ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    s'corn ชมรมนี้ผียังกลัว

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 ที่มาของฝันร้ายสีชมพู

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 57


    โดนผีหลอกอยู่ใช่มั้ย...ให้เราช่วยสิ...เราช่วยได้นะ

    หากคุณอยากให้เขา  หรือเธอไปจากชีวิตคุณ

    จ้างเราสิ!

    เพียงแค่ทิปหนัก  กับของฝากเล็กๆน้อยๆ

    เราก็ทำให้แล้ว  ง่ายนิดเดียวเอง!

    เร็วๆสิ เราไม่มีใครมาเราจ้างนานแล้ว!!!!

    บทที่  1 ฝันร้ายสีชมพู

    โป้กกก!!!!  ตุ้บ!!เคร้ง!! โครม!!

              “เฮ้ย!!  อะไรอีกฟระ! เอะอะก็ใช้กำลัง  ไอ้เฟร์ เขกหัวแบบนั้นมันเจ็บนะเฟร้ย!!เธอด้วยทีนิวผลักชนกำแพงแบบนี้หลังตรูหักได้นะคร้าบบฟาร์เว้ยกระทะนี่มันไม่ได้เหมาะกับหัวงามๆของฉันเลยนะ  ฟาดมาได้!!!  แล้วก็คุณเจสุดที่รักคร้าบบ  คุณจะถีบผมทำม้ายยย  หัวกระผมไม่โขกตู้เย็นนี่โครตจะโชคดีเลยนะ!!” เสียงโวยยาวเป็นหางว่าวดังมาจากบุรุษนาม ซีคอร์น    ทาร์เวิร์ดชายหนุ่มวัย 15เอ่ยขึ้นอย่างหัวเสียเมื่อโดนเพื่อนๆรุมสกรัม(?)หลังจากเขียนใบโฆษณาชมรมแล้วเอาไปให้อ่าน

                ซีคอร์นยืดอกอย่างภาคภูมิใจ  เขายักคิ้วอย่างอวดๆแล้วกล่าวต่อ

                “ใบปลิวเนี่ย  สุดยอดเลยนะโว้ย  นอกจากจะได้ประโยชน์เรื่องเรียกลูกค้าแล้ว  ยังได้ทิปอีกนา”ว่าแล้วเจ้าตัวดีไม่รู้จักโตก็หัวเราะร่าอย่างชอบใจอยู่คนเดียว

                ฟาร์คอร์น...ผู้เป็นมันสมองหรือเรียกตลกๆว่าสารานุกรมเคลื่อนที่ของชมรม...กอดอกมองเจ้าตัวปัญหาที่ยืดอกภูมิใจอยู่ด้วยสีหน้าแปลกๆ

                “ซีคอร์น  เนื้อหาตอนแรกมันก็ดีน่ะนะ  แต่ช่วยเปลี่ยนประโยคสุดท้ายทีเหอะ  เวียนหัว”ฟาร์คอร์นส่ายหน้าอย่างปลงๆ

                “ใช่!!  แกคิดจะแฉชมรมเรอะ  ไอ้ซี!!”เจชายหนุ่มอารมณ์ร้อนเริ่มหาเรื่องโดยการสนับสนุนฟาร์คอร์น  ขณะที่เฟร์คอร์นได้แต่หัวเราะกึกๆ เหมือนไม่มีอะไร  ทั้งๆที่เขาเป็นคนแรกที่ยกมือขึ้นเขกหัวซีคอร์นเพื่อเริ่มเปิดศึก

                “ง่า...”ดูเหมือนว่าซีคอร์นจะเพิ่งรู้ศึกตัว  เขาเบิ่งตามองใบปลิวที่เขียนขึ้นเองกับมือแล้วยิ้มแห้งๆส่งให้เพื่อนๆ “นี่ก็ดีนา  เรียกคะแนนความสงสารไง  คนจะได้มาจ้างเราเยอะๆ”ว่าแล้วเจ้าตัวก็หัวเราะแหะๆคนเดียวส่งไป

