ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yaoi] Conceal Secret (YunJae,MicXiah)

    ลำดับตอนที่ #14 : เผชิญหน้า

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 55


    --------------------

                   กี่โมงแล้ว……..

                   จุนซูวางคางไว้บนหมอน เมื่อพบว่าตัวเองกำลังนอนคว่ำและเอวยางถูกยึดด้วยมือแกร่งของร่างสูงที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง ผมยุ่งเหยิงกับใบหน้าที่เพิ่งตื่นนอนของร่างบางยิ่งทำให้ดูน่ารักไปอีกแบบ แต่ร่างบางไม่คิดเช่นนั้น เค้าพยายามยัดกายขึ้นนั่งแม้จะลำบากมากที่ตามที เตียงนุ่มยุบยวบยาบตามแรงของร่างบางที่ฝืนตัวเองให้นั่งจนได้ แก้มแดงเรื่อเมื่อพบว่าตัวเองยังมีสภาพเปลือยเปล่าจนถึงเช้า จุนซูคว้าเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่ยูชอนวางพาดไว้บนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ตัวเค้าที่สุดมาสวม

                   กางเกงยังใส่ไม่ได้……….

                   ก็พ่อเล่นล่อตั้งสองยก!!!.... ทำเอาเค้าระบมไปทั้งตัว…. (นี่เมาใช่ไหม?)….

                   “อือ……..” เสียงอืออาดังในลำคอของยูชอนทำให้ร่างบางสะดุ้ง จุนซูขยับกายให้ห่างจากร่างสูงที่เหมือนจะงัวเงียและพยายามลืมตาตื่น ผ้าห่มเป็นอย่างแรกที่จุนซูคว้าไว้ ก่อนจะเอามันมาพันไว้รอบๆตัก

                   “คิมจุนซู??” ยูชอนทำหน้าแลปกใจ เค้าตาเบิกโพล่งทันทีเมื่อรู้สึกเหมือนลืมอะไรไปบางอย่าง ก่อนจะสำรวจตัวเองและพบว่าไม่มีผ้าสักชิ้นติดกายของเค้า พลางมองไปที่ร่างบางที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดนั่งห่อตัวกับผ้าห่มหนา

                   “อา…..เมื่อคืนฉันเมาซื๊ดโอ้ย!! ฉันต่อยกับไอ้บ้านั่นใช่ๆ อาใช่แล้ว….แต่….มีอีกอย่าง….เมื่อคืน….อ่อ…….สุดยอดไปเลย……ยุนโฮเคยบอกว่าเจ็บแล้วมีความสุข….เป็นแบบนั้นจริงๆแฮะหึหึหึ โอ๊ย!!” ดูจะมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ดีจนจุนซูต้องตอบแทนด้วยการขว้างหมอนไปโดนหัวของยูชอนแรงๆ นั่นทำให้แผลที่หัวเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที ร่างสูงมึนตึ๊บ ประกอบด้วยอาการเมาค้างยิ่งทำให้หัวหมุนมากกว่าเดิม

                   “คิมจุนซู!!.... ถ้าไม่ใช่ว่าเมื่อคืนน่ารักล่ะก็!!!.....” ยูชอนปัดหมอนนั่นทิ้ง ก่อนจะชี้ไปที่ร่างเล็กที่ง้างแขนกำหมอนอีกใบไว้เรียบร้อย

                   “ทำไม?....จะทำไม!!.... เมื่อคืนผมก็แค่สนุกๆ….ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย!!!แบร่!!” แลบลิ้นแถมยังถ่างตาอีกข้างใส่ ยูชอนเริ่มมีน้ำโหจริงๆเมื่อจุนซูยอกย้อนราวกับว่าเค้าตัวตลกอย่างนั้นแหละ นั่นทำให้ประธานสมาคมเพลย์บอยแห่งเกาหลีใต้อย่างเค้ายอมไม่ได้เด็ดขาด

                   “เธอนี่มัน……เธอมันกับใครก็ได้จริงๆใช่ไหม!!! ตั้งแต่ไปเต้นยั่วในผับเธอได้มากี่คนแล้วล่ะ!!!” บทสนทนาเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เค้านึกอยู่แล้วว่าแมวน้อยไร้เดียงสาอินโนเซนท์ที่เคยรู้จักจู่ๆจะเปลี่ยนไปเป็นแมวยั่วสวาทอย่างเมื่อคืนสงสัยจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากจะไปฝึกมาจากที่ไหนเป็นพิเศษ!

