คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : + Cruel + Number One
Number One
“เซฮุนนา...เซฮุนว่าชานยอลจะโกรธพี่ไหม?”
“...”
“พี่ทิ้งชานยอลออกมากับนายอีกแล้วน่ะ...”
“...”
“ชานยอลน่ะ...หวงพี่มากๆ เลย ตั้งแต่พี่คบกับเซฮุนพี่ก็ห่างกับเขา...”
“...”
“ทำไงดีเซฮุน...พี่ว่าพี่จะ...อื้อ!” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของคนตัวเล็กหยุดลงทันทีเมื่อถูกริมฝีปากของใครบางคนโน้มลงมาครอบครองโดยไม่ทันตั้งตัว รสฝาดของบุหรี่ยังติดที่ปลายลิ้นของคนตัวสูงถูกส่งความขมปร่ามายังลิ้นเล็กที่แสนหอมหวาน...ชิมกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ...
“อื้อ! พอแล้วเซฮุน...นี่มัน ระ ริมถนน อะ อื้อ!” ฝ่ามือเล็กทุบแผงอกกำยำของคนขี้แกล้งรัวๆ เนื่องจากที่ตรงนี้เป็นที่สาธารณะและที่สำคัญแบคฮยอนเองก็กลัวว่าจะเคลิ้มไปกับรสจูบนี้
...ก็เซฮุนน่ะ...จูบเก่งอย่างนี้! (ยกนิ้วโป้ง)...
“ผมไม่ชอบให้พี่พูดถึงคนอื่นเวลาอยู่กับผม”
“ขะ เข้าใจแล้ว...หยุดจูบสิเด็กบ้า! อื้อ!” ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เซฮุนจัดการดันตัวของแบคฮยอนให้แผ่นหลังบางนั้นแนบสนิทกับกำแพงก่อนจะยกมือประคองใบหน้าหวานของแฟนที่รักไม่ให้ขยับหนี เรียวลิ้นร้อนส่งเข้าไปเกี่ยวกระหวัดหาความหวานอย่างไม่รู้จักพอ แบคฮยอนที่พยายามดันคนไมรู้กาลเทศะออกในตอนแรกก็กลับเปลี่ยนเป็นโน้มคอคนตัวสูงไว้กดใบหน้าเซฮุนเพื่อจะได้แลกสัมผัสกันให้มากขึ้น
แบคฮยอนรู้...รู้ว่ายิ่งห้าม ก็คือยิ่งยุ
จะหยุดเซฮุนน่ะหรอ?
ก็ง่ายๆ...
ปล่อยให้เซฮุนเอาเปรียบเขาจนกว่าเซฮุนจะพอใจยังไงล่ะ...
“แฮ่ก แฮ่ก...”
“ยอมแต่แรกผมก็ไม่ต้องขึงพี่กับกำแพงหรอกนะ” เอ่ยปากแซวคนตัวเล็กที่ตอนนี้ได้แต่ยืนหอบหายใจพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ...จูบนานไปหน่อย ลืมคิดไปเลยว่าพี่แบคฮยอนอาจจะหายใจไม่ทัน...หึหึ
“เด็กบ้า!”
“หึหึ...”
“ย่าห์! เลิกทำหน้ากวนประสาทพี่เดี๋ยวนี้เลยนะเซฮุน ไม่งั้นพี่จะโกรธแล้วนะ!”
“โอเคครับๆ...ทีนี้เราก็เดินไปมหาลัยกันต่อโดยไม่ต้องพูดถึงใครแล้วเข้าใจนะ?”
