ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • Cruel {Baekhyun ft.sehun chanyeol kris kai luhan} 。

    ลำดับตอนที่ #16 : + Cruel + Number Eleven

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 923
      3
      30 ม.ค. 57




     

    ไม่มีใครตายแล้วนะคะ อยากให้อ่านให้จบน้า <3

    Number Eleven

     

                เสียงคลื่นซัดเข้าสู่หาดทรายสีขาวสะอาดตา  ม่านสีครีมฉลุลายลูกไม้กำลังพริ้วไหวตามสายลมที่ขอบหน้าต่าง เช่นเดียวกับเจ้าของบ้านพักที่ทอดสายตาเหม่อมองท้องฟ้าอย่างว่างเปล่า

                บยอนแบคฮยอนที่ตัดสินใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ห่างไกลจากสิ่งเดิมๆ แม้ที่บ้านพักแห่งนี้จะมีความทรงจำที่แสนร้ายกาจของเขากับคริสอยู่ แต่แบคฮยอนก็เลือกที่จะสนใจและจดจำแต่ความทรงจำของเขากับเซฮุน...ว่าเขาและคนรักเคยมีความสุขกันมากแค่ไหน

                ร่างบางลุกขึ้นสาวเท้าไปยังลิ้นชักหัวเตียง มือบางหยิบกรอบรูปไม้สีน้ำตาลอ่อนขึ้นมา นิ้วเรียวสัมผัสไล้รูปภาพของคนในกรอบทีละคน หญิงสาวผมยาวสลวยยกยิ้มอ่อนโยนภายใต้วงแขนของชายหนุ่มรูปหล่อที่แขนอีกข้างโอบไหล่ของเด็กชายตัวน้อยอีกคนเอาไว้ เด็กน้อยตัวเล็กกำลังถืออมยิ้มสีสดยิ้มแฉ่งอย่างมีความสุข

     

              แม่

              พ่อ

              แบคฮยอน

              และอมยิ้มที่ชานยอลให้...

     

              แหมะ~ น้ำสีใสร่วงเผลาะลงบนกรอบรูปที่ตำแหน่งดวงตาของรูปตัวเองวัยเด็ก แบคฮยอนหยิบโทรศัพท์และกดโทรออกหาคนสำคัญที่ต้องไปทำงานไกลถึงอเมริกา บางทีช่วงเวลาแบบนี้ คนที่แบคฮยอนโหยหามากที่สุดอาจจะเป็นคนที่รักแบคฮยอนมากที่สุดก็เป็นได้

     

                [โอ๊ะโอ...ดูซิใครโทรมาเอ่ย~] เพียงได้ยินเสียงสดใสจากปลายสายก็สร้างรอยยิ้มให้แก่คนตัวเล็กได้ไม่หน่อย แม้มันจะดูเหนื่อยล้ามากมายแค่ไหนก็ตาม

                [ว่าไงครับลูกชายของแม่ โทรมานี่รู้ไหมว่าที่นี่กี่โมง?]

                “กี่โมงแล้วไม่รู้ รู้แต่ผมคิดถึงพ่อกับแม่มากที่สุดครับ”

                [ถ้าพ่อได้ยินคงยิ้มปากฉีกถึงรูหูแน่เลยครับคุณลูกชาย]

                “พ่อไม่อยู่เหรอครับ?”

                [ไปดูงานที่จีนห้าวันครับเด็กน้อย]

                “โห...แบบนี้แม่ก็เหงาแย่สิครับ”

                [ฮ่าๆ แม่ชินแล้ว ว่าแต่เราเถอะโทรมาหาแม่มีอะไรรึเปล่าเอ่ยพ่อตัวดี]

                “โทรหาแมต้องมอะไรด้วยเหรอครับ? แค่คิดถึงได้รึเปล่า”

                [ถ้าคิดถึงก็มาหาสิครับคุณลูกชาย]

                “ผม...”

                [หื้ม?]

                “ผม...ผมไปอยู่กับแม่ได้ใช่ไหม?”

                [ได้สิครับ มาเมื่อไรก็ได้ ถ้าว่างก็มาเลย]

                “ผมหมายถึงไปเรียนต่อที่นั่นด้วยได้ไหม?”

