ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yaoi] Conceal Secret (YunJae,MicXiah)

    ลำดับตอนที่ #16 : เหตุผลของทุกสิ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 55


    ------------------------------

                   --------------

                   หนึ่งอาทิตย์ต่อมา…….

                   “ยุนโฮจัดการเรื่องงานศพของพ่อแม่เธอทั้งหมด…. ระหว่างที่เธอนอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาล” ยูชอนพาแจจุงออกมานั่งคุยกันบนดาดฟ้าในยามเย็นของวันที่มีอากาศเย็นสบาย แจจุงเป็นคนรบเร้าให้ยูชอนเล่าเรื่องทั้งหมดเอง และร่างสูงก็เอ่ยปากเล่าด้วยความเต็มใจ

                   “หมอนั่นรอเธอฟื้นขึ้นมาจะสารภาพทุกอย่างให้เธอฟังหลังจากที่เธอฟื้น…. แต่พอเธอฟื้นขึ้นมา….เธอกลับจำอะไรไม่ได้สักอย่าง เค้าจึงไม่ได้บอกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับครอบครัวของเธอ…..แต่แค่บอกว่าเค้าเป็นแค่คนที่รับเลี้ยงเธอเท่านั้น….

                   ……………………ครับผมจำได้…..” แจจุงยิ้มบางๆให้กับยูชอน

                   “ยุนโฮรู้สึกผิดแต่มันไม่เคยบอกอะไรฉันหรอก…. แต่วันนั้นฉันชวนมันกินเหล้า แล้วก็แอบมอมเหล้ามันนิดหน่อย………เฮ้….อย่ามองฉันแบบนั้นสิ…….ฉันก็แค่อยากให้มันระบายเรื่องเครียดๆพวกนั้นออกมาสักทีแค่นั้นเอง….เธอก็รู้ว่าคนอย่างยุนโฮไม่เอาความทุกข์มาเล่าให้คนอื่นฟังหรอก…..หมอนั่นจะเก็บไว้คนเดียว…….

                   ……………….ครับ ผมทราบดี” ยูชอนยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม ก่อนจะเอ่ยต่อ

                   “มันบอกฉันว่า……มันเป็นคนผิด….ถ้ามันไม่หุนหันขับรถออกไปวันนั้น..คุณนายจองก็คงไม่ขับรถชนพวกเธอเข้ามันบอกว่ามันไม่สามารถยิ้มได้อย่างมีความสุขหรือมีชีวิตอย่างมีความสุขได้หรอก ตราบใดที่เธอยังเป็นแบบนั้น….มันบอกว่าไม่มีอะไรยุติธรรมกับเธอเลย….บางที เค้าน่าจะตายๆไปซะ……..ฮะๆฉันยังจำได้เลย วันนั้นฉันเป็นคนที่ไม่เมาก็เลยตบหัวมันแรงๆทีนึงโทษฐานที่มันปากเสีย…. แล้วจู่ๆมันก็พูดต่อว่า……เด็กคนนั้นมันจะดูแลให้ดีที่สุด….ให้เข้าโรงเรียนที่ดีที่สุด….. ให้ทานอาหารที่ดีที่สุด…. แม้แต่อากาศที่อยู่รอบๆตัวเธอก็ต้องดีที่สุด……หรือแม้แต่เท้าของเธอ เค้าก็จะไม่ให้เปื้อนดินเลยสักครั้ง…..

                   นั่นทำให้แจจุงนึกถึงตอนที่อยู่บ้านเก่าติดทะเลของเค้าขึ้นมา ยุนโฮล้างเท้าของเค้าราวกับเค้าเป็นเจ้าหญิงแถมยังให้เค้าใส่รองเท้าของร่างสูงแทน โดยที่ตัวเองเดินเท้าเปล่าออกไป

                   ……เท้าฉันน่ะ…. เปื้อนได้….. แต่เท้าของเธอ…. ฉันจะไม่ให้เปื้อนเด็ดขาด”

                เป็นประโยคสั้นๆที่ไม่ได้ทำให้แจจุงเอะใจสักนิดว่าร่างสูงหมายถึงอะไร……                      

                   เหมือนกับที่เค้าปกป้องแม่ของเค้าด้วยการเอาตัวเองเป็นคนรับผิดแทน….. เค้าเองแปดเปื้อนได้ แต่คนที่เค้ารักเค้าจะไม่ยอมให้แปดเปื้อนเป็นอันขาด…..

                   แจจุงคิดเข้าข้างตัวเองว่ายุนโฮหมายถึงเค้าด้วย……

                   “หมอนั่นเคยบอกอีกว่า…….ถ้าแจจุงอยากจะฆ่าเค้าเมื่อไหร่….เค้าก็ยินดี…..แต่ขอให้เค้าสร้างทุกอย่างไว้ให้เธอทั้งหมดก่อน….

