ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yaoi] Conceal Secret (YunJae,MicXiah)

    ลำดับตอนที่ #19 : The Empty Space For You

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 55


      

      --------------------------------

                    --------------------

     

                    ----------

                    “จะดีหรอจุนซู…….. เค้าโดนยุงกัดตัวลายหมดแล้ว” จุนฮีชะโงกหน้าออกไปดูตรงหน้าต่าง เห็นร่างสูงนั่งอยู่หน้าบ้านกับยุงประมาณร้อยๆกว่าตัว แล้วก็ได้เห็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและสาบานได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่คุณหนูปาร์คยูชอนกำลังนั่งตบยุงและมาตกระกำลำบากขนาดนี้เพียงเพราะคนๆหนึ่ง จุนซูกอดหมอนแน่นและทำเป็นไม่สนใจ เค้าได้แต่นั่งบนเตียงและทำเป็นดูทีวีทั้งๆที่ตาไม่ได้มองตรงไปที่จอนั่นเลย……

                    “เดี๋ยวเค้าก็กลับไปเองครับ….อย่าไปสนใจเลย….

                    ……เอาเถอะ…..พี่ไปนอนก่อนละ….” จุนฮีเดินออกจากห้องนอนของจุนซู และทิ้งให้ร่างบางจมกับความคิดเรื่อยเปื่อย และหลังจากที่ประตูปิดลง ร่างบางก็กุลีกุจอไปแหวกผ้าม่านออกดูทันที เป็นอย่างที่จุนฮีบอกจริงๆ เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นยูชอนมานั่งตบยุงอยู่หน้าบ้านคนอื่นแบบนี้เนี่ยแหละ คงจะดูตลกดีถ้าเป็นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เค้าไม่ขำเอาซะเลย….เกือบเที่ยงคืนแล้ว แต่ยูชอนไม่คิดจะไปหาโรงแรมพักเลยหรือไงนะ….

                    จุนซูสะบัดหัวจนผมยุ่ง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน

                    ช่างเถอะ!....อย่าไปสนใจเค้าเลย….เดี๋ยวก็กลับไป….เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย เค้าจะแคร์เราขนาดนั้นทำไม?.........

                    ร่างบางหลับตาลงสักพัก เดามาผ่านไปสักประมาณเกือบชั่วโมงนึงแล้วที่เค้าพยายามข่มตาหลับและพบว่ามันไม่ได้ผลเอาซะเลย จุนซูนอนหลับไม่ได้จริงๆตราบใดที่ยังฟุ้งซ่านอยู่อย่างนี้ ในใจภาวนาให้ร่างสูงกลับไปสักที

                    ตอนนี้คงกลับไปแล้วล่ะมั้ง………..

                    กึก….กึก……ตึก…..แกร๊ก….

                 เสียงอะไรน่ะ!!! เพราะจุนซูนอนไม่หลับ เสียงที่ดังมาจากระเบียงจึงดังเป็นพิเศษในยามค่ำคืนที่ไร้ซึ่งสรรพเสียงใดๆ ร่างบางค่อยๆถดตัวให้นั่งก่อนจะกอดหมอนข้างแล้วเสมองไปที่ผ้าม่านที่ปิดประตูกระจกตรงระเบียงเอาไว้ เสียงนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ ร่างบางขนลุกอาการกลัวผีตั้งแต่ตอนเด็กๆไม่เคยหายดี เพราะยังส่งผลมาถึงตอนโตจนจะยี่สิบอยู่แล้วเนี่ยน่ะสิ แต่เพราะความอยากรู้บวกกับความคิดที่ว่าอาจจะเป็นขโมยก็ได้ ร่างบางจึงฝืนหยัดกายและค่อยๆเดินไปเปิดผ้าม่านช้าๆ

                    “เหวอออออออ!!!!! ร่างบางแทบล้มกลิ้งเมื่อเจอใบหน้าคนที่กำลังเอาแก้มแนบกับกระจกจนหน้าบี้และง้างมือเตรียมจะเคาะประตู จุนซูถอยไปนอนกลิ้งบนเตียงแล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อรู้ว่าเป็นยูชอน

                    …$#%$#^#@!@%^*= = ร่างสูงพูดอะไรบางอย่างแต่จุนซูฟังไม่ออกและไม่ได้ยิน รู้แต่ว่ายูชอนกำลังเดือดร้อนอะไรสักอย่างแล้วเหวใส่เค้าอย่างรุนแรง จุนซูอ่านปากของยูชอนได้แค่บางคำอย่างเช่น

                    เปิด?......เด็กบ้า…… เร็วๆ……..

                    เสร็จแล้วก็สบถสองสามคำก่อนจะค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าอย่างเร่งรีบ ยูชอนหยิบกระดาษกับปากกามาขีดๆเขียนๆอย่างรวดเร็วก่อนจะวางทาบบนประตูกระจก เป็นข้อความที่เขียนด้วยลายมือที่หวัดๆ

                    เด็กบ้า!....เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ยุงก็กัด..หนาวก็หนาวเร็วๆ!.....

                    แต่จุนซูไม่ได้ใส่ใจกับกระดาษแผ่นนี้เท่ากับว่ายูชอนขึ้นมาตรงระเบียงชั้นสองได้ยังไง แล้วร่างบางก็ได้คำตอบเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นบันไดที่พาดอยู่ตรงระเบียง ร่างบางถอนหายใจแล้วส่ายหัวให้กับความบ้าบิ่นและดื้อรั้นของยูชอนก่อนจะลุกขึ้นกอดอก แล้วหยิบกระดาษโน๊ตตรงโต๊ะเขียนหนังสือมาเขียนแบบไม่เร่งรีบ มือเล็กวางกระดาษทาบบนประตูเบาๆ

                    ฝันไปเถอะ!!

                 พอคิดว่ายูชอนอ่านเสร็จก็แลบลิ้นใส่ ก่อนจะปิดผ้าม่านแล้วสะบัดตูดกระโดดลงบนเตียงแล้วเอาผ้าห่มคลุมโปง ร่างบางได้แต่เอาหมอนมาอุดหูเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูรัวและเสียงสบถที่เล็ดลอดออกมาเล็กน้อย

                    “คิมจุนซู!!!!....เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!!! จะปล่อยให้ฉันตายหรือไง!!....คิมจุนซู๊!!T[]T 

                    ------------------------

                    --------------

                    ------

                    ผ่านไปสองสามชั่วโมงแล้ว แต่จุนซูก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้เมื่อตัวเองได้แต่คิดไปต่างๆนานาว่าร่างสูงผู้เย่อหยิ่งและไม่เคยตกระกำลำบากจะเป็นอย่างไรบ้าง ก็ได้แต่ภาวนาว่ายูชอนจะถอนใจแล้วกลับไปที่โรงแรมสักที แต่ถึงกระนั้นร่างบางก็ไม่สามารถทนฝืนข่นตาได้อีก จุนซูเด้งตัวขึ้นนั่งก่อนจะเปิดผ้าม่านออกช้าๆ แสงจันทร์สาดส่องเผยให้เห็นร่างสูงที่นอนคุดขู้แล้วเอาตัวอิงกับประตูกระจก เสื้อแจ็คเก็ตกลายเป็นผ้าห่มจำเป็น ร่างหนาตัวสั่นเล็กน้อยเพราะความหนาวเย็นที่โรยตัวลง แต่ทว่าดวงตายังหลับสนิท ด้วยสัญชาตญาณหรือความเป็นห่วงลึกๆภายในใจไม่รู้ ร่างบางค่อยๆเปิดหระตูอีกฝั่งก่อนจะลงไปนั่งข้างๆแล้วใช้มืออังที่หน้าฝากร่างสูงและพบว่ามันปรกติดี ร่างที่สั่นอยู่คงเพราะหนาวเท่านั้น ร่างบางเดินเข้าไปในห้องก่อนจะขนผ้าห่มมาคลุมตัวร่างสูงเอาไว้ เค้ายังหยิบเสปรย์ที่เอาไว้ฉีดตามตัวฉีดให้กับร่างสูงอีกด้วย ไม่แค่นั้นยังเอาหมอนรองหัวมาหนุนให้กับยูชอนที่หลับไม่รู้เรื่อง แต่ดูร่างสูงจะพอใจกับความสบายที่มีมากขึ้น ปากหนาอิ่มยิ้มและหลับพริ้มเมื่อร่างกายสบายขึ้นมากหลังจากที่หลังขดหลังแข็งมานาน

