน (จุนซูรู้รหัสห้องของยูชอน) ก็ไม่มีวี่แววของคนรักของเค้าเลย ไม่มีแม้กระทั่งร่องรอยการเข้ามาใช้ห้อง เพราะห้องของยูชอนยังเป็นเหมือนเดิมทุกประการตั้งแต่ที่เค้าจากมาในคืนวันนั้น จุนซูพยายามไม่คิดมาก แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน วันนี้จุนซูจึงตัดสินใจที่จะไปที่ Metal ซึ่งเป็นที่ๆเจอยูชอนเป็นครั้งแรก วันนี้แค่ได้คุยกับยูชอนสักครั้ง จุนซูแค่อยากถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอย่างที่เคยทำมาก่อน
คุณเป็นยังไงบ้าง…
ทานข้าวหรือยัง…….
ไม่สบายหรือเปล่า…..
หายไปไหนมา…..
จุนซูน้ำตารื้นในขณะที่นั่งอยู่บนรถเมล์ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยัง Metal ในย่านคังนัม มือเล็กบางเช็ดน้ำตาออกก่อนจะกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตา ความคิดถึงในตอนนี้กัดกร่อนหัวใจของเค้าจนเป็นแผล จุนซูไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยต้องมีชีวิตที่ขึ้นอยู่กับคนๆนึง ขนาดนี้มาก่อน ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่ารักยูชอนไปมากเท่าใด เสียใจที่บางครั้งเองไม่รู้จักเผื่อใจไว้บ้าง แต่ก็ให้เค้าทำอย่างไร? ความรู้สึกตอนนี้เหมือนน้ำที่ล้นออกมาจากแก้วจนแทบเก็บไม่ไหว
“คุณซีวอนไม่อยู่หรอครับ” จุนซูเอ่ยถามบาร์เทนเดอร์คู่หูของซีวอน หนุ่มใส่แว่นท่าทางใจดีเอ่ย
“เดี๋ยวมาครับ เมื่อกี้ไปจัดการธุระเรื่องงานน่ะครับ” จุนซูหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
“อ่อ…ครับ” ร่างบางนั่งลงที่เดิมที่เคยนั่ง หนุ่มแว่นน่าตาน่ารักวางค็อกเทลสีส้มสดใสตรงหน้าจุนซู ร่างบางเอียงคอ
“ผมไม่ได้…..”
“ให้คุณครับ…..จะได้หายเหงานะ เดี๋ยวซีวอนก็มา รอหน่อยนะครับ” หนุ่มแว่นยิ้ม จุนซูรู้สึกดีขึ้นแม้จะเพียงเล็กน้อย รอยยิ้มบางเบาปรากฏบนใบหน้าน่ารักครั้งแรกในรอบสามวัน จุนซูชะเง้อคอมองไปรอบๆเฟลอร์ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของยูชอนเลยสักนิด ร่างเล็กถอนหายใจทิ้งอีกรอบ ก่อนจะยกค็อกเทลสีสวยดื่มพรวดเดียวจนหมด
“คุณเคยคิดถึงใครมากๆไหม” บาเทนเดอร์หนุ่มยิ้ม เค้าผสมนู้นผสมนี่แล้วเขย่าไปมา พลางพูดกับร่างเล็กที่ใช้มือถือแก้วค็อกเทลเล่นสายตาเหม่อลอย
“ก็เคยนะครับ…. ถามแบบนี้ คุณคงกำลังคิดถึงใครอยู่?”