                   “สร้างทุกอย่าง?...หมายความว่าไงครับ?” แจจุงขมวดคิ้วเมื่อเค้ายังมีเรื่องที่ยังไม่รู้อีก

                   “ความจริงตระกูลจองมีบริษัทในเครือมากมายแถมยังเป็นเจ้าของอหังสาริมทรัพย์ทั่วทั้งเกาหลี แต่บริษัทที่เพิ่งสร้างใหม่เมื่อเกือบเจ็ดปีก่อนคือ J.E.M…..เธอไม่คิดหรอว่า J ย่อมาจากอะไร?.....

                    “ก็…..ต้องเป็น จอง สิครับ” ยูชอนหัวเราะ แต่แจจุงกลับไม่รู้สึกว่ามันน่าขันตรงไหน

                    “ใช่ไหมล่ะ….ใครๆก็ต้องคิดแบบนั้น……แต่ตอนที่หมอนั่นเมามันก็บอกฉันหมดเปลือกเลย…..ว่าบริษัทนั่น เค้าสร้างมาให้เธอ ห้าง J.E.M มันเป็นของเธอตั้งแต่ที่เธอฟื้นขึ้นมาแล้วนะ ตัว J น่ะ……ยังไม่รู้อีกหรอว่าย่อมาจากอะไร….

                   ราวกับมีใครเอาไม้มาฟาดที่กลางหลัง ร่างบางได้แต่ อึ้ง อึ้งแล้วก็อึ้ง กับความจริงที่พลั่งพรูออกมา เป็นสิ่งที่เค้าไม่รู้เลยไม่เคยรู้เลย…..

                    แจจุงพยักหน้าเบาๆ แล้วปาดน้ำตาทิ้ง เมื่อตัวเองเพิ่งรู้สึกตัวว่ามันไหลอีกแล้ว….

                    “เธออาจจะคิดว่าหมอนั่นทำเป็นนั้นเพราะรู้สึกผิด….หรือเป็นเพราะอยากไถ่โทษสินะ…….หึ……ก็อาจใช่….หมอนั่นพยายามจะสร้างทุกสิ่งทุกอย่างรองรับอนาคตของเธอ เพราะมันคิดว่ามันคือคนที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ………แต่ใครจะคิด…..ใครจะรู้ว่าหมอนั่นจะหลงรักเธอเข้าซะได้………..

                    ………..ทำไม?.......ทำไม?...คนๆนึง……..ถึงได้เก็บเรื่องราวมากมายไว้แบบนี้……….ฮึก…..ทำไมผมถึงไม่เคยรู้อะไรเลย…….ทำไมผมถึงโง่แบบนี้……ผมควรจะทำยังไง?......ควรจะทำยังไงต่อไปครับ?......ฮือออออ” ยูชอนดึงร่างบางให้ซบที่อกกว้างของเค้า มืออีกข้างลูบหัวมนเบาๆด้วยความอ่อนโยน

                    เธอแค่รักเค้า……รักเค้าเท่าที่จะรักได้………..แค่นั้นเอง….

                    --------------------------------

                    -----------------

     

                    ----------

     

                    เจ็บ….

                    อะไรอยู่ในคอ……..อา…..เจ็บไปทั้งตัวเลย……..

                    ปวดหัว……อื๊อ…..แสงไฟจ้าชะมัด………………………

                    ………………….” ที่นี่…….

                    ยุนโฮลืมตาตื่นเต็มตา…. และพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียง….สติที่ยังครบถ้วนสมบูรณ์บอกให้รู้ว่า ในห้องสี่เหลี่ยมกว้างๆนี้คือห้องหนึ่งในโรงพยาบาล…..ใช่…..ใช่แล้ว….เพราะตอนที่โดนยิง….เค้าถูกพามาที่นี่……ใช่ เค้าจำได้..แต่ก่อนหน้านี้….อา…..เค้าถูกยิงตกลงไปในทะเล……

                    แล้วแจจุงล่ะ…….แจจุงเป็นยังไง?......

                    มือข้างขวาขยับได้เพียงข้างเดียวเพราะแขนข้างซ้ายมือเข้าเฝือกและถูกห้อยรั้งไว้กับคอ

                    อ๊ะ!!.....ลุกไม่ได้….แจจุงอยู่ไหน?....

                    …………….ตื่นแล้วหรอ?.......” เสียงสั่นเครือและคุ้นหูเป็นอย่างดี เป็นเสียงที่เค้าคาดหวังว่าจะเป็นเสียงแรกที่เค้าจะได้ยิน…. แจจุงกำลังกุมมือของเค้ามาแนบแก้มที่เปียกชื้นของตัวเอง รอยยิ้มหวานปรากฏบนใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา

                    เหมือนย้อนกลับไปในครั้งแรกที่พวกเค้าเจอกัน……..

