คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โกรธหรือกลัว
วินหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะดึงเอาความทรงจำอันแสนเจ็บปวดออกมาจากเบื้องลึกของหัวใจของเธอ
“เอาล่ะถ้าเธอไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรหรอกนะ แต่ชั้นต้องขอให้เธอออกไปจากชีวตของลูกชายชะ ”
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว”ยังไม่ทันที่แม่ของเอ็นจะได้พูดอะไรวินก็ขัดขึ้นมาก่อนเธอเงยหน้าขึ้นมองเพดานของบ้านหลังสวยก่อนที่น้ำตาจะไหลรินออกมาโดยที่ทั้งสองคนไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครคนนึงตื่นขึ้นมาได้ยินการสนทนาของทั้งสองแล้ว
“ยังมีเด็กหญิงที่น่ารักเธอมีดวงตากลมโต หน้าขาวใสอมชมพู ตัวเล็กน่ารักดูน่าปกป้อง ชายหนุ่มรูปงามมากมายหลงรักในความน่ารักและนิสัยอันแสนดีของเธอ ผู้คนมากมายอยากเข้าใกล้เธอเพราะว่าเธอมีนิสัยที่น่าคบหา หากแต่เธอเลือกที่จะคบเด็กขี้อายไม่มีจุดเด่นเป็นเพื่อนสนิทของเธอ เธอปฎิเสธผู้ชายทุกคนที่เข้าหาพร้อมกับพูดกับคนพวกนั้นว่า ‘ชั้นไม่ต้องการผู้ชายคนไหนทั้งนั้นเพราะว่าชั้นมีเพื่อนของชั้นคนนี้แล้ว’ หญิงสาวขี้อายดีใจเป็นที่สุด ทุกครั้งเมื่อเธอพูดเช่นนั้น หากแต่วันหนึ่งมีชายรูปงามที่เป็นที่ปรารถนาของหญิงสาวทั้งหลายเข้าหาเธอและไม่ลดล่ะกับคำพูดประโยคเด็ดของเธอ และในเมื่อถึงที่สุดในวันที่หญิงสาวขี้อายไม่ได้อยู่ข้างกายสาวเจ้าของตัวตากลมโต ชายร่างสูงนั้นก็ฉุดรั้งร่างของเธอไปที่บ้านของเค้าและขืนใจเธอซะ! หากแต่เมื่อจบเรื่องทำให้หญิงสาวแสนสวยจำยอมต้องคบหากับผู้ชายเห็นแก่ตัวผู้นั้นเธอไม่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟังแม้แต่เพื่อนแสนรักของเธอ แต่นานวันชายผู้ชั้นก็ยิ่งเหลิงเค้าพาเธอไปที่บ้านถี่ขึ้น กระทำชำเราเธอจนเธอตั้งครรภ์”พูดถึงตรงนั้นแม่ของเอ็นก็ยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ ชายหนุ่มหน้าใสที่นอนอยู่ตรงโซฟาเกือบที่จะห้ามตัวเองไม่ให้ตัวเองเบิกตาโพล่งขึ้นมาไม่ทัน
“และในที่สุดในเย็นที่อากาศไม่เป็นใจให้ใครทำอะไรทั้งสิ้น หญิงสาวได้ตัดสินใจพูดเรื่องลูกของเธอและเค้าออกมา หากแต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับและหาว่าเธอไปมีคนอื่นและนอกใจเค้า เพื่อนขี้อายที่แอบฟังอยู่ข้างนอกได้แต่เก็บความคับแค้นไว้ในใจเตรียมจะไปพูดกับเพื่อนแสนรักของตนเองให้รู้เรื่อง หากแต่พอพูดเรื่องนี้เพื่อนสาวก็พูดว่าหากเธอพูดอะไรออกไปเธอจากฆ่าตัวตาย เพื่อนขี้อายของเธอจึงได้แต่เก็บเรื่องราวของเพื่อนรักที่ให้เธอเจ็บปวดไปด้วยไว้ในใจ และแอบสาปแช่งชายหนุ่มอยู่ลึกๆในใจไม่หยุด