คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Research time 1 -look at Me-
..... ตี้ด ตี้ด ตี้ด ตี้ด .....
เสียงเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์จักรกลต่างๆดังกังวนภายในห้องหน่วยทดลองเป็นระยะตามปกติในตู้แก้วทรงกลมยาวบรรจุน้ำสีฟ้าใสที่รายล้อมร่างบางเปลือยเปล่าผมสีน้ำตาลลู่ชี้ไปตามน้ำผิวสีขาวซีดเพราะถูกบรรจุอยู่ในตู้น้ำขนาดใหญ่เป็นเวลานาน บุคคลชุดสีขาวยาวต่างเดินกันขวักไขว่บ้างก็นั่งอยู่ที่โต๊ะรัวคีย์บอร์ดหน้าคอมพิวเตอร์ ในห้องทดลองขนาดใหญ่ที่ถูกจัดไว้ตามโสนเป็นลำดับ ร่างบางที่หลับตาแน่นิ่งข้อมือละข้อเท้าทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยโซ่เหล็กขนาดใหญ่ ใบหน้ามนถูกเครื่องช่วยหายใจปิดไปกว่าครึ่ง ริมฝีปากบางสีระเรื่อเปิดอ้าเพราะท่อพลาสติกที่สอดเข้าไปในโพรงปาก ตามร่างกายมีสายระโยงระยางที่ติดตามร่างกายสีขาวซีด ด้านนอกตู้แก้วจะเป็นกระจกกันกระแทกขนาดใหญ่กันครอบตู้แก้วไว้อีกชั้นกันระหว่างภายนอกและภายในอย่างชัดเจนถูกตั้งไว้กลางห้องทดลองอย่างเด่นชัด รอบตู้แก้วจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏระดับตัวเลข ความดันทั้งหมดในร่างกายของร่างบางที่หลับสนิทอยู่ในตู้แก้ว ร่างชายหญิงหลายคนใส่ชุดกาวยาวนั่งรัวคีย์บอร์ดป้อนข้อมูลตามปกติ ผู้คนที่ต่างเดินก้มหน้าจดรายละเอียดของตนเอง บ้างก็จ้องหน้าคอมพิวเตอร์ บางก็เดินสารวนหาอุปกรณ์ในห้องขนาดใหญ่ ร่างสูงของชายหนุ่มผมทองปาดปิดตาข้างขวาใบหน้าคมแสดงสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลาเดินตรงมายังตู้แก้วเงียบๆ
“วันนี้เป็นไงบ้าง” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่หน้าคอม ผู้ถูกถามสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหันมามองชายวัยกลางคนรีบลุกจากเก้าอีกก้มหัวให้กับชายหนุ่มร่างสูง
“ตอนนี้ยังปกติทุกอย่างครับ แต่ประแสประสาทตอนนี้ค่าคำนวณออกมามากกว่าทุกวันที่ผ่านมาครับ” ชายวัยกลางคนอธิบายรายละเอียดทุกอย่างเหมือนเช่นทุกวัน ร่างสูงเพียงพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปมองร่างบางในตู้แก้ว ร่างสูงผมสีน้ำตาลไว้ยาวรวบขึ้นใบหน้าคมสวมแว่นสีแดงทำให้ดูน่ามองเดินตรงมาหาร่างสูงอีกคนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเช่นเคย
