ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BURNING HEART

    ลำดับตอนที่ #3 : EPS II ll BURNING HEART

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 53


                  


                   “จับตาดูมันไว้ให้ดีอย่าให้หลุดรอดไปไหนได้ เข้าใจมั้ย!!

    “ครับอา”

    “ดี แล้ววันที่เราจะได้ทำลายครอบครัวมันก็จะมาถึงเร็วๆนี้ ฮึฮึ”

    “ครับผมก็ตั้งตารอคอยวันนั้นมานานมากแล้วเหมือนกัน”

    “โอเค งั้นฉันกลับก่อนแล้วกันนะแล้วเจอกันใหม่”

    “ครับ”

     

    EPS I ll BURNING HEART

    แสงแดดสาดส่องเข้ามาในในตาฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกแสบจนต้องลืมตาขึ้นมา  เอ๊ะ!นี่มันที่ไหนกันฉันมองไปรอบๆอย่างลนลานแล้วลุกขึ้นแต่แล้วกลับมีบางอย่างมารั้งข้อเท้าฉันไว้ ตาฉันเบิกโพร่งโซ่นั้นเองมันถูกติดล็อกไว้กับขาฉัน ใครกันมันทำฉันแบบนี้! ฉันลองมองนึกย้อนไปถึงเมื่อคืนว่าเกิดอะไรขึ้น จงฮวา!นายนั่นนั่นเองเขาต่อยท้องฉันจนสลบทุกอย่างมันมืดมิดไปหมดจนมาถึงตอนนี้ฉันจึงมาอยู่ที่นี้ เขาทำเรื่องทั้งหมดนี่ใช่มั้ย ทันใดนั้นเองตัวการของเรื่องก็เปิดประตูเข้ามา เขาเห็นฉันตื่นแต่กลับทำท่าทางเฉยๆแล้วเดินเข้ามา ฉันอยากจะเข้าไปกระชากคอเข้าในทันทีถ้าเกิดว่ามันไม่ติดว่าฉันถูกล่ามโว่ไว้กับขาของเตียงนอนแบบนี้

    “ไง! ตื่นแล้วหรอ”เขาเข้ามาทักทายด้วยหน้าตาเรียบเฉย อยากให้ฉันตอบกลับว่าไงละ ไฮ! ตื่นแล้วนะสิเมื่อคืนหลับสบายมากเลย ขอบใจนะที่ต่อยท้องฉันจนสลบ แล้วพาฉันมาล่ามโซ่ไว้ที่นี้ แบบนี้ใช่มั้ย เฮอะ!

    “นายทำกับฉันแบบนี้ทำไม”ฉันจ้องหน้าเขาตอบด้วยความโกรธ

    “จะอยากรู้ไปทำไมกัน”เขายังคงทำหน้าตาไม่ยินดียินร้ายกับอะไรทั้งนั้น

    “ฉันไปฆ่าพ่อแม่นายรึไง ถึงทำกับฉันแบบนี้”ฉันตะโกนออกไปด้วยความโกรธที่มากขึ้นกว่าเดิม แต่ฉันก็ต้องสะดุ้งตัวขึ้นมาเมื่อทันใดนั้นเขาเอื้อมมือขึ้นมาบีบหน้าฉันไว้อย่างแรง

    “ใช่เธอทำมัน!!!”หา! ฉันนี่นะไปฆ่าพ่อแม่นาย จะบ้าไปแล้วรึไง ยิงปืน วางระเบิดฉันก็ทำไม่เป็นแล้วฉันจะไปฆ่าพ่อแม่นายได้ยังไงกัน ถ้าพ่อแม่นายเป็นมดยังว่าไปอย่างเพราะบางทีฉันอาจจะเดินเหยียบพวกท่านโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้

