ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yaoi] Conceal Secret (YunJae,MicXiah)

    ลำดับตอนที่ #13 : ยอม (NC-18)

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 57



                      กวาดบ้าน ถูบ้าน ดูดฝุ่น ซักผ้า รีดผ้า ล้างจาน ทำกับข้าว และล้างห้องน้ำ คือหน้าที่หลัก.. จุนซูไม่เข้าใจว่าคนมีเงินมากมายแบบนี้ทำไมไม่รู้จักจ้างแม่บ้านของคอนโดมาทำอย่างเคย ร่างเล็กลากเครื่องดูดฝุ่นไปมา ในขณะที่ตัวต้นเหตุกำลังนั่งอ่านการ์ตูนหัวเราะร่าเริงอยู่บนโซฟากว้าง

                   อยากจะเอาเครื่องดูดฝุ่นดูดหน้าให้เป็นรอยสักสิบรอบ!.....

                   “ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ” จุนซูเงยหน้ามาด้วยความรำคาญเสียงหัวเราะน่าหมั่นไส้ของยูชอน ก่อนจะเก็นเครื่องดูดฝุ่นไว้ในตู้เก็บของดังเดิม เสียงโครมครามเพราะจุนซูโยนมันเข้าไปในห้องทีละชิ้น ทำเอายูชอนละสายตาจากหนังสือการ์ตูนเล่มนั้นมามองร่างบาง

                   “เฮ้ๆ คิมจุนซู เธอจะพังของๆฉันหรือไง ฉันจะหักเงินเธอนะ”

                   …………………………………ขอโทษครับ” จุนซูทำปากขมุบขมิบก่อนจะกลั้นใจพูดขอโทษทั้งๆที่น้ำเสียงไม่ได้สำนึกผิดเท่าไหร่นัก แต่ยูชอนก็ไม่ได้สนใจ

                   “ทำกับข้าวด้วย หิวแล้ว….

                   “ครับ” จุนซูเดินไปหยิบของจากในตู้เย็นมาหั่นๆๆๆ สับๆๆๆ สับไปก็มองหน้ายูชอนไป ยิ่งทำให้แรงสับเพิ่มขึ้นไปอีก เค้ารู้สึกเกลียดตัวเองที่ไม่เคยหนียูชอนพ้น แถมเจ้าคนตัวโตคนนี้ยังกวนอวัยวะส่วนล่างของเค้าซะแล้วอยากจะกระโดดทำฟรีคิกใส่หน้าหล่อๆนั่นให้หงายเงิบสักสิบรอบ!!

                   “เค็มชะมัด!! เธอใช้เท้าคนซุปหรือไง?” ยูชอนเบ้หน้าเมื่อชิมซุปน่องไก่เข้าไปคำใหญ่ แต่จุนซูไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ คนตัวเล็กที่ยังใส่ชุดผ้ากันเปื้อนสีฟ้ารูปปลาโลมาผืนเดิมยังนั่งงับตะเกียบไม่รู้ร้องรู้หนาว ยูชอนวางช้อนลงบนโต๊ะดังปั่ก!

                   “คิม-จุน-ซู….” ยูชอนกัดปากพูดจนเสียงลอดไรฟัน ร่างบางทำเป็นเพิ่งได้ยิน

                   “อ๊ะขอโทษครับ ผมทำเกลือกับซีอิ๊วหกคงแค่ถ้วยคุณมั้ง เดี๋ยวจะตักให้ใหม่นะครับ” ยูชอนอึ้งเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนแกล้ง

                   กล้ามากนะคิมจุนซู ย้ายมาอยู่แค่วันแรกก็เปิดศึกกับเค้าซะแล้ว….

                   ไม่รู้ซะแล้วว่าใครเป็นใคร!......

                   “คิมจุนซู

                   “อะไร?............................ครับ?...” น้ำเสียงถามหาเรื่องนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ต้องลงท้ายให้สวยงามเมื่อยูชอนค้อนใส่

                   “วันนี้ไปกองถ่ายแบบกับฉัน ฉันรู้นะว่าวันนี้นายไม่มีเรียน…. ตารางเรียนโกหกแผ่นนั้นฉันเผาขว้างไปแล้ว” จุนซูจิ๊ปากเมื่อโดนจับได้ ร่างบางจำเป็นต้องเตรียมตัวออกเดินทางไปกับยูชอนทั้งๆที่วันนี้วางแผนจะอู้งานนอนกลิ้งเกลือกเล่นเกมส์ในห้องของยูชอนสักหน่อย ยูชอนยิ้มอย่างเป็นต่อเมื่อได้เห็นหน้าหงอยๆของจุนซู

                   หูตกเลยนะ ลูกแมวเจ้าเล่ห์….

                   “คิๆ” ยูชอนหัวเราะน้อยๆขณะที่กำลังขับรถ จนจุนซูเริ่มไม่อยู่สุข กำลังคิดว่าร่างสูงมีแผนอะไรจะแกล้งเค้าอีก แต่ก็ทำได้แค่หงุดหงิด เค้าจึงหลับเงียบๆในรถรอจนกว่าจะถึงสตูดิโอน่าจะดีกว่า

                   --------------------------------

                   -----------

                   การรอคอยมันน่าหงุดหงิดชะมัด จุนซูไม่มีอะไรทำนอกจากนั่งดู ดู แล้วก็ดู ดูคนมากมายวิ่งไปมา ในขณะที่ยูชอนกำลังยืนโพสท่าอยู่บนฉากสีขาวสะอาด ยูชอนแต่งองค์ทรงเครื่องในคอนเซปท์เพลย์บอย (นี่ไม่ได้ดูจากตัวนายแบบหรอกใช่ไหม?) ดูเท่ห์แล้วก็มีสเน่ห์ การโพสท่าและทำสีหน้าตามที่ตากล้องบอกทำให้ยูชอนยิ่งน่าหลงใหลมากขึ้น สาวๆสไตลิสต์บางคนแอบกรี๊ดกร๊าดอยู่ด้านหลัง จนจุนซูหมั่นไส้….

                   ชิจะบอกให้นะพวกหล่อน…. ตอนที่ยูชอนอยู่ที่บ้านน่ะ นั่งเกาพุงย้อยแกร๊กๆ ชี้นิ่วสั่งอย่างกับเค้าเป็นคนใช้(ก็ใช่นี่นะ?) จุนซูบ่นงึมงำในใจ

                   “นี่ยูชอนไหนล่ะนางแบบที่บอกว่าจะให้เอามาถ่ายด้วยน่ะ?” ผู้จัดการถามยูชอน ก่อนที่จะร่างสูงจะขี้ไปยังร่างบางที่นั่งสัปหงกอยู่ตรงมุมหนึ่งของสตูดิโอ

                   “นี่!...นั่นผู้ชายไม่ใช่หรอ?” ผู้จัดการคิมเอามือป้องปากใส่หูยูชอน ก่อนที่ร่างสูงจะหัวเราะหึๆ

                   “ผู้ชาย…. แต่แต่งหญิงแล้วสวยยิ่งกว่าคิมแตฮี รับรองดังระเบิดระเบ้อ ไม่ผิดหวังหรอกครับ….