                แล้วเจ้าคนเจ้าเล่ห์แถไปเรื่อยก็ผงะอย่างตกใจเมื่อเจคอร์น  เวนเดล  ชายหนุ่มอารมณ์ร้อนเริ่มควั่นแขนเสื้อ  แล้ว ฟาร์คอร์น   แบนเดรส ก็เริ่มตั้งท่าจะเอากระทะฟาดลงบนหัวเขาอีก

                “เฮ้ยๆ  เดี๋ยวก่อนเฟ้ย  อันนี้แก้ได้  แก้ได้  แก้ได้”คนชอบแถเริ่มลนลาน  แล้วก็วิ่งหนีกระทะกับหมัดเจคอร์นเสียจ้าระหวั่น  ปล่อยให้เพื่อนสนิทอย่างเฟร์คอร์น        บรีซ ยืนหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง  ส่วนทีนิวคอร์นที่ยืนมองอยู่นานก็เริ่มมีประกายตาสนใจแล้วไม่นาน หญิงสาวเพียงคนเดียวในกลุ่มก็กระโดดเข้าไปร่วมแจมด้วย

                “อะไรกันเนี่ย!!!!

    เสียงหวานของหญิงสาวนาม เอนาคอร์น ตะโกนดังลั่นห้องหยุดชะงักกิจกรรมทุกอย่างในห้องครู่หนึ่งก่อนจะกลับไปสู้ความชุลมุนวุ่นวายเหมือนเดิม โดยมีเสียงเชียร์จากเฟร์คอร์นดังขึ้นเป็นระยะ

    “หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้!! ถ้าไม่หยุด ฉันจะเรียกคิตตี้เดธออกมา!!!”นั่นหยุดการกระทำทุกอย่างทันทีใบหน้าทุกคนปรากฏแววสยองอย่างเด่นชัด

    คิตตี้เดธ...คือตุ๊กตาคิตตี้สีชมพูหวานแหววพูดได้เดินได้ที่คงจะถูกใจเด็กผู้หญิงหลายคนแต่มันคือสิ่งที่เหล่าเอสคอร์นกลัวที่สุด  เพราะเอนาเคยเรียกตุ๊กตาเจ้ากรรมนี่ออกมาแผลงฤทธิ์หนหนึ่ง

    ...มันคือนรกของคนเกลียดตุ๊กตา

    ซึ่งชมรมที่ขึ้นชื่อว่าปราบผี  ย่อมไม่มีใครชอบตุ๊กตาอยู่แล้ว   มันเป็นฝันร้ายสีชมพู  กองทัพคิตตี้ตัวน้อยเฝ้าจู่โจมทุกคนในชมรมเอสคอร์น  พ่นไอมนตร์ดำสีชมพูใส่ทุกอย่างที่ไม่ใช่เนื้อมนุษย์  เสื้อผ้าพวกเขาจึงเป็นสีชมพูเกือบหมดตู้ เฟอร์นิเจอร์แทบทุกอย่างในบ้านกลายเป็นสีชมพูหมด  ขณะที่คนอื่นกำลังสยดสยองกับสีชมพู คนชอบสีชมพูอย่างเอนาก็กลับชอบใจและหัวเราะร่าทั้งวัน

    เธอเอาแต่หัวเราะตอนเห็นคนใดคนหนึ่งในชมรมอ้วกเพราะสีชมพูของเธอ

    หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้รู้ว่า ไม่ใช่ทีนิวคอร์นคนเดียวที่โรคจิตเสียแล้ว

    “ไม่เอา!!!!”นั่นคือเสียงปฏิเสธอย่างพร้อมเพรียงของเหล่าผู้ชายที่ไม่เคยอยู่ด้วยกันอย่างสงบได้

    “ก็ดีแล้ว  อย่าปล่อยให้ชมรมเงียบเหงาเกินไปแต่ที่ไม่เงียบเหงาต้องเป็นเพราะมีลูกค้าเข้ามา ไม่ใช่ทะเลาะกัน  เพราะฉะนั้น...”เอนายิ้มเย็น “เลิกเล่นไร้สาระซักทีแล้วเขียนใบปลิวต่อไปซะ!!!