“คิดถึงครับ…..คิดถึงมากๆเลย…..เวลากินข้าวก็คิดว่า เอ…เค้าจะกินหรือยังนะ บางครั้งถ้าเค้ายังไม่ได้กิน ผมก็กินไม่ค่อยลงหรอกครับ….บางทีไม่ได้เจอ ก็เป็นห่วงเค้า กลัวจะไปลำบากอยู่ที่ไหน หรือไม่สบายหรือเปล่า”
“คุณคงรักเค้ามากสินะครับ น่าอิจฉาจัง” บาเทนเดอร์หนุ่มเอ่ย ทังยังยิ้มอ่อนโยนให้จุนซู ก่อนจะวางแก้วค็อกเทลยื่นให้เด็กเสิร์ฟสามสี่แก้วที่เค้าทำการผสมเสร็จเรียบร้อย
“อ๊ะ วันนี้มีดารามาด้วย สวยจังเลยนะครับ หนุ่มคนนั้นโชคดีจังน้า” จุนซูไม่ได้สนใจหันไปมอง อันที่จริงไม่ได้ยินเสียงของใครเลย แม้กระทั่งเสียงเพลงที่ดังอึกทึก ร่างบางได้แต่คิดเรื่อยเปื่อย เค้าเสียใจที่วันนี้ก็ไม่ได้เจอกับยูชอนอีกแล้ว เกือบสี่วันแล้วที่เค้าไม่ได้คุยกันเลย ซึ่งไม่ชินเลยสักนิด จุนซูไม่ชินกับการที่ไม่ได้เจอหรือแม้จะทั่งคุยกับยูชอน เหมือนกิจวัตรประจำวัน เหมือนยาเสพติดที่ขาดไม่ได้
ไปเข้าห้องน้ำดีกว่า……
จุนซูลุกลงจากเก้าอี้สูง คนมากมายเดินสวนไปมาทำให้จุนซูเดินลำบากขึ้น จนกระทั่งดีเจหยุดเปิดเพลงแล้วเอ่ยทักทายลูกค้า คนมากมายจึงหยุดเต้นแล้วนั่งลงในที่ของตน นั่นทำให้จุนซูเห็นใครบางคนที่คุ้นเคย
ดูจะสบายดีเพราะกำลังยิ้มหัวเราะร่าอยู่……
ดูจะไม่ได้ลำบากอะไร เพราะมีทั้งคนที่คอยเอาใจอยู่ข้างๆมากมาย….
หญิงสาวแสนสวยที่เป็นจุดเด่นในที่แห่งนี้กำลังคลอเคลียกับหนุ่มหล่อเหลาและโด่งดังในวงการธุรกิจและแฟชั่น
ปาร์คยูชอน…..
จุนซูพยายามจะก้าวขาเดินออกไปจากตรงนั้น แต่ทำได้ยากเหลือเกิน
มือสั่นเทายกขึ้นปิดปากไม่ให้ร่ำเสียงสะอื้นออกมา นอกจากทำแบบนี้แล้ว จุนซูได้แต่ยืนมองภาพนั้นที่เค้าไม่คิดว่าจะได้เห็นมันเลย ยูชอนหัวเราะต่อกระซิกกับหญิงสาวสองสามคนบนที่นั่งวีไอพีหรู ยูชอนไม่เห็นเค้าเลยสักนิด ไม่เห็นคนที่กำลังกลั้นเสียงสะอื้นไห้ไว้ในลำคอจนเจ็บต้นคอไปหมด จุนซูย้ายมานั่งในที่ๆเห็นยูชอนได้ชัด แต่ทว่าไม่มีสักครั้งที่ยูชอนก็เหลือบตามาเห็นจุนซูบ้างเลย จุนซูนั่งอยู่คนเดียว มือกำชายเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดไว้แน่น ไม่ว่าจุนซูจะพยายามสบตากับยูชอนมากเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงรู้ตัวสักนิด
น้ำตาเอ่อล้นจากดวงตาคู่สวย ทีละหยด… ทีละหยด….. จุนซูก้มลงต่ำ เพลงช้าแสนเศร้ายิ่งทำให้จิดใจอ่อนไหวอ่อนแอมากขึ้น จุนซูไม่อาจเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แล้วก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมไม่เข้าไปถามตรงๆ เพราะจุนซูกลัว….
กลัวคำตอบของยูชอน…..
ความเชื่อใจในตอนนี้ที่เคยให้ยูชอน สำหรับจุนซูยังมีให้ร่างสูงอยู่เสมอ ….แต่บัดนี้น้อยลง
จุนซูเคยบอกให้เพื่อนรักของเค้าอย่างแจจุงลุกขึ้นสู้กับปัญหาและอย่ายอมแพ้….