                    จุนซูเผลอยิ้มนิดๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องทันทีที่รู้ตัว แต่จุนซูกลับไม่ขึ้นไปนอนบนเตียงที่นุ่มสบาย ร่างบางเลือกที่จะนั่งลงตรงที่ยูชอนเอาหัวอิงกับประตูกระจก มือเล็กวางบนประตูใส และลูบมันอยู่อย่างนั้นราวกับว่าได้สัมผัสใบหน้าของร่างสูง ก่อนจะเอาหัวอิงในตำแหน่งเดียวกับหัวของร่างสูงเช่นกัน

                    น่าแปลกที่ร่างบางทำแบบนี้แล้วหลับสนิทอย่างเหลือเชื่อ….. 

                    ทั้งๆที่พื้นนั้นทั้งเย็นและแข็งกว่าเตียงนุ่มหลายเท่านัก….

                    เพราะอะไรกันนะ?...

                    ---------------------------

                    -----------

                   

                    ----------------

     

                    “เฮ้!...เมื่อคืนเธอเอาผ้าห่มมาให้ฉันสินะ?....จะดีกว่านี้ถ้าเธอให้ฉันเข้าไปนอนในห้องน่ะ…. ข้างนอกหนาวแล้วก็ยุงเยอะชะมัด แต่แปลกที่เมื่อคืนหลังจากนอนแล้วก็ไม่กัดเลยช่างเถอะ….กลับเกาหลีกันได้แล้วคิมจุนซู….” ยูชอนเดินตามร่างบางที่กำลังเดินตัดดอกไม้ในสวนดอกเดซี่ โดยที่ไม่ได้สนใจฟังร่างสูงเท่าไหร่นัก แล้วก็ไม่ตอบสิ่งที่ร่างสูงถามมาด้วย ได้แต่เดินไปเรื่อยๆ ราวกับยูชอนไม่มีตัวตนอยู่แถวนั้น

                    ………คิมจุนซู….เฮ้…..ฟังฉันบ้างสิ…..ว่าแต่นี่ดอกอะไรน่ะ……อ๊า! ให้ตาย!...” ว่าแล้วก็เด็ดมาดมสักดอกก่อนจะโยนทิ้งไปเมื่อกลิ่นดูจะฉุนเกินไปสำหรับเค้า ยูชอนเดินเข้ามาในสวนอย่างลำบากและพยายามเดินเลี่ยงดินโคลนที่เปียกเพราะการรดน้ำ เค้าเพิ่งกลับไปอาบน้ำทานเข้าที่โรงแรมและกลับมาที่นี่ ไม่มีทางซะหรอกที่จะยอมเปื้อนดินเปื้อนทรายอีกครั้ง….

                    “เธอเปลี่ยนสีผมมาเป็นสีเดิมตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?.....ก็ดีเหมือนกันนะ….มันเหมือนกับตอนที่เราเจอกันครั้งแรกเลยว่าไหม?........เฮ้!!....ใครเอาอะไรอุดปากเธอหรือไง!!!...ตอบฉันบ้างสิ! ยูชอนตะโกนเปลี่ยนเรื่องเมื่อร่างบางยังเดินไปไหลจากเค้าเรื่อยๆแถมยังไม่คิดจะตอบอะไรหรือพูดอะไรกัยเค้าสักคำ อันที่จริงตั้งแต่ที่มาที่นี่เค้ายังไม่ได้สบตากับจุนซูเลยสักครั้ง

                    เด็กอะไร! ดื้อด้านจริง!....งอนอะไรนักหนานะ!!

                    ………………………” จุนซูเอื้อมมือไปตัดดอกไม้ก่อนจะเอาใส่ตระกร้าแล้วก็เดินต่อไปอีก ถึงจะรู้สึกเหมือนมีเสียงยุงบินวู้วี่ๆอยู่ข้างๆหู แต่จุนซูก็พยายามทำเป็นหูทวนลม

                    “จุนซู!!! เก็บของเถอะ!! เราจะไปกันแล้ว!!

                    “ครับบบบบ!!” เสียงร็อบตะโกนเป็นภาษาเกาหลีแปล่งๆ ทำให้จุนซูต้องหยุดชะงัก เค้าถอดถุงมือออกก่อนจะวิ่งจ้ำอ้าวกลับเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

                    “เฮ้!! จะไปไหนกันน่ะ!!” ยูชอนร้อง ในใจร้อนรุ่มอย่างปะหลาดทั้งๆที่อากาศออกจะเย็นชื้น เมื่อเห็นร่างบางวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน แถมเหล่าครอบครัว แคร็บต่างก็พากันเก็บของขึ้นรถทั้งกรพเป๋าเดินทางและสัมภาระต่างๆที่เค้าเดาว่าน่าจะเป็นสกี

                    สกี?

                    จะไปเล่นสกีกันหรอ?...

                    แล้วเค้าล่ะ!!!....

                    “เจอาร์ขึ้นรถเร็วลูก!!.... อย่ามัวเล่นสิ เอ้า! ขึ้นไปได้แล้ว” จุนฮียึดเกมส์กดของลูกชายก่อนจะพยายามดันตัวเด็กน้อยให้ขึ้นรถ

                    “แม่!!! จุนซูอยู่ไหนจะนั่งกับจุนซู!!!” เด็กน้อยโวยวายเมื่อยังไม่เห็นวี่แววของพี่ชาย

                    “เจอาร์!!! ทำไมเรียกจุนซูฮยองแบบนั้น!! เค้าเป็นเพื่อนลูกหรอก!!?” จุนฮีเหวใส่ลูกชาย ขณะที่ยกกล่องอาหารกล่องโตขึ้นไปอย่างยากลำบาก จนสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนที่กำลังวิ่งตามจุนซูมาติดๆ ยูชอนหอบหั่ก โน้มตัวลงเอามือวางไว้บนเข่า จุนซูวางตระกร้าดอกไม้ไว้ในบ้าน ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมมาใส่แล้ววิ่งขึ้นนั่งตรงหลังรถทันที

                    “เฮ้!!! พวกคุณ!! จะไปไหนกัน ผมไปด้วย!!