“แอนนี่ วันนี้เป็นไงบ้างละ” ร่างสูงผมสีน้ำตาลเดินมาหยุดข้างร่างสูง ก่อนจะจับจ้องไปที่ตู้แก้วเช่นเดียวกับร่างสูงข้างกาย
“ระบบประสาทมีการคำนวณออกมามากกว่าทุกวัน” เสียงที่เรียบเฉยออกจากริมฝีปากคมแต่เรื่องที่เขาพูดอยู่มันไม่ใช่เรื่องปกติมันกำลังแสดงว่า
“แสดงว่าร่างกายกำลังเริ่มทำงานแล้วสินะ” เสียงที่พูดออกมาด้วยความตื่นเต้นอย่างปิดไม่อยู่ใบหน้าคมฉีกยิ้มอย่างดีใจ ใช่เมื่อระบบประสาทเริ่มคำนวณค่าที่แตกต่างก็แปลว่าร่างกายก็จะต้องรับค่านั้นไปด้วย ร่างที่หลับสนิทแน่นิ่งเหมือนศพที่ถูกสตาฟใว้ในตู้แก้วอยู่มา 2ปีกำลังจะตื่นขึ้นมาพวกเขาที่คอยดูแลทุกอย่างแม้แต่ลมหายใจของร่างที่อยู่ในตู้แก้วกำลังจะประสบความสำเร็จแต่ก็อาจจะไม่เสมอไป เพราะที่ร่างที่หลับใหลอยู่ในตู้แก้วก็ไม่ต่างอะไรจากศพถ้าเขาดึงสายออกซิเจนออก
“แล้วนายว่าเขาจะตื่นไหม” ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ตู้แก้วมากขึ้นจับจ้องใบหน้ามนที่หลับสนิท ริมฝีปากคมหยักยิ้มบางอย่างเอ็นดู แอนนี่เดินเข้ามาใกล้ตู้แก้วเช่นเดียวกับร่างสูงใบหน้าคมมักจะยิ้มให้กับร่างบางที่หลับใหลในตู้แก้วทุกครั้งที่เขามอง
“นี่คุณฮันซี่” แอนนี่เรียกร่างสูงข้างกาย ใบหน้าคมหันมองเพื่อนร่วมงานอายุน้อยกว่าพลางเลิกคิ้วเป็นเป็นเชิงถาม
“คุณคิดว่าเขาสวยเหมือนรูปปั้นไหม” ริมฝีปากคมหยักยิ้มบางคำถามที่ออกจากร่างสูงทำให้ใบหน้าคมขมวดคิ้วก่อนจะหลุดหัวเราะอย่างดังออกมาอย่างไม่สนใจใคร ก็ใครจะมาว่าอะไรพวกเขาได้ละก็ต่างฝ่ายก็เป็นหัวหน้ากันทั้งนั้น
“ฉันคิดว่ามีแต่ฉันนะเนี่ยที่คิดแบบนี่”ร่างสูงกั้นขำจนใบหน้าคมบิดเบี้ยว แต่อีกคนกลับใบหน้าบึ้งตึงกับกริยาของอีกฝ่ายซะงั้น
“ถ้าวันนั้นเราไม่ไปเจอเขาจะเป็นยังไงกันนะ” ใบหน้าคมหันมองร่างสูงอีกคน
...
..........
.....................
....................................
2 ปีที่แล้ว
ปัง ตูม โครม!