    “พอเหอะ เอนา  เธอก็รู้ว่าเจ้าคิตตี้เดธของเธอมันน่าสยองขนาดไหน  รถมอเตอร์ไซค์สุดเท่ของฉันเป็นสีชมพูไปตั้งห้าวันแน่ะ”ทีนิวคอร์น หญิงสาวผู้ได้รับฉายาว่า  นิวสุดโหด โอดครวญออกมาอย่างน่าสงสาร  มือลูบแขนไปมาอย่างขนลุก

    แล้วเอ็กซ์โซคอร์นก็หัวเราะออกมาหลังจากมองตาแป๋วอยู่นาน  เธอจะยังไม่คิดอะไรมากเรื่องคิตตี้นั่น ถ้าเอนายังไม่เริ่มร่ายอาคมมนตร์ดำที่แสนหายากนั้น

    “พอๆๆ  พวกนี้กลัวกันหมดแล้ว โอ๋ เบบี๋น้อย กลัวแม้กระทั่งคิตตี้สีชมพู”เอ็กซ์โซทำเสียงเล็กเสียงน้อยน่าหมั่นไส้ก่อนจะหัวเราะอย่างกวนประสาทขัดกับหน้าสวยจนโลกตะลึงนั่น

    เฟร์คอร์นยิ้มเครียดๆ

    “ฉันว่าเอ็กซ์โซอยู่กับไอ้ซีมากไป”เขาพูด  เอ็กซ์โซทำหน้าบึ้งต่างกับซีคอร์นที่ทำหน้ายียวนก่อนเอ่ยเสียงนุ่มน่าหมั่นไส้พอกัน

    “เราเป็นแฝดกันไม่เห็นแปลก”ซีคอร์นพูดแย้งแล้วเดินไปกอดคอกับเอ็กซ์โซอย่างสนิทสนมซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มร่าแล้วหัวเราะกวนทีนไม่แพ้กัน

    “นายชักจะมากไปนะซีคอร์น”เอ็กซ์โซพูดแล้วบิดแขนเจ้าคนโมเมเอาเธอไปเป็นแฝดออกจากไหล่ จนเจ้าตัวแสบทำหน้าเหยเก  “แล้วเรื่องใบปลิวไปถึงไหนแล้วล่ะ”จนสุดท้ายตัวกวนฝ่ายหญิงก็พูดเข้าจุดสำคัญจนทำให้เหล่าชายหนุ่มสะอึก

    “เอ่อ...เฮ้ย เจ บอกสิวะ!!”ทีนิวพูด

                “ไม่เกี่ยวโว้ย ไอ้ฟาร์สุดฉลาด แกพูด!!!”เจโยนภาระ

                “เฟร์แกเป็นเพื่อนสนิท แกพูดสิวะ”ฟาร์คอร์นบอกปัด  เสียวหวิดๆว่าคนโดนลงโทษจะไม่ใช่แค่ซีคอร์นคนเดียว

                “เฮ้ย คนคิดบอกเองเซ่ ไม่เกี่ยวโฟ้ยย”แม้แต่เพื่อนรักอย่างเฟร์คอร์นก็ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน  คนคิดใบปลิวนรกนั่นถึงกับหน้าซีด เหงื่อแตกพลั่กๆ

                “ง่า...เอาไปดูเองแล้วกัน”ซีคอร์นว่าแล้วยื่นใบปลิวไปให้เอ็กซ์โซ  ผู้หญิงที่พูดง่ายสุด

                เอ็กซ์โซมองใบปลิวปราดเดียวแล้วทำตาโตแทบถลน  เธอหันมาถลึงตาใส่ซีคอร์นแล้วหัวเราะ หึๆ

                “นายนี่ใจกล้าดีนะซี”เธอพูดเสียงชวนสยองแล้วยื่นใบปลิวส่งไปให้สาวน้อยคนที่ทุกคนพากันลงความเห็นว่า...

                น่ากลัวที่สุด!!!