                [...]

                “...”

                [มีเรื่องอะไรรึเปล่า...แบคฮยอน]

                “...”

                [แล้วชานยอลล่ะลูก?]

                “...” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าแม่ของเขาจะถามถึงเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขา...จะตอบว่าอย่างไรดีล่ะ?

     

              แบคฮยอนคงไม่กล้าตอบคำถามนี้หรอก

     

                “แม่ครับ...”

                [...]

                “ผมเหนื่อย...ให้ผมไปอยู่ด้วยเถอะนะครับ”

                [แบคฮยอน...]

              “ฮึก...ผมไม่เหลือใครอีกแล้ว...แม่...” จากที่คิดว่าจะไม่อ่อนแอ แต่กลับกลายเป็นกอดรูปครอบครัวไว้กับอกจนแน่น หยดน้ำตาที่ไม่อยากให้มีก็กลับไหลออกมาจนเปรอะเปื้อนเต็มปรางแก้มใส เขาไม่รู้จะหาที่พึ่งที่ไหน เขาไม่รู้จะหาทางออกทางใด ที่ทำได้ตอนนี้ก็มีทางเดียว...หนี

              [แบคฮยอนครับ...แบคฮยอนยังมีแม่กับพ่อนะครับ ถ้าไม่ไหวก็ไม่เป็นไร กลับมาอยู่กับพ่อกับแม่นะลูก...แม่จะรอ]

                “ฮึก...ขอบคุณครับแม่...”

                [แม่รักลูกมากที่สุดนะครับคนดี...] และอีกหลายต่อหลายครั้งที่คำว่า รัก ถูกพร่ำบอกจากคำปลายสายจนกว่าลูกชายตัวน้อยของเธอจะร้องไห้จนหลับไป

     

     

     

                ติ๊ด ติ๊ด

                เสียงเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์ข้างกายปลุกให้คนตัวเล็กที่กำลังสลึมสลืออยู่ได้ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตา พอกดเปิดอ่านข้อความก็ต้องอดอมยิ้มไม่ได้

     

              ข้อความเข้า 1 ข้อความ

              ‘Omma’

              จองตั๋วจ่ายเงินไว้ให้แล้ว เครื่องออกสี่ทุ่ม รายละเอียดแม่ส่งอีเมลไปแล้ว แล้วเจอกันนะครับคุณลูกชาย ทนคิดถึงแม่หน่อยนะ คึคึ~

     

              “ใครบอกว่าจะคิดถึงแม่กันล่ะ คิก~” หัวเราะจนดวงตาเรียวรีปิดลง แบคฮยอนถอนหายใจเพื่อไล่ความเหนื่อยหน่ายใจที่ยังคงเกาะติดเขาไม่จางหาย บิดกายเล็กน้อยพลางลุกขึ้นอาบน้ำไล่ความกังวลที่ยังคงมีอยู่ในหัวของตัวเองตลอดเวลา

                ร่างเล็กทานอาหารเช้าลองท้องเบาๆ ที่ชิงช้าหน้าบ้านเพราะรู้สึกไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไร แบคฮยอนรู้สึกอยากขอบคุณพ่อกับแม่ของเขาจริงๆ ที่ซื้อบ้านหลังเล็กที่แสนสงบแห่งนี้เอาไว้ แบคฮยอนเหม่อมองสายลมที่พัดผ่านไป บางทีแบคฮยอนก็คิดว่าเขาไม่ต่างอะไรกับสายลมเหล่านั้น ที่ใครหลายสัมผัสได้ แต่กลับไม่มีใครเป็นเจ้าของมันได้อย่างแท้จริง ถึงจะเป็นที่ต้องการแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครไขว่คว้ามันได้ และตัวมันเองก็ไม่ได้เคียงคู่กับใคร เป็นเพียงสายลมที่แสนว่างเปล่า ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครต้องการ

     

              คิดถึงเซฮุน...

              คิดถึงชานยอล...

              คิดถึงความสุข...

              คิดถึงความทรงจำ...

