ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yaoi] Conceal Secret (YunJae,MicXiah)

    ลำดับตอนที่ #5 : หน่วง

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 55


    เมื่อวันนี้ผมได้รู้ตัวว่าผมรักคุณมากเหลือเกิน…..

                   ยุนโฮแทบจะทรุดตัวลงทันทีที่อ่านสิ้นประโยคสุดท้ายลง เค้ายัดรูปทั้งหมดไว้ที่เดิมก่อนจะรีบเดินออกจากห้องโดยที่ไม่หันมามองดูร่างบางเลย ยุนโฮพยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดพาตัวเองมานั่งตรงโซฟาในห้องนั่งเล่น มือไม้ควบคุมให้หยุดสั่นไม่ได้ เหงื่อแตกพลั่กลงอาบข้างแก้มของชายหนุ่ม ร่างสูงหยิบขวดเหล้ามารินเกือบครึ่งแก้วก่อนจะดื่มรวดเดียวจนหมด เป็นเวลานานทีเดียวที่เค้านั่งรินเหล้าให้ตัวเองดื่ม และเป็นปริมาณมากที่เดียวที่เค้าดื่มเข้าไป ยุนโฮเริ่มรินผิดรินถูก แต่ก่อนที่จะได้ดื่มก็ถูกมือใครบางคนฉวยแก้วนั้นไว้แล้ววางลงข้างๆ

                   “ให้ตายสาบานสิว่าฉันเป็นเพื่อนนายมานาน ฉันเพิ่งเห็นนายดื่มเยอะขนาดนี้เป็นครั้งแรก!!” ยูชอนมาจากไหนไม่รู้ รู้แต่ว่ามาในเวลาที่เหมาะเหม็งพอดี ทำไมน่ะหรอ เพราะคนคอแข็ง(ทั้งๆที่ไม่ค่อยได้ดื่มเหล้าบ่อยๆ) อย่างยุนโฮ เริ่มจะมีอาการมึนๆบ้างแล้ว

                   “ยังไม่กลับอีกหรอ แขกกลับกันหมดแล้ว” พูดไม่พูดเปล่า รินเหล้าใส่แก้วใหม่แล้วก็ดื่มอีกครั้ง

                   “เพิ่งไปส่งจุนซูมา ว่าจะมาพูดกับแกสองต่อสอง เรื่องงานนี้เนี่ยแหละ ทำไมรีบหมั้นจังว่ะ นายชอบเฮริมหรือไง ฉันจะให้นะว่ายัยนั่นไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด”

                   “คุณนายจองเค้าขู่ว่าถ้าไม่หมั้น เค้าจะบอกเรื่องนั้นให้แจจุงฟัง”

                   “มัดมือชกชัดๆ” ยูชอนออกความเห็น ก่อนจะแย่งขวดเหล้ามาจากมือของยุนโฮ แล้วรินเหล้าให้ แต่ในปริมาณน้อยลง (ก็ยังดีกว่าที่เจ้าตัวรินเองน่ะนะ ห้ามไม่ได้ แต่ให้ดื่มน้อยๆก็ยังดีกว่า ยูชอนคิด)

                   “ยูชอน…….. ยุนโฮเอ่ยด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย อย่างที่ยูชอนไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยๆ

                   เห็นดังนั้นยูชอนจึงเอ่ยขึ้นมาทันที “เอ้า!!! นายมีอะไร ระบายมาเลย ฉันรับฟังเองเพื่อน! ระบายมาให้หมด แล้ววันนี้ก็ดื่มให้เมาปลิ้นไปเลย! มะ! ฉันเมาเป็นเพื่อน!” ว่าแล้วก็รินให้ตัวเองบ้าง ก่อนจะยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปาก

                   “คิมแจจุงชอบฉัน”

                   พรวด!! เหล้าฟุ้งกระจายเป็นละอองฝอยสวยงาม ยูชอนแทบเช็ดปากไม่ทันเสมองเพื่อนของตัวเองที่ยังคงดื่มเอาๆ

                   “เฮ้ย!... แล้วแกรู้ได้ไงว่ะ เข้าใจผิดหรือเปล่า”

                   “ไม่เค้าชอบฉันแน่ๆ เด็กคนนั้นชอบฉันจริงๆ”

                   ………..” ยูชอนไม่ได้พูดอะไร ได้แต่นั่งดื่มเป็นเพื่อนเงียบๆ รอว่ายุนโฮจะพูดอะไรต่อ

                   “แกก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้….เด็กคนนั้น….เด็กคนนั้นไม่ควรจะชอบฉัน เค้าต้องไม่ชอบฉันเค้าชอบฉันไม่ได้! ทำไม่ได้ไม่ได้” ว่าแล้วก็ยกแก้วขึ้นดื่มอีกพรวดนึง ยูชอนเอนตัวลงอิงโซฟาหรู

                   “แล้วนาย..เอ่อ…. คิดยังไงว่ะ หมายถึง แล้วนายคิดยังไงกับเด็กคนนั้น”

                   ………….” ยุนโฮไม่พูดอะไรนอกจากยกเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง

                   “ฉัน……. ฉันต้องบ้าไปแล้ว ยูชอน

                   ……………..

                   !!!!!!

                   -----------------------------------------

                   คิมแจจุงฟื้นคืนชีพ!! แต่นี่มันตีสองแล้ว แต่ร่างบางกลับไม่รู้สึกอยากหลับต่อเพราะเค้าได้หลับมาทั้งวันแล้ว แจจุงลุกออกจากเตียง ลำคอแห้งผาก คนตัวเล็กจึงไม่รอช้าที่จะเดินไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อหาน้ำอุ่นๆมาดื่มสักแก้ว ร่างบางเดินลงจากบันไดหรู

                   ห้องนั่งเล่นเปิดไฟอยู่ใครอยู่ตรงนั้นนะ….

