ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The five lucky people

    ลำดับตอนที่ #3 : คาเมล:เด็กชายยามเที่ยงคืน

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 58


    บทที่ 1 คาเมล : เด็กชายยามเที่ยงคืน

                ผมกำลังนอนไปได้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น เสียงโวยวายก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียง เคร้ง! โครม! จากนั้น เสียงเด็กร้องไห้ก็ดังมาตามสายลม...

                ผม คาเมล ไม่เคยเชื่อเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติใดๆในโลกนี้ จนกระทั่งอายุได้ 11 ปี ลุงของผมซึ่งเป็นนักบวช ก็ได้มอบบางสิ่งให้ผม เป็นสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ มองไม่เห็น หากแต่รู้สึกได้...ผมสามารถคุยกับวิญญาณได้...

                เป็นเวลา 6 ปีที่ผมต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ได้ยินเสียงภูตผีวิญญาณแทบจะตลอดเวลาจนในที่สุดก็ได้มาเจอกับกลุ่มเพื่อนที่ร่วมชะตากรรมเดียวกันและรู้วิธีสะกดพลังนั้นไว้ได้...

                คุณคงคิดว่าผมจะไม่กลัวอะไรแล้วใช่ไหมในระยะเวลาขนาดนั้น?

                งั้นคุณก็คิดผิดแล้วล่ะ! แต่ด้วยความที่มาดของผมมันดูเป็นผู้ชายขรึมๆ เงียบๆ ก็เลยแสดงท่าทีมากไม่ได้

                ผมเด้งตัวขึ้นนั่งทันที ผ้าห่มค่อยๆเลิกขึ้นมาคลุมหัว...

                “ฮึก...ฮือ...”เสียงครางร้องไห้ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง

                “ร้องไห้อะไรมากมายฟะ ร้านนี้ไม่เคยมีใครตายซะหน่อย”ผมพูดออกมาดังๆระบายความเครียด แล้วก็เริ่มฉุกคิดได้...

                ร้านนี้ไม่เคยมีใครตาย...

                ไม่มีใครตาย...

                แล้วเสียงใครฟะ!?

                เท่านั้นเอง ผมก็กระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง โยนผ้าห่มออกไปข้างห้อง แล้วออกเดินไปที่ประตู หากแต่ก่อนจะถึงประตู เสียงร้องไห้ก็ดังมาอีก เริ่มทำให้ผมใจฝ่อ หากแต่ก็เปิดประตูออกอย่างสั่นๆ

                บรรยากาศยามค่ำคืนเย็นยะเยือก หมอกสีขาวลอยวนเข้ามาในบ้าน จากนั้นผมก็ลากขาสั่นๆเดินไปยังต้นเสียง แม้อากาศจะหนาวเย็น แถมผมยังใส่แค่ชุดนอนบางๆ แต่เหงื่อก็เริ่มหยดมาตามไรผม

                แล้วผมก็ชะงักกึก ริมระเบียงทางเดินมีเงาร่างหนึ่งนั่งคู้ตัวอยู่ในความมืด ร่างนั้นเล็ก และกอดอะไรซักอย่างที่เป็นก้อนๆอยู่ เสียงร้องสยองก็ยังดังมาจากร่างนั้น ตามด้วยเสียงสะอื้น...

                “นะ...นั่นใครเหรอครับ”แบบว่าสุภาพไว้ก่อนเป็นดีที่สุด

                “ฮึก...”มีแต่เสียงสะอื้นกลับมา ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก แต่ที่รู้ๆก็คือสองขายาวๆของผมพร้อมวิ่งเสมอ แล้ทันใดนั้นร่างนั้นก็ลุกขึ้น ผมคิดว่าเธอคงเป็นผู้หญิง เพราะความบอบบางและตัวเล็ก...เอ เราเรียกอย่างนี้กับผีได้ไหมนะ...

                สิ่งที่น่าสยองที่สุดก็คือ เธอกำลังเงยหน้าขึ้น ในเงามืดนั้นน่ากลัว เส้นผมปรกลงมาปิดตาเหลือไว้ข้างหนึ่งเหมือนในหนังผีซักเรื่อง เธอค่อยๆย่นมือออกมาทางผม สิ่งที่อยู่ในจุดสองจุดที่เรืองแสงออกมาเหมือนดวงตา

                “คา...เมล”

                เท่านั้นเอง

                “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!”ลั่นบ้านทันที

     

                “พี่คาเมล หยุดก่อนครับ!”เสียงหวานดังหลอกหลอนตามหลังผมมา นี่อุตส่าห์วิ่งมาสุดแรงเกิดแล้วนะ ผีนี่วิ่งเร็วชะมัด หรือลอยมากันนะ...เฮ้ย! ถ้าอย่างนั้นผมก็วิ่งหนีไม่ทันน่ะสิ! ไม่นะ!!!

              “ตามมาทำไมอีกฟะ กลัวนะโว้ย”มาดผมหลุดวันนี้เอง ดีนะที่เพื่อนของผมมันขี้เซากัน ไม่งั้นคงอายโลกแตก เอ๊ะ นี่ผมต้องกังวลเรื่องผีไม่ใช่เหรอ มันวิ่งตามมาจะทันแล้วเนี่ย! ไอ้บ้าคาเมลเอ๊ย แล้วจะไปเรียกผีมาทำไมวะ

                “พี่คาเมล”มันเรียกอีก แล้วอะไรบางอย่างก็สไลด์ผ่านผมไปขวางทางวิ่งข้างหน้า แล้วผมก็อึ้งสนิท

                ร่างตรงหน้าคือ ชายร่างเล็กตัวบาง ผู้มีใบหน้าหวานหยดราวกับผู้หญิง เส้นผมสีเหลืองอ่อนยาวระไหล่ดูนุ่มน่าสัมผัส ดวงตาสีเขียวใสจ้องผมแบบไร้เดียงสา สิ่งเดียวที่ทำให้รู้ว่าคือผู้ชายคือหน้าอกแบนราบไร้กล้าม เจ้าของผิวขาวอมชมพูไร้ริ้วรอยใด

                น่ารักๆแบบนี้มัน...น้องผมนี่หว่า!!!