                    …………………” ทุกอย่างดูเหมือนจะหยุดลงเมื่อถูกใครบางคนที่ เอิ่ม….ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรด้วย ขัดไว้ จุนฮีพ่มลมออกปากก่อนจะมองไปที่จุนซูที่กำลังขึ้นไปนั่งหน้ารถโดยที่ไม่หันไปมองยูชอนเลย

                    “แม่ฮะ!!! ลุงหัวเถิกคนนั้นเป็นใคร!!?....” เจอาร์ถือวิสาสะเรียก ทำเอายูชอนมองตาขวาง

                    “เฮ้!!! เรียกฉันว่าฮยองสิ ฮยองน่ะ! ฉันอายุน้อยกว่าแม่นายนะ!! แล้วนายว่าใครหัวเถิกห๊า!! มันเป็นโหงวเฮ้งเว้ย!! แล้วฉันก็เป็นแฟนน้าเธอด้วย!มาว่าพี่เขยนายแบบนี้ไม่ได้นะ!!” จุนซูหันขวับ! นี่น่าจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่ยูชอนมาที่นี่ ที่จุนซูยอมสบตาด้วย แต่เอ่อ….สายตาที่มองทำไมถึงขวางใส่อย่างนั้นแหละ หมาป่าอย่างยูชอนถึงกับหูตกลู่ เมื่อถูกแมวตัวใหญ่ขู่ฟ่อๆ

                    “ใครเป็นแฟนคุณไม่ทราบ!!!...อย่ามาหลอกเด็กนะ!!!” ว่าแล้วก็กอดอกหน้ามุ่ยเบือนหน้าไปอีกฝั่ง

                    “นี่!คุณ….พวกเราจะไปเล่นสกีกันในเมือง ไปนอนค้างที่รีสอร์ทแถวนั้น คุณกลับโรงแรมไปเถอะ” จุนฮีออกความเห็นก่อนที่ทั้งคู่จะทะเลาะกันมากไปกว่านี้ ก่อนจะเดินอุ้มเจอาร์แล้วขึ้นไปนั่งหน้ารถข้างๆคนขับด้วยกัน ร็อบวิ่งตามมาติดๆพร้อมกับโซ่ที่เอาไว้ใส่ล้อเวลาที่ต้องขับผ่านถนนที่เต็มไปด้วยหิมะ

                    “เฮ้!! You!! นายติดหนี้บุญคุณฉันเพราะเมียนายนะ!! เอาฉันไปด้วยสิ!!” ยูชอนหาพยายามหาข้ออ้างโดยที่ไม่ให้เค้าเสียหาย เมื่อไม่ให้ดูเหมือนกับว่าเค้าขอร้องมากเกินไป ร็อบกลั้นขำก่อนจะเอ่ย

                    “ขึ้นรถสิ….อย่าทำป่วนแล้วนะกันนะ Mr.Park” ยูชอนยิ้มร่า ยิ่งกว่าได้รับเหรียญทองจากโอลิมปิก เค้าวิ่งไปหยิบกระเป๋าเดินทางก่อนจะโยนมันขึ้นหลังรถแค็ปที่มีที่ว่างสำหรับใส่ของมากมายของร็อบ แต่จุนฮีกัยจุนซูน่ะสิ เอ๋อ รับประทานไปแล้ว นั่งอ้าปากค้าง ตะลึงกับคำพูดของร็อบ

                    “ร็อบ!!! ให้เค้าไปด้วยทำไม!!! คุณจะบ้าหรอ? เห็นใจจุนซูมั่งสิ!!!” จุนฮีตีไหล่สามีของตัวเองเต็มแรง เมื่อสามีตัวโย่งเข้ามานั่งตรงฝั่งคนขับเรียบร้อย ร็อบได้แต่ลูบไหล่ป้อยๆ จุนซูพยักหน้าเห็นด้วยแรงๆ

                    “จริงด้วย!! ร็อบ!....ไล่เค้าไปซะ ได้โปรดเถอะ!!” จุนซูเสริม

                    “ไหนเธอบอกว่าไม่รักเค้าแล้วไง เพราะงั้นฉันจะให้เค้าไปในฐานะเพื่อนใหม่ของฉัน….ถ้าเธอยังเหวใส่ฉันแบบนี้น่ะแสดงว่าเธอยังรักเค้าอยู่ใช่ไหมล่ะ? ถึงไม่อยากให้เค้าไปด้วย

                    ……………….” ทำเอาร่างบางเงียบไปเลย เมื่อถูกไม้เด็ดของร็อบพิฆาตเข้าจนได้ เอาน่าเค้าก็แค่อยากช่วยเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งซึ่งรักน้องภรรยาของเค้ามาก ถึงแม้เค้าจะดูหยิ่งยะโสนิดหน่อยก็เถอะ จุนฮีกับจุนซูได้แต่ทำท่าฮึดฮัดเพราะทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่งยูชอนขึ้นมาบนรถและนั่งข้างๆจุนซู ยิ่งทำให้ร่างบางเขยิบออกห่าง แต่ยูชอนก็ขยับให้ตัวแนบชิดกับร่างบางอยู่ดี แถมยังนั่งยิ้มแหะๆใส่ร่างบางอีก จุนซูหันไปจึ๊กปากใส่ก่อนจะทำเป็นมองนอกหน้าต่าง อารมณ์บูดยิ่งกว่าที่เคยเป็นมาตั้งแต่ที่เท้ามาเหยียบที่นี่ แต่ต่างกับอีกคนที่ยิ้มจนแก้มปริและมีความสุขมากกว่าที่เคย

                    “เขยิบออกไปนะ! ที่มีตั้งเยอะแยะ!” จุนซูพูดลอดไรฟัน พยายามกระซิบให้เบาที่สุดหลังจากที่รถเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆและจุนฮีกับเจอาร์ม่อยหลับไปแล้ว

                    “ก็อยากอยู่ใกล้ๆจุนซูอ่ะ” =[]=!! จุนซูอ้าปากเหวออีกรอบเมื่อคนแก่ตัวโตทำท่าแอ๊บแบ๊วแถมยังขยับมาชิดกับเค้าจนตัวเค้าแทบจะแบนติดประตูรถ

                    พอจะรู้ว่าหน้าด้านมาก!!! แต่ก็ไม่คิดว่าจะด้านขนาดนี้!!

                    “คุณปาร์ค-ยู-ชอน!” ค้อนใส่อีกรอบแต่ยูชอนก็ยังทำเป็นไม่สนใจทำหน้าตายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ่งทวีความน่าหมั่นไส้?จนอย่างถีบให้กระเด็น แต่จุนซูได้แต่สกัดกั้นเท้า?กับมือตัวเองไว้ไม่ให้เบิ๊ดกะโหลกร่างสูง ทำได้แค่ฮึดฮัดเท่านั้น

                    อยากจะบ้าตาย!!

                    “หยุดทำท่าแบบนั้นสักทีน่า..นี่! เธอรู้ไหมเมื่อคืนฉันนอนเกาตัวเองทั้งตัว ดูดิ! มีแต่รอยยุงกัดทั้งตัวฉันเนี่ย!” ยูชอนดึงชายเสื้อยืดจนเห็นหน้าท้องที่มีมัดกล้ามเล็กน้อยแต่พรมไปด้วยรอยแดงๆและรอยเกาเต็มไปหมด ซึ่งนั่นก็ทำให้ใบหน้าของร่างบางขึ้นสีขึ้นไม่ยาก

                    ………………………….บ้า!! คนบ้า! ปิดเดี๋ยวนี้นะ!” ร่างบางหันออกไปนอกหน้าต่างแทบจะทันที โชคดีที่ร่างสูงแอบเห็นใบหน้าหวานแดงซ่านจนถึงหู ทำให้ยูชอนอดยิ้มด้วยความสนุกไม่ได้

                    “ไม่ได้เห็นอายจนแก้มแดงแบบนี้มานานแล้ว………..น่ารักจัง….

