ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ღ Puppy Love รักนะครับเจ้าหมาน้อยจอมดื้อ! {chanbaek} 。

    ลำดับตอนที่ #27 : Puppy Love รักนะครับ เจ้าหมาน้อยจอมดื้อ! : Chapter 22 The end.

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.42K
      16
      20 ม.ค. 56

    Chapter 22

    Chanyeol Part

    ผมยืนถอนหายใจอยู่หน้าห้องแต่งตัวของแบคฮยอนมาสักระยะแล้ว ผมยืนรอคนตัวเล็กจนเมื่อยแต่ก็ยังไม่มีวี่แววจะออกมาสักที

    “แบคฮยอนอีกนานไหม?”

    “...” เงียบ...แบคฮยอนไม่ยอมคุยกับผมตั้งแต่วันนั้น หลังจากที่เขาวิ่งขึ้นห้องไป ผมก็นั่งคุยกับลู่หานต่อแต่พอจะไปนอนกลับพบว่าเสื้อผ้าและของใช้ทุกอย่างที่เป็นของผมถูกเจ้าของห้องกองไว้ที่หน้าประตู ผมพยายามเคาะเรียกแบคฮยอนให้ออกมาคุยแต่เคาะเท่าไรเขาก็ไม่ยอมออกมา สุดท้ายผมก็ต้องย้ายกลับไปที่บ้านตัวเอง

    ผมพยายามคุยกับแบคฮยอนถึงเรื่องวันนั้นแต่ทุกครั้งที่ผมเปิดปากพูดแบคฮยอนจะโกรธและสั่งห้าม ทุกวันนี้ผมกับเขาเราคุยกันแค่เรื่องละครเท่านั้น เวลาสองอาทิตย์หลังจากที่ผมโดนไล่ผมก็ทำทุกวิถีทางแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่ได้คุย จนมาถึงวันนี้วันที่เราต้องแสดงละครเวที

    “นาย...” ผมมองแบคฮยอนที่ยอมแง้มประตูแล้วโผล่หน้าเล็กๆ ออกมาพูดกับผม

    “คือว่า...รูดซิบให้หน่อยดิ” ผมอมยิ้มกับท่าทีเขินอายของเขา แบคฮยอนต้องแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงเพราะเนื้อเรื่องที่รุ่นพี่ปรับเปลี่ยนคือสโนวไวท์ใส่ชุดเกาะอกสวยหรูนอนในโลงแก้ว ตอนนี้เราแสดงละครกันไปจนเกือบจบแล้วล่ะ ใกล้จะถึงตอนที่ผมจะต้องออกไปจูบแบคฮยอนแล้ว แต่ติดตรงที่ว่าสโนวไวท์ของผมมีปัญหาเรื่องชุดอยู่นี่เอง

    ผมเดินเข้าไปในห้องลองชุดของแบคฮยอนแล้วปิดประตู ภายใต้ห้องแต่งตัวแคบๆ ทำให้ผมได้ยืนอยู่ใกล้กับแบคฮยอน กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวแบคฮยอนทำให้ผมแทบคลั่งอยากจะฟัดเล่นให้ตัวช้ำไปเลยแต่ผมก็ต้องห้ามใจไว้เพราะไม่อยากให้เขาเกลียดผมมากไปกว่านี้

    ผมเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่เริ่มหน้าแดงระเรื่อในกระจก แบคฮยอนที่ผิวขาวและมีใบหน้าหวานอยู่แล้ว พอแต่งหน้าใส่วิกแล้วทำให้ผมแทบหยุดหายใจ แบคฮยอนสวยมาก ผมคิดว่าเขาสวยกว่าผู้หญิงที่ผมเคยเจอมาซะอีก

    “จ้องอะไรล่ะ รูดซิบสิ เร็วๆ” ผมละสายตาจากกระจกบานใหญ่แล้วก้มลงรูดซิบให้เขา แผ่นหลังเนียนใสที่ผมเคยสัมผัส...ให้ตายเถอะ ผมอยากจะกระชากชุดราตรีนี่ออกไปเสียจริงๆ เลย

    “อึก...” ผมเงยหน้ามองแบคฮยอนอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงจากคนตัวเล็ก ใบหน้าแบคฮยอนเหยเกเล็กน้อยและสีหน้าของเขาก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยดี

    “เป็นอะไรรึเปล่า?”