    “ฉันไม่เคยฆ่าใคร!”ฉันจ้องเขาตอบด้วยสายตาที่ไม่เกรงกลัว “ถ้านายตอบคำถามนั้นไม่ได้ ก็ตอบมาทีว่าสร้อยเส้นนั้นมันไปอยู่ที่คอของนายได้ยังไง”ฉันเลื่อนสายตาต่ำลงไปที่คอของจงฮวาแล้วเอ่ยปากถามอีกครั้ง

    “ฮึ! แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันชื่อ ฮยอนจุงละ”

    !!!!!”เขาบอกพลางแสยะยิ้มออกมา  เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันไม่เชื่อถึงแม้ว่าความคิดนั้นจะเคยมาอยู่ในหัวฉันก็ตาม แต่พี่ฮยอนจุงที่ฉันรู้จักในอดีตเขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่ และอีกอย่างพี่ฮยอนจุงก็ไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วนายจะมาเป็นเขาได้ยังไงกัน

    “ไม่ใช่! ถึงจะคล้ายแต่นายก็ไม่ใช่ พี่ฮยอนจุงของฉันไม่มีทางทำแบบนี้แน่ๆ”ฉันบอกเขาด้วยน้ำเสียงและแววตาที่มุ่งมั่นว่าฉันไม่มีทางเชื่อที่เขาพูดออกมาแน่ๆ และเหมือนว่าฉันจะทำให้เขาโกรธขึ้นมาอีกแล้วเมื่อมืออีกข้างของเขากำกำปั้นขึ้นมา มันพุ่งตรงมายังมาฉันอย่างรวดเร็ว

    “โต้ม!!”ฉันหลับตาปี๋ด้วยความกลัว มันไม่ได้พุ่งตรงมาตรงหน้าฉันอย่างที่คิดเพราะฉันไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย ฉันลืมตาขึ้นมา ผนังนั้นเองที่เขาต่อยมัน พระเจ้า!แววตาเขาตอนนี้มันหน้ากลัวชะมัดเลยตอนนี้ฉันเริ่มตัวสั่นด้วยความกลัวแล้วจริงๆนะ ฉันหวังว่าเขาจะคงจะไม่ลุกขึ้นแล้วไปหบิยมีดมาแทงฉันหรอกใช่มั้ย แต่ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเรื่องมันจะได้จบๆอย่ามาทรมานกันแบบนี้เลย แล้วเขาก็ลุกขึ้นจริงๆแต่ไม่ได้ลุกไปหยิบมีดเขากำลังจะเดินออกไปที่ประตู

    “นี่! จงฮวานายจะไปไหน”ฉันร้องขึ้นมา นายจะไปไหนไม่ได้นะ ทิ้งฉันไว้แบบนี้ได้ยังไงกันกลับมาตอบคำถามฉันก่อน เขาหยุดนิ่งทันทีแล้วหันหน้ามานิดๆ

    “จำใส่หัวเธอไว้ซะ ฉันมินจุน น้องชายของ....พี่ฮยอนจุงของเธอยังไงละ ฮึ!”เขาแสยะยิ้มอีกครั้งแล้วเปิดประตูออกไป แล้วกระแทกประตูปิดมันเข้ามา น้องพี่ฮยอนจุง! มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ฉันสับสนไปหมดแล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงแล้วทำไมฉันถึงไม่รู้ แต่จะไม่เชื่อเลยก็ไม่ได้เพราะเขาก็มีส่วนคล้ายพี่ฮยอนจุงอยู่เหมือนกัน แถมเขายังมีสร้อยเส้นนั้นอีกต่างหาก รึว่าที่เขาทำแบบนี้เพื่อที่จะกลับมาแก้แค้นเรื่องในอดีต!!!!!!!