เสียงระเบิดดังสนั่นทั่งทั้งบริเวณหน้าตึกอาคารวิจัยขนาดใหญ่ ประตูเหล็กขนาดใหญ่ถูกแรงระเบิดอัดจนเป็นรูโหวขนาดใหญ่ เสียงไซเรนรถพยาบาลที่เรียงตัวขับด้วยความเร็วสูงขับตามติดกันมาเป็นทางยาว เปลวเพลิงลุกโชติบนชั้นอาคารจนเกิดเป็นแรงระเบิดตัวอาคารจนพังยับเยินแต่ด้วยตัวโครงสร้างที่ออกแบบมาอย่างดีทำให้ตัวตึกยังทรงอยู่สภาพเดิม เหตุเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลวิจัยชื่อดังที่เกิดแรงระเบิดจากตัวห้องวิจัยสารเคมีอันตรายเนื่องจากมีข่าวที่รู้กันดีอยู่แล้วในวงการนี้ว่างานวิจัยของที่นี้มีแต่เรื่องผิดปกติผู้ทดลองจะเป็นตัวมนุษย์ด้วยกัน การทดลองแต่ละอย่างที่โรงพยาบาลนี้ทำมันช่างวิปริต แต่ด้วยชื่อเสียงและมีผู้มีอำนาจคอยสนับสนุนทุกฝ่ายเลยต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นตลอดมา
“โฮ่ พังยับเลยนี่” ร่างสูงผมสีน้ำตาลก้าวลงจากรถคันหรู ก่อนจะเดินออกมายืนด้านหน้าตัวอาคาร เขาคนนี้คือ ฮันซี่ โซเอะ
“น่ารำคาญทำไมไม่ทำกันเอง” ร่างสูงผมสีทองเดินตามร่างสูงอีกคน พวกเขาถูกเรียกตัวให้มาตรวจสำรวจด้านในตึกวิจัยขนาดใหญ่นี้ แต่คนที่ตอบตกลงในทันทีนั้นก็คือคนที่ยืนฉีกยิ้มดูซากตึกตรงหน้าอย่างนึกสนุกอยู่นี่สิ เขาคนนี้คือ แอนนี่ เลออนฮาร์ท
“ตัวสารที่เป็นต้นเหตุนี้ดูท่าจะแรงใช้ได้เลยนะครับถึงทำให้ตึกระเบิดยับแบบนี้ได้” ร่างสูงผมทองใบหน้าคมประดับรอยยิ้มตลอดเวลาเอ่ยทั้งๆที่ยังยิ้ม เขาคนนี้คือ อาร์มิน อัลเลตโต้
“หึ สมแล้วที่พวกมันทำ” ร่างสูงผมสีรัตติกาลตัดสั้นประบ่ายืนมองตึกวิจัยด้วยสายตาน่าสมเพส เขาคนนี้คือ มิคาสะ แอ็กเกอร์แมน
“ทำไมถึงให้คนหล่ออย่างฉันมาสำรวจซากตึกนี้ด้วยนะ” ร่างสูงผมสีน้ำตาลเข้มแกมอ่อนยกมือเสยเส้นผมตัวเองโดยไม่สนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าแม้แต่น้อย เขาคนนี้คือ แจน กิลชูไต
“เห็นว่ามีห้องวิจัยใหญ่ที่ไม่ถูกแรงระเบิดนะ” เสียงเรียบๆออกจากริมฝีปากคมของร่างสูงผมสีทอง นัยน์ตาสีฟ้าท้องนภาจับจ้องไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่กำลังฉีดอัดน้ำเข้าไปในกองเพลิง เขาคนนี้คือ เอลวิน สมิธ
“หึ เรื่องแค่นี้ทำกันเองก็ไม่ได้” ร่างแกร่งผมสีรัตติกาล นัยน์ตาดุดันจ้องมองเจ้าหน้าที่พยาบาลที่กำลังขนย้ายคนเจ็บแล้วก็ร่างไร้วิญญาณออกจากตัวอาคาร ด้วยใบหน้าเฉยชา เขาคนนี้คือ รีไวล์
“พวกคุณรีไวล์มาแล้ว” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นเรียกให้ทุกสายตาหันไปจับจ้อง 7 หนุ่มวิจัยชื่อดังที่ตามหาตัวได้ยาก ชายร่างสูงผิวเดินตรงเข้ามา เขาคนนั้นคือ เบลทรูท ฮูเบอร์ เป็นคนของโรงพยาบาลวิจัยที่เดียวกับพวกเขาที่มาดูเหตุการณ์ให้ก่อน