                    !!!” ร่างบางกำลังจะหันมาเหวใส่ร่างสูงอีกรอบแต่ก็พบว่ายูชอนวางหัวลงบนไหล่ของตัวเองก่อนจะขยับคลอเคลียแล้วยิ้มแป้นหลับตาพริ้ม จุนซูพยายามดันหัวของร่างสูงออก แต่เค้าอุทานเสียงดังหรือต่อว่าร่างสูงในตอนนี้ไม่ได้เพราะอาจจะทำให้สองคนข้างหน้าตื่นแล้วก็ทำให้ร็อบต้องเสียสมาธิในการขับรถ

                    “เอาหัวออกไปนะ!! คนบ้า!....ใครอณุญาติห๊า!!” ร่างบางกระซิบ มือยังทำหน้าที่ดันแก้มของยูชอนที่ทิ้งน้ำหนักให้ซบบนไหล่เล็กต่อ แต่ดูเหมือนร่างสูงจะมีแรงมากกว่ามาก เค้าจัดการดึงมือทั้งสองข้างร่างบางไว้ด้วยมือข้างเดียวก่อนจะหลับต่อด้วยท่าทางที่เป็นสุขราวกับกำลังฝันดี

                    แน่ล่ะ….ทั้งได้ซบร่างบาง แถมยังได้จับมือนุ่มๆที่เค้าคิดถึงมานานอีกด้วย

                    กำไรสองสามต่อ ทำไมเค้าจะไม่รู้สึกดีขนาดนี้ล่ะ!.....แทบจะบรรยายไม่ถูกเลย นี่ถ้าได้กอดจะดีขนาดไหนนะ

                    “อยู่นิ่งๆน่าเมื่อคืนฉันนอนไม่ได้เลย ขอหลับหน่อยน่า”

                    ร่างบางหมดแรงต่อสู้ ได้แต่พ่นลมออกปากก่อนจะยอมเป็นหมอนจำเป็นให้กับร่างสูงแล้วนั่งนิ่งๆ กลิ่นแชมพูจากผมของยูชอนทำให้จุนซูดูเย็นลงขึ้น และยิ่งคิดถึงวันเก่าๆ ทั้งตอนที่เค้าสระผมให้ยูชอน โกนหนวดให้ หรือแม้กระทั่งขัดหลังให้……

                    เค้ากำลังจะใจอ่อนจริงๆใช่ไหม?....

                    ไม่นะจุนซู…..อย่านะ….. นายลืมไปแล้วหรอ?ว่านายมาที่นี่ทำไม?......

                    แต่ความอบอุ่นที่คิดถึงตอนนี้อยู่ตรงนี้แล้ว มือหนาที่คอยกอดเค้าไว้ก็กำลังกุมมือเค้าทำให้เค้ารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก..

                    จุนซูเผลอยิ้มนิดๆ….. และไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกมองจากกระจกที่ส่องมายังหลังรถ ร็อบยิ้มมุมปาก

                    ว่าแล้วว่าเจ้าตัวเล็กยังรักปาร์คยูชอนอยู่เต็มๆเปา…..

                    เห็นทีต้องช่วยให้สมหวังสักทีแล้วล่ะมั้ง…..

                   

                    “จุนซู!!! รอฉันด้วยสิ!! ให้ตาย!...ไอ้ไม้โง่ๆนี่มันเรียกว่าสกีหรอเนี่ย! ถ้าเป็นของฉันนะ ไม่มีทางฝืดได้ขนาดนี้หรอก!” เดินย่ำหิมะไปก็บ่นไป จุนซูยกแว่นสำหรับใส่เล่นสกีขึ้นเหนือหัวก่อนจะหันไปมองด้วยความสังเวสใจ.. เวลาอันสุขสงบของเค้าถูกทำลายด้วยคนบ้าหน้าด้านคนหนึ่ง แถมยังอวดดีอีกต่างหาก น่าจะเอาสกีโบกหัวเถิกๆนั่นให้หยุดโวสักที คิดแล้วก็ส่ายหัวแล้วเดินต่อ

                    “เฮ้!!ๆ สนใจฉันบ้างสิ!.....คิมจุนซู!!....” ยูชอนพยายามลากสกีที่เช่ามาด้วยความลำบาก ก่อนจะคิดอะไรได้แล้วก็ล้มถไลไปกับกองหิมะ ก้นกระแทกดังปัก!

                    “อ๊ากก!!!! โอ๊ยยยยยยย จุนซู!!!...ช่วยด้วยยยยย” ร่างสูงลงไปนอนกองกับพื้น พลางร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เพราะว่าไม้สกีคู่นั้นมันดูอันตรายจริงๆ จุนซูหันขวับก่อนจะลากตัวเองไปหายูชอนที่นอนกุมขาของตัวเองแน่น ใบหน้าบูดเบี้ยวบ่งบอกว่าเจ็บสุดๆ ร่างบางยิ่งหน้าเสีย

                    “คุณยูชอน!! เป็นอะไร! บอกแล้วใช่ไหมให้กลับไป!....จะ เจ็บขาหรอ?!..” ยูชอนผงกหัวแรงๆ ร่างบางดูจะเป็นห่วงเค้าจริงๆ มือที่สวมถุงมือหนาจับขาเค้าอย่างงกๆเงิ่นๆใบหน้าแสดงความเป็นกังวลชัดเจน

                    “มะเมื่อกี้ มันกระแทกกับหิน อ๊ากกก!!....โอ๊ยยยยย ตายๆ ตายแน่ๆ!” จุนซูหันซ้ายแลขวา จุนฮีกับร็อบอยู่ฝั่งนู้น แถมตอนนี้ในลานสกีก็ไม่มีใครสนใจเค้าทั้งสองคนเลย ร่างบางยกหัวของยูชอนมาวางไว้บนไหล่แล้วใช้แขนโอบตัวของเค้าไว้ ก่อนจะใช้มือนวดขาให้ร่างสูงเบาๆ สายตาเหลือบมองเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีวี่แววว่าจะมาแถวนี้สักคน ยูชอนยิ้มกริ่มเมื่อได้เห็นใบหน้าที่ดูเป็นกังวลและเป็นห่วงเค้าขนาดนี้ใกล้ๆ

                    ได้ผลจริงๆแฮะ….

                    “อะโอ๊ย!....ตรงนั้นๆ ขึ้นๆมาอีก อ่าดีๆ ดีสุดๆเลย….” จุนซูเริ่มรู้สึกแปลกๆ เมื่อมือหนาเริ่มเอามือโอบเอวของเค้า ร่างบางก้มลงมองใบหน้าร่างสูงที่ตอนนี้หลับตาเคลิ้มแล้วยังยิ้มแป้นหน้ากะล่อน

                    ………คุณยูชอน….= =

                    “ห๊า หื้อ?...อารายหรา….” ยังไม่รู้ตัวอีก….= =

                    “คุณโกหกผมใช่ไหม…..” ร่างบางพูดเสร็จก็ปล่อยหัวร่างสูงให้กระแทกหิมะอีกครั้งก่อนจะลากตัวเองไปกับสกีโดยไม่สนใจร่างสูงที่ร่างโอดโอยอยู่ข้างหลัง

                    “อั่ก!!! คิมจุนซู!!! เธอจะฆ่าฉันหรอ!!! เจ้าเด็กบ้า! กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!.... โอ๊ยยยยย ฉันเจ็บๆจริงๆนะคิมจุนซู…..กลับมาก่อนนนนนนนน” คราวนี้เจ็บจริงๆเพราะหัวกระแทกพื้นอย่างแรง ร่างบางเดินกระทืบเท้าหนีด้วยความโกรธ ใบหน้าหวานตอนนี้มุ่ยจนเห็นได้ชัด

                    “คุณกล้าเอาเรื่องแบบนี้มาเล่นได้ไง!!!!...บ้า…..คนบ้า!!! กลับเกาหลีไปเลยไป้!! หัวเถิก!!!

