คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Intoxiahcation
----------------------------------------------------
ดูเหมือนว่าวันนี้ซีวอนจะติดต่อยากเป็นพิเศษ จุนซูกำลังกังวลกับงานคืนนี้ที่ต้องร้องเพลงและเต้นไปด้วยครั้งแรก.. อันที่จริง เป็นเค้าเองแหละที่บอกซีวอนให้เสริมการเต้นขึ้นมาด้วยหลังจากที่ลูกค้าเรียกร้องมานาน แต่มีปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งที่จุนซูดูจะปวดหัวอยู่ไม่น้อย เมื่อได้ส่องกระจกดูชุดที่ตัวเองกำลังใส่เพื่อที่จะขึ้นแสดงคืนนี้
“ให้ตาย… ถึงฉันจะขึ้นมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ชุดแบบนี้มัน….อ๊า! ทำไมพี่ซองจินหาแต่ชุดแบบนี้ให้ใส่นะ!” จุนซูบ่นกับตัวเอง เมื่อต้องใส่ชุดที่มีเอวสูงพ้นสะดือเล็กน้อย แถมคอยังกว้างจนเกือบถึงไหล่ ดีที่ยังเป็นแขนยาวจนปิดฝ่ามือ แต่ในความคิดของจุนซู มันก็ยังโป๊อยู่ดี… เค้าพยายามโทรติดต่อให้ซีวอนบอกสไตลิสต์ว่าให้เปลี่ยนชุดได้ไหม? แต่ซีวอนก็ไม่รับโทรศัพท์เค้าเลยสักครั้ง
จุนซูได้แต่ถอนหายใจ… แล้วเกิดว่าวันนี้ยูชอนมาที่นี่อีก….
ชิ….จะแคร์ทำไม….
“จุนซู!!! ถึงคิวนายแล้ว ไปแสตนด์บายได้เลย” สต๊าฟของ Metal ตะโกนจากหลังเวที จุนซูขานรับ ก่อนจะรีบลุกออกจากห้องแต่งตัวไปยังหลังเวทีทันที ใจเต้นตึกตัก และยังรู้สึกเหมือนขึ้นเวทีครั้งแรก ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันที่สี่ของการทำงานแล้ว ร่างเล็กหวังว่าวันนี้ยูชอนจะไม่มาเหมือนเมื่อวานให้เค้าต้องกดดันอีก
Woo~ Oh~~ Alright!
Baby~ yeah~ Baby~~ yeah~~
Come on X 5 ~~
Jiisaku huruwaseruyooni kasaneau hadawa
จิอิซาคุ ฮารุวาเซรึโยโอะนิ คาสะเนะอะอุ ฮาดาวะ
Yubisaki sakashiatetanowa Deep inside x 3 Crazy
ยูบิซาคิ ซากาชิอะเตะตาโนวะ Deep inside x 3 Crazy
Touch you baby nantomo Squeeze you baby
Touch you baby นาอึนโทโมะ Squeeze you baby
Let me feel your rightness
stroke you like a arpeggio yeah yeah
Tell me what you want Heyx4
Tell me do you want me Oh no no no
You say baby now
I know what you want me
Oh no iwasetaiyo baby now
Oh no อิวะเซะไทโย baby now
Kiss and touch me taste and touch me baby
(Hey hey)
Nugijirakasu make it love
นุ กิจิระคาซึ make it love
Bite and touch me keep in touch me baby
(Hey hey)
Sorewa Intoxication
โซเรวะ Intoxication
baby yeah come on
เหมือนกับเซลล์อณูเล็กๆ
ผิวกายอันเปียกชื้นที่ทาบทับ กัน
ปลายนิ้วที่ค้นหาจนพบในจุดที่ ลึกลงไป ลึกลงไปอย่างเพ้อคลั่ง
จะ สัมผัสคุณ ที่รัก ไม่ว่าส่วนไหนก็ตาม
คลึงเคล้นคุณที่รัก ให้ผมได้รู้สึกถึงความคลั่งจนเหมือนจะบ้าของคุณ
บอกผมสิ คุณต้องการอะไร
บอกผมสิ คุณต้องการผมใช่มั้ย?
oh no no no
พูดเลยสิ ที่รัก ตอนนี้เลย
Oh no
ต้องการให้คุณบอกมา ตอนนี้เลย
จูบและสัมผัสผมสิ
ลิ้มรสผมและสัมผัสผม
อย่าช้าอยู่เลย เพราะนี่คือการเมคเลิฟ
กัดกินผมสิ สัมผัสผมสิ
ฆ่าผมเลยสิ สัมผัสผม ที่รัก
นี่คือยาพิษที่ทำให้หลงมัวเมา
ครอบครองตั้งแต่นิ้วมือจนถึงจุด กึ่งกลางของร่างกาย
จนพบกับหยาดน้ำผึ้งแห่งความลับ
เวทย์มนต์ใต้แสง จันทร์ และ ลมหายใจที่สั่นไหวเบาๆ ช่างสวยงามเหลือเกิน
บอกผมสิ คุณต้องการอะไร
บอกผมสิ คุณต้องการผมใช่มั้ย?
oh no no no
พูดเลย สิ ที่รัก ตอนนี้เลย
ผมรู้ว่าคุณต้องการผม
พูดในสิ่งที่ต้องการออกมา เลย ที่รัก
บอกผมสิ คุณต้องการอะไร
บอกผมสิ คุณต้องการผมใช่มั้ย?