     

                ใครจะว่าแบคฮยอนเลวร้ายแค่ไหนก็ช่าง แต่ถ้าไม่เป็นเขาก็ไม่มีทางเข้าใจ แบคฮยอนอาจไม่ใช่คนหนักแน่นที่จะเด็ดขาดกับความสัมพันธ์ของเขาและชานยอล แต่เพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่จำความได้กลับต้องมาคอยเจ็บปวดเพราะความขี้ขลาดของเขาเองที่ไม่กล้าเลือกทางเดินที่แน่ชัดจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต แบคฮยอนไม่ใช่คนดี แบคฮยอนรู้...แบคฮยอนขี้กลัว แบคฮยอนรู้...แบคฮยอนเห็นแก่ตัว แบคฮยอนเองก็รู้...แต่จะทุกอย่างมันกลับผิดพลาดที่คนสนิทอย่างชานยอลต้องตายด้วยน้ำมือของเขาเอง

     

              แค่นี้ก็เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว คิดว่าแบคฮยอนจะไม่เกลียดตัวเองหรือไง?

     

               

     

                วันนี้ทั้งวันแบคฮยอนไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ แบคฮยอนใช้เวลาไปกับการทำความสะอาดบ้านพักตากอากาศแห่งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะแบคฮยอนคิดว่าคงต้องให้แม่ขายบ้านหลังนี้ทิ้งไปเสียดีกว่า แบคฮยอนจะได้ลืมเรื่องราวทั้งหมดไป แบคฮยอนคิดว่า...เขาคงจะไม่กลับมาเหยียบที่เกาหลีอีกแล้วล่ะ

                เสียงนาฬิกาจากโทรศัพท์แจ้งเตือนว่าได้เวลาที่เขาต้องออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังสนามบินแล้ว แบคฮยอนกดหยุดการแจ้งเตือน มองไปรอบๆ ห้องนอนที่เขาเคยคิดว่ามันอบอุ่นที่สุด

                “ลาก่อนนะ ทุกสิ่งทุกอย่าง...”

                มือเรียวจับหูหิ้วของกระเป๋าเดินทาง พลางถอนหายใจเป็นครั้งสุดท้ายให้กับอดีตที่ตั้งใจไว้ว่าจะทิ้งมันไว้ที่นี่แล้วเริ่มต้นใหม่

     

                แกร๊ก~ ทันทีประตูบานใหญ่เปิดออก สิ่งที่พบเจออยู่หลังประตูทำเอาแบคฮยอนเบิกตากว้างก้าวถอยหลังอย่างตื่นกลัว

                “พะ พี่คริส!

                “สวัสดีเด็กน้อย~” ผู้ชายที่แบคฮยอนเกลียดแสนเกลียดและเป็นคนที่ทำให้ทุกอย่างในชีวิตของแบคฮยอนพังไม่เป็นท่ากำลังยืนแสยะยิ้มร้ายอย่างซาตานอยู่ตรงหน้า

                “หืม...จะไปไหนล่ะ แพ็คกระเป๋าซะเรียบร้อยเชียว”

                “อย่าเข้ามานะ!” ถอยหลังจนล้มลงบนเตียงนุ่ม แบคฮยอนลุกขึ้นหวังจะวิ่งหนี แต่กลับถูกคนตัวใหญ่ขวางทางและจับเหวี่ยงขึ้นไปบนเตียงเช่นเคย คริสไม่ปล่อยให้แบคฮยอนได้มีเวลาหาทางหนี เขาโถมตัวเข้าใส่ร่างเล็กและก้มลงซุกไซ้อย่างหื่นกระหาย

                แบคฮยอนตกใจ พยายามดีดดิ้นขอร้องคนใจร้ายที่จะสร้างรอยแผลในใจของเขาอีกครั้งให้ปล่อยเขาไปจนเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนถูกฉีกออกหยดน้ำใสๆ ที่ไหลมาตลอดหลายวันนี้ไหลออกมาอีกครั้ง แบคฮยอนแน่นิ่งไปจนคริสสงสัย ผละออกมามองใบหน้าน่ารักที่เขาหลงใหลอย่างใครรู้ แบคฮยอนกำลังร้องไห้โดยกลั้นเสียงสะอื้นไห้ไว้

                “ได้โปรด...ฮึก”

                “...”