แต่เป็นเค้าเองที่ทำไม่ได้……
“มาคนเดียวหรอครับ” เสียงใครบางคนทำลายความเงียบงันในใจของจุนซู ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นก่อนจะเช็ดหางตาเมื่อรู้ว่ามีใครบางคนกำลังเป็นหนึ่งในบทสนทนาที่เค้าไม่ได้อยากจะร่วมด้วยสักเท่าไหร่นัก ชายท่าทางเกเรเอาเรื่องทว่าแต่งตัวดูดีที่ฐานะเอ่ยถาม
“ครับ…”
“ผมนั่งเป็นเพื่อนไหมครับ”
“เอ่อ…ไม่เป็นไรครับ ผมอยากอยู่คนเดียว”
“โธ่…คนสวย นั่งคนเดียวน่ะเหงาแย่…ให้ผมนั่งเป็นเพื่อนเหอะนะ เดี๋ยวผมเลี้ยงเหล้าคุณก็ได้ รับรองผมสั่งอย่างอร่อยเด็ดมาเลยล่ะ” ชายหนุ่มพยักเพยิก ทำเอาจุนซูทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ถอนหายใจทิ้งเมื่อหมอนี่ไม่ได้ฟังอะไรเค้าเลย แถมยังนั่งข้างๆเค้าเสร็จสรรพ
“ผมซองฮังอา ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ชายหนุ่มยื่นมือหวังจะจับมือนุ่มนิ่มนั่นดูสักครั้ง จุนซูดึงปกเสื้อให้ปิดหน้าอกมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นสายตาฉาบฉวยเหล่มองตั้งแต่เมื่อกี้
“คิมจุนซูครับ… เอ่อ แล้วเหล้าผมไม่ดื่มนะครับ ขอบคุณ เชิญคุณดื่มตามสบาย ส่วนถ้าคุณจะนั่งตรงนี้ ก็ตามสบาย ผมจะไปนั่งที่อื่น” จุนซุลุกหนี เค้าไม่มีอารมณ์จะเสวนาหรือดื่มอะไรในตอนนี้ แต่แขนเล็กหลับถูกฉวยไว้จนจุนซูเซ
“เอาหยิ่งเลยน่า รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร นายนี่แปลกนะ ใครๆก็รู้จักฉันทั้งนั้น อย่างน้อยก็เอาเบอร์มาหน่อยเถอะน้า นานๆฉันจะจีบใครเองนะ” จุนซูบิดแขนออกแต่ทว่าทำได้ยากนัก ซังฮังอาแรงมากพอจะดึงรั้งเค้าเข้ามาใกล้ จุนซูเหลือบมองหาความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครเลยจะช่วยเค้าได้ แม้กระทั่งยูชอนที่ไม่ได้เห็นเค้สเลยสักนิด จุนซูสะบัดแขน
“ไม่ ปล่อยผม…ผมจะกลับแล้ว ปล่อยนะ!!!”
หมับ!!