                   “???” คุณยุนโฮนี่นา

                   ร่างบางเอะใจเมื่อเห็นยุนโฮฟุบหลับบนโต๊ะแก้วหน้าโซฟาใหญ่ ทั้งยังมีแก้วเหล้ากับขวดเหล้าหรูที่เหลือเพียงไม่เท่าไหร่นัก ร่างบางเข้าใจว่าคงอยู่ดื่มต่อกับยูชอนล่ะมั้ง แจจุงใช้มือเขย่าตัวของร่างสูงให้ตื่น

                   “คุณยุนโฮ…. คุณยุนโฮครับ หลับตรงนี้จะเป็นหวัดเอานะครับ”

                   …………

                   “คุณยุนโฮอ๊ะ” ยุนโฮเงยหน้าขึ้นก่อนจะคว้าหมับเข้าที่แขนของร่างบางจนแจจุงสะดุ้ง

                   “คิมแจจุง…. หยุดทำแบบนั้นซะ” ยุนโฮยังมีอาการมึนเมาเล็กน้อย แต่ทว่ารู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไร เพียงแต่ควบคุมได้ยากมาก

                   “ทะ ทำอะไรครับ”

                   “คิมแจจุง…..ฉันขอร้อง…. อย่าทำแบบนั้นเลย….อย่า….” ยุนโฮกำแขนแจจุงไว้แน่นทั้งสองข้าง ใบหน้าของทั้งคู่แทบจะอยู่ติดกันจนแจจุงได้กลิ่นเหล้าจากตัวของยุนโฮ

                   “อย่าอะไรครับ คุณยุนโฮ!?...ผมทำอะไร?” แจจุงเริ่มตื่นตระหนก ใบหน้าสวยขมวดคิ้วจนปวดหัวจี๊ดขึ้นมา ยุนโฮก็เช่นกัน ใบหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าที่แจจุงเคยเห็นมา

                   “อย่ารักฉัน…..อย่าชอบฉันเลิกคิดแบบนั้น….เธอชอบฉันไม่ได้ ทำไม่ได้!!!” ยุนโฮเขย่าตัว     

                   ………….…” แจจุงอึ้งจนแทบพูดอะไรไม่ออก สมองหยุดสั่งการไปชั่วขณะ แขนขาไม่มีเรี่ยวแรงจะทรงตัวได้ ได้แต่นิ่งชะงักงันอยู่กับที คุณยุนโฮรู้ได้ยังไง เค้ารู้ได้ยังไง

                   “ตอบฉันสิ คิมแจจุง บอกฉันบอกว่าจะไม่มีทางทำแบบนั้น สิ่งที่ฉันรู้มา.. ฉันเข้าใจผิด เข้าใจผิดทั้งหมด!” ยุนโฮเค้น ใบหน้าแจจุงเริ่มบิดเบี้ยว หยดน้ำอาบแก้มใสอีกครั้งในรอบวัน

                   “ได้โปรดคิมแจจุง!! อย่าทำแบบนี้ เธอบอกฉันมา แค่บอกว่ามันไม่จริง..

                   “ฮืออออออ….. ฮืออออออออออๆ”

                   “คิมแจจุง

                   “ผมรักคุณยุนโฮ….ฮือออออ ไม่ว่าคุณยุนโฮจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ฮืออออ แต่ผมโกหกคุณไม่ได้ ผมโกหกใจตัวเองไม่ได้….ฮึก ผมขอโทษครับ….ฮือออออออออ อออ อ ผมขอโทษครับคุณยุนโฮ….ฮือออออ” แจจุงร้องไห้หนักขึ้นไปอีก เมื่อได้เห็นสีหน้าผิดหวังของยุนโฮ นาทีนี้คนที่สับสนกลายเป็นยุนโฮ ส่วนคนที่มั่นใจหนักแน่นกลับกลายเป็นแจจุงเสียนี่ ยุนโฮปล่อยแจจุงแล้วค่อยๆนั่งลงตรงโซฟาเค้าก้มหน้าลงเอามือกุมขมับ ปล่อยให้คนตัวเล็กยืนร้องไห้ต่อไป

                   ……….ฉัน” ยุนโฮเอ่ยขึ้นมาด้วยความยากลำบาก

                   “ฮืออออออออออฮือออออออๆ”

                   “จะส่งเธอไปเรียนต่ออเมริกา……” แจจุงชะงักงัน ตาโตเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาเบิกโตกว่าเดิม ก่อนจะค่อยๆเดินมาตรงหน้าของยุนโฮ ร่างเล็กทรุดลงนั่งตรงหน้าก่อนที่จะพยายามเอ่ยอะไรบางอย่างด้วยความยากลำบาก

                   “คุณยุนโฮ…. ผมผิดไปแล้ว….. ฮืออออออออ ออออออ อย่าไล่ผมเลยนะครับ ฮึก ผมผมขอโทษครับ คุณยุนโฮฮฮฮ….ฮือออออออๆๆ อย่าทำแบบนี้เลย ผมขอโทษ…..ผมขอโทษครับคุณยุนโฮ ฮืออออๆๆ”

                   “คิมแจจุง!! เธอไม่เข้าใจ!... ไม่รู้อะไรเลย เธอรักฉันไม่ได้!! รักไม่ได้!!

                   “ทำไมครับ!!! คุณยุนโฮบอกผมสิ…. บอกผมถ้าเหตุผลมันสมควรให้ผมต้องตัดใจผมจะไปจะไปตามที่คุณต้องการ” ยุนโฮหลบสายตาคู่นั้นที่เค้นเอาคำตอบ เค้ามีท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนจนแจจุงสงสัย

                   “มันเกี่ยวกับผมใช่ไหมครับ….. เกี่ยวกับเรื่องที่ผมมาอยู่ที่นี่ใช่ไหมครับ เกี่ยวกับครั้งแรกที่เราเจอกันใช่ไหมครับ ใช่ไหมครับคุณยุนโฮ!” คราวนี้เป็นแจจุงบ้างที่คาดคั้น คนตัวเล็กเอื้อมมือไปเขย่าขาของยุนโฮเบาๆ ยุนโฮเริ่มมีสำหน้าเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่ซีดลงบ่งบอกถึงคำตอบที่แสดงออกทางสีหน้า

                   “ไม่ใช่ เพราะฉันมีคู่หมั้นแล้ว แล้วฉันก็เป็นผู้ปกครองของเธอ มันไม่ควร….

                   “ถ้าแค่นั้น…. ทำไมต้องไล่ผมไปที่อื่นหรือคุณยุนโฮก็คิดอะไรกับผม..

                   “ไม่!! ฉัน ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นเธอกลับขึ้นห้องไปซะ” ยุนโฮลุกขึ้น เค้าเริ่มสร่างบ้างแล้ว หลังจากได้รับรู้อะไรมากมาย เค้าพยายามเดินขึ้นเลี่ยงที่จะมองเห็นร่างบางที่ยังคงเค้นเอาคำตอบจากเค้า

                   “ถ้างั้นวันนั้นคุณยุนโฮจูบผมทำไมครับ….

                   ………..

                   “ถ้าคุณไม่ได้คิดอะไรกับผม คุณจูบผมทำไม…. จูบทำไมครับ” แจจุงเอ่ยเสียงสั่น ใบหน้ายังอาบไปด้วยน้ำตา ยุนโฮหยุดนิ่งชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้องของเค้าโดยไม่สนใจคำที่ร่างบางเอ่ย แจจุงทรุดลงนั่งแล้ว น้ำตาไหลเรื่อยๆโดยที่ไม่มีการสะอึกสะอื้นไห้ใดๆ คิมแจจุงตอนนี้ไร้เรี่ยวแรงพอจะทำอะไรแม้แต่จะเสียใจ แต่ที่ยุนโฮเงียบไปนั้น กลับทำให้แจจุงมีความหวังเล็กว่าอย่างน้อย

                   อย่างน้อย ยุนโฮจะคิดอะไรกับเค้าบ้าง……..