    “เปล่าหรอก...มันรัดไปหน่อยน่ะ”

    “อื้อ...”

    “ออกไปได้แล้ว ได้เวลาขึ้นเวทีแล้ว”

    “แบคฮยอนเรา...”

    “ได้เวลาแล้ว” แบคฮยอนผลักผมที่ยืนขวางประตูออกแล้วรีบเดินออกไปทันที ผมถอยหายใจเบาๆ กับสิ่งที่แบคฮยอนทำ แบคฮยอนไม่เคยเปิดใจรับฟังผมบ้างเลย ผมมองตามหลังแบคฮยอนไปแล้วพบว่าเขาเดินไปกับคริส...คนที่เคยจะปล้ำเขานั่นแหล่ะ

    หลังจากวันที่เกิดเรื่องแบคฮยอนก็ยังคงไปไหนมาไหนกับคริสเหมือนเดิมโดยไม่ว่าเรื่องที่โดนล่วงเกินเลยด้วยซ้ำ ผมถามเขาเสมอว่าทำไม แต่คำตอบที่ได้กลับมาก็มีแต่คำว่า เรื่องของฉัน

    สองสามวันมานี้แบคฮยอนมีอาการแปลกๆ เขาเหมือนจะไม่สบายเพราะเขากินอะไรไม่ค่อยได้ กินแล้วก็อ้วก แถมยังมีอาการหน้ามืดบ่อยๆ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะพิษตกค้างที่โดนวางยาคราวก่อนหรือเปล่า ผมเป็นห่วงเขานะ แต่เขาไม่เคยรับความช่วยเหลือจากผมเลยสักครั้ง

    ตอนนี้ผมกำลังแสดงละครฉากจบกับแบคฮยอน ฉากนี้คือผมต้องจูบกับสโนวไวท์หลังจากที่สโนวไวท์ฟื้นแล้วอีกครั้ง และแน่นอนว่าต้องจูบแบบหลบมุมเท่านั้น แบคฮยอนไม่ยอมให้ผมล่วงเกินเขาหรอก แต่ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจผมผมจึงได้ดึงเขามาจูบ...จริงๆ

    เพียะ!~ ท่ามกลางความเงียบ เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังสนั่นไปทั่วโรงละครพร้อมกับร่างบางที่กำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    “นะ นาย! จูบฉันทำไม...” เสียงฮือฮาดังลั่นโรงละครหลังจากแบคฮยอนชี้หน้าผมและถามคำถามน่าแปลกใจนั้นออกมา ผมยิ้มมุมปากให้แบคฮยอนทีนึงก่อนจะตรงเข้าไปกระชากแขนเขาให้เดินมากลางเวที

    “ทุกคนครับ...ผมรักแบคฮยอนครับ”

    “นะ นายพูดบ้าอะไร!” จากที่เสียงดังอยู่แล้วก็เสียงดังเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินประโยคบอกรักของผมออกมา คนถูกบอกรักเองก็ดูเหมือนจะช็อคไม่น้อย

    “ฉันรักนายนะ รักมานานแล้วด้วย รักแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน แต่ที่ต้องพูดเสมอว่าเราเป็นเพื่อนกันเป็นเพราะว่าฉันกลัวว่าถ้านายรับรู้ความจริงนายอาจจะเกลียดฉันก็ได้ นายอาจจะไม่อยากเข้าใกล้ฉัน หรือแม้กระทั้งหนีฉันไป ตอนนี้ฉันไม่ลังเลอะไรอีกแล้ว ฉันอยากจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่านายเป็นของฉัน เป็นของฉันคนเดียว และใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องตัวนายทั้งนั้น...”

    “ชะ ชานยอล...”