                   “เอาจริง?” ผู้จัดการหนุ่มย้ำ

                   “จริ๊ง!!

                   ------------------------

                   --------------

                   “เฮ้ยๆ!! จะพาผมไปไหนน่ะ คุณ! ผมไม่ใช่นายแบบนะ ไม่ เอ๊ย! ให้ผมนั่งตริงนี้ทำไม!.... ไม่!... จะบ้าหรอคุณ!!! อ๊า!!! ไม่เอา ผมไม่ใช่ชุดแบบนี้!!! นี่พวกคุณหยุดนะ!!!!!

                   “ฮึๆๆๆๆๆ คึคึๆๆๆ” ยูชอนหัวเราะเมื่อได้ยินเสียงโวยวายดังลั่นของจุนซูออกมาจากห้องแต่งตัว เค้าเองเป็นคนกำชับทีมงานว่า ไม่ว่าจุนซูจะโวยวายอะไรก็ให้จับแต่งตัวออกมาให้ได้ เวลาไม่นานนัก เสียงดังแกร๊กของประตูก็ดังขึ้น ยูชอนที่กำลังหยิบชามาดื่มอึกๆก็หมุนเก้าอี้มาตามเสียงทันที

                   “ปาร์คยูชอน!!!!!!

                   พรวด!!! น้ำชาพุ่งพรวด ยูชอนตาค้าง เค้าเอามือปาดริมฝีปากเบาๆ ในขณะที่กำลังอึ้งอยู่ ผู้จัดการคิมที่อยู่ข้างหลังก็ลุกขึ้นมาปรบมือเบาๆ

                   “โอ้ววววว!! GOD!! นายตาถึงจริงๆ ปาร์คยูชอน!!... นี่มันยิ่งกว่าคิมแตฮี กับฮาจีวอนรวมกันซะอีก!!

                   แต่ดูจะเป็นคิมแตฮีที่แมนไปหน่อย เพราะจุนซูดึงกระโปรงที่ยาวลากพื้นขึ้นเพื่อให้เดินสะดวก ดูกระโดกกระเดก ขัดกับใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มจนสวยหวาน วิกผมยาวสีดำเป็นลอนทำให้หน้าเรียวดูเด่นขึ้น ริมฝีปากที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูเรื่อกับแก้มที่ถูกปัดอ่อนๆ ทำเอายูชอนใจเต้นไม่เป็นส่ำ…. ชุดระบายสีดำพอดีกับร่างเล็กนั่นก็ทำให้จุนซูดูเหมือนผู้หญิงมากขึ้น นาทีนี้ยูชอนพูดไม่ออก ได้แต่มองจุนซูตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกรอบ

                   “ปาร์คยูชอน!! เรามีเรื่องต้องคุยกัน!!!” จุนซูดึงแขนยูชอนออกไปตรงบันไดหนีไฟ ก่อนจะปิดประตูดังปัง! แต่ก่อนที่จุนซูจะใช้ปากอิ่มสีชมพูนั่นพูดอะไรก็ถูกดึงแก้มไปจุ๊บจนริมฝีปากหนาอิ่มยุบลงไปด้วยแรงกด เร็วกว่าที่คิด ยูชอนเอียงหัวหลบมือเล็กที่หมายจะตบเค้าได้ทัน ลิ้นหนาแลบเลียริมฝีปากก่อนจะกอดอกอย่างใช้ความคิด

                   “อืมมมม…. นี่ลิปรสอะไรน่ะ?.....เชอร์รี่หรอ?”

                   “ปาร์คยูชอน!! เรื่องจูบไว้ทีหลัง แต่ตอนนี้ทำไมถึงให้เค้าแต่งตัวให้ผมเป็นแบบนี้!! แมวน้อยสีดำขู่ฟ่อจนขนฟองฟู ยูชอนคาดเดาอยู่แล้วว่าร่างบางก็ต้องโกรธหัวหมุนแบบนี้…. แต่นี่ไม่ใช่เครื่องหมายแห่งความสำเร็จหรอกหรอ?...

                   “จุ๊ๆๆๆ คิมจุนซู นี่หนึ่งในงานของเธอนะ ห้ามบ่นสิ พอดีนางแบบเค้ามาไม่ได้ ฉันเลยให้เธอมาเป็นแทน ได้เงินต่างหากจากกอง ดีจะตาย ฉันหางานให้เธอนะ”

                   “ใครขอคุณ? ห๊า?....

                   “ยูชอน!!! พานางแบบมากองได้แล้ว เร็วๆ เดี๋ยวจะต้องถ่ายเซตต่อไปของนายแบบคนอื่นนะ!” ผู้จัดการเคาะประตูเรียกเมื่อทั้งคู่ออกมานานมากแล้ว จุนซูเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก ยูชอนใช้โอกาสนั้นดึงแขนร่างบางไปที่กองโดยไม่สนใจคำโวยวายของจุนซูเลย

                   ถูกมัดมือชกจนได้!!!

                   “ชิดๆกันหน่อยคร๊าบบบบบ….ดีครับ ยูชอน โอบเอวนางแบบหน่อยเร็ว นั่นแหละๆ” ยูชอนได้ทีก็เอาใหญ่ โอบเอวของจุนซูให้ชิดกับตัวของเค้าจนแก้มนุ่มของร่างบางชิดกับปลายคางของยูชอน ร่างบางค้อนใส่ยูชอนที่ทำหน้าเหรอหราทำเป็นไม่รู้ตัว แต่จุนซูก็ต้องฝืนยิ้มแห้งๆเมื่อตากล้องหันมามองด้วยความสงสัย

                   “คราวนี้จุนซูโอบเอวยูชอนจากด้านหลังนะ เอ้า! หันมาด้านข้าง……….. จุนซูคร้าบบบ…. โอบแน่นกว่านี้หน่อยน้า เดี๋ยวภาพไม่สวย”

                   “โอบแน่นๆหน่อยสิ!” ยูชอนกระซิบดังๆแต่จุนซูก็ยังแค่เอามือแตะเอวยูชอนเหมือนเดิม แถมยังไม่มองหน้ายูชอนพลางทำหน้าบึ้งจนปากยื่น…. ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากิริยาแบบนี้มันน่ารักจนยูชอนยิ่งอยากแกล้งเข้าไปอีก ร่างสูงดึงแขนจุนซูจนตัวเอนล้มมาโอบเอวยูชอนแน่น จนตากล้องได้ภาพที่เป็นธรรมชาติมากๆ ดูท่าวันนี้จะเป็นวันของยูชอนจริงๆ ที่เค้าได้แกล้งร่างบางแถมยังได้กำไรอีกหลายต่อแบบนี้….