                “ปล่อยผมไปเถอะ...ฮึก...ให้ผมได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะนะ” พยายามเบิกตามองคนที่คร่อมกายตนอยู่ต่อสู้กับหยาดน้ำตาที่คลอเต็มนัยน์ตาสวย คริสชะงักไปเล็กน้อย เกือบจะใจอ่อนให้กับท่าทีที่น่าสงสาร แต่คำพูดจากจิตใจด้านมืดก็ครอบงำความชั่วดีที่เขาไม่เคยมีจนหมด

                “งั้นถือว่าให้ฉันก่อนไปได้ไหมล่ะเด็กน้อย?” ว่าแล้วก็ก้มลงไปดูดดุนลำคอขาวของคนตัวเล็กตามใจอยาก แบคฮยอนแน่นิ่งราวกับคนไม่มีชีวิต ร่างบางรู้สึกเสียใจและผิดหวังกับคำตอบที่ได้รับ

     

                แล้วทำไมเขาต้องยอมให้กับคนเลวๆ อย่างคริสที่ทำลายชีวิตเขาด้วยล่ะ?

     

                “อ๊าก!” มือเรียวตวัดของมีคมปาดต้นแขนแกร่งจนคริสร้องลั่น แบคฮยอนผลักคริสให้นอนหงายแล้วส่งตัวเองขึ้นคร่อม มีดสั้นที่เขาแอบสอดเอาไว้ใต้หมอนหลังจากเหตุการณ์ที่คริสบุกเข้ามาปล้ำเขาในคืนนั้นยังคงอยู่ และไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ใช้จริงๆ

                “ผมจะไม่ยอมพี่อีกต่อไปแล้ว” ว่าพลางจ่อปลายมีดลงที่คอของคริส

                “ถ้าขยับผมแทงแน่...ถ้าคิดว่าเสี่ยงแย่งมีดไปได้ ผมไม่รับประกันนะว่ามีดจะปักโดนพี่ส่วนไหนอีก” แบคฮยอนไม่เพียงขมขู่ แต่เขากดย้ำปลายแหลมลงไปเพื่อเตือนให้คริสรู้ว่าไม่ควรขัดคำสั่งเขา เพราะสายตาแข็งกร้าวเป็นตัวบ่งบอกได้อย่างดีว่าคนตัวเล็กไม่พูดเล่นแน่ๆ

                “แบคฮยอนใจเย็นๆ...พี่...”

                “หุบปาก!

                “อั่ก!” เบ้หน้าหนีความเจ็บปวดเพราะดูเหมือนยิ่งคริสต่อปากต่อคำกับแบคฮยอน ของแหลมสีเงินก็จะยิ่งกดย้ำลึกมากขึ้น กลิ่นคาวเลือดจากแผลที่แขนของคริสปะทะเข้ากับโสตประสาทของแบคฮยอน คนตัวเล็กเอื้อมมือปลดเน็กไทจากคอของคริสโดยที่ไม่ละสายตาไปไหน

                จับแขนอีกฝ่ายขึ้นผูกกับหัวเตียงด้วยเน็กไททีละข้างโดยใช้มือข้างซ้ายกับฟันของตัวเองในการผูกในณะที่มือขวายังจ่ออยู่ที่เดิมและกดแรงขึ้นทุกครั้งที่ต้องโน้มตัวไปใช้ฟันดึงปลายเน็กไท

     

              นึกขอบคุณคริสเหลือเกินที่ปอดแหกไม่กล้าขัดขืน

              ทั้งๆ ที่ถ้าคริสผลักเขาออกคริสเองก็น่าจะรอด

              แต่เพราะแบคฮยอนมีของอันตรายอยู่ในมือ ความผิดพลาดแม้เพียง 0.01% ก็ปลิดชีวิตได้

     

                “ผมกำลังจะไปจากเกาหลี ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่พี่กลับทำให้มันพัง!” แบคฮยอนตวาดลั่นหลังจากที่ลุกขึ้นยืนจ้องหน้าคริสอยู่จากปลายเตียง

                “ผมเกลียดพี่ที่สุด เกลียด! เกลียดจนไม่อยากหายใจร่วมโลกเดียวกับพี่!

