คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : Special Part : KaiDo
Special Part
KaiDo
เสียงกุกกักดังออกมาเบาๆ จากภายในห้องครัวสีสวยของบ้านหลังใหญ่ ร่างบางของคนที่ได้ชื่อว่า ‘คนรับใช้ส่วนตัว’ กำลังทำอาหารเช้าให้เจ้านายผิวเข้มอย่างขะมักเขม้น นิ้วเรียวสวยบรรจงจัดวางไส้กรอก แฮม ไข่ดาว และราดซอสมะเขือเทศอย่างเบามือ ใบหน้าหวานอมยิ้มเล็กน้อยกับฝีมือของตัวเองก่อนจะผละตัวไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดนมสดที่เรียงรายอยู่ในตู้มาหนึ่งขวด
“คุณจงอินจะเป็นอะไรรึเปล่านะ?” บ่นกับตัวเองคนเดียว เพราะในใจกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อวาน จงอินกำลังพาคยองซูไปเดินเที่ยวเล่นตามประสาเจ้านายพาลูกน้องไปพักผ่อน แต่จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามา หลังจากที่รับสายพูดคุยได้สักพักจงอินก็มีใบหน้าเคร่งเครียดแล้วพาคยองซูกลับบ้านทันที
คนตัวเล็กที่มีนิสัยขี้กลัว ขี้เกรงใจอยู่แล้วก็ยิ่งไม่กล้าถามว่าเจ้านายของเขาเป็นอะไรไป ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้จนถึงรุ่งเช้า
เสียงฝีเท้าหยุดลงที่หน้าห้องหนึ่งที่มีชื่อแปะไว้ว่า ‘คิมจงอิน’ คยองซูไม่รอช้าเคาะประตูสามครั้งเป็นสัญญาณก่อนจะหมุนลูกบิดประตูเข้าไป
“อย่าเข้ามา!”
“เฮือก!!!” เสียงตะคอกจากด้านในทำให้คนตัวเล็กตกใจจนตัวสั่น ข้อมือบางที่จับอยู่ที่ลูกบิดค่อยๆ ปล่อยมือออกอย่างช้าๆ...ผมไม่เคยถูกคุณจงอินตะคอกแบบนี้...
คนตัวเล็กที่ไม่เคยโดนดุถึงกับทำตัวไม่ถูก ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความกลัวก่อนจะเอ่ยคำถามออกไปอย่างยากลำบาก
“ผม ผมจะเอาอาหารเช้าไปให้...คะ คุณจงอินจะให้ผมเอาไปวาง ทะ ที่ไหนดีครับ” สิ้นประโยคก็กัดปากล่างของตัวเองแล้วรอลุ้นคำตอบ เจ้านายของเขาจะตอบกลับมาหรือเปล่านะ?
“เอาวางไว้ที่ห้องครัวเดี๋ยวฉันลงไปกิน” ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้รับคำตอบ น้ำเสียงของเจ้านายตัวเองฟังดูจะอ่อนโยนลงไม่ใช่น้อย แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกสบายใจเท่าไรนัก
คยองซูนั่งรอจงอินลงมาทานอาหารเช้าเพื่อหวังจะถามไถ่เรื่องที่ทำให้เจ้าดูเหมือนจะไม่สบายใจ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีทีท่าว่าคนตัวสูงจะลงมาสักนิด ร่างบางนั่งรอจากห้านาทีกลายเป็นสิบนาที จากสิบนาทีกลายเป็นครึ่งชั่วโมง จากครึ่งชั่วโมงกลายเป็นครึ่งค่อนวัน...
เวลาเกือบสี่โมงเย็นเจ้านายตัวดีถึงได้เดินลงมายังโต๊ะอาหาร ทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้องครัวก็พบกับคนตัวเล็กที่นั่งฟุบหน้ากับโต๊ะอาหารรออยู่
รอตั้งแต่เช้าเลยหรือเปล่านะ?