                    สลับกันแค่ตำแหน่งของทั้งคู่เท่านั้น….. และรอยยิ้มนั้นก็กลายเป็นแจจุงที่มอบให้เค้า

                    เป็นดั่งของขวัญแด่การมีชีวิต…..

                    ……………..” เพราะพูดอะไรไม่ได้ คำตอบจึงเป็นเพียงการพยักหน้านิดๆสองสามครั้งของร่างสูง กับน้ำตาที่ไหลออกจากหางตาเท่านั้น…..

                    “ร้องไห้ทำไม?..... เจ็บหรอครับ?” ร่างบางใช้มือบรรจงเช็ดหยาดน้ำตานั้น ก่อนจะกลับมาจับมือร่างสูงที่ยังวางไว้บนแก้มนุ่ม ยุนโฮกระชับมันเบาๆ เป็นการขยับร่างกายเป็นครั้งแรกของเค้า เนื่องจากไม่มีส่วนใดที่มีแรงพอที่จะขยับได้นอกจากลำคอกับปลายนิ้วมือ ร่างสูงจึงทำได้แค่มองใบหน้าที่เค้าเฝ้าคิดถึงมานานตลอดเวลาที่หลับไป

                    ความฝันอันมืดมิดเมื่อกี้น่ากลัวนักเค้าฝันว่าแจจุงหนีไปจากเค้าอีกแล้วก็หายไปในความมืด ราวกับจะไม่กลับมาตลอดกาล เป็นสิ่งที่ยุนโฮกลัวแสนกลัว กลัวกว่าความตายเสียอีก….

                    ยุนโฮส่ายหน้าเป็นคำตอบเบาๆ…..

                    “ผมจำได้ทุกอย่างแล้วนะ…. ผมจำได้…. อันที่จริงผมไม่เคยลืมเลยว่าผมรักคุณฮึก” เสียงสั่นเครือเป็นการบอกว่าร่างบางยังเศร้าโศกกับเรื่องราวที่ผ่านมา

                    “ผมขอโทษผมขอโทษ…. ผมจะฆ่าคุณ….ผมทำได้ยังไงแล้วทำไม….ทำไมคุณถึงต้องทำเพื่อผมขนาดนี้ด้วย…..ผม….ผม……” คำสุดท้ายถูกกลืนลงไปเพราะยุนโฮใช้นิ้วชี้แตกที่ริมฝีปากบางที่พร่ำพรรณนาความผิดของตน เค้าทนจะรับได้ที่ได้เห็นร่างบางยอมรับความเจ็บปวดในสิ่งที่ควรจะเป็น เค้าไม่เคยโกรธแจจุงเลย ไม่เคยสักครั้งที่จะกล่าวโทษร่างบาง มันเหมือนเป็นชะตาลิขิต ที่ทำให้เรื่องราวเป็นเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เค้าควรจะรับโทษมากกว่า

                    ……………..” ยุนโฮส่ายหน้าอีกครั้ง เป็นการบอกว่าเค้าไม่เคยถือโทษร่างบางเลยสักครั้ง ก่อนจะวางมือร่างบางบนหน้าอกของเค้าและใช้นิ้วมือเขียนบนฝ่ามือเล็กของร่างบาง

                    แจจุงร้องไห้อีกแล้ว….. ร่างบางยกมือขึ้นปิดปากอย่างรวดเร็วเมื่อยุนโฮเขียนข้อความบางอย่างบนมือเค้าจนเสร็จ ร่างบางมองใบหน้าที่มองเค้านิ่งอีกครั้ง ก่อนจะก้มลงกอดร่างหนาอย่างแผ่วเบา ดวงหน้าหวานแนบกับหน้าอกแน่น ยุนโฮใช้มือลูบหลังร่างบางเบาๆ และหลับตาลง

                    เป็นข้อความสั้นๆง่ายๆ ที่คนที่รักใครคนหนึ่งจนเอ่อล้นจะสามารถเขียนได้

                    “เพราะ รัก…..

                 -------------------------

                    ------------

                    ----

                    “คุณยุนโฮ กรุณากินให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ!!” ร่างบางแยกเขี้ยวเมื่อยังเห็นถ้วยข้าวต้มยังมีปริมาณมากกว่าครึ่ง ร่างบางเดินดุ่มๆมาวางแจกันดอกไม้ที่เต็มไปด้วยดอกคาร์เนชั่นสีขาวนวลและหอมส่งกลิ่นโชยให้ห้องคนป่วยดูมีสีสันขึ้น  ยุนโฮยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ หลังจากที่วันนี้โดนร่างบางเหวใส่ตั้งสามรอบรอบแรกก็เรื่องที่ลุกไปกินน้ำโดยไม่บอกร่างบาง เรื่องที่สองก็แค่เค้าลืมกินยาบำรุงที่คุณนายจองเอามาให้ ส่วนเรื่องที่สามก็เรื่องนี้นั่นแหละ..       แต่ทำไงได้ล่ะ…..ก็รสชาติข้าวต้มที่โรงพยาบาลทำมาให้นี่มันจืดชืดจะแย่!....