                “...”      

                “พี่ทำให้ชีวิตผมต้องเจอกับความเจ็บช้ำ! พี่เข้ามาในชีวิตผมทำไม! พี่ทำลายความสุขของผมเพื่ออะไร!

                “...”

                “ผม...ฮึก...ผมกำลังจะหนี พี่ตามมาทำไม...ฮึก...”

                “...”

                “บะ แบคฮยอน...”

                “ผมอยากจะฆ่าพี่!” ประกาศกร้าวโดยที่ใบหน้าเนียนใสเปราะเปื้อนน้ำตาของความเจ็บปวดเต็มไปหมด แบคฮยอนปรี่ขึ้นเตียงนั่งคร่อมคริสอีกแล้ว ใช้สองมือจับดามมีด บีบแน่นจนมือเล็กสั่นไปหมด คริสดิ้นและตะโกนร้องขอชีวิตไม่เหลือคราบซาตานที่พรากความสุขของแบคฮยอนไปสักนิด

     

              มีเพียงคริสหมาจนตรอกที่ร้องไห้ขอชีวิตอย่างน่าสมเพช

     

                “อย่า! แบคฮยอนอย่า! ฮือออออ อย่าทำพี่!” แบคฮยอนจ้องมองใบหน้าของรุ่นพี่ที่มีหยดน้ำตาไม่ต่างอะไรจากตัวเขาเอง คนตัวเล็กหลับตาลง ค่อยๆ ลดมือลงอย่างช้าๆ สะอื้นไห้ให้กับการตัดสินใจของตนเอง

     

              แบคฮยอนเลือกที่จะลดมือลงแล้วปล่อยมีดลงกับพื้นข้างเตียง

     

                “ขอบคุณพระเจ้า...” เป็นคริสเองที่เปล่งเสียงออกมาอย่างอ่อนแรงราวกับคนไม่ได้สติ เขาสูดหายใจแรงๆ เพื่อย้ำว่าตนเองยังมีลมหายใจ แบคฮยอนฟุบลงร้องไห้ที่หน้าอกของคริสอย่างอ่อนแรง ความหวาดกลัวกระตุ้นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในจิตใต้สำนึกว่าเขาไม่ควรทำ

     

                ...ไม่ควรฆ่าใครอีก แค่ชานยอลคนเดียวเขาก็รู้สึกผิดบาปมากเกินพอแล้ว

     

                “ฮึก...” เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ฉุดให้คนตัวเล็กร้องไห้ตื่นขึ้นจากภวังค์ แบคฮยอนยันตัวขึ้นเช็ดคราบน้ำตาแล้วสบตากับคริสครู่หนึ่ง ขยันตัวลงจากร่างกายของคริส มือเรียวล้วงเข้าไปยังกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมา ฉับพลันที่มองเห็นชื่อคนโทรเข้าก็ทเอาคิ้วเรียวขมวดชนกันอย่างแปลกใจ

     

              Voice call…

              ‘Luhan’

     

                แบคฮยอนถือวิสาสะกดรับสายและเปิดลำโพงทันที

                [เป็นไงคริส ทางนั้นเรียบร้อยไหม?] ใบหน้าเรียวเงยหน้าขึ้นแล้วยื่นโทรศัพท์เข้าไปใกล้ๆ เจ้าของเครื่องเพื่อเป็นเชิงบอกให้รู้ว่าคริสควรตอบกลับไป

                “อะ อืม..เรียบร้อยดี”

                [ดีมาก จัดการให้มันอับอายไม่กล้าแบกหน้ากลับมาหาเซฮุนอีกเลยนะ ถึงจะมีข่าวมาว่าแบคฮยอนลาออกไปแล้ว แต่เพื่อความชัวร์ต้องกันไว้ก่อน นายจะอัดคลิปแบล็คเมล์มันเหมือนคราวที่แล้วก็ได้ หรือจะเอามันไปนอนกกที่ไหนก็เชิญ เพราะฉันได้เซฮุนมาแล้ว ส่วนนายก็ได้มันสมใจ แต่ขออย่างเดียว อย่าให้มันโผล่หน้ามาอีก]

                “...”