ร่างสูงได้แต่คิดแต่ก็ไม่พูดอะไร ขายาวค่อยๆ ก้าวเข้าไปแล้วนั่งลงกับเก้าอี้เบาๆ เพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กต้องตื่น มองดูก็รู้ว่าคนรับใช้ส่วนตัวคนนี้เหนื่อยและเพลียมากแค่ไหน
“คะ คุณจงอิน!” หย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ไม่ทันไรคนตัวเล็กก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา
“ฉันเสียงดังเหรอ...ขอโทษที่ทำให้ตื่นนะ”
“คะ คุณจงอิน...นี่สี่โมงแล้วทำไมเพิ่งลงมาเหรอครับ”
“ทำธุระอยู่...” คนตัวเล็กพยักหน้าอย่างเข้าใจ สายตาเหลือบมองไปเห็นถาดอาหารที่วางอยู่ตรงหน้าคนตัวสูง
“อาหารคงเย็นหมดแล้ว รอผมอุ่นให้ใหม่ก่อนนะครับ” พูดพลางลุกขึ้นยกถาดอาหารออก จงอินมองมองร่างบางที่รีบร้อนอุ่นอาหารให้เขาแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้...ถ้าไม่มีเขาแล้วคยองซูจะอยู่บ้านคนเดียวได้ไหมนะ?
“อ๊ะ...” เสียงหวานร้องสะดุ้งด้วยความตกใจ ท่อนแขนของใครบางคนสวมกอดเอวบางเอาไว้จากทางด้านหลัง กลิ่นกายหอมๆ และใบหน้าคมที่พาดที่ไหล่บางแทบทำให้คนตัวเล็กทรงตัวไม่อยู่...หัวใจเต้นแรงจนจะทะลุออกมาดิ้นพราดๆ อยู่แล้วนะ T^T
“คะ คุณจงอินปล่อยก่อนครับ...ผมอุ่นอาหารให้อยู่นะ”
“นั่งรอฉันตั้งแต่เช้าหรือเปล่า?”
“อะ เอ่อ...”
“ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม?”
“คะ คือว่า...”
“งั้นไม่ต้องอุ่นแล้วออกไปข้างนอกกัน”
“ห้ะ!...”
“ไม่กินเหรอ?”
“เอ่อ...คือผมกินไม่เป็นน่ะฮะ”
“หื้ม?...ชานยอลไม่เคยพานายมากินอะไรแบบนี้เหรอ?”
“ปกติคุณชานยอลก็ไม่ค่อยทานข้าวนอกบ้านครับ”
“งั้นเหรอ...ไม่เป็นไรเหรอ แค่ตักเข้าปากแล้วเคี้ยวๆ จะไปยากอะไร” คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ แล้วพยายามหั่นชิ้นเนื้อหมูในจานอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะทำอะไรน่าอายต่อหน้าเจ้านายคนนี้
“อิ่มแล้วเหรอ?” ถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นคนตรงหน้ากินสเต็กหมูไปแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น สเต็กหมูเพียงชิ้นเดียวจะหั่นกินได้กี่คำเชียว แล้วไม่ได้กินอะไรแต่เช้าขนาดนั้นจะไม่หิวได้ไง
“ครับ...” จงอินส่ายหน้ากับคำพูดของคนตัวเล็ก แล้วหันไปตักอาหารหลายอย่างใส่จานให้คยองซูอย่างถือวิสาสะ
“กินให้หมด ถ้าไม่หมดฉันจะโกรธ” คยองซูได้แต่เงยหน้ามองแล้วไม่พูดอะไร เขารู้ว่าจงอินรู้ว่าเขายังไม่อิ่ม ก็แหงล่ะ...ไม่ได้กินอะไรแต่เช้าขนาดนั้น
“ขอบคุณนะครับ”
ต่างฝ่ายต่างนั่งทานอาหารเงียบๆ โดยไม่มีใครคิดจะพูดอะไร คนตัวสูงยังคงตักอาหารให้คนตัวเล็กสม่ำเสมอ แต่เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากเพราะทุกอย่างที่เขาตักมาล้วนเป็นแต่อาหารที่คนตัวเล็กแอบรู้สึกว่าอยากจะกินทั้งนั้น
เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงบนโต๊ะอาหาร ทั้งสองก็วางช้อนส้อมรอของหวานมาเสิร์ฟ คยองซูมองเห็นทีท่าของคนตรงข้ามแปลกๆ ไป เหมือนเขาจะมีอะไรบางอย่างในใจ...หรือจะเป็นเรื่องเมื่อวาน?...
