ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จุดหมายปลายฝัน

    ลำดับตอนที่ #14 : ความรักของเพื่อนรัก

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 47


    กิจกรรมรับน้องใหม่ผ่านไปด้วยดี รุ่นพี่ต่างก็แกล้งรุ่นน้องกันอย่างสนุกสนานพอเหมาะพอควร ไม่เกินขอบเขตไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด



        ปลายไม่โดยภาณุ ผู้เป็นพี่รหัสแกล้งเลย แต่ภาณุไปบอกให้เพื่อน ๆ มาแกล้งปลายแทน โดยภาณุถือคติที่ว่า –พี่ไม่แกล้ง แต่เพื่อนพี่แกล้งได้- ปลายจึงรู้แล้วว่า ภาณุไม่ทิ้งลายเดิมของตัวเองเลยจริง ๆ



        ทางด้านแผนกบัญชี สาก็โดนรับน้องแบบพอหอมปากหอมคอ เพราะอาจารย์แผนกนี้ควบคุมแบบเข้มงวด



        ส่วนนิดก็แอบแว้บมาจากการรับน้องที่แผนกสถาปัตยกรรม มายืนดูปลายถูกรุ่นพี่แกล้ง แล้วก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบอกชอบใจที่เห็นเพื่อนรักถูกแต่งหน้าแต่งตาเละเทะ มัดผมทรงพิสดารและเต้นแร้งเต้นกาตามคำสั่งรุ่นพี่ ปลายเห็นนิดมายืนหัวเราะก็ค้อนประหลับประเหลือก –เออ...ไม่มาเป็นรุ่นน้องมั่งก็แล้วไป-



        กิจกรรมวันนั้นของทุกแผนกจบลงด้วยความสนุกสนานและประทับใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมนี้ไม่ได้มีแค่สนุกเท่านั้น มันส่งผลให้รุ่นพี่รุ่นน้องรักกันมากขึ้นด้วย







    หวัดดีจ้า นิด ปลาย เพื่อนรัก



        ขอโทษทีที่ส่งข่าวมาช้าไปหน่อย ตอนนี้กำลังยุ่ง ๆ อยู่น่ะ ก็เป็นเฟรชชี่อยู่นี่นา มีแต่คนมาสนใจรุ่นน้องปี 1 อย่างเรา ฮิฮิ  



    ตอนที่อยู่บนรถ คนที่นั่งข้างเราเขาก็เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับเรา แต่เขาอยู่ปี 3 แล้ว ชื่อพี่พงษ์ เรียนวิศวะฯด้วย  บังเอิญมากเลย เราก็เลยได้รู้เรื่องของมหาวิทยาลัยก่อนไปถึงเยอะแยะเลยล่ะ แล้วปลายคงถูกรับน้องเหมือนกันใช่ไหม ส่วนนิดก็คงเป็นฝ่ายรับ อยู่ ปวช.3 แล้วนี่ เพลา ๆ มือหน่อยนะนิด เดี๋ยวน้องตาย (ล้อเล่นนะ) ต้องจบจดหมายแล้วนะ รักษาสุขภาพด้วยล่ะ

        

                                                                                                                                                 คิดถึงมาก

                                                                                                                                                    เจน



        “อะไรวะ!! เขียนมาแค่เนี๊ยะ” นิดบ่นขึ้นมาทันทีที่ฟังปลายอ่านจดหมายจบ ปลายจดหมายใส่ซอง



        “จะบ่นอะไรนักหนาล่ะนิด ก็รู้อยู่ว่าเจนไม่ชอบเขียนจดหมาย อยากคุยยาว ๆ ก็โทรหาเอาแล้วกัน หรือไม่ก็นัดแชทกันทางอินเตอร์เน็ตก็ได้” ปลายพูดแก้ให้เจน นิดยังบ่นอุบอิบต่อว่า ค่าโทรศัพท์แพงบ้างล่ะ เธอไม่ชอบคุยทางอินเตอร์เน็ตบ้างล่ะ



        “อุตส่าห์บังคับให้เขียนจดหมาย จะได้บรรยากาศแบบความห่างไกลกันเสียหน่อย ยัยเจนนี่ก็งกชะมัด เพื่อนสองคนส่งมาฉบับเดียว เดี๋ยวตอนตอบ เราตอบร่วมกันนะปลาย แล้วเขียนแค่สามบรรทัดก็พอ เจนสบายดีหรือเปล่า? นิดกับปลายสบายดี จบ...” นิดยกตัวอย่างการตอบจดหมายแบบสั้น ๆ