“อะ...อื้อ” ใบหน้าหล่อยิ้มกว้างเมื่อแบคฮยอนคนสวยของเขาพยักหน้าราวกับแมวน้อยที่แสนเชื่อง เซฮุนมีความสุข...มีความสุขที่ได้อยู่กับแบคฮยอนแค่สองต่อสอง ถึงจะเพิ่งคบกันได้ไม่นานและอีกไม่กี่วันก็จะครบรอบหนึ่งเดือน แต่เซฮุนบอกได้เลยว่า เขา ‘รัก’ แบคฮยอนมาก...มากกว่าทุกคนที่เคยรัก
อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญที่วันนั้นเขาวิ่งมาถามทางไปหอประชุมกับแบคฮยอนจนทำให้เขาเริ่มรู้จักกับแบคฮยอน เจอกันในที่ต่างๆ บ่อยขึ้น ก็เริ่มขอเบอร์ เริ่มโทรคุย เริ่มไปดูหนังทานข้าว สุดท้ายเขากับแบคฮยอนก็ตกลงคบกัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาที่เขาจีบแบคฮยอนนั้นจะมีอุปสรรคคอยขัดขวางอยู่บ้างแต่เขาก็สามารถเอาชนะอุปสรรคที่น่ารำคาญมาได้
อุปสรรคที่ชื่อว่า ‘ปาร์คชานยอล’
ไม่ใช่ว่าเซฮุนไม่รู้ว่าชานยอลคิดยังไงกับรุ่นพี่ตัวเล็กของเขา เซฮุนรู้ดี...สายตาที่ชานยอลมองแบคฮยอนมันเหมือนกับที่เขามองแบคฮยอนไม่มีผิด และยิ่งเด่นชัดเมื่อสายตาที่ชานยอลมองเขา...ราวกับว่าจะฆ่าเขาให้ตายซะเดี๋ยวนั้น...ยิ่งตอกย้ำให้เซฮุนรู้ว่าเขากำลังแย่งของรักของใครบางคนมา
แต่เรื่องความรักไม่มีใครยอมใครหรอก เซฮุนถือคติว่าแบคฮยอนไม่ได้รักชานยอลซะอย่าง เพราะฉะนั้นเขาก็มีสิทธิ์ที่จะรับตำแหน่งเจ้าของหัวใจมา...ใช่ไหมล่ะ?
“วันนี้เลิกเรียนกี่โมงครับ?”
“เรียนแค่เที่ยงน่ะ ช่วงบ่ายไม่มีเรียนแล้ว”
“งั้นดีเลย...พี่ไปคณะผมได้ไหม?”
“หื้ม? ไปทำไมหรอ?”
“เถอะน่า...ไปนะ? นะครับ” พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนก่อนจะคว้าเอาข้อมือเรียวเล็กของคนน่ารักขึ้นมากดจูบลงไปอย่างแผ่วเบา...
“ก็ได้...เห็นว่านายลงทุนอ้อนหรอกนะ” ตอบกลับออกไปทั้งๆ ที่สีของแก้มยังคงแดงระเรื่อ...ถึงแบคฮยอนกับเซฮุนจะไม่ได้รักกันอย่างหวือหวา แต่การที่คนเย็นชาอย่างเซฮุนจะมารักและอ้อนแบคฮยอนมันก็เป็นอะไรที่ทำให้คนอย่างแบคฮยอนมีความสุขแล้วล่ะ...
วันนี้ตลอดช่วงที่เรียนชานยอลไม่แม้แต่จะมองหน้าแบคฮยอนสักครั้ง...โอเค...แบคฮยอนเข้าใจว่าชานยอลคงกำลังจะโกรธที่แบคฮยอนทิ้งให้ชานยอลทานอาหารเช้าคนเดียว...อีกแล้ว
แต่แบคฮยอนไม่รู้จะอ้อนคนตัวสูงยังไงแล้วเหมือนกัน เพราะในเมื่อเขาทั้งอ้อน ทั้งกอดแขน หรือแม้กระทั่งหอมแก้ม...ชานยอลก็ยังไม่ยอมสนใจแบคฮยอนสักที
บางทีแบคฮยอนก็เริ่มท้อ...ใช่ว่าแบคฮยอนมีแฟนแล้วจะเป็นเพื่อนกับชานยอลไม่ได้สักหน่อย
ชานยอลไม่เคยเข้าใจอะไรเลย ไม่ให้ความเป็นส่วนตัวกันเลย
ไม่เคยเข้าใจตัวเล็กเลย...