มือปริศนาคว้าเข้าที่แขนของจุนซูอีกครั้งหนึ่ง บาร์เทนเดอร์หนุ่มคนเดิมยังคงยิ้มอ่อนโยนให้ยูชอน
“คุณจุนซูครับ คุณซีวอนมาแล้วครับ เชิญทางด้านนู้นหน่อยนะครับ” เนื่องจากคนเริ่มมองมาบ้างแล้ว ซังฮังอาปล่อยมือทันที เมื่อได้ยินคำว่า ซีวอน แน่ล่ะ เพราะเชวซีวอนเป็นเจ้าของที่นี่ ทั้งยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่บริษัทของฮังอาเป็นหุ้นส่วนด้วย ชายหนุ่มเลิกลั่ก
“เชอะ…แล้วจะเสียใจ เจ้าเด็กโง่ ชิ!!” ว่าแล้วก็เดินจากไปปล่อยให้จุนซูกับบาร์เทนเดอร์หนุ่มยืนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ขอบคุณนะครับ เอ่อ ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”
“ผมอึนฮยอกครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ เอ่อ…. คุณจะกลับแล้วหรอ คุณซีวอนยังไม่มาเลย” อึนฮยอกเอ่ย ใบหน้าแฝงความห่วงใย เมื่อเห็นจุนซูร้องไห้ตั้งแต่เมื่อกี้ หลังจากที่ได้เห็นยูชอน
“ไม่มีประโยชน์อะไร….ที่ผมจะอยู่ที่นี่แล้วครับ….ผมเจอเค้าแล้ว…ก็พอแล้ว” อึนฮยอกเสยผม เค้าเองไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมยูชอนกลับมาเป็นเหมือนเดิมเหมือนเมื่อสองเดือนก่อน ไม่กี่วันมานี้ยูชอนเหมือนนักกลับคืนรัง กลับมาเฝ้าผับ Metal แถมยังดื่มมากกว่าเดิม (แต่ก็อยู่ในปริมาณที่ยุนโฮกับซีวอนกำชับไว้) มิหน่ำซ้ำยังควงสาวๆสวยๆไม่ซ้ำหน้ามาที่นี่มากกว่าแต่ก่อนเสียอีก ในเมื่ออึนฮยอกเองก็ได้ข่าวมาว่า ลงตัวกับจุนซูน้องชายข้างบ้านของซีวอนจนไม่น่าเป็นห่วงแล้วนี่นา
“เอาเถอะ…. เดี๋ยวผมไปส่งขึ้นรถเมล์นะ….”
จุนซูพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะน้ำตาจะไหลอีกแล้ว ร่างบางได้แต่เดินตามอึนฮยอกต้อยๆ โดยไม่หันกลับไปมองยูชอนอีกเลย
-----------------------------------------
------------------------
-----------
“อึ้ก!!! อั่ก!!!! โอ๊ยยยย!!! พอ….อั๊ก!!!” ห้องน้ำชายในเวลานี้ดูจะไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามา เพราะดูเหมือนจะมีเสียงกระสอบทรายมนุษย์เล็ดลอดออกมาจากประตูทางเข้า ใบหน้าบูดเบี้ยวเพราะถูกอัดจนน่วมเปื้อนเลือดจนกลิ่นคาวเลือกคละคลุ้ง ร่างสูงดึงคอเสื้อของชายเคราะห์ร้าย ให้ลุกขึ้นยืนขึ้นทั้งๆที่ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว
“จำไว้……คราวหน้าคราวหลัง……อย่ามายุ่งกับของๆฉัน!!!”
“……………..อั่ก!!” ว่าแล้วก็ถีบเข้าที่อกอีกครั้งจนนอนแน่นิ่งกับพื้น ยูชอนล้างมือก่อนจะผิวปากสบายอารมณ์เดินออกจากห้องน้ำ แล้วก็พบว่ามีผู้คนมุงกันเต็มหน้าห้องน้ำชาย ยูชอนยิ้มแหย่ๆ