“ทางเราระเบิดประตูเหล็กที่เป็นทางเดียวที่จะเข้าไปด้านในได้แล้ว ตอนนี้เพลิงถูกหยุดไว้แล้วเราเข้าไปเลยไหมครับ” ร่างสูงทั้งเจ็ดพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามเข้าไปในตัวอาคารฝ่ายที่ระเบิดเป็นฝ่ายด้านขวาของตัวอาคารส่วนฝ่ายด้านซ้ายของตัวอาคารยังอยู่ในสภาพดีเพราะเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหยุดเพลิงฝ่ายขวาไว้ได้ทัน
“ตรงนี้ละครับ ที่ดูจากแผนผังแล้วน่าจะเป็นห้องวิจัยหลักของที่นี้” ชายคนเดิมพูดก่อนจะหยุดยืนอยู่ทางเข้าของห้องวิจัยที่ประตูเหลือถูกพังยับไปแล้ว แม้ก้าวเข้าไปก็พอว่าที่พวกเขายืนอยู่เป็นชั้นลอยมีเหล็กกั้น ด้านล่างที่มองลงไปเป็นที่โล่งมีอุปกรณ์แล้วคอมพิวเตอร์ที่ยังค้างหน้าข้อมูล เอกสารที่ปลิวกระจัดกระจายและอุปกรณ์ที่ล้มระเกะระกะแสดงให้เห็นถึงความวุ่นวายอย่างมา
“ใช้ได้เลยนี้พวกนี่” ฮันซี่มองดุอุปกรณ์ทันสมัยที่ถูกใช้งานค้างไว้อยู่อย่างใสใจ ใบหน้าคมฉีกยิ้มสนใจกันเหตุการณ์ตรงหน้า
“นั้นสิ มีแต่ของนำเข้าทั้งนั้น” แอนนี่พูดเสริมไม่ใช่ว่าโรงพยาบาลวิจัยของพวกเขาจะไม่มีแต่ดูจากตัวห้องที่ถูกออกแบบไว้มีอุปกรณ์หลายอย่างแต่ก่อนที่เขาจะได้สังเกตอะไรไปมากกว่านี้เสียงที่แทรกขึ้นมาทำให้ทุกคนในห้องต้องหันไปมอง
แก้ง แก้ง แก้ง
เสียงโลหะที่กระทบกันดังก้องในห้องวิจัยเรียกให้ทุกสายตาหันหาต้นเหตุ แต่ก็ไม่พบ แต่เมื่อฟังดีๆแล้วทุกคนจึงเงยหน้าขึ้นไป ภาพที่เห็นทำให้ทุกคนนัยน์ตาเบิกกว้าง ร่างบางผิวสีซีด ผมสีน้ำตาล นัยน์ตากลมโตสีมรกตที่ไม่แสดงความรู้สึกนึกคิดใดๆไม่สะท้อนสิ่งรอบตัวแม้แต่น้อย ในชุดเสื้อเชิ้ตยาวคร่อมเข่า ข้อมือและข้อเท้าที่ถูกตรึงไว้ด้วยโซ่เหล็กที่ถูกลวดสลิงสีใสโยงลงมาจากชั้นบนสุดของชั้นวิจัยให้ลงมาอยู่ในระดับสูงกว่าชั้นลอยที่พวกเขายืนอยู่
“นั้นคนใช่ไหม” มิคาสะเพ่งสายตามองไปยังร่างบางที่ถูกตรึงไว้กลางอากาศ เหมือนตุ๊กตาหุ้นเชิดไม่มีผิด ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าอยากเข้าไปช่วยแล้วโอบกอดกัน
“คน น่าจะมีชีวิตอยู่นะครับ” อาร์มินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นๆกับภาพตรงหน้าที่ทำเหมือนกับไม่ใช้คน ทำไมเราต้องรู้สึกเป็นห่วงด้วยทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักแม้แต่น้อย
“เห้ย รีบไปช่วยเอาลงมาสิ” แจนพูดเสียงดัง ใบหน้าคมจ้องไปยังใบหน้ามน ทำไมถึงรู้สึกอยากปกป้อง ไม่อยากให้เจ็บปวด