     

     

    ฉันแทบจะร้องไห้ออกมาเมื่อคิดหาคำตอบของคำถามของตัวเองให้ตัวเองแทนเขาได้ พ่อฉันไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่ๆ ถ้าเขาอยากจะแก้แค้นเรื่องในอดีตจริงๆเขาก็คงต้องทำอะไรกับ JE GROUP ด้วยใช่มั้ย นี่มันเรื่องอะไรกัน!!  โชคชะตาช่างเล่นตลกกับฉันจริงๆเลย ฉันก้มหน้ามองสภาพตัวเองตอนนี้  มันดูไม่จืดชะมัดเลยน้ำก็ยังไม่อาบ แถมตอนนี้ท้องยังร้องครวญครางอีกด้วย

    “ปัง!”ประตูถูกเปิดออก นี่จะเปิดเบาๆไม่ได้เลยใช่มั้ย คนมันตกใจรู้มั้ย ฉันจ้องหน้าเขาเมื่อเขาเปิดประตูเดินเขามาในมือมีถุงอะไรสักอย่าง เขาเดินไปที่ครัวแล้วออกมาพร้อมกับถ้วยเล็กๆใบหนึ่ง

    “กินซะ”เขาวางมันลงบนหน้าฉัน มันเป็นข้าวต้มเละๆที่ดูไม่หน้ากินเอาซะเลย ฉันเงียบแล้วไม่แตะมัน  ส่วนเขาก็ไม่สนใจแล้วเดินไปอีกทาง ฉันนั่งมองมันแล้วกลืนน้ำลาย ถึงฉันจะหิวแต่ฉันกลับอยากจะตายมากกว่า!!!

    เขาดูทีวี ฟังเพลงดังๆ เข้าห้องน้ำ กินข้าว ทำทุกอย่างโดยไม่สนใจฉันจะสนใจก็ตรงเอาน้ำมาให้แล้วก็เดินไปทำอะไรๆแบบเดิมที่ชีวิตคนธรรมดาคนนึงทำ ตกลงฉันไม่มีชีวิตอยู่ในห้องนี้เลยใช่มั้ย ก็ดีอย่ามาสนใจฉันเลยก็แล้วกันปล่อยฉันนอนตายอยู่กับโซ่ที่นายล่ามเอาไว้เถอะ ฉันมองออกไปข้างนอกหน้าต่างมืดลงแล้วซินะ อากาศก็เริ่มจะเย็นแล้วด้วย ชุดที่ฉันใส่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ฉันก็ยังใส่มันอยู่มันไม่ได้ช่วยปกปิดความหนาวได้เลย คืนนี้ฉันต้องหนาวตายแน่ๆ ฮึดีชะมัด

    “นี่ฉันอยากอาบน้ำ”

    “.........”

    “ฉัน  อยาก  อาบ น้ำ”ฉันพูดให้เขาฟังทีละคำเพื่อประโยคเมื่อกี้มันจะเร็วไปจนเขาฟังไม่ทัน แต่เขาอาจจะโง่ภาษาเกาหลีจนไม่ตอบอะไรกลับมา ฉันอยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังๆ แต่คอฉันแห้งผากจะตายอยู่แล้วแถมข้าวก็ยังไม่ได้กินมาตั้งแต่เช้าแล้วจะเอาแรงที่ไหนมาร้อง  แต่เหมือนเขาจะกวนประสาทยังไงอย่างนั้นเมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแทน แล้วกลับออกมาอีกทีเมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง แล้วก็มานอนบนเตียง อื้ม...ฉันไม่มีตัวตนเลยใช่มั้ยในสายตาของนาย

     

    ชีวิตที่ไร้ความรู้สึกของฉันผ่านไปหลายวัน ใช่ว่าฉันจะไร้ความรู้สึกไปเสียหมดเพราะฉันทรมานจะตายอยู่แล้วคืนแรกนั้นมันผ่านมาได้ยังไงไม่รู้มันทั้งหนาวจนทำให้ตัวฉันสั่นไปมา  และวันต่อๆมาฉันก็ยังคงไม่กินข้าว กินน้ำที่เขาหามาให้ ชีวิตฉันผ่านไปอย่างนั้นเรื่อยๆ จนตอนนี้มันทรมานจนฉันต้องนอนอยู่กับพื้นอันเย็นเฉียบ เปลือกตาของฉับค่อยๆพับหลับลงมา ไม่ไหวแล้วนะ ฉันเหนื่อยเหลือเกิน

