ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    'Neck' n 'Neck' { chanbaek }

    ลำดับตอนที่ #1 : - i n t r o -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.3K
      39
      3 ก.ค. 57






     

     

     

    ฉันอยากกินต๊อกโบกีจังงง

     

     

    นี่คือเสียงของเคะหนุ่มตัวเท่าควายป่าที่กำลังกระเง้ากระง้อดคู่ขาอยู่บนเบาะรถแถวหน้าผม  ผมอดจะเบ้ปากออกมาไม่ได้ ...หึ ไอ้นี่ไม่บ้าก็เพี้ยน ต๊อกโบกี้น่ะหมดโลกไปตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 21 แล้วเว้ย

     

     

    แต่ก็ไม่แน่ ถ้าหมอนี่รวยพอจะซื้อความรักกับเกย์คู่ขาได้ บางทีนางก็อาจจะมีปัญญาพอจะหาซื้อฟอสซิลต๊อกโบกี้มาบริโภคสนองความต้องการได้

     



     

    ผมละสายตาจากคู่รักตัวยักษ์ใหญ่ที่รังแต่จะทำให้หมั่นไส้ ก่อนจะเบนจุดโฟกัสไปยังวิวนอกรถแทน บนฟ้าเต็มไปด้วยเครื่องบินส่วนตัวของมนุษย์ฐานะปานกลางไปจนถึงระดับร่ำรวย มันร่อนสวนกันไปมา มองคล้ายนกหุ่นยนต์ที่ไม่ได้ช่วยให้ท้องฟ้าสวยงามขึ้นตรงไหน

     

     

     

    รถเมล์...เป็นสัญจรวิถีของคนจนเช่นผม แต่บางครั้งมันก็กลายเป็นที่สวีทของพวกคนรวยที่ชอบลองอะไรแปลกใหม่(?)เช่น ไอ้คู่เกย์ข้างหน้า หรือในกรณีเฮงซวยที่สุด

     

     

     

    บึ้ม!


     

    แม่งเป็นสนามท้ารบของพวกแก๊งค์เด็กอนุบาล

     


     

    ไอ้เหี้ย!! โพ่งตาย!” ไอ้เกรียนห้าขวบในรถชะโงกหน้าไปด่ามือระเบิดของแก๊งค์คู่อริที่ยืนเกาะกลุ่มกันหน้าสลอนตรงริมฟุตบาท ฝ่ายนั้นก็แค่ชูนิ้วกลางทักทายอย่างน่ารัก

     

     

    พวกคุณไม่ต้องตกใจหรอก คุณก็รู้ว่าเด็กๆน่ะโตเร็วจะตาย เมื่อพันปีก่อนเด็กประถมหัดแต่งหน้า แต่ ณ ปีนี้ เด็กเตรียมอนุบาลก็เริ่มฝึกจับปืนกันแล้ว

     


     

    ผมยกกระเป๋าขึ้นมาบังหน้าตอนที่เศษกระจกซัดเข้ามาตามแรงอัดของลูกระเบิด  โชคดีที่วันนี้ผมทาโลชั่นกันอาวุธสงครามมาด้วย ฉะนั้นต่อให้สุดยอดบาซูก้าก็ทำอะไรผมไม่ได้ แต่ป้ายหน้าคงต้องทาทับเพิ่มซักหน่อย เพราะรถจะแล่นผ่านโรงเรียนอนุบาลเทคนิคกับช่างกลอนุบาล

     

     

     

    เฮ้ อ่านมาตั้งนานพวดคุณรู้หรือยังว่าผมเป็นใคร?