                   -------------------------------

                   ----------

                   “เห็นไหม?....ได้เงินตั้งเยอะ…. คราวนี้ไม่บ่นเลยนะตั้งแต่กลับมา” จุนซูคลี่เงินที่หยิบจากในซองสีขาว มันเยอะมากกว่าร้องเพลงครั้งหนึ่งเสียอีก ค่าเทอมเทอมนี้นอนตายตาหลับแล้วคิมจุนซู!!! ถึงจะโกรธก็เถอะ!!....แต่เรื่องเงินดูเหมือนจะทำให้จุนซูยิ้มออกได้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ!...

                   ………แต่คุณก็ไม่มีสิทธิแกล้งผมแบบนี้อยู่ดี!.... คุณยูชอนผมพอจะรู้แล้วล่ะ เหตุผมที่คุณอยากจะให้ผมมาทำงานด้วยนักหนา เพราะคุณอยากจะแกล้งผมใช่ไหม? แค่นั้นใช่ไหม?” จุนซูเหวี่ยง เค้าคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่ถูกแกล้งครั้งแรกๆแล้ว แต่ก็คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นแบบนี้ เค้าเป็นแค่เครื่องมือในการให้ความบันเทิงแก่ยูชอนเท่านั้น ยูชอนเห็นเค้าเป็นตัวอะไร? เห็นเค้าเป็นแค่ตัวตลกงั้นหรอ?

                   ………ไม่เอาน่า คิมจุนซู…. เธอก็ได้เงินไม่ใช่หรอ? แล้ววันนี้เธอก็กลายเป็นสาวสวยด้วย….ได้เป็นนางแบบครั้งแรกเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ให้เธอซะอีกนะจุนซู” ยูชอนพูดจากวนบาทาอีกแล้ว จุนซูคิด เค้าได้แต่หงุดหงิดและอดทนต่อไปสินะ

                   “ประสบการณ์ใหม่กับผีอะไรล่ะ!!! ตาแก่บ้า!!! โรคจิต!...เล…..” ก่อนจะได้ด่าต่อ จุนซูก็ต้องหยุดพูดอีกครั้ง

                   “เอาสิ….พูดอีกก็จูบอีก” ยูชอนยื่นหน้ามาใกล้จนจุนซูงับปากก่อนจะวิ่งออกจากห้องแล้วแลบลิ้นใส่

                   ก็มันน่ารักแบบนี้น่ะสิ!!! จะไม่ให้ไม่แกล้งได้ยังไง!!!

                  

                   แจจุงรู้สึกแย่ที่ต้องมานั่งๆนอนๆอยู่ในออฟฟิศทั้งวันโดยที่ไม่มีอะไรทำนอกจากเกมส์กดที่เค้าเล่นจนเบื่อมาทั้งวันแล้ว ยุนโฮได้แต่เซ็นเอกสารยุกยิกๆ ไม่ก็จิ้มคอมมือรัวจะคอมพิวเตอร์แทบจะเป็นรูพรุนได้แล้วล่ะมั้ง สักพักหนึ่งก็เปิดทีวีดูตลาดหุ้นแล้วก็เดินไปๆมาๆ เสร็จแล้วก็จดอะไรไม่รู้ยุกยิกๆ แจจุงหงุดหงิดเมื่อยุนโฮไม่ได้สนใจท่าทีอารมณ์เสียของเค้าเลยสักนิด ร่างบางจึงหาแผนที่จะหนีออกจากที่นี่ไปสูดลมที่ไหนสักแห่ง

                   “ไปไหน?...” ยุนโฮหันควับ! เมื่อจู่ๆแจจุงก็ลุกขึ้นเดินไปตรงประตูทำท่าจะเดินออก มือกำลูกบิดเบาๆ

                   “ไปเข้าห้องน้ำ….” ยุนโฮหรี่ตาลง เมื่อแจจุงมีท่าทีแปลกๆ แต่ก็ถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าให้แจจุงออกไปได้ เค้าเดินวนกลับมาที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะลงมือเคาะแป้นพิมพ์อีกครั้ง โดยที่ไม่ได้เอะใจเลยว่าเมื่อได้โอกาสร่างบางก็วิ่งออกจากห้องไปยังลิฟท์แก้วทันที

                   พอกันทีกับการถูกกักขัง!.... สองสามวันมานี้เค้าราวกับเป็นนักโทษไม่มีผิด เค้าต้องทำตัวติดกับยุนโฮตลอดเวลาไม่ว่ายุนโฮจะไปประชุมอยู่ในออฟฟิศ หรือไปคุยงานที่ไหนก็ตาม มันทั้งน่าเบื่อและไร้ซึ่งอิสรภาพสุดๆ ถึงแม้ว่ายุนโฮจะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของเค้าก็ตาม

                   แต่นี่มันเกินไป!!

                   แจจุงหันซ้ายแลขวา ก่อนจะเดินข้ามถนนไป อาศัยคนถามทางนิดหน่อยเค้าก็ได้เดินชอปปิ้งชิลล์ๆที่เมียงดงแล้ว แจจุงเดินไปเดินมาหลังจากที่ซื้อไอศกรีมมาเลียเล่น แถมยังได้ของติดไม้ติดมือมาด้วยไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือกระเป๋าที่อยากได้

                   รู้แบบนี้ก็หาเรื่องหนีมาเที่ยวตั้งนานแล้วล่ะ!!

                   ………” เสียงอะไร?... แจจุงหันไปทางข้างที่เป็นทางแคบๆระหว่างตึกแถว ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองมา ร่างบางยกนาฬิกาขึ้นดู

                   อา….ดึกป่านนี้แล้ว โดนเหวแน่ๆ…..

                   ตึก!....

                   เสียงอะไรอีกแล้ว?.... ร่างบางเริ่มใจไม่ดี ระหว่างที่เดินมาตามทางมืดๆ เพื่อที่จะเดินไปหาป้ายรถเมล์

                   “อื๊อ!!” มือปริศนาที่ยึดใบหน้าเค้าไว้แน่นจนพูดอะไรไม่ออกแถมยังดึงให้เค้าลงไปนอนแนบกับหน้าอกของใครบางคนที่ตัวใหญ่กว่าเค้าพอควร อารามตกใจทำเอาแจจุงทั้งทุบทั้งตีเจ้าของมือหนานั่น บุคคลปริศนายกนิ้วอีกข้างมาแตะริมปาก

                   “ชู่…. เงียบๆ” เสียงคุ้นหูทำให้แจจุงมั่นใจว่าเป็นคนที่เค้ารู้จักเป็นอย่างดี

                   จองยุนโฮ!!

