ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จุดหมายปลายฝัน

    ลำดับตอนที่ #7 : ทางที่เลือกเดิน

    • อัปเดตล่าสุด 11 มิ.ย. 47


    สัปดาห์หน้าจะเป็นสัปดาห์ของการสอบปลายภาคแล้ว ปลายคร่ำเคร่งกับการอ่านหนังสือ โดยเน้นที่วิชาบัญชีเป็นพิเศษ เพราะคะแนนที่ค่อนข้างแย่ในการสอบกลางภาคนั่นเอง แต่ไม่ว่าจะทำอะไร 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม ปลายไม่เคยลืมฟังรายการ ฮาร์ทเวฟ ช่วงของดี.เจ ชนกานต์ ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปเสียแล้ว



        “...ช่วงนี้ น้อง ๆ หลายคนคงใกล้สอบกันแล้วใช่ไหมครับ ถ้าฟังวิทยุแล้วเสียสมาธิในการอ่านหนังสือ ก็ปิดได้เลยครับ การเรียนการสอบเป็นสิ่งสำคัญ อ่านหนังสือทบทวนเสร็จแล้วค่อยมาฟังกันต่อนะครับ” ปลายรีบปิดวิทยุทันที เพราะดี.เจ ชนกานต์บอกให้ปิดเพื่ออ่านหนังสือ ปลายนึกขำในใจ เออ...นี่เราเชื่อดี.เจ ถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ปลายเองก็ตอบไม่ได้ รู้แค่ว่าคำพูดของดี.เจ คนนี้มีอิทธิพลต่อเธอมากทีเดียว



        ปลายนึกอะไรได้อย่างหนึ่ง เรื่องขวัญล่ะ ขวัญเป็นยังไงบ้าง? เรื่องเป็นอย่างที่ปลายคิดหรือเปล่า? ทุกวันนี้เธอก็ยังเห็นรถสีเทาคันใหญ่มาส่งขวัญทุกวัน ไม่น่าจะเป็นแค่เพื่อนหรือญาติอย่างที่สันนิษฐานไว้เสียแล้ว







        วันรุ่งขึ้น ขวัญไม่มาเรียน แต่เพื่อน ๆ ไม่ได้นึกสงสัยอะไร เพราะเพื่อนในห้องก็ขาดเรียนหลายคน เป็นเพราะใกล้สอบเต็มที หลายวิชาก็ปิดคอร์สไปแล้ว วันนี้เรียนแค่ 2 วิชา ไม่มาเรียนก็คงไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่สำหรับขวัญ ปลายคิดว่าขวัญไม่ได้ขาดเรียนเพราะสาเหตุนี้แน่



        เลิกเรียนแล้ว ปลายแอบไปหาขวัญที่หอพักคนเดียวโดยไม่บอกใคร เพราะปลายตั้งใจว่าจะถามเรื่องที่ปลายสงสัยให้กระจ่าง ชนิดทีว่าถ้าไม่กระจ่างจะไม่กลับบ้าน



        เมื่อถึงหอพักของขวัญ ปลายรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองห้องของขวัญ หอพักนี้ปลายกับสามาบ่อย ๆ จึงรู้ทางขึ้นทางลงเป็นอย่างดี ปลายลองหมุนลูกบิดประตูดู ห้องไม่ได้ล็อค เปิดเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ปลายนิ่งอึ้งเมื่อเห็นขวัญในชุดนักศึกษา ฟุบหน้าอยู่กับพื้นห้อง ร้องไห้สะอึกสะอื้น



        “ขวัญ...” ปลายเรียกเบา ๆ ขวัญหันมาเห็นปลายก็วิ่งเข้ามากอดแล้วร้องไห้ฟูมฟายยิ่งกว่าเดิม



        “ปลาย...ช่วยเราด้วย…”

        

        เมื่อขวัญสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ก็เล่าเรื่องทั้งหมดโดยที่ปลายไม่ต้องถาม