“ชานยอล...ถ้ายังไม่หายงอนตัวเล็กอีก...ตัวเล็กจะงอนชานยอลกลับแล้วนะ...ตัวเล็กเหนื่อยแล้ว...ตัวเล็กอ้อนจนไม่รู้จะอ้อนยังไงแล้ว...ชานยอลไม่รักตัวเล็กแล้วหรอ?” สรรพนามที่เพื่อนตัวสูงชอบเรียกแบคฮยอนบ่อยๆ ถูกเอ่ยออกมากปากของคนตัวเล็กเพื่อเป็นการง้อในครั้งสุดท้าย แบคฮยอนจนตรอกกับการง้อครั้งนี้แล้วจริงๆ
ชานยอลถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อไล่ความหงุดหงิดในใจออกไปก่อนจะคว้าร่างบางเข้ามาสวมกอดแล้วสูดดมความหอมหวานเข้ามาเต็มปอดให้ชื่นใจ...แบคฮยอนเองก็ไม่ได้ขัดขืน...ขอเพียงแค่ชานยอลหายโกรธแบคฮยอนก็ยอมทุกอย่าง
“กอดให้แน่นๆ ก็ได้ถ้ามันจะทำให้ชานยอลกลับมาเป็นชานยอลที่น่ารักคนเดิม...” แบคฮยอนพูดเสียงอู้อี้แล้วซุกหน้าเข้ากับแผงอกของชานยอลอีกครั้ง...ถึงจะอึดอัดที่ชานยอลชอบงอนโดยไม่มีเหตุผล แต่ทุกครั้งที่ได้กอดชานยอลแบคฮยอนก็ลืมเรื่องราวเหล่านั้นไปเสียหมด แล้วเลือกจดจำเพียงแต่ชานยอลที่อบอุ่นเสมอ
“ถ้าให้ทำแบบนั้นฉันเกรงว่านายจะกระดูกหักน่ะสิตัวเล็ก” หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะผละให้คนตัวเล็กได้เป็นอิสระ แต่ก็ไม่วายจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากมนหนึ่งครั้ง
“เดี๋ยวเถอะ...ฉวยโอกาสอีกแล้วนะชานยอล”
“นิดๆ หน่อยๆ เอง...แค่พอชื่นใจ” ว่าแล้วก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาใกล้อีกครั้ง บรรจงจูบที่เปลือกตาไล้ลงมาที่สันจมูก...พวงแก้มใสที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ...ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมายังริมฝีปาก...
“พี่แบคฮยอน!”
คล้ายกับเสียงประกาศิตให้ทุกอย่างจบลง แบคฮยอนผละออกจากตัวชานยอลทันทีที่ได้ยินเสียงของคนรักของตน...เรียกความคุกกรุ่นในใจของชานยอลไม่น้อย
“กรุณาทำตัวให้เหมาะสมกับพี่แบคฮยอนด้วยนะครับพี่ชานยอล...นั่นแฟนผม” ว่าพลางเดินเข้าไปดึงแขนคนตัวเล็กให้หลุดออกจากท่อนแขนที่น่ารังเกียจของชานยอล
...เขาสองคนไม่ถูกกันแบคฮยอนรู้...
“ไปรอผมที่รถครับพี่แบคฮยอน รถจอดอยู่หน้าคณะ”
“แต่...”
“ไม่มีแต่นะครับคนดี...ไปรอผมนะ”
“...”
“ผมสัญญาว่าเราจะไม่มีเรื่องชกต่อยกัน”
“...”
“เชื่อใจผมไหม?”
“อะ อื้อ...ขอโทษนะชานยอล” หลังจากที่แบคฮยอนเดินออกไปแล้ว บรรยากาหวานฉ่ำในช่วงเวลาสั้นๆ ก็มลายหายไปหมด...เพราะไอ้เด็กเปรตนี่แท้ๆ...
“นั่นมันสิ่งที่ฉันทำประจำ...ฉันไม่ถือว่ามัน...”