“ไม่มีอะไรครับๆ เพื่อนไม่ได้เจอกันนาน แกล้งกันนิดหน่อย”
ไม่นิดมั้งยูชอน……(ซังฮังอา : ผมทำไรผิดก๊าบบบบบ T^T)
--------------------------
---------------
-----
จุนซูไม่ได้กลับมาที่บ้าน แต่พาตัวเองมานั่งตรงย่านเมียงดงในยามค่ำคืน ที่ถึงแม้จะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว แต่ยังมีคนมากมายเดินพลุกพล่านเต็มถนน จุนซูนั่งลงตรงขอบอ่างน้ำพุใหญ่ใจกลางเมียงดง จอมอนิเตอร์ใหญ่ฉายเอ็มวีของดาราสับเปลี่ยนไปมาเป็นที่น่าสนใจให้ผู้คนหยุดมอง คู่รักหลายคู่ใส่เสื้อคู่เดินซื้อของตามถนนดูมีความสุข บางครั้งก็เห็นผู้คนกำลังดื่มด่ำกับโซจูริมถนนกับเพื่อนๆ
จุนซูเหงาเหลือเกิน…… แต่ก็ไม่คิดจะโทรไประบายความในใจให้แจจุงฟัง เพราะลำพังเรื่องของแจจุงเองก็หนักหนาสาหัสพออยู่แล้ว ส่วนชางมินเด็กอนามัยนั่นก็คงหลับไปแล้ว
และถึงกลับบ้านไปตอนนี้ …..จุนซูเองคงนอนไม่หลับ ทั้งยังร้องไห้จนตาปูดบวมแน่ๆ
จุนซูกำลังรู้สึกว่าตัวเองถูกทิ้ง….โดนหลอก…. มันไม่น่าเชื่อ เหมือนเป็นเรื่องที่จุนซูไม่เคยคิดไว้แต่แรก ถึงแม้ว่าเคยคิดบ้างในตอนแรกที่เจอยูชอน แต่เค้าก็ไม่ได้เก็บมาคิดจริงจังอะไรว่า เค้าเองจะเป็นหนึ่งในเหยื่อของคาสโนว่าคนนี้
ตื๊ดดดดดดดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดดดดดด เสียงโทรศัพท์ดังหยุดความคิดของจุนซู
จุนฮีนูนา ของผม
“จุนซู!......นายอยู่ไหนน่ะ อีกสองสามวันนี้พี่จะกลับไปที่บ้านแล้วน้า ดีใจไหม ฮิๆ” จุนซูไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ เสียงสะอื้นไห้ดังเล็ดลอดโทรศัพท์จนจุนฮ๊ได้ยิน
“นี่นายเป็นอะไรน่ะ ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรนาย บอกพี่มานะ!!” จุนฮีเดือดทันที จุนซูยิ่งร้องไห้หนัเข้าไปอีก
“พี่จุนฮี……..ผมคิดถึงพี่ครับ ฮือออออออออออออ ผมคิดถึงพี่จุนฮี….” จุนซูไม่ได้โกหก เค้าคิดถึงจุนฮีจริงๆ แต่ที่ร้องไห้มากขนาดนี้ จุนซูแน่ใจว่าไม่ใช่แค่คิดถึงจุนฮีอย่างเดียวแน่นอน หากแต่รวมถึงเรื่องทั้งหมดที่ประเดประดังเข้ามาในชีวิตของจุนซูในช่วงนี้
“โธ่เอ้ยยยยย เด็กโง่…พี่บอกแล้วไง ว่าอีกสองสามวันจะกลับไปน่ะ อย่าร้องไห้น้า โอ๋ๆๆๆ คนดีของพี่ เงียบซะๆๆ โอ๋ๆๆๆ” จุนฮีปลอบใหญ่ แต่จุนซูก็ยังร้องไห้เสียงระงม มีที่เดินไปมามองอย่างเอ็นดูเมื่อได้ยินว่ากำลังร้องไห้เพราะคิดถึงพี่สาวของตัวเอง
“ฮือออออออออออออๆ ฮืออออออออออออ”
“พอแล้วเจ้าเด็กน้อยเอ๊ย เมื่อไหร่จะโตสักทีเนี่ยยยย เอ้าๆๆ เงียบซะ เดี๋ยวพี่ซื้อหนมไปฝากน้า”
“ครับ….เจ้าตัวเล็กเป็นไงบ้างครับ” จุนซูพยายามกลั้นเสียงสะอื้น