                    “อื้อ!!.....ทานด้วยครับ!!!....” ร่างบางข้ามต้มหอมฉุยขึ้นมาเป่าสองสามครั้งก่อนจะยื่นไปตรงหน้ายุนโฮ คราวนี้ดูจะกลายเป็นยุนโฮที่ถูกดุบ้างซะแล้ว….นี่เป็นการแก้แค้นย่อมๆที่เค้าเคยดุร่างบางบ่อยๆหรือเปล่านะยุนโฮเองก็อดคิดไม่ได้

                    ………..” แต่ก็ยอมงับข้าวต้มช้อนนั้น แล้วกลืนลงไปในขณะที่ยังมองร่างบางที่เป่าข้าวต้มช้อนต่อไปให้เค้าอย่างตั้งอกตั้งใจ

                    …….ฉันได้แม่ใหม่อีกคนแล้วหรอเนี่ยนี่ฉันกลายเป็นลูกเธอตั้งแต่เมื่อไหร่นะ….อื๊อ!” แต่ก็ต้องหยุดพูดเมื่อแจจุงค้อนใส่ก่อนจะยัดข้าวต้มช้อนนั้นเข้าปากยุนโฮแบบไม่เกรงใจลูก(?) เอาซะเลย…. ยุนโฮได้แต่ทำตาค้างปริบๆแล้วกลืนข้าวต้มอุ่นๆลงคอ                                                                                                                                 

                    “ทานไปครับ….อย่าพูดมาก ไม่งั้นผมจะให้คุณดื่มยาบำรุงนี่ให้หมดภายในวันเดียวเลย!” ชี้ไปยังลังที่เต็มไปด้วยยาบำรุงนับสิบๆกว่าถุง แล้วก็ตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าก่อนจะป้อนให้ยุนโฮอีกสามสี่รอบจนเกือบหมด ยุนโฮแทบอยากจะอ้วกออกมาแต่ก็ต้องสกัดกลั้นไว้เพราะคนตัวเล็กเตรียมขู่ฟ่อๆ แถมยังเอาน้ำให้กินแล้วบอกว่าถ้าจะอ้วกก็กลืนลงไปซะ นั่นของดีๆทั้งนั้นถ้าไม่กินแล้วเมื่อไหร่จะหาย

                    ได้แม่มาเพิ่มอีกคนจริงๆซะด้วยสิ จองยุนโฮ……..

                    “จะไปไหนครับ!! บอกแล้วไงว่าให้บอกผม….ถ้าคุณจะลุกไปไหนน่ะ” แจจุงรีบลุกไปประคองร่างของยุนโฮที่ทำท่าจะหย่อนขาลงจากเตียง แจจุงโอบเอวของยุนโฮเอาไว้ไม่ให้ร่างสูงล้ม เมื่อร่างสูงยังไม่สามารถทรงตัวให้เดินได้ดีมากนัก ยุนโฮถอนหายใจก่อนจะก้มลงกระซิบแจจุงข้างๆหู

                    “ฉันจะไป……………..ฉี่………….นะ อ้า!!! แจจุง!...” แจจุงหน้าแดงขึ้นมาทันที….. มือที่โอบไว้ก็เลยเผลอปล่อยออกโดยไม่ได้ตั้งแจ ร่างสูงเซไปอิงกับขอบเตียงอย่างช่วยไม่ได้ ทำเอาแจจุงต้องรีบถลาตัวมาโอบร่างสูงให้ทรงตัวเหมือนเดิม

                    “ยะ….ยังไงผมต้องพาคุณไป…..ถะถ้าคุณล้มลงไปจะทำยังไง!....” ตอนนี้หน้าแดงถึงหู แต่แจจุงไม่ยอมมองหน้ายุนโฮ ร่างเล็กๆทำแค่โอบร่างสูงพยุงให้เดินไปห้องน้ำเท่านั้น ยุนโฮแอบหัวเราะในลำคอ ก่อนจะกระแอมเบาๆ

                    “พูดกับผู้ใหญ่มองหน้าด้วยสิ….” แต่แจจุงก็ไม่หันไปมองตามที่บอก ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงห้องน้ำจนได้ แจจุงยื่นแขนให้ยุนโฮเกาะเอาไว้ ก่อนจะหันหน้ามาตรงอ่างล้างหน้า แม้แต่กระจกก็ไม่อยากมอง เพราะมันทำให้เห็นร่างสูงจากด้านหลังให้ตายสิ!!! นี่มันน่าอายที่สุด!!! แต่เค้าก็ปล่อยให้ยุนโฮมาคนเดียวไม่ได้….อา….คุณยูชอน!!! เมื่อไหร่จะมาสักทีนะ!!