“แต่ตอนนี้พี่แบคฮยอนเป็นแฟนผมแล้ว พี่น่าจะเข้าใจสถานะตัวเองซักทีว่าไม่มีสิทธิ์”
“แล้วยังไงล่ะ...ถึงจะไม่มีสิทธิ์...แต่ก็ได้ทำอะไรๆ มากกว่าที่แกทำอยู่แล้ว” พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่า...ใช่...ถึงมันจะได้หัวใจแบคฮยอนไป...แต่ชานยอลจะต้องเหนือกว่า
“มันก็ไม่แน่นะ...บางที...วันสำคัญที่กำลังจะถึงนี้...ผมอาจจะได้ทำอะไรที่มันมากกว่าที่พี่ได้ทำก็ได้นะครับ...”
“แกจะทำอะไร!” ตวาดออกไปด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อคนที่ทำหน้าตายียวนในทันที...ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวแบคฮยอน!
“ทำอะไรดีล่ะ?...วันสำคัญของพี่...”
“แก...”
“ฮะๆ...ผมไม่เลวขนาดทำอะไรเกินเลยกับพี่แบคฮยอนหรอกนะครับ”
“...”
“แค่อยากจะแสดงให้พี่รู้ถึงความสำคัญของตัวเอง”
“...”
“คอยดูแล้วกันว่าวันสำคัญของพี่...พี่จะยังสำคัญอยู่รึเปล่า...” เซฮุนเหยียดยิ้มราวกับราชสีห์ที่ได้รับชัยชนะ...ถึงจะแค่เบื้องต้นในวันนี้...แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีในวันหน้า เซฮุนปัดข้อมือหนาของชานยอลออกอยากแรงก่อนจะค่อยๆ เดินออกจากห้องอย่างกวนประสาท...เอี้ยวคอกลับมาทิ้งประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินยิ้มร่าอย่างมีความสุขออกไป
“...สำหรับวันนี้...
ผ ม ช น ะ ”
โครม!
โต๊ะเรียนในคลาสกระจัดกระจายไม่มีทิศทางด้วยน้ำมือของคนอารมณ์ร้อนในห้อง เก้าอี้นั่งอย่างดีถูกชานยอลยกขึ้นมาเหนือหัวแล้วเหวี่ยงไปยังประตูที่เซฮุนเดินจากไปแล้ว
ถ้าไม่ติดว่ากลัวแบคฮยอนจะเกลียด
สาบานเลยว่าไอ้สารเลวเซฮุนนั่น...
ตาย คา ตีน ชานยอลแน่ๆ!
"ฮึก...ฮื่อ!...” เสียงหวานครางในลำคออย่างช่วยไม่ได้ เมื่อจู่ๆ ก็ถูกแฟนหนุ่มขี้หึงพุ่งเข้าครอบครองริมฝีปากอวบอิ่มโดยไม่ทันตั้งตัว ฝ่ามือเรียวเล็กออกแรงผลักอกกว้างออกด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่ด้วยความโชคร้ายที่ดันเกิดมานอกจากจะมีร่างกายที่บอบบางแล้ว เรี่ยวแรงตามประสาผู้ชายที่ควรจะมีก็เล็กน้อยตามไปด้วย ที่ทำได้ก็แค่...ปล่อยให้คนขี้หวงรังแกจนกว่าจะพอใจ
ฟันคมกัดฉับลงที่ริมฝีปากล่างของคนตัวเล็กเพื่อที่จะเบิกทางเข้าไปลิ้มรสจูบที่แสนหวาน ทำเอาคนถูกกระทำถึงกับต้องยู่หน้าด้วยความเจ็บปวด แต่ถึงอย่างนั้นเซฮุนก็ยังคงบรรจงมอบจูบแล้วจูบเล่าจนหนำใจ
“เจ็บนะเซฮุน...” ทันทีที่เป็นอิสระจากการทำโทษ คนตัวเล็กก็ต้องเอ็ดแฟนหนุ่มด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ...ทั้งเจ็บ ทั้งอาย เพราะเซฮุนเล่นจูบเขาหน้าคณะ คนอยู่เยอะจะตาย
“ทีหลังจะทำอะไรพี่ต้องระวังหน่อย ผมอนุญาติให้พี่กอดหมอนั่นได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้มันจูบพี่ได้เข้าใจไหม?”
“พูดจาไม่เพราะเลยเซฮุน เรียกชานยอลว่า...”