เช้าที่อากาศแจ่มใสหากแต่ใจของหญิงสาวสองคนไม่เป็นไปด้วยเธอทั้งสองจูงมือกันเดินไปที่ท่ามกลางสายตาที่มองขอบตาบวมช้ำที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักของทั้งสองอย่างประหลาดใจ และทันใดนั้นชายหนุ่มตั้นเหตุก็เดินลงมาจากบันไดทางเดินข้างกายของเค้ามีหญิงสาวคนใหม่และเมื่อมองเห็นสาวคนเก่าก็ส่งสายตาเหยียดหยามและบอกหญิงคนใหม่ของเค้าเมื่อถูกถามว่าหญิงคนเก่านั้นเป็นใครว่า เค้าไม่เคยรู้จักเธอ
หญิงสาวเสียใจอย่างที่สุดจึงนั่งลงกับพื้นตรงนั้นแล้วร้องไห้อีกครั้งอย่างหนัก หากก็ไม่ได้ทำอะไรชายปากดีคนนั้น แต่ว่าเพื่อนของเธอไม่ยอม เธอพุ่งเข้าหาชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นแล้วบีบคอเค้าเพื่อเอาชีวิตปัดป้องทุกคนออกอย่างแรงเมื่อจะเข้ามาห้าม จนมีคุณครูผู้ชายสองคนเข้ามาดึงตัวเธอออกแต่กระนั้นชายรูปงานก็เกือบที่จะไม่หายใจเค้าต้องเข้าร.พ.อยู่หลายเดือนทางพ่อแม่ของเค้าไม่ยอมจึงได้ส่งตัวเธอให้ตำรวจเธอได้ไปอยู่ในนรกที่เรียกว่าสถานกักกันสำหรับเด็กที่ทำความผิดแต่อายุไม่ถึง18ปีแต่แทนที่ในนั้นจะเป็นที่ดัดนิสัยของเด็กที่ทำผิดกลับมีแต่จะเพิ่มความก้าวร้าวในจิตใจของผู้ที่เข้าไปอยู่ให้ต่ำลงเรื่อยๆ หญิงสาวที่เข้าไปอยู่ใหม่มองสถานกักกันนั้นด้วยความกลัว หากแต่เส้นสายของเธอทำได้แค่ลดหย่อนการอยู่ที่นั่นจาก5เป็น2ปีต้องทนกับผู้ชายที่เข้ามาหาและเมื่อเธอปฏิเสธคนพวกนั้นก็จะทำร้ายเธอจนนานเข้าเธอก็ไม่ยอมสู้ตอบบ้าง ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะต้องการเธอมากเป็นพิเศษจึงเข้ามาข้างหลังและตีหัวเธอจนสลบ”พูดถึงตรงนี้น้ำตาของเธอก็ยิ่งไหลเธอลูบคลำแผลเป็นที่สังเกตุได้อยากที่อยู่ตรงศรีษะของเธอ
“เมื่อตื่นขึ้นมาเธอก็ได้พบว่าเธอได้นอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างกายของเค้า เธอเสียใจมากและเริ่มคิดว่าถ้าหากเธอยังอ่อนแออยู่อย่างนี้ต้องไม่ดีกับตัวเองเธอแน่ เพราะฉะนั้นวันเวลาที่เหลือในสถานกักกันนอกจากเรียนและอ่านหนังสือเธอก็จะเก็บตัวฝึกซ้อมกับเพื่อคนเดียวที่อยู่ในนั้นของเธอ และเมื่อออกมาเธอก็ได้เข้ามาเรียนในร.ร .ที่พ่อของเธออยากให้เข้าไปเรียนมาก หากแต่ตอนนั้นและจนถึงบัดนี้เธอก็ไม่สามารถตอบคำถามนั้นกำตัวเองได้แล้วว่าที่เธอเข้าไปได้นั้นเพื่อใครและเพื่ออะไรในเมื่อพ่อแม่ของเธอถูกพวกอันธพาลฆ่าตายเมื่อตอนที่เธออยู่ในคุกนั้น และสายตาของคนที่มองเธอเมื่อเธอเดินผ่านมันไม่เป็นมิตรเอาซะเลยนอกจากพวกแก๊งอันธพาลเท่านั้นที่มองเธออย่างเทิดทูล ก็ในเมื่อมองไม่ดีก็อย่าเป็นคนดีมันซะเลยเธอบอกกับตัวเองอย่างนั้นและเริ่มปิดกั้นตัวเองจากคนธรรมดาคิดว่าก็ดีเหมือนกันที่ไม่มีใครเข้ามายุ่งเธอจะได้ไม่ต้องทำร้ายใคร แต่ว่าตอนนี้มันกลับมีข้อยกเว้นสำหรับใครคนนึง”วินหันไปลูบหัวคนที่นอนอยู่และหันมามองน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุดของแม่ของเค้า