     

    เอาเถอะ ผมไม่ชอบดึงเชงอะไรมากนักหรอก บอกเลยแล้วกันว่าผมชื่อบยอน แบคฮยอน ส่วนอายุก็ อืออ ปีนี้ก็ลากันทีกับอายุสิบเก้า อีกไม่กี่อาทิตย์ผมก็จะบรรลุนิติภาวะแล้ว


     

    ผมเป็นโอท็อประดับตำบลเลยนะ ทำไมน่ะหรอ? ก็ดูหน้าผมสิ หนังหน้าที่เรียกได้ว่าแปลนเกาหลีฉบับดั้งเดิมเป๊ะๆ ในขณะที่คนส่วนมากเบ้าหน้าพุ่งแบบหมวยอินเตอร์เยอรมันอัฟกานิสถาน เหตุเพราะการมั่วเซ็กซ์กันไปทุกเผ่าพันธุ์ของบรรพบุรุษเมื่อพันปีก่อน  ผมพูดแรงไปหรอ? อ่ะนะ พวกเขาก็แค่ไปมาหาสู่กันได้ง่ายเพราะยุคนั้นการเดินทางด้วยเครื่องบินแพร่หลายแล้ว คนชาติไหนก็รักกันได้ทั้งนั้น เรียกได้ว่ายุค 2000 เป็นยุคที่ความรักบูมยิ่งกว่าโกโก้ครั้นช์หรือทุ่งดอกบัวตอง


     

     

    อาจเพราะมันบูมมากไป เสรีมากไป....แม่เจ้า! เกย์ล้นเมือง!


     

    และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมยุคพวกเรา จิ๋มกระป๋องจึงถูกพัฒนามาไกลถึงขั้นตั้งท้องได้


     

    โน๊! ไม่มีผู้หญิงอยู่เลยตามท้องถนน เพศแม่จะอยู่กันแต่ในเฉพาะสถานบันวิทยาศาสตร์เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการทำวิจัยเท่านั้น หรือไม่ก็อยู่ในสถานที่อันทรงเกียรติ เพราะพวกเธอเลอค่าหายากยิ่งกว่าเพชรบลูไดม่อน


     

    แต่ความโอท็อปของผมไม่ได้เกี่ยวโยงแค่เรื่องหน้าตาเท่านั้น เพราะแม่ของผมเป็นมนุษย์! พระเจ้าช่วย! ผมเป็นเด็กคนเดียวในบรรดาเด็กกว่าหลายพันคนที่เกิดในวันเดียวกัน ที่ไม่ได้มีแม่เป็นจิ๋มกระป๋อง!



     

    แต่เรื่องเศร้าก็คือ แม่เป็นผู้หญิงคนสุดท้ายของหมู่บ้าน ไม่นานทางการก็จับแม่ไปอยู่ในสถานที่ลับและเราก็ขาดการติดต่อกันโดยสิ้นเชิง


     

    เศร้ามั้ยละ? ...เศร้านะ ...ผมคิดว่าผมเศร้า

     

    ใช่... คงงั้น



     

     

    อ่อ เรื่องความรู้สึกก็เป็นอีกเรื่องที่แตกต่างจากยุค 2014  พวกเราเฉยชากันมากขึ้น อาจจะเพราะสายสัมพันธ์ระหว่างมารดาและทารกถูกตัดฉับไป  แน่นอน ใครจะไปพิศวาสแม่ที่เป็นจิ๋มกระป๋องกันล่ะ คลอดปุ๊บก็หมดอายุปั๊บ ขายซาเล้งได้โลละสามพันวอนเท่านั้นแหละ


     

     

    ประการที่สอง พ่อของพวกเราก็ถูกแรนด้อมให้มาทำหน้าที่ผลิตทายาท  จะบอกอะไรให้ ยุคนี้ไม่มีใครชอบผู้หญิงกันแล้ว จะชอบไปทำไม ในเมื่อในร่างของพวกเรามีฮอร์โมนเพศหญิงโคตรเยอะ ซึ่งแม่งก็เป็นผลพ่วงมาจากยาคุมกำเนิดกับอะไรต่อมิอะไรที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศที่พวกหล่อนประโคมใช้กันเมื่อพันปีก่อน

     


     

    มันเป็นหน้าที่ของผู้ชายที่ผ่านมาตรฐานทุกคน พวกเราจะถูกทดสอบตอนอายุ 25 ถ้าแน่นพอก็จะต้องรับใช้ชาติด้วยการเสพสมกับ เออ...ผมพูดคำนี้บ่อยไปใช่มั้ย? แต่ก็นั่นล่ะ ..จิ๋มกระป๋อง