    “นี่!”ฉันได้ยินเสียงนายนั่นเรียก ฉันไม่ตอบอะไรเพราะไม่มีแรงแล้วจริงๆ เขาเงียบไปพักนึงจนฉันคิดว่าเขาคงจะเดินไปแล้วแน่ๆ แต่เขากับเขย่าตัวฉันไปมาพลางดึงฉันให้ลุกขึ้น

    “ฉันเจ็บนะ”ฉันตะคอกใส่ด้วยพลังเสียงที่มีอยู่น้อยนิด และเหมือนทุกอย่างจะมืดมิดไปหมดอีกครั้งเมื่อฉันล้มลงนอน

     

    “เฮือก!”ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา เหงื่อแตกพลั่ก ฉันฝันร้ายมากๆความฝันเมื่อกี้นั้นฉันถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในห้องสี่เหลี่ยมสีดำ มันทั้งน่ากลัว เหงียบเหงาแถมยังหนาวอีกด้วย แต่ก็ช่างเถอะในเมื่อชีวิตจริงฉันก็เป็นอยู่ แต่ทำไมตอนนี้มันถึงได้อุ่นละ ฉันมองไปมองมาก็พบว่าตอนนี้ฉันนอนอยู่บนเตียงแถมยังมีผ้าห่มคลุมตัวอยู่อีกต่างหาก แล้วโซ่ที่ล่ามเท้านั้นก็ได้เปลี่ยนมาเป็นกุญแจมือที่ยึดติดกับข้อมือฉันไว้กับหัวเตียง อื้มฉันได้เลื่อนขั้นแล้วใช่มั้ย  แล้วหมอนั่นละไปไหนกัน แต่ไม่ทันไรเขาก็มาปรากฏตัวตรงหน้าฉันพร้อมกับชามข้าวต้มและยาในมือ

    “กินมันซะ”

    “..........”

    “ถ้าไม่กินก็ตาย จะเลือกอะไร”ฉันอยากจะหยิ่งให้ถึงที่สุดจริงๆ แต่ฉันสงสารท้องของฉันจึงเลื่อนตัวลุกขึ้นมาจากผ้าห่มแล้วมาพิงหัวเตียงแทน

    “กรี๊ด! นะ...นายทำอะไรกับตัวฉัน”ทันทีที่ผ้าห่มหลุดออกจากตัวฉันก็ต้องตกใจเมื่อชุดที่ฉันใส่อยู่เมื่อคืนตอนนี้มันกลายมาเป็นเสื้อยืดเก่าๆตัวใหญ่และกางเกงขาสั้น

    “ก็เปลี่ยนเสื้อให้ไง อย่าโวยวายได้มั้ยก็ตัวเธอมันร้อนฉันเลยเช็ดตัวให้ ไม่ดีหรือไงรึอยากตาย”

    “ถ้าเป็นงั้นฉันก็อยากจะตาย ตายไปเลยจะได้ไม่ต้องเจอนาย!”ฉันกัดปากอย่างเจ็บใจ ไม่มีใครได้แตะต้องร่างกายฉันสักคน แต่นายกลับทำมัน แสดงว่าทุกสัดส่วนในร่างกายของฉันก็ต้องผ่านสายตานายไปแล้วใช่มั้ย แล้วไหนจะมือที่นายสัมผัสกับตัวฉันอีก ยิ่งนึกยิ่งขยะแขยง!!!