    “...ทุกครั้งที่เห็นนายไปไหนมาไหนกับไอ้คริสนั่นฉันก็แทบจะฆ่าตัวตายได้อยู่แล้ว ฉันหวงนาย ฉันหึงนาย นายเข้าใจไหมที่วันนั้นฉันพูดแรงๆ กับนายเป็นเพราะว่าฉันโกรธมากที่เห็นว่านายประชดฉันแล้วออกไปกับหมอนั่น และถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด...นายเองก็รักฉันใช่ไหม...”

    “ฮึก...ทำไมเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้” หยดน้ำใสๆ ไหลลงมาจากหางตาของแบคฮยอน เขาร้องไห้และก้มหน้าลงไม่ยอมสบตากับผม

    “มาบอกรักอะไรกลางโรงละครที่มีคนนับร้อย...ฮึก...มันอายนะรู้ไหม” ผมยิ้มกับคำพูดของเขาแล้วรู้สึกหัวใจพองโต...

    “เป็นแฟนกับฉันนะ...” ผมเอ่ยออกไปพร้อมกับหัวใจที่เริ่มเต้นไม่เป็นส่ำ ทุกคนในโรงละครต่างจับจ้องมาที่เราสองคนตาไม่กระพริบ ราวกับลุ้นไปกับการสารภาพรักครั้งนี้

    “...”

    “นะครับ...เป็นแฟนกันนะ” ผมใช้น้ำเสียงออดอ้อนเพื่อขอให้เขาใจอ่อนแล้วรับรักผมเร็วๆ แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นสบตากับผม ริมฝีปากบางเม้มกันเป็นเส้นตรงบ่งบอกว่าคำถามนี้ตัดสินใจยากไม่ใช่น้อย

    “...ไม่...” แทบหยุดหายใจหลังจากที่ได้รับคำตอบ...หัวใจที่เคยเต้นแรงตอนนี้กลับรู้สึกถูกบีบรัด ผมสบตากับแบคฮยอนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม...ทำไมกัน...

    “ฉันจะไม่เป็นแฟนกับนายชานยอล...”

    “ทะ ทำไม...”

    “เรา...เรา...”

    “...”

    “เรามีความสัมพันธ์เลยคำว่าแฟนกันมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ?”

    !

     

    ปาร์คชานยอลอยากจะกรีดร้อง ไอ้หมาน้อยตัวแสบมันเล่นงานเข้าให้แล้ว!

     

    วี้ดวิ้วววววว~ สิ้นเสียงของคนตัวเล็ก เสียงโห่ร้อง ผิวปากแซวก็ดังขึ้นมายกใหญ่ ผมก้มลงมองคนตัวเล็กที่ยิ้มเขินอย่างเก็บอาการไม่อยู่ ให้ตาย...ทำตัวเองเลยนะตัวเล็ก

    “นายต้องรับผิดชอบ” แบคฮยอนพูดพลางก้มหน้าชิดอกด้วยความขวยเขิน ผมขยับตัวเชยคางใบหน้าหวานให้เงยขึ้นแล้วจุมพิตลงบนริมฝีปากบางถึงจะไม่มีการแลกลิ้น ไม่มีความรุนแรง และไม่มีความอ่อนโยน หากแต่เป็นจูบที่ส่งความหวานถึงหัวใจ เราสองคนมองตากัน สายตาที่ใช่สื่อความหมาย ความหมายของคำว่า รักผมจะไม่ยอมปล่อยเขาให้หลุดมือไปอีกแล้ว ผมจะไม่ยอมเสียแบคฮยอนไป เขา...เป็นของผมคนเดียว

     
     

    ทั้งตัว...