                    ยุนโฮได้แต่กลั้นยิ้ม สงสารก็สงสาร แต่ก็สนุกมากกว่า แต่ก็สะบัดหัวออกเมื่อคิดว่าตัวเองกำลังปวดฉี่จะแย่มือขวาพยายามดึงสายกางเกงที่มัดไว้แน่นออก

                    ร่างสูงแลสายตาไปมองร่างบาง……

                    “เสร็จหรือยังล่ะครับ!…..

                    “ยังไม่ได้ฉี่เลย….นี่….คิมแจจุง……ฉันถอดกางเกงไม่ได้…..มาถอดให้หน่อยสิ

                    ตึกโป๊ะ!! นี่ถ้าเป็นรายการตลกหรือฉากตลกในละครซิทคอมแจจุงคงหัวร่องอหายนอนเกลือกกลิ้งไปแล้วแต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องจริง!! ร่างบางยิ่งรู้สึกว่าทำไมวันนี้มันร้อนแบบนี้นะ!! เหงื่อแตกผลั่กแบบนี้ในฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้ได้ยังไงกัน!!

                    “บ้าหรอ!!!....คุณก็ทำเองสิ!!...ผมทำไม่ได้หรอก!!!....มีสองมือทำไมจะทำไม่ได้เล่า!

                    “แจจุง….แขนซ้ายฉันใส่เฝือก…= =

                    “อ๊า!!!.....จริงๆเลย!!” ในที่สุดร่างบางก็ยอมจนได้ แจจุงหลับตาปี๋ก่อนจะค่อยๆนั่งลงแล้วเอามือคลำเบาๆตรงท้องน้อยของยุนโฮ นิ้วเล็กๆแตะโดนแค่เนื้อผ้าอย่างเบาบางเท่านั้นยุนโฮถอนหายใจ

                    “เธอหลับตา….แล้วจะเห็นได้ยังไง?.......จับตรงนั้นอยู่ได้เธอจะยั่วฉันใช่ไหม?... ดึงร่างบางขึ้นยืนก่อนจะดันให้ติดผนังห้องน้ำ แจจุงตาเบิกโพล่งเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจที่กระชั้นชิดเข้ามา มือเล็กทำหน้าที่ดันไหล่ของยุนโฮเบาๆเพราะถึงอย่างไรก็กลัวยุนโฮจะเจ็บอยู่ดี แต่นั่นก็เป็นโอกาสดีที่ร่างสูงจะชิดร่างบางให้ใกล้มากขึ้นมือหนายันตัวเองไว้ข้างๆหัวมนของร่างบาง แจจุงได้แต่มองเท้าตัวเองเพราะตอนนี้เค้ากำลังรู้สึกเหมือนถูกมองจนแทบจะทะลุแล้ว

                    “หยุดทำหน้าแบบนั้นสักที…..รู้ไหมว่ามันทำให้ฉันอยากจูบเธอ….” ยุนโฮกระซิบ ก่อนจะเป่าลมเบาๆที่ใบหูของแจจุง ร่างบางขนลุกเกรียว

                    “คุณยุนโฮ!!ปล่อยนะ!! จะฉี่ไม่ใช่หรือไง!!?.....คุณจะแก้แค้นที่ผมดุคุณวันนี้ใช่ไห……อื๊อออ!!!!! อุนนนนโออออออออ!!!” เสียงอู้อี้เพราะตอนนี้ริมฝีบางอิ่มสีชมพูเรื่อที่พร่ำบ่นมาตั้งแต่เช้าถูกริมฝีปากหนาของร่างสูงทำโทษด้วยการประกบจูบและดูดดุนเป็นเป็นเสียงจ๊วบจ๊าบ ลิ้นหนาสอดเข้าไปตักตวงความหวานในโพรงบางของร่างบางด้วยความคิดถึงนักหนา หลังจากที่เค้าห่างจากสัมผัสหวานหอมมายาวนาน ตอนแรกยุนโฮแค่รู้สึกอยากแกล้งเท่านั้นแต่ตอนนี้เค้าเองกลับถูกกิเลสของตัวเองครอบงำความคิดจนหมดสิ้น เมื่อได้กลับมาลิ้มลองริมฝีปากที่สุกปลั่งราวกับผมเชอร์รี่ที่อวบอิ่ม แจจุงตีหน้าอกของยุนโฮเบาๆ เพราะยังกลัวร่างสูงเจ็บ….ก่อนจะกลายเป็นวางไว้บนไหล่ของร่างสูงและค่อยๆเลื่อนไปโอบรอบคอ มือเล็กๆขยุ้มผมสีน้ำตาลเข้มของยุนโฮด้วยความหวาบหวาม ริมฝีปากของแจจุงตอบรับจูบของร่างสูงหลังจากที่ต่อต้านมาสักพัก ยุนโฮแลบเลียริมฝีปากล่างของร่างบางด้วยความพอใจก่อนจะกัดเบาๆอีกครั้ง จนกระทั่งยุนโฮปรับองศามารับความหวานอีกฝั่งของริมฝีปาก