                   “เดี๋ยวก่อนนะ!! นับไม่ทันมันเยอะ!!....คราวหลังจะหาบิลมาให้ดูแล้วกัน!!!!!” คราวนี้จุนซูเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน กัดมาก็กัดตอบแรงมาก็แรงกลับ แม้จะมีความจริงเท่ากับศูนย์ก็ตาม แต่เวลาที่เห็นยูชอนโกรธจนทนไม่ได้เหมือนกับที่เค้าเคยถูกดูถูกเหยียดหยามนี่มันดูสะใจดีเหมือนกัน……

                   …….เดี๋ยวนะ…..อยู่ตรงนั้นนะเธอตายแน่!!!” ยูชอนทำท่าจะเอื้อมตัวมาคว้าร่างบาง แต่ท่าเพราะยังแฮงค์อยู่ทำให้ตัวเค้าเซเล็กน้อย จุนซูฝืนตัวเองลุกแล้ววิ่งหนีออกไปจากห้องโดยที่ยูชอนเองก็วิ่งตามไปติดๆ

                   “อ๊ะ!!!” จุนซูชนเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจัง แขนหนานั่นโอบเอวร่างบางไว้ไม่ให้ล้ม จุนซูเงยหน้าขึ้น

                   “คุณยุนโฮ!!” ตกใจเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งพบเจอเมื่อวานมาปรากฏอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง ยูชอนวิ่งตามมาเห็นในสภาพที่มีกางเกงขายาวแค่ตัวเดียว ยุนโฮตะลึงกับภาพที่เห็น ยูชอนออกมาจากห้องนั่นก่อนหน้านั้นจุนซูก็วิ่งออกมาจากห้องนั้นเช่นกัน แถมร่างบางยังใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางและหลวมโคร่งซึ่งมันปิดอะไรต่อมิอะไรจนถึงแค่สะโพกเท่านั้น ขาเรียวเล็กขาวนวลมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ ยังไม่นับว่าที่คอของร่างบางเองก็มีมากไม่แพ้กัน

                   “ไอ้….แฮ่กๆๆ….ไอ้บ้ายุนโฮ!!......แกปล่อยจุนซูเดี๋ยวนี้นะเว้ย!!” ยูชอนโน้มตัววางมือไว้ที่เข่าหลังจากใช้พละกำลังทั้งหมดบังคับร่างที่ยังเมาค้างให้วิ่งตามร่างบางออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อนพร้อมทั้งพยายามสูดออกซิเจนเข้าไปให้มากที่สุด ยุนโฮทำหน้าหรอหรา ถึงจะงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็เริ่มเข้าใจบ้างนิดๆแล้ว เค้ายกมือขึ้นราวกับโจรที่ถูกตำรวจจับได้ ก่อนจะส่ายหน้านิดๆเป็นการบอกว่า……กูเปล่านะเว้ย…..

                   “คิมจุนซู!!! คิดว่ากำลังทำอะไร…. เธอใส่แค่เสื้อตัวเดียววิ่งออกมาได้ยังไง!! อยากตายจริงๆใช่ไหม!!??” ยูชอนชี้หน้าร่างบางที่แอบอยู่หลังของยุนโฮ นิ้วมีสั่นเทาบอกถึงอาการโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า

                   อะไรก็ไม่ได้ใส่สักอย่าง!!! วิ่งตัวปลิวมากอดยุนโฮแนบแน่นแบบนี้ ใครจะยอม!!....

    “คุณยุนโฮช่วยผมด้วยครับ!!! คุณยูชอนบังคับผม…..ฮืออออๆๆๆ” แกล้งร้องฮือเสร็จจุนซูก็แลบลิ้นใส่ยูชอนอีกครั้ง หลังจากออดอ้อนร่างสูงด้วยเสียงเจื้อยแจ้วน่ารักน่าเอ็นดู นาทีนี้ยุนโฮดูจะเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด เพราะไม่รู้จะทำยังไงในเวลานี้ดี แถมร่างบางยังเอาตัวนุ่มนิ่มมาโอบเอวของเค้า

    พอจะรู้ว่าอยากจะทะเลาะให้หึงกันใช่ไหม?........