oh no no no
พูดเลยสิ ที่รัก ตอนนี้เลย
ผมรู้ว่าคุณต้องการผม
Oh no
ดู ท่าว่าจะเกินทนแล้วล่ะ ที่รัก ตอนนี้น่ะ
จูบและสัมผัสผมสิ
ลิ้มรสผม และสัมผัสผม
เหมือนที่อยากจะทำ ..เมคเลิฟ
กัดกินผมสิ สัมผัสผมสิ
ฆ่า ผมเลยสิ สัมผัสผม ที่รัก
นี่คือยาพิษที่ทำให้หลงมัวเมา
เพลงสุดท้ายกับการออกสเตปครั้งแรกของจุนซูเป็นไปได้ดีและเป็นที่ถูกใจลูกค้าเป็นพิเศษ วันนี้จึงเป็นวันที่จุนซูดูจะได้แก้วไวน์มาเยอะมากที่สุดเท่าที่เคยได้มา ร่างบางพอใจกับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด วันนี้เค้าจึงอารมณ์ดีจนถึงขีดสุด จนอยากจะร้อง “อ๊า!!” เหมือนเสียงปลาโลมาดังๆ (แต่แจจุงกับชางมินชอบมาห้ามเค้า และบอกว่า มันน่ารักก็จริง.. แต่ดูจะหนวกหูไปหน่อย) ร่างบางหนีจากการชวนชนแก้วของลูกค้าหนุ่มๆสาวๆอย่างเคย แล้วหลบเข้าห้องน้ำทันที ร่างบางล้างมือที่มีเหงื่อซึมจากการจับไมค์มายาวนาน ก่อนจะยิ้มให้กับตัวเองที่ทำได้ดีในวันนี้ แม้จะไม่มีซีวอนช่วยเหลือก็ตาม…แถมวันนี้เค้าก็ไม่เห็นยูชอนมาด้วย อันที่จริงจุนซูไม่แน่ใจมากกกว่า เพราะวันนี้คนเยอะเป็นพิเศษ……
“อารมณ์ดีจริงนะ…” ร่างบางสะดุ้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองกระจก ยูชอนกำลังยืนกอดอกอิงกำแพงอยู่ด้านหลังของเค้า ให้ตาย!....โพล่มาอย่างกับผีให้มันได้อย่างนี้ทุกทีสิน่า!! ปาร์คยูชอน!
“…………..” จุนซูทำเป็นไม่สนใจ ร่างบางเชิดหน้าขึ้นแล้วฮัมเพลงไปพลางล้างมือไปพลาง ราวกับไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำแห่งนี้ ยูชอนครางหึในลำคอ….
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้ลาออกแล้วมาทำงานกับฉัน…..” ยูชอนเอ่ยเสียงเรียบ
“………….ไม่!!” จุนซูเหวใส ก่อนจะเอามือซับที่ก้นให้แห้งเป็นนิสัย จนเป็นรอยมือ
“วันนี้เธอคงติดต่อซีวอนไม่ได้ล่ะสิ….” จุนซูที่ทำท่าจะเดินออกจากห้องน้ำต้องหยุดชะงักลง ก่อนจะหันมามองยูชอนที่กำลังหันมามองเค้าอย่างช้าๆเช่นกัน….
“มันคงลำบากน่าดู…. ก็นั่นน่ะสินะ… จู่ๆฉันก็อยากจะถอนหุ้นจากบริษัทรถยนต์ของหมอนั่นขึ้นมาซะได้… ตอนนี้คงประชุมกันให้วุ่นน่าดู……”
“………………………..คุณ………….ปาร์ค…ยูชอน” จุนซูไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก แต่ร่างบางรู้สึกได้กลิ่นไม่ดี เหมือนจะต้องเกิดเรื่องอะไรบางอย่างที่ทำให้เค้าต้อง……..
ตื้ดดดดดดดดดดดดดดดดด ตื้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ฮัลโหล…ชางมิน” จุนซูเอ่ยด้วยเสียงที่อ่อนลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
“จุนซู!!.... นายช่วยหางานให้ฉันทีได้ไหม”
“ชางมิน..ตอนฉันชวนนายทำงาน นายไม่สนใจสักนิด แล้วทำไม…..”
“พ่อฉันออกจากงานน่ะ ฮะๆ แก่ปูนนี้แล้ว…สงสัยจะอยากเกษียญตัวเอง…”
“………………..” จุนซูเอ่ยกับชางมินอีกสองสามคำ ก่อนจะวางสาย… ชางมินเป็นคนโกหกไม่เก่ง และเค้าก็มักจะจับได้ทุกครั้ง ดั่งเช่นครั้งนี้… ร่างบางเงยหน้ามองร่างสูงที่ตอนนี้กำลังผิวปากอย่างมีความสุข จุนซูแทบไม่อยากเชื่อเลย…ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ… ว่ายูชอนจะทำแบบนี้…. เค้าทั้งโกรธและเสียใจ อยากจะลองควักหัวใจของยูชอนแล้วเอาออกมาดูว่ามันทำด้วยอะไร….
“ฝีมือคุณใช่ไหม?......”
“……” แต่ดูเหมือนยูชอนจะไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของคนตรงหน้าเท่าไหร่นัก เค้าจัดแจงทรงผมของตัวเองไปผิวปากไป….
“…………” จุนซูเงื้อมือจะตบหน้าของยูชอน ดวงตาแดงก่ำบอกว่าน้ำตากำลังจะรื้นขึ้นอีกครั้ง แต่ยูชอนก็คว้าข้อมือของร่างบางไว้ใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงอาการรู้สึกผิดแต่อย่างใด… เค้ายังคงมองใบหน้าของจุนซูนิ่ง
“……เ ล…………….ว……….” ร่างบางเค้นคำพูด ก่อนที่ยูชอนผลักให้ร่างบางให้ติดกับประตูห้องน้ำ มือยึดข้อมือทั้งสองข้างขนาบไว้อย่างเคยราวกับเคยทำจนชินมือ จุนซูไม่แม้แต่จะดิ้น เค้าแค่รอคำแก้ตัวจากร่างสูงทั้งๆที่ไม่มีความหวังใดๆเลยก็ตาม
“………ฉันถามอีกครั้งว่า……. จะลาออกจากที่นี่….ไหม?” ร่างสูงเป็นต่อ… จุนซูดูจะไม่มีทางสู้อะไรใดๆได้เลย ถ้าหากเค้าถูกทำร้ายเอง…ถึงจะเจ็บ แต่เค้าก็ยอมได้… แต่กับคนที่เค้ารัก…เค้าทนไม่ได้…. จุนซูอ่อนแออีกแล้ว…. โดนต้อนจนมุมเหมือนเคย หันหลังกลับไม่ได้… และเดินหน้าต่อไปไม่ไหว ทางออกที่มีทางเดียวให้กับคนอย่างเค้า แล้วจุนซูจะเลือกอะไรได้……
“เป็นครั้งแรกจริงๆคุณปาร์คยูชอน…. ที่ผมอยากจะฆ่าคุณขึ้นมาจริงๆ!... คุณทำแบบนี้ได้ยังไง!!!?....หื้อ?.... ถ้าคุณเกลียดผม…. อยากจะกลั่นแกล้งผม…. ทำไมถึงไม่ทำที่ผมคนเดียว!!?...... พวกเค้าผิดอะไร!!?....ฮึก….. พอสักที….พอทีคุณยูชอน!!!!”