     
     

    ...และหัวใจ


    “ฉันยินดีรับผิดชอบนายไปชั่วชีวิตฉันเลยล่ะ...บยอนแบคฮยอน”

     


     

    “ไม่ไปหาหมอจริงๆ หรอหมาน้อย”

    “ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวโดนฉีดยา”

    “ดื้อจัง...ไม่ยอมไปฉีดยาเดี๋ยวเจอเข็มของชานยอลฉีดเข้าให้หรอก ชานยอลฉีดทั้งคืนเลยนะบอกไว้ก่อน”

    “ชานยอลทะลึ่ง!” แบคฮยอนฟาดฝ่ามือเข้าเต็มๆ ที่หัวไหล่ผม แต่ว่ามันก็ไม่ได้เจ็บเท่าไร ผมหัวเราะคิกคักกับท่าทางเขินเล็กๆ ของแบคฮยอน นับจากวันที่แสดงละครเวทีผมก็ย้ายกลับมาที่บ้านแบคฮยอนอีกครั้ง แต่เข้ามาในฐานะใหม่ ฐานะคู่หมั้นของคุณหนูบยอนเราสองคนคบกันอย่างเปิดเผยท่ามกลางเสียงแซวจากเพื่อนๆ ในมหาลัย โอเค...ช่วงแรกๆ ก็อายอยู่บ้างที่ทำอะไรไม่ทันคิด แต่คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน คนอื่นๆ จะได้ไม่เข้ามายุ่งกับแบคฮยอนอีก

    ผมหวงเมียมากนะครับ 

    “ทะลึ่งอะไร? คิดไปถึงไหนล่ะหมาน้อย”

    “งื้ออออ ไม่ต้องมาพูดเลยรู้ดีแก่ใจอยู่แล้วยังจะมาแกล้งอีก!

    “ฮะๆ...ทำไมภรรยาฉันเขินน่ารักแบบนี้เนี่ย” ว่าแล้วก็จับคนตัวเล็กเข้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่ ทั้งหอม ทั้งนิ่ม โอ้ย! ปาร์คชานยอลอยากจะกินเมียตัวเองทุกวันเลย!

    “แต่ว่าฉันไม่อยากไปหาหมอจริงๆ นะ ฉันไม่ชอบ”

    “แต่นายไม่สบายมาจะสามอาทิตย์แล้วนะ กินข้าวได้นิดเดียวเดี๋ยวก็ผอมหรอก แค่นี้ก็ไม่มีแรงขัดขืนฉันอยู่แล้วนะ”

    “ทะ ทำไมต้องขัดขืนด้วยเล่า!

    “ก็ขัดขืนเวลาจะโดนฉันข่มขืนไง”

    “ย่าห์! ชานยอลนี่ลามกจริงๆ เลย” แบคฮยอนต่อว่าผมเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปยังห้องครัว ส่วนผมเองก็ยังคงนั่งดูโทรทัศน์ที่ห้องรับแขกต่อไป ผมขอเล่านิดนึงได้ไหม? ผมอยากเล่ามากเลยนะว่าเราสองคนรักกันมากแค่ไหน >< แบคฮยอนอ่อนหวานขึ้นมาก น่ารักขึ้นมาก และแถมยังดื้อขึ้นมากอีกด้วย แต่ผมชอบนะ เวลาแบคฮยอนดื้อทีไรเป็นอันต้องจบที่เตียงทุกที! เอ่อ...คือผมก็ไม่ได้หื่นนะครับ จบที่เตียงไม่ได้หมายถึงว่าจะกึ๊บกึ๊บกันซะทุกทีหรอกนะ เพราะว่าถ้าเป็นแบบนั้นแบคฮยอนก็คงจะโดนผมทำโทษทุกคืนเลยน่ะสิ

    สรรพนามของเราถูกเปลี่ยนไป แบคฮยอนเรียกผมว่า ชานยอล (เพราะแต่ก่อนแบคฮยอนมักจะเรียกผมว่า นาย หรือไม่ก็เป็นฉายาทุเรศๆ ที่เขาตั้งให้) ส่วนผมก็เรียกเขาว่า หมาน้อย เพราะผมคิดว่ามันเหมาะที่สุดแล้วล่ะ คนตัวเล็กที่ชอบนอนครางหงิงๆ เหมือนลูกหมา เวลาโมโหแล้วสู้ผมไม่ได้ก็ชอบกัด มันน่ารักใช่ไหมล่ะครับ? แน่นอนสิ ก็ภรรยาผมน่ารักอยู่แล้วนี่นา...