                   ------------------

                   --------

                   จองยุนโฮล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มของตัวเองกลังจากเจอเรื่องราวมากมายในคราวเดียว ฤทธิ์ของเกล้าทำเอาเค้าปวดหัวมากพอดู

                   “ถ้างั้นวันนั้นคุณยุนโฮจูบผมทำไมครับ….

                   เป็นครั้งแรกที่ยุนโฮอยากจะฆ่าตัวเองให้ตาย ที่ทำให้คิมแจจุงร้องไห้มากมายขนาดนี้ ยุนโฮใช้มือทุบหน้าผากตัวเอง เมื่อกี้เค้าเกือบทำแล้ว เกือบเข้าไปกอดร่างบางที่ร้องไห้บอกว่ารักเค้าเหลือเกินนั้น อันที่จริงยุนโฮเพิ่งมามั่นใจก็ตอนที่ได้เห็นข้อความสุดท้ายหลังรูปนั้น

                   เพิ่งรู้ตัวว่ารักคิมแจจุงเสียเหลือเกิน…..

                   ก่อนหน้านี้เค้าคิดอยู่แล้วว่าตัวเองคิดอะไรกับแจจุงหรือเปล่า ในตอนที่เผลอจูบไปวันนั้น แต่วันนี้เมื่อได้เห็นข้อความหลังรูปนั้น อีกทั้งคำสารภาพเปื้อนน้ำตาของร่างบาง แทบทำให้หัวใจที่แข็งดั่งหินผาเกือบจะละลายเป็นน้ำได้ในไม่กี่นาที ยิ่งแจจุงพูดอะไรออกมา ยิ่งทำให้เค้าเจ็บปวดใจมากยิ่งขึ้น และยิ่งเค้าปฏิเสธร่างบางมากเท่าไหร่ เค้ายิ่งเจ็บปวดใจที่ได้เห็นใบหน้าที่เสียใจและโสกเศร้าของร่างบางมากเท่านั้น เค้าทั้งอยากเข้าไปกอด และปลอบใจ อยากเอามือเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั้น

                   และพบว่าทำไม่ได้….

                   แค่นี้เค้าก็ทำผิดกับคิมแจจุงมากพออยู่แล้ว…..

                  

                   เดือนกว่าผ่านไปไวจนจุนซูตกใจ ที่อีกเดือนเดียวเค้ากับแจจุงและชางมินก็จะจบมอปลายด้วยกันทั้งหมด ข่าวดีในรอบเดือนคือเค้าและแจจุงต่างก็ติดมหาวิทยาลัยโซลด้วยกันทั้งคู่ คิมแจจุงติดคณะบริหารธุรกิจ ส่วนชางมินก็ติดคณะนิติศาสตร์ จุนซูเองก็ติดคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรมตามที่ใฝ่ฝัน ทุกคนดูมีความสุขกับการได้มีหลักประกันในอนาคตของตัวเองยกเว้น….

                   “แจจุง…. นายต้องไปอเมริกาจริงๆหรอ” จุนซูเอ่ยหลังจากที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ร่างเล็กนึกเสียใจที่ไม่ได้ไปเยี่ยมหาแจจุงตอนที่นอนป่วยอยู่ ทั้งๆที่เค้าเองก็ไปงานหมั้นของยุนโฮแท้ๆ (ก็เพราะยุนโฮไม่ให้ใครขึ้นไปรบกวนเพื่อนของเค้าน่ะสิ)

                   “ฉันฉันไม่อยากไปเลย…. แต่ฉันจะทำยังไงได้ล่ะ” แจจุงถอนหายใจ ได้แต่เอาหน้าฟุบบนแขนของตัวเอง อีกไม่กี่วันแล้วที่เค้าจะต้องไปอเมริกา ทั้งๆที่เค้าสามารถสอบติดมหาวิทยาลัยโซลได้แล้วแท้ๆ แต่ร่างบางก็ไม่นึกอยากจะหาสาเหตุที่ทำให้ยุนโฮรู้เรื่องที่เค้าชอบยุนโฮได้…. แจจุงแค่นึกว่าจะอยากรู้ไปทำไมนะ ในเมื่อตอนนี้ ยุนโฮรู้หมดทุกอย่างแล้วยังไล่ให้เค้าไปให้ไกล ไกลคนละมุมโลกแบบนี้

                   “เป็นฉันก็คงทำแบบนี้แหละ” ชางมินเอ่ยขึ้น จุนซูตบเข้าที่หน้าตักของชางมินแรงๆจนร่างสูงโย่งสะดุ้ง

                   “เอ้า! ก็ฉันพูดตามเนื้อผ้า ถ้าฉันเป็นคุณยุนโฮที่นำเด็กมาอุปการะเลี้ยงดูราวกับบุตรหลาน ซึ่งอายุห่างกันเป็นสิบปี…. จู่ๆก็รู้ว่าเด็กคนนั้นคิดกับเค้าไม่ใช่แค่เป็นผู้ปกครอง แต่คิดแบบคนรัก เป็นนายไม่ตกใจบ้างหรือไง” ชางมินเอ่ยตามเหตุผล ชางมินเป็นคนที่ยึดในหลักความเป็นจริงและมองเห็นปัญหาเร็วที่สุด จึงเป็นคนที่พึ่งพาได้เสมอไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร ถึงแม้จะขวานผ่าซากไปหน่อยก็เถอะ..

                   “รู้แล้ว ไอ้บ้า!... แต่แจจุงกำลังเสียใจอยู่ ไม่เห็นหรอแจจุงก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอกน่าเรื่องของหัวใจมันไม่มีเหตุผล ใช่ว่าแจจุงจะดลบันดาลให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นแบบนี้สักหน่อย” จุนซูพูดไปพลาง เสมองไปที่แจจุงไปพลาง แต่ดูแจจุงจะไม่ได้รู้สึกเสียใจมากขึ้นหรือรู้สึกดีมากขึ้นเท่าไหร่นัก แต่ก็พยักหน้าตามทั้งคู่

                   “สิ่งที่ฉันอยากรู้คือเรื่องราวก่อนที่ฉันจะมาเจอคุณยุนโฮคุณยุนโฮมีอะไรบิดบังฉัน มันต้องเกี่ยวกับเรื่องที่ฉันไม่ควรชอบคุณยุนโฮแน่ๆ ไม่อย่างนั้น เค้าคงไม่ทำขนาดนี้ ไม่ไล่ฉันไปขนาดนี้แน่ๆ” แจจุงถอนหายใจอีกครั้ง ชางมินเอื้อมมือจับมือของแจจุงแน่น