“ร้องไห้ทำไมกัน มันก็แค่นิทานที่ไม่มีวันจะจบอย่างมีความสุขมันคือเรื่องร้ายที่เหมาะจะเล่าให้เด็กไม่ดีฟังในคืนวันฝนตกหนักน่ากลัวเท่านั้นมันก็คงเหมือนๆกับหนังสือชุดเรื่องอยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้ายล่ะมั้ง ตอนอยู่ในคุกนั่นชั้นอ่านมันบ่อยๆ”เล่าจบเธอก็พูดมันออกมาอย่างไม่หยี่ระโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแม่ของเอ็นก็โผเข้ากอดเธอแล้วปล่อยโฮออกมาทำให้เธอที่แข็งทื่ออยู่ต้องลูบหลังปลอบแล้วน้ำตาที่มาจากความเสียใจจริงๆไม่ใช่สมเพชตัวเองก็ไหลออกมาเป็นครั้งที่2ตั้งแต่เกิดเรื่องบ้านั่นขึ้น
“แล้วเพื่อนของเธอไปอยู่ที่ไหนซะล่ะ”แม่ของเอ็นถามเธอ
“ชั้นไม่รู้รู้แต่ว่าเธอไปในที่ไกลแสนไกลและจะไม่มีวันกลับมา”วินพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาแสนเศร้าที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดทั้งๆที่ไม่เคยให้ใครได้เห็นมาก่อนแต่เธอรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ในบ้านหลังนี้และครอบครัวนี้
“เอาล่ะเมื่อนิทานจบแล้วเจ้าหนูน้อยก็หลับ(ไปตั้งนาน)แล้วชั้นผู้เล่านิทานก็ต้องขอตัวกลับไปในหนังสือนิทานก่อนแต่ว่า ”วินพูดแล้วหันมาลูบไล้ที่ผมนิ่มๆของเอ็นอีกครั้ง
“เมื่อเด็กน้อยนอนไม่หลับในวันที่ฝกตกหนักและฟ้าร้องหน้ากลัวชั้นจะออกมาจากหนังสืออีกครั้งเพื่อดูแลและกล่อมให้เค้าหลับเอง”เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่วินเผยแววตาอ่อนโยนให้ใครได้เห็นแม่ของเอ็นจดจำมันไว้แล้วก็ตราตรึงในดวงจิตเพื่อที่จะบอกกับลูกชายเมื่อเค้าตื่นขึ้นมา
“ลาล่ะ”วินพูดเท่ๆก่อนจะเดินหายออกไปจากบ้านอันอบอุ่นของเอ็น
“ช่างเป็นเด็กสาวที่กล้าหาญ เข้มแข็ง และลึกลับเสียเหลือเกิน”หญิงสาววัยกลางคนที่ยังคงความสวยงามเช่นเดิมพูดขึ้น
“หรือลูกว่าไงเอ็น”เมื่อพูดจบร่างของเอ็นที่นอนหลับไหลอยู่เมื่อกี้ก็ลุกขึ้นและแม่ของเอ็นก็เข้ามากอดคอเค้าแล้วก็ยีหัวเค้าเล่น
“นี่แน่ๆตีบทแตกกระจุยเลยลูกชั้น”หญิงสาวหัวเราะสะใจเมื่อเห็นลูกชายคนเดียวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“โถ่แม่ ถ้าผมไม่ทำแบบนี้จะได้รู้เรื่องนี้เหรอ แล้วอีกอย่างลูกแม่ทั้งทีไม่ตีบทแตกกระจุยก็เกินไปล่ะ แต่ว่าที่เธอพูดก่อนที่จะออกไปมันหมายความว่ายังไงกันฮะแม่”เอ็นพูดอย่างสงใส
