ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ღ Puppy Love รักนะครับเจ้าหมาน้อยจอมดื้อ! {chanbaek} 。

    ลำดับตอนที่ #26 : Puppy Love รักนะครับ เจ้าหมาน้อยจอมดื้อ! : Chapter 21

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.81K
      20
      1 มี.ค. 56

     

    Chapter 21

     

    Chanyeol part

     

    เป็นเวลาเกือบอาทิตย์แล้วที่ผมย้ายสำมะโนครัวมาดูแลแบคฮยอน เพราะแบคฮยอนงอแงไม่ยอมนอนโรงพยาบาล หน้าที่พยาบาลเลยต้องตกเป็นของผม ผมคอยเช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยาให้กับแบคฮยอน แรกๆ เขาเองก็ดื้อไม่ยอมกินยา แต่ปาร์คชานยอลซะอย่างกำราบเด็กดื้อได้อยู่แล้ว

    คุณน้าลู่จินตอนนี้ได้ข่าวว่าเธอหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ลู่หานขอร้องตำรวจให้ปล่อยตัวแม่เขาไป เพราะเขากลัวว่าแม่จะหวาดกลัวที่มีคนตามตัวจนคิดอะไรสั้นๆ ช่วงแรกที่รับรู้ลู่หานก็ดูจะซึมๆ แต่คุณอาแบคคังท่านก็ไม่ได้โกรธหรือว่าอะไรลู่หาน เพราะเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากตัวคุณน้าลู่จินเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับลู่หานอยู่แล้ว แถมท่านเองก็รักลู่หานเหมือนลูกชายคนนึงด้วย ท่านเลยไม่คิดที่จะให้ลู่หานไปไหน

    ตอนนี้แบคฮยอนกับคุณอาแบคคังก็คืนดีกันแล้ว คุณอาขอโทษขอโพยแบคฮยอนเป็นการใหญ่ที่ต้องคอยปัดข้าวที่แบคฮยอนป้อนให้ เพราะคุณอารู้อยู่แล้วว่าอาหารพวกนั้นมีพิษ เพียงแต่ในตอนนั้นท่านไม่สามารถพูดได้ แล้วสาเหตุที่คุณน้าลู่จินสามารถป้อนอาหารคุณอาแบคคังได้คนเดียวก็เพราะว่า...เธอบีบปากแล้วจับกรอกแถมยังขู่ว่าถ้าปริปากบอกใครคนที่ต้องตายคนแรกก็คือแบคฮยอนนั่นเอง...

    คุณอาแบคคังฟื้นตัวกลับมาเดินได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ทุกๆ อย่างดูเหมือนว่าจะลงตัวดูดีไปเสียหมดเว้นเสียแต่ว่า...คุณหนูสุดแสบบยอนแบคฮยอนแสนดื้อคนนี้!

    “งื้ออออ! ไม่กิน! เอาออกไปเลยชานยอล!” ผมมองคนตัวเล็กที่ยกมือปัดยาในมือผมจนหก ทำไมวันนี้ดื้อเป็นพิเศษฟระ -*-

    “ยาหกหมดแล้วเนี่ยนายทำบ้าอะไรของนายฮะ!

    “เมื่อวานก็ป้อน ป้อนเสร็จฉันก็อ้วก ฉันอ้วกทุกวันมันทรมาณนะนายไม่รู้หรอ!

    “อ้วกก็ต้องกิน!

    “กินแล้วสำรอกออกมาหมดเนี่ยนะ มันต่างจากไม่กินตรงไหนกัน!

    “ต้องกิน!

    “ไม่กิน!

    “ถ้าไม่กินฉันจะจูบ!

    “จูบก็ไม่กินโว้ยยยยอุ๊บ!” ผมไม่รอให้แบคฮยอนกรีดร้องโวยวายนานนัก ผมก็ครอบครองริมฝีปากบางนั้นทันที แต่ไม่ทันที่เรียวลิ้นจะกระหวัดชิมความหวานได้เต็มที่ กลิ่นคาวเลือดและความเจ็บก็แทรกเข้ามาจนผมต้องผละจากคนตัวเล็ก

    “นาย!” ผมชี้หน้าแบคฮยอนอย่างเอาเรื่อง แต่แบคฮยอนกับส่งยิ้มหวานมาให้อย่างเยาะเย้ย...ที่ไม่กลัวโดนจูบเพราะแบบนี้ใช่ไหม เพราะเขาเตรียมกัดปากผมอย่างนี้ใช่ไหม!

    “สม! ไม่จูบอีกล่ะ คราวนี้จะกัดให้ลิ้นขาดคาปากฉันเลย!

    “อยากจะลองดีใช่ไหมฮะ? ได้!

    “โอ๊ย!” ผมผลักแบคฮยอนนอนราบไปกับพื้นเตียงแล้วขึ้นไปนั่งคร่อมเขาไว้ ก่อนจะรีบหยิบยาเม็ดใหม่ขึ้นมา กรอกใส่ปากตัวเองแล้วประกบปากกับแบคฮยอนทันที แบคฮยอนพยายามปิดปากตัวเองไว้แน่นทำให้ผมต้องหาทางเปิดปากของเขาออกมา...ผมเลือกที่จะใช้วิธีที่ค่อนข้างเสี่ยง

    ...วิธีเล้าโลม...

    ผมส่งมือหนาลากไล้ลำตัวแบคฮยอนให้เขารู้สึกวูบวาบ มันได้ผล แบคฮยอนตกใจจนเผลออ้าปากออกมา เม็ดยาสีสวยสามสี่เม็ดถูกดุนดันเข้าไปในปากคนตัวเล็กอย่างช่วยไม่ได้ ผมเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำข้างเตียง ยกขึ้นกรอกใส่ปากตัวเองแล้วประกบปากคนตัวเล็กอีกครั้ง

    โอเค...ใครหลายคนอาจจะมองว่าวิธีนี้น่ารังเกียจ แต่สำหรับคนที่เคยมีอะไรกันมาสองครั้งแล้วคงไม่น่าขยะแขยงเท่าไรนักหรอก

    คุณไม่ได้ฟังผิดหรอกนะ เรามีอะไรกันสองครั้งแล้ว ครั้งแรกก็คือตอนที่ผมขืนใจเขาวันนั้น ส่วนครั้งที่สอง...ก็วันที่พาแบคฮยอนกลับจากโรงพยาบาลวันแรกนี่แหล่ะ ผมเช็ดตัวให้เขาแต่ก็เกิดควบคุมตัวเองไม่อยู่ เผลอใจข่มขืนเขาไปอีกครั้ง แต่โชคยังดีที่เขาแค่งอนผมไปแค่วันสองวันเท่านั้น เพราะแค่ผมหยอดคำหวานใส่เขาบ่อยๆ แค่นี้เจ้าตัวก็เขินจนลืมโกรธไปแล้วล่ะ

    แบคฮยอนออกแรงทุบอกผมแรงๆ อยู่หลายครั้งเมื่อผมเผลอทำมากกว่าป้อนน้ำป้อนยาให้เขา...ก็แหม...ปากของแบคฮยอนมันนุ่มแล้วก็หวานมากนี่นา เป็นใคร ใครก็ต้องเผลอใจ...