                   “แจจุง…. เรื่องบางเรื่อง ถ้าเค้าไม่อยากบอกนายนั่นหมายความว่า ไม่รู้เสียยังดีกว่าไม่ใช่หรอ อย่าคิดมากไปเลย ส่วนเรื่องที่นายต้องไปอเมริกา รอสักสองสามอาทิตย์ ทั้งนายและคุณยุนโฮคงใจเย็นลง เรื่องราวอาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นนะ ตอนนี้นายก็แค่ทำตัวดีๆ ไม่เป็นภาระ ไม่ทำให้คุณยุนโฮลำบากใจก็พอ ถ้าเค้าได้รู้ว่า เรื่องที่นายรักเค้ามันไม่ได้ทำให้อะไรๆมันเปลี่ยนแปลงไป เค้าอาจจะเปลี่ยนใจให้นายยังอยู่ที่นี่ก็ได้ และถ้าเค้าไม่ได้คิดอะไรกับนายจริงๆ นายก็ต้องตัดใจมันเป็นทางเดียว มันยากแต่นายต้องทำ” น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตากลมโต

                   “ฉันล่ะเกลียดการปลอบใจของนายสุดๆเลยชางมิน แจจุงของฉันร้องไห้อีกแล้ว ตาบ้า!... ไปไกลๆเลยชิ่วๆ” จุนซูปัดมือชางมินออกจากแจจุง ชางมินได้แต่แลบลิ้นใส่จุนซู ทั้งคู่ตีกันไปมา จุนซูทั้งโดนดันหัวบีบจมูก ส่วนชางมินก็โดนขยี้ผมจนเสียทรง ทั้งคู่ทะเลาะกันเงียบๆจนแจจุงเอ่ยขึ้น

                   “มันก็จริงนะ…. ตอนแรกฉันยังมีความหวัง ว่าเค้าจะมีใจให้ฉันบ้าง แต่ตอนนี้…. แค่จะมองหน้าฉันเค้ายังไม่ทำเลย…. ฉันควรตัดใจ แล้วไปอเมริกาตามที่เค้าบอก….

                   “แจจุง!! อย่าไปฟังชางมินนะ นายรักเค้า นายต้องสู้ให้ถึงที่สุด นายยังไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไง นายจะติดสินเอาเองได้ยังไง…. เกิดถ้าความจริงเค้ารักนายขึ้นมา นายไม่เสียดายหรอ อย่ายอมแพ้นะคิมแจจุง!! ถ้านายคิดจะรักใครสักคน อย่ากลัวที่จะเสียใจ อย่ากลัวและอย่าทิ้งมันไปง่ายๆ เชื่อฉันสิ!!” จุนซูต่างกับชางมินอย่างสิ้นเชิง เค้ามีความคิดที่ต่างไปจากคนที่คิดตามหลักเหตุและผลมากพอควร จุนซูเป็นเพียงเด็กที่อยู่กับความฝันและความหวังอย่างไม่ยอมแพ้ เป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งของความไร้เดียงสาของจุนซู แจจุงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกุมมือเล็กของจุนซูเป็นการชอบคุณ

                   “ขอบคุณพวกนายมากนะ ฉันจะรับฟังนายทั้งคู่นั่นแหละ เลิกทะเลาะกันเป็นเด็กสักทีน่า ฮะๆๆ” หัวเราะทั้งน้ำตาอาบแก้ม แต่ก็ทำให้ชางมินกับจุนซูสบายใจขึ้นมาได้บ้าง แล้วแจจุงจะทำตามที่ใครบอกนั้น มันก็สุดแล้วแต่แจจุงแล้วล่ะ

                   ---------------------------------------------------------------------

                   วันนี้เป็นวันที่ฉลองสองเดือนที่ได้เจอกันระหว่างปาร์คยูชอนกับคิมจุนซูคนตัวเล็กเดินตัวปลิวในซูเปอร์มาเก็ตพร้อมของมากมายในรถเข็น ทั้งแครอท หัวหอม และเนื้อวัวมากมาย วันนี้เค้าจะทำเสต็กให้ยูชอนทานหลังจากที่ยูชอนสอนเค้าไปเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว วันนี้ทั้งคู่นัดเจอกันที่คอนโดของยูชอนเหมือนเดิม จุนซูฮัมเพลงในคอ เป็นครั้งแรกที่ยิ้มไปร้องเพลงไปแล้วยังเดินช็อปปิ้งไปด้วยแบบนี้ จุนซูยกนาฬิกาขึ้นดู

                   หวาสายแล้ว….. ยูชอนงอนแก้มป่องแน่ๆเลย

                   -------------------

                   ------

                   ยูชอนกำลังครุ่นคิดเค้าปล่อยเวลาให้นานเป็นสองเดือนได้ยังไงนะ แต่ก็ดีเหมือนกัน มันหมายถึงซื้อความเชื่อใจที่มีกับจุนซูได้มากมายเลยทีเดียว เป็นสถิติที่เค้าไม่คิดว่าจะได้ทำกับใครอีกแน่ ยูชอนนึกเสียดายที่มันใกล้จะจบภายในเร็วๆนี้ แต่ก็รู้สึกดีเหมือนกัน ที่จะได้จบมันเร็วๆก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดไปกันใหญ่

                   ไวน์ขวดแพงถูกวางไว้พร้อมกับแก้วสองใบ ยูชอนนึกโกรธเล็กน้อยที่จุนซูมาช้ากว่าที่นัดไว้นานพอดู แต่ก็เพียงครู่เดียว เพราะไม่นานเสียงออดก็ดังขึ้น พร้อมกับใบหน้าของคนที่เค้ากำลังคิดถึงโชว์บนจอมอร์นิเตอร์ข้างประตู

                   จุนซูกำลังยิ้มร่า โบกไม้โบกมือให้กับเค้าอยู่ ยูชอนยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าของจุนซูโดยไม่รู้ตัว

                   “คุณมาช้าจัง ผมจะงอนคุณแล้วนะ” ว่าแล้วก็หอมเข้าที่หัวเล็กๆเข้าฟอดใหญ่จนจุนซูตัวเอน จุนซูที่กำลังง่วนกับการยกของเข้าเลยทำได้แค่ขู่แห่ๆเหมือนแมวโดนแย่งปลาทูเบาๆ

                   “ก็ผมต้องซื้อของเยอะแยะเลยนี่ครับ คราวนี้ไม่มีคนช่วยเลย ใครกันแน่ที่ต้องงอน” จุนซูยื่นปากหลังจากที่ยูชอนช่วยยกของมาจนหมด