“โอ้โห ซนยิ่งกว่าลิงอีก เจอาร์คิดถึงเธอมากเลยรู้ไหม ร้องไห้จะหาเธออย่างเดียวน่ะ” จุนฮีตอบ
“ฝากบอกว่า ผมก็คิดถึงหลานเหมือนกันครับ”
“จ้า…เจอาร์ของเราคงดีใจใหญ่ ถ้างั้นเอาไว้แค่นี้ก่อนนะ ….ช่วงนี้อากาศหนาว อย่าไปตากลมที่ไหนล่ะ เดี๋ยวจะไม่สบาย พี่ไปก่อนล่ะ วันนี้ร็อบจะพาไปเล่นสกี บ๊ายบายจ้า” จุนซูวางมือถือลง อย่างนี้เค้าก็ได้รู้ว่าคนที่เค้ารักทั้งสามคนกำลังมีความสุขอยู่ในสถานที่ไกลๆ
จุนซูเงยหน้าขึ้น สายตาก็เหลือบไปเห็นโปสเตอร์ยักษ์ตรงข้ามตึกของสถานีโทรทัศน์ชื่อดัง
ปาร์คยูชอน นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง จะมาพร้อมกับสินค้าใหม่ เร็วๆนี้ จุนซูยังคงน้ำตาไหลอาบแก้ม ตอนนี้ไม่ว่าจะเสียงเพลงที่ดังมาจากด้านหลังหรือเสียงดนตรีเปิดหมวกตรงหน้า จุนซูก็ไม่สามารถได้ยินอะไรมากกว่าเสียงที่ยังก้องดังในใจ
“จุนซู……… ผมรักจุนซูนะ”
จุนซูยิ่งร้องไห้หนักเข้าไปอีก ร้องแบบที่ไม่สนใจว่าใครแถวนั้นจะมอง จุนซูรู้สึกว่าหมดแล้ว… เค้าไม่เหลืออะไรเลย …ทั้งๆที่แค่คนๆเดียวที่ทิ้งเค้าไป แต่ตอนนี้เค้ากลับเหมือนกับทั้งโลกหยุดหมุน เหมือนไม่มีอากาศจะหายใจ จุนซูยกแขนขึ้นใช้หลังมือกดตรงจมูกเล็กให้หยุดร้อง แต่ก็ทำไม่ได้
“เธอ…..ร้องไห้ทำไม” จุนซูคิดว่าเค้าคงเมานิดๆที่ได้เห็นชายที่ไหนไม่รู้มีใบหน้าเหมือนยูชอน ยืนอยู่ตรงหน้าและเอ่ยถามกับเค้า
“เท่าไหร่?” จุนซูเหมือนไม่ได้ยินอะไร แต่ได้เหม่อลอย ไม่รู้ตัวแม้กระทั่งถูกดึงแขนให้ลุกตามไป ทั้งๆที่ยังร้องไห้อยู่
“เอาน่า ไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็เถอะ ราคาตกลงทีหลังได้…ว่าแต่เป็นเด็กใหม่หรอ ไม่เห็นเคยเห็นหน้า” จุนซูเริ่มได้ยินอะไรแปลกๆ อารามรู้ตัวเลยชักมือออกทันที
“ผมไม่ใช่……” จุนซูเพิ่งได้เห็นใบหน้าชัดๆของชายร่างใหญ่ที่มีหนวดรุงรังหน้าเกลียด น่าอายนักที่เค้าเผลอมองเห็นเป็นยูชอนไปได้ ร่างบางอายที่ถูกเข้าใจผิด จึงเดินเลี่ยงหนีชายฉกรรจ์คนนั้นแทน จุนซูได้แต่คิดว่าทำไมวันนี้ถึงได้ซวยแบบนี้นะ
“เอาน่า ไม่ต้องอาย….เดี๋ยวนี้เด็กๆก็อยากได้เงินกันทั้งนั้นแหละ รับรองฉันให้เธอเยอะแน่…. น่าตาน่ารักแบบเนี่ย ถ้าฉันติดใจ อาจจะใช้บริการยาวเลยล่ะ หึหึ” ชายคนเดิมดึงมือของจุนซูไว้ ร่างบางสะบัดข้อมือแต่แรงของอีกผ่ายเยอะราวกับช้างสาร จุนซูบิดข้อมือออกแต่ก็ทำได้ยากมากขึ้น
“ปล่อยนะ!! ผมไม่ได้ขายตัว!! ปล่อย!”
-----------------------------------------
-------------------------
------------
"จุนซูครับ....ผมรักคุณนะ"
เสียงคุ้นเคยที่ดังก้อง.... ทำไมจุนซูถึงนึกถึงเสียงนั่นอีกครั้งในเวลานี้นะ?
ความคิดเห็น