                    แปะ!

                    ว่าไม่ว่าเปล่า ขว้างหิมะก้อนใหญ่ใส่หน้าร่างสูง ยูชอนได้แต่ยืนอึ้ง ปล่อยให้หิมะค่อยๆร่วงออกจากหน้าเค้าช้าๆ

                    เถิก………….

                    T____________________T เป็นเพราะเจ้าเด็กบ้านั่นแท้ๆ….

     

                    -------------------------------------------

     

     

     

                    --------------------

     

                    “อะไรนะ!!!! เจอาร์หายไป!!” ร่างบางถึงกับต้องอุทานออกมาดังๆ ร็อบดูมีสติกว่าใครเพื่อนต่างจากจุนฮีที่เป็นลมล้มพับอยู่ในอ้อมกอดของสามีเรียบร้อย ชายตัวโย่งเอายาดมมาอังไว้ตรงจมูกของจุนฮี ถึงจะพอมีสติแต่สีหน้าที่ดูเป็นกังวลไม่สามารถหลบซ่อนสายตาของร่างบางได้

                    “จุนซู!!! จะไปไหนน่ะ!!!” ร่างเล็กวิ่งออกไปแล้วคว้าสกีของตัวเองอย่างรวดเร็ว โดยไม่หันมามองคนทั้งคู่เลย ร็อบพยายามจะลุกไปห้ามแต่เพราะกำลังโอบร่างของจุนฮีทำให้ได้แต่ตะโกนบอกให้เจ้าหน้าที่เร่งตามจุนซูออกไป

                    “เจอาร์!!!! นายอยู่ไหนน่ะ!!! เจอาร์!!” ร่างบางตะเบงสุดเสียง แต่ก็ไร้วี่แววว่าจะมีใครตอบกลับ

                    ตอนนี้ในลานสกีแทบไม่มีคนแล้ว เพราะในเวลากลางดึกและอากาศที่หนาวเย็นจนติดลบ บวกกับพายุที่กำลังเข้ามาในเวลานี้ ยิ่งทำให้ลานสกีในตอนนี้ดูจะอันตรายมากพอควร เจ้าหน้าที่ต่างเร่งค้นหาพร้อมๆกับจุนซูที่ใช้สกีอย่างคล่องแคล่วลื่นถไลไปตามทางหิมะที่ปกคลุมหนาเป็นพิเศษ อากาศเริ่มหนาวเย็นกว่าเดิมจนเสื้อกันหนาวที่ใส่ในตอนนี้ดูจะไม่พอสำหรับร่างบาง แต่จุนซูไม่ได้สนใจอะไรมากนักยกเว้นการตามหาหลานชายคนเดียวของเค้า

                    ยิ่งเวลาผ่านไปร่างกายก็ยิ่งล้า อาการหอบฮักในตอนนี้เห็นได้ชัดเจนจากไอเย็นที่ออกจากริมฝีปากอิ่มซีด ร่างบางเริ่มกระสับกระส่ายและมีน้ำตาคลอเล็กน้อย

                    “เจอาร์!!.....ฮึก…..คิมแจฮวา!!!” จุนซูเอ่ยร้องชื่อเกาหลีของเจอาร์ด้วยความเหนื่อยหอบ

                    คิมแจฮวา…. นายอยู่ไหนนะ!....

                    ---------------------------------

                    ------------------

     

                    ยูชอนเพิ่งจะกลับมายังล็อบบี้ของรีสอร์ท หลังจากที่เค้าไปหากาแฟดื่มจากร้านกาแฟชั้นดีของที่นี่ แล้วก็ต้องแลปกใจว่ากลางดึกเกือบเที่ยงคืนแบบนี้แต่คนก็ยังพลุกพล่าน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทที่ดูจะวุ่นวายเป็นพิเศษ ร่างสูงชะเง้อหน้าดูเมื่อเห็นเหมือนใครบางคนถูกอุ้มขึ้นมา และเมื่อชายที่กำลังอุ้มร่างนั้นหันมาทางเค้า ยูชอนก็เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นจุนฮีที่หลับไหลอยู่ในอ้อมกอด

                    “เฮ้!! คิมจุนฮีเป็นอะไร?” ร็อบขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม เค้าไม่รู้จะพูดยังไงดี

                    Daddy!!! ฮือออออๆๆๆๆ ผมจะไปหาจุนซู!!” เจอาร์ที่หลบอยู่ด้านหลังของร่างสูงโย่งของร็อบเดินมาดึงชายเสื้อของร่างสูงเบาๆ ใบหน้าเล็กๆอาบไปด้วยน้ำตาและหน้าขึ้นสีแดงจัดเพราะความหนาวเย็น ร็อบมองไปทางเจอาร์ที ยูชอนที จนร่างสูงเริ่มสงสัย

                    “เกิดอะไรขึ้น?....แล้วคิมจุนซูไปไหน?”

                    “ใจเย็นๆนะ…..ปาร์คยูชอน…..เอ่อ เมื่อกี้เจอาร์ของเราหายไป แล้วจุนซูก็ออกไปตามหาในลานสกี ตอนนี้เจ้าหน้าที่เจอตัวเจอาร์และพากลับมาแล้วแต่……. แต่จุนซูยังไม่กลับมา….

                    “อะไรนะ!!? แล้วคุณทำไมไม่ห้าม!! ตาโตที่สุดเท่าที่จะโตได้ ยูชอนถึงกับปวดหัวกับการตัดสินใจที่หุนหันพลันแล่นของร่างบางโดยที่ไม่ได้เป็นห่วงตัวเองเลย

                    “เค้าไม่ฟังฉันเลย………. เฮ้!!!! ปาร์คยูชอน!!!” ทันทีที่พูดจบ ยูชอนก็วิ่งไปคว้าสกีของตัวเองแล้วออกไปจากล็อบบี้ทันที ร็อบส่ายหัวให้กับตัวเองเมื่อเค้าทำอะไรไม่ได้นอกจากรีบวิ่งพาจุนฮีขึ้นไปนอนบนห้องกับเจอาร์ ก่อนจะรีบตามยูชอนออกไปเช่นกัน

                    -----------------------------

                    “คิมจุนซู!!!! คิมจุนซู!!” ยูชอนตะโกนเรียกร่างบางท่ามกลางอากาศหนาวเย็นที่เริ่มเย็นจัดจนมือเค้าแทบชา ยิ่งยูชอนรู้สึกหนาวและตัวสั่นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นห่วงว่าร่างเล็กๆแบบนั้นจะทนความหนาวแบบนี้ได้หรอ?... เค้ารู้สึกอยากจะจับจุนซูมาตีก้มสักยี่สิบทีจริงๆ

                    ลมเริ่มพัดเข้ามารุนแรงขึ้น และเริ่มมีหิมะตกโปรยปราย ยูชอนสไลด์ตัวเองไปตรงไหล่ทางที่อยู่ใต้ลมเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะถอดแว่นออกแล้วปามันลงพื้นด้วยอารมณ์ ใจตกไปที่ตาตุ่มเมื่อมองไปตามทางแล้วมีแต่พายุพัดลมโกรกมาจนแทบไม่เห็นทาง ยูชอนเดินวนไปมาอยู่แถวนั้นก่อนจะตะเบงเสียงด้วยความโกรธ

                    “โธ่ เว้ย!!!คิมจุนซู!!!!!!!!!!!!!!!” ร่างสูงล้มตัวลงนั่งด้วยความเหนื่อยอ่อน น้ำตาค่อยๆไหลจากหาง มือที่สั่นเทาไม่รู้ว่าเพราะความหนาวจากอากาศภายนอกหรือเป็นเพราะความหวาดกลัว

                    กลัวว่าจะสูญเสีย….