    “ชะ ชานยอลจะทำอะไรน่ะ” แบคฮยอนเอ่ยเสียงออกมาสั่นๆ เมื่อผมละจากการขโมยจูบอันหอมหวานนี้เปลี่ยนไปเป็นคลอเคลียลำคอขาวนี้แทน

    “ก็นายตัวหอมน่ากินเองนี่นา...”

    “อื้อออออ~” แบคฮยอนกำคอเสื้อผมเอาไว้แน่นเมื่อผมออกแรงขบเม้มที่ต้นคอของผมเพื่อสร้างรอยรักสีกุหลาบเอาไว้ ผมพรมจูบไปทั่วลำคอยาวระหงส์ลามไปถึงหัวไหล่มนที่ผมแอบดึงเสื้อเขาให้หลุดออกไปโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว

    “ชะ ชานยอลหยุดนะ! จะ จะทำอะไรเนี่ย!” ใบหน้านิ่วที่บ่งบอกว่าเขาพยายามสะกดอารมณ์เอาไว้กับข้อมือเล็กที่กำข้อเสื้อผมอย่างเกร็งๆ เรียวขายาวที่บิดเร้าไปมาทำให้ผมต้องกลืนน้ำลาย ผมหัวเราะคิกคักกับท่าทางของเขาที่ดูเหมือนจะยั่วโดยไม่ได้ตั้งใจ

    ผมส่งนิ้วเรียวของตัวเองลูบไล้ไปทั่วเอวบาง แล้วลากขึ้นสูงไปบีบจับเล่นกับตุ่มไตสีหวานบนยอดอกของคนตัวเล็ก แบคฮยอนเกร็งมากกว่าเดิมหลายเท่า ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อส่ายหน้าไปมาเพื่อถดถอยหนีใบหน้าของผมทีสูดดมความหวานจากร่างเล็กไม่หยุดหย่อน

    แบคฮยอนสะดุ้งเฮือกเมื่อฝ่ามือของผมเริ่มซุกซนสอดเข้าไปหยอกล้อใต้กางเกงยีนสีสวย เขาพยายามรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายที่มีดันตัวผมออกไป แน่นอนล่ะ...เรี่ยวแรงของคนเพิ่งหายป่วยจะสู้คนที่แข็งแรงพร้อมรบตลอดเวลาอย่างผมได้ยังไง 

    ผมพยายามเร้าอารมณ์คนตัวเล็กอยู่นานจนฝ่ามือที่เคยผลักไสร่างกายผมกลับกลายเป็นโอบรอบคออย่างลืมตัวเพราะถูกมอมเมาด้วยจูบร้อนแรงจากผม...

     

    ผมคิดว่านะ...

     

    การมีอะไรกันครั้งที่สามของเรา...ครั้งนี้ผมคงไม่ได้ขืนใจเขาเหมือนครั้งก่อนแล้วล่ะ...

     

     

    Baekhyun Part

    ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าเพราะแสงแดงแยงตาด้วยความปวดเนื้อเมื่อยตัว...ให้ตายเถอะ ผมมีอะไรกับชานยอลอีกแล้ว...นี่เป็นครั้งที่สามแล้วสินะ แล้วครั้งนี้ผมเองก็ยินยอมด้วย ผมไม่รู้ว่าทำไมไม่ยอมขัดขืน ทั้งๆ ที่อยากจะปฏิเสธแต่ในใจมันก็ร่ำร้อง ผมคิดว่ามันคงเป็นอารมณ์ชั่ววูบของความต้องการทางเพศเท่านั้นล่ะ แต่ผมก็คิดเหมือนกันนะ...ถ้าเป็นเพราะความต้องการทางเพศอย่างเดียว...ถ้าเป็นคนอื่น...ผมจะสมยอมไหม?

    ผมสะบัดหัวทิ้งความคิดแปลกประหลาดให้ออกไปแล้วก็พบว่า ชานยอลยังคงนอนกอดเอวผมอยู่ แผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยรอยข่วนสีแดงๆ เป็นทางยาว...คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าใครเป็นคนทำ

    ผมก้มมองร่างกายตัวเองแล้วก็หน้าขึ้นสีเพราะดันไปนึกถึงตอนที่ถูกสร้างรอยพวกนี้เมื่อคืน...ชานยอลร้อนแรงเป็นบ้า!

    ผมเป็นผู้ชายใจง่ายใช่ไหม? เรามีอะไรกันสามครั้งแล้วแต่เรา...ก็ยังคงพูดอยู่เสมอว่าเราคือ เพื่อน บางทีผมก็แอบเจ็บปวดกับคำนี้เหมือนกันนะ พวกเรากอดกัน หอมกัน จูบกัน แล้วก็มีอะไรกัน แต่ทำไมสถานะของพวกเราถึงยังคงที่อยู่ อันที่จริงผมยอมรับเลยว่าผมเองก็รู้สึกดีกับเขาไม่น้อย แต่เขาเองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องของเราเลย ทุกอย่างที่ชานยอลทำให้ ชานยอลมักจะบอกกับผมเสมอว่า เพื่อนกันเรื่องแค่นี้ทำได้ บางครั้งผมก็รู้สึกจุกเวลาที่ได้ยิน ผมแอบสงสัยว่าชานยอลไม่คิดเกินเลยกับผมบ้างเลยหรอ แต่จะทำยังไงได้ เราเองก็รู้จักกันได้ประมาณเดือนกว่าๆ นับจากวันที่ผมไปอาศัยบ้านเขาอยู่

    เรารู้จักกันเพราะมีคยองซูเป็นสื่อกลาง เราใกล้ชิดกันเพราะเขาเป็นคนขี้แกล้ง เรามีอะไรกันครั้งแรกเพราะความผิดพลาด ครั้งที่สองเพราะเขาขอร้อง แล้วครั้งที่สามเป็นเพราะผมเต็มใจ...ผมนั่งคิดเรื่องของเราแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาช้าๆ...ผมไม่รู้ว่าทำผมหัวใจของผมถึงได้รู้สึกเหมือนถูกบีบรัดขนาดนี้

    ชานยอลเริ่มขยับยุกยิกราวกับว่าเขากำลังจะตื่น ผมจึงรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้หมดไป

    “ตื่นแล้วหรอตัวเล็ก?”