“คุณจงอิน...มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ”
“...”
“ขอโทษที่ยุ่งเรื่องส่วนตัวนะฮะ” เมื่อเห็นคนตรงหน้าเงียบไปก็เอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับรู้สึกผิดที่ถามอะไรก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย
“นาย...อยู่กับฉันที่บ้านชานยอลแค่สองคนมาหลายวันแล้ว...อึดอัดบ้างหรือเปล่า” ส่ายหน้ารัวอย่างไม่ปิดบัง ดีเสียอีกที่มีคนตัวสูงอยู่ด้วย ถ้าหากไม่มีเขาคงจะเหงาหน้าดู บ้านหลังใหญ่ที่มีคนอยู่เพียงแค่คนเดียว...
“ถ้าไม่มีคุณจงอินผมคงเหงามากแน่ๆ เลยครับ”
“งั้นเหรอ”
“ครับ...ตั้งแต่คุณจงอินมาผมก็ได้ไปเที่ยว ไปเปิดหูเปิดตา ปกติแล้วผมไม่ค่อยไปไหนเหรอนอกจากไปมหาลัยแล้วก็ทำงานในสวน นานๆ ทีจะออกไปเที่ยวกับแบคฮยอนบ้างแต่ก็เที่ยวไกลสุดแค่ร้านอาหารระแวกมหาลัยเองครับ”
“...”
“แล้วตอนนี้คุณชานยอลกับแบคฮยอนก็ย้ายไปไม่อยู่แล้ว...ถ้า...ถ้าคุณจงอินจะไม่อยู่อีกคนผมคงต้องเหงามากแน่ๆ เลยครับ”
“...”
“...”
“แล้ว...ถ้าฉันไม่อยู่ขึ้นมาจริงๆ นายจะทำยังไง?”
“คุณจงอิน...” ฝ่ามือเล็กเอื้อมไปจงมือของคนตรงหน้าแล้วบีบเบาๆ
“คุณจงอิน...จะไปไหนครับ”
“ฉัน...จะกลับอเมริกาอาทิตย์หน้า...” แรงบีบที่ฝ่ามือหายไปทันทีที่พูดจบ ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจพร้อมกับดึงมือของตนเองกลับ
“จะ จริงเหรอครับ”
“อืม...” บทสนทนาของทั้งคู่จบลงเมื่อบริกรหนุ่มยกของหวานมาเสิร์ฟ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมื้อเย็นนี้ดูจะหม่นหมองลงทันที จากตอนแรกที่ดูเงียบ ตอนนี้ยิ่งกว่าเงียบเสียอีก...แถมยังมีบรรยากาศอึดอัดแทรกเข้ามาด้วยซ้ำ
ขนมหวานไม่เห็นจะอร่อยเลย
หลังจากทานอาหารเสร็จจงอินเลือกที่จะพาคยองซูไปเดินเที่ยวต่ออีกหน่อย...แม้มันจะดูกร่อยๆ ก็ตามที
“ไม่สนุกเหรอมาเที่ยวกับฉัน”
“ปละ เปล่าครับ”
“แล้วทำไมถึงเงียบไป”
“...ผมแค่...ใจหาย”
“หื้ม?”
“ถ้าไม่มีคุณจงอินแล้วผมก็ต้องอยู่คนเดียวสินะ...คงจะเหงามากเลย”
“...”
“แต่จริงๆ แล้วผมก็น่าจะอยู่ได้แหละ ก็แต่ก่อนคุณชานยอลเคยไปค้างบ้านเพื่อนเป็นอาทิตย์ผมยังอยู่คนเดียวได้เลย...”
“...”
“แต่แค่...”
“...”
“แค่คราวนี้ผม...อาจจะต้องทนอยู่คนเดียวไปนานหน่อย”
“...”
“อยู่ตัวคนเดียว...ไม่ลำบากมากเท่าไรเหรอมั้ง”
“ถ้าไม่มีฉันนายอยู่ได้ใช่ไหม?”
“อ่า...คุณจงอินถามแปลกๆ ก่อนหน้านี้ผมก็อยู่โดยไม่มีคุณจงอินนี่ครับ”
“เหรอ...”
“...”
“แต่ฉันอยู่ไม่ได้นะถ้าไม่มีนาย”
“!”