        “ไม่เอาน่า อย่าไปแกล้งเพื่อนเลย” ปลายรู้ว่านิดบ่นด้วยอารมณ์น้อยใจ เพราะตั้งแต่เจนไป นิดก็พูดถึงเจนบ่อย ๆ แต่พอส่งข่าวมาก็ส่งมาไม่สมกับที่รอคอย



        “ก็ได้ งั้นเราจะตอบไปสามหน้าเลยคอยดูสิ ดูซิว่าจะกล้าตอบแบบสั้น ๆ กลับมาหรือเปล่า” นิดเปลี่ยนใจ ปลายรู้สึกดีใจที่นิดเปลี่ยนใจ เพราะถ้าขืนตอบไปสามบรรทัดจริง ๆ ไม่แคล้วยัยเจนต้องตอบกลับมาแค่บรรทัดเดียวแน่ ๆ ถ้าใครประชดมา ยัยเจนชอบนักล่ะกับการประชดกลับไป



        นิดล้มตัวลงนอนบนเตียงนอนของปลาย เหลือบตาไปมองที่โต๊ะข้างเตียงนอน



        “คิดถึงตองนะ” นิดพูดขึ้นมา ปลายเห็นสายตานิดที่มองต้นตะบองเพชรของตองที่วางอยู่ข้าง ๆ ต้นตะบองเพชรของปลาย ก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนดี



        “เหมือนกัน” ปลายพูดบ้าง



        “เมื่อคืนเราฝันถึงตองด้วย ตองมาขอโทษเรา เรื่องวันประกาศผลสอบที่ปิดประตูใส่หน้าพวกเราแล้วก็พูดจาไม่ดี” นิดเล่าความฝันของเมื่อคืน



        “ตองคงอยากขอโทษ ก็เลยมาหาในฝัน” ปลายพูดในสิ่งที่ไม่มีใครรูว่าจะเป็นจริงหรือไม่ อาจจะเป็นนิดคิดถึงถึงตองเลยเก็บไปฝันก็ได้ แตดูนิดจะปักใจเชื่ออย่างที่ปลายพูด



        “ถ้าเราไม่สะดุ้งตื่นเสียก่อน เราอยากบอกตองว่าเราไม่โกรธเลยสักนิดเดียว”



        “ตองคงรับรู้แล้ว” ปลายพูดช้า ๆ แล้วหันไปมองต้นตะบองเพชรของตองอีกครั้ง



        “เจนจะฝันเหมือนเรารึเปล่าน้า?” นิดนึกไปถึงเจนแล้วก็เงียบไป ปลายเลยต้องชวนคุยเรื่องอื่น



        “เรื่องน้องฝุ่นเป็นยังไงบ้างล่ะ?” ปลายถามถึงรุ่นน้องที่มาติดพันนิดอยู่ ผู้หวังอยากให้นิดเป็นผู้รักษาแผลใจ



        “จะมีอาร้ายยย...ก็เป็นอย่างที่เป็นน่ะแหละ ทั้งตามทั้งตื๊อ” นิดยังคงนอนเล่าเรื่องของน้องฝุ่นด้วยสีหน้าเฉยเมยและท่าทางที่เซ็งน้องคนนี้เต็มที ปลายเลยล้มตัวนอนลงข้าง ๆ นิด



        “คุยกันให้รู้เรื่องสักทีสินิด น้องเขาจะได้รู้ว่านิดไม่ใช่ทอม แล้วก็ไม่มีวันเป็นด้วย เท่าที่เรารู้ บางคนก็ไม่ใช่ดี้จริง ๆ หรอก บางทีนิดอาจจะทำให้น้องเขาเลิกเป็นดี้ได้นะ”



        “ก็เคยพูดเปรย ๆ แล้ว เขาก็ไม่เข้าใจ”



        “อย่าพูดเปรย ๆ สิ พูดจริง ๆ จัง ๆ ไปเลย” ปลายแย้ง นิดทำหน้าแบบไม่แยแส



        “ช่างเถอะ อย่าไปสนใจเลย เดี๋ยวก็ลืมไปเองแหละ” นิดตัดบท ปลายเงียบ ลองถ้านิดไม่สนใจ ใครก็บังคับนิดไม่ได้