ปัง!!
ยูชอนใช้มือทุบประตูจนร่างบางสะดุ้ง ใบหน้าเรียบเฉยเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดในเวลาเพียงเสี้ยว ร่างบางเริ่มสับสนว่ายูชอนต้องการอะไรกันแน่ เค้าไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยสักนิด….
“เธอบีบให้ฉันต้องทำแบบนี้เองนะ…คิมจุนซู!!... ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมาร้องเพลงใส่ชุดล่อผู้ชาย….. เต้นยั่วคนอื่นเพื่อเงิน!.... ฉันจะไม่ทำแบบนี้แน่!!!!!”
“แล้วทำไม?..... ผมจะทำอะไรมันก็เรื่องของผม!!! ผมจะแรด จะร่านมากกว่านี้ก็ได้!! มันก็สิทธิ์ของผม….ไม่เกี่ยวกับคุณ!!!!!” จุนซูตะโกนจนคอเกร็ง น้ำตาร่วงลงมาอย่างรวดเร็วและไม่มีท่าทีที่จะหยุดได้
“งั้นก็เตรียมตัวสำหรับข่าวดีใหม่ๆได้เลยคิมจุนซู…..” ยูชอนปล่อยมือของจุนซูลงแล้วเดินออกไปโดยไม่สนร่างบางที่ทรุดลงไปนั่งกับพื้นเลยสักนิด ร่างบางหยุดน้ำตาและความคิดร้ายๆให้หยุดหลั่งไหลไม่ได้
ตื๊ดดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดดดดด
“………………ครับ”
“จุนซู…..ฮืออออๆๆๆๆ ทำยังไงดี ฉันจะทำยังไงดี…..ฮือออออออออๆๆๆ”
“พี่ซองจิน!! เป็นอะไรครับ ทำไม?.........”
“พี่โดนไล่ออกจากโรงแรม…. ฮือๆๆๆ ถ้าพี่ขาดรายได้ที่นี่ พี่จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่านมให้ลูกล่ะ!? บ้านก็ยังเป็นหนี้อยู่เลย ฮือๆๆๆๆๆ…….ทำไมอ่ะ จุนซู..พี่ทำอะไรผิด… พี่ไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมพวกเค้าทำกับพี่แบบนี้ ฮือๆๆๆๆ” พี่ซองจินสไตลิสท์ที่ทำงานพิเศษที่ Metal แห่งนี้นี่เอง… จุนซูเพิ่งรู้ว่าพี่ซองจินทำงานที่โรงแรมด้วยเช่นกัน และจุนซูเองก็มั่นใจเหลือเกินว่าโรงแรมนั่นต้องเป็นโรงแรมในเครือของยูชอนแน่นอน….
“………พี่ซองจินใจเย็นๆนะ…….ผม…….ผมรู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น……….” จุนซูวางโทรศัพท์ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำด้วยขาที่อ่อนแรง
สักพักเค้าจึงมาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกับแกล้มมากมาย….. ยูชอนกำลังโอบเอวสาวๆสองคนที่ยื่นแอปเปิ้ลให้ยูชอนทาน ยูชอนยิ้มแล้วหอมแก้มสาวน้อยคนนั้นให้เป็นรางวัลก่อนจะกัดแอปเปิ้ลชิ้นนั้นเล็กน้อย
“ออกไปก่อนนะ….ผมมีธุระจะคุยกับ……..นักร้องดังนิดหน่อย….” สาวๆทำหน้าเบ้ก่อนจะยอมเดินไปเงียบๆ ยูชอนเอนตัวแล้วยกนาฬิกาขึ้นดู
“สิบห้านาที?......นานพอดู…… มัวทำอะไรอยู่ล่ะ?” ยูชอนทำหน้าตาย ยิ่งทำให้จุนซูโกรธกว่าเดิม แต่เค้าทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งลงคุกเข่าช้าๆ
“คุณแค่อยากให้ผมลาออกจากที่นี่….แล้วไปทำงานกับคุณ….ใช่ไหม?......” ยูชอนทำเป็นไม่ได้ยิน เค้าเปิดสมุดเพลง ทั้งๆที่ไม่ได้สนใจจะดูด้วยซ้ำ
“ผมยอมแล้ว…….. ผมยอมทุกอย่าง…….. คุณช่วยทำ….ช่วยทำทุกอย่างให้เหมือนเดิมที……ได้โปรด…” เสียงสั่นเครือทำให้เสียงดูจะขาดๆหายๆไปบ้าง แต่ยังพอชัดเจนที่จะรู้ว่าจุนซูพูดอะไร ยูชอนไม่รอช้า เค้าหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเอ่ยง่ายๆสองสามคำ
“อือ…ใช่…..แคนเซิลนะ….” คุยแบบนี้ประมาณสามครั้งได้ ยูชอนเก็บมือถือไว้ มองดูคนตัวเล็กที่นั่งคุกเข่าตรงหน้า น้ำตาใสๆหยดลงพื้น ยูชอนเองรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยที่เป็นแบบนี้ แต่เค้าก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองสงสารร่างบางแค่ไหน จุนซูค่อยๆลุกขึ้น แล้วพยายามพาตัวเองเดินออกจากห้องนี้ไปช้าๆ ยูชอนก้าวขายาวๆมาบังประตูไว้ ก่อนจะถอดเสื้อแขนยาวมามัดเอวของร่างบางให้ปิดส่วนที่โชว์กล้ามเนื้อท้องแบนราบและขาวนวลของจุนซู ร่างบางยิ่งนิ่งให้ยูขอนทำทำอะไรตามใจชอบ แต่ทว่าก็ยังไม่ยอมมองหน้ายูชอนอยู่ดี….