    “เขาชื่อคุณวิชัย เป็นเจ้าของโรงแรม…” ขวัญเอ่ยชื่อโรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่ง “เจอกันที่ร้านที่เราทำงานพิเศษอยู่ เขาสนิทกับเจ้าของร้านก็เลยมาบ่อย ตอนนี้น้าเราป่วยหนักต้องใช้เงินมาก พอเขารู้เรื่องเขาก็เลยช่วยเหลือเรื่องเงิน ก็เลยสนิทสนมกันมากขึ้น เขาอยู่ในฐานะผู้อุปการะของเรา ส่งเราไปเรียนตอนเช้าทุกวัน แต่เรื่องของเรา เขาไม่ได้บอกให้ลูกเมียเขารู้เลย”



    ปลายตาโตเมื่อได้ยินว่าเขามีลูกเมียแล้ว แล้วทำไมยังจะมาอุปการะคนอื่นอีก แถมทำตัวเหมือนกับจะเอาขวัญไปเป็นเมียน้อยด้วย



    “เขาบอกเราเมื่อเย็นวานว่า ทะเลาะกับเมียเขา ท่าทางจะคุยกันไม่รู้เรื่อง เขาบอกว่าถ้าเราเรียนจบเมื่อไร่ จะเลิกกับเมียเขาแล้วจะแต่งงานกับเรา แล้วเมื่อเช้าก่อนเราลงมาจากหอจะไปเรียน เมียเขามาหาเราถึงที่หอพัก พาลูกมาด้วย เมียเขาไม่ด่าเราสักคำ แค่ขอร้องให้เราเลิกกับเขาเสีย”



    ปลายรู้สึกใจไม่ดี นี่เรื่องมันไปถึงขั้นจะแต่งงานแล้วหรือ? ขวัญกุมขมับเล่าต่ออย่างกลัดกลุ้มใจ



    “เรารู้สึกแย่มากเลยปลาย เราเห็นแก่ความสบายให้เขาเป็นผู้อุปการะเรา แต่เรากำลังทำให้ครอบครัวคนอื่นแตกแยก เราทำอย่างนี้มาตั้งนานได้ยังไง” ขวัญเล่าจบก็น้ำตาคลอ  



    “ไม่เป็นไรขวัญ ดีแล้วที่ขวัญคิดได้” ปลายรีบปลอบเพื่อนและให้กำลังใจ



    “วันนี้เราไม่กล้าไปเรียนเลย กลัวว่าคุณวิชัยจะไปรอรับตอนเลิกเรียน ถ้าเขาถามเรื่องแต่งงานเราไม่รู้จะตอบยังไง” ขวัญพูดแล้วก้มหน้านิ่ง ปลายรู้สึกตื้อขึ้นมาเสียเฉย ๆ คิดอะไรไม่ออก ตอนที่ยังไม่รู้เรื่องก็อยากรู้เสียเหลือเกิน พอรู้เรื่องแล้วก็หาทางออกให้เพื่อนไม่ได้ คุณวิชัยเป็นคนยังไง ถ้าขวัญปฏิเสธและขอยุติเรื่องทั้งหมดมันจะเป็นยังไง เขาจะโกรธถึงขั้นทำร้ายขวัญหรือเปล่า นี่ขนาดปลายเป็นแค่คนที่รู้เรื่องยังรู้สึกเครียดขนาดนี้ แล้วขวัญเจ้าของเรื่องจะรู้สึกแย่ขนาดไหน



    ทั้งคู่ปล่อยเวลาให้เดินผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ปลายรอจนเห็นว่าขวัญรู้สึกดีขึ้นแล้ว ปลายจึงขอกลับบ้านก่อน



    “ถ้าขวัญยังไม่อยากไปเรียนก็ไม่ต้องไปก็ได้ เราจะบอกอาจารย์ว่าขวัญป่วย พรุ่งนี้เรียนอะไรเราจะมาสอนให้นะ”