                   “ก็ผมติดงานจริงๆน้า ไม่ได้ไปกับสาวที่ไหนเลยยยย

                   “ร้อนตัวทำไมครับ” ว่าแล้วก็จัดแจงอาหารออกทั้งหมด แล้วสวมเอี้ยมโดยไม่สนใจใครที่กำลังนั่งอึ้งบนโซฟาใหญ่คนเดียว ยูชอนนึกอยากตบปากตัวเองที่ร้อนตัวออกแบบนี้ แน่ล่ะ คาสโนว่าฆ่าไม่ตายอย่างเค้าก็ออกไปควงสาวๆไปไหนมาไหนบ้างช่วงที่ไม่ค่อยได้เจอจุนซู แต่มันก็แค่แป๊บเดียวเอง อย่างน้อยเค้าก็ไม่ได้มีอะไรกับสาวพวกนั้นตั้งแต่คบกับจุนซูมาเลยนะ ยูชอนคิด

                   “ผมเปล่าร้อนตัวนะ โถ่ จุนซู ผมคิดถึงคุณจะตาย อยากกอดคุณ อยากจะจูบคุณจะตายอยู่แล้วไม่รู้หรือไง” ยูชอนเปลี่ยนมาโอบจุนซูที่กำลังสับนู้นหั่นนี่ลงหม้อ แต่จุนซูก็ได้แต่นิ่งไม่พูดอะไร สับๆๆๆๆหมูจนยูชอนต้องพล่ะออกมาแทบจะทันที

                   “ไปนอนนิ่งๆไม่งั้นผมจะสับคุณลงไปในหม้อด้วย” คนตัวเล็กยกมีดขึ้นมาขู่ฟ่อๆ ก่อนจะลงมือทำกับข้าวต่อ ยูชอนได้แต่หัวเราะแล้วก็ยอมไปนอนรอบนโซฟาแต่โดยดี

                   อาหารทุกอย่างเสร็จแล้ว ยูชอนชมเปาะว่าอร่อยยิ่งกว่าเชฟที่โรงแรมของเค้าทำให้เสียอีก จุนซูได้แต่ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วก็พูดเหน็บเรื่อยว่าอร่อยกว่าที่กินกับแน่นั่นหรือเปล่า หรือไม่ก็คราวหลังถ้าอยากกินอร่อยกว่านี้ก็ไปให้คนอื่นทำสิ จนยูชอนเริ่มคิดว่าคนตัวเล็กของเค้างอนแบบจริงจังซะแล้วสิ หลังจากทานเสร็จทั้งหมด จุนซูก็เอาแต่นั่งดูหนังอยู่หน้าจอทีวี โดยที่ไม่สนใจร่างสูงที่พยายามนั่งเบียดเข้ามาพร้อมกับแก้วไวน์

                   “จุนซูครับ…. จุนซู ที่รักกกกก เลิกงอนหมอเหอะน้า วันนี้ผมติดธุระจริงๆ ไม่ได้ไปกับใครเล๊ยยยย โทรถามเลขาผมก็ได้ อ่ะ มือถือโทรเลยๆ” ว่าแล้วก็ยัดมือถือให้กับจุนซู จุนซูมองหน้ายูชอนทั้งๆที่ยะงงอนแก้มป่องอยู่

                   “คุณก็โทรบอกคุณเลขาคิมเรียบร้อยแล้วสิ ทำไมผมจะไม่รู้ คนบ้า..ผมจะกลับแล้ว ตาบ้า” จุนซูลุกขึ้นพรวดเดียวก่อนจะหยิบเสื้อกันหนาวเตรียมจะออกจากห้อง แต่ยูชอนกลับลุกขึ้นโอบเอวจุนซูเข้าทางด้านหลังแล้วดึงเอวบางให้ชิดกับตัวของยูชอน จุนซูหน้าแดงขึ้น ก่อนจะพยายามดันตัวเองออกจากอ้อมกอดนั่น

                   “ปล่อยนะ คุณยูชอน ผมจะกลับแล้ว”

                   “ไม่จนกว่าจุนซูจะเลิกงอนผมสักที เป็นอะไรไปครับ ตลอดมาจุนซูเชื่อใจผมตลอดไม่ใช่หรอ ทำไมวันนี้ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ หื๊อ” พูดไม่พูดเปล่า หอมเข้าที่ซอกหูจนจุนซูจั๊กกี้และหน้าแดงขึ้นไปอีก มือเล็กพยายามแกะมือปลาหมึกที่โอบเอวของเค้าไว้ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะมือแกร่งของร่างสูงกลับกระชับแน่นเข้าไปอีก

                   “ก็…. ช่วงนี้ผม….ผมรู้สึกแปลกๆ มัน... ช่างมันเหอะครับ ผมแค่จะลองใจคุณเล่นน่ะ ปล่อยผมเถอะ ผมอึดอัด”

                   “โธ่ก็นึกว่าอะไร มามานั่งดื่มไวน์กันดีกว่า วันนี้เป็นวันพิเศษของเรานะ ผมไม่ปล่อยให้คุณกลับง่ายๆหรอก” ยูชอนยิ้ม ก่อนจะหอมแก้มจุนซูอีกฟอดหนึ่ง จุนซูหน้าแดงขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่าวันนี้อาจจะมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเค้าก็เตรียมใจมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่คิดว่าจะมีวันนั้นเกิดขึ้นจริงๆหรอก

                   อาจจะไม่ใช่วันนี้หรอกน่า…..

                   -------------------------------

                   ------------------

                   ยูชอนโอบเอวของจุนซูไว้เบาๆในขณะที่นั่งจิบไวน์ไปด้วย ทิวทัศน์นอกหน้าต่างในยามค่ำคืนยิ่งกล่อมให้ความหวานในคืนนี้มากขึ้นเข้าไปอีก จุนซูดื่มเข้าอีกอึกใหญ่ก่อนจะเอนตัวลงอิงกับแผงอกกว้างของยูชอน ยูชอนยิ้มเล็กๆ เค้าพรมจูบสองสามครั้งบนหัวมนของร่างบาง

                   “ยูชอน….. ทำไมผมถึงโชคดีอย่างนี้ครับ”

                   “หื๊อ ทำไมหรอ”

                   “เพราะผมมีคุณผมถึงไม่กลัวอะไรเลย ผมมีความสุขมากเลย แต่โชคดีจังที่ได้เจอคุณ ได้อยู่กับคุณแบบนี้” จุนซูมุดหัวให้แนบชิดแผงอกของร่างสูงขึ้นไปอีก ยูชอนลูบหัวร่างบางอย่างรักใคร่ ก่อนจะต้องเบือนหน้าไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้งเมื่อสังเกตุเห็นแผงอกเล็กของร่างบางที่ซ่อนอยู่ในเสื้อคอกว้างกระเพื่อมขึ้นลงด้วยแรงหายใจ แล้วยิ่งการที่จุนซูดันหัวมาซบกับบ่าของเค้ายิ่งเป็นการยั่วยวนให้อยากโอบกอดร่างเล็กนี้มาเป็นของเค้าเร็วยิ่งขึ้น