เค้าไม่เคยรู้สึกว่าไร้ศักศรีดิ์และโดนเหยียบย่ำขนาดนี้มาก่อน……
สิ่งที่สำคัญกว่าคือคนที่ทำแบบเค้าคือคนที่เค้ายังรักมากคนนี้………….
“คราวหลังห้ามใส่เสื้อแบบนี้อีก…. แล้วฉันจะบอกให้ว่าทำไมฉันถึงมีสิทธิ์ในตัวเธอ……” ยูชอนดึงแขนเสื้อให้แน่นขึ้นจนเกาะเอวร่างบางอยู่ ก่อนจะมองร่างบางอีกครั้ง แล้วเค้าก็ต้องฉุนกึก เมื่อร่างบางไม่แม้แต่จะสบตาเค้าเลยสักนิด ยูชอนเงยคางร่างบางให้เงยหน้า แล้วเค้าก็พบว่าใบหน้าสวยหวานกำลังแดงก่ำเพราะกลั้นน้ำตาไว้ ดวงตายังชื้นและแดงพอๆกัน ยูชอนทำเป็นไม่สนใจ
“เธอเป็นของของฉัน…. ใครก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมองเธอ หรือฟังเธอร้องเพลง…. ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะหายใจในอากาศเดียวกันกับเธอ นอกจากฉัน…..”
“คุณมันบ้า… คุณมัน…..” เสียงสุดท้ายถูกกลืนลงไปหลังจากที่ยูชอนเชิดคางของจุนซูขึ้นอีกครั้งและก้มลงครอบครองริมฝีปากบาง ก่อนจะขบกัดให้ริมฝีปากล่างเปิดออก มือหนากระชับเอวบางให้แนบกับหน้าท้องของตัวเองแน่น มือเล็กๆไร้เรี่ยวแรงทำได้แค่ดันหน้าอกของยูชอนออก แล้วร้องครางในลำคอเป็นเสียงอู้อี้จนหมดแรง จุนซูปล่อยเลยตามเลย ร่างบางวางมือลงไว้ข้างตัวแล้วปล่อยให้ยูชอนทำตามใจชอบ ร่างสูงยิ่งรุกหนักเมื่อร่างบางเปิดโอกาส ความหวานหอมที่เค้าตักตวงไม่เคยมีหมดหรือหายไปจากริมฝีปากอิ่มของร่างบาง… มันเป็นสิ่งที่เค้าฝันถึงตลอด ใช่…ที่ผ่านมาราวกับเค้าอดบุหรี่ไม่มีผิด เมื่อได้เสพสมก็รู้สึกเต็มอิ่ม แต่พอขาดไปก็ทำให้เค้าแทบคลั่ง และความอดกลั้นในตอนนี้พังทลายไปแล้ว เค้าได้ร่างบางกลับคืนมาเป็นของตัวเอง…เป็นชัยชนะที่ได้มาถึงแม้มันจะได้มาด้วยเล่ห์เหลี่ยมของเค้าก็ตาม
ยอมรับก็ได้ว่าไม่อยากให้ใครแตะต้องหรือสัมผัส ไม่อยากให้ใครได้ยินเสียงหวานๆและใช้สายตาโลมเลียเรือนร่างที่เป็นของเค้า… จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เค้าทำเรื่องที่งี่เง่าแบบนี้ได้
ความโลภทำให้คนโง่งม…..ทำให้ตาบอดและไร้ซึ่งสัมปชัญญะใดๆ….
จุนซูทำให้เค้าบ้าคลั่ง…..
ยิ่งตอนที่เค้าเห็นร่างบางใส่ชุดนั่นบนเวที เค้าแทบอยากจะไปกระชากให้ลงมาแล้วพาออกไปซะเดี๋ยวนั้นเลย….
แต่เค้าก็ใจเย็นพอจะมองว่าร่างบางจะทำอะไรต่อไป?....
สิ่งที่เห็นคือท่าเต้นที่ยั่วยวนกับเนื้อเพลงที่เชิญชวน จนเค้าแทบอยากจะกดร่างบางให้แหลกคามือไปซะตอนนั้นเลย… จุนซูที่เค้าเห็นตอนนี้เปลี่ยนไปมาก ครั้งแรกที่เค้าเจอจุนซู… เค้าคิดว่าเด็กคนนี้ช่างหอมหวานเหมือนน้ำตาลที่ต้มจนกลิ่นหอมหวล แต่ตอนนี้จุนซูเหมือนน้ำตาลที่เคี่ยวจนไหม้… หวานติดลิ้นและขาดไม่ได้….
“…………” ยูชอนค่อยๆผละริมฝีปากออก ริมฝีปากบวมปลั่งเพราะการจูบที่ยาวนานดูเหมือนจะเชิญชวนเค้าอีกครั้ง แต่ยูชอนต้องห้ามใจไว้ก่อน เค้าพยายามมองไปทางอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าที่แดงก่ำเพราะกำลังหายใจหอบถี่ กับหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงที่ทำเอาเค้าใจเต้นไม่เป็นส่ำ
ไม่งั้นก็คงได้กดคนตัวเล็กตรงนี้เอาแน่ๆ…..