“เมื่อเด็กน้อยนอนไม่หลับในวันที่ฝนตกหนักและฟ้าร้องน่ากลัวหมายถึงเมื่อเวลาที่ลูกอยู่คนเดียวและมีภัย ชั้นจะออกมาจากหนังสืออีกครั้ง หมายถึงเธอจะออกมาจากมุมที่เธอคอยแอบดูลูก เพื่อดูแลและกล่อมให้เค้าหลับเอง หมายถึงเธอจะคอยมาปกป้องลูกและทำให้ลูกปลอดภัยจากอันตรายเอง”ผู้เป็นมารดาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยโยนพลางนึกถึงเด็กสาวผู้มีจิตใจอ่อนโยนตรงข้ามกับที่เธอแสดงออกนัก ส่วนลูกชายก็ได้แต่น้ำตาคลอในความดีของเธอและแอบเช็ดมันเมื่อได้ยินเสียงลงบันไดของใครบางคน
“ตึงๆๆ”เสียงลงบันไดทำให้เกิดการปรากฏตัวของผู้มาใหม่ขึ้น
“นายคิดว่าไง”หญิงสาววัยกลางคนที่ยังคงสรรพนามกับสามีไว้เชกเช่นตอนยังวัยรุ่นเหมือนเดิมพูดขึ้น
“ก็ดีนะ ดูๆไปเธอก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไรดูจะน่าสงสารด้วยซ้ำแล้วเธอล่ะว่าไง”เมื่อพูดความเห็นของตัวเองเสร็จผู้เป็นสามีก็หันมาถามผู้เป็นภรรยาบ้างด้วยสรรพนามเดิมที่เคยเรียกเมื่อตอนเด็กเช่นกัน
“สิ่งที่ชั้นคิดตอนที่เธอเล่าเรื่องๆนั้นเสร็จก็คือ ”คำเว้นวรรคของผู้เป็นแม่และภรรยานั้นทำเอาผู้เป็นสามีและลูกกลืนน้ำลายคงคอแทบจะพร้อมกันอย่างลุ้นๆ
“ถ้าลูกสะใภ้ของชั้นไม่ใช่คนนี้ชั้นไม่เอา---__---+++++”แล้วก็ส่งตาเป็นประกายไปรอบๆทำให้สามีของเธออดหัวเราะออกมาได้ไม่ส่วนลูกชายขี้อายก็ได้แต่หน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด
“เฮ้อขึ้นนอนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่มีเวลามานั่งคิดแผนมันใจลูกสะใภ้555+^O^”ดูเหมือนหญิงสาวผู้เป็นแม่จะมีความสุขกับการได้ล้อลูกชายสุดที่รักเล่นจริงๆ
“แม่อะ!!!!>////<”เอ็นได้แต่ร้องว่าแม่แล้วรีบวิ่งขึ้นห้องนอนไป
“แล้วเธอจะทำยังไงต่อไป”ผู้เป็นสามีที่นอนๆอยู่ก็พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าภรรยาที่รักไม่เปลี่ยนกำลังทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรอย่างหนักอยู่
“ชั้นน่ะทำเพื่อใครต่อใครมามากชั้นรู้ดีว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนกับการที่ต้องจากกับคนที่รักถึงมันจะเป็นคนละกรณีกับเด็กคนนั้นแต่ว่าความเจ็บปวดมันไม่แบ่งประเภทและปริมาณความเจ็บปวดมันก็คงเหมือนๆกันชั้นต้องจากกับเพื่อนโดยไม่มีใครรู้ว่าชั้นอยู่ที่ไหน แต่เด็กคนนี้เค้าไม่รู้ว่าเพื่อนของเค้าอยู่ที่ไหนมันคงเหมือนกับความรู้สึกของพวกยัยออยมากกว่า”
“หึๆงั้นเหรอ เธอพูดเรื่องนี้ทีไรชั้นก็มีความรู้สึกเห็นแก่ตัวทุกที”ชายคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ
“ช่างเถอะแต่นายมันขี้โกง”เธอพูดแล้วบีบจมูกเค้าก่อนจะหันไปอีกข้างอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหลีกมือหน้าอุ่นของสามีที่จะตามมาเอาคืนเพื่อการแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม
“อ๊าขี้โกงนี่นา”สามีพูดท้วงขึ้นทำให้ภรรยาใจอ่อนแต่ก็ยังไม่ยอมให้เค้าเอาคืนอยู่ดีเพื่อความมันส์ส่วนตัว(โรคจิต-นางมารฯ)
“เอาน่าไม่เอาแล้วจะนอน”แต่เมื่อเห็นสามีทำหน้ามุ่ยเธอและยื่นหน้าไปประคบปากเรียวบางกับปากอุ่นหน้าของเค้าแล้วพูด
“ชั้นรักนาย”คำๆนั้นคำเดียวทำให้คนกำลังงอนอย่างน่ารักละลายไปในทันทีแล้วจึงหอบภรรยาที่น่ารักคืนอย่าหวานแหวว
“ชั้นก็รักเธอ”คู่สามีภรรยาที่ไม่รู้จักหยุดหวานและดูเหมือนว่ายิ่งอายุมากก็จะยิ่งเพื่อรักอมตของพวกเค้ามากขึ้นยิ้มให้กันแล้วก็นอนกอดกันกลมแล้วหลับไปท่ามกลางค่ำคืนที่มีน้ำตาและเสียงสะอื้นของคนสองคนอยู่หากแต่จะมีใครบ้างที่รู้
ไรวินทร์ไม่ใช่คนที่ฉลาดไอคิว200แต่เธอก็ไม่โง่ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเอ็นแอบฟังอยู่แต่เพื่อความสบายใจของเค้าและแม่ของเค้าเธอจึงจำต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่ามีใครบ้างที่แอบฟังนอกจากแม่ของเอ็นที่ฟังเธอพูดอยู่ มีเรื่องหนึ่งที่เธอยังไม่เคยบอกใครและมีน้อยคนนักที่รู้นอกจากคนเก่าแกในครอบครัวของเธอและเพื่อนเก่าแสนรักของเธอแล้วก็ยังมีพ่อแม่ของเธอและตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ว่าความจริงชื่อเล่นของเธอคือรินไม่ใช่วิน แต่เมื่อเธอคิดจะเปลี่ยนตัวเองให้ดูเข้มแข็งไม่ว่าจะรายละเอียดน้อยนิดเธอก็จะเก็บมันไว้หมดแล้วยัดลงในลิ้นชัดสีดำเก็บมันไว้ในส่วยลึกของหัวใจของเธอ
“ก๊อกๆๆ”เสียงเคาะประตูและแสงแดดชามเช้าช่างสร้างความรำคาญให้หญิงสาวที่นอนหลับปุ๋ยเป็นอย่างดี
“คุณหนูคะได้เวลาไปร.ร.แล้วค่ะ”พอพูดถึงร.ร.เท่านั้นแหละเธอก็รีบผุดลุกผุดนั่งขึ้นมาทันทีไม่รู้เป็นอะไรเดี๋ยวนี้เธอชอบที่จะไปร.ร.เช้าๆเธอเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเธอไปรอใครกันแน่ เธอรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อทำการวิ่งผ่านน้ำจากนั้นก็รีบไปรับเพื่อนสนิทของเธอคนเดียวที่ร.ร.กิ๊บเป็นเพื่อนคนเดียวที่คิดว่าจริงใจต่อเธอและเป็นคนเดียวที่กล้าห้ามเธอเวลาเธอโกรธจัดเป็นคนเดียวที่กล้าปลอบเธอในยามที่เธอเสียใจ(ซึ่งจะนานๆครั้ง)
“ฮ้าว~ทำไมแกมาเช้าจังวะเดี๋ยวนี้มาเช้าขึ้นนะชั้นยังตื่นไม่ทันดีเลย”เพื่อนรักของเธอบ่น
“ช่างเหอะแกจะขึ้นมามั้ย”กิ๊บพยักหน้าแล้วรีบวิ่งขึ้นรถตู้คนสวยไป
“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง”เมื่อกระดิ่งบอกเวลาเข้าแถวตามห้องดังขึ้นกิ๊บก็ต้องดันตัวเพื่อนสาวของตัวเองไปที่ห้องของเธอเพราะวินพยายามจะขอไปเข้าแถวที่ห้องของเธอด้วยเธอให้เหตุผลว่าเบื่อหมิงญาติห่างๆในห้องขึ้นมาซะงั้น