                   “ผมก็มีความสุขจังที่ได้มาเจอคุณ…. และยิ่งรู้ว่าคุณเป็นใครก็ยิ่งทำให้ผม…. โชคดีมากขึ้น” ยูชอนยิ้มยกมุมปาก แต่จุนซูไม่สามารถเห็นได้เนื่องจากนั่งซ้อนอยู่บนตักของยูชอนด้านหน้า จุนซูยิ้มก่อนจะหลับตาพริ้ม

                   “ผมรักรักยูชอนมากๆเลย รักจะตายอยู่แล้ว….” ยูชอนใจเต้นเป็นส่ำ เนื่องจากคำพูดของร่างบางประกอบกับลมหายใจของร่างบางรดที่อกของเค้า ตอนนี้ความอดทนของร่างสูงเกือบหมดสิ้นลงแล้ว ยูชอนดันร่างบางให้ออกจากอกของตัวเอง แล้วบิดตัวให้จุนซู หันมามองหน้าของเค้าชัดมากขึ้น จุนซูที่เพิ่งจะเคลิ้มหลับลืมตาขึ้นมามองด้วยความแปลกใจทว่าจุนซูไม่รู้เลยว่า อาการเพิ่งตื่นตาตื่นของจุนซูกลับเซกซี่จนยูชอนแทบจะตายไปหลายครั้งด้วยความยั่วยวนที่ไม่ได้ตั้งใจของร่างบาง

                   “จุนซู….เป็นของผมนะ”

                   ร่างเล็กเบิกตาโพล่ง แต่ก่อนจะได้เอ่ยอะไรออกไปนั้น ริมฝีปากของร่างสูงก็ทาบทับมาอย่างรวดเร็ว อารมตกใจทำให้จุนซูพยายามดันตัวของร่างสูงออกจากตัวของเค้า แต่ทว่าไม่เป็นผล ยูชอนแลบลิ้นเลียขออณุญาตให้เข้าไปลิ้มรสความหวานภายในริมปากอวบอิ่ม มือไวล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วลูบไล้แผงอกบางจนจุนซูสะดุ้ง ยูชอนอาศัยจังหวะนั้นดันลิ้นเข้าไปตักตวงเอาความหวานทั้งหมดกลืนลงไปทันที แต่ยิ่งลิ้มรสก็ยิ่งไม่พอ ยูชอนรุกหนักขึ้นจนจุนซูต้องทุบอกของยูชอนเพราะหายใจไม่ทัน

                   “อื๊ออออออ…..อืออ…..อึก อื้อออออ” ยูชอนเห็นดังนั้นจึงผลักออกมาให้จุนซูหายใจ ก่อนจะไล้จูบพรมบนซอกคอเล็กที่เค้าเล็งไว้มาตั้งแต่เมื่อกี้ หวานสมดั่งใจอยาก คราวนี้ไม่ว่าจุนซูจะพูดอะไรก็ไม่สามารถหยุดเค้าได้แล้ว กิเกสตัณหาที่เก็บเอาไว้ได้นานอย่างเหลือเชื่อในตัวของยูชอนบัดนี้พังทลายลงเพราะตัวของร่างบางเอง

                   “ยูชอนเดี๋ยวไม่…..ยูชอน…..อ๊ะ…..อ๊ะยูชอน อย่า ผมกลัวยูชอน” ราวกับเสียงนั้นถูกดูดกลืนด้วยกิเลสของยูชอน ร่างสูงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เค้าได้แต่ดึงมือที่พยายามดันเค้าออกจากร่างบางเอาไว้แน่น ริมฝีปากหนักหน่วงดูดดุนแผงอกเล็กอย่างหื่อนกระหาย เสื้อตัวเล็กถูกปลดกระดุมออกจนหมด เผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบของร่างบาง จุนซูเริ่มกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ แต่แรงที่จะพลักยูชอนให้ออกไปได้นั้นก็น้อยเสียเหลือเกิน น้ำตาเริ่มไหลออกจากห่างตาเล็กอย่างช่วยไม่ได้ ยูชอนสัมผัสได้ว่ามีน้ำอุ่นๆหยดมาโดนมือของเค้าที่กำลังลูบไล้ใบหน้าของร่างบาง ทำให้ยูชอนหยุดชะงักแล้วมองร่างบางที่กำลังตัวสั่นอยู่ล่างตังของเค้า จุนซูร้องไห้เงียบๆและเบาจนยูชอนไม่ได้ยิน เสื้อผ้าหลุดลุ่ยถูกกองมาไว้ตรงแขนของร่างบางจนแผงอกเล็กถูกเผยให้เห็นจนชัดเจน

                   “จุนซู…. ไม่ต้องกลัวนะผมไม่ทำให้คุณเจ็บเชื่อผมนะ ผมอยู่ตรงนี้….และได้โปรดอย่าทรมานผมอีกเลยคุณรู้ไหมว่าผมทรมานแค่ไหน ที่จะไม่กอดคุณไม่มีสักวันที่ผมจะทำใจไม่ให้คิดอกุศลกับคุณได้เลย ผมรักคุณนะ อยากจะกอดคุณ อยากครอบครองคุณให้เป็นของผมคนเดียว นะครับ…. เป็นของผมนะครับจุนซู ไม่ต้องกลัวนะ คนดี” ยูชอนพูดไปพลางลูบหัวเล็กมนไปพลาง จุนซูหยุดร้องไห้และสะอึกสะอื้นน้อยลง ยูชอนจูบที่ขมับของจุนซูเป็นการปลอบโยน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเค้าคงหยุดและพาร่างบางไปส่งที่บ้านนานแล้ว แต่วันนี้เค้าทำไม่ได้จริงๆ เค้าพ่ายแพ้ทุกอย่าง เค้ายอมแพ้ทุกอย่าง ขอแค่ได้สัมผัสเรือนร่างสวยงามนี้ ต่อให้ต้องแลกอะไรเค้าก็ยอม