    “บ้าเอ้ย! นี่เธอจะบ้าไปแล้วใช่มั้ย ฉันขอโทษๆพอใจรึยัง”เขาตะโกนออกมาทันทีที่เห็นเลือดออกมาจากปากฉัน ขอโทษสักล้านก็ไม่หายหรอก

    “อะนี่ กินเข้าไป”เขาตักมันแล้วยัดๆเข้าไปในปากฉัน

    “โอ้ย ร้อน”ฉันร้องออกมาทันทีที่ข้าวเขาไปในปาก มันไปโดนแผลที่ฉันกัดเมื่อกี้ด้วยยิ่งเจ็บเข้าไปใหญ่นี่กะจะฆ่ากันเลยใช่มั้ย น้ำตาฉันซึมออกมา

    “ก็ฉันไม่รู้นี่นา จะอะไรของเธอนักหนาเนี้ย เรื่องมากชิบ!

    “งั้นนายก็ปล่อยให้ฉันตายสิ จะมานั่งป้อนข้าวให้ฉันทำไมกันอยากจะเห็นฉันตายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”ฉันเถียงกลับไปบ้าง  เขาทำท่าทางหงุดหงิด ก่อนจะตักข้าวแล้วเปามันให้หายร้อนแล้วยัดเข้าปากฉันด้วยความแรงที่น้อยกว่าเดิมนิดหน่อย ก็ยังดีที่หัดสำนึกซะบ้าง หลังจากที่กินข้าว กินยาเสร็จ ฉันนึกว่าเขาจะเปลี่ยนให้ฉันโดนล่ามโซ่ที่เท้าเหมือนอย่างเดิม แต่เขากลับไม่ทำอะไรแล้วเดินออกไปจากห้อง ฉันอยากออกไปที่นี้ได้ยินมั้ยพาฉันออกไปด้วยไม่ได้รึไง แล้วเราค่อยมาดวลปืนกันรึอะไรก็ได้  ฉันเบื่อจะแย่อยู่แล้วนะที่ต้องอยู่ที่นี้แถมยังลุกไปไหนไม่ได้อีกต่างหาก  ฉันบ่นกับตัวเองในใจทั้งๆที่ทำไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ฉันมองไปมองมารอบๆห้องเผื่อจะเจอลูกกุญแจตกอยู่ที่ไหนบ้างแต่มันก็ไม่มี บางทีฉันอาจจะวางแผนอะไรสักอย่างนี่นา

    ตอนเย็นเขากลับเข้ามาที่ห้องนี้ฉันจึงเริ่มปฏิบัติการตามแผนที่ฉันวางไว้ในใจ

    “นี่นาย!  ฉันรู้สึกเหมือนกับวันนั้นของเดือนจะมาอะ”

    “วันนั้นของเดือนอะไรของเธอ”

    “ก็ประจำเดือนไง!!!

    “แล้วฉันต้องทำยังไง”ไอ้บ้านี่ทำมันถึงได้โง่อย่างนี้น้า

    “ก็ไปซื้อผ้าอนามัยมาซิ”

    “แล้วทำไมฉันต้องไป”ฉันว่าไม่ได้โง่แล้วละ เขาคงอยากจะกวนประสาทฉันมากกว่า

    “ก็ตามใจนายถ้าอยากให้เลือดไหลเต็มที่นอนก็ตามใจ”

    “ฉันก็ไม่นึกว่าเธอจะมีมดลูกเหมือนกับคนอื่นเขา”

    !!!!!”บ้าเอ้ย หลังจากทิ้งคำกวนประสาทนั้นแล้ว เขาก็ออกจากห้องไปแล้วกลับเข้ามาอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา

    “นายต้องให้ฉันเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ”ฉันบอกเขาหลังจากที่เขายื่นห่อผ้าอนามัยมาให้

    “เปลี่ยนมันตรงนี้แหละ อย่าเรื่องมากได้มั้ย”