                   ใครบางคนในชุดเสื้อโค้ทสีดำเดินผ่านไป เป็นผู้หญิงที่ทำตัวลับๆล่อๆและเสียงฝีเท้านั้นก็เป็นเสียงเดียวกับที่แจจุงได้ยินมาตลอดทาง ยุนโฮหรี่ตา เค้าดันให้แจจุงไปหลบใต้พุ่มไม้ก่อนที่ตัวเองจะยื่นหน้าไปดูหญิงสาวที่วนอยู่แถวๆนั้นด้วยท่าทางที่อารมณ์เสีย ราวกับทำอะไรผิดพลาด มือของหญิงสาวยกขึ้นลูบใบหน้าอย่างใช้ความคิด นั่นทำให้ยุนโฮเห็นอะไรบางอย่างที่เค้าไม่คิดว่าจะเป็นไปได้

                   แหวนหมั้นนั่น……

                   ยุนโฮมั่นใจเหลือเกินว่าแหวนวงนั้นเป็นแหวนแบบเดียวที่โลกนี้น่าจะมีอยู่ เพราะเป็นแหวนประจำตระกูลที่แม่ของเค้ามอบให้จางเฮริม และเมื่อสังกตุชัดๆจะเห็นว่าใบหน้าใต้แว่นดำนั่นคุ้นๆบอกไม่ถูก หญิงสาวกัดริมฝีปากแดงปลั่ง ก่อนจะขึ้นรถที่มาจอดรอไว้เมื่อกี้นี้ ด้วยท่าทีแปลกๆ ยุนโฮดึงแจจุงออกมาจากพุ่มไม้นั่น ก่อนจะชะเง้อมองตามรถคันนั้นไป รถสปอร์ตสีเทา และป้ายทะเบียนที่เค้าจดจำได้ชัดเจน น่าจะเป็นหลักฐานในการยืนยันว่าบุคคลที่สะกดรอยตามแจจุงเมื่อกี้เป็นจางเฮริมจริงหรือไม่….

                   “เค้าสะกดรอยตามผม!” แจจุงโพล่งขึ้นมาในขณะที่ยุนโฮใช้ความคิด ก่อนจะหน้าหงอยเมื่อร่างสูงทำหน้าดุใส่

                   “รู้หรือยังว่าทำไมไม่ให้ไปไหน?!” ร่างสูงเผลอแผดเสียงใส่ด้วยอารมณ์ เวลาไม่นานนักหลังจากที่แจจุงหายไปเข้าห้องน้ำนานเกิน ทำให้ยุนโฮทิ้งงานทุกอย่างวิ่งโร่หาแจจุงทันที เค้าเดาว่าน่าจะเป็นเมียงดง เพราะไม่ไกลจากบริษัทมาก แถมแจจุงก็รู้ที่เที่ยวแค่ที่นี่ซะด้วย จึงไม่ยากเลยว่าจะตามแจจุงได้จากที่ไหน ร่างสูงทั้งเดือดเนื้อร้อนใจและแทบคลั่งเมื่อรู้ว่าตัวเองปล่อยปะละเลยร่างบางขนาดนี้ นี่ถ้าเค้าช้าไปอีกนาทีเดียวจะเกิดอะไรขึ้น?.... ยุนโฮไม่อยากคิด….และเค้าก็ไม่มีวันที่จะให้เรื่องบ้าๆเกิดขึ้นกับแจจุงอีกเด็ดขาด….

                   “ก็ผมไม่ได้ไปไหนเลย!..วันๆก็ต้องมานั่งดูคุณทำงาน…. ไปเรียนก็ไม่ได้ไป…. ไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้ไปเลย!...ผมเบื่อ!!...เบื่อๆๆๆ!!!

                   “คิมแจจุง!!!” แจจุงสะดุ้งเมื่อยุนโฮตะคอกใส่เค้าเป็นครั้งแรกตั้งแต่เค้าฟื้นขึ้นมา ใบหน้าหล่อเดือดดาลบอกให้รู้ว่าโกรธมากแค่ไหน ที่เค้าทำให้ร่างสูงเป็นห่วงขนาดนี้ แจจุงนิ่วหน้าและยังคงตกใจเมื่อยุนโฮยังบีบต้นแขนของเค้าไว้แน่น

                   “เธอต้องอดทนตราบใดที่มีคนตามจะฆ่าเธอแบบนี้น่ะ….เธออยากตายหรือไง? ห๊า?....เธอทำให้ฉันแทบจะเป็นบ้ารู้ไหม!!?.... ถ้าเธอเป็นอะไรไปแล้วฉันจะทำยังไงหื้อ?.... ขอร้องล่ะแจจุงห่วงตัวเองบ้าง….ถ้าเธอไม่คิดจะห่วงความรู้สึกของฉันเลย….” ยุนโฮเขย่าแจจุงจนร่างบางสั่นไหว ร่างสูงดูอ่อนลงเมื่อคิดว่าตัวเองเริ่มทำรุนแรงกับร่างบาง ก่อนจะถอดเสื้อโค้ทของตัวเองมาคลุมไหล่ของแจจุงเอาไว้

                   “กลับบ้านเถอะ…. ถ้าเธอเบื่อ ฉันจะเอางานมาทำที่บ้าน…. ถ้าเธออยากไปเที่ยวไหน ฉันจะพาไป….แต่อย่าหนีไปแบบนี้อีกนะ ฉันเป็นห่วงเธอแทบจะบ้าตาย รู้ไหม?” ยุนโฮดึงตัวร่างบางมากอดไว้แน่น เค้าก้มใบหน้าชิดกับซอกคออุ่นของแจจุงจนร่างบางรับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่มาจากตัวของร่างสูง ฉับพลันนั้นแจจุงก็เห็นภาพบางอย่างขึ้นมาในหัว เป็นคืนที่ฝนตก มีคนสองคนยืนกอดกันแบบนี้…. นั่นใคร…. นั่นเค้า….กับใคร….จองยุนโฮ?

                   “คุณยุนโฮ ฮือออออ ๆ พูดอีกครั้งได้ไหมครับ…….

                “เธอ…..เธอจริงๆใช่ไหม…..ตัวยังอุ่นๆ ใช่….ใช่แล้วคิมแจจุง”

                “เด็กบ้าเอ๊ย……..รู้ตัวไหมว่ากำลังจะฆ่าคนแก่….

                “ฮืออออออออออออ….ฮือออออออๆๆคุณยุนโฮฮฮฮ……

                   คราวนี้แจจุงไม่ได้ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเหมือนแต่ก่อนเวลาที่ความทรงจำโผล่ขึ้นมา ครั้งนี้เป็นหยดน้ำตาที่ไหลลงมาแทน แจจุงเหม่อมองผู้ชายตรงหน้าที่ผละเค้าออกจากอ้อมกอด ความทรงจำที่ผ่านมากับความรู้สึกในตอนนี้ชัดเจนขึ้นอย่างประหลาด ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ….

                   ทำไมถึงรู้สึกรักผู้ชายคนนี้นะ…..