    แต่เค้าเกี่ยวอะไรด้วยว่ะ!!!..........

    “จองยุนโฮ!!! ปล่อยเจ้าเด็กนั่นเดี๋ยวนี้นะเว้ย!!!” ยุนโฮอ้าแขนห้าม สีหน้าเริ่มแสดงความลำบากใจเมื่อเค้าพยายามคลายมือของร่างบางออกแต่จุนซูกลับทำหน้าอ้อนวอนให้ยุนโฮช่วยเล่นตามน้ำไปอีกสักหน่อย ร่างสูงถอนหายใจ เมื่อห้ามทางนี้ไม่ได้ก็ต้องห้ามอีกทางนึง

                   “เฮ้ยๆๆๆไอ้ยูชอน…. ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะเว้ย!...ฉันอยู่นิ่งๆแกก็เห็น!!....

                   “เออสิ!!! แกลองคิดจะทำดูสิ!!! ศพไม่สวยแน่! คิมจุนซู!!!.....เธอจะปล่อยดีๆ หรืออยากโดนกดอีกรอบ ห๊า!!” จุนซูหน้าแดงเมื่อยูชอนโพล่งออกมาต่อหน้ายุนโฮ ก่อนจะยอมปล่อยตัวร่างสูงแล้ววิ่งขึ้นไปเข้าห้องของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลนักแล้วปิดประตูดังปัง!! ยูชอนถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเอามือกุมไว้ที่คอแล้วทำหน้านิ่ว

                   “โอ๊ย!...ให้ตาย ความดันฉัน…..ไอ้เด็กคนนี้มันจะฆ่าคนแก่ให้ตายหรือไงนะ…….” ยุนโฮหลุดขำ ก่อนจะกระแอมเบาๆเมื่อเพื่อนของตัวเองค้อนใส่

                   “ปาร์คยูชอนไอ้เลว….. พรากผู้เยาว์…….” ยุนโฮพยุงเพื่อนที่ดูเหมือนจะเซไปมาเพราะยังปวดหัวตุ๊บๆ ให้นั่งลงบนเตียงนอนที่ยับยู่ยี่เพราะศึกหนักเมื่อคืน หลังจากที่พูดหยอกเย้าเล่นๆ ยูชอนกุมขมับแล้วนวดเบาๆ

                   “ไอ้ยุน!!....เมื่อกี้แกเห็นอะไร….ลืมมันให้หมดนะเว้ย โดยเฉพาะขาอ่อนขาวๆนั่น….” ร่างสูงยังโกรธเคืองอยู่ ทั้งๆที่เพื่อนเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิด

                   ก็ของมันผ่านตามาเองนี่หว่า!!.....

                   “เออๆๆๆ….ลืมๆๆๆ ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น โอเคไหม? ว่าแต่นายดีขึ้นหรือยังฉันเป็นห่วงว่านายอาจจะมีแผลเยอะกว่านี้หรือไม่สบายไข้ขึ้นเหมือนเมื่อก่อน….อ่อ….แต่คงไม่ต้องถามแล้วล่ะมั้ง….ก็….” ร่างสูงเอ่ยไปพลางใช้ตาปรายไปบนเตียงที่ยับเยิน

                   ….เล่นนอนดิ้นรุนแรงซะขนาดนั้น” ยุนโฮยิ้มกรุ่มกริ่ม ก่อนจะป้อนซุปถั่วงอกแก้เมาแฮงค์ที่แม่บ้านลีเอามาวางไว้ให้เมื่อกี้ให้ยูชอนซดทีละคำ ร่างสูงกลืนอึกๆ ใบหน้าบู้บี้เพราะรสชาติไม่ค่อยจะถูกปากเท่าไหร่นัก แต่ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นได้มาก ก่อนจะเอนตัวลงตรงหมอนที่ยุนโฮเตรียมไว้ให้เพื่อนของเค้าหนุนอยู่แล้ว