    “ตัวเล็กอะไรของนาย” ผมพยามส่งเสียงแข็งเพื่อข่มเสียงสะอื้นออกไป แต่นั่นก็ไม่รอดพ้นจากความขี้สงสัยเขาไปได้

    “เฮ้...นายร้องไห้หรอ?” รอยยิ้มกว้างของชานยอลหุบลงทันที เขารีบลุกขึ้นนั่งแล้วจับใบหน้าของผมให้หันไปจ้องหน้าของเขา

    “อ่า...นายร้องไห้จริงๆ ด้วย”

    “เปล่าสักหน่อย...” ผมพยายามฝืนแล้วแกะมือของเขาออก

    “นาย...นายโกรธเรื่องเมื่อคืนหรอ? ฉันขอโทษนะ ฉันคงเป็นเพื่อนที่แย่ที่สุดเลยใช่ไหม?” ราวกับฟ้าผ่า...หัวใจของผมหยุดเต้นไปแล้ว...เพื่อน...อีกแล้วหรอ...

    “เหอะๆ นายเป็นเพื่อนที่แย่ที่สุดเลยชานยอล นายมันบ้า ฉันบอกว่าฉันไม่เป็นอะไรนายก็ยังจะซื่อบื้อเซ้าซี้อีก อย่างงี้ต้องโดนเขกหัวสักสิบทีนะเผื่อจะฉลาดขึ้น!” ผมพูดพลางยกมือขึ้นเขกหัวเขาเบาๆ สองทีแล้วแสร้งทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้เขาสงสัย

    “เรื่องแค่นี้อย่ามาป๊อดดิ จริงๆ แทบจะไม่รู้สึกอะไรด้วยซ้ำ ของนายอ่ะนะ เล็กจิ๋วเดียวเองฉันแทบไม่รู้สึกอะไรเลย เนี่ยถ้าไม่บอกก็ไม่รูหรอกนะว่าเรามีอะไรกันอ่ะ!

    “เฮ้ยยยยย ร้ายกาจ! หนอนน้อยของฉันมันไม่จ้อยขนาดนั้นนะเว้ย”

    “อันเท่าเข็มเย็บผ้าเลยต่างหากล่ะ แบร่! ไม่รู้ล่ะ ฉันจะไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวไปมหาลัยสาย!” ผมลุกจากเตียงแล้วคว้าเสื้อคลุมมาใส่ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

    “ย่าห์! บยอนแบคฮยอน นายมันไอ้ตัวแสบ หนอย...มาหาว่าของฉันเล็กหรอ ถึงจะเล็กแต่ก็เด็ดสมใจนะเว้ยยยยย!” ทันทีที่ประตูห้องน้ำปิดลงร่างกายของผมก็ทรุดลงกับบานประตูทันที ทำไมผมเกลียดคำว่าเพื่อนจัง

     

    “แม่ครับ...ผมคิดว่าผม...ผมอาจจะรักเพื่อนเข้าแล้วล่ะครับ...ฮึก...”

     

     

    “ขอบคุณนะฮะพี่คริส” ผมส่งยิ้มบางให้กับรุ่นพี่ตัวสูงที่อาสายกน้ำมาให้ผมดื่มถึงที่ วันนี้ผมกับชานยอลมาซ้อมละครที่มหาลัยหลังจากที่ไม่ได้มาซ้อมเกือบเดือน ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวหมดแล้ว ทั้งฉาก ชุด ตัวละคร จะเหลือก็แค่ผมกับชานยอลสองคนเท่านั้นที่ยังซ้อมไม่ถึงไหน

    “เหอะ...”

    “อะไร?” ผมมองชานยอลที่อยู่ๆ ก็สบถออกมา เขาปรายตามามองผมเล็กน้อยแล้วก็ตวัดสายตากลับไป...เป็นบ้าอะไรอีก?

    “บ้า”

    “อ๋อใช่สิ ใครมันจะไปหล่อ รวย หรู เพอร์เฟคเหมือนไอ้หัวทองนั่นล่ะ”

    “อะไรของนายเนี่ย? อยู่ๆ ไปแขวะพี่คริสเขาทำไม”

    “ก็ถ้าอี๋อ๋อกันขนาดนั้นไม่ขอมันแต่งงานกันไปเลยล่ะ”

    “อี๋อ๋อ? ฉันเนี่ยนะอี๋อ๋อกับพี่คริส? นายบ้าไปแล้วพี่เขาก็แค่ยกน้ำมาให้”

    “แหม! เดินมาจูงมือนายตั้งแต่หน้าตึกคณะ คอยเอาผ้าขนหนูมาซับเหงื่อให้ ตอนกลางวันก็พาไปเลี้ยง พอตอนนี้ก็เอาน้ำมาเสิร์ฟ นี่ถ้ามันพานายกลับบ้านไปด้วยได้นี่ฉันว่ามันคงพาไปละ”

    “เอ๊ะชานยอล!

    “แล้วไอ้ซูโฮซูฮกอะไรนั่นล่ะ หายไปไหน? เลิกจีบนายแล้วใช่ไหมล่ะไอ้หัวเหลืองอ๋อยนั่นมันถึงได้ตามมาจีบนายต่อ!

    “อะ...เออ! พี่ซูโฮเลิกจีบฉันแล้วเพราะตอนนั้นมีไอ้บ้าเสาไฟฟ้าที่ไหนก็ไม่รู้หน้าด้านบอกว่าเป็นแฟนฉันจนทำให้พี่ซูโฮไม่อยากยุ่งกับฉันไงล่ะ! แล้วตอนนี้พี่คริสก็มาจีบฉัน ฉันเองก็เล็งพี่เขาไว้นายอย่ามาเสือกอีกนะ!