“ผมไม่เคารพมัน!” เซฮุนประกาศกร้าวด้วยความลืมตัว ทำเอาคนที่อยู่ระแวกนั้นถึงกับสะดุ้งขนลุกกันไปเป็นแถบ แม้กระทั่ง...รุ่นพี่ตัวเล็กคนนี้ด้วย
“ขะ ขอโทษครับ...ผมไม่ได้ตั้งใจ” กล่าวขอโทษที่เผลอทำตัวไม่น่ารักออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนลงพร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงความรู้สึกผิด แบคฮยอนเห็นอย่างนั้นก็ได้แต่ส่งยิ้มบางๆ ไปให้แฟนหนุ่มรุ่นน้อง ถึงเซฮุนจะเป็นเด็กก้าวร้าวเอาแต่ใจแค่ไหน แต่กับแบคฮยอนแล้ว เซฮุนก็เหมือนกับเด็กน้อยน่ารักที่กลัวเกรงพี่ชายเป็นอย่างมาก...แค่ไม่รวมเวลาที่เซฮุนทำตัวรุ่มร่ามน่ะนะ
“เฮ้ยๆ ไอ้ฮุนพาแฟนมาเปิดตัวเว่ยยยยยย!” เสียงเฮฮาดังลั่นโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ของคณะวิศวะฯ ทำเอาคนถูกพามาด้วยต้องก้มหน้างุดๆ เพื่อปกปิดความเขินอาย
...ที่พามาคณะก็เพราะจะพามาเปิดตัวงั้นเหรอ?....
...เจ้าเด็กบ้า!...
“เจ้าจอร์ดดดดดดดดด แฟนแม่งโคตรน่ารักอ่ะ”
“พี่ไปหลงอะไรไอ้หน้าเหียกอย่างฮุนได้ครับพี่น่ารัก”
“พี่จิ้มลิ้มมากเลย แก้มงี้แดงน่าฟัดเชียว!”
“ปากพี่ก็น่าจุ๊บนะครับ ดูสิชมพูระเรื่อเลย”
“เฮ้ยทะลึ่งแล้วไอ้พวกเวร! กูพามาเปิดตัวไม่ได้พามาให้มึงแทะโลมแฟนกู” เซฮุนถึงกับควันออกหูเมื่อถูกเพื่อนๆ จอมกวนเอ่ยแซวแบคฮยอนอย่างไม่หยุดหย่อน เล่นเอาหวานใจของเขาถึงกับทำตัวไม่ถูก ก้มหน้าชิดอกจนแทบจะทะลุเขาไปได้อยู่แล้ว ทั้งยังหน้าแดงลามไปถึงใบหูอีกด้วย
...จุ้บ...
“เขินน่ารักจังครับ” กระซิบเสียงหวานใส่ข้างหูคนขี้อายหลังจากขโมยหอมแก้มต่อหน้าเพื่อนๆ
“ซะ เซฮุน!” ถลึงตาคาดโทษเซฮุนอย่างเอาเรื่อง โทษฐานทำตัวหน้าอายในที่สาธารณะอีกแล้ว พอหันไปมองกลุ่มเพื่อนของเซฮุนก็แทบลมจับ ทุกคนส่งสายตาหยาดเยิ้มเชิงล้อเลียนมาให้กันยกใหญ่
“เห็นหัวฉันบ้างก็ดีนะไอ้เด็กเปรต...”
“อ้าวเฮีย! โทษๆ ผมไม่เห็นว่าเฮียนั่งอยู่ด้วย” เบือนสายตามองไปยังเจ้าของเสียงทุ้มที่ฟังดูแล้วน่าเกรงขามก็พบกับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าคนๆ นี้หล่อกว่าแฟนตัวเองเสียอีก
“อ่า...คนนี้ชื่อพี่คริสครับอยู่ปีสี่ แล้วนี่ก็พี่แบคฮยอนครับพี่ แฟนที่ผมชอบเล่าให้ฟังบ่อยๆ” เซฮุนเอ่ยแนะนำให้รุ่นพี่ที่เคารพกับคนรักได้รู้จักกันไว้
“สวัสดีครับ” แบคฮยอนโค้งให้คริสตามมารยาทก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วสบเข้ากับสายตาคมกริบที่อีกฝ่ายส่งมาให้...รู้สึกขนลุกอย่างแปลกประหลาด...