                   …….ก็เมื่อคืนมันนึกว่าฝันนี่หว่า…..พอผ่านไปยกแรกก็เลยรู้ว่าเป็นเรื่องจริง……

                   “เสร็จปุ๊บก็เลยต่อยกสอง? ….ไอ้แก่ลามกเอ๊ย

                   เออสิวะ….ก็นานๆมันจะได้นี่หว่า……….หึๆๆๆ อ้า!! อ๊า!!! ไอ้หมาหมู่ คราวหน้าเจออีกพ่อจะจับโกนหัวหักคอแล้วก็โยนลงแม่น้ำให้หมดเลย…..อ่อก” ยุนโฮเริ่มรำคาญเสียงบ่น เมื่อยูชอนเจ็บจี๊ดที่มุมปากอีกครั้งแล้วสบถเรื่องชกต่อยที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก็เลยเอาช้อนที่ตักซุปยัดปากยูชอนอีกรอบนึง ยูชอนกลืนลงไปอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจเพราะเริ่มรู้สึกดีขึ้น

                   “ปากดีถ้าฉันกับซีวอนไม่เข้าไปช่วย แกกลายเป็นศพไปนานแล้วไม่มานั่งปากเก่งแบบนี้หรอก ไอ้บ้า!..

                   “เออขอบใจ…… แล้วก็..ขอโทษที” ยุนโฮพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเป่าซุปร้อนๆแล้วป้อนให้ยูชอนอีกที

                   “ฉันพอรู้เรื่องจากคุณป้าแล้ว…. แล้วนายจะทำยังไง

                   …..คงไม่กล้ากลับแล้วล่ะ…… เมื่อคืนฉันโทรไปบอกว่าฆ่าฉันให้ตายฉันก็ไม่ให้….ของๆแม่ฉันฉันไม่ให้ใครแตะ..แล้วฉันก็ขู่ไปว่า ถ้ายังไม่เลิกตอแย…. ฉันก็จะบอกตำรวจเรื่องที่พวกเค้ารวมหัวกันโกงแม่ฉัน……หึ….ขอโทษขอโพยฉันใหญ่เลย….แต่ฉันไม่แจ้งตำรวจหรอกเพราะแม่ของฉันขอไว้….” ยูชอนพูดราวกับเป็นเรื่องปรกติธรรมดา เค้ายิ้มบางๆเมื่อยุนโฮยิ้มแล้ววางมือไว้บนไหล่เค้าและตบมันเบาๆ

                   “ว่าแต่นายเถอะเรื่องแจจุงเป็นยังไงบ้างเด็กคนนั้นจำอะไรได้บ้างหรือยัง”

                   “ยังเลย…. แต่ฉันได้กลิ่นเรื่องคนร้ายบ้างแล้วล่ะ” ยุนโฮวางจานซุปที่เหลืออยู่เล็กน้อยลงบนถาดข้างๆเตียงนอน ก่อนจะเล่าต่อโดยที่ยูชอนยังคงนั่งฟังยังตั้งใจ

                   “ฉันสงสัยว่าเป็นจางเฮริม….

                   “หึจองยุนโฮ…. ใช่ว่าฉันไม่เคยบอกนายยัยนั่นร้ายจะตาย

                   “ฉันไม่คิดว่าจะถึงขนาดนี้…. แต่ยังไงเรายังปรักปรำหล่อนไม่ได้หรอก แต่ฉันก็มั่นใจเกินแปดสิบเปอร์เซ็นท์ว่าเป็นยัยนั่นแน่ๆ….

                   “นายต้องทำให้แจจุงอยู่ห่างจากยัยนั่นที่สุด” ยูชอนออกความเห็น เค้าเองรู้จักและมองคนออกเป็นอย่างดี ยิ่งกว่ายุนโฮที่มักจะมองโลกในแง่ดี และสุภาพมากกว่า เค้าเองเคยเตือนยุนโฮในเรื่องนี้ เพื่อนของเค้าก็รับฟังแต่ก็รอที่จะเห็นหลักฐานและเหตุผลที่แน่ชัดกว่านี้ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้เป็นอย่างดี

                   เพียงแต่ตอนนี้เค้ายังไม่สามารถหาหลักฐานมามัดตัวเจ้าหล่อนได้แน่ชัด…..