                    กลัวจะเสียจุนซูไปจริงๆ…………..

                    มันยากที่จะให้อภัยแม้แต่ตัวเอง ร่างสูงได้แต่ทุบกำปั้นลงบนทะเลหิมะหลายๆครั้งด้วยความเจ็บใจที่เค้าทำอะไรไม่ได้เลย…..

                    แต่แล้วยูชอนก็ต้องเอะใจกับสีฟ้าสดใสกลางทะเลหิมะที่ไกลจากเค้าอยู่พอดู คล้ายสีเสื้อผ้าที่โผล่พ้นจากกองหิมะหนาเล็กน้อย ขาที่ชาจนแทบขยับไม่ได้ในนาทีนี้วิ่งเข้าหาสิ่งที่เป็นปริศนานั้นอย่างรวดเร็ว รองเท้าหนังโผล่พ้นกองหิมะยิ่งทำให้เค้ามั่นใจว่าเป็นคนแน่ๆ มือหนาไม่รอช้ารีบปัดหิมะที่ปกคลุมตัวของใครบางคนออก

                    “จุนซู!!!.....คิมจุนซู!!” เมื่อได้เห็นใบหน้าของบุคคลปริศนาชัดเจน ยูชอนช้อนร่างที่หลับนิ่งไม่ไหวติ่งขึ้น ร่างสูงแทบจะห้ามตัวเองไม่ให้ร่ำไห้และร้องครวญไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวและอ่อนแรงของร่างบาง มือหนาตบข้างแก้มของร่างบางเบาๆให้รู้สติ ไม่นานนักเปลือกตาที่หนักอึ้งของร่างบางจึงค่อยๆเปิดขึ้นมองภาพอันเลือนรางตรงหน้า และค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

                    ปาร์ค..ยูชอน….

                    “ยูยูชอน……

                    “ใช่!....ฉันเองจุนซู….. จุนซู…….อา…. เด็กโง่!...อย่าทำแบบนี้อีกนะ!....เธออยากเห็นฉันตายหรือไง?...

                    …………..เจ……..เจอาร์?…….. ริมฝีปากซีดและแห้งจนแตกระแหงเอ่ยออกมาด้วยความยากลำบาก ไอจากปากบอกให้รู้ว่าร่างบางนอนสลบอยู่ที่นี่นานพอควร

                    “เด็กคนนั้นปลอดภัยแล้ว อยู่ที่รีสอร์ทเธอนั่นแหละ….ห่วงตัวเองก่อนเถอะ!” ยูชอนกล่าวตำหนิร่างบางเล็กน้อยที่หุนหันพลันแล่น ออกมาตามหาเจอาร์คนเดียวแบบนี้ ทั้งยังเอาแต่ห่วงคนอื่นโดยไม่ได้ดูตัวเองบ้างเลย เค้าไม่รู้ว่าร่างบางเป็นลมสลบอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ไม่ว่าจะเป็นเพราะแรงพายุหรืออะไรก็ตาม แต่ตอนนี้เค้าต้องพาร่างบางออกไปจากตรงนี้และหาที่อุ่นๆก่อน

                    “ดี….ดีจังเลย…….

                    “เราต้องหาที่หลบพายุ…..จุนซูอย่าหลับนะ….ห้ามหลับเด็ดขาดนะ….” ร่างบางพยักหน้าตอบรับช้าๆ ยูชอนไม่รอช้ารีบอุ้มร่างบางชึ้นก่อนจะเดินหนีพายุลงตรงไหล่ทางที่เป็นทางชันลงไปในป่าสนเล็กๆ ที่นั่นสงบและปลอดพายุ ไม่นานนักหิมะก็หยุดตก ร่างสูงยิ้มเล็กน้อยและยิ้มกว้างขึ้นอีกเมื่อเห็นสิ่งที่คล้ายกับบ้านหลังเล็กๆ ไม่ไกลจากพวกเค้านัก นั่นเป็นเรื่องดีทีเดียวสำหรับตอนนี้ เพราะเค้ากับจุนซูรอนแรมมาไกลพอดูจนแขนที่อุ้มร่างบางเอาไว้เริ่มอ่อนล้า

                    “จุนซู!!....เรารอดแล้ว!....นั่นบ้านคน!!” เพราะมัวแต่ดีใจจนไม่ได้สังเกตว่าร่างบางไม่แม้แต่พยักหน้าหรือตอบรับใดๆ นอกจากทิ้งน้ำหนักหัวมนลงบนไหล่ของร่างสูงและซ่อนใบหน้าที่ซีดเซียวไว้ตรงอกหนา

                    น่าผิดหวังนิดหน่อยที่บ้านหลังนี้ไม่มีไฟฟ้าเลยมีเพียงผ้าปูโต๊ะสองสามผืนวางเรี่ยราดบนพื้น กับเตาผิงเก่าๆเท่านั้น แต่นั่นนับว่าโชคดีที่สุดแล้วที่มีสถานที่ที่อุ่นพอและเป็นเกราะกำบังลมพายุที่เริ่มอ่อนตัวลงได้บ้าง ยูชอนวางร่างบางลงข้างๆเตาผิงก่อนจะหยิบไฟแช็คที่พกติดตัวตลอดเวลาที่เค้าสูบบุหรี่สักสองสามมวน เพราะเศษไม้ที่ไม่มากนักจนติดไฟไม่มาก แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย แสงไฟอุ่นวาบและสะท้อนให้เห็นร่างบางที่นอนไร้สติเป็นอย่างดี ยูชอนหันหลังไปยิ้มยินดีกับจุนซูที่ทั้งคู่ได้เจอบ้านที่เป็นที่พักในยามวิกฤตเช่นนี้ได้ แต่ก็ต้องพูดไม่ออกเมื่อร่างบางนิ่งเงียบและมีใบหน้าที่ซีดลงกว่าเดิม เหงื่อเริ่มซึมออกจากขมับทั้งๆที่อากาศเย็นชื้น ยูชอนรีบเอามืออังแก้มร่างบางเอาไว้และพบว่ามันร้อนพอๆกับเหล็กลนไฟ….