    ผมนั่งดูโทรทัศน์ไปเรื่อยแล้วสะดุดเข้ากับเนื้อเรื่องของละครที่ดู...ผมกดปิดโทรทัศน์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพลางมองไปยังห้องครัวที่คนตัวเล็กเดินเข้าไปก่อนหน้านี้ เสียงโอ้กอ้ากดังมาจากในห้องครัวทำให้ผมรีบเดินไปหาแบคฮยอนด้วยความร้อนใจ...หรือมันจะเป็นอย่างเดียวกับละคร?

    “อ้วกอีกแล้วหรอ?”

    “อะ อื้อ...ฉันอยากกินสเต็กที่พี่ลู่หานทำไว้ให้ก็เลยลองฝืนกินดู แต่ว่าไม่ไหวแฮะ กินไปได้สองสามคำก็ขย่อนออกมาหมดเลย...อ๊ะ!” ผมไม่สนใจคำพูดของแบคฮยอนอีกต่อไป ผมคว้าข้อมือบางแล้วออกแรงดึงให้เดินตามอย่างรวดเร็ว แบคฮยอนพยายามยื้อด้วยแรงทั้งหมดที่เขามีด้วยความไม่เข้าใจ

    “ชานยอลปล่อยก่อนสิ! จะพาฉันไปไหน ถ้าเป็นโรงพยาบาลไม่ไปนะ บอกแล้วว่าไม่เป็นไรจริงๆ!

    “แบคฮยอนฟังฉันนะ...” ผมหันไปประจันหน้ากับเขาแล้วยกมือขึ้นจับไหล่บางบีบมันเบาๆ

    “เมื้อกี้ฉันดูโทรทัศน์แล้วนึกอะไรบางอย่างได้เกี่ยวกับฉันและนาย”

    “...”

    “นายมีอาการแปลกๆ แบบนี้มาประมาณสามอาทิตย์แล้ว นายกินอะไรไม่ได้ แต่นายเคยสังเกตไหมว่าอาหารที่นายกินไม่ได้เลยมันมีแต่เนื้อสัตว์ทั้งนั้น...”

    “...”

    “ฟังให้ดีนะ...เรามีอะไรกันครั้งล่าสุดเมื่อประมาณเดือนที่แล้วใช่ไหม? และถ้าฉันเดาไม่ผิด...”

     

     

     

     

     

    ...นายกำลังท้อง

    The end.

    ---------------------------------------------------------------------------------------------

    ตึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!~

    จบแล้วนะคะ... X’D

    ไม่มีอะไรจะพูดนอกเหนือจากทิ้งระเบิดไว้ให้รีดเดอร์เล่นๆ

    ขอประกาศตรงนี้เลยนะคะว่าสเปเชี่ยลพาร์ทในเล่มจะเปลี่ยนเนื้อหา

    เนื่องจากว่าเอาเนื้อหาในเล่มมาลงในเด็กดีหมดแล้วอ่ะ 55555555555555

    ไม่เป็นไรนะ ตอนจบของชานแบคจริงๆ เป็นยังไง แบคฮยอนจะท้องจริงๆ หรือเปล่า

    อันนี้ต้องรออ่านในเล่มเท่านั้นนะคะ (^-^)

    ส่วนใครที่จองฟิคไม่ทันแต่อยากได้ให้ลองติดต่อไปที่ทวิตเตอร์ของหมาน้อยนะคะ

    เพราะหมาน้อยกะจะตีพิมพ์มาซัก 65 เล่ม พิมพ์มาเผื่อแจกเพื่อนตัวเอง =A=

    ถ้าแจกแล้วเหลือก็จะเก็บไว้ให้คนที่อยากซื้อแต่มาไม่ทันนะ 

    แล้วเจอกันกับสเปเชี่ยลพาร์ทของฮุนฮัน ไคโด้ และชานแบคนะคะ ^^
    และถ้าไม่เป็นการรบกวนหมาน้อยคขอคอมเม้นต์เยอะๆส่งท้ายสิ้นปีกับฟิคเรื่องนี้ด้วยนะคะ

    เจอกันวันพรุ่งนี้กับ Intro ฟิคเรื่องใหม่ 'ชานแบค' เหมือนเดิม

    F A T E :')

     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×