“มันกำลังจะทำอะไรกับไอเด็กนั้น” รีไวล์พูดเสียงเรียบใบหน้าคมยังคงเรียบเฉย แต่ถ้าคนที่อยู่ด้วยกันมานานอย่างพวกเขารู้ได้เลยว่าชายหนุ่มกำลังหงุดหงิด ทำไมกัน ทำไมต้องหงุดหงิดด้วย
“รีบๆไปเอาเด็กคนนั้นลงมา” เอลวินพูดเสียงดังทำเอาเจ้าหน้าที่ ที่ตามมาถึงกับสะดุ้ง ทำไมเขาต้องลนลานแบบนี้ด้วย
“ไอพวกชั่ว” แอนนี่กัดฟันจนขึ้นสันกราม น้อยนักที่เขาจะอารมณ์เดือดดาลแบบนี้ ทำไมเขาต้องอารมณ์เสียเพราะเรื่องนี้
“ชิ ไปพวกชั้นต่ำมันทำอะไรกัน” ฮันซี่ตะโกนออกมาด้วยอารมณ์เดือดลาดไม่แพ้กัน ใบหน้าคมที่เคยยิ้มแย้มกลับบึงตึงอย่างน่ากลัว น้อยนักที่ชายหนุ่มจะแสดงอาการแบบนี้ออกมา ทำไมกัน ทำไมเขาถึงต้องเป็นแบบนี้
“ครับๆ ผมจะรีบช่วยติดต่อให้เดี่ยวนี้ครับ” เบลทรูท รีบยกเครื่องสื่อสารขึ้นก่อนจะเรียกขอความช่วยเหลือ พวกเขาอยากจะเขาไปช่วยเด็กคนนั้นถ้าไม่ติดอยู่ที่ว่ามันเป็นกลไกที่พวกเขาไม่รู้จักจะไปทำมัวก็ไม่ได้ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะต้องเป็นเรื่องแน่ๆ
“แย่แล้วครับ” เบลทรูทพูดเสียงตื่นเรียกให้ทุกสายตาหันไปมอง “ผนังห้องวิจัยทางด้านทศตะวันตกกำลังจะถูกระเบิดเปิดทางในอีก 5 นาทีนี้ครับ” จบประโยคทุกสายตาหันไปหาผนังทางทิศตะวันตกก่อนจะเบิกตากว้างด้วยจุดที่ระเบิดจะไม่ถูกที่พวกเขายืนอยู่แต่แรงระเบิดจะไปโดนเข้ากับร่างบางที่ถูกตรึงอยู่ด้านบน
“เห้! นายนะ” แจนตะโกนเรียกร่างบางที่ถูกตรึงอยู่ด้านบน ใบหน้ามนหันมามองทางพวกเขาช้าๆ นัยน์ตาสีมรกตมีน้ำสีใสเอ่อล้นออกจากดวงตาสวยเป็นทาง ทำให้คนที่ยืนมองอยู่ถึงกับใจกระตุกวูบทำไมพวกเขาถึงเป็นแบบนี้ แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร
ตูม!
เสียงแรงอัดระเบิดจากด้านนอกดังสนั่น แรงลมและเศษดินเศษโลหะถูกพัดผ่านพวกเขาจนต้องยกแขนขึ้นบัง ควันสีขาวลอยปิดทุกส่วนในห้องจนมองไม่เห็นก่อนจะจางลงเห็นผนังที่เป็นรูโหวขนาดใหญ่ แต่พวกเขาไม่สนใจอะไรทังนั้นเมื่อหันไปยังทางร่างบางพบว่าสายสลิงยังคงตรึงร่างบางไว้อยู่แต่ดูจากแรงระเบิดที่ปะทะเขามาน่าจะอยู่รับน้ำหนักได้ไม่นาน รีไวล์กระโดดจากชั้นลอยลงไปยังชั้นล่างอย่างเดือดดาล ตามไปด้วยฮันซี่ก่อนจะตามไปด้วยทุกคน
“เห้ย พวกนายนะมีคนอยู่บนนั้นนะ” ฮันซี่ตะโกนเสียงดังก่อนจะชี้นิ้วไปยังร่างบางที่อยู่ด้านบนเรียกให้ทุกสายตาหันมองตาม เมื่อพบกับสิ่งที่ร่างสูงนักวิจัยหนุ่มพูดเจ้าหน้าที่ต่างไม่ต้องรอคำช่วยเหลือ ต่างฝ่ายต่างติดต่อหาหน่วยเสริม