                   “ผมรักยูชอน………ผมอยากเป็นของยูชอนครับ” จุนซูเอ่ย เขินจนหน้าแดง ยูชอนยิ้มก่อนจะเช็ดน้ำตาที่ข้างหูของร่างบาง ร่างสูงบรรจงมอบจูบหวานให้จุนซูช้าๆและอ่อนโยนกว่าเมื่อกี้มากทำให้จุนซูเริ่มคลายกังวล ยูชอนไล้จูบลงมาเรื่อยๆจนบทรักดำเนินมาจนถึงตอนจบ จุนซูนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ มือเล็กสั่นเทาเอามาปิดปากให้หยุดร้องเสียงที่น่าอายออกไป ยูชอนเหงื่อแตกพลั่ก เค้าเอามือของจุนซูออกเพื่อจะได้ยินเสียงที่เพราะยิ่งกว่าเสียงเพลงจนออเคสตร้าชั้นเลิศ ก่อนจะจูบปลอบใจจนจุนซูคลายความเจ็บลงบ้าง

                   “จุนซู……… ผมรักจุนซูนะ” แต่ทว่าไม่รู้ว่าร่างบางจะได้ยินมากน้อยแค่ไหน เพราะหลังจากเสร็จบทรักอันเนิ่นนาน จุนซูก็พล่อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ยูชอนเองหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ เค้าจึงรินไวน์แดงแล้วจรดมันเข้าริมฝีปากช้าๆ ยูชอนนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆเตียงที่ร่างบางนอนหลับตาพริ้ม หน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงบ่งบอกว่าคนตัวเล็กหลับสนิทเพราะเหนื่อยมาก ยูชอนเหลือบมองรอยจูบที่ถูกพรมเต็มแผงอกบางซึ่งเป็นฝีมือของเค้าเอง

                   “ฮัลโหล”

                   “คุณยูชอนหรอครับ เรื่องที่ให้ไปสืบ ได้เรื่องแล้วนะครับ”

                   “จริงหรอเป็นยังไง”

                   “คิมจุนซูเป็นน้องชายแท้ๆของคิมจุนฮีครับ ตอนเด็กๆทั้งคู่ถูกแยกกันเพราะพ่อแม่หย่ากันครับ พ่อพาคุณจุนฮีไปเลี้ยงที่ปูซาน ส่วนแม่พาคุณจุนซูมาเลี้ยงที่โซลครับ ทั้งสี่คนเพิ่งมาอยู่ด้วยกันอีกที ตอนที่คุณจุนซูอยู่มอต้นครับ สองคนพี่น้องห่างกันไปนานมาก ก็เลยดูจะสนิทกันมากครับ”

                   “แล้วเรื่องฐานะครอบครัวคิมล่ะ”

                   “อ้อ เรื่องนั้น บ้านหลังนั้นเป็นหนี้อยู่ครับ ถ้าอีกไม่กี่เดือนขาดการชำระ บ้านหลังนั้นจะกลายเป็นของธนาคารทันทีครับ ฐานะค่อนข้างจนครับ แต่หลังจากที่คุณคิมจุนฮีแต่งงานไปก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆเพราะสามีของเธอค่อนข้างรวยครับ”

                   “หึ ในเมื่อสามีรวยทำไมยัยนั่นไม่เอาเงินของสามีมาซื้อบ้านคืนซะล่ะ”

                   “ดูเหมือนเธอจะโกหกสามีเรื่องฐานะน่ะครับ เงินที่เอามาจ่ายหนี้ก็ดูจะเป็นเงินที่โกหกสามีมาน่ะครับ”

                   “เข้าใจแล้วแต่ได้ข่าวว่าอีกไม่นานยัยนั่นจะกลับมาที่โซล?”

                   “ครับ คงมาเพราะเรื่องบ้านนั่นแหละครับ”

                   “ดีจัดการตามที่ฉันบอก เรียบร้อยแล้วโทรมาบอกฉันด้วย”

                   “ครับ คุณยูชอน” ยูชอนวางมือถือลงข้างเตียง เจ้าตัวเล็กยังนอนหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องราว

                   “คิมจุนซู….จะดีแค่ไหนกันนะ ถ้านายไม่ได้เกิดมาเป็นน้องของคิมจุนฮี” ยูชอนถอนหายใจ ร่างสูงเก็บของทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแก้วไวน์หรือถ้วยโถโอชามและทำความสะอาดจนเรียบร้อย ก่อนที่จะเดินออกจากห้อง ทิ้งให้จุนซูผู้ไม่รู้เรื่องราวหลับอย่างไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง

                   “ยูชอน…… ผมรักยูชอนนะ” จุนซูครางอือในลำคอใบหน้าน่ารักดันแก้มให้แนบชิดกับหมอนใบโต รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นอย่างไร้เดียวสา น่าเสียดายที่ยูชอนไม่ได้เห็นภาพนี้ก่อนจะจากไป เพราะบางทียูชอนอาจจะได้รู้ว่า….

                   คนๆนี้น่ารักขนาดไหน….      

                   ว่าคนๆนี้รักเค้ามากเพียงใด……

                   แต่ยูชอนตัดสินใจแล้ว…..

                   และเค้ามั่นใจว่าจะไม่มีทางหันหลังกลับ……

                   ความโกธาในอดีตมีอำนาจเหนือความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในเวลานี้ ยูชอนก็เหมือนผู้ชายทั่วไปที่แพ้แล้วต้องการกลับมาเอาชนะ ทั้งๆที่เนื้อแท้แล้วเค้าไม่ใช่คนแบบนี้เลย

                   ความรักเปลี่ยนคนๆหนึ่งได้….

                   เปลี่ยนให้คนๆหนึ่งที่ดีแสนดีกลับกลายเป็นคนเลวที่ทำร้ายคนอีกคนหนึ่งได้….

                   และเปลี่ยนให้คนๆหนึ่งซึ่งไม่รู้จักความรัก….. รักใครคนหนึ่งได้อย่างหมดหัวใจ…..

                   ---------------------------------------------------------------------

                   ---------------------------------------------

     

    --------------------

                   ------

                   “อือ…..” จุนซูบิดขี้เกียด มือเล็กเอื้อมมือหาสิ่งที่จะสามารถบอกเวลา ณ ตอนนี้ได้ แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาเรือนโตที่แขวนอยู่ตรงผนัง

                   สิบโมงแล้วหรอสายป่านนี้แล้ว ทำไมยูชอนไม่ปลุกนะ….

                   “อื๊อ!” จุนซูเบ้หน้า เมื่อร่างบางพยายามลุกขึ้นนั่ง ความเจ็บตั้งแต่สะโพกร้าวมาจนถึงช่วงอกทำให้จุนซูแทบไม่อยากเดินไปไหน สายตามองหาใครบางคนที่เป็นเจ้าของห้องหรูแห่งนี้ แต่ทว่ากลับไม่มีวี่แววของยูชอนอยู่เลย ร่างบางพยุงให้ตัวเองเดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านานพอสมควร

                   คงรีบไปทำงานล่ะมั้ง…..