“เซฮุน อาจารย์คิมเรียกกลุ่มนายเข้าไปคุยเรื่องโปรเจค ท่าทางจะมีปัญหาน่ะ” ยังไม่ทันได้แนะนำให้รู้จักมักจี่กันดี จู่ๆ เสียงหวานน่าฟังของใครบางคนก็เรียกเซฮุนให้เข้าไปคุยเรื่องโปรเจค
ต้นแขนแกร่งของเซฮุนถูกใครบางคนสอดมือเข้ามาเกี่ยวไว้กอดแนบอกกับตัวเองแน่น รอยยิ้มแสนสวยปรากฏขึ้นบนใบหน้าผู้มาใหม่
สวย
สวยกว่าแบคฮยอนเสียอีก
“อ่า...พี่ลู่หาน”
“ทำอะไรกันอยู่น่ะเด็กๆ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ไอ้ฮุนพาแฟนมาเปิดตัวครับพี่ลู่หาน” หนึ่งในบรรดาเพื่อนเซฮุนออกปากตอบไปพร้อมกับยกยิ้มล้อเลียนไปมาที่ตนเอง ดวงตาคมกริบตวัดมองที่แบคฮยอนพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“แฟน?”
“ครับ นี่พี่แบคฮยอนคนที่ผมพูดถึงบ่อยๆ”
“อ่อ...” ลู่หานดูจะหน้าเสียไปในถนัดตาเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร แต่กระนั้นแล้วก็ยังคงกอดแขนเซฮุนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังดูเหมือนจะกอดแน่นมากขึ้นด้วย
“เป็นไงครับ แฟนผมน่ารักไหมพี่ลู่หาน” เซฮุนเอ่ยถามลู่หานพลางหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนที่เขินอยู่แล้วก็น่าแดงขึ้นไปอีก แต่หารู้ไม่ว่าในใจของแบคฮยอนกำลังปั่นปวนไปหมด
“อือ...” ลู่หานตอบกลับมาสั้นๆ แม้จะไม่มีใครสังเกตเห็นในความผิดปกติ แต่แบคฮยอนเห็น น้ำเสียงเรียบนิ่งที่เหมือนกับไม่อยากจะตอบ บวกกับดวงตาที่จ้องแบคฮยอนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
...แค่นี้แบคฮยอนก็พอจะเดาอะไรออกแล้ว...
“ไปกันเถอะเซฮุน เดี๋ยวไปช้าอาจารย์จะว่าเอาได้นะ” เจ้าตัวมุ่ยหน้าหงุดหงิดทันทีที่ได้รับข่าว พร้อมกับออกปากเรียกเพื่อนๆ สี่คนที่นั่งส่งสายตาแพรวพราวให้แฟนตัวเองรีบๆ เข้าไปคุยงาน
“ขอโทษทีนะพี่แบคฮยอน ยังไงพี่ก็อยู่ทำความรู้จักกับพี่คริสไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวผมรีบกลับมานะ” ว่าแล้วก็ออกแรงผลักร่างบางให้ลงไปนั่งข้างกับรุ่นพี่ที่แสนไว้ใจก่อนจะรีบวิ่งเข้าตึกไปพร้อมกับเพื่อนๆ
และถ้ามองไม่เห็น เหมือนลู่หานจะแอบหันหลังมาแสยะยิ้มให้แบคฮยอนด้วยหนึ่งครั้ง ก่อนจะกอดแขนเอาหัวพิงไหล่เซฮุนเดินไปทิ้งให้เขาอยู่กับคริสเพียงแค่สองคน
วินาทีที่ไหล่ตัวเองสัมผัสกับคนข้างกายเบาๆ ทำเอาหัวใจเต้นแรงอย่างฉุดไม่อยู่ เพราะแบคฮยอนรู้สึกกลัว กลัวคนข้างๆ เป็นอย่างมากทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไร แต่ความรู้สึกในใจคือบอกให้ลุกไปนั่งอีกฝั่งจะดีกว่า แต่ลุกได้ไม่ทันไรก็ถูกมือหนาจับไว้