     

    จากนั้นก็โบ้ม! เกิดมาเป็นมนุษย์โลกเจเนอเรชั่นถัดไป  หมดสิ้นซึ่งเยื่อใยระหว่างพ่อกับลูก ประหนึ่งว่าลืมไปเลยว่าเคยมีคราบ


     

    และด้วยการตะหนักถึงความสำคัญของความรักแบบไม่มีเงื่อนไขที่จะเกิดเฉพาะกับสายเลือด  ทางรัฐบาลจึงผลิตเซรุ่มที่จะทำให้เราซาบซึ้งถึงแก่นนั้น ซึ่งเซรุ่มรักหนึ่งขวดจะออกฤทธิ์เพียงแค่สี่ชั่วโมง


     

    ที่สำคัญ ไอ้เซรุ่มเหี้ยนั่นขวดล่ะ 100 ล้านวอน

     

    เป็นนัยว่า มึงต้องรวยนะ ไม่งั้นมึงหมดสิทธิ์!

     

     

     

    แต่ผมว่าผมแปลกประหลาดกว่าคนทั่วไปอยู่หน่อย ผมมีแม่ มีพ่อ ถึงเราสามคนจะแยกจากกันตอนผมอายุแค่เจ็ดขวบ แต่ผมจำได้ และหวังว่าสิ่งที่ผมจำได้จะใช่ความรู้สึก 'รัก'

     



     

    ทีนี้หลายคนคงกำลังสงสัย ถึงไม่สงสัยก็ช่วยไหลตามหน่อยเถอะ ...อยากรู้ใช่มั้ยละว่าผมกำลังเดินทางไปที่ไหน?




     

    จะบอกให้ก็ได้ว่าผมกำลังจะไปพบหัวหน้าหน่วยรบพิเศษครับ หมอนั่นชื่อปาร์ค  ไม่ดินั่นมันแซ่สกุลนี่หว่า



     

    ชาน...ยอล  ...ใช่!! หมอนั่นชื่อชานยอล

     


     

    โอ๊ยไม่อยากจะเม้าท์! การพบกันครั้งแรกของเราเมื่อสามวันก่อนแม่งเป็นอะไรที่อะเมซิ่งหมูหมากาไก่มาก!  สถานการณ์มันคล้ายๆกับพรานป่าล่าอุ้งตีนหมี  แน่นอนว่าจะต้องมีฝ่ายนึงเป็นผู้ล่า และอีกฝ่ายตกเป็นเหยื่อ

     


     

    ให้เวลาสามวิ คุณลองทายดูเล่นๆสิว่าใครที่เป็นเหยื่อ



     

    1

     

    2 

     

    3

     



                เฉลยนะ

     






     

    ย้อนไปเมื่อสามวันก่อน

     


     

    แสนวอนขาดตัว


     

    เจ็ดหมื่น


     

    แสนวอน


     

    เจ็ด


     

    เอ๊ะก็บอกว่าแสนวอนไง! ล็อตนี้ของดีนะเว้ย! รับประกันว่าไม่มียัดรูตูดผมแหวใส่ไอ้ลูกค้าขี้ตืดทันทีเมื่อฟิวส์ขาดสะบั้น  คุณคงกำลังสงสัยอีกยกว่าผมทำห่าอะไรอยู่ 




     

    ผมกำลังขายเซรุ่มรัก เออ...ของเก๊อ่ะนะ ไอ้ของพวกนี้มันก็แค่ยาอียาไอซ์ที่เสพไปก็จะเคลิ้มๆ พวกนักเสพแม่งก็มโนไปเองว่าอาการเมายาเป็นความรู้สึกรัก ไอ้ไก่อ่อนพวกนี้มันรู้จักซะทีไหนกันล่ะรักๆชอบๆ

     


     

    แต่ก็นะ ต้องขอบคุณที่พวกมันสร้างอาชีพให้กับไก่แก่ฉลาดเป็นกรดอย่างผม

     


     

    เจ็ดหมื่น!