“นายนะยังไม่เป็นอะไรใช่ไหม” มิคาสะเงยหน้าขึ้นตะโกนฝ่าเสียงเจ้าหน้าที่ที่กำลังหาทางขึ้นไปยังชั้นด้านบนเพราะมันต่อกับฝ่ายที่ถูกเพลิงไหม้พังยับไปแล้ว ร่างบางที่ได้ยินเสียงหันลงมองบุคคลด้านล่างที่ตนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนน้ำสีใสที่ย้อยลงจากนัยน์ตากลมโตตกลงบนใบหน้าของชายหนุ่มมือเรียวตะลงที่หยดน้ำที่ตกกระทบใบหน้าตน แต่นัยน์ตาคมต้องเบิกกว้างเมื่อ
กึก กึก กึก
เสียงลวดสายสลิงดังมาจากด้านบนสายสลิงที่ตรึงร่างบางไว้กำลังขาดลงที่ละเส้นๆเพราะแรงระเบิดเมื่อครู่ร่างที่เริ่มหลุดลงจากสายสลิงเหมือนตุ๊กตาขึงขาด แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วสายสลิงทั้งสี่เส้นที่ตรึงร่างบางไว้ขาดลงอย่างรวดเร็วเสียงโลหะของสายสลิงที่ตกจากด้านบนลงสู่ด้านล่างที่พวกเขายืนอยู่สร้างความวุ่นวายไม่ใช่น้อยฝุ่นควันลอยในอากาศจนทำให้ภาพตรงหน้ามองไม่ชัดแต่เมื่อพวกเขาเพ่งสายตามองจากด้านบนกลับไม่พบกับร่างบาง ควันที่เริ่มจางตัวลงทำให้เห็นภาพตรงหน้าเริ่มชัดขึ้นร่างบางที่กำลังล้วงหล่นลงมาตามแรงน้ำหนัก ด้วยแรงที่หล่นลงจากที่สูงเวลาการตกลงนั้นเร็วขึ้นทุกที
“ชิ” รีไวล์วิ่งไปยังจุดที่ร่างบางกำลังล่วงหล่นแต่
ตึง!
ลวดสายสลิงที่หล่นลงมาเส้นสุดท้ายกลับตกลงตกหน้าร่างแกร่งทำให้ต้องหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ ทุกคนรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปรับร่างบางแต่ด้วยเวลาที่น้อยเกินไป
ตุบ!
ร่างบางตกลงบนพื้นกระเบื้องสีขาวสะอาดร่างกายที่ถูกกระแทกอย่างแรงศีรษะกระเทือกลงบนพื้นกระเบื้องโลหิตสีสดไหลไปตามล่องกระเบื้องย้อมให้สีขาวสะอาดเป็นสีแดงสดอย่างรวดเร็ว ร่างกายที่ขาวซีดอยู่แล้วกลับซีดลงไปอีกเพราะเลือดที่เริ่มไหลออกมาขึ้น รีไวล์รีบวิ่งเข้ามาหาร่างบางก่อนใครก่อนจะนั่งคุกเข่าแล้วช้อนศีรษะขึ้นไม่สนว่าเลือดจะทำให้เสื้อของเขาต้องสกปรก
“โฮ่ย นายยังรู้สึกอยู่ไหม” เสียงนุ่มทุ้มพร้อมกับมือเรียวที่ตบเบาๆที่ใบหน้าเนียนที่เริ่มซีดขาวเหมือนแผ่นกระดาษ ร่างบางลืมตามองคนตรงหน้าอย่างยากลำบาก
“นายอดทนหน่อยนะ” มิคาสะเดินมานั่งคุกเข่าก่อนจะจับที่มือเรียว ริมฝีปากบางสีซีดขยับอย่างยากลำบาก นิ้วเรียวขยับขึ้นจากพื้นกระเบื้องแต่ทุกอย่างกลับหยุดลงเหมือนหุ่นยนต์แบ็ตหมดดวงตากลมโตปิดลง มือเรียวที่ยกขึ้นถูกปล่อยลงตามแรงโน่มถ่วงลงสู่เพื่อกระเบื้องเหมือนเดิม
“เห้ นายอดทนหน่อย” แอนนี่เดินมาพอกลุ่มหมอที่ถูกเรียกมา ร่างของร่างบางทุกส่วนถูกล็อคไว้กับเปลก่อนจะถูกเคลื่อนย้ายออกไปอย่างรวดเร็ว
...