“นาย...ไปอยู่กับฉันไหมที่อเมริกา”
“อะ อะไรนะครับ!”
“ไปอยู่กับฉัน...”
“อะ เอ่อ...”
“ให้เวลานายตัดสินใจนะ อาทิตย์หน้าฉันก็จะไปแล้ว...ถ้านายไม่รังเกียจ...ถือซะว่าไปเที่ยวต่างประเทศเล่นๆ ก็ได้นะ”
@สนามบินอินชอน
“เฮ้ยไอ้จงอินแกไม่คิดจะรอฉันหรือไงวะ!”
“เครื่องจะออกแล้วฉันต้องรีบขึ้นเครื่อง”
“งั้นก็ไม่ต้องไป อยู่ที่นี่อีกสักวันเซ่!”
“ไร้สาระน่ะ แค่นี้นะฉันต้องรีบไปแล้ว”
“เดี๋ยว เดี๋ยวไอ้จงอิน เดี๋ยววววววววว!”
ติ๊ด... ร่างสูงกดวางสายทันทีที่พูดจบ เขาส่ายหน้าสองสามทีอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะปาร์คชานยอลเพื่อนตัวดีของเขาดันมาช้าเสียจนเลยเวลามากแล้ว เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องยังคงดังก้องซ้ำไปซ้ำมา ชายหนุ่มหันไปโบกมือลาเพื่อนสนิทอีกสองคนอย่างลู่หานและเซฮุน
“ไปแล้วนะ...บาย”
“อื้อ! อยู่ที่นู่นดูแลตัวเองดีๆ นะจงอิน”
“โชคดีนะเพื่อน...ว่างๆ ก็กลับมาเที่ยวอีก”
“อืม...” คนตัวสูงโบกมือลาเพื่อนตัวเองอีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังแล้วเดินเข้าเกทไปอย่างเร่งรีบ...คนเดียว...
“เฮ้อ...” ใบหน้าคมถอนหายใจเฮือกใหญ่ อาจจะแอบเสียใจอยู่บ้างที่ตั้งแต่วันนั้นเขากับคยองซูก็แทบไม่ได้พูดคุยกันอีกเลย คนตัวเล็กเพียงแค่เอาอาหารมาให้ในตอนเช้าแล้วออกไปมหาลัยด้วยตัวเอง พอตกเย็นก็ขลุกอยู่แต่ในห้องแล้วบอกเขาเสมอว่า ‘งานเยอะมากจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย...ขอโทษด้วยนะครับ’
นั่นสิเนอะ...คยองซูกำลังจะจบเป็นนิสิตแล้ว คงจะไม่ค่อยมีเวลา นี่เขากล้าหน้าด้านไปนะที่ไปเอ่ยปากชวนคนตัวเล็กให้มาอเมริกาด้วย...คยองซูคงจะงานหนักมากจริงๆ...หนักมาก...แม้กระทั่งมาส่งเขาที่สนามบินก็ยังมาไม่ได้
โดคยองซูใจร้าย
ร่างสูงเก็บสัมภาระเข้าที่แล้วเอนตัวลงนอนกับเบาะทันที ความเหนื่อยล้าในใจทำให้ร่างกายอ่อนแรงไปด้วย คิมจงอินถอดแว่นกันแดดราคาแพงออกก่อนจะหลับตาพริ้มเพื่อข่มใจ เขาไม่อยากคิดอะไรให้หัวใจตัวเองรู้สึกเหมือนโดนบีบเล่นๆ อีกแล้ว
“แฮ่ก...แฮ่ก...” จงอินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงหอบหายใจของใครบางคน...คงจะเป็นคนที่นั่งข้างๆ...
“จะ ใจร้าย...” ห้ะ! คิ้วหนาขมวดชนกันหนักกว่าเก่าหลังจากได้ยินเสียงของบุคคลนิรนามที่นั่งลงแรงๆ ข้างเขา...
“คะ คุณจงอินใจร้าย!” ฉับพลันที่ได้ยินเสียงคนข้างๆ แบบชัดๆ และรูปแบบประโยคที่แสนคุ้นเคยนั้น เจ้าของใบหน้าคมก็ถลึงตาขึ้นมองคนข้างๆ ด้วยความตกใจ...โดคยองซู...