    “ขอบใจนะปลาย ขอบใจจริง ๆ ที่มาหาแล้วรับฟังปัญหาของเรา”



    “ไม่เป็นไร ทำใจให้สบายนะ ทุกปัญหามีทางแก้เสมอ” ปลายยิ้มให้ขวัญแล้วเดินออกจากห้องขวัญไป ไม่จำเป็นจะต้องกำชับปลายไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร ปลายเป็นคนยังไงขวัญรู้ดี คนอย่างปลายไว้ใจได้เสมอ



    แต่แล้วในวันต่อมา ขวัญมาเรียนตามปกติ ปลายเห็นขวัญมาเรียนก็แปลกใจว่าทำไมขวัญถึงกล้าออกมาจากหอพัก



    “คุณวิชัยไปดูงานที่ต่างประเทศ 1 เดือน” ขวัญบอกสาเหตุ



    “คราวนี้ก็ตั้งใจอ่านหนังสือสอบนะ ไว้สอบเสร็จค่อยไปคิดอีกที” ปลายก็พลอยโล่งใจไปด้วย เพราะอย่างน้อย เมื่อสอบเสร็จก็ยังมีเวลาคิดแก้ไขอีกระยะหนึ่ง



    “ปลายไม่ต้องห่วงนะ เราจะไม่ทำผิดไปกว่านี้อีกแล้ว” ขวัญพูดแล้วยิ้มแย้มแจ่มใส แตกต่างจากเมื่อวานมาก ทำให้ปลายสบายใจขึ้นมาได้







    การสอบปลายภาคเริ่มขึ้นแล้ว และปลายผ่านมันมาได้ด้วยดี โดยเฉพาะวิชาบัญชี ปลายทำข้อสอบได้ทั้งหมด เพราะอ่านวิชานี้มาอย่างตั้งใจและได้รชากับสามาช่วยติวก่อนสอบด้วย สอบคราวนี้ปลายจึงมั่นใจว่าผ่านแน่นอน



    เมื่อสอบเสร็จแล้วต่างก็เก็บตัวอ่านหนังสือสอบเข้า ปวส.ต่อ ปลายเองก็ขนหนังสือมาอ่านด้วย ยกเว้นวิชาบัญชี เพราะปลายจะไม่สอบเข้าแผนกนี้ ส่วนจะเข้าแผนกอะไร ปลายก็ยังไม่รู้เลย



    “เป็นไงบ้างปลาย?” นิดโทรศัพท์มาถามข่าวคราวของปลาย



    “นิดเหรอ? หายไปเลยนะ” ปลายตัดพ้อต่อว่า



    “สอบเสร็จแล้วทำโปรเจ็คต่อ นี่เพิ่งเสร็จเมื่อวาน แล้วนายเป็นไงบ้าง ซื้อใบสมัครหรือยัง จะสอบเข้าแผนกอะไร หรือจะไปเรียนต่อที่ไหน คิดหรือยัง?” นิดย้อนถามปัญหาใหญ่ของปลาย ปลายตอบเสียงจ๋อย ๆ กลับมา



    “ยังไม่รู้เลย เรานี่ไม่ได้เรื่องเลยว่ะ จนป่านนี้แล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร อยากเรียนอะไร” ปลายเองก็เจ็บใจตัวเอง เรียกความมุ่งมั่นของตัวเองกลับมาได้แล้วแท้ ๆ แต่กลับไม่ค้นหาตัวเองให้เจอ



    “ถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร นายก็ลองเรียนอะไรที่เหมาะกับตัวนายก็ได้ ที่ไหนไม่สำคัญ สอบไม่ติดก็เรียนที่อื่นก็ได้ แต่ต้องเอาที่เหมาะกับนายนะ เอ...หรือจะหยุดเรียนแล้วไปขายก๋วยเตี๋ยวแข่งกับบ้านเจนดี?” เอาอีกแล้ว ขึ้นต้นซะดีลงท้ายด้วยความทะเล้นอีกตามเคย แต่ปลายก็คิดอะไรได้จากคำพูดของนิด ตลอด 3 ปีที่เรียนมา เพื่อน ๆ เคยพูดอะไรกับเธอไว้บ้าง อะไรที่เป็นความสามารถที่โดดเด่น