                    “จุนซูจุนซู……..คิมจุนซู………ตื่นสิได้โปรด” ยูชอนช้อนร่างบางให้นั่งอิงตัวเค้าเอาไว้ ก่อนจะถอดเสื้อกันหนาวของตัวเองห่มให้ร่างบางอีกชั้นนึง ยังไม่พอ เค้าหยิบผ้าที่กองอยู่ตรงพื้นมาหุ้มร่างบางอีกครั้ง ใบหน้าขาวซีดแนบกับซอกคอของร่างสูงยิ่งทำให้ยูชอนรับรู้ได้ว่าร่างของร่างบางตอนนี้ร้อนชนาดไหน

                    …………อึก…………..” ยูชอนกลั้นเสียงสะอึกสะอื้นไว้ในลำคอ แล้วปล่อยให้น้ำตามากมายไหลลงมาเรื่อยๆ

                    เค้ารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอ้งั่งที่ทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่จะปกป้องคนที่ตัวเองรัก เค้ายังทำได้แค่นี้เอง….. ช่างน่าสมเพสและน่าหัวเราะ คนอย่างเค้าจุนซูคิดที่จะลืมก็ไม่แปลก….เค้ามันแย่และใช้ไม่ได้…. จุนซูไม่น่าจะมาจมปลักอยู่กับเค้า…..แต่เค้าขาดร่างบางไม่ได้จริงๆ….วันคืนที่ห่างจากจุนซูไปมันทรมานยิ่งกว่าต้องอดเหล้าหรือบุหรี่ การมาที่นี่ได้เจอร่างบางและได้อยู่ใกล้ชิดถึงแม้จะลำบากและยากเย็นแค่ไหนเค้าก็ยอม…..

                    ทำไมก่อนหน้านี้เค้าไม่ดีกับจุนซูมากกว่านี้นะ

                    คนที่โง่ที่สุดไม่ใช่คิมจุนซูที่มาหลงรักเค้าเพียงเพราะการหลอกล่อของเค้า………

                    คนที่โง่ที่สุดคือปาร์คยูชอนที่ไม่เคยเห็นค่าของคนที่ตัวเองรักเลยต่างหาก………………

     

                    ปาร์คยูชอนเป็นคนโง่ที่สุดในโลก

         “คิมจุนซู…..จุนซู………….ยูชอนรักจุนซูนะ……..ตื่นมาฟังฉันหน่อยสิ…. ได้โปรดหยุดแกล้งฉันสักที….ฉันจะบ้าตายอยู่แล้วนะ……….จุนซู………” ยูชอนโอบรัดร่างบางแน่นขึ้นกว่าเดิม น้ำใสอุ่นๆที่หยดลงบนเปลือกตาที่ปิดสนิทของร่างบาง ทำให้ดวงตาคู่สวยขยับเล็กน้อย

    …….

                

                    “ยู………ชอน…………………….” จุนซูยกเปลือกตาของตัวเองด้วยความยากลำบาก ระหว่างที่เผลอหลับไปคล้ายกับได้ยินเสียงเรียกจากร่างสูง ยูชอนมองใบหน้าของร่างบาง ถึงกระนั้นก็ยังหยุดให้น้ำตาหยุดไหลไม่ได้

                    …………..จุนซู………

                    …..เมื่อกี้………คุณพูด…..อะไรนะครับ?...........

                    “ฉันบอกว่าฉันรักเธอไง……..ไม่ได้ยินหรอ?.....หื๊อ?...” น้ำตาค่อยเอ่อล้นดวงตาจนไหลออกจากหางตาหยีของร่างบาง เป็นคำพูดที่ไม่เคยคาดหวังและไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนๆนี้อีกครั้ง ราวกับเป็นแค่ความฝันที่เค้าไม่เคยนึกถึงเลยว่าจะเป็นจริง ยูชอนกลืนน้ำลายก่อนจะกัดริมฝีปากแล้วตัดสินใจบอกในสิ่งที่เก็บไว้มานานแสนนานเป็นครั้งแรก

                    “ฉันไม่เคยบอกว่ารักเธอเลย…………ครั้งแรกที่ฉันบอกว่ารักเธอมันเป็นคำโกหก….แต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องจริง….เป็นเรื่องจริงนะจุนซูฉันรักเธอ……ฉันรักเธอ……ฉันรักเธอจนจะบ้าตายอยู่แล้ว…….

                    ……………………….” ร่างบางได้แต่มุดหัวเข้ากับไหล่ของยูชอนแล้วร้องไห้อยู่อย่างนั้น ปากเล็กสั่นเทาอย่างห้ามไม่ได้ ยูชอนวางมือไว้ที่แก้มอุ่นก่อนจะลูบเช็ดน้ำตาออกด้วยความอ่อนโยน

                    “แต่เธอ……………..เธอยังรักฉันอยู่หรือเปล่า?..........

                    ……………..” จุนซูเงียบไปนานพอควรเพราะได้แต่ร้องไห้ในอ้อมกอดของร่างสูง ดวงตาที่เอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตาจ้องมองไปในดวงตาที่ไร้คำโป้ปดของยูชอน มันยากที่จะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงกับสิ่งที่เค้าเพิ่งได้ยินจากปากของคนตรงหน้า แต่จุนซูก็อยากจะเชื่ออีกครั้ง……… อยากจะเชื่อยูชอนอีกสักหน……

                    …………. ………. …. …..” เพราะเสียงเกือบจะหมดอยู่แล้ว การที่พยายามพูดอะไรออกไปตอนนี้จึงยากมากสำหรับจุนซู เสียงขาดหายทั้งยังอู้อี้อยู่ในลำคอทำให้ยูชอนก็เงี่ยหูฟังอีกครั้ง

                    “ยัง….ยังไม่รู้อีกหรอครับ?........” สิ้นคำสุดท้าย ยูชอนจึงหันไปมองดวงตาที่จ้องเค้านิ่งอีกครั้ง คราวนี้จุนซูมองเค้าด้วยสายตาที่อ่อนโยนและรักใคร่เหมือนแต่ก่อน เหมือนกับครั้งแรกที่เค้าได้เจอกัน…. เหมือนเดจาวูที่ทำให้เค้าเหมือนย้อนกลับไปในครั้งนั้น…. ทั้งมีความสุขและวิเศษสุดๆโดยที่เค้าไม่รู้ตัว……

                    …………..อึก” ยูชอนกลั้นน้ำตาที่ไหลราวกับเขื่อนทะลักไว้ไม่อยู่ ได้แต่กัดปากแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา จุนซูยกมือขึ้นเช็ดน้ำตานั้นอย่างแผ่วเบา ร่างสูงกุมมือร่างบางไว้ราวกับว่าจุนซูจะหนีจากเค้าไปไหน

                    ……………..ผมรักยูชอนนะ….ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ………จนถึงวันนี้……ไม่มีวันไหนที่……ผมไม่คิดถึงคุณเลย….” ทั้งสองโผเข้ากอดกันแน่นจนแทบจะลืมความหนาวเย็นที่เริ่มโรยตัวหนักขึ้นในค่ำคืนนี้ คำสารภาพที่ผ่านการโป้ปดมามากมายนับไม่ถ้วนพรั่งพรูมาจากปากของทั้งสองคนจนหมดสิ้น

                    “ฉันขอโทษ….ขอโทษนะจุนซู…….ขอโทษที่รู้ตัวช้าไป………ตอนที่เธอหนีมาฉันแทบจะเป็นบ้า…..ยิ่งเธอมาหายไปอีก……….. ฉันคิดไม่ออกเลยว่าถ้าขาดเธอไปจะเป็นยังไง…..เพราะฉันไม่เคยนึกถึงวันเหล่านั้นเลยฉันคิดเสมอว่าไม่ว่ายังไงฉันก็มีเธอ………………..ต่อไปนี้ถ้าเธออยากได้อะไร….อยากให้ฉันทำอะไร…..ฉันจะทำหมดทุกอย่าง…..ฉันยอมแล้ว…..ฉันยอมหมดทุกอย่างเลย……….ฮึก…..แค่ขอให้มีเธอ…..คิมจุนซู…………………………………….จุนซู……..จุนซู!!!!!!!!!!!!” เสียงร้องเรียกของยูชอนดังลั่นบ้านเมื่อร่างที่เค้าโอบกอดในตอนนี้หมดสติไปต่อหน้า ใบหน้าขาวซีดทิ้งน้ำหนักไว้บนไหล่หนา ไม่มีวี่แววที่จะตอบรับคำใดๆจากร่างสูง ยูชอนได้แต่เขย่าตัวร่างบางแรงๆก่อนที่จะโอบกอดร่างที่ไร้สติแล้วร้องไห้อย่างบ้าคลั่งเท่าที่จะทำได้

                    “เฮ้!!! มีคนอยู่ไหนครับบบบ!!  