                   “อืม…. คราวนี้ฉันรู้สึกไม่จะไม่ใช่แค่ทำร้าย....... ยุนโฮหยุดพูดกะทันหัน เมื่อคิดว่ากำลังพูดในสิ่งที่ดูเลวร้ายเกินไปสำหรับเค้า..ใช่ คราวนี้จางเฮริมไม่ได้แค่อยากให้แจจุงอยู่ห่างๆยุนโฮแต่อยาก….

                   ทำให้แจจุงหายไป……

     

                   กระเป๋าเดินทางถูกแพ็คอย่างดี ทั้งของแจจุงและยุนโฮ การเดินทางที่กะทันหันที่สุดในชีวิตจึงเริ่มขึ้น โดยที่แจจุงไม่เคยรู้มาก่อน ได้แต่ยืนทำหน้างงเมื่อยุนโฮลงมือกดกระเป๋าเดินทางให้ปิดสนิทเรียบร้อย ก่อนจะใช้คนใช้สองสามคนยกทั้งหมดขึ้นรถ

                   “เราจะไปไหน?” แจจุงเอ่ยถาม น้ำเสียงเจือความงุนงงและขุ่นเคืองเล็กน้อยที่ยุนโฮทำอะไรก็ไม่เคยจะบอกเค้าเลยสักครั้ง ยุนโฮไม่พูดอะไรนอกจากหยิบเสื้อผ้าจากในตู้ของแจจุงแล้วโยนไว้บนเตียง

                   “ใส่ซะ….เราจะไปปูซาน”

                   “ทำไม?” ยุนโฮนิ่งไป….

                   จะอธิบายเหตุผลไปแจจุงจะเข้าใจไหมนะ…. เพราะเค้าเองก็ไม่รู้ตัวคนร้ายแน่ชัด แถมเหตุผลที่จางเฮริมพยายามจะฆ่าแจจุงมันก็คอนข้างอธิบายยากโขอยู่

                   …….ก็เธอบอกว่าอยากไปเที่ยวไง” ร่างบางก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีกับความใจดีกะทันหันของยุนโฮ แต่ท่าทางที่รีบร้อนผิดปรกติของยุนโฮยิ่งทำให้แจจุงสงสัย ร่างบางขืนตัวไว้เมื่อยุนโฮพยายามดึงข้อมือให้เค้าเดินตามไป

                   “มีคนจะฆ่าผมหรอ?....ผมจะตายไหมผมทำไมคุณไม่บอกอะไรผมเลยผมเคยเป็นยังไง?...เป็นคนแบบไหนหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุวันนั้นทำไมผมถึงถูกตามฆ่า?...ทำไมคุณถึงเก็บผมไว้?...ทั้งๆที่ผมจะฆ่าคุณทำไมถึงปกป้องผมคุณไม่เคยบอกอะไรผมเลย…. 

                   …………เธอ……ไม่ควรจะรู้อะไรในตอนนี้….” ว่าแล้วก็กระชากข้อมือของร่างบางให้เดินตามไปแต่โดยดี แจจุงกระตุกนิดหน่อย ก่อนจะสะบัดมือออก ก่อนจะถอดเสื้อโค้ทที่ยุนโฮสวมไว้แล้วปาใส่ร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า

                   “ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น!!!...จนกว่าคุณจะบอกผม!!...” ยุนโฮส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นเอาแต่ใจของร่างบาง ก่อนจะตัดสินใจอุ้มแจจุงขึ้นจนร่างบางแทบเอามือคล้องคอไว้ไม่ทัน

                   “ปล่อยนะ!! จองยุนโฮ!!! ปล่อย!!!......ผมไม่ไป….ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น!!!” แจจุงได้แต่ทุบอกกว้างนั้นแล้วพยายามแกะมือร่างสูงที่กดไหล่ของเค้าเข้าหาตัวของยุนโฮไว้แน่น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงสะทกสะท้าน ยุนโฮไม่ฟังเสียงโวยวายและด่าทอของร่างบางเท่าไหร่นัก

                   จะให้บอกทั้งหมดนั่นได้ยังไง….