    “จะบ้าหรอ! ฉันจะเปลี่ยนในห้องน้ำ”ฉันจ้องเขาด้วยสายตาโกรธนิดๆไอ้บ้านี่มันอะไรนักหนา คำก็เรื่องมากสองคำก็เรื่องมาก ถ้าเป็นงี้ก็ปล่อยฉันไปสิ  แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ต้องไขกุญแจมมือออกแล้วลากฉันไปเข้าห้องน้ำหลังจากที่ฉันขู่เขาว่าเลือดมันกำลังจะไหลออกแล้ว

    “เร็วๆละ แล้วอย่าคิดหนีนะไม่งั้นเธอตายแน่ๆ”เฮอะ! ไม่มีทางฉันจะหนี ฉันเข้าไปในห้องน้ำแล้วสำรวจห้องน้ำว่ามีลู่ทางอะไรที่พอจะพาฉันเล็ดรอดออกไปจากที่ได้บ้าง  เหมือนพระเจ้าจะเป็นใจเมื่อมีหน้าต่างเล็กๆอยู่ข้างบนผนัง ฉันเหยียบโถ่ส้วมเพื่อจะปีนขึ้นไป

    “เร็วๆหน่อยได้มั้ย”หมอนั่นตะโกนเข้ามาในห้องน้ำ พร้อมทุบประตูอย่างแรง หมอนี่นี่มันจริงๆเลย

    “รู้แล้วๆกำลังจะเสร็จแล้วเนี้ย”ฉันตะโกนตอบเพื่อไม่ให้เป็นที่น่าสงสัยแล้วปีนต่อไปอ่า...มือฉันกำลังจะจับหน้าต่างได้แล้ว อีกนิดนึง อีกนิดนึงเท่านั้นเอง

    “กรี๊ดดดดดดด!!!!”โชคชะตาฟ้ากลั่นแกล้งฉันอีกครั้งเมื่อเท้าอีกข้างดันลื่นจนทำให้ฉันล้มไปนั่งลงกับพื้นสาบานได้ว่าเสียงกรี๊ดของฉันเมื่อกี้ถึงกลับทำให้เขาพังประตูเข้ามาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น  หมดกันทีนี้เขารู้แน่ๆว่าฉันกำลังทำอะไรโถ่เอ้ย

                “อย่ามาลองดีกับฉันนะ โซยอน!!”สายตาอันน่ากลัวของเขานั้นจ้องมองมาที่ฉันเหมือนกับว่าเขาพร้อมจะฆ่าฉันได้ทุกเมื่อ

                “ฉันไม่ได้อยากลองดีกับนาย แต่ฉันอยากกลับบ้านนายได้ยินมั้ย!!!

                “เฮอะ! วันที่ครอบครัวของเธอล่มสลายวันนั้นเธอได้กลับไปสมใจเธอแน่  ลุกขึ้นได้แล้ว!”พูดจบเขาก็ฉุดฉัน แต่ฉันกลับไม่ยอมลุกและยึดตัวไว้กับพื้นห้องน้ำอย่างเดียว

                “ไม่มีทาง ฉันไม่มีทางยอมให้นายล่ามโซ่ฉันอีกครั้งแน่”

                “เธอมันไม่เคยมีทางเลือก โซยอน ลุกขึ้น”เขากระชากฉันขึ้นมา ฉันสู้แรงของเขาไม่ได้จึงต้องลุกขึ้นไปตามแรงลากของเขา

                “ฉันเกลียดนาย!!!!!

                “เรื่องนั้นฉันรู้อยู่แล้วละ เพราะฉันก็เกลียดเธอเหมือนกัน”เขาพูดมันออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย 

    “เพราะฉะนั้นเราก็มาอยู่ด้วยกันเป็นไง  .....แกร็ก แกร๊ก”ยังไม่ได้ที่ฉันจะทันได้ตั้งตัวข้อมือของฉันก็ถูกล็อกด้วยกุญแจมือและที่สำคัญไปกว่านั้นข้อมือของเขาก็ถูกล็อกไว้ด้วยเหมือนกัน!!

     

     

     

     

               

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×