...............
..............................
................................................
ตั้งแต่ตอนนั้นพวกเขาก็ไม่เคยได้เห็นดวงตาสีมรกตนั้นลืมขึ้นมาอีกเลย 2ปี ร่างบางถูกย้ายให้มาอยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลมาเรียที่พวกเขาเป็นคนดูแลอยู่ทุกอย่าง ข้อมูลของร่างบางถูกค้นหาจนพบว่า
ชื่อ เอเลน เยเกอร์
เป็นบุตรของ นางคาร่า เยเกอร์ และ นายคริสชา เยเกอร์
ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลวิจัยชีน่า ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกตอนไปประจำการวิจัยที่อิตาลี่ ทำให้เอเลนตกมาอยู่กับทางโรงพยาบาลชีน่าจึงกลายเป็นตัวทดลองให้กับฝ่ายวิจัยและถอดเอาทุกความทรงจำออกจากความคิดของเด็กหนุ่มตั้งแต่เด็ก
“นี่ นายจะตื่นขึ้นมาคุยกับพวกเราหน่อยไม่ได้หรอ” ฮันซี่พูดเสียงอ่อนรอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าคม มือเรียวทาบทับลงบนตู้แก้วที่บรรจุร่างบาง
“เอเลน ฉันอยากคุยกับนายนะตื่นมาคุยกันหน่อยสิ อย่าใจร้ายกันนักสิ 2ปีแล้วนะที่นั้นต้องมองนายผ่านตู้แก้วนี่” แอนนี่พูดเสียงเศร้า ใบหน้าคมจ้องมองใบหน้ามนหวังจะได้เห็นดวงตากลมโตนั้นลืมขึ้นมามองเขาบ้าง
“คุณฮันซี่ คุณแอนนี่ครับ!” ชายวัยกลางคนคนเดิมวิ่งเข้ามาทางวกเขาอย่างเหนื่อยหอบก่อนจะยื่นเอกสารที่มีตัวเลข ค่าคำนวณ ความดันของร่างบางที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนใกล้จะเหมือนคนปกติ
“แอนนี่” ฮันซี่หันมามองใบหน้าของร่างสูงที่เบิกตากว้างกับค่าคำนวณในเอกสาร นี้เขากำลังมีความหวังใช่ไหม
เคร้ง เคร้ง เคร้ง บุ้ง บุ้ง บุ้ง
เสียงโลหะที่กระทบจากด้านในตู้แก้วทำให้ในห้องทดลองเงียบลงอย่างรวดเร็ว ทุกสายตาหันมาจับจ้องที่ตู้แก้วเป็นตาเดียว ร่างกายที่เคยแน่นิ่งเริ่มขยับข้อมือที่ขยับทำให้เกิดเสียงโลหะ เสียงน้ำในตู้ที่เริ่มกระเพื่อมเพราะร่างกายขยับ ริมฝีปากที่เคยไม่เคยขยับเริ่มขยับรับอากาศทางท่อออกซิเจนเอง หน้าอกเรียบเนียนเริ่มกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ
“รีบถ่ายน้ำออกเร็ว!” ฮันซี่ตะโกนสั่งนักวิจัยที่กำลังตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ฮันซี่หันกลับมามองร่างบางในตู้แก้วอีกครั้งรอยยิ้มที่แสนยินดีปรากฏบนใบหน้าคม