                   สงสัยต้องกลับเองแล้วล่ะ…. จุนซูคิด แต่ก็คิดมากเลยทีเดียว สภาพเค้าตอนนี้แค่ลุกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำได้ก็บุญโขแล้ว จุนซูจึงได้แต่นั่งคอยยูชอนกลับมา เป็นเวลานานทีเดียวที่จุนซูนั่งๆนอนๆเดี๋ยวก็เปิดดูทีวี เดี๋ยวก็อ่านหนังสืออ่านเล่นของยูชอนที่วางอยู่ข้างๆเตียง เกือบสามโมงแล้ว จุนซูยังไม่ได้กินอะไรเลย ทั้งยังไม่มีวี่แววว่ายูชอนจะกลับมาอย่างเคย

                   เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้….

                น่าแปลกเหลือเกินที่ยูชอนไม่สามารถติดต่อได้ ยุชอนมีเบอร์ที่เอาไว้ติดต่อคุยกับเค้าโดยเฉพาะ หากมีประชุมหรือติดธุระจริงๆ จะมีการส่งข้อความว่า ตอนนี้ว่างนะครับ แล้วจะโทรกลับ หรืออาจจะโทรติดแต่ยูชอนไม่รับเพราะชอบวางมือถือไว้ไกลตัวและไม่เปิดเสียงไว้

                   แต่ครั้งนี้แปลกมาก จุนซูเริ่มกระสับกระส่าย

                   แต่อย่างน้อยยูชอนก็น่าจะกลับมาที่คอนโดสิ จุนซูคิดเข้าข้างตัวเอง จนเวลาล่วงเลยมาถึงหนึ่งทุ่มตรง ก็ยังไม่มีแววว่าร่างสูงจะปรากฏตัวเลย จุนซูยื่นปาก

                   คราวนี้นะ! จะโกรธจะงอนที่นานที่สุดเลยคอยดู!! ถึงกระนั้นก็เถอะแต่วันนี้จุนซูกลับบ้านมาด้วยความไม่สบายใจเอาเสียเลย ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ ยูชอนจะทานข้าวหรือยัง ทำไมไม่โทรมาหา ไม่โทรมาบอกอะไรกันมั้ง ทั้งๆที่เมื่อคืนที่แล้วเค้ากับจุนซูเพิ่งเป็นหนึ่งเดียวกันแท้ๆ จุนซูน่าจะตื่นมาในอ้อมกอดที่อบอุ่นและโดน morning kiss สักครั้ง เกิดอะไรขึ้นกันแน่ มีอะไรบางอย่างเหมือนจะบอกกับเค้าว่าเกิดเรื่องแย่ๆขึ้น จุนซูใจสั่น อย่างน้อยเค้าอยากได้ยินเสียงของยูชอนสักครั้ง ให้ยังรู้สึกว่าสบายดี

                   คร่อกกกกกกกกจุนซูสะดุ้ง พลางหันซ้ายหันขวา ในรถเมล์เวลานี้มีคนอยู่บางตา จุนซูจึงถอนหายใจ

                   เฮ้อออออคิมจุนซู ยังมาห่วงคนอื่นอีก ตัวเองน่ะ ข้าวยังไม่ได้กินเลย……

                   จุนซูเอาหัวอิงกับกระจกหน้าต่างรถเมล์

                   ยูชอน…… คุณอยู่ไหนนะ เวลานี้ผม….. คิดถึงคุณเหลือเกิน……..

                   ------------------------------------

                   ---------------------



    ฮ่าๆๆๆ บางคนคงสงสัยว่าทำไมถึง หน่วง?

    หน่วงสิคะเพราะจุนจัง.....กับตาปาร์ค  เย้ยยย >////< มะช่ายค่าาาาาา

    หน่วงเพราะจุนจังกำลังมีความสุขมากๆ ในขณะที่กำลังจะต้องเศร้าสุดๆ

    T^T ไรเตอร์สงสารจุนจังในตอนต่อไปมากมาย แต่ก็ซาดิสม์อ่ะนะคะ

    ไรเตอร์เลยจัดไปเต็มเลยล่ะค่ะ งานนี้คงต้องมีใครเกลียดเมะของเราบ้าง

    แล้วล่ะค่ะ ฮ่าๆๆ


    เฮ้!! ดีใจจังเลย เม้นเพิ่มขึ้นแถมมีแฟนคลับด้วย ฮ่าๆ ขอบคุณมากนะคะ

    ไรเตอร์มีความสุขจังเวลาเห็นเม้นว่าสนุกและอยากให้โพสต่อไวๆ

    >< ทำเอารีบปั่นจนยาวเกือบถึงร้อยหน้าเข้าไปแล้ว โฮกกกกก,,

    ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับคนที่ติดตาม

    ถ้าสนุกยังไงช่วยบอกต่อด้วยนะคะ >< อยากให้วิวเยอะๆจังเลย

    ตอนนี้ขอย้ำคาแรกเตอร์หน่อยนะคะ

    จะเห็นได้ว่า ยุนเป็นคนที่เป็นผู้ใหญ่เอามากๆเลยล่ะค่ะ ไม่ยอมทำตาม

    ใจตัวเองถึงแม้จะอยากทำแค่ไหนก็ตาม นั่นเป็นเพราะรักคนๆนั้นมาก 

    ไรเตอร์คิดว่าผู้ชายแบบนี้เท่ห์สุดๆไปเลยค่ะ ส่วนแจจุงก็ไร้เดียงสาและ

    รักและศรัทธาในตัวของยุนโฮมากถึงแม้ภายนอกจะแข็งกร้าวและเย็นชา

    แต่เพราะความอ่อนโยนบางอย่างในจิตใจ ซึ่งมีแต่ยูชอนและแจจุงที่

    มองเห็นทำให้ แจจุงหลงรักผู้ชายคนนี้หมดใจเลยค่ะ >< ส่วนจุนจัง

    เป็นตัวละครที่ไรเตอร์รักมากๆเลยล่ะค่ะ เพราะจุนซูเรื่องนี้มีอารมณ์

    แบบเด็กๆและนิสัยเหมือนผู้หญิงมากๆ ขี้อาย ขี้งอน มีหมด คึคึ

    แต่บทที่เครียดพอๆกับยุนโฮแต่ก็มีในด้านความน่ารักและขี้เล่นแฝงอยู่

    ต้องยกให้ปาร์คยูชอนเลยค่ะ แหม่,, เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงนะเนี่ยยย


    เรื่องราวเริ่มเข้มข้นแล้วล่ะค่ะ ทำให้ไรเตอร์พิมพ์แทบไม่ทันเพราะความ

    คิดกับไอเดียมันหลั่งไหลมากขึ้นเรื่อยๆ ยังไงช่วยติดตามด้วยนะคะ

    รักรีดเดอร์ทุกคนเลยค่ะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงและมีความสุขมากๆนะคะ

    Amild,,

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×