                   “เธอ เป็นอะไรไป ฉันว่าเธอแรงไปหรอ…. ขอโทษนะ….เอ่อเพราะว่าฉันเป็นห่วงเธอน่ะ” แจจุงยังไม่หยุดร้องไห้ น้ำตาทำท่าจะไหลออกมาเรื่อยๆ ยุนโฮถอนหายใจเมื่อรู้ว่าพูดไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น ก่อนจะเอามือเกลี่ยแก้มใส เช็ดน้ำตาให้ร่างบาง แจจุงรู้สึกถึงความอบอุ่นบอกไม่ถูก

                   เค้ารักคนๆนี้ไม่ได้…… เค้าจะรักคนที่ฆ่าพ่อกับแม่ของเค้าได้ยังไง…….

                   ไม่จริง………

                   “กลับเถอะ” ยุนโฮกุมมือแจจุงแน่นก่อนจะพาไปยังรถที่มาจอดรอไว้อยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ยุนโฮโทรบอกให้พ่อบ้านซอมารับก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เมื่อกี้ขึ้น แจจุงยอมเดินตามไปแต่โดยดี และดูนิ่งงันกว่าครั้งก่อนๆ

                   การตัดสินใจบางอย่างกำลังเกิดขึ้นในหัวเล็กๆที่มีแต่ความสับสน….

                   แจจุงไม่อาจรู้ได้ว่าจะแก่ไขปัญหานี้ได้ยังไง……..

                   มันยากเกินไปที่จะเดินจากยุนโฮออกไปทั้งๆที่ยังรัก…..

                   และมันก็ยากเกินไปที่จะรักคนที่เอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเค้า…….

                   มันจะเป็นไปได้ไงที่….คนๆนึงที่เอาทุกสิ่งทุกอย่างจากเค้าไป….จะกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเค้า……..

                   มันไม่มีจริงและเป็นไปไม่ได้………….แจจุงคิดแบบนั้น…..

     

                   ยูชอนคิดว่านี่เป็นการเล่นตลกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยได้เห็นมา ชายชราตรงหน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้ากำลังนั่งคุยกับภรรยาใหม่ของเค้าอย่างออกรสในบ้านของเค้าเอง ร่างสูงปล่อยมือจุนซูออกหลังจากที่กลับมาจากสตูดิโอ รอยยิ้มที่เคยมีพลันจางหายไป

                   “เธอขึ้นไปรอข้างบน…..” จุนซูเดินขึ้นไปอย่างว่าง่าย ชายชราดึงไปป์ออกจากริมฝีปากที่ค่อนข้างคล้ำออก ก่อนจะพ่นควันสีเทาคละคลุ้ง หญิงสาวอายุมากกว่าเค้าเล็กน้อยกำลังทาสีเล็บโดยที่ไม่ได้สนใจอะไรเลย ถึงแม้เค้าจะยืนอยู่ตรงนั้นก็ตาม ชายชราขยับตัวเล็กน้อย เค้าลุกขึ้น ก่อนจะเดินวนไปมารอบๆร่างสูงที่ยืนนิ่ง รอคำพูดบางอย่างจากริมฝีปากคล้ำนั่น

                   “เป็นไง ธุรกิจยังไปได้ดีสินะ?” เป็นคำทักทายแรกสำหรับคนเป็นพ่ออย่างนั้นหรอ? ยูชอนนึกขัน เมื่อรู้ว่าตัวเองน่าสมเพสที่มีพ่อแบบที่คิดถึงเรื่องเงินเพียงอย่างเดียวแบบนี้ อ้อ ไม่ใช่สิเรื่องผู้หญิงด้วย?

                   “กรุณา…..เอาผู้หญิงคนนั้น….ออกไป” ยูชอนไม่ตอบคำถาม แต่เอ่ยปากเป็นประโยคคำสั่ง หญิงสาวหันมามองเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มแล้วหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเดินมาแตะไหล่ของยูชอน หล่อนเป่าเล็บให้แห้ง ก่อนจะเอ่ย

                   “โถ่ๆๆๆ….พ่อหนุ่มน้อย….นั่นไม่ใช่คำทักทายที่ควรพูดกับ….แม่เลยนะ” ยูชอนสะบัดแขนก่อนจะดึงคอเสื้อของหญิงสาวขึ้น

                   “ว๊ายยย!!” หล่อนวี้ดว้ายด้วยจริตจะก้านที่ยูชอนรังเกียจนักหนา ใบหน้าหล่อเหลายิ่งดุดันมากขึ้นเมื่อหญิงสาวบังอาจใช้คำว่าแม่กับเค้า

                   “คุณมีสิทธิอะไร…..มาใช้คำนั้นกับผม!!!! ร่างสูงตะคอก..หญิงสาวได้แต่เหลือบตามองสามีเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่อวดเก่งอยู่นาน

                   “ปาร์คยูชอน!!!! ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ!!” มือหนายอมปล่อยทันที หลังจากที่ผู้เป็นพ่อสั่ง

                   “คุณต้องการอะไร….บอกมาสิ….ปาร์คแทซู!!....คราวนี้ต้องการอะไร!!!!?....

                   “แค่จะมาเอาเครื่องประดับของแม่แกน่ะ….อยู่ไหน?” ชายชราดูไม่มีท่าทีที่ล้อเล่นแล้ว เค้าถามลูกชายของตัวเองด้วยสีหน้าจริงจัง

                   “เอาไปทำไม….อย่าบอกนะว่าจะเอาไปให้ยัยนี่!!!

                   “แล้วจะทำไม?.....เรื่องของฉันน่าเอามาแล้วกัน…. เดี๋ยวฉันซื้อใหม่ให้แก แพงกว่านั้นก็ยังได้เลย เอาไหมล่ะ?” ยูชอนทั้งอึ้งและโกรธ…. เค้าเคยอยากจะฆ่าพ่อของตัวเองแต่ก็ทำไม่ได้ แต่ในวันนี้มันทำให้เค้าอยากทำแบบนั้นจริงๆ.. พอจะรู้อยู่แล้วว่าพ่อของตัวเองทำอะไรกับเค้าและแม่ของเค้าไว้มากแค่ไหน…. แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นถึงขนาดนี้….ไม่คิดว่ามารยาหญิงของผู้หญิงขายตัวคนนี้จะทำให้พ่อของตัวเองมัวเมาและทิ้งลูกเมียไปอยู่ด้วยที่ต่างประเทศแบบนี้….

                   แถมคราวนี้ยังมาเอาเครื่องเพรชของแม่เค้าที่มอบไว้ให้เค้าก่อนตายไปให้ผู้หญิงคนนั้นอีก………

                   เค้ารับไม่ได้และยิ่งเกลียดพ่อของเค้าและหญิงต่ำช้าคนนี้มากชึ้น…….