“ผมโกรธคุณจงอินแล้ว! ไหนบอกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีผมไง”
“...”
“แล้วนี่อะไร! ออกมาจากบ้านแต่เช้าไม่ปลุกผมเลย”
“...”
“ดีนะที่แบคฮยอนโทรมาปลุกไม่งั้นผมมาไม่ทันคุณจงอินแน่!”
“นะ นาย...”
“อะไร!”
“โดคยองซู...ตัวจริงใช่ไหม”
แป๊ะ! คนตัวสูงสะดุ้งเฮือกด้วยความเจ็บแปล็บที่แล่นเข้ามาบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว...คยองซูตบหน้าจงอิน...เบาๆ...แต่ก็แสบหน้าอยู่ดี!
“คิดว่าฝันอยู่ไหมฮะ...”
“จะ เจ็บ...”
“ก็เจ็บสิ! ไม่เจ็บผมจะตีคุณจงอินทำไมกัน! รู้ไหมว่าผมเหนื่อยมากเลยนะกว่าจะทำเรื่องขอจบก่อนนักศึกษาคนอื่นได้ ผมต้องวิ่งวุ่นขอทำงานของอาจารย์แต่ละท่านล่วงหน้า ไหนจะต้องอ่านหนังสือสอบด้วยตัวเองอีก กว่าจะทำเรื่องขอพาสปอร์ตขอนั่นขอนี่ มันเหนื่อยมากเลยนะ! แล้วผมแค่เพลียหลับตื่นขึ้นมาคุณจงอินก็ออกจากบ้านไปแล้ว ทำแบบนี้ทำไมครับ!”
“...”
“คุณจงอินตอบสิฮะ!”
“...”
“คุณจงอิ...อุ๊บ!” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วที่แสดงความหงุดหงิดหายเงียบไปทันทีเมื่อถูกริมฝีปากหน้าของคนข้างๆ ฉกชิงความหอมหวานออกไป เรียวลิ้นหนาโลมเลียไปทั่วโพรงปากหวานแล้วดูดเม้มอย่างโหยหาแสดงความต้องการอย่างถึงที่สุด...
จูบแรกของโดคยองซูเป็นของคิมจงอินแล้ว...
“ว้ายตาเถร!” ยังไม่ทันได้ละเมียดละไมลิ้มรสจูบแสนหวานได้เต็มความต้องการร่างทั้งสองก็ต้องผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว
“ขะ ขอ ขอโทษนะคะ...ตะ แต่ว่า...ห้องน้ำอยู่ด้างซ้ายของท้ายเครื่องนะคะ” แอร์โอสเตสสาวคนสวยเอ่ยอย่างตะกุกตะกักก่อนจะรีบเดินหนีไปเพราะความเขินอาย...แต่คนตัวเล็กข้างๆ จงอินก็ใช่ย่อย...หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศซะแล้ว
“คุณจงอินบ้า!”
“ติดใจเหรอ?”
“ตะ ติดอะไรล่ะครับ!...นั่นมัน...”
“นั่นมันอะไร?”
“อ๊ะ!...คุณจงอินถอยไปนะ” ร่างเล็กออกแรงดันหน้าอกคนเจ้าเล่ห์ที่ตอนนี้มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุขแอบเอื้อมมากอดรัดเอวบางเอาไว้อย่างไม่ทันตั้งตัว
“ตอบมาก่อนสินั่นมันอะไร?”
“นั่นมัน...จะ...จูบแรกของผม” ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาใบหน้าแดงซ่านด้วยความเขินอาย...คยองซูไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าตลอดเวลาจงอินจีบเขาอยู่ เพียงแต่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตอบกลับยังไง
บางทีคยองซูก็คิดว่าเขาไม่ได้ชอบคนตัวสูงเลย อาการใจเต้นที่มักจะมีเวลาอยู่ใกล้กันไม่เคยทำให้คยองซูเชื่อใจตัวเองสักนิด ร่างบางคิดว่ามันเป็นแค่ความรู้สึกชั่ววูบเท่านั้น เพราะคยองซูไม่เคยชิดใกล้กับใครมาก่อน
หากแต่เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนจงอินบอกเขาว่าจะกลับอเมริกา หัวใจดวงน้อยที่มักจะพองโตเมื่อได้เข้าใกล้หรือสบตากับเจ้านายสุดหล่อคนนี้กลับบีบจนรู้สึกจุก
คยองซูอยู่ไม่ได้เหมือนกันถ้าไม่มีจงอิน
“ผมนอนที่ไหนเหรอครับคุณจงอิน” คนตัวเล็กวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงใจกลางห้องแล้วเอ่ยถามเจ้าของห้องอย่างไร้เดียงสา...