        “ปลายนี่เก่งนะ พูดโน้มน้าวคนได้ดี”

        “งานนี้ให้ปลายเป็นพิธีกรนะ”

        “โต้วาทีคราวนี้ ให้ปลายเป็นหัวหน้านะ”




        ปลายพอจะคิดได้แล้ล่ะ ว่าปลายควรจะเรียนอะไรดี



        ปลายคุยกับนิดเสร็จแล้วกำลังจะไปอ่านหนังสือต่อ ขวัญก็มาหาที่บ้านพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่



        “เราจะกลับไปทำงานที่ระยอง” ขวัญบอกเป้าหมายของตัวเอง



        “แล้วไม่เรียนต่อ ปวส.แล้วเหรอ?” ปลายถามอย่างไม่ค่อยจะเชื่อ จุดหมายของเด็กปวช. คือการเรียนต่อ ปวส.เสียเป็นส่วนใหญ่ ทำไมขวัญที่ยังมีโอกาสเรียนต่อได้ ถึงคิดจะทิ้งโอกาสนั้น



    “เราคงต้องทำงานสักระยะก่อน ถึงจะเรียนต่อ”



    “ขวัญหนีคุณวิชัยเหรอ?” ปลายถามถึงคุณวิชัย เพราะเรื่องนี้ก็ยังไม่จบ



    “ก็มีส่วน มันมีหลายเหตุผลน่ะปลาย กับคุณวิชัย เราก็คงพบเขาอีกไม่ได้แล้ว เราไม่รู้จะพูดกับเขายังไงดี มันเหมือนคนเนรคุณนะ เมื่อกี้เราเอาของที่เขาซื้อให้เราทั้งหมด แล้วก็จดหมายถึงเขาไปฝากให้เลขาของเขาคืนให้เขาด้วย แล้วเงินที่เขาช่วยเหลือเรา เราจะทำงานเก็บเงินแล้วใช้คืนให้เขา”



    “ไม่กลัวเขาถามไปถึงระยองเหรอ?” ปลายอาจจะถามคำถามที่เกินเลยไปหน่อย แต่มนุษย์เรา ไม่ว่าอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น



    “เขาไม่ใช่มาเฟียนี่ คงไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอก แล้วถ้าเขาได้อ่านจดหมายของเรา เขาต้องเข้าใจในความคิดของเรา อย่างน้อยเขาก็ต้องสงสารลูกเมียของเขา เขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรหอรก” ดูขวัญมั่นใจนาดนี้และตัดสินใจในสิ่งที่กำลังจะทำแน่นอนแล้ว ปลายก็คงต้องยอมรับในการตัดสินใจของขวัญ



    ปลายยืนส่งขวัญหน้าบ้าน ปลายกุมมือขวัญไว้แน่น



    “ขวัญ เราขอให้ขวัญเข้มแข็งนะ ทุกสิ่งที่เคยผิดพลาดไปลืมมันไปให้หมด แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่นะ”



    “ขอบใจนะปลาย ขอบใจจริง ๆ ฝากลาสา อรรณพ รชา ด้วยนะ” ขวัญบีบมือปลายกลับ ปลายยิ้ม



    “โชคดีนะขวัญ รักษาตัวด้วยนะ”



    ขวัญเดินออกจากหน้าบ้านปลาย ไกลจนลับสายตาไป ปลายยืนนิ่งอยู่กับที่ หน้าสวย ๆ ของขวัญผุดเข้ามาในสมองปลาย



    ทุกอย่างที่ขวัญคิด ทุกอย่างที่ขวัญทำ มันจะถูกหรือผิด ขวัญกำลังออกเดินทางไปหาคำตอบแล้ว





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×