“เอาเหอะน่าถึงครูจะไม่ค่อยสนใจแกแต่แกก็น่าจะทำให้ครูเค้าเห็นนะว่าแกเป็นคนดี”แหมอย่างกับว่าเธอจะสนใจอย่างนั้นแหละเธอไม่เคยสนอยู่แล้วว่าใครจะคิดยังไงไม่สนด้วยว่าใครจะอยู่หรือไปเธอสนแค่ตัวเองเพื่อนคนนี้ของเธอและ ใครอีกคนที่เธอก็ไม่แน่ในเหมือนกันว่าเธอรู้สึกยังไงกับเค้ากันแน่
“จ้าๆๆรู้แล้วในร.ร.มีแกคนเดียวนี่แหละที่เห็นชั้นเป็นเพื่อนจริงๆ”วินพูดอย่างดีใจทำให้หญิงสาวข้างๆยิ้มอย่างยินดีแต่พอเธอจะเดินออกจากแถวห้องเรียนของวินก็ถูกผู้เป็นเพื่อนล๊อกคอเอาไว้ด้วยแขนขาวเนียนที่มีกำลังมหาศาลมากกว่าผู้ชายหลายๆคน พอหันไปมองรอบๆจึงเห็นอาจารย์พละที่จ้องจะกินเธอมาตั้งแต่เทอมหนึ่งแต่ว่าวินเพื่อนคนนี้ก็คอบปกป้องเธอตลอดด้วยเพราะว่าอาจารย์คนนี้กลัววินมา แต่กระนั้นก็ยังมิวายมองเธอด้วยสายตาแทะโลมทำให้วินโมโหยิ่งนักเพราะไม่อยากให้เพื่อนเจอคนไม่ดีและไม่เหมาะสมเธฮจึงทำในสิ่งที่ทุกคนที่อยู่แวถนั้นต้องอึ้ง เธอก้มลงเตะริมฝีปากบางเฉียบนั้นด้วยริมฝีปากร้อนระอุของเธอในความคิดของกิ๊บ ทำให้เธอหน้าแดงซ่านจากนั้นวินก็ยิ้มอย่างสะใจในท่าทีหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ของอาจายร์แก่ตัณหากลับแต่กลับทำอะไรเธอไม่ได้แล้วเธอก็ปล่อยกิ๊บออกจากแขนขวาขาวนวลของเธอ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดถูกจับจ้องไม่มีพลาดของชายหนุ่มหน้าใสคนหนึ่ง เค้าทำห้าผิดหวังเสียใจก่อนจะหันหน้าหนีเมื่อวินหันมาเห็นแล้วยิ้มให้เค้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อะไรกันทำกันขนาดนั้นแล้วยังยิ้มได้อีก”เอ็นพูดอย่างมีน้ำโห ส่วนวินเธอรู้สึกปวดแปลบที่หัวใจเหมือนยิ้มให้เอ็นแล้วเค้าหันหน้าหนีเธอหรือจะเป็นเพราะว่าเรื่องเมื่อคืนที่เธอเล่าให้แม่ของเค้าฟัง(และมันก็ได้ยิน-นางมารฯ)
วินและเอ็นไม่ได้รู้เลยว่ารอยจูบเมื่อกี้ทำให้หัวใจของใครบางคนสั่นไหวไปมากกิ๊บแอบชื่นชมวินมานานเพราะเธอสามารถปกป้องตัวเองและคนอื่นได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพวกผู้ชายที่ไม่จริงใจกับใครในความคิดของเธอ เธอรู้ดีว่าที่ทำไปเมือกี้เพราะต้องการปกป้องเธอจากอาจารย์หื่นกามนั่นหากแต่นั่นก็เป็นการให้ความหวังกับเธออยู่ไม่น้อย
“เอ็น เอ็น”ช่วงพักวินพยายามพูดกับเอ็นแต่ก็ไม่ได้ผลเธอไเข้าใจว่าเอ็นโกรธอะไรเธอมันดูไม่เหมือนว่ากลัวกับเรื่องเมื่อคืนแต่มันเหมือนว่าเอ็นโกรธอะไรซักอย่างเธอทำให้เธอพยายามจะไปขอโทษหากแต่เอ็นไม่ยอมพูดกับเธอด้วยซ้ำ เค้าหันไปเล่นและพูดคุยกับพวกยัยหมิงมากกว่าทำให้คนเจ้าอารมณ์มีน้ำโหขึ้นมา หนอยไม่ยอมคุยด้วย ไม่ยอมหันมองหน้า แต่กลับไปเล่นกับยัยพวกนั้นไอ้เสียมารยาท!!!