                   “ออกไป….อย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก……ออกไป!!!!!” ยูชอนคว้าโถข้างๆมือที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์ขว้างจนแตกกระจาย ปารร์คแทซูเห็นท่าไม่ดี และคงคิดว่าเค้าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการแน่ๆ จึงยอมพยักหน้าไหวๆ ก่อนจะดึงตัวหญิงสาวออกไป

                   “ปาร์คยูชอน…. เปลี่ยนใจเมื่อไหร่บอกได้นะ…. ฉันยินดีจ่ายเสมอ”

                   “ออกไป!!!!” ยูชอนตะโกนจนคอเกร็ง  น้ำตาไหลออกจากดวงตาที่แข็งกร้าว ยูชอนแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเค้าจะน่าสมเพสได้ถึงขนาดนี้ พ่อเค้าเป็นคนที่ต่ำช้าและเลวทรามมาก พอๆกับผู้หญิงของเค้า….

                   “โว้ยยยยยยยยยยยยยย!!!!!” ยูชอนกวาดของบนโต๊ะอาหารตกเกลื่อนและแตกกระจาย แม่บ้านลีได้แต่มองดูยูชอนห่างๆและไม่กล้าเข้าไปตอนนี้ เหมือนกับจุนซู

                   ร่างบางแอบดูยูชอนตั้งแต่ที่ทั้งสามเริ่มมีปากเสียงกัน จุนซูทั้งตกใจและสงสารยูชอนจับใจ แม่บ้านลีสังเกตุเห็นว่าจุนซูกำลังแอบมอง จึงวิ่งรี่ไปหาตัวช่วยทันที

                   “คุณจุนซูทำอะไรทีสิ”

                   “คุณยูชอน เป็นแบบนี้เสมอหรอครับ….ถ้างั้นคุณแม่บ้านต้องรู้สิว่าต้องทำยังไง!

                   “โถ่!! คุณไม่เคยห้ามสำเร็จสักครั้งหรอกค่ะ!! ถ้าคุณยูชอนอาละวาดจนได้แผลก็ออกไปมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่น ไม่ได้เมาแอ๋กลับมาน่ะค่ะ แต่คราวนี้รุนแรงกว่าที่เคย เพราะจู่ๆคุณท่านก็กลับมา…. ทั้งๆที่ไม่ถูกกันอยู่แล้วแต่ดูสิยังมาทำแบบนี้กัยคุณหนูอีก….ป้าก็ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ ว๊าย!!!   

                   โครม!! เพล้ง!!

                “ฮือๆๆๆ สาธุ ขออย่าให้เป็นโถใบนั้นเล๊ยยยยยย แพงตับฉีก ป้าเสียดายยยยย” แม่บ้านลีได้แต่ไหว้พงกๆ รอคอยให้การอาละวาดของยูชอนผ่านไป แต่จุนซูอดทนไม่ไหวแล้ว แบบนี้อีกไม่นานยูชอนต้องได้แผลแน่ ร่างบางสิ่งออกไปโอบยูชอนไว้ด้านหลัง เมื่อยูชอนกำลังเอาไม้เบสบอลตีกระจกที่อยู่ติดผนังห้องบานใหญ่นั่น ทำให้ร่างสูงหยุดชะงักทันที ร่างบางย้ายมาอยู่ตรงหน้าร่างสูงและดึงมือที่กุมไม้เบสบอลแน่นนั่นให้ลดระดับลง

                   “ยูชอน!!..ใจเย็นๆนะ……ผมรู้ว่าคุณกำลังโกรธแต่ยิ่งทำแบบนี้……

                   “ไม่ใช่เรื่องของเธอออกไป!!” ยูชอนสะบัดมือก่อนจะใช้ไม้นั่นทุบกระจกบานใหญ่แตกจนได้ จุนซูสะดุ้ง เอามือปิดหูเมื่อกระจกใหญ่ตกลงมาเสียงดังเพล้ง!! ร่างสูงทำท่าจะใช้ไม้เบสบอลทุบรูปใบใหญ่ที่มียูชอนและพ่อแม่ของเค้าครั้ง แต่จุนซูดึงแขนของยูชอนไว้ด้วยนมือทั้งสองข้าง

                   “คุณทำอะไร!! นั่นรูปครอบครับคุณนะ!!

                   “เรื่องของฉัน!!!” จุนซูถูกเหวี่ยงจนหัวโขกกับมุมโต๊ะ ก่อนจะล้มลงไปนั่งกับพื้น เพราะน้ำหนักที่กดลงไปทำให้มือของร่างบางกดทับกับกระจบที่เพิ่งแตกเมื่อกี้ เลือดไหลซิบๆออกจากมือเล็ก จุนซูนิ่วหน้า และต้องสะดุ้งอีกเมื่อยูชอนยังไม่หยุดอาละวาด จุนซูกลัวกลัวยูชอนในเวลานี้ แต่เพราะความเป็นห่วงมากกว่าเค้าจึงพยายามที่จะห้ามร่างสูงแต่เค้าก็ทำไม่ได้ จุนซูยกมือที่เปื้อนเลือดขึ้นมากุมไว้ แก้มเปียกชื้นด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลลงมา ไม่แน่ใจว่าเจ็บแผลหรือเจ็บใจที่ช่วยอะไรร่างสูงไม่ได้เลย จุนซูลุกขึ้นไว้แรงเฮือกสุดท้ายกอดยูชอนไว้ หน้าซุกกับหน้าอกของยูชอนแน่

                   “ยูชอน หยุดเถอะนะ….เลือดคุณออกหมดแล้ว….พอเถอะ…..ได้โปรด” ร่างบางเสียงสั่นเครือ ยูชอนมองตัวเองจากเศษกระจกที่แตกร้าว พบว่าใบหน้าของตัวเองเปื้อนเลือดเพราะเศษกระตกที่กระเด็นมาโดนแก้มของเค้า ร่างสูงที่หายใจถี่ด้วยความโกรธเมื่อกี้เริ่มใจเย็นลงบ้าง แต่เค้าก็ดึงร่างบางออก ไม้เบสบอลถูกขว้างไว้บนพื้นอย่างไม่ใยดี ร่างสูงเดินออกจากบ้านแล้วขับรถออกไปอย่างเร็วรวด จุนซูทรุดลงกับพื้น

                   “คุณจุนซู!! ไปทำแผลเถอะ!! เลือดออกหมดแล้ว” แม่บ้านลีปรี่มาโอบไหล่ร่างบางที่นั่งร้องไห้เอามือกุมมือข้างที่เลือดออกไว้แน่น

                   “คุณป้า…..ผมไม่เจ็บเลย…….ผมเจ็บสู้เค้าไม่ได้สักนิด……. คุณป้าช่วยบอกผมที…..ว่าผมต้องทำยังไง…..ถึงจะช่วยทำให้ความเจ็บปวดที่มีในใจของเค้า…….ลดลงบ้าง……ผมทำอะไรไม่ได้เลย…….ฮืออออออออๆๆ…..ช่วยอะไรเค้าไม่ได้เลย……” จุนซูซุกใบหน้าเข้ากับอกของแม่บ้านลี ก่อนจะร้องไห้โฮอย่างน่าสงสาร แม่บ้านใจดีได้แต่กอดจุนซูไว้แล้วลูบหัวด้วยความเข้าใจ เพราะตลอดสิบปีมานี้เธอเองก็เจอกับเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ่อยๆ แต่ไม่กล้าพอที่จะเข้าไปห้ามเหมือนกับจุนซูเท่านั้นเอง

                   จุนซูไม่ได้ห่วงตัวเองเลย….ได้แต่ห่วงยูชอนที่พลุนพลันออกไปเมื่อครู่นี้…..