     

    บ๊ะ!ไอ้นี้ ยังจะต่อรอง!



     

    ไม่มีปัญญาก็ไม่ต้องเอา! มีคนอีกเยอะอยากได้ของกูผมเชิดใส่เหมือนสิงโตพองขน(?) จัดการยันแผ่นอกลูกค้ายาจกให้ออกไปห่างตัวและสะบัดก้นเดินหนีออกมา


     

    แต่ทว่า


     

    กริ๊ก...

     

    ผมถูกจับใส่กุญแจมืออย่างรวดเร็ว โดยฝีมือของบุรุษแปลกหน้า

     


     

    ว่าไงไอ้หนูหมอนั่นยักคิ้วเย้ยหยัน ตัวมันสูงกว่าผมราวครึ่งฟุตได้ ยูนิฟอร์มฟ้องชัดว่าเป็นคนของพวกตำรวจ


     

    ผมหันไปมองลูกค้า  รายนั้นยิ้มกริ่ม คงสะใจที่แผนล่อซื้อประสบความสำเร็จอย่างงดงาม


     

    ปล่อยผมพูดสั้นๆง่ายๆ พยายามใจเย็นอย่างถึงที่สุด แม้จะขาอ่อนไปหมดแล้วก็ตาม


     

    ไอ้ตำรวจตัวสูงเดินวนอ้อมมาอยู่ทางด้านหลังและเริ่มดุนผมให้ออกเดิน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันกำลังทำการลากผมไปยัดตารางข้อหามียาเสพติดในครอบครอง พ่วงด้วยอีกหลายสิบข้อหาที่ก็คงประดังประเดเข้ามาจนผมอาจจะต้องติดคุกไปซักหก-เจ็ดปี


     

    ไม่เอาอ่ะ...ยังไงผมก็ไม่ยอม

     


     

    ปล่อย...ผมพูดย้ำอีกครั้ง ขืนตัวด้วยการไม่ยอมเดินไปตามแรงผลักจากด้านหลัง


     

    เดินมันเค้นเสียงทำเป็นเข้ม


     

    ปล่อยดิ เดี๋ยวอมให้


     

     

    ปั่ก!

     

    หมอนั่นซัดสันมือเข้ากลางหลังผมอย่างแรงจนตับผมแทบพุ่งออกปาก ...ไอ้เหี้ยย ไม่ชอบก็บอกกันดีๆดิวะ!

     


     

    ปล่อย! ครั้งนี้ครั้งแรกเองนะเว้ย ใจคอจะไม่ให้โอกาสประชาชนบ้างเลยไง๊?!” ผมเอี้ยวคอไปยื่นอุทธรณ์กับคนข้างหลัง แต่นอกจากสายตาเย็นชาและกำลังมหาศาลที่ทั้งผลักทั้งดันไม่หยุดหย่อน ผมก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆอีก

     



     

    ไม่นานผมก็ถูกยัดเข้าไปในเจ็ทส่วนตัวของกรมตำรวจ  นับหนึ่งไม่ถึงสามยานพาหนะที่ผมเพิ่งเคยได้สัมผัสเป็นบุญตูดครั้งแรกก็ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าอย่างรวดเร็ว

     


     

    อายุเท่าไหร่?”

     

    แปดหมื่น


     

    แล้วไอ้ตำรวจซาดิสม์ก็ตบหัวผมดังป้าบ จากนั้นเขาก็ไม่ถามอะไรอีก  มือแกร่งจับผมตรึงไว้กับเบาะหนัง ก่อนที่เขาจะทำการค้นตัวเพื่อหาหลักฐานแสดงตัวตนของผม


     

    ร่างของผมเซวูบไปชิดกระจกตอนที่คนขับเลี้ยวยานบินหลบยอดตึกไพเรทวัน ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดของกรุงโซลในยุคนี้


     