        การทำงานกลุ่มเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของการเรียน เพราะจะทำให้รู้จักเข้าสังคมและทำงานร่วมกับผู้อื่น ตั้งแต่เปิดเรียนมา ปลายมีงานกลุ่มที่ต้องทำอยู่หลายชิ้น และกลุ่มที่ร่วมงานกันบ่อยที่สุดคือ ดาว และนายป๋องกับนายโดม จนบัดนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเลย



        ป๋องเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทยจีน นิสัยตลกโปกฮา ไร้สาระไปวัน ๆ ส่วนโดมเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด และที่สำคัญโดมทนนายป๋องที่แสนพูดมากได้



        เที่ยงวันนี้ ทั้ง ปลาย ดาว ป๋องและโดม นั่งจับกลุ่มกันที่เก้าอี้หินขัดหน้าแผนก เพื่อตกลงกันเรื่องการพรีเซ้นต์รายงานในวันพรุ่งนี้ ภาณุเดินตรงเข้ามานั่งร่วมวงด้วย น้อง ๆ ต่างดีใจกันใหญ่ที่พี่ณุคนเก่งมา



        “พี่ณุมาพอดีเลย พี่เคยทำรายงานเรื่องนี้มาก่อนใช่ไหม พี่ช่วยดูหน่อยสิว่าควรจะพรีเซ้นต์ยังไงดี” ดาวรีบขอความช่วยเหลือทันที ภาณุหันมาดูให้



        “ใครพรีเซ้นต์ล่ะ?” ภาณุพลิกรายงานไป 2-3 หน้าแล้วก็ถามขึ้น เพื่อน ๆ ต่างชี้มาที่ปลาย ปลายไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองจะต้องอกไปพรีเซ้นต์งาน แต่ปลายก็รู้สึกเฉย ๆ เพราะตั้งแต่เรียนมาปลายได้รับหน้าที่นี้อยู่บ่อย ๆ



        “ปลายเองเหรอ งั้นไม่ต้องแนะนำหรอก น้องพี่เก่งอยู่แล้ว” ภาณุยอปลาย นายป๋องผู้ไม่ยอมให้เหยื่อที่หลงเข้ามาหลุดรอดไปได้ง่าย ๆ พูดขึ้นว่า



        “โธ่พี่ อย่าไปไว้ใจไอ้ปลายมันมากเลยน่า พี่ช่วยดูหน่อยนะว่าควรจะทำยังไง นะนะนะ” ป๋องออดอ้อนเอาหัวไปเคลียที่ไหล่ภาณุ จนภาณุต้องตบหัวนายป๋องเบา ๆ ให้หยุด



        “ถือว่าเป็นการถ่ายทอดความรู้ให้น้อง ๆ นะพี่นะ” โดมช่วยขออีกแรง ภาณุก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว จึงเริ่มอธิบายหัวข้อที่ควรจะเน้นมาก ๆ ในการพรีเซ้นต์ และหัวข้อที่ไม่จำเป็นต้องพูดถึง จนทั้ง 4 คนเข้าใจ



        ภาณุนั่งเงียบมองน้อง ๆ ปรึกษางานกันอยู่พักหนึ่ง ก็ถามถึงเรื่องที่ตัวเองอยากรู้จริง ๆ เสียที



        “ปลาย...วันนี้นิดไม่มาเหรอ?”



        “นิดเหรอพี่ วันนี้คงไม่มามั้ง พี่มีธุระอะไรกับนิดเหรอ ไปหาที่ตึก’ถาปัตย์ก็ได้” ปลายแนะนำ



        “ฮั่นแน่...พี่คิดจะจีบเด็ก’ถาปัตย์เหรอ?” ป๋องรีบสวนขึ้นมาทันทีที่ได้ยินว่า ’ถาปัตย์ ๆ อะไรนี่แหละ ทำให้ดาวกับโดมหันมาสนใจภาณุไปด้วย ภาณุถึงกับอึกอักเมื่อน้อง ๆ หันมาจ้องที่ตัวเองกันหมด