                   เค้าจะไปไหนนะ?.....จะไปมีเรื่องกับใครหรือเปล่า…….

                   -------------------------------------

                   ------------------

                   -----

                   คืนนี้จุนซูทำใจไม่ให้เลิกเดินไปเดินมาในห้องนี้ได้เลย ในเมื่อนี่เป็นเวลาเกือบตีสองแล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าร่างสูงจะกลับมาเลย โทรไปหาซีวอน ซีวอนก็บอกว่ายูชอนไม่ได้ไป Metal แล้วเมื่อเค้าร้องไห้ระบายกับซีวอนเท่านั้นแหละ ร่างสูงก็ออกรถไปตามหายูชอนให้ทันที ยุนโฮก็เช่นกัน วันนี้เค้าโทรหาจองยุนโฮเพื่อขอความช่วยเหลือเช่นกัน ร่างสูงรับปากอย่างดีกว่าจะตามหายูชอนให้เจอ แต่เค้าไม่รับปากว่ายูชอนจะกลับมาในสภาพใด ยิ่งทำให้จุนซูร้อนใจ แทบจะหาแท็กซี่ขึ้นไปตามหาเองเสียตอนนั้นเลย มือที่พันผ้าก๊อตไว้วางไว้บนแผลเล็กเหนือคิ้ว ตอนที่หัวโขกกับโต๊ะเมื่อกี้คิดไม่ถึงว่าจะมีแผลจนเลือดออก มารู้ตัวอีกทีตอนที่ป้าลีร้องว้ายแล้วหาน้ำแข็งมาประคบให้เค้า

                   แกร๊ก!!

                จุนซูสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูรั้วข้างนอกบ้าน ร่างเล็กขยี้ตาก่อนจะลนลานลงมาจากบ้านทันที ยุนโฮกับ.วอนช่วยกันแบกยูชอนที่ร่างกายสะบักสะบอมแถมยังเหม็นเหล้าหึ่ง เลือดออกที่มุมปากและมีบาดแผลที่หัวเล็กน้อย แต่เลือดที่ติดที่มือของเค้าน่าจะเป็นเลือดของคนอื่นมากกว่า

                   “ทางนี้ฮะ!...” จุนซูเปิดประตูห้องหลังจากที่ทั้งสองหนุ่มแบกเพื่อนตัวดีของเค้าด้วยความทุลักทุเล ร่างสูงทั้งร่างถูกโยนลงบนเตียงจนยูชอนครางอืออาในลำคอด้วยความรำคาญ ก่อนจะพลิกตัวด้วยความหงุดหงิด ร่างสูงไม่ได้สติ และยังอยู่ในอาการเมาอย่างเห็นได้ชัด สังเกตได้จากคำสบถหยาบคายที่ด่าทอพ่อของเค้าและผู้หญิงคนนั้น แถมยังพูดจาหาเรื่องกับใครไม่รู้ซึ่งจุนซูเดาว่าเป็นคนที่ไปมีเรื่องชกต่อยด้วยในคืนนี้นั่นเอง

                   “ไอ้…. ไอ้ลูกหมาเอ๊ยนึกว่ามันจะเป็นผู้เป็นคนได้สักทีแล้วนะ” ซีวอนพึมพำ ก่อนจะส่ายหน้าด้วยความระอาเล็กน้อย

                   ……….คราวนี้ใช้เงินอุดปากพวกนั้นไปมากพอดู เห็นทีฉันต้องต่อยมันสักหมัดหลังจากที่มันตื่นซะแล้วล่ะ นายว่าไหม?” ยุนโฮหันไปถามซีวอนด้วยอารมณ์ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าซีวอนกำลังขำคิกคักราวกับเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

                   “ผมไม่เข้าใจเลย…. พวกคุณทำเหมือนกับว่า….คุณยูชอนเป็นแบบนี้เสมอ” จุนซูคลางแคลงใจและขมวดคิ้วใส่เพื่อนของร่างสูงทั้งสอง ในขณะที่ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นลูบๆใบหน้าของยูชอนด้วยความเป็นห่วง ซีวอนกับยุนโฮมองหน้ากัน ก่อนที่ซีวอนจะเดินมาตบไหล่ร่างเล็กเบาๆ

                   “เราต้องคุยกัน

                   ----------------------------------

                   -------------------

                   “เมื่อก่อนยูชอนเรียบร้อยยิ่งกว่าผ้าพับไว้ เค้าเป็นเด็กเรียนเก่ง เป็นหัวกระทิของโรงเรียน เป็นประธานโรงเรียน ประธานรุ่นและเป็นนักกีฬายูโด แต่หมอนั่นเริ่มเปลี่ยนไปตอนที่แม่ของเค้าป่วย” จุนซูดูจะอึ้งกับอดีตของยูชอนนิดๆ ก่อนจะตั้งใจฟังยุนโฮต่ออย่างเงียบๆ

                   “คุณนายปาร์คไม่สบายหนัก เธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย สิ่งสุดท้ายที่อยากได้คือการได้เจอหน้าของสามีอีกครั้ง ยูชอนขอร้องให้พ่อที่เอาแต่ทำงานที่ต่างประเทศกลับมาดูแม่ที่ป่วย แต่สุดท้าย เค้าก็ไม่กลับมา คุณนายปาร์คตรอมใจและตายอย่างสงบในโรงพยาบาลอย่างโดดเดี่ยวในขณะที่ยูชอนกำลังนั่งเครื่องกลับมาหลังจากที่ขอร้องพ่อของตนไม่สำเร็จงานศพของคุณนายปาร์คกลายเป็นศึกย่อมๆระหว่างสองพ่อลูก เมื่อพ่อของเค้าควงเมียใหม่มาถึงที่งานศพ……จากนั้นยูชอนก็เปลี่ยนไป…. เค้าเริ่มเงียบและไม่คุยกับใครดื่มเหล้าและมีเรื่องกับคนอื่นตลอด”

                   ……………

                   “จนเค้ามาเจอจุนฮี………” จุนซูสะดุ้งดูยุนโฮจะทราบเรื่องเกี่ยวกับยูชอนเป็นอย่างดี น่าจะทราบแล้วด้วยว่าเค้าเป็นน้องชายของจุนฮี แต่ร่างบางก็ไม่ได้พูดอะไร แต่สีหน้าก็ดูเจื่อนไปเล็กน้อย ยุนโฮละสายตาจากจุนซูก่อนจะมองหน้าซีวอนราวกับต้องการคำตอบบางอย่าง