“โป๊ก!”
“โอ๊ย”ตามมาด้วยเสียงร้องโอ๊ยของเอ็นเค้ารู้สึกเหมือนว่าใครเอาปากกามาปาใส่หัวเค้ามันไม่ใช่ปากกาธรรมดาแท่งล่ะ5-8ปากที่คนธรรมดาซื้อกันแต่มันเป็นปากกาอย่างดีที่มีทั้งปากกาเซนชื่อ(หัวแหลม)ปากกาหมึกเจลสีฟ้าและน้ำเงินและปากกาลูกลื่นสีฟ้าอยู่ที่แท่งเดียวกับทั้งแท่งทำด้วยเงินแท้มันแพงแสนแพงอย่างยิ่งถ้าพ่อหรือแม่ซื้อให้เค้าเค้าคงไม่กล้าเอามาปาหัวใครแบบนี้ แต่วินหรือจะสนเธอพยายามจะทำอะไรซักอย่างเพื่อให้เอ็นหันมาสนใจเธอบ้าง
“นี่วินทำไมทำแบบนี้ล่ะเอ็นเค้าเจ็บนะ”แต่พอเธอหันไปมองหนึ่งในกลุ่มยัยหมิงก็รีบเดินออกไปตามด้วยกลุ่มยัยพวกนั้นทั้งหมด คราวนี้ในห้องก็เหลือแต่เธอและเอ็น2คน
“คุณทำแบบนี้ทำไม นี่ปากกาคุณ”เอ็นพูดแล้วเดินเอาปากกามาวางที่โต๊ะของเธอ
“ตอบมาสิตอบมา!!ว่าที่ทำแบบนี้เพราะว่านายกลัวชั้นเรื่องเมื่อคืนหรือเพราะว่านายโกรธอะไรชั้นกันแน่”เอ็นตาโตเค้าไม่นึกว่าเธอจะรู้แต่กระนั้นตอนนี้ก็แก้ตัวอะไรไม่ได้
“ผม ผม ผมเอ่อผม”เค้าได้แต่อ้ำอึ้ง
“ถ้าเมื่อคืนนายฟังอยู่นายก็น่าจะรู้นี่นาว่าชั้นน่ะ ชั้นไม่อยากให้นายเหมือนคนอื่นๆมองว่าชั้นเป็นพวกอันธพาล ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากยุ่งด้วย กลัว แล้วก็อีกหลายๆอย่างที่มองชั้นในแง่ไม่ดี คนอื่นจะคิดยังไงชั้นไม่สนขอแค่นายมองชั้นเป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึง ไม่ได้เข้มแข็ง ไม่ได้ปกป้องตัวเองได้เหมือนที่แสดงออก ความจริง ”วินพูดแล้วกลืนก้อนสะอื้นเข้าคอไปพร้อมปาดน้ำตาที่คลอตาไม่ให้มันไหลออกมา
“ชั้นน่ะมันก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่ต้องการคนเข้าใจต้องการใครซักคนที่จะปกป้องชั้นได้ แต่แล้วทำไมชั้นถึงต้องเป็นแบบนี้ใครหลายคนอาจอิฉฉาชั้นเพราะว่าครูไม่ยุ่งด้วยไม่ว่าชั้นจะทำผิดอะไร แต่ความจริงมันไม่ดีเลย การถูกมองผ่านการถูกคนอื่นไม่ใยดีเป็นเหมือนงูน่าขยะแขยงตัวนึงที่ผู้ใหญ่จะมองข้างผ่านไปเพราะถือว่าถ้าไม่ทำอะไรมันมันก็ไม่ทำเอา และเด็กที่คอยหวาดกลัวและเลี่ยงหนีห่าง นายไม่รู้หรอกว่า มันเจ็บปวดแค่ไหน แต่ว่าชั้นมันก็ชินชาซะแล้วล่ะเรื่องพรรณนั้น”วินเผยรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าหากแต่มันเป็นรอยยิ้มเยาะตัวเธอเอง