                    “เฮ้!!!! นายอยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า จองยุนโฮ!!!! ยูชอนตะโกนพร้อมกับใช้มือเลื่อนกระตูที่ไม่ได้ล็อคอ้าออกจนหมด ก่อนจะอ้าปากค้างกับภาพที่เห็นตรงหน้า

                    =[]=!!

                    “อ๊า!!! ยูชอน!!ปิดสิ!!! จุนซูร้องเมื่อเห็นภาพตรงหน้าพร้อมๆกับยูชอน

                    “อั่ก!!! แจจุง!!!...” เร็วกว่าความคิด แจจุงผลักยุนโฮจนเซไปชนผนังอีกฝั่งหนึ่งของห้องน้ำ ก่อนจะวิ่งออกไปข้างน้ำห้องพยาบาลทันที จุนซูวางของเยี่ยมทั้งหมดบนโต๊ะ ก่อนจะสิ่งตามร่างบางออกไปทันที

                    “เฮ้ย!!” ยูชอนรีบวิ่งไปรับตัวของยุนโฮที่เซจนจะล้มอยู่แล้วให้ลุกขึ้นมา ร่างสูงครางโอดโอยเมื่อแจจุงผลักเข้าที่แผลของเค้าเต็มๆ ยูชอนลอบยิ้ม ก่อนจะต้องหุบปากทันทีเมื่อยุนโฮแจกค้อนใส่ชุดใหญ่

                    ---------------------------------

                    จ๊อกกกกกกกกกกกกกกกกกก

                    “ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮะ เฮ้ย!! ไอ้ยุน…..โทษทีว่ะ….แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะเว้ย!! ฮ่าๆๆๆๆๆ โอ๊ย!!ยุนโฮมัดเชือกกางเกงด้วยมือข้างเดียวอย่างคล่องแคล่ว(เพราะชินตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลครั้งแรกแล้วแจจุงตามเค้าไม่ทันหรอก หึหึ) ก่อนจะใช้มะเหงกเขกกบาลเพื่อนตัวแสบที่ยืนเป็นที่เกาะแทนแจจุงเข้าหนึ่งที ยูชอนลูบหัวป้อยๆก่อนจะกลั้วขำในลำคอแล้วเอาแขนของยุนโฮขึ้นคล้องคอของเค้า ก่อนจะพากลับมาที่เตียง

                    “ทำไมไม่เคาะประตูก่อนว่ะ ไอ้ไอ้คนไร้มารยาทโอ๊ย” ร่างสูงร้องครางเมื่อรู้สึกเสียวผลที่หัวไหล่ ยูชอนจัดแจงให้เพื่อนของตัวเองนอนบนเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นห่มช่วงขามาจนถึงเอวของร่างสูง แล้วตัวเองก็นั่งควบเก้าอี้เอาแขนวางไว้บนพนักพิง

                    “ใครจะไปรู้ว่ะ…..ว่าจู่ๆ จะมีฉากเลิฟซีนในห้องน้ำแบบนั้น…. ว่าแต่…..นายมีเซ็กซ์ในห้องน้ำบ่อยหรอ?...เป็นไงว่ะ ตื่นเต้นดีใช่ไหม?...นายไปไวกว่าฉันเยอะเลยว่ะ….ฉันนะยังแค่ที่เตียงกับโซฟาก็ว่าจะลองในห้องน้ำดูเหมือนกันแต่ยังไม่มีโอกาสโอ๊ย!!! ไอ้ยุน!!  ยูชอนลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะเหวใส่ยุนโฮอีกครั้งเมื่อร่างสูงแจกมะเงกให้ยูชอนอีกรอบ เพื่อนตัวแสบเบ้หน้าด้วยความเจ็บ

                    “ไอ้เลว!!...ใครจะไปคิดแต่เรื่องอัปมงคลอย่างนายว่ะ!!...ไอ้หื่น!....ฉันกับแจจุงยังไม่เคยมีอะไรกันเว้ย!!” ยูชอนนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้งก่อนจะทำตาปริบๆด้วยความสนใจ

                    “เฮ้ย!!...ไอ้ยุนโฮขาวๆแบบนั้นน่ะ ทนมาจนถึงป่านนี้ได้ไงว่ะ!.... เสียศักดิ์ศรีชะมัด!....