                   “บอกเถอะเด็กคนนี้รู้อะไรบ้างแล้ว…. ซีวอนเอ่ยหลังจากยุนโฮทิ้งช่วงไปสักพัก ร่างสูงพยักหน้าหลังจากที่เลิกลั่กอยู่นาน

                   “จุนฮีเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ดวงใหม่แทนแม่ของเค้าที่ตายไป….เป็นรักแรกของยูชอน เป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างของยูชอน….ทำให้ยูชอนกลายเป็นผู้เป็นคนขึ้น และกลับมาสดใสร่าเริงขึ้นบ้าง…. แต่เธอก็ทิ้งยูชอนไป….หลังจากนั้นหมอนั่นก็แทบจะเป็นบ้า.. เค้ามีเรื่องชกต่อยทุกวัน ยิ่งนานวันก็ยิ่งหนักขึ้น เค้าดื่มและเที่ยวผู้หญิงเป็นว่าเล่น ……” ยุนโฮต่อเรื่องราวทั้งหมดซึ่งจุนซูรู้มาบ้างแล้วบางส่วนน้ำใสไหลอาบแก้ม จุนซูไม่อยากสงสารยูชอน เพราะคิดว่ายูชอนคงไม่ชอบให้ใครมาสมเพสตัวเอง เค้าเพียงแต่ร้องไห้เพราะช่วยอะไรยูชอนไม่ได้เลย เค้าเคยตกเป็นเครื่องมือในการเล่นสนุกของยูชอนก็จริง แต่เค้ารู้สึกว่าทำไมเค้าถึงเจ็บปวดน้อยกว่ายูชอนหลายเท่าแบบนี้นะคำตอบทั้งหมดเค้าเพิ่งทราบในวันนี้เอง

                   และปฏิเสธไม่ได้ว่ายูชอนเป็นคนที่น่าสงสารมากมากกว่าเค้าหลายเท่า……..

                   ซีวอนจับมือของจุนซูเอาไว้แน่นราวกับเข้าใจสิ่งที่จุนซูกำลังคิด ร่างบางเงยหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาขึ้นมอง ก่อนจะปาดมันเร็วๆเพราะเริ่มมองไม่เห็นหน้าของร่างสูงทั้งสองคน

                   “จุนซู……. พี่กับยุนโฮไม่เคยมั่นใจอะไรขนาดนี้เลย…… เธอเป็นอีกคนที่จะเปลี่ยนยูชอนได้….. หมอนั่นอาจจะกระด้างไปหน่อย…. แต่พี่มั่นใจว่าเค้ารักเธอนะ…. ร่างเล็กส่ายหัวหลังจากที่ประโยคสุดท้ายจบไปไม่นาน ก่อนจะตั้งท่าเอ่ยออกมาด้วยความยากลำบาก

                   ……..พี่ซีวอนครับ……ได้โปรด….อย่าพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลย…..ผมเป็นได้แค่อะไรบางอย่างที่เล่นด้วยแล้วสนุกไปวันๆ….ไม่มีค่าอะไรกับเค้าหรอกครับ……แต่ผมรักเค้าผมอยากจะอยู่เคียงข้างเค้า….ไม่ว่าเค้าจะเป็นยังไงถึงเค้าจะตีผมเสร็จแล้วลูบหัวด้วยความเอ็นดู…. ผมก็ไม่ว่า……. เมื่อก่อนผมอาจจะเคยไม่เข้าใจเค้า แต่ตอนนี้ผมเข้าใจเค้ามากขึ้น…..ขอบคุณนะครับที่เล่าให้ฟัง….” ทั้งสองได้แต่ยิ้มบางๆ และบอกลาจุนซูหลังจากที่ได้คุยอะไรอีกสองสามอย่าง ดึกมากแล้ว ทั้งเหนื่อยและเพลียจนตาแทบจะปิด แต่จุนซูไม่มีอารมณ์นอน เค้าเช็ดตัวให้ยูชอนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในห้องผ้าชุบน้ำอุ่นๆทำให้ยูชอนมีสีหน้าที่ผ่อนคลายลง จุนซูทั้งถอดรองเท้า ถุงเท้าให้ และทำแผลที่มุมปากกับบนหน้าผากของร่างสูง เสร็จแล้วก็ทำแผลที่แก้มของยูชอนที่โดนเศษกระจกบาดเป็นรอยยาว ร่างบางสำรวจว่ายังมีร่องรอยที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมหรือไม่และพบว่าไม่มีแล้ว เลือดตรงแขนและมือต่างเป็นเลือดของคนอื่นทั้งนั้น….. สีหน้าเริ่มดีขึ้น จุนซูดึงผ้าห่มมาหมายจะห่มให้ร่างสูง แต่ก็ถูกยูชอนดึงแขนจนร่างบางล้มตัวลงไปนอนข้างๆ ตาปรือค่อยๆเบิกกว้างทีละนิด

                   “คิม….จุน….ซู” ยูชอนดูเหมือนจะยังไม่สร่างเมา เสียงอ้อแอ้ทำให้จุนซูตัดสินว่าเป็นเช่นนั้น

                   “ยูชอน……..” จู่ๆใบหน้าของยูชอนก็เริ่มเข้ามาใกล้กับใบหน้าเล็กของจุนซู ร่างบางดันหน้าอกของร่างสูง แต่ก็แรงไม่พอเมื่อยูชอนเอามือกดที่ท้ายทอยของร่างบางให้รับจูบหอมหวานอย่างที่เค้าไม่ได้สัมผัสมานาน เป็นจูบที่อ่อนโยนและละมุนราวกับเค้าเพิ่งได้ลิ้มรสน้ำผึ้งหยดแรกจากรัง จุนซูหลับตาพริ้มรับจูบหวาบหวามที่เริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เอวบางถูกรั้งให้ชิดแนบชิดกับตัวของยูชอนเข้าไปอีก จุนซูบังคับตัวเองไม่ได้ ร่างเล็กยกแขนขึ้นโอบไหล่ยูชอนเมื่อร่างสูงพลิกให้ร่างบางลงไปนอนบนเตียงแทน กลิ่นเหล้าคละคลุ้งในริมฝีปาก แต่ถึงกระนั้นก็ยังหวานหอมสำหรับทั้งสองคนที่ถูกกิเลสมอมเมาในคืนที่เป็นใจแบบนี้

              ------------ ตัด NC

                   ดูท่าคืนนี้จุนซูจะต้องถูกทำโทษ

    โทษฐานที่(ไม่ได้ตั้งใจ)ยั่ว…..ไม่ได้ตั้งใจเลยนะไม่เล๊ยยยยยย……





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×