                   เค้าบอกไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่รักกัน และน่าจะเป็นเพราะจางเฮริมหึงหวงถึงได้ดักทำร้ายร่างบางแบบนี้

                   ยุนโฮไม่อยากบอกให้แจจุงรู้เท่าไหร่นัก ว่าเค้าทั้งคู่รักกัน….เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอยู่แล้วพวกเค้าไม่ควรรักกันอยู่แล้ว ในเมื่อแจจุงลืมก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี…. คนที่เป็นฆาตรกรช่วงชิงเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากแจจุงอย่างเค้า ไม่สมควรได้รับการให้อภัยและความรักจากใครเลยแม้สักเล็กน้อย

                   เป็นการลงโทษตัวเองที่ดูจะทรมานไม่น้อย…. เพราะยุนโฮเองไม่ได้มีจิตใจที่เข้มแข็งขนาดนั้น….

                   เกราะกำบังที่ห่อหุ้มตัวของเค้าเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้คนภายนอกเห็น….

                   แท้ที่จริงภายในนั้นอ่อนแอและเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา…..

                   คำว่าต้องการ ต้องการ ต้องการ….ยังวนอยู่ในหัวตลอดเวลา…. เค้าต้องการแจจุง….

                   แต่ก็ทำได้แค่คิด…. เพราะเค้าไม่มีสิทธิ….ไม่มีสิทธิสักนิดเดียว….

                   ทำได้แค่ปกป้องร่างที่เค้าถะนุถนอมนักหนานี้ให้ปลอดภัยทั้งจากตัวเค้าและคนอื่น………

                   ยุนโฮทำได้แค่นี้เอง……

                   “ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้นะ” แจจุงเอ่ยทำลายความเงียบที่ปกคลุมมานานทั้งแต่ที่ถูกยัดเข้ามาในรถคันหรู ถนนหนทางตอนนี้ดูจะค่อยๆมืดลงตามกาลเวลา และเริ่มไร้ซึ่งผู้คนและความศิวิไล มีแต่ข้างทางที่เป็นสนามหญ้าบ้าง ท้องนาบ้าง และบ้านคนหลังเล็กๆต่อๆกัน

                   ……หยุดดื้อแล้วนั่งเงียบๆ……….” คำพูดเย็นชาเอ่ยจากริมฝีปากหนาที่ยอมเปิดปากพูดกับร่างบางหลังจากเงียบมานาน แต่คำแรกที่พูดนั้นดูจะไม่ได้ทำให้ร่างบางพอใจเท่าไหร่นัก แจจุงฟึดฟัดเพราะทำอะไรไม่ได้ ได้แต่กอดอกแล้วทำหน้าบูดเมื่ออากาศเริ่มหนาวเย็น

                   “ตาบ้าโรคจิต…. ตาแก่ขี้เก๊ก….หน้าบูด” เสียงพึมพำเหมือนสวดมนต์ แต่ยุนโฮได้ยินทั้งหมด อยากจะเขกหัวสักทีโทษฐานที่เสียมารยาท แต่ก็นะทุกสิ่งที่แจจุงทำตั้งแต่เสียความทรงจำเมื่อหกปีก่อนและจำความเดิมก่อนจะเกิดเหตุการณ์รถชนได้ ก็ดูแจจุงจะกล้าเถียงและเผยความเป็นตัวเองกับเค้ามากขึ้น ด้วยความเป็นเด็ก ต่างจากแจจุงคนเดิมลิบลับ ที่มักจะนิ่งเงียบ

                   ก็น่ารักไปอีกแบบ..แต่ก็น่าเขกหัวหลายๆรอบอยู่เหมือนกัน

                   ยุนโฮเหลือบดูกระจกรถและพบว่ามีรถคันหนึ่งขับตามเค้ามาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เค้าพยายามไม่คิดไปเองว่านั่นอาจจะเป็นแค่รถที่ออกเดินทางไปยังปูซานเหมือนเค้า เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าไว้ใจทั้งนั้น ความจริงที่สุดที่เค้าเพิ่งประสบมาคือแจจุงกำลังถูกไล่ล่า…. รถคันนี้มีอะไรบางอย่างที่น่าสงสัยอยู่ไม่ใช่น้อย