“ไม่ยักกะดิ้น?..... หมดแรงสู้หรือไง” ใบหน้าเรียวยาวยังคลอเคลียกับผมสีฟ้าเทาสวยของจุนซู จมูกของยูชอนสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบบนใบหูของร่างบาง
“คุณเคยบอกว่ายิ่งผมดิ้น คุณก็ยิ่งชอบ…… ผมแต่จะอยากทำให้คุณไม่ชอบ……” เป็นเหตุผลที่ทำให้ม้าพยศกลายเป็นม้าเชื่องแต่โดยดี จุนซูเลี่ยงจะตอบคำถามของตัวเองว่าความจริงแล้วส่วนหนึ่งเป็นความต้องการของเค้าเองหรือเปล่า… ร่างบางไม่อยากตอบว่าใช่เลย…ในเมื่อวันนี้ยูชอนทำให้คนที่เค้ารักหลายต่อหลายคนต้องเดือดร้อนเพราะเค้า ร่างบางจึงไม่ต้องการแม้จะรู้สึกใดๆกับร่างสูงตอนนี้… วันนี้ยูชอนทำกับเค้าเกินไป…
“โอเค… แต่ฉันจะบอกไว้อย่างว่า… ถึงเธอไม่ดิ้น… ฉันก็ชอบมากอยู่ดี….” ยูชอนพูดเสร็จ ก็กุมมือร่างบางออกจากห้องวีไอพีนั่นทันที เค้าดึงร่างบางที่ยอมเดินตามมาแต่โดยดีให้ขึ้นรถของเค้า แต่รถสีขาวที่คุ้นเคยกลับจอดขวางไว้หลังจากที่พุ่งตรงมาหาคนทั้งสองอย่างรวดเร็ว
ซีวอนเดินลงจากรถด้วยท่าทีที่เร่งรีบ มองดูมือของยูชอนที่กุมมือของน้องชายไว้แน่น ซีวอนเผลอกำหมัดเบาๆ
“จุนซู……..”
“การประชุมน่าจะเป็นไปได้ด้วยดีนะ จริงไหม?” ยูชอนเอ่ยตัด ก่อนจะก่อนจะเปลี่ยนจากกุมมือของร่างบางไว้มาเป็นโอบเอวเล็กของร่างบางให้ชิดตัวเค้าเข้าไปอีก จุนซูแกะมือนั่นออกเลิ่กลั่กเมื่อสังเกตุว่าซีวอนกำลังมองอยู่
“ก็ดี ถ้านายไม่เล่นอะไรบ้าๆแบบนั้น… นายเห็นว่าเรื่องถือหุ้นมันเป็นเรื่องสนุกที่จะมาล้อเล่นกันในตอนนี้หรือไง? ปาร์คยูชอน?”
“โอเคๆ ฉันก็ยกเลิกแล้วไง… ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม ฉันยังไม่ถอนหุ้นและยังเป็นสปอนเซอร์ที่ดีของนายเหมือนเดิมนี่นา ชอยซีวอน?...” ยูชอนเอ่ยทีเล่นทีจริง แต่ซีวอนพอจะรู้ว่ายูชอนอยากจะปั่นหัวเค้าเล่นเพราะหึงหวงจุนซูก็แค่นั้น
ไอ้บ้าเอ๊ย….. ชอบเค้าก็ไม่รู้จักบอกตรงๆไปเลย…
ทำตัวเป็นหมาหวงก้างไปได้……
“แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ… ที่สละนักร้องแสนสวยให้ฉัน…” ซีวอนขมวดคิ้ว จุนซูเงยหน้าขึ้นมองทันทีที่ได้เห็นเช่นนั้น
“พี่ซีวอน…ผมขอโทษแต่… ผมทำงานที่นี่ไม่ได้แล้วครับ…” จุนซูพูดตัดเหมือนเห็นว่ายูชอนกำลังเอ่ยปากจะพูดอะไรบางอย่าง ที่จุนซูคิดว่าไม่ดีแน่… เค้าจึงโพล่งออกไปแบบนี้
“ทำไมล่ะจุนซู?....มีอะไร.. เราก็คุยกันก็ได้นี่… แล้วเธอจะเอาเงินที่ไหนมาใช้…” ซีวอนแปลกใจ
“ผมไปทำงานกับคุณยูชอนครับ….”
“จุนซู? เธอโดนหมอนี่บังคับใช่ไหม เค้าทำอะไรเธอ….” ซีวอนไม่อยากเชื่อ… ไม่อยากเชื่อว่าจุนซูจะยอมให้กับยูชอนง่ายๆอีกครั้ง ยูชอนครางในลำคอด้วยความพอใจ เค้ายิ้มกลั้วหัวเราะเบาๆ มือหนากระชับเอวบางให้ชิดเข้าไปอีกราวกับจะแสดงความเป็นเจ้าของ จุนซูหันไปมองค้อนยูชอนแต่ร่างสูงก็ทำเป็นไม่สนใจ
“ผมไปเองครับ ผมเป็นคนอยากไปทำงานกับเค้าเอง…เอ่อ…. เพราะว่า… เพราะว่าผมร้องเพลงไม่ได้แล้ว…ผมเป็นเส้นเสียงอักเสบครับ…แค่กๆๆ” จุนซูไอค่อกแค่กเล็กน้อย ยูชอนทำหน้าอึ้งๆนิดหน่อย ก่อนจะหลุดขำอีกครั้งดีที่ซีวอนไม่ได้สังเกตุเห็น จุนซูเอาศอกกระทุ้งท้องของร่างสูงแรงๆจนยูชอนนิ่วหน้า ซีวอนได้แต่มองหน้าจุนซูด้วยความไม่เข้าใจว่าจะกลับไปให้เค้าทำร้ายอีกทำไม….แต่ดูจากคำพูดของร่างบางแล้วดูเหมือนเจ้าตัวจะยอมสร้างเรื่องเพื่อจะไปทำงานกับยูชอนจริงๆ ทั้งยังใบหน้าที่หนักแน่นของร่างบางทำให้ซีวอนยอมเข้าใจ เค้าหายใจออกแรงๆ
“ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม?..... หื้อ?.......”
“อื๊อ!!!!!!” ยูชอนกดริมฝีปากบนแก้มนุ่มของจุนซูเข้าฟอดใหญ่…ก่อนจะยิ้มมุมปากใส่ซีวอนราวกับได้รับชัยชนะ จุนซูตีไหล่ยูชอนดังเพี๊ยะ!! เสร็จแล้วก็ผลักยูชอนจนกระเด็น ซีวอนแทบจะไม่เชื่อสายตัวเอง เค้ากระแอมเพื่อไม่ให้ยูชอนเห็นว่าเค้าหลุดหัวเราะออกมานิดหน่อย
นี่ปาร์คยูชอนที่เค้ารู้จักจริงๆน่ะหรอ?........
แก่ปูนนี้แล้ว……ยังจะหวงตุ๊กตาเหมือนเด็กๆไปได้!!!......