    “แบค...”

    “แล้ววันนี้ฉันจะไปเดทกับพี่คริสนายกลับไปเลยไม่ต้องอยู่เสร่อเป็นกขค.ของฉันเข้าใจไหม!” ผมตวาดชานยอลด้วยความโมโห ทันทีที่ผมพูดจบผมก็ลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีชานยอลไปหาพี่คริส

    “พี่คริส!

    “หื้ม? ว่าไงตัวเล็ก?”

    “คือว่า...พี่พาผมไปนั่งรถเล่นหน่อยได้ไหมครับ?”

    “ฮะ...ด้วยความยินดีเลยตัวเล็ก” ผมยิ้มให้พี่คริสทีนึงแล้วเดินเข้าไปเกาะแขนพี่คริสแน่น พี่คริสเองก็ยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบหัวของผม...อ่า...พี่คริสน่ารักจัง >//<

     

    ...แวบนึงตอนผมเดินไปที่รถพี่คริส เหมือนผมจะเห็นชานยอลกำลังทำหน้ายักษ์ใส่ผมด้วยล่ะ...

     

     

    ผม ไม่ ได้ คุย กับ ปาร์ค ชาน ยอล มา สาม วัน แล้ว ! L

     

    อึดอัดชิบเป๋ง! ตั้งแต่วันที่ผมโกหกว่าไปเดทกับพี่คริสชานยอลก็ไม่คุยกับผมอีกเลย เขาหน้าด้านอยู่ในห้องของผมเหมือนเดิม แต่เขาก็เอาหมอนข้างมากั้น เขาไม่ขับรถมาส่งผมที่มหาลัย ไม่รับกลับ ไม่ว่าจะวันที่มีเรียนปกติหรือวันที่มีซ้อมละคร มีแต่พี่คริสเท่านั้นที่เทียวไปเทียวมาหาผมบ่อยๆ แรกๆ ผมก็เกรงใจ แต่อีกนัยนึงก็คิดว่าดี ชานยอลจะได้รู้ว่าไม่มีเขาผมก็อยู่ได้!

    แต่มันก็อึดอัดอยู่ดี! บ้าหรือเปล่า นอนก็นอนห้องเดียวกัน กินข้าวก็กินข้าวโต๊ะเดียวกัน ละครก็เล่นคู่กัน ทำอะไรก็ต้องทำด้วยกันอ่ะ! แล้วปาร์คชานยอลเป็นบ้าอะไรรรรรรรรรรร!

    “ชานยอลจ๊ะ ดื่มน้ำหน่อยไหม?”

    “ขอบคุณครับ” ชิ! ผมชายตามองเสียงที่ได้ยินก็พบว่าพี่ฮยอนอาดาวเด่นของมหาลัยกำลังอ่อยชานยอลอยู่ แหม่! พอมีสาวอ่อยตัวเองก็คล้อยตามซะอย่างนั้น ถุยยยยยยยยยย!

    วันนั้นผมคิดว่าผมชอบหมอนั่นได้ไง? ไม่จริงหรอก ผมเกลียดหมอนั่นจะตาย!

    “ตัวเล็กครับ...น้ำครับ”

    “อ๊ะ...ขอบคุณครับ ^-^” ผมหันไปรับน้ำจากพี่คริสสุดหล่อของผมแล้วโปรยยิ้มให้อย่างที่ไม่คิดว่าเกิดมาจะต้องยั่วใคร =_=; แต่แหม...เห็นฝั่งนู้นเขาสวีทโชว์แล้วเรื่องอะไรผมจะยอมแพ้ล่ะ

    “วันนี้เลิกกองไว ตัวเล็กพอจะว่างไหม?”

    “วันนี้หรอ...” ผมครุ่นคิดอย่างชั่งใจ เอายังไงดี จะไปหรือไม่ไป...พี่คริสเป็นคนมือไวด้วยนะ...ผมจะไปดีไหมเนี่ย...

    “พี่ฮยอนอาว่างไหมครับ ผมว่าจะไปหาอะไรกินแถวเมียงดง พี่สนใจจะไปกับผมไหม”

    “ว่างค่ะ! แหม น้องชานยอลสุดฮอตชวนพี่ทั้งทีจะไม่ว่างได้ยังไง” ถุย! ฮอตอะไร ตัวก็สูง หูก็กางเสียงก็ใหญ่! แหยะ~ พี่คริสของผมยังดูดีกว่าหมอนั่นตั้งเยอะ

    “พี่จะชวนผมไปเดทอีกแล้วหรอฮะ” ผมโพล่งถามออกไปดังๆ เพื่อหวังจะให้ใครบางคนได้ยิน...ถ้าคิดว่าจะมาสวีทโชว์ก็ต้องเจอแบบนี้แหล่ะ

    “แค่ก แค่ก!” ได้ผล~ ปาร์คชานยอลถึงกับสำลักน้ำ...สงสัยจะตกใจคิดไม่ถึงว่าคนอย่างผมจะได้เดทกับพี่คริสล่ะสิ เฮอะๆ คนอย่างบยอนแบคฮยอนไวไฟอย่าบอกใครนะเฟ่ยยยยย

    “ผมไปเดทกับพี่ก็ได้ฮะ แต่พี่ต้องสัญญากับผมก่อนนะว่าจะไม่มือไวอีก ครั้งก่อนที่พี่โอบเอวผมกลางห้างผมยังตกใจไม่หายเลย ผมเขินนะครับ”

    “พรวดดดดดดดด!

    “ว๊ายยยยย! น้องชานยอลเป็นอะไรรึเปล่าคะเนี่ย?”

    “ปละ เปล่าครับ...คือสำลักความทุเรศน่ะครับ” อะไรนะ! ด่าฉันหรอไอ้เสาไฟฟ้า!

    “งะ งั้นหรอจ๊ะ...ระ เราไปกันเลยดีกว่าเนอะ ^^;

    “ครับ...”

    “พี่คริสฮะ ไปดูหนังเรื่องใหม่ด้วยนะฮะ มีเรื่องนึงเพิ่งเข้าโรงเห็นว่าเป็นเรทอาร์น่าสนุกนะฮะ เกิดมาผมยังไม่เคยดูเลยง่ะ”

    โครมมมมม!~ ผมหันไปมองต้นตอของเสียงก็พบว่าปาร์คชานยอลกำลังนั่งคุกเข่าอยู่กบพื้น...ซุ่มซ่ามจริงคนอะไร

    “ชะ ชานยอลเจ็บไหมจ๊ะ เดินสะดุดอะไรน่ะ พี่ไม่เห็นมีอะไรเลย”

    “ผมสะดุดยางครับ...ยางอายของใครบางคนที่ทำมันหล่นไว้ครับ!