“เอเลน นายตื่นแล้วสินะ” แอนนี่วาดมือตามโครงหน้าสวยผ่านตู้แก้ว “แล้วเรามาคุยกันนะ เอเลนของผม”
“เห้ พวกนายนะไปแจ้งพวกรีไวล์ที” ฮันซี่ตะโกนสั่งนักวิจัยที่กำลังวิ่งวุ่นประสานงานกันอย่างรวดเร็ว เจ้าพวกนั้นรู้เรื่องนี้คงดีใจกันตึกวิจัยแตกแน่ ทุกวันที่พวกเขาจะเข้ามาหาร่างบางในห้องวิจัยนี้แล้วจะพูดกับร่างบางทุกวันพวกเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนก็มีแต่นายนั้นละเอเลนที่ทำให้พวกเราเปลี่ยนไป
“เอเลน นายตื่นขึ้นมาสิ ฉันรอนายจนจะขาดใจแล้วนะ เอเลน” ฮันซี่หันมาพูดกับร่างบางอีกครั้ง
“เห้ พวกนายนะรีบๆกันหน่อยสิเอเลนหายใจแล้วนะ เดียวจะเอาน้ำเข้าปอดละยุ่งเลย” แอนนี่ตะโกนสั่งงานอย่างรีบร้อนพลางจ้องใบหน้ามนที่ตอนนี้เริ่มขมวดคิ้วสำลักน้ำแล้ว
“แอนนี่เอเลนตื่นแล้วจริงๆสินะ” ฮันซี่พูดด้วยความดีใจ นัยน์ตาคมจับจ้องไปยังโครงหน้าหวาน
“อืม ตื่นสักทีนะ เอเลนลืมตามามองฉันหน่อยสิ” แอนนี่พูดเสียงอ่อนโยนที่มีไว้ให้กับร่างบางเท่านั้น ร่างกายที่เริ่มขยับโครงหน้าสวยเริ่มขยับ นัยน์ตาสีมรตกที่เคยปิดสนิทมาตลอด 2ปีกำลังเลื่อนเปิดขึ้นมองโลกภายนอกอย่างช้าๆ
TBC.
.......................................................................................................................................................................................
ไรต์เวิ่นมาแต่งเรื่องใหม่อีกละแต่ที่แน่ๆเรื่องเก่าไรต์ไม่ทิ้งหรอกตอนนี้ก็ลงเรื่องไว้น้า //โดนรีดเดอร์ตบตีจมดิน คือเรื่องมันมีอยู่ว่า วันนี้ไรต์กะจะพักอัพแต่แล้วไรต์ไปเปิด MV การ์ตูนอยู่เรื่องมันก็พุดขึ้นมาซะงั้นแต่ไรต์ไม่ได้ลอกเลียนแบบนะไม่ได้ตรงกับ MV ที่ไรต์ดูเล้ยไรต์ยังสงสัยตัวเองว่าคิดมาได้ไงแถมตอนนี้ยังยาวฝุดๆเบย อ่านกันได้นะ เนื้อเรื่องเป็นไงบ้างน่าสนใจป้าวอ้า รีดเดอร์มีอะไรแจ้งไรต์ได้นะคะ// โค้ง วันนี้ไม่มีอะไรจะแก้ตัวกับเรื่องใหม่ที่อยู่ก็พุดมาอยู่ในมโน//โค้งอีกครั้ง ไรต์แต่งแต่ All Eren เบื่อป่าวอะคือที่แต่งแบบนี้เพราะไม่อยากให้ใครต้องเจ็บช้ำระกำใจเหมือนถูกครูยึดหนังสือการ์ตูนอ้านะ ยังไงก็ขอฝากด้วยนะคะ
อากาศร้อนๆให้เฮียมาพัดให้หน่อยไหม
ความคิดเห็น