ถึงจะเป็นห่วงจุนซูมากหน่อยแต่ก็เอาเหอะ…ในเมื่อร่างบางเลือกที่จะทำแบบนี้แล้วคงมีเหตุผลสำคัญบางอย่าง…
“ตามใจ…. ยังไงถ้ามีปัญหาก็มาหาพี่แล้วกันนะ…. พี่ไปล่ะ…” ซีวอนยิ้มบางๆจุนซูก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที (ก่อนจะพุ่งออกไปยังไม่วายทำเป็นจะชนยูชอนอีก) ยูชอนสบถสองสามคำก่อนจะดึงมือจุนซูขึ้นรถอย่างอารมณ์ดี จุนซูหงุดหงิด แต่ก็เดินตามไปต้อยๆ
ภายในรถเย็นเฉียบ ร่างบางเยือนหน้ามองวิวยามค่ำคืนนอกหน้าต่างรถ ไม่อยากแม้จะมองหน้าร่างสูงในนาทีนี้
เมื่อก่อนจุนซูเป็นคนที่ไม่ยอมจบกับยูชอนเอง… ตามตื้อหลังจากถูกทิ้งไปในตอนนั้น…
แต่คราวนี้ยูชอนเองนั่นแหละ ที่เป็นคนดึงจุนซูกลับมา….
จุนซูไม่เข้าใจเลย…ไม่เข้าใจจริงๆ…. เพียงเพราะเค้าเป็นของๆยูชอนน่ะหรอ?........
ยูชอนเห็นเค้าเป็นแค่นั้นเองน่ะหรอ?.... เค้ามีค่ากับยูชอนแค่นี้เองใช่ไหม?......
ทำไม?..... ถ้าไม่รักเค้าแล้ว…. ยังจะทรมานให้คนที่ยังเก็บความรักนั้นอยู่อย่างเค้าค่อยๆตายไปอย่างช้าๆ….
ถ้าการแก้แค้นของเค้าจบลง แล้วเค้ายังจะทำแบบนี้เพื่ออะไร?.............
เป็นสิ่งที่จุนซูไม่เช้าใจและยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เลย…
ดูเหมือนร่างบางจะไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่ว่าใครบางคนกำลังมองอยู่ด้วยความเอ็นดู แจจุงกำลังเอามือเล็กๆน่าถะนุถนอมคู่นั้นปอกแอปเปิ้ลด้วยความยากลำบาก แต่เพราะความตั้งใจเกินไปนั่นแหละที่ทำเอายุนโฮแทบจะหลุดขำออกมา แจจุงเหมือนจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ตื่นอยู่คนเดียว ยุนโฮทำเป็นหลับตาไม่ทันเมื่อร่างบางหันมามองตัวเองที่กำลังนอนอยู่บนเตียงกว้างในห้องของตัวเอง
“ตื่นก็ไม่บอก… คุณหัวเราะอะไร?” คนตัวเล็กค้อน พูดเสร็จก็วางมีดกับแอปเปิ้ล ดูเหมือนเด็กอายุสิบสองจะงอแงซะแล้วสิ ยุนโฮเลิกคิ้ว
“ไม่ได้หัวเราะ…. กำลังมองเธอปอกแอปเปิ้ล…. ไม่ทำต่อแล้วหรอ?” ร่างสูงถาม เสียงที่แหบแห้งบ่งบอกว่าร่างสูงยังมีอาการไข้ขึ้นเพราะบาดแผลอยู่บ้าง ถึงจะดีขึ้นเยอะมากหลังจากกลับมาจากบ้านเก่าของแจจุง
“มันยากจังเลย… ปอกตั้งนานได้แค่ลูกเดียว… แถมเนื้อก็ติดไปกับเปลือกหมด….” ร่างบางยื่นปาก งอนแอปเปิ้ลหรอ? ยุนโฮได้แต่ยิ้มบางๆ พยายามกลั้นขำให้กับท่าทางน่ารักของแจจุง
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำ… เดี๋ยวมือไม่สวย ฉันไม่อยากให้มือเธอมีแผลนะ”
“…………..ก็ยุนโฮชอบกิน” เอ่ยไปหน้าก็เริ่มแดงเรื่อไป แจจุงหยิบมีดกับแอปเปิ้ลมาปอกต่อช้าๆ ยุนโฮรู้สึกแปลกใจกับท่าทีทีเปลี่ยนไปตั้งแต่กลับมาจากที่บ้านเก่าของร่างบาง แปลกใจ…แต่ก็มีความสุข… มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ร่างบางยังรู้สึกผิดเรื่องอาการบาดเจ็บและรู้สึกขอบคุณกับการช่วยเหลือของเค้า
อาจจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ร่างบางจะทำแบบนั้น….
แล้วถึงแม้ว่าวันหนึ่งร่างบางจะลุกขึ้นมาฆ่าเค้าอีก…. เค้าก็จะไม่หนี……
ชีวิตทดแทนด้วยชีวิต… แต่นี่เค้าทำสองชีวิตของแจจุงตายไป…. แต่ชีวิตเค้าคนเดียวก็ไม่พอแล้ว…
เค้าถึงยอมไงล่ะ….. เพราะแค่นี้…. แค่นี้เค้าก็ชดใช้ให้ร่างบางได้ไม่หมด……
“ยุนโฮฮฮฮฮ!!!” เสียงวี้ดๆสูงปรี๊ดของใครบางคนทำเอาแจจุงเอามือปิดหูแทบจะทันที ร่างบางลุกขึ้นก่อนจะหันไปมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เฮริมสะดุ้งเมื่อเจอแจจุงยืนอยู่ในห้องของยุนโฮ ร่างบางรู้สึกเหมือนปวดหัวแทบจะระเบิดขึ้นมาอีก ร่างเล็กบางสั่นเทาและดวงตาสวยเบิกค้าง
“อะ……………… .. อะ….. อ๊า!!!!!!!!!!” ร่างบางร้องโหยหวน เฮริมมองร่างเล็กที่ลงไปนั่งกองกับพื้นแล้วกรี๊ดลั่น แจจุงไม่กล้ามองหน้าเฮริมอีก เค้ารู้สึกกลัว กลัวแบบไม่มีเหตุผล ไม่รู้ทำไม..แต่กลัวมาก… คนนี้น่ากลัว… เค้ากลัว…..