                    “ใครจะไปเลวเหมือนนายว่ะ กดคนตัวเล็กๆอย่างคิมจุนซูจนช้ำแบบนั้นน่ะ…. คิมแจจุงยังเด็ก…..ฉันทำไม่ได้หรอก….ฉันอยากถะนุถนอมเค้า….” ยุนโฮเอ่ยด้วยสีหน้าที่จริงจัง จนยูชอนอึ้งกับความอ่อนโยนที่ยุนโฮมีให้กับแจจุง จนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเลวนิดๆ(ไม่นิดอ่ะ)

                    “ก็ของดี….อยากได้ก็ต้องครอบครองเอาไว้ ก่อนที่หมาจะคาบไปรับประทานน่ะสิ!!.....คิมจุนซูน่ะเห็นแบบนี้แต่ช่างยั่ว….ฉันรอถะนุถนอมอย่างนายไม่ไหวหรอกว่ะ….ก่อนที่ใครจะได้ไปฉันก็ต้องทำให้เป็นของฉันก่อนไม่สิต้องเป็นของฉันไปตลอดนั่นแหละ….

                    “ไอ้เลวนายเห็นเด็กคนนั้นเป็นแค่สิ่งของงั้นหรอ…… ไม่ได้คิดอะไรกับเด็กคนนั้นหรอ?.....

                    …………………..บะ….บ้า!....ฉันจะคิดอะไร?....เด็กคนนั่นก็แค่มีไว้เล่นๆสนุกๆ ทำไมต้องคิดอะไรด้วยวะ….” ยูชอนพูดเหมือนกับไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่เสียงที่ตะกุกตะกักและสีหน้าที่เจื่อนลงไปเล็กน้อยทำให้ยุนโฮมองออกทะลุปุโปร่งอย่างไม่ยากนัก เพื่อนของเค้าเป็นคนที่มองง่ายมาแต่ไหนแต่ไร ผิดกับเค้าที่สามารถเก็บความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ยุนโฮถอนหายใจ เมื่อไม่รู้จะพูดยังไงให้เพื่อนของตัวเองรู้ใจตัวเองสักที

                    “ระวังเถอะ…….. วันหนึง….นายนั่นแหละที่จะเสียเค้าไป….ปาร์คยูชอน”

                    “พูดอะไรของนายว่ะ….ฮะๆไม่เห็นจะเข้าใจเลย….” ยูชอนแกล้งฝืนทำเป็นหัวเราะ ทั้งๆที่คำพูดของยุนโฮไม่ได้น่าขำเลยสักนิด และถ้าส่องกระจกดูดีๆก็จะรู้ว่าตัวเองหน้าเจื่อนลงแค่ไหน

                    เสียไปงั้นหรอ……….

                    หึ……..เด็กคนนั้นไม่มีทางไปจากฉันได้หรอก……….

                    ไม่มีทาง!!......

                    ----------------------------------

                    ----------------------

     

                    -----------------------------------------------

                    ------------------------

                    “อ่าว!! จุนซู….ทำไมไม่เข้าไปล่ะ….” ร่างบางสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของใครบางคนดังมาจากข้างหลังของเค้า ซีวอนเอียงคอและมีสีหน้างุนงงอย่างชัดเจนเมื่อร่างบางดูลุกลี้ลุกลนและทำตัวราวกับถูกจับได้ว่าทำอะไรผิด

                    “อะ..อ้อ!!.....ผม…..ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า….จะไปซื้อน้ำผลไม้น่ะครับ….

                    “อ่อ….แล้วแจจุงล่ะ….” ซีวอนยื่นหน้ามองเข้าไปในห้องและสังเกตว่ามีแค่ยุนโฮกับยูชอนนั่งคุยกันท่าทางซีเรียส ไร้เงาของแจจุงที่ปรกติจะอยู่ติดกับยุนโฮเสมอ

                    “แจจุงกลับไปเปลี่ยนเสื้อที่บ้านครับ….เดี๋ยวคงกลับมา….เอ่องั้น…..ผมขอตัว” ร่างบางเร่งฝีเท้าเดินออกไปทันทีหลังจากที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องพยาบาลอยู่นานจนร่างสูงเอะใจ ที่ร่างบางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่เค้าก็ไม่ได้คิดอะไร มือหนาเปิดประตูเข้าไปในห้องและทักทายทั้งสองคนที่นั่งรออยู่แล้ว