     

    หงุดหงิดโว้ยยยยยยยย! ไอ้บ้าหูกางนั่นหลอกด่าผม! หนอยยยยยย! มาหาว่าผมไม่มียางอายหรอ? ตัวเองมีตายแหล่ะ! เห็นคนอื่นได้ควงกับคนเพอร์เฟคต่อมอิจฉาก็ทำงานสินะ! รับไม่ได้น่ะสิ!

    “แบคฮยอนครับ...”

    “อะไร!...เอ้ย...ขอ ขอโทษครับพี่คริส”

    “ฮะๆ...นายโมโหชานยอลใช่ไหมล่ะ”

    “ก็...นิดหน่อยฮะ”

    “โมโหเขาเรื่องอะไรล่ะ”

    “โถ่...ก็เรื่องที่...”

    “เรื่องที่ถูกเขาหลอกด่าหรือเรื่องที่เขาไปเดทกับฮยอนอาล่ะ”

    “คะ ครับ? พะ พี่คริสทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ...ก็ต้องโกรธที่เขาด่าผมสิ จะไปโกรธเรื่องพี่ฮยอนอาได้ไง”

    “หรอ...พี่คิดว่าไม่ใช่นะ”

    “ฮะ! พี่คริสพูดแบบนี้หมายความว่าไงครับ”

    “พี่ดูออกนะ นายสองคนมีซัมติงกันใช่ไหม”

    “ผมยังซิงนะครับ!

    “ฮ่าๆ พี่พูดว่าซัมติงไม่ได้พูดว่าซิง...แบคฮยอนก็...”

    “อะ เอ่อออออ ผมว่าเราทานข้าวกันต่อดีกว่านะฮะ เสียบรรยากาศหมดเลย เดี๋ยวอีกสักพักก็ถึงเวลาเข้าโรงแล้ว รีบกินดีกว่าเนอะ ^^

    หลังจากผมก้มหน้าก้มตาทานอาหารเสร็จพี่คริสก็เดินโอบไหล่ผมไปยังโรงหนัง...ผมบอกแล้วว่าพี่คริสมือไว แล้วสิ่งที่ผมพลาดคือการโพล่งปากชวนดูหนังเรทอาร์เนี่ยสิ ;_; ทายซิ...หมาน้อยบยอนแบคฮยอนจะถูกหมาป่าคริสข่มขืนในโรงหนังหรือเปล่า

    แต่เอ๊ะ...เหมือนผมจะเห็นชานยอลแวบๆ? ไม่หรอกมั้ง...หมอนั่นคงไม่มาที่นี่หรอก ป่านนี้คงจะไปเลือกซื้อเสื้อผ้ากันจนกระเป๋าฉีกแน่ๆ

    หนังในโรงเริ่มฉายไปได้กลางๆ เรื่อง ผมเริ่มรู้ตัวแล้วว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย หนังเรทอาร์กับคู่หนุ่มสาวและหนุ่มหนุ่มมานั่งดูกัน...เสียงจ๊วบจ๊าบเต็มโรงไปหมด บางครั้งก็แอบได้ยินเสียงครางอ๊าอ๊าเป็นระยะด้วย...ให้ตาย...บยอนแบคฮยอนพลาดแล้วจริงๆ

    “อ๊ะ...” ผมส่งเสียงร้องด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ พี่คริสก็วางฝ่ามือหนาที่ต้นขาของผม

    “...” ผมมองหน้าพี่คริสหวังจะถามว่าเอามือมาจับขาผมทำไม แต่ผมกลับเห็นพี่คริสนั่งมองหนังอย่างจริงจัง...หรือว่าผมจะคิดมากไป?

    หนังยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงครางอื้ออึงเต็มไปหมด...ผมกับพี่คริสเลือกโซน VIP มา แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ T^T

    “พะ พี่คริสครับ!” ผมร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ เพราะฝ่ามือที่ตอนแรกวางแหมะอยู่เฉยๆ เริ่มลูบไล้เข้าใกล้โคนขาอ่อนผมเต็มที ผมพยายามใช้มือดันแขนพี่คริสออกไป แต่พี่คริสกลับรวมข้อมือทั้งสองข้างของผมไว้แล้วกระชากเข้าหาตัวเอง

    “พะ พี่คริสจะ จะทำอะไรผมครับ” ผมเอ่ยคำถามโง่ๆ ที่ไม่น่าถามออกไปรวบมือผมหนาแน่นขนาดนี้ คำตอบเดียวแหล่ะ จะรวบหัวรวบหางชัวร์!

    “อย่านะครับ! พี่คริส! อย่านะ อย่า!” ผมใช้มือที่ถูกจับไว้อยู่ดันหน้าอกพี่คริสให้ถอยห่างออกไป เนื่องจากพี่คริสยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากเกินไปแล้ว ผมเบี่ยงหน้าหลบพี่คริสไปมาด้วยความกลัว ให้ตาย...ผมเชื่อพี่ซิ่วหมินก็ดีหรอกว่าพี่คริสอันตราย...แต่เชื่อตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วใช่ไหม?

     

    ผมกำลังจะโดนข่มขืน!

     

    “พี่คริสหยุดนะครับ! ถ้าไม่หยุดผมจะร้องให้คนช่วย!

    “หึ...ร้องเลยสิครับตัวเล็ก”

    “ชะ ช่วยด้วยยยยย อุ๊บ!” ผมเบิกตาโพลงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทันทีที่ผมเริ่มกรีดร้องพี่คริสก็ปิดเสียงนั้นด้วยปาก!

    พระเจ้า! ผมโดนไอ้พี่คริสจูบ!

