ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The five lucky people

    ลำดับตอนที่ #5 : เมลบี:แผนการร้ายที่ไม่เคยจบสิ้น(ของโลกิ)

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 58


    าแล้วนะครับผมกับอีกตอน แหะๆ คือผมกำลังคิดว่าเจ้ายูเอลมันจะดูปัญญาอ่อนไปไหมนะ ถ้าเจ้าน้องนุชสุดท้องจะงอแงขนาดนี้ทั้งๆที่เขาก็อายุตั้ง 15 อืม...ผมว่าจะเปลี่ยนให้ยูเอลอายุสิบสองล่ะ...จะดีไหมนะ...มันอาจจะพอทำให้ยูเอลน่าหมั่นไส้น้อยลงบ้าง...ล่ะมั้งนะ...แหะๆ


    เมลบี(ที่มีโลกิจอมสอดเข้ามาแทรกจนเกือบหมด)
    : แผนการชั่วร้ายที่ไม่ยอมจบสิ้น

    ตึก ตึก ตึก ...

                ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของคนดังลั่นทั่วบ้าน ใครมาทำอะไรตอนกลางคืนเนี้ย หรือว่า “มิลาน” ทุกคนไม่ต้องตกใจไปหรอกนะ มิลานคือกุมารีที่ฉัน “เมลบี” เลี้ยงเอาไว้ มาเข้าเรื่องดีกว่า ฉันไม่ได้ปล่อยมิลานออกไปนี่ แล้ว เสียอไร? ออกไปดูหน่อยดีกว่า หลังจากนั้นฉันก็เปิดประตูออกมาจากห้องแล้วลงบันไดมาเรื่อยๆก่อนจะเจอ...

                “นี่!พวกนายสองคนมาทำอะไรที่ห้องรวมตอนกลางคืนเนี้ย”(ไร้มารยาทชะมัด) ฉันพูดออกไปด้วยอารมณ์โมโหสุดๆที่กล้ามาทำลายเวลาฝึกคุณไสยของฉัน

                “เมลบี เธอมาได้ยังไง”คาเมลถาม

                “ฉันก็เดินลงมาพราะเสียงของพวกนายมันทำใหฉันเสียสมาธิมาก เข้าใจมั๊ย!

                “ขอโทษที เพราะไอ้ตัวยุ่งนี่ละ ที่ทำให้ต้องวุ่นวาย”

                “ยู ปัญหานี่มันมาจากนายอีกแล้วหรอ แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ?”

                อยู่ดีๆ ยูเอลก็เริ่มร้องไห้ขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆเล่าเรื่องให้ฟัง

                “ฮื่อๆ พอลลักซ์ ครับ พอลลักซ์หายไป มันหายไปไหนไม่รู้ผมหาไม่เจอ ฮื่อๆ

                “ยู เธอหยุดร้องไห้เป้นเด็กอนุบาลเวลของหายได้ไหม? เธอโตแล้วนะ อายุ 12 แล้ว ทำนิสัยให้โตเหมือนอายุบ้างสิ”ฉันเริ่มฉุนกับนิสัยเด็กๆของยูเอลที่ไม่ยอมโตซักที

                “เมล เธอช่วยฉันหาหน่อยได้ไหม เผื่อว่าจะเจอเร็วขึ้น”คาเมลพูด

                “นะคร้าบบบ ช่วยหาหน่อยน้า ถือว่าช่วยเด็กตาดำๆ ตัวเล็กๆเถอะนะ คร้าบพี่เมลบี”

                “เฮ้อ”ฉันถอนหายใจออกมาอย่างหนักกับคำอ้อนวอนของไอ้เจ้าตัวแสบคนนี้ “ฉันต้องแพ้เด็กเหรอ อ่อนใจจริงๆ”

                “ก็ได้”ฉันพูด

                “ขอบใจนะเมลที่ช่วยหา” คาเมลพูด ก่อนจะจับมือไอ้ตัวปัญหาไปทางอื่น ส่วนฉัน ลองใช้สมองอันชาญฉลาด ดูแล้ว คนที่น่าจะเอาไปต้องไม่พ้น โลกิกับนิคแน่ๆ ว่าแต่รถของนิคไม่อยู่  งั้นมีแต่โลกิ ต้องใช้แน่ๆ โลกิ ไอ้ชั่วเอ้ย ทำให้ฉันเสียเวลา

                เคร้ง!!!...