                เอนาคอร์นอ่านใบปลิวด้วยใบหน้าสงบ ที่ทำเอาหนุ่มๆแห่งเอสคอร์นพากันใจชื้นขึ้นเยอะ   แต่ความสุขอยู่ได้ไม่นาน เมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาแล้วแสยะยิ้มที่ทำให้หายใจไม่ทั่วท้อง

                “นายกลัวสีชมพูมั๊ยซี”เอนาถามเสียงเย็น

                “ง่า  เอ่อ...กลัวสิ  กลัวจริงๆ กลัวมากกกกก”ซีคอร์นพูดลากเสียงสูง  ยักคิ้วกวนๆอย่างบ่งชัดว่าคนๆนี้ไม่กลัวฤทธิ์คิตตี้เดธ  แต่กลัวของในย่ามเอนาที่ไม่เคยมีใครรู้ว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง

                “งั้นนายกลัวผีมั้ย”เอนาถามอีก แสยะยิ้มยั่ว

                “เอ่อ...อันนี้ค่อนข้างกลัว...”ซีคอร์นทำหน้าสลดแบบเสแสร้งแล้วถลาไปยืนข้างหลังเพื่อนรักอย่างเฟร์คอร์น “แง  เฟร์ ช่วยเค้าด้วย”ก่อนจะทำเสียงออดอ้อนจนเฟร์ขนลุกกราว

                เอนาหัวเราะหึๆแล้วมองใบปลิวอีกรอบ

                “ไร้สาระน่า เอนา ไอ้หมอนี่มันลื่นยิ่งกว่าท่อน้ำจับตะไคร่ แค่สีชมพูกับผี ทำอะไรมันไม่ได้หรอก เดี๋ยวมันก็กะล่อน ปล้อนไปเรื่อยแหละ”ทีนิวคอร์นพูดขัดอย่างรู้ฤทธิ์เพื่อนคนนี้ดี

                “จริงด้วย  เรามาแก้ใบปลิวท่อนสุดท้ายดีกว่า”เอ็กซ์โซพูดสนับสนุน

                “ไม่ต้องหรอก”เอนาพูด จนทุกคนในห้องเอาแต่ยืนอึ้ง  อ้าปากค้างขนาดมังกรเข้าไปออกไข่ได้  “อย่ามาทำหน้าชวนสยองกันแบบนั้น  เห็นกระเพาะลำไส้ใหญ่หมดแล้ว พวกนายน่ะ”

                “ทำไมถึงบอกว่าไม่ต้องล่ะเอนา”ฟาร์คอร์นที่เงียบมานานถามขึ้น  ใบหน้าติดจะเจ้าเล่ห์ฉายรอยงุนงง

                “ก็มันเรื่องจริง  ใช่มั๊ยล่ะ”เอนากล่าว ส่งสายตาอันแหลมคมส่งให้ทุกคน

                “ขอเนื้อๆไม่เอาน้ำได้ป่ะเอนา ฉันตามไม่ทัน”เอ็กซ์โซบ่นพึมพำแล้วถอนหายใจอย่างคนตามเรื่องไม่ทัน  ขณะที่ฟาร์คอร์น  สารานุกรมประจำชมรมเริ่มคิดอะไรออก

                “เอนาขออ่านใบปลิวหน่อยสิ”ฟาร์คอร์นพูด  เอนายิ้มอย่างรู้ทัน  คนๆนี้มักรู้อะไรก่อนใครอื่นเสมอ

                “อืม  ก็เรื่องจริง”ฟาร์คอร์นเปรยขณะไล่สายตาอ่านประโยคสุดท้ายซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ แล้วหุนหันรีบวิ่งออกจากห้อง

                “บอกไว้ก่อนว่าฉันจะไม่อธิบาย  ถ้าพวกนายอยากรู้เรื่องนี่ก็รอให้ ฟาร์กลับมาอธิบายละกัน”ว่าแล้วก็เดินขึ้นห้องไป  ปล่อยให้ผู้ชายอีกสามคนคนกับหญิงอีกสองได้แต่มองหน้ากันแล้วกระพริบตาปริบๆ

               “อะไรของพวกมันฟระ”เจคอร์นโวยแล้วทุกคนก็พากันถอนใจเป็นจังหวะดนตรี  แล้วทั้งหมดก็แยกย้ายไปทำธุระของตน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×