    ผมพยายามกัดปากตัวเองแน่นไม่ให้คนตัวสูงสอดแทรกอะไรเข้ามา แต่พี่คริสที่ท่าทางช่ำชองก็รู้ทัน เขากัดริมฝีปากล่างผมเบาๆ ทำให้ผมเจ็บจนต้องเผยอปากออก ผมหลักหนีสัมผัสพี่คริสด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทั้งทุบอก ตีไหล่ จิกเนื้อ ขาถีบ! ทำทุกอย่างแต่ก็ไม่ได้ผล

    “อื้ออออออออ!” ผมส่งเสียงขอความช่วยเหลือ แต่ก็เปล่งเสียงไม่ได้เพราะริมฝีปากของผมถูกคนหื่นกามนี่รุกล้ำอยู่ ร่างกายผมผวาเฮือกเมื่อรู้สึกถึงความเย็นวาบที่หน้าท้อง...ใช่! พี่คริสสอดนิ้วเข้าไปใต้เสื้อและลูบไล้มันอย่างหื่นกระหาย

    “อื้ออออ แฮ่ก! พะ พี่คริส อ๊ะ!” พอได้โอกาสที่พี่คริสถอนจูบออกผมก็รีบส่งเสียงร้อง แต่ว่ายังไม่ทันได้พูดเต็มเสียงผมก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อพี่คริสลากริมฝีปากหนามาขบเม้มเข้าที่ซอกคอของผม

    “พะ พี่คริสปล่อยผม พี่คริส...ฮึก...” หยาดน้ำใสๆ ของผมเริ่มไหลออกมาช้าๆ...ไม่มีใครช่วยผมเลย...ผม ผมไม่มีทางรอดใช่ไหม?

    “เฮ้ยทำอะไรวะ!

    ผลักกกกก!~ จู่ๆ ร่างกายของคนที่กำลังจะขืนใจผมก็กระเด็นออกแล้วร่วงไปนั่งลงกับพื้น ข้อมือของผมถูกผู้มาใหม่จับแล้วกระชากให้ลุกขึ้นยืน

    “หมดเวลาเล่นของนายแล้ว ฉันมารับเมียฉันกลับบ้าน!” พูดจบผมก็ถูกชายคนนี้ลากออกมา...หัวใจผมเต้นถี่รัว...ท่ามกลางความมืดในโรงหนัง เสียงครางที่สอดแทรกของผู้คนไม่ได้กระทบเข้าโสตประสามผมเลยสักนิด

     

    ฉันมารับเมียฉันกลับบ้าน!’

    ฉันมารับเมียฉันกลับบ้าน!’

    ฉันมารับเมียฉันกลับบ้าน!’

     

    เสียงนี้...สัมผัสนี้...ส่วนสูงนี้...

     

    ปาร์คชานยอลชัดๆ!

     

     

    รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้าโรงจอดรถของบ้านหลังใหญ่ด้วยความเร่งรีบ เจ้าของรถจอดรถแช่ไว้อยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งกอดอกตัวสั่นอยู่เบาะข้างๆ ด้วยแววตาสงสาร หากแต่ก็เพียงแววตานั้นปรากฏแค่ครู่เดียวเท่านั้นก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสายตาของความฉุนเชียว ใช่แล้ว ปาร์คชานยอลกำลังโกรธ...โกรธที่คนตัวเล็กทำตัวไม่ดี

    ถ้าไปช่วยไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น? ...ปาร์คชานยอลได้แต่ครุ่นคิดในใจ ความจริงแล้วเขาแอบขับรถตามคนตัวเล็กมา เขาขอโทษรุ่นพี่ฮยอนอาคนสวยที่ไม่สามารถไปเที่ยวด้วยจริงๆ ได้เนื่องจากเขาพลั้งปากเผลอพูดประชดคนตัวเล็กออกไป

    ชานยอลเห็นทุกอย่าง เห็นคริสเดินจับมือกับแบคฮยอน เห็นคริสตักอาหารให้แบคฮยอน เห็นโอบไหล่แบคฮยอน เห็นคริสลวนลามแบคฮยอน เขาเห็นทุกอย่าง...ทีแรกตอนที่คริสเริ่มลวนลามเขาเองก็ตกใจ แต่ด้วยความหมั่นไส้ความเย่อหยิ่งของแบคฮยอนที่ชอบทำตัวน่าหมั่นไส้เขาเลยคิดว่าแบคฮยอนน่าจะโดนซะบ้าง แต่แค่ชั่วอึดใจที่เขาคลาดสายตาเนื่องจากคู่รักคู่หนึ่งที่นั่งคั่นระหว่างแบคฮยอนกับชานยอลลุกออกไปก็ทำให้เขาแทบช็อค คริสกำลังจะปล้ำแบคฮยอนของเข้าแล้ว!

     

    Chanyeol Part

    ผมตัดสินใจลากแบคฮยอนที่มัวแต่นั่งสะอึกสะอื้นอยู่เบาะข้างๆ ให้เข้าไปในตัวบ้าน ฉับพลันที่เราสองคนก้าวเท้าเข้าไป ลู่หานที่นั่งรอพวกเราอยู่ก็กระโจนเข้ามาทันที

    “แบคฮยอนเกิดอะไรขึ้น ทำไมนายเสื้อผ้าหลุดลุ่ยแบบนี้ล่ะ...แล้วนี่อะไร ร้องไห้ด้วยหรอ? ใครทำอะไรแบคฮยอนของพี่?”

    “...” แบคฮยอนก้มหน้านิ่งไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกไป จนทำให้ผมเองที่โมโหเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วตวาดออกไปอย่างเหลืออด

    “จะอะไรอีกล่ะ ก็น้องชายตัวดีของนายมันดื้อไง อวดเก่ง! ทำเป็นออกปากชวนผู้ชายไปดูหนังเรทอาร์สองต่อสอง เป็นไงล่ะ เกือบได้ครางอ๊าอ๊าในโรงแล้วไหม!

    “ห้ะ!” ผมทิ้งลู่หานที่ยืนอึ้งค้างอยู่ตรงนั้นแล้วลากคนก่อเรื่องทั้งหมดขึ้นห้อง เมื่อก้าวเข้ามาในห้องผมก็เหวี่ยงแบคฮยอนเข้าไป ปิดประตู ล็อคกลอน แล้วเดินไปประจันหน้ากับเขา

    “...ฮึก...”

    “ร้องไห้ทำไมล่ะ” ผมยืนกอดอกมองจ้องหน้าแบคฮยอนอย่างเอาเรื่อง แบคฮยอนไม่ตอบอะไร ผมเลยถือโอกาสสั่งสอนเขาไปบ้าง

    “ทีนี้เห็นหรือยังว่าผู้ชายไม่ว่าหน้าไหนก็จ้องจะงาบนายทั้งนั้นล่ะ แล้วทีนี้เข็ดหรือยัง เป็นไงล่ะชวนเขาไปดูหนัง เหอะ...ถ้าฉันไปช่วยไม่ทันจะทำไง? นายจะได้ผัวคนที่สองใช่ไหม!