                    !!!??” ยูชอนหันควับ เสียงดังจากนอกบ้าน พร้อมกับเสียงรถจอดประมาณสองสามคัน ร่างสูงโอบร่างที่หลับสนิทไว้แน่น

                    “ช่วยด้วยครับ!!! มีคนป่วย!! พวกเราอยู่ทางนี้!!” เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนมีแสงจากไฟฉายสาดเข้ามา ยูชอนหรี่ตาลง เจ้าหน้าที่ประมาณห้าหกคนต่างกรูเข้ามาหาเค้าและพาจุนซูขึ้นเปลอย่างรวดเร็ว

                    “เฮ้!!! คุณ!!

                    เหมือนปลั๊กที่ถูกดึงออกกะทันหัน ทุกอย่างมืดสนิทและเงียบสงัด……

                    ยูชอนได้แค่เข้าข้างตัวเองว่านี่คงเป็นฝันที่ประหลาดและน่ากลัวที่สุดเท่าที่เค้าเคยเจอมาก็ได้…..

     

                    ------------------------------

                    ---------------

                    -------

                    เปลือกตาถูกรั้งขึ้นมาอย่างช้าๆ หลังจากที่ได้พักผ่อนมายาวนาน แต่ก็ต้องหรี่ตาลงเมื่อแสงจากหลอดไฟแยงตา ทำให้ต้องหันหน้าไปด้านข้างและพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงขาวสะอาด มีโซฟาสีเขียวอยู่ด้านข้าง แจกันดอกไม้บนโต๊ะและสายน้ำเกลือที่ห้อยจากแขนของเค้า ยูชอนมองไอน้ำที่ออกจากเครื่องทำไอน้ำ ก่อนจะค่อยๆยันตัวเองให้ลุกขึ้นจนแน่ใจว่าที่นี่คือโรงพยาบาล

                    “จุนซู……” สิ่งแรกที่คิดถึงตอนนี้คือคนตัวเล็กที่สลบไปในอ้อมแขนของเค้า ตอนนี้จุนซูอยู่ที่ไหน…. ยูชอนหย่อนขาลงอย่างรวดเร็วก่อนจะดึงสายน้ำเกลือออกโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นยังไง เค้ามั่นใจว่าเค้าหายดีเพราะนอกจากจะไม่ได้เจ็บตรงไหนแล้วเค้ายังรู้สึกสดชื่นขึ้นมากเมื่อได้หลับเป็นเวลายาวนาน ร่างสูงเดินไปสอบถามพยาบาลที่อยู่ตรงประชาสัมพันธ์ก่อนจะจดจำเลขที่ห้องของจุนซูแล้วเดินหาห้องนั้นเร็วๆ

                    ประตูถูกเปิดออกช้าๆ ยูชอนดันลูกบิดให้ประตูปิดก่อนจะหันไปมองร่างที่เค้าเฝ้าคิดถึงมานาน และพบว่ามีบางอย่างแปลกไป

                    ในนั้นมีจุนฮีกับร็อบยืนบังร่างเล็กของจุนซูอยู่ แผ่นหลังของจุนฮีสั่นเทาเล็กน้อยทำให้ร็อบต้องโอบไหล่เป็นการปลอบ ยูชอนเอียงคอด้วยความสงสัยจึงค่อยๆเดินเข้าไปให้ใกล้กว่านี้ จุนฮีหันหลังตามเสียงฝีเท้า แล้วยิ่งร้องไห้หนักเมื่อเห็นยูชอนเดินเข้ามาใกล้ๆ ร็อบเองก็ส่ายหน้าและปาดน้ำตาออก ยิ่งทำให้ยูชอนทวีความสงสัยเข้าไปอีก แต่ทุกอย่างก็เปิดเผยขึ้นเมื่อทั้งสองเดินออกมาแล้วปล่อยให้ยูชอนเดินเข้าไปเห็นชัดๆ

                    ผ้าห่มสีขาวสะอาดดึงรั้งมาจนปิดใบหน้าของร่างบาง….

                    หมายความว่ายังไง……

                    “ยูชอน….ฮือออออออๆๆๆๆ…..ยูชอน……จุนซู…..จุนซู….ฮือๆๆๆๆๆ” ร็อบโอบร่างที่สั่นเทาด้วยแรงสะอื้นแน่น จุนฮีซบใบหน้าที่เปื้อนหยาดน้ำตาเข้าที่อกแกร่งของร็อบ แต่ยูชอนตอนนี้กำลังอึ้ง….และพูดอะไรไม่ออก….ขาที่เริ่มไม่มีเรี่ยวแรงพยายามลากให้เข้าไปหาร่างที่หลับสนิทตรงหน้าใกล้ๆ

                    “ไม่จริง…………….ก็…………………..วันนั้น……………………………เรายัง………………………………

                    “จุนซูเพิ่งไปเมื่อกี้นี้…………เค้ายังบอกว่า………..ฝากบอกคุณทีว่าเค้ารักคุณมาก….แล้วก็จะรักตลอดไป..” ร็อบเอ่ยทั้งๆที่ดวงตายังคลอเอ่อด้วยหยาดน้ำตา จมูกที่แดงอยู่แล้วยิ่งแดงเรื่อไปอีกเมื่อเค้าพยายามที่จะกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเอง

                    “เค้ารอเธอ…..จนวินาทีสุดท้าย…… แต่เธอมาช้าไปยูชอน…..ฮึก……เธอมาช้าไปจริงๆ…..” จุนฮีเอ่ยและมองยูชอนด้วยสายตาที่โกรธเคืองเล็กน้อย คำพูดที่แฝงไปด้วยความนัยบางอย่างที่ไม่ได้หมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้อย่างเดียวซึ่งยูชอนรู้ดี….

                    เค้ารู้ตัวช้าไป………….

                    ยูชอนได้แต่ยืนนิ่ง…. เค้าคิดอะไรไม่ออกเหมือนในสมองมีแต่ภาพสีขาวโพลน ไม่แม้แต่จะยกขึ้นเช็ดทั้งน้ำตาทั้งเหงื่อที่ไหลโชกในตอนนี้ แต่แล้วมือเรียวสวยก็ค่อยๆยกมือเล็กที่ซ่อนอยู่ในผ้าขาว

                    มือยังอุ่นอยู่เลย…..

                   “ไม่…..ไม่จริง……..ไม่จริง……….ม่ายยยย!!!!! จุนซู!!!!!!! จุนซู!!!!.......อย่าไปนะ!!! ฮือออออออออ!!!ฉันขอโทษ!!!ฉันผิดไปแล้วฉันรักเธอนะ……ยูชอนรักจุนซูนะ…..ตื่นมาเถอะได้โปรด……ฮืออออออออ” 
        
     


       
    -----------------------------------------------------------------------------       
    f

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×