“จะไปไหน”
“เอ่อ...ไปนั่งฝั่งตรงข้ามครับ”
“ไปทำไม”
“คะ คือ...” น้ำเสียงแข็งกระด้างบวกกับความรู้สึกอึดอัดทำให้แบคฮยอนพูดไม่ออก ลางสังหรแบคฮยอนไม่ผิดแน่...คริสไม่ชอบเขา
“นั่งนี่แหล่ะ เซฮุนบอกให้ทำความรู้จักกันไม่ใช่หรอ?” ว่าแล้วก็คว้าเอวบางแฟนของรุ่นน้องขึ้นมานั่งบนตักตัวเองอย่างรวดเร็ว ทำเอาแบคฮยอนตกใจเผลอตวาดออกไปด้วยความกลัว
“พี่คริสครับ!” ร่างเล็กพยายามดิ้นหนีหากแต่แรงที่มีนั้นก็น้อยเกินไป หันซ้ายหันขวาจะมองหาใครซักคนช่วยก็คงยาก โต๊ะที่เขากับคริสนั่งอยู่ดันมีต้นไม้ใหญ่บังโต๊ะไว้ ทั้งยังอยู่ไกลผู้คนมากเสียด้วย
“อ้ะ!” ตาเรียวเล็กเบิกกว้างทันทีที่ถูกมือหยาบกร้านสะกิดเข้าที่ยอดอกของตน พยายามยกมือปัดป้องพัลวันพร้อมกับส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หากแต่คนเจ้าเล่ห์ก็เอ่ยดักขึ้นมาก่อน
“ร้องสิ...ร้องให้คนช่วย ให้คนเข้าใจผิดเยอะๆ...รวมถึงแฟนนายด้วย” ราวกับถูกตบหน้า จะตะโกนขอร้องใครก็คงทำไม่ได้แล้ว ถ้าเซฮุนเข้าใจผิด...แบคฮยอนไม่อยากจะคิดเลย
“ฮ่ะ!” สะดุ้งตัวโยนอีกครั้งเมื่อคริสเปลี่ยนเป้าหมายเป็นสิ่งอ่อนไหวภายในใต้กางเกง ออกแรงลูบคลำอย่างสนุกสนานโดยที่มืออีกข้างก็รวบข้อมือเรียวบางเอาไว้ไม่ให้ขัดขืน หัวใจดวงน้อยรู้สึกเหมือนโดนมีดกรีด ความเจ็บปวดและความกลัวบวกกับความอับอายผสมปนเปกันไปหมด
คริสบีบแขนแบคฮยอนอย่างแรงเมื่อเหยื่อความสนุกของเขากำลังหาทางรอดอย่างบ้าคลั่งจนเขาหงุดหงิด เปลี่ยนท่าทางเป็นรวบกอดให้แขนเล็กพับอยู่ที่ตรงหน้าอกตัวเองจะได้ทุบตีหรือขัดขืนไม่ได้อีก
ริมฝีปากหนาจัดการกดจูบลงไปที่ซอกคอแสนหอมหวานเพื่อสร้างรอยประทับเอาไว้ แบคฮยอนที่กำลังกลัวกับเหตุการณ์นี้ถึงกับน้ำตาร่วง หยาดน้ำใสไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่เมื่อคริสพยายามดึงเสื้อเขาออกจากกางเกงเพื่อที่จะสอดมือเข้าไปสัมผัสกับผิวเนียนนุ่ม
แบคฮยอนใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่ตนพอมีจิกเข้าไปที่ใบหน้าของคริสเพื่อหาทางรอด คริสส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บก่อนจะผลักร่างบางให้หลุดออกจากตัว แบคฮยอนที่เป็นอิสระแล้วจึงรีบวิ่งไปยังรถของคนรักแล้วกดโทรหาเซฮุนทันที โชคยังเข้าข้างแบคฮยอนอยู่บ้างที่เซฮุนคุยกับอาจารย์เสร็จพอดีจึงทำให้แบคฮยอนรอดตัวไปกับเหตุการณ์นี้
...เหตุการณ์ที่บยอนแบคฮยอนไม่อยากจดจำ...