“เฮริม!!!!ออกไปก่อน” ยุนโฮแทบจะบินลงจากเตียง เค้ากระโดดลงจากเตียงนุ่มก่อนจะโอบร่างบางที่นั่งคู่ตัวตัวกำแพงข้างๆเตียงของเค้า ทั้งน้ำตาน้ำมูกเหงื่อออกมาเต็มใบหน้าที่หวาดกลัวของร่างบาง
เฮริม?............
“พี่เฮริม……..อึ้ก!!!อ๊ะ!!!! อ็อก!!”
“เฮริม!! พอ!! เดี๋ยวเค้าจะตายนะ”
“ช่างมัน!!! มันแย่งคู่หมั้นของฉัน เอาคู่หมั้นฉันไปกกที่โรงแรม!!”
“ไม่…..ผม…..ฮั่กๆ…ผมไม่อยากรู้………อะไรทั้งนั้น”
“หึ แต่ฉันจะบอกไว้ให้เป็นบุญ ว่าจองยุนโฮนั่นแหละ ที่เป็นคนฆ่าพ่อแม่ของนาย!!!!!”
“เริ่มได้…”
“จะทำอะไร ปล่อยนะ!!! อ๊า!!!”
“…………แฮ่กๆๆ……ฮึก…อึ๊…………อ๊า!!!!ม่ายยยยยยย!!ออกไป……ออกไป!!” แจจุงยิ่งร้องหนัก เฮริมยังยืนอยู่กับที่ ร่างเล็กของหญิงสาวสั่นนิดๆ กำลังอึ้งกับท่าทีของร่างบาง เธอไม่คิดเลยว่าวันนี้จะเจอคิมแจจุง!! มันเป็นความผิดพลาด….
“เฮริม!!! ออกไปก่อน ได้โปรด!” ยุนโฮตะโกนใส่เฮริมลั่น ใบหน้าแสดงสีหน้าเป็นกังวลชัดเจน ร่างเล็กของหญิงสาวสะดุ้ง ก่อนจะรู้สึกตัวและรีบวิ่งออกจากห้องนั้นทันที ยุนโฮกอดร่างบางที่ตัวสั่นเทาแน่น
“ไม่!!!!! ไม่ ผมกลัววว!!! เจ็บบบบ!! พอแล้ว พอที! ฮืออๆๆๆๆ ออกไป….ออกไป…ผมกลัว!!! ฮือๆๆๆ ….” แจจุงดิ้นจนยุนโฮนิ่วหน้าเพราะร่างบางใช้มือยันจนโดนแผลของยุนโฮ แต่ร่างสูงก็ไม่สนใจ เค้าโอบร่างบางแน่นเข้าไปอีก
“แจจุง!! ฉันเอง!... ยุนโฮนะ!.... นี่ยุนโฮเอง….ไม่เป็นไรแล้ว…ไม่เป็นไรนะ….. ไม่มีใครทำอะไรแจจุงนะ….” ร่างบางเริ่มสงบลงอย่างช้าๆ ใบหน้าที่ชิดติดกับไหล่ร่างสูงค่อยๆหันมามองใบหน้าของร่างสูงเมื่อยุนโฮคลลายอ้อมแขนออก ยุนโฮขมวดคิ้วด้วยความสงสารเมื่อเห็นใบหน้าหวาดกลัวและเปรอะเปื้อนน้ำตาจนเปียกชื้น ร่างบางโอบรอบคำยุนโฮทันที
“ยุนโฮฮฮฮฮ!!! ฮืออออออออๆๆ ยุนโฮ!! ผมกลัว…ฮืออๆๆๆ” ร่างสูงตัวเอน มือโอบเอวร่างบางเอาไว้ประคองไม่ให้ตัวเองล้มลงไปเสียก่อน ก่อนจะค่อยๆใช้มือลูบหลังร่างบางขึ้นลงเป็นการปลอบ นานทีเดียวกว่าจะสงบ แจจุงสะอึกสะอื้น แก้มกับจมูกและดวงตาโตยังแดงก่ำ ร่างสูงคลายอ้อมกอดแล้วใช้มือเกลี่ยผมที่ปรกแก้มและดวงตาของร่างบาง ก่อนจะใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาออกจากแก้มให้ร่างบางด้วยความอ่อนโยน มือหนาลูบหัวร่างบาง เค้าอยากรู้ว่าทำไมจู่ๆแจจุงถึงเป็นแบบนี้ แต่เค้าก็ไม่อยากถามแจจุงในตอนนี้….
“ยุนโฮ!... ผ้าก๊อตหลุด” แจจุงสังเกตเห็นแต่ยุนโฮไม่ เค้าเพิ่งรู้ตัวตอนที่แจจุงบอกเนี่ยแหละ ร่างสูงก้มมองไหล่ของตัวเองและพบว่าผ้าก๊อตหลุดจนแทบจะร่วงลงพื้น รอยแผลยาวเป็นทางที่เป็นรอยผ่าเกือบจะติดกันสนิทมีเลือดซึมเล็กน้อย ทำเอาแจจุงลืมเรื่องเมื่อกี้ไปเสียสนิท ร่างบางไล่ให้ยุนโฮขึ้นไปนอนบนเตียงก่อนจะล้างแผลให้ยุนโฮอีกครั้งแล้วแปะผ้าก๊อตใหม่จนเรียบร้อย
“ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม? หื้อ?” ยุนโฮถาม หลังจากที่แจจุงแปะสก๊อตเทปชิ้นสุดท้ายให้
“คุณห่วงตัวเองเถอะ…. เจ็บใช่ไหม?... ทำไมไม่บอก” แจจุงถามบ้าง เมื่อยุนโฮเอาแต่ห่วงเค้าอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ไม่ได้ห่วงตัวเองเลยสักนิด
“เธอเจ็บกว่า… ฉันจะมัวห่วงตัวเองได้ยังไง….ว่าไง?...หายปวดหัวหรือยัง…”
“ดีขึ้นแล้ว……. ช่วงนี้ก็เป็นแบบนี้ตลอดเลย…เวลาที่เห็นรูปเก่าๆในห้อง หรือตอนที่เห็นนาฬิกาของคุณ” ยุนโฮค่อยๆยันตัวเองให้อิงหมอนทันที
“เธอเริ่มจำอะไรได้แล้วงั้นหรอ…เธอ…รู้จักนาฬิกาเรือนนี้ใช่ไหม?” ยุนโฮยกแขนที่สวมนาฬิกาเรือนสวยขึ้น
“ไม่รู้… แต่เหมือนเคยเห็น….. ผม….ไม่รู้สิ…..แต่รู้สึกว่านาฬิกาอันนี้…..ผม….ผมรู้สึกดีกับมัน….” แจจุงพูดไปตามที่รู้สึก แต่นั่นก็ทำให้ยุนโฮใจชื้นขึ้นไม่น้อย ถึงความทรงจำจะไม่ได้กลับมาเท่าไหร่นัก แต่ความรู้สึกของแจจุงกับสิ่งของต่างๆหรือแม้กระทั่งกับตัวเค้าแจจุงดูเหมือนจะยังรู้สึกและได้จำมันได้
อย่างเรื่องแอปเปิ้ลเค้าก็ไม่เคยบอกว่าชอบกินให้ได้ยิน… แต่แจจุงนั่นแหละที่เผลอพูดออกมาเอง….
ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองจำได้……
“ว่าแต่… ทำไมเธอถึงกลัวเฮริม… เอ่อ.. ผู้หญิงคนเมื่อกี้น่ะ?” ยุนโฮถามด้วยความอยากรู้ หลังจากที่รอแจจุงเย็นลงจนเค้าคิดว่าถึงเวลาเหมาะแล้วที่จะถามได้ ร่างบางกิดริมฝีปากล่างอย่างใช้ความคิด มือบางทั้งสองข้างโอบตัวเองขึ้นช้าๆ
“มะ…ไม่รู้….แต่ผม…ผมกลัว….รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาทันทีเลย….แล้วผมก็ปวดหัว ปวดไปทั้งตัว…ผมกลัว…กลัวผู้หญิงคนนั้น….” ยุนโฮขมวดคิ้ว เมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไป แจจุงตัวสั่นเทาเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถึง จนยุนโฮสงสัยในตัวจางเฮริมมากขึ้น
“เธอเคยเห็นผู้หญิงคนนั้นที่ไหนไหม?”
“ผม…เหมือนผมเคยเห็น แต่จำไม่ได้……” ยุนโฮกุมมือของแจจุงไว้เบาๆ ร่างบางเงยหน้าขึ้น ทั้งอบอุ่นใจและรู้สึกปบอดภัยอย่างบอกไม่ถูก ยุนโฮยิ้มบางๆให้เค้า
“พอเถอะ… ถ้าไม่อยากนึกก็ไม่ต้องนึก…. ตราบใดที่เธอยังอยู่ข้างฉันก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น…ฉันจะปกป้องเธอเอง….” สายตาที่มองมาบ่งบอกถึงความจริงใจและห่วงใยจนแจจุงเองใจสั่นวูบ ร่างบางเผลอปัดมือของยุนโฮออกแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ยุนโฮตกใจเล็กน้อย
“ไม่ต้อง…คุณ…คุณห่วงตัวเองเถอะ!!” ว่าแล้วก็วิ่งออกไปจากห้องเหมือนหงุดหงิดอะไรขึ้นมาอีก ยุนโฮขมวดคิ้ว
อะไรของเค้านะ……….
---------------------------------
-------------------------------------------
---------------
“ให้ตายสิ!! ไอ้เด็กคนนั้นทำไมมันไม่ตายๆไปนะ!!!! ยังจะกลับมาอีก!! แถมมันดูเหมือนจะจำฉันได้ด้วย!” เฮริมขว้างกระเป๋าลงบนเตียง แล้วนั่งลงแรงๆด้วยความอารมณ์เสีย หมอฮงคลายเนคไทออก ก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“ส่งสองคนนั้นไปยังไม่ช่วยอะไรอีกหรือไง…” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างใจเย็น
“โดนยุนโฮบุบหัวกลับมาน่ะสิ! ทำไมยุนโฮต้องเสี่ยงชีวิตไปตามหาคิมแจจุงด้วยนะ!! ฉันอยากจะกรี๊ดหลายๆรอบ งานแต่งงานถึงได้เลื่อนไปอีก โอ๊ยยย!! ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้คืบหน้าเลยด้วยซ้ำ!”
“แล้วจะทำยังไง….ตอนนี้คุณควรอยู่นิ่งๆในขณะที่พวกตำรวจตามติดเราอยู่ใต้จมูกแบบนี้นะ” ชายหนุ่มเตือนด้วยความหวังดี ทั้งตัวเฮริมเอง และตัวเค้าเองด้วย
“ไม่!! ฉันเกลียดมัน เกลียดคิมแจจุง เกลียดๆๆๆๆๆๆ!!”
หมอฮงส่ายหน้าให้กับความเอาแต่ใจของจางเฮริม ไม่นานมานี้เค้าเองก็รู้สึกว่าถูกสะกดรอยตามอยู่เหมือนกัน พวกเค้าจำเป็นต้องอยู่อย่างเงียบๆไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นมาอีกสักพัก จนกว่าทุกอย่างจะสงบลง
แต่มันก็ดูจะทรมานกับคุณหนูเฮริมไม่น้อย…..
“งั้นคุณจะทำอะไรก็เชิญทำไปคนเดียวเถอะ…ผมไม่ยุ่งด้วย…จะพากันซวยไปหมด…”
“กรี๊ดดดดด!! ไอ้หมอบ้า!! กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!!” เสียงเงียบไปหลังจากที่หมอฮงกระแทกเท้าเดินออกจากห้องหรู ทำเอาจางเฮริมร้องกรี๊ดกร๊าดเพราะทำอะไรไม่ได้นอกจากโวยวายเสียงดัง
ไม่มีหมอฮงก็เหมือนขาดแขนขา…..
เห็นทีจะต้องพึ่งตัวเอง!!!!
ความคิดเห็น