                “ยู...”ผมเอ่ยอย่างตกใจ “มานี่ทำไม ตอนกลางคืนมันอันตรายนะ”

                ยูเอล คือหนึ่งในหุ้นส่วนร้านรายใหญ่ ชายหนุ่มมีหน้าตาที่เรียกได้ว่า หวานเกินชาย เผลอๆสวยกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก ความสามารถพิเศษของเขาคือการทำอาหาร(?) ของรักคือตุ๊กตาหมี น่ารักและอิโนเซนต์สุดๆ เขาคือน้องชายคนเล็กสุดของร้าน

                ...และเป็นน้องชายที่ผมเอ็นดูสุดๆ ติดอย่างเดียวที่เด็กคนนี้แรงเยอะกว่าตัวมากมายจนน่าสงสัยว่าเขาแกล้งทำตัวเป็นเด็กเพื่อที่จะกินแรงคนอื่นหรือเปล่า

                “ฮึก...”ยูเอลน้ำตารื้นขึ้นมา “พอลลักษ์ของผม...พอลลักษ์ของผมมัน...”แล้วยูเอลก็ซบหน้าลง มือเล็กทุบกำแพงดังปังๆจนกลัวว่ามันจะพังลงมา

                “พอลลักษ์?”ผมถาม ใครหว่า...

                ยูเอลหยุดทุบกำแพง แล้วโผมาซบผมที่กำลังเอ๋อได้ที่ ผมก็ตกใจสิ ก็เลยเสียหลักล้มลงไป ดีนะที่คว้าผนังด้วยมือตุ๊กแกทัน...

                “พอลลักษ์ไงครับพี่คาเมล ตุ๊กตาตัวสีน้ำตาลของผม เน่าของผมไงครับพี่คาเมล!!!”ยูเอลโวยวายเสียงดัง แล้วนั่นก็ทำให้ผมได้รู้ว่าไอ้พอลลักษ์ที่ว่านี่คือตัวอะไร และอะไรคือสาเหตุที่ทำให้น้องเล็กคนนี้ต้องไปนั่งร้องไห้ในมุมมืดให้ผมหลอนเล่น “เมื่อตอนที่ผมไปนั่งกินข้าวเย็น ผมลืมพอลลักษ์ไว้ในห้องครัว แล้วพอผมกลับไปดู พอลลักษ์ก็หายไปครับ!

                โอยยย ผมจะบ้าตาย!!!

                “นี่ยูลงมาร้องไห้ตั้งนานเพราะเรื่องพวกนี้เหรอ!”หัวผมจะระเบิดในไม่ช้า ตอนนี้รู้สึกอยากฆ่าน้องชายหน้าหวานของตัวเองเสียจริง

                “พอลลักษ์เป็นเพื่อนผมนะครับ!”ยูเอลแย้ง ร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ลงไปนั่งแปะกับพื้น

                ผมถอนใจ

                “เดี๋ยวฉันจะไปหาให้ ตอนนี้ยูไปนอนก่อนนะ เด็กนอนดึกมันไม่ดีรู้ไหม ไปนอนนะ”ผมพูด โว้ย นี่นายอายุ 12 แล้วนะยู ยังไงก็โตขนาดนี้แล้ว ดูเหมือนนิสัยเด็กคนนี้จะดูน้อยกว่าอายุไปมาก แต่ความน่ารักของเขาทำให้ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทุกคนก็ต้องมาโอ๋ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นล่ะ พวกผมเป็นพวกแพ้เด็กอิโนเซนต์ แต่บางครั้งมันก็ช่วยได้ดีเวลาทำงาน

                ยูเอลเงยหน้าขึ้นมองผม ปากเล็กเม้มอย่างดื้อดึง

                “ผมจะไม่นอนจนกว่าจะเจอพอลลักษ์ครับพี่คาเมล!

                โว้ยยย!!!

                ผมเริ่มกลายร่างเป็นพี่ชายเผด็จการ วันนี้ผมจะไม่ยอมแพ้เด็กคนนี้อีกแล้ว!!!

           “ยู! ไปนอนเดี๋ยวนี้นะ!”ผมออกคำสั่ง

                “ไม่ไปไม่ได้เหรอครับ พี่คาเมล ขอผมหาพอลลักษ์ให้เจอก่อนนะครับ นะคร้าบบ”ยูเอลทำแก้มป่อง พร้อมตาวิบวับ และเอียงคอใส่ผม น้องผมนี่...น่ารักจังเลย

                “ไปสิ! เดี๋ยวพี่ช่วยหา!”ผมบอกออกไปทั้งที่ยังเบลอๆ

                “เย่ พี่คาเมลใจดีที่สุดเลย!”แล้วเจ้าตัวเล็กก็กระโดดกอดคอผม...

                เฮ้ย! นี่ผมตอบตกลงไปแล้วเหรอเนี่ย! ไม่นะ!!!

           “อ้ากกกกกกกกกกก!!!

           (ไหนบอกว่าจะไม่ยอมแพ้ไง?)

    ขออภัยที่มาอัพช้านะครับผม^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×