“เอาเถอะนายจะโกรธชั้นเรื่องอะไรก็ช่าง ชั้นขอโทษก็แล้วกัน และถึงแม่ของนายจะห้ามไม่ให้นายยุ่งกับชั้นหรือไม่ต่อไปนี้ชั้นก็คงไม่กล้ายุ่งกับนายอีกแล้วล่ะในเมื่อนายไม่เต็มใจชั้นก็ไม่บังคับเพราะชั้นไม่อยากให้ใครกลัวชั้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว”วินพูดแล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งให้เอ็นยืนนิ่งอึ้งกับคำที่เธอพูดเมื่อกี้
และถึงแม่ของนายจะห้ามไม่ให้นายยุ่งกับชั้นหรือไม่ต่อไปนี้ชั้นก็คงไม่กล้ายุ่งกับนายอีกแล้วล่ะในเมื่อนายไม่เต็มใจชั้นก็ไม่บังคับเพราะชั้นไม่อยากให้ใครกลัวชั้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว
หมายความว่าเธอจะไม่ยุ่งกับเค้าอีกแล้วงั้นเหรอ ทำไมมันถึงรู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้ล่ะทำไมมันถึงเหมือนหายใจไม่ออกแบบนี้ล่ะ
“เอ็น!!เป็นอะไรน่ะยัยวินมันทำอะไรเธอเจ็บตรงไหนรึเปล่าดูซิ ไม่ได้นะปล่อยให้เค้าแกล้วแบบนี้ไม่ได้หรอกเป็นอะไรรึเปล่า”เมื่อหมิงเห็นว่าวินเดินออกไปด้วยท่าที่เจ็บปวดเธอจึงวิ่งเข้ามาดูเอ็นซึ่งสิ่งที่เธอเห็นคือภาพของเอ็นกำลังยืนนิ่งน้ำตาไหลพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยไม่มีร่องรอยการทำร้ายร่างกายแต่จิตใจตัวเธอเองไม่แน่ใจ เธอมั่นใจเลยว่าทั้งสองคนจะต้องมีอะไรกันแน่ๆเพราะว่าดูเหมือนตั้งแต่วันก่อนนั้นเอ็นก็สนใจมองวินมาขึ้นในขณะเดียวกันเวลาที่เอ็นโดนแกล้งถึงในบางครั้งวินจะไม่ช่วยปล่อยให้เค้าโดนซ้อมต่อไปหากแต่เมื่อวานนี้เธอได้ข่าวพวกอันธพาลหอบหิ้วกันเข้าร.พ.ด้วยอาการโคม่าซึ่งเธอมั่นในว่าถ้าไม่ใช่วินคงไม่มีทางเป็นคนอื่นไปได้ ทั้งสองคนรักกันงั้นเหรอ? แล้วไปรู้จักกันได้ยังไง? คำถามมากมายก่อเกิดในหัวใจของหมิง และเธอต้องหาคำตอบให้ได้ด้วย!เพราะถึงจะไม่ค่อยชอยหน้าแต่เธอรู้ดีว่าเอ็นต้องการผู้หญิงแบบวินมาคอยปกป้องแทนที่จะอ่อนแอทั้งคู่เหมือนเธอและจะฉุดกันให้ต่ำลงและวินก็เป็นคนดีเกิดกว่าที่ใครจะเข้าใจเธอรู้เธอเป็นอีกคนที่รู้อดีตนั่นดีเพราะเพื่อนแสนรักของวินโทรมาบอกเธอว่าให้ดูแลวินด้วยจากที่แสนไกลและเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง เพราะฉะนั้นถึงไม่พูดออกไปวินนี่แหละเป็นคนที่เธอเล็งไว้ให้เอ็น!
ความคิดเห็น