                   ยุนโฮหรี่ตาอย่างใช้ความคิด เค้าลองเลี้ยวออกไปถนนใหญ่ที่ไม่ได้มุ่งหน้าไปปูซาน แล้วรถคันนั้นก็ขับตามมาอย่างที่คาด….เค้ายกมือถือขึ้นตามสัญชาตญาณ

                   “ยูชอนหรอ….ฉันกำลังไปปูซาน แต่มีรถคันนึงตามมา………ถ้าเกิดอะไรขึ้นนายทำตามที่เคยตกลงไว้นะ….ได้โอเค….ไม่ต้องตามมาหรอก…… เฮ้!...ปาร์คยูชอน” เสียงเงียบไปแล้วดูเพื่อนของเค้าจะรีบร้อนตามมาทันที ยุนโฮสบถเล็กน้อยเมื่อยูชอนไม่ได้ฟังเค้าเลยสักนิด แจจุงลืมตาขึ้น เค้าทำเป็นหลับและแอบฟังร่างสูงคุยโทรศัพท์มาตลอด…..

                   ปัง!!!

                   !!!!!” แจจุงสะดุ้ง ยุนโฮเอามือกดหัวร่างบางให้ลงๆนั่งใต้คอนโซลรถ เค้าขับรถเซไปมาเพื่อลบกระสุนที่เริ่มรัวเร็ว ดีที่ยังไม่โดนล้อเข้าสักล้อในตอนนี้ รถคันนั้นดูเหมือนพยายามต้อนให้เค้าขับรถหนีเช้าโกดังใหญ่ที่เก็บสินค้าส่งออกจากบริษัทนึงที่ติดกับท่าเรือขนาดยักษ์

                   “ก้มลงไป!!! ห้ามขึ้นมานะ” ยุนโฮสั่ง ร่างบางได้แต่นั่งคู้ตัวแล้วเอามืออุดหูไว้แน่น

                   เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด!!!

                   ดูเหมือนกระสุนจะโดนล้อเข้าจนได้ รถของยุนโฮเหวี่ยงและชนเข้ากับกำแพงลังที่เยอะพอจะทำให้รถทั้งคันหยุดลงได้ รถอีกคันจอดไม่ไกลจากรถของเค้าเท่าไหร่นัก ยุนโฮพยายามผลักประตูออกก่อนจะเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับและดึงร่างบางออกมา แจจุงตัวสั่น ใบหน้าขาวซีดด้วยความตกใจกลัว ร่างสูงพาแจจุงวิ่งออกไปทางฝั่งที่เป็นท่าเรือ หวังว่าอย่างน้อยจะมีชาวประมงที่ทำงานดึกๆดื่นๆออกมาสักคนสองคน แต่ไม่เลย…. ตอนนี้พวกเค้าไม่พบใครนอกจาก….

                   ใครบางคนที่มีใบหน้าสวยราวกับหินสลัก ดูจะเป็นลูกครึ่งฝรั่งเพราะมีดวงตาสีฟ้าและสีผมบลอนซ์สั้นที่ถูกหวีไว้ด้านหลังจนเรียบสวย ร่างสูงยาวบ่งบอกสัญชาติเป็นอย่างดี ทุกอย่างดูโอเคยกเว้นปืนที่ยกขึ้นเล็งมาที่พวกเค้า แจจุงตัวสั่นขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อได้เห็นใครคนนั้นเสียงหายใจหอบถี่และรู้สึกเจ็บแปล๊บไปทั้งตัวโดยเฉพาะบริเวณหัว

                   “สวัสดีคิมแจจุง….” เสียงเย็นเยือกที่คุ้นเคย….แจจุงเหมือนได้ยินเสียงแบบนี้บ่อยๆในจิตใต้สำนึกหรือบางครั้งระหว่างที่เค้ากำลังนอน…..มันเย็นวาบและน่าชนลุก

    “สวัสดีครับ คุณแจจุง”

    “คุณ…..เป็นใคร” ลำคอ

    “หลบไป….

                   “พี่เฮริม……..อึ้ก!!!อ๊ะ!!!! อ็อก!!     