    ฉันชื่อปาร์คชานยอลเขาบอกตอนล้วงมือเข้ามาในเสื้อยืดของผม มือใหญ่นั้นคลำสะเปะสะปะไปทั่ว แต่นอกจากไขมัน สะดือ และหัวนม หมอนั่นก็ได้ห่าไรติดไม้ติดมือไปหรอก


     

    งานนี้นายคงกินนอนในคุกไปอีกหลายปีเขาพูดเสียงเรียบ พร้อมๆกับที่สอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง


     

    แล้วกระเป๋าตังค์ลายหมีควายใบโปรดของผม ก็ถูกตำรวจมารยาททรามควักไปสำรวจอย่างจาบจ้วง


     

    ข้างในมีเงินสามพันวอน  รูปรามยอนชีสในตำนานที่สูญพันธุ์ไปแล้ว กับใบเสร็จเน่าๆจากร้าน 7-11 ...แค่นั้น... ผมมีสมบัติติดตัวแค่นั้นแหละ

     


               “เฮ้ย!!” ผมร้องเสียงหลงตอนที่กางเกงลายทหารที่ใส่อยู่ถูกดึงออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันจะได้ยกเท้าขึ้นถีบป้องกันตัว ทั้งร่างก็ถูกจับพลิกให้นอนคว่ำจนเบ้าหน้าแนบไปกับเบาะที่พรมกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ แต่แม่งไม่ใช่เรื่องจะมาสูดดมส้นตีนอะไรกันตอนนี้!!


     

    ไอ้เหี้ย!! ไอ้ตำรวจรังแกประชาชน! ของร้านกูเน้นสะอาดไม่ยัดรูตูดโว๊ยยย!!  โอ๊ย กูอยากจะกรี๊ดด

     

     

    ไอ้ปาร์คโย่งที่ตามมาคร่อมทับอยู่ข้างหลังสวมถุงมือยางและดึงมันดังเปรี๊ยะให้เสียงนั้นบาดใจผมเล่นๆ ผมดิ้นขลุกขลักสู้สุดแรงเกิด ก่อนที่แข้งขาจะอ่อนปวกเปียกขึ้นมาโดยฉับพลันเมื่อนิ้วยาวแทรกเข้ามาพร้อมสารหล่อลื่น



     

     แม่เจ้า...กูโดนเปิดซิงด้วยการควานหาสารเสพติดในรูทวาร

     

    จบแล้ว ฟิคเรื่องนี้จบสิ้นที่บรรทัดนี้แหละ

     



     

    ฮื่อ..ผมหลุดครางอย่างเจ็บใจ  แว่วเสียงหัวเราะเบาๆมาจากทางด้านหลัง ..สนุก...สนุกมาก?


     

    ตัวแค่นี้ริอาจเดินยาแล้วนิ้วที่สองก็สอดเข้ามาเชื่องช้า  เดาว่าหมอนั่นรู้แล้วล่ะว่าผมไม่ได้ซุกหีบสมบัติห่าเหวอะไรไว้ เพราะที่นิ้วยาวๆนั่นทำอยู่เริ่มไม่ใช่การควานหาของละ  แม่งควานหาจุดแกล้งกันชัดๆ! 


     

    เหี้ยเอ๊ยย กูอยากจะพ่นไฟ!

     

     

    อย่าดูถูกกฏหมายหน่อยเลยเด็กน้อย


     

    อื้ออ...


     

    มันได้ไม่คุ้มเสียหรอก

     

     

    และที่เล่ามาทั้งหมด.. ก็คือการพบกันครั้งแรกระหว่างผมกับเขา

     

     

     

     

     

     


     

    TALK

     

    *หมายเห็ด Neck n Neck ก็คือ neck and neck

    เป็นสำนวนหมายถึงสูสีกัน เทียบเคียงกัน ฉะกันได้แบบฝีมือไม่ทิ้งห่าง ประมาณนี้


     

    1.ไม่ให้มีบอทนะคะ TT

    2.แท็กฟิค #fic3014

    3.ขอบคุณค้าบ ไปและ บ้ายบาย

     








     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×