                [หรือฆ่ามันปิดปากดีล่ะคริส?]

                “ละ ลู่หาน...” คริสเริ่มหน้าซีดและเสียงสั่นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อลู่หานดันโทรเข้ามาพร้อมกับพูดแผนการทั้งหมดออกมาโดยไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร

                [ทำไมคริส? นายไม่กล้าเหรอ? ส่งคนไปรุมโทรมมันไหมล่ะ เดี๋ยวก็หน้าบางฆ่าตัวตายเองนั่นแหละ]

                “...” คริสหลับตาแน่นไม่กล้าสบตากับคนที่ถูกปลายสายพูดถึงอยู่ เขากลัวแบคฮยอนจะเปลี่ยนใจหยิบมีดมาจ้วงแทงเขาจนตาย คริสเลือกที่จะภาวนาอยู่ในใจขอให้เขารอดซ้ำไปซ้ำมา

                [งั้นก็เรื่องของนายแล้วกัน แค่นี้นะ]

     

                ติ้ด~ เพียงปลายสายตัดไปหยดน้ำตาที่ยังไม่แห้งหายดีก็กลับมาอีกรอบ แบคฮยอนทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง ชันเข่าซุกใบหน้าลงแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่อายใคร

                คริสลืมตาขึ้นแล้วมองดูคนที่นั่งร้องไห้ตัวสั่นอยู่ข้างเตียง เพียงเพราะความสนุกของเขาแท้ๆ ต้องทำลายชีวิตคนๆ หนึ่งไป ขนาดเขาเองที่โดนมีดบาดแขนเพียงเล็กน้อยจากแบคฮยอน เขายังรู้สึกเจ็บและแสบจนแทบทนไม่ไหว แล้วแบคฮยอนที่ต้องเสียคนรักและความสุขไป ซ้ำยังต้องมาได้ยินคำพูดร้ายๆ ของอีกฝ่ายด้วยตัวเองอีก...เจ็บข้างในมันเจียนตายยิ่งกว่าแผลภายนอกเสียอีก

                “แบคฮยอน...พี่ขอโทษ”

                “ฮึก...” คริสได้แต่ปล่อยให้แบคฮยอนร้องไห้จนกว่าเจ้าตัวจะพอใจ เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะปลอบใจใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเขาเองเป็นคนสร้างรอยแผลในชีวิตของแบคฮยอนเองกับมือ

                “แบคฮยอน...” คริสพยายามส่งเสียงเรียกแบคฮยอนให้มีสติ แบคฮยอนเงยหน้าขึ้น ทอดสายตามองคนใจร้ายบนเตียงอย่างตัดพ้อ

                “...ผมเกลียดพี่จริงๆ นะ...” มีเพียงประโยคเบาบางที่เอื้อนเอ่ยออกจากปากคนตัวเล็ก แบคฮยอนหยิบโทรศัพท์คริสมาพิมพ์ข้อความบางอย่างอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองคริสที่ยังคงถูกมัดอยู่ที่เดิมแม้แต่น้อย

     

              ข้อความออก 1 ข้อความ

              To ‘Luhan’

              มีปัญหาเรื่องแบคฮยอนกะทันหัน รีบมาที่บ้านพักแบคฮยอนด่วน!

     

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    น้องหมาขอเห่า!~ : ปุ้งงงงง ตอนหน้าตอนจบแล้วนะคะ ;_;

    แล้วก็มีสเปฯอีกสองตอน คิดว่าจะลงให้หมดก่อนรวมเล่มดีกว่าเนอะ

    หายไปนานขอโทษด้วยค่ะ มันเค้นยากมากจริงๆ ต้องบิ้วอารมณ์ตลอด ฮืออออออ

     

    เรื่องรวมเล่มตอนนี้ถ้ามีคนจองถึง 10 เล่มก็จะอยู่ที่ 230 บาทไม่รวมค่าจัดส่งค่ะ

    ถ้ามีคนสนใจถึงนะ...แต่ถ้าไม่ถึงก็พับโครงการเก็บไป 555555555

     

    Ps.เป็นไปตามสัญญา ไม่มีใครตายแล้วเน้อ อิอิ

    #ficcruel

     

    G Minor!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×