    “เฮริม!! พอ!! เดี๋ยวเค้าจะตายนะ”     

     

                “จางเฮริม คุณทำเกินไปนะ ถ้าโดนจุดที่อันตรายกว่านี้ คุณอาจจะไม่ทันได้ทำตามแผนหรอกนะ อยู่นิ่งๆแล้วทำตามที่วางแผนไว้ ไม่ใช่นอกแผนแบบนี้!!

                “จับแน่นๆ แล้วทำตามที่บอกไว้”          

                “จะทำอะไร ปล่อยนะ!!! อ๊า!!!

                “มองลูกตุ้มนะครับ….ดีมาก…..หนึ่ง…..สอง…..สาม เป๊าะ!!

                   “เธอจำมันได้ทั้งหมด…..เรื่องราวตอนที่เกิดอุบัติเหตุ กำลังอยู่ในหัวของเธอ”

                   “เธอคือใคร?

                “คิมแจจุง…. คือลูกชายของคิมแจฮา และคิมยองชิล ใช่ไหม”

                “เธออายุเท่าไหร่?”

    “เธอถูกรถชน….คนที่ขับรถคือจองยุนโฮ จองยุนโฮ คนนี้ ใช่ไหม”

                “คือคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเธอ…….พ่อแม่เธอตายในอุบัติเหตุนี้ เรื่องราวก่อนหน้านี้เธอจะลืมไปหมด ตอนนี้เธออายุสิบสอง…..เธอโกรธแค้นจองยุนโฮมาก เพราะเค้าเป็นต้นเหตุทำให้พ่อแม่ของเธอตาย เธอแค้นเค้ามาก”

                “ดูเหมือนความจำเดิมจะกลับมาแล้วนะ” เฮริมเอ่ยเป็นเชิงถาม

                “ใช่….ส่วนเรื่องหกปีที่ผ่านมาก็คงจะลืมหมดแล้ว”

                “คิมแจจุงมองตรงนี้นะครับ….ดีมาก……หนึ่ง…..สอง……สาม”

                เป๊าะ!! แจจุงสะดุ้งเมื่อตื่นจากภวังค์ หมอฮงดีดนิ้วแล้วยิ้มเยาะเมื่อเห็นปฏิกิริยาของร่างบางตามที่คาด ยุนโฮไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้ากำลังทำอะไรและต้องการอะไร แต่ดูท่าว่าร่างบางจะกลัวเสียงนี้และคนๆนี้มากเหลือเกิน สังเกตจากอาการสั่นเทาและใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตา

                   “ฮึกๆ….กลัว….กลัว….กลัวคนนี้…..ยุนโฮ….ผมกลัว….” แจจุงไม่แม้แต่จะมองหน้าใคร ได้แต่ก้มหน้า มือหนากำเสื้อเชิ้ตของร่างสูงแน่นจนยุนโฮเกรงว่าร่างบางจะเจ็บมือเสียเอง

                   “คุณเป็นใคร?...ต้องการอะไร?.....” ยุนโฮเอ่ยถามพยายามถอยห่าง แต่หนุ่มร่างสูงตรงหน้ายิ่งกระชับมือเข้าไปอีก ทำให้ยุนโฮต้องยืนนิ่ง….

                   “สวัสดีคุณจองยุนโฮ….แนะนำให้รู้จักช้าไปหน่อย…. ขอโทษด้วยที่เสียมารยาทผมอีวอลฮงเรียหว่าหมอฮงก็ได้

                   ตึก….ตึก….ตึก….

                   คนที่เพิ่งเอ่ยบอกแนะนำตัวเดินเข้าใกล้คนที่สองอย่างช้าๆ เพียงไม่กี่ก้าว อีวอลฮงก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของทั้งคู่ แจจุงหลับตาปี๋และตัวสั่นมากกว่าเดิม ปืนกระบอกเดิมยังเล็งที่หัวของยุนโฮ

                   “ต้องการอะไร?” ร่างสูงเอ่ย สีหน้าไม่หวาดกลัวเท่าไหร่ เพราะยุนโฮกำลังคิดว่าอะไรคือสาเหตุที่ชายคนนี้ไล่ล่าเค้า ทั้งๆที่เค้าเองก็ไม่ได้รู้จักคนที่ชื่อ อีวอลฮง มาก่อน หมอฮงกระชับปืน

                   Your……………..life…

                   !!!!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×