                    อากาศที่หนาวเย็นเหมือนตอกย้ำความรู้สึกที่ด้านชาของใครบางคนที่เดินตุปัดตุเป๋คนเดียวบนถนนที่ควักไขว่ไปด้วยผู้คนในยามค่ำคืนของวันนี้เสื้อโค้ทที่ยูชอนกำชับนักหนาว่าให้ใส่ตลอด ก็ทิ้งไว้ที่ห้องพยาบาลของยุนโฮร่างเล็กๆที่ใส่เพียงเสื้อยืดและฮู้ดแขนยาวเพียงตัวเดียวจึงต้องกอดตัวเองเอาไว้ให้พออุ่นขึ้นบ้าง…. ไม่รู้ว่าเดินมาไกลแค่ไหนและขาเล็กๆสั่นเทานี้จะพาเค้าไปที่ใด เค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่เพียงอยากไปให้ไกลจากคนที่ชื่อปาร์คยูชอน ไปให้ไกลๆ ไกลจากคนใจร้ายที่ไม่เคยเห็นเค้าเป็นคน

                    “จะคิดอะไร?....เด็กคนนั่นก็แค่มีไว้เล่นๆสนุกๆ ทำไมต้องคิดอะไรด้วยวะ….                  

                    เค้ารู้ดี…..ความจริงถ้าเค้าไม่บังเอิญไปได้ยินคำพูดของยูชอนเค้าเองก็รู้ดีว่าเค้าไม่ได้มีความหมายกับยูชอนเลยสักนิด….แต่จุนซูก็ไม่อาจหยุดน้ำตาที่หลั่งไหลลงมาได้ในตอนนี้….เจ็บแปล๊บตรงกลางอกขึ้นมาเมื่อสิ่งเกล่านี้ยิ่งทำให้เค้าเฝ้าถามตัวเอง……

                    ว่า….ทำไมยังรักคนๆนี้………..

                    ทำไมยังห่วงใยและอยากอยู่ข้างกายของยูชอน…..

                    ทั้งๆที่เค้าเป็นแค่ตัวตลกในสายตาของยูชอนเท่านั้น…..

                    น้ำฝนค่อยๆโรยตัวลงมา ผู้คนบนถนนต่างพากันวิ่งหาที่หลบฝนต่างจากคนตัวเล็กคนหนึ่งซึ่งได้แต่กอดตัวเองแล้วเดินต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น….รู้แต่ว่าตอนนี้ฝนตกแล้ว….

                    เค้าคงร้องไห้ได้โดยไม่ต้องอายผู้คนใช่ไหม?....

                    ……………ฮืออออออออออออออๆๆๆ……” น้ำตาถูกชะด้วยหยาดฝนจนดูไม่ออกว่าคนที่ครางอื้ออือในลำคอตอนนี้กำลังร้องไห้ นอกจากจะต้องได้ยินเสียงและสีหน้าที่เจ็บปวดทรมานเพราะความรักของจุนซูตอนนี้เค้าสัญญากับตัวเองและคิมจุนฮีว่าจะไม่อ่อนแอ เค้าทำไม่ได้…..ทำตามที่สัญญาไม่ได้………….

                    หรือเค้าควรจะยอมแพ้และทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่อย่างที่จุนฮีเคยบอก….

                    ทำใจลืมเค้าซะแล้วกลับไปใช้ชีวิตที่นู้นโดยที่ไม่ต้องทนเจอเค้าอีก………

                    ตื้ดดดดดดดดดดดด ตื้ดดดดดดดดดดด….

                 โทรศัพท์ดังเป็นร้อยๆรอบแล้วมั้ง แต่จุนซูไม่ยักกะรับสายหรือหยิบมันมาแล้วถอดแบทออกซะ ฝนซาลงแล้ว..มือเล็กๆที่เย็นเยียบหยิบมันขึ้นมาดู บนหน้าจอปรากฏmissed call ที่เกรี้ยวกราดพอสมควร

                    54 missed call…….

                    “ครับ……

                    “อยู่ไหน?..... เสียงที่ดูเหมือนใจเย็นจนน่าเหลือเชื่อ แต่ก็ไม่ได้ลดอาการเหม่อลอยของร่างเล็กในตอนนี้ได้ ในใจมีเพียงคำถามที่ว่า ทำไมเสียงของเค้าดูเหนื่อยแบบนี้นะ?... ทานข้าวหรือยัง?... ได้พักผ่อนบ้างหรือเปล่านะ?....

                    …………ครับ?...” มัวแต่คิดเรื่อยเปื่อยจนลืมว่าถามอะไร….

                    “อยู่ไหน!!!!!!!

                    --------------------------------

                    -----------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×