    เพียะ!~ ผมสะบัดหน้าไปตามแรงที่คนตัวเล็กส่งมา ผมเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วมองหน้าแบคฮยอนด้วยความตกใจ

    “สมใจนายหรือยัง? ด่าฉันพอใจหรือยัง? ย่ำยีจิตใจฉันพอหรือยัง! ฉันก็แค่อยากจะประชดนายบ้าง ทำไมล่ะ นายไปกับพี่ฮยอนอาฉันยังไม่เห็นว่าอะไรนายเลย แล้วทำไมฉันจะไปกับพี่คริสบ้างไม่ได้ นายมีสิทธิ์อะไรไม่ทราบถึงได้มาต่อว่าฉัน ใครขอล่ะ? ฉันจะโดนพี่คริสปล้ำก็เรื่องของฉันสิ ฉันจะมีผัวกี่คนก็เรื่องของฉันสิ ก็ผัวคนแรกมันฟันแล้วทิ้งมันไม่สนใจฉันมันไม่ได้รักฉันจะให้ฉันทำยังไง!!!!!!!!!!

    !

    “...ฮึก...ฮือออออออออออออออออออ”

    “...บะ แบคฮยอน...” ผมนิ่งอึ้งกับสิ่งที่แบคฮยอนตะโกนลั่นห้องเมื่อครู่ คนตัวเล็กยืนก้มหน้าร้องไห้ราวกับเด็กเล็กที่ถูกแย่งของเล่น แบคฮยอนยืนสะอึกสะอื้นน้ำตานองหน้า ยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาบ้างเป็นระยะ

    “เราเป็นเพื่อนกันนี่ นายเป็นห่วงฉัน ฉันเข้าใจ แต่นายไม่ต้องห่วงฉันมากก็ได้นะ ถ้าตัวนายเองก็เป็นคนที่ทำให้ฉันเจ็บ!

    “บะ แบคฮยอนทำอะไร เฮ้ยอย่าสิ แบค!

    ปึงงงงงงง!~

    “แบคฮยอนเปิดประตูให้ฉันสิ แบคฮยอน!” ผมทุบประตูอย่างบ้าคลั่งหลังจากถูกคนตัวเล็กดันตัวให้ออกมานอกห้องอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมพลาดอีกแล้ว ผมทำให้แบคฮยอนร้องไห้อีกแล้ว

    นายเองก็เป็นคนทำให้ฉันเจ็บคำพูดของแบคฮยอนยังคงก้องในหัวผม ผมไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่าผมจะทำให้แบคฮยอนเจ็บ ผมก็แค่เป็นห่วงเขา อยากดูแลเขา แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะไม่ชอบ

     

    ผมแค่เป็นห่วงก็เท่านั้นทำไมต้องโกรธ?

     

    “ปาร์คชานยอล!” ผมหันไปตามเสียงเรียกที่มาจากด้านหันหลังด้วยความตกใจแล้วก็พบว่าเป็นลู่หานกำลังยืนกอดอกทำหน้าเครียดอยู่ข้างๆ กับเซฮุนที่ทำหน้าตาย...ไม่ใช่ๆ...ทำหน้าเหมือนคนตกใจนิดนึง

    “อะไร?”

    “มานี่!

    “อะ โอ้ย! ลู่หานทำอะไรเจ็บนะ ปล่อยดิ เฮ้ยยยยย” ผมร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เมื่อลู่หานดึงหูผมแล้วลากผมให้เดินลงไปชั้นล่าง

    “เจ็บหรอนี่แหน่ะ! นี่แหน่ะ! นี่! นี่ๆๆๆๆๆ!” พอถึงห้องรับแขกเท่านั้นล่ะ ฝ่ามือเล็กๆ ที่แรงไม่เล็กตามฝ่ามือก็กระหน่ำตบตีผมรัวๆ ตีหลัง ทุบหลัง หยิกแขน ดึงหู แม้กระทั่งเหยียบเท้าก็ทำด้วย!

    “อ๊ากกกกกกกกกกก! ลู่หานทำอะไรเจ็บนะเว่ย! เซฮุนจับเมียนายสิ มาให้ตีฉันทำไม!

    “ฉันช่วยนายไม่ได้หรอกชานยอล...นายมันร้ายจริงๆ นะ”

    “ร้ายอะไร! ฉันทำอะไรอธิบายก่อนตีได้ไหมเนี่ย!

    “อธิบายหรอ? นายทำอะไรน้องชายฉันฮะ! นายได้แบคฮยอนแล้วหรอ!

    “ฮะ!...”

    “ได้แล้วใช่ไหม! พูดความจริงมาเดี๋ยวนี้นะ!

    “นั่งลงดีๆ ก่อนแล้วจะบอก ใจเย็นๆ ก่อนแล้วจะสารภาพ” ผมพยายามยื้อเวลาให้ลู่หานใจเย็นลงก่อน ไม่อย่างนั้นผมตายคามือเขาแน่ ถึงลู่หานจะบอบบางแค่ไหน แต่แรงนี่ไม่เบานะขอบอก ผมเคยโดนลู่หานตบจนหูเกือบหนวกไปแล้วทีนึงนะครับ ;_;

    “เล่ามาอย่าตุกติก!

    “กะ...ก็...ก็มีแล้ว”

    “กี่ครั้ง!

    “สะ สามครั้ง...สามครั้งแต่ว่าหลายรอบ...” ผมพูดออกไปตามความจริงแล้วยกแขนขึ้นมาปิดหน้าเพราะกลัวว่าจะโดนตบอีก แต่ลู่หานก็กระชากต่อแล้วบังคับให้ผมตอบคำถามอีก

    “เมื่อไร! นายย่ำยีน้องฉันตั้งแต่เมื่อไร!

    “ก็...ครั้งแรกก็...วันที่นายตกบันได...ฉันโกรธมากก็เลย...” ผมพูดพลางเหลือบมองมือบางของลู่หานที่กำลังกำแน่นจนสั่นไปหมด ปาร์คชานยอลจะตายไหมครับ T__________T

    “...ครั้งที่สองล่ะ”

    “วันแรกที่แบคฮยอนออกจากโรงพยาบาล...”