        “อะไร พี่ยังไม่ทันพูดอะไรเลยนะ ปลายไม่ต้องไปฟังมัน” ภาณุแก้ตัว ป๋องรีบจับผิดต่อ



        “แล้วพี่ถามถึงเขาทำไม ผมเห็นนะเวลาที่เพื่อนปลายมานั่งแถวนี้ พี่ต้องมานั่งคุยกับเขาเป็นนานสองนานสามนานสี่นาน ใช่ไหม ดาว ,โดม” ป่องหันไปขอแรงสนับสนุน ดาวกับโดมก็พยักหน้ารับโดยอัตโนมัติ ทั้ง ๆ ที่ความจริงก็เห็นบ้างไม่เห็นบ้าง ส่วนปลายก็เห็นด้วยกับคำพูดของป๋อง เพราะตั้งแต่วันที่นิดมาหลบรถของน้องฝุ่นที่ หลังจากนั้นทุกครั้งที่นิดมา ภาณุก็จะมานั่งคุยด้วยทุกครั้ง ป๋องซักไล่ต้อนภาณุจนเกือบจะจนมุม ทำให้ภาณุต้องถอยทัพกลับขึ้นอาคารเรียน



        “โธ่เอ๊ย...จะจีบเขาก็ไม่ยอมบอกมาตรง ๆ “ ป๋องพูดขึ้นมา เมื่อเห็นภาณะเดินหายเข้าอาคารเรียนไปแล้ว



        “แล้วมึงไปป่วนพี่เขาทำไม เพื่อนปลายมึงก็ไม่รู้จักสักหน่อย” โดมถามขึ้นมา



        “คนฟอร์มจัดอย่างพี่ณุน่ะ น่าแกล้งจะตาย” ป๋องตอบยิ้ม ๆ แบบสะใจนิด ๆ ที่ทำให้ภาณุเกือบจนมุมได้ ปลายอมยิ้มเห็นด้วยว่าภาณุน่าแกล้ง



        “ดาวว่าพี่ณุน่ารักออก คนหล่อ ๆ ก็ต้องฟอร์มเยอะอย่างนี้แหละเนอะปลาย” ดาวพูดแล้วหันไปเออออกับน้องรหัสภาณุ



        “ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะชอบเพื่อนเรา” ปลายพูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจ



        “เห็นครั้งแรกก็รู้แล้ว เชื่อป๋องเถอะ พูดถึงเพื่อนปลายทีก็หน้าแดงเป็นไฟจราจร อ๋อ...หรือว่าปลายจะเป็นแม่สื่อให้ดีล่ะ” ป๋องช่วยสรุปให้และเสนอความคิดขึ้นมา



        “อย่าไปยุ่งกับเขาเลยน่า เขาจีบเองได้แหละ” ปลายไม่รับข้อเสนอ



        “แต่เราเคยเห็นหน้าเพื่อนปลาย เราว่าน่ารักดี เหมาะกับพี่ณุดีนะ” โดมพูดขึ้นมาบ้าง ป๋องหันมาชี้หน้าโดม



        “ไอ้โดม คิดจะจีบเพื่อนปลายอีกคนหรือไงวะ?” ป๋องพูดจับผิดโดม โดมตบหัวป๋องไปหนึ่งที



        “ดาวว่าเรากลับห้องกันเถอะ ป๋องจับผิดพี่ณุจนเพี้ยนไปแล้วล่ะ” ดาวชักทนไม่ไหว นำทีม

    เก็บของเดินกลับขึ้นห้องไปปล่อยให้ป๋องนั่งจับผิดต้นไม้ใบหญ้าแถวนั้นไปคนเดียว





        การพรีเซ้นต์ผ่านไปด้วยดี ป๋อง โดมและดาว ต่างโล่งใจที่ปลายทำหน้าที่ได้ดีไม่มีติดขัด โล่งใจได้ไม่นาน งานเก่าไปงานชิ้นใหม่ก็เข้ามาอีก โดยทั้ง 4 คนจับกลุ่มทำงานร่วมกันเช่นเดิม



        วันนี้ปลายกลับถึงบ้านก็ได้รับจดหมายจากเจน คราวนี้เจนแยกเขียนเป็นสองฉบับส่งให้ปลายและนิดคนละฉบับ เมื่อนำจดหมายสองฉบับมาเทียบกัน จุดที่น่าสังเกตของจดหมายคือ เกือบครึ่งฉบับเขียนเล่าถึง พี่พงษ์ รุ่นพี่เจอกันบนรถนั่นเอง