                ฉันได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรแตกออกมาจากห้องรวม ทั้งที่ฉันกำลังจะขึ้นไปห้องของโลกิ

                “เมล เธอเป็นอะไรรึเปล่า”เสียงคาเมลและยูที่คาเมลจูงมือมาต่างทำหน้าตกใจกันหมด

                “ฉันไม่ได้เป็นอะไร”ฉันตอบ

                “พี่เมลบีไม่ได้เป็นอะไรเหรอครับ ผมได้ยินสียงดังไปถึงข้างหลังบ้านแน่ะ”ยูพูดบ้าง

                “ฉันได้ยินเสียงดังมาจากห้องรวมนี่ ก็เลยสงสัย เลยเข้าไปดูหน่อยไหมว่ามันมีอะไรในห้องรวมนั่น”

                ฉันไม่รอคำตอบจากอะไรหรือใครทั้งนั้น เดินไปหยิบกุญแจจากสถานที่เก็บกุญแจ ทุกคนต่างรู้ดีว่ากุญแจซ่อนอยู่ที่ไหน แตตอนนี้ มัน-หาย-ไป-แล้ว

                “กุญแจห้องรวมหาย มันหายไปได้ยังไง ไม่ได้การล่ะฉันต้องเปิดเข้าไป ไม่ฟังใครทั้งนั้น ประตูก็ไม่ได้ล็อก ฉันเลยเปิดเข้าไป แล้วก็พบกับบางสิ่งบางอย่างก่อนที่จะได้ยินเสียงร้องของ ยูเอล

                “อ๊ากกกก ตุ๊กตาผี”แล้วตามมาด้วยเสียงร้องไห้ ส่วนคาเมลก็เหมือนกัน หน้าขาวเหมือนไก่ต้มเลย สงสัยคงจะช็อก

                “เมล เธอว่าฝีมือใคร ใครกล้ามาทำแบบนี้”

                “ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจนะ แต่ฉันมีวิธีที่จะให้มันออกมา”

                “แล้วเธอจะทำยังไง”

                ฉันไม่ได้ตอบคาเมลว่าฉันจะทำยังไง แต่ฉันก็ต้องใช้แผนนี้ล่ะ

                “ใครอยู่ในห้องนี้ ใครทำแบบนี้ ถ้าไม่ออกมาแต่โดยดี ฉันจะเสกหนังควายเข้าท้องเธอ โอม...พี่ควายผู้แสนน่ารัก จงช่วยเราตามหาคนที่ทำ แล้วเข้าไปอยู่ในท้องของมันเลยนะจ๊ะ พี่ควายจ๋า”

                เฮ้ย ยัยเมลบี ยัยตัวแสบ เธอกล้าดียังไงมาขู่เขาแบบนี้ นี่มันไม้ตายชัดๆ ใครก็รู้ว่ายัยนั้นโหดขนาดไหน ถ้าเสกหนังควายเข้าท้องผม มีหวังว่าผมจะไม่ได้แกล้งยูเอล เด็กปัญญาอ่อนนั่นต่อแน่ เพราะฉะนั้น...

                “ฉันเอง หยุดนะ ห้ามท่อง ห้ามพูด ห้ามเรียก ห้ามเสกอะไรทั้งนั้นละ ฉันยอมแล้ว”ในที่สุดผมก็ต้องออกไป

                “โลกิ นายเองเหรอเนี้ยที่เป็นคนทำเรื่องนี้ “คาเมลพูดออกมา สีหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนสีแล้วละ (น่ากลัวไม่แพ้กัน แต่ผู้ร้ายอย่างผมไม่สนหรอก)

                “ใช่ฉันเอง”โลกิพูด

                “แล้วๆพี่มาทำอะไรตุ๊กตาของผม พอลลักซ์ละอยู่ที่ไหน ยูเอลพูดทั้งที่ยังไม่ลืมตาขึ้นด้วยซ้ำ เขายังคงห่วงพอลล่า พอลลักซ์อะไรนี้อยู่

                “นายเป็นคนทำทั้งหมดนี่ใช่ไหม นายทำเพื่ออะไรกัน บอกฉันหน่อยสิ”เมลบีเริ่มโมโหมากเพราะเสียเวลากับเรื่องปัญญาอ่อนเอง

                “ก็ทำ เพื่อ แกล้ง ยู ไง”โลกิพูด

                “นายมันก็เป็นแบบเนี้ย ชอบแกล้งคนอื่นไปทั่ว “ คาเมลบอกหน้าบึ้ง

                “แล้วพอลลักซ์ของยูล่ะ อยู่ไหน นายเอามันไปไว้ไหน เอามาให้ยูเดี๋ยวนี้นะ”เมลบีว่า

                “อยู่บนห้องนายอะ ขึ้นไปเอาดิ”โลกิยักคิ้วหลิวตา

                “คาเมล นายพายูเอลไปนอนก่อนไป เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง นี่มันก็ดึกแล้ว”