อ้อยเข้าปากช้างแล้วยังไม่รู้ตัวอีก
“อ๊ะ!” คนตัวเล็กร้องเสียงหลงทันทีเมื่อจู่ๆ เจ้านายตัวดีก็พุ่งเข้ามากอดเขาจากด้านหลัง...ซ้ำยังขโมยหอมแก้มคนตัวเล็กซะฟอดใหญ่ ร่างบางที่ถึงแม้ว่าจะเคยโดนคนตัวสูงฉกฉวยโอกาสแบบนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่จะทำใจให้ชินยังไงก็ไม่ได้สักที...โดยเฉพาะโดนฉวยโอกาสในสถานที่ที่ไม่มีใครช่วยเขาได้ด้วยเนี่ยสิ
“คุณจงอินจะทำอะไรปล่อยผมนะครับ”
“ทำในสิ่งที่อยากทำไง...”
“อยะ อย่านะครับ งื้อ! ผมไม่ได้มาถึงอเมริกาเพื่อให้คุณจงอินทำอะไรแบบนี้นะ”
“นายรู้ใช่ไหมว่าฉันคิดยังไงกับนาย”
“เอ่อ...คิดแบบไหนครับ”
“ฉันชอบนาย”
“...”
“ว่าไง...รู้ใช่ไหม?”
“...” คนตัวเล็กเม้มปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ใจจริงเขาก็อยากจะตอบออกไปให้รู้แล้วรู้รอดว่า ‘รู้’ แต่มาคิดไปคิดมา...ถ้าเกิดตอบออกไปเลยคิมจงอินจะหาว่าเขาหลงตัวเองหรือเปล่า?
“ตอบสิ...”
“คือว่า...ผม...ไม่แน่ใจ”
“ฉันแสดงออกอย่างนี้แล้วยังไม่รู้อีกเหรอ?”
“อ่า...คุณจงอิน...ชอบผมจริงๆ เหรอครับ...ชอบคนใช้อย่างผมจริงๆ เหรอครับ?”
“นายไม่ใช่คนรับใช้คยองซู...แต่นายคือเจ้าของหัวใจของฉัน” ว่าพลางจับฝ่ามือนุ่มของคนตัวเล็กขึ้นมาจุมพิตเบาๆ แล้วจ้องหน้าอย่างจริงใจ
“เสี่ยวชะมัดเลย”
“หื้ม?” ร่างสูงเลิกตาขึ้นเล็กน้อยเพราะรู้สึกว่าประโยคเมื่อครู่ที่ได้ยินไม่ชัดนั้นเหมือนจะทีอะไรแปลกๆ...
“ปละ เปล่าครับ...”
“คยองซู...” วงแขนแกร่งของเจ้านายสุดหล่อเลื่อนไปกอดเอวบางมาแนบชิดติดอกแล้วก้มหน้าคลอเคลียซอกคอขาวอยากอดใจไม่อยู่...ก็คยองซูตัวหอม ตัวนิ่ม น่าฟัดน่ากินตลอดเวลานี่นา...
“...รักฉันบ้างไหม”
“ถ้า...ถ้าไม่รักจะตามมาเหรอครับ”
“ฮะๆ...พูดแบบนี้...ไม่รู้เหรอว่าจะโดนอะไร”
“อะ...อะไรครับ?” ฝ่ามือบางดันอกของคนเจ้าเล่ห์ออกเหมือนรู้ทัน...เขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าคิมจงอินเจ้าเล่ห์มากแค่ไหน...ให้ตายเถอะ...
“ย๊า! คุณจงอินปล่อยน๊าาาา”
-ขอ 20 เม้นจะอัพ ตอนต่อไปของชานแบค (เป็นNCนะคะ ♥)-
ความคิดเห็น