    “นี่นาย!

    “กะ ก็ตอนนั้นแบคฮยอนดื้อนี่! เขาไม่ยอมกินยา ฉันเลยจับแบคฮยอนเช็ดตัว แต่ตอนเช็ดตัวมันก็ห้ามใจตัวเองไม่อยู่...ก็เลย...”

    “เลว! นายมัน...ฮึ่ยยยยย! ครั้งที่สามล่ะ!

    “ครั้งที่สาม...เมื่อวาน...ตอนป้อนยา...แต่ไม่ได้ปล้ำนะ แบคฮยอนสมยอม...”

    “ปาร์คชานยอล! มึงตายยยยยยยยยยยยยยย”

    “แอร๊กกกกกกกกกกกก!

     

    หลังจากที่ทำแผลเสร็จเนื่องจากเหตุการณ์บ้านแตกเมื่อสักครู่ ผมก็นั่งหน้างอเป็นหมาหงอยต่อหน้าลู่หานเหมือนเดิม ก่อนหน้านี้ผมโดนจิกหัว กระชากหัว กระทืบท้อง เตะสีข้าง รีโมทฟาดหน้า ผมโดนแทบทุกอย่าง โดนจนเลือดกำเดาไหลเปรอะเต็มเสื้อไปหมดลู่หานก็ยังไม่หยุด โชคดีที่แบคฮยอนลงมาข้างล่างเพราะเขากลัวผมจะโกรธจนพังข้าวของก็เลยลงมาดู แต่พอเจอช็อตที่ลู่หานนั่งคร่อมผมแล้วเอารีโมทเคาะหัวก็ตกใจกรี๊ดลั่นบ้านทันที...

    สุดท้ายแบคฮยอนก็ต้องทำแผลให้ผม แล้วก็จบด้วยการนั่งหน้าซึมข้างๆ ผม ก็จะอะไรล่ะ ก็ลู่หานตัวดีเนี่ยสิ เรียกมานั่งคุยเรื่องที่เรามีอะไรกัน

    “ต้องแต่งงาน!

    “ห้ะ!/ห้ะ!” ผมและแบคฮยอนเบิกตากว้างทั้งคู่ ตกใจกับคำที่ลู่หานบอก

    “มะ ไม่ได้นะ จะ จะแต่งงานกันได้ยังไงพี่ลู่หาน!

    “เอ้า! ก็ได้กันสามรอบแล้วอ่ะ ไม่แต่งได้ไง”

    “พี่ลู่หาน!

    “อะไร? เขินหรอ? อายหรอ? ได้กันสามรอบแล้วยังอายหรอ?”

    “เปล่าครับ! แต่ยังไงผมก็ไม่แต่ง”

    “ทำไม”

    “ผมกับชานยอลเราไม่ได้รักกัน!

    “ห้ะ!/ห้ะ!/ห้ะ!” ทั้งผมลู่หานและเซฮุนที่นั่งฟังอยู่ถึงกับสะดุ้งสุดตัว...แบคฮยอนพูดว่าเราไม่ได้รักกันงั้นหรอ? ผมรู้สึกว่าหัวใจตัวเองถูกบีบยังไงก็ไม่รู้ ปวด...ปวดไปหมด ที่ผ่านมาแบคฮยอนไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไง? ผมดูแลเขา เป็นห่วงเขา ทำทุกอย่างที่คนๆ นึงจะมอบให้ได้...แต่ทำไม...

    “ทุกครั้งที่มีอะไรกันผมก็ไม่ได้เต็มใจซักหน่อย แล้วเรื่องเซ็กส์นะ เดี๋ยวนี้เขาเปิดเผยกันหมดแล้ว รู้จักไหมวันไนท์แสตนด์น่ะ ได้กันแล้วก็จบไป ผมไม่คิดอะไรอยู่แล้วพี่ลู่หาน นายเองก็รู้ดีใช่ไหมชานยอล ก็นายพูดอยู่เสมอนี่ว่าเราน่ะ เป็น เพื่อน กัน!

    “แบคฮยอน แบคฮยอน!” ทั้งผมและลู่หานต่างก็ตะโกนเรียกแบคฮยอนที่วิ่งหนีขึ้นบ้านไปแล้ว ผมหันกลับมามองหน้าลู่หานช้าๆ ความเจ็บที่หัวใจทำให้ผมไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะพูด

    ที่ผ่านมาเรามีความสัมพันธ์แบบวันไนท์แสตนด์งั้นหรอ?

    ผมเจ็บนะ...ผมบอกตรงๆ ว่าผมช็อค...ผมไม่เคยคิดเลยว่าคำว่า เพื่อน ที่ผมมอบให้แบคฮยอนจะเป็นคำที่ผมเกลียดมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้คิดอะไร แต่เป็นผมเองที่กลัวว่าหากบอกความจริงไปว่าผมรู้สึกยังไงแล้วแบคฮยอนจะเกลียดผม ความสัมพันธ์เราจะจบลงหรือเปล่า

    ผมเลยเลือกที่จะใช้คำว่าเพื่อนกับแบคฮยอน เพราะผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้คำไหน คนรักหรอ? แฟนหรอ? เมียหรอ? หรืออะไร? จะใช้คำไหนก็ไม่เหมาะเพราะเราไม่เคยเปิดใจกันเลยสักครั้ง แบคฮยอนก็ใช่ว่าจะแสดงออกว่าสนใจผม กลับกันเขามักชอบแสดงออกว่ารำคาญผมอยู่เสมอ แล้วมันก็จริงใช่ไหม? ทุกคำพูดที่แบคฮยอนพูดออกมาเมื่อสักครู่มันเป็นคำเดียวที่บอกให้รู้ว่าเขา...ไม่ได้รักผม

     

     

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    อ่านจบแล้วรบกวนช่วยเม้นหน่อยนะคะ สงสารไรท์เตอร์ใจน้อยคนนี้นิดนึง >//<

     อยากคุยหรืออยากด่าไรท์เตอร์

    ตามไปติชมได้ที่ >> หมาน้อยมาลามิวท์ <<

     

     http://image.dek-d.com/25/2824705/109534725

    ©Tenpoints!

     


    ใครอ่านแล้วติดใจหรือตะขิดตะควงใจ (?) อยากคุยหรืออยากด่าไรท์เตอร์

    ตามไปติชมได้ที่ >> หมาน้อยมาลามิวท์ <<


    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×