        “...ตอนนี้เราเข้าชมรมโฟโต้ ชมรมเดียวกับพี่พงษ์เลยนะ พี่พงษ์เขาเป็นประธานชมรม เมื่อวานเราไปซื้อุปกรณ์ถ่ายรูปด้วยกันด้วยล่ะ พี่พงษ์ซื้อฟิลม์ให้เราหัดถ่ายรูปตั้งหลายม้วนแน่ะ คณะวิศวะฯกับคณะเราอยู่กันไกล้ไกล เลยไม่ค่อยเจอกันเลย แต่พี่พงษ์เขาบอกว่าจะแวะมาหาสมาชิกชมรมคนใหม่อย่างเราบ่อย ๆ เราก็ดีใจน่ะสิที่เขาให้ความสำคัญเรา…” นิดอ่านข้อความที่เจนกล่าวถึงพี่พงษ์ที่ดูเหมือนเจนจะเขียนด้วยอารมณ์ อินเลิฟ แบบสุด ๆ



        “พี่พงษ์อย่างนั้น พี่พงษ์อย่างนี้ พี่พงษ์น่ารัก...เขียนมาอีแบบนี้ สงสัยเพื่อนเราจะขายออกแล้วว่ะปลาย” นิดพับจดหมายเก็บใส่ซอง



        “ก็ดีแล้วนี่ เพื่อนมีความสุขเราก็น่าจะดีใจ”

        “นั่นสินะ” นิดเห็นด้วย “แหม...เราไม่มีเจ้าชายขี่ราชรถมาเกยมั่งเลยเนอะ” นิดพูดถึงตัวเอง



        “อาจจะมีคนชอบนิดอยู่ก็ได้นะ แต่นิดอาจจะไม่รู้ตัว” ปลายพูดเปรย ๆ ถึงภาณุ ที่เพื่อน ๆ ของปลายรู้กันดีว่ามาปิ๊ง ๆ ยัยนิดอยู่ แต่ปลายไม่อยากบอกให้นิดรู้ อยากให้รู้จากภาณุเองมากกว่า



        “หูยยย...จะไปกราบขอบคุณผู้ชายคนนั้นทันทีเลยเชียวที่มาชอบเรา” นิดพูดติดตลกอีกครั้ง ปลายหัวเราะคิกคัก ได้ยินอย่างนี้แล้วยิ่งไม่อยากบอกนิดเข้าไปใหญ่ กลัวว่าพรุ่งนี้อาจจะเห็นนิดไปกราบขอบคุณภาณุตั้งแต่เช้า ยัยคนนี้ชอบทำอะไรแผลง ๆ อยู่ด้วย

        





    การสอบกลางภาคใกล้เข้ามาทุกขณะ ปลายรู้สึกว่ามันเร็วมาก จนแทบตั้งตัวไม่ทัน ปลายจึงต้องเก็บเนื้อเก็บตัวอ่านหนังสือล่วงหน้า ปลายต้องตั้งใจมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อครั้งที่เรียนอยู่ชั้น ปวช. ปลายติดอยู่ในกลุ่มที่เรียนระดับปานกลาง บางเทอมเริ่มต้นไม่ดี เกรดก็ฮวบลงไปเหมือนกัน ไม่เคยติดกลุ่มคนที่เรียนเก่งเลยสักครั้ง คราวนี้ปลายเลยอยากพิสูจน์ตัวเองดูว่า ถ้าตั้งใจจริงแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไร



        ช่วงเวลาที่ปลายกำลังเก็บตัวอ่านหนังสืออยู่นั้น ๆ รอบ ๆ ตัวของปลายก็ยังคงดำเนินไปตามปกติ  



    เจนเพื่อนรักที่อยู่ไกลกัน เริ่มจะชอบการเขียนจดหมายขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะเธอเขียนจดหมายมาหาปลายอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ลืมที่จะเล่าถึงคนพิเศษที่ชื่อพี่พงษ์คนนั้นอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน



    น้องฝุ่นยังขยันขี่มอเตอร์ไซด์มาวน ๆ เวียน ๆ ตามหานิดอยู่แถว ๆ แผนกการตลาด



    ส่วนภาณุก็ยังทำคะแนนเอาใจนิดอยู่อย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่านิดจะมีคนข้างกายอย่างเจนอีกคน



    นายป๋องก็ยังคงจด ๆ จ้อง ๆ จับผิดภาณุเหมือนกัน โดยมีโดมคอยปรามเพื่อนไม่ให้ลามปามมากไป



    ที่แผนกบัญชี สาก็ยังหมกมุ่นอยู่กับวิชาบัญชี อยู่กับตัวเลข จนไม่ค่อยมีเวลาไปทักทายปลายเหมือนก่อน



    ทุกคนดำเนินชีวิตไปตามแบบของตัวเอง อย่างมีความสุข







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×