                “อืมเธอก็รีบไปเหมือนกันนะ”คาเมลว่า วิ่งตามยูเอลที่วิ่งนำขึ้นห้องไปหาพอลลักซ์ก่อนแล้ว

    “นายชอบแกล้งคนอื่นจังเลยนะ แล้วไอ้ของพวกนี้นะเก็บให้หมด ถ้าพรุ่งนี้เช้าไม่เรียบร้อยมีเรื่องแน่”

                “ไม่มีปัญหา”

                “ก็ดี ฉันหวังว่านายคงจะยังไม่อยากมีหนังความเข้าไปอยู่ในท้องหรอกนะ”หลังจากพูดจบ เมลบีก็เดินขึ้นห้องเก็บของแล้วรีบนอนเพราะนี่มันดึกมากแล้วและไม่ได้ทำภารกิจต่อ

               

    โลกิผู้เก็บกด

                ที่นี้ก็เหลือแต่ผมกับห้องเก็บของรกๆที่ผมทำเละไว้เอง ยัยเมลบีจอมพูดมากนั้นคงไม่รู้ว่าผมก็มีไพ่ซ่อนอยู่หลายใบนะ ไม่งั้นผมจะหน้าด้านแกล้งชาวบ้านหน้าซ้ำๆอยุ่ได้ไงละ คงรู้นะว่าใคร เออ ข้ามๆไปละกัน

                “คุณป้าครับ คุณป้า”ผมแหกปากแบบแทบจะกระซิบได้ แล้ววิญญาณคุณป้าแสนสวยของผมก็ปรากฏตัว กรีด!!! เสียงกรีดแบบผีๆดังสะท้านอยุ่ในแก้วหูผม “ใครบังอาดทำห้องแสนสวยเลอะเทอะ ใครโลกิ!

                “พอดีว่าผมกับเพื่อนๆมีปาร์ตี้กันนิดหน่อย”คำแก้ตัวไหลออกจากปากผมอย่างง่ายดาย

                “ออ ปาร์ตี้ปาแก้วกันเหรอ”อยู่ๆคุณป้าก็เปลี่ยนเป็นโหมดเข้าใจลูกหลานซะงั้น “ขึ้นไปนอนไป่โลกิ ป้าจะเก็บกวาด อยู่ไปก็เกะกะ”

                ผมฉีกยิ้มสยดสยองแบบที่คุณป้าชอบ                                                                                               

                “รับทราบครับ”ผมทำท่าตะเบะ อันนี้คุณป้าก็ชอบ สามีก่อนตายของป้าเป็นทหาร

                รู้จักฉันน้อยไป ยัยเมลบี

                อ้อ...แล้วอะไรทำให้ยัยป้ามหาโหดนั่นรู้เรื่องห้องน่ะนะ ก็...ย้อนกลับไปตอนนั้น...

               

                ท่ามกลางบรรยากาศมืดมิดวังเวงและอุปกรณ์ช่วยเสริมความหลอนมากมาย ชายหนุ่มผู้มีรอยยิ้มชั่วร้ายกำลังนั่งกลั้นหายใจแบบลุ้นระทึกกับคนข้างนอก แทบไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา จนกระทั่ง

                “เฮ้ย หนู ชิ่วๆ”ชายหนุ่มหันไปเขม่นใส่สิ่งมีชีวิตตัวจ้อยในความมืดที่กำลังไต่ไปมาตามพื้นห้อง หนูตัวเล็กหันมาจ้องเด็กหนุ่มอย่างสงสัย โลกิขมวดคิ้วใส่มันทันทีด้วยเหตุว่ามันอาจจะทำให้เกิดเสียงในห้องจนพวกข้างนอกได้ยิน

                แต่เจ้าหนูกลับทำหน้าเหมือนไม่พอใจใส่เขาคิดดูสิ!

                “ออกไปไป๋ เกะกะ!!!”เด็กหนุ่มไล่หนูตรงหน้า ทำให้มันดูจะโมโหขึ้นมาทันที

                จี๊ด!!!

                โลกิทำหน้าเอ๋ออย่างตกใจเมื่อเจ้าหนูตัวนั้นวิ่งไปชนฐานแจกันจนล้มเสียงดัง

                เพล้ง!!!

              โลกิไม่ได้ตาฝาดแน่ๆ มันหันมายิ้มเยาะใส่เขา!

              ไอ้หนูพ่อแม่ไม่สั่งสอน!!!!!!!


    ง่า...คือผมย่อรูปไม่เป็น...เอารูปใหญ่ๆไปละกันเนอะ สะใจดี(ผมนี่ก็แถเก่งดีนะเนี่ย)
    ทุกๆคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ผมนะครับ ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่าน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×