อึดอัดเกินไปแล้ว...สารถีหนุ่มสุดหล่อที่กำลังขับพาหนะสุดหรูไปส่งแฟนตัวเล็กที่คณะเดิมยู่หน้าหงุดหงิดกับบรรยากาศในรถ ตั้งแต่ที่เขารีบกุลีกุจรไปหาแฟนสุดที่รักที่บอกว่ารออยู่ที่รถก็ต้องตกใจกับดวงตาแดงก่ำราวกับเพิ่งร้องไห้ไปเมื่อครู่ เซฮุนเอ่ยปากถามแล้วแต่ก็ได้รับเพียงความเงียบ เขาจึงไม่คิดจะเซ้าซี้อะไร เพราะรู้ดีว่าแบคฮยอนนั้นถ้าคิดจะไม่พูดแล้ว ต่อให้คาดคั้นมากแค่ไหนก็ไม่ยอมพูด
แต่ไม่ใช่จะปั้นหน้านิ่งใส่กันในขณะที่อยู่กันสองต่อสองแบบนี้นี่นา...
“พี่แบคฮยอนครับ”
“...”
“พี่แบคฮยอน...”
“...”
“...ที่รัก...”
“เฮือก!” ทันทีที่ฝ่ามือหนาสัมผัสเข้าที่ไหล่บาง คนตัวเล็กที่กำลังเหม่ออยู่ถึงกับสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์จนเผลอสะบัดตัวหนีเซฮุน
“พะ...พี่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ถึงกับชะงักค้างไปทันทีกับปฏิกิริยาตอบโต้นั้น
“ขะ ขอโทษนะเซฮุน คือพี่กำลังคิดอะไรเพลินๆ น่ะ” แบคฮยอนได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้เซฮุนก่อนจะหันหน้ากลับไปมองข้างทางอีกครั้ง เซฮุนฮึดฮัดกับท่าทางของร่างบางเล็กน้อย ถ้าเดาไม่ผิด รุ่นพี่หน้าหวานคนนี้คงจะมีเรื่องกังวลใจอยู่เป็นแน่ แต่เซฮุนก็ไม่ชอบที่แบคฮยอนมักจะเงียบแล้วเก็บความทุกข์ไว้คนเดียวแบบนี้
“ผมกำลังจะโกรธพี่นะ”
“หืม?” รีบหันหน้ากลับมามองเจ้าของเสียงหงุดหงิดเมื่อครู่ทันที แบคฮยอนเลิกคิ้วพลางเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย
“พี่เมินผมอีกแล้ว” ว่าออกไปโดยที่ดวงตายังคงจ้องเขม็งอย่างไม่ลดละ
“พี่ไม่ได้เมินนะ พี่แค่...”
“คิดถึงแต่คนอื่นจนไม่สนใจผม!”
“เซฮุนไม่เอาน่า...”
“...”
“พี่ต้องง้อนายหรอ?”
“...” สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบงัน เซฮุนเลือกที่จะเบือนหน้ากลับไปมองทางข้างหน้าโดยที่หัวคิ้วยังคงขมวดชนกัน
“โอเคๆ ง้อก็ได้” เมื่อเห็นว่าโดนงอนจริงๆ เข้าแล้ว แบคฮยอนเลยขยับตัวเอี้ยวไปทางฝั่งคนขับเล็กน้อยก่อนจะหอมแก้มคนขี้งอนไปเต็มแรง
ฟอดดดดดด~ ไม่หายงอนก็ให้มันรู้ไป!
“แก้มนุ่มจัง ขอพี่หอมอีกข้างได้ไหม?” พูดเสียงติดตลกแล้วรอดูปฏิกิริยาคนข้างๆ เจ้าตัวเบะปากเหมือนเด็กเล็กน้อยก่อนจะชะลอความเร็วรถแล้วจอดพอดีที่หน้าคณะของแบคฮยอนในที่สุด
เซฮุนหันมามองหน้าแบคฮยอนครู่หนึ่งแล้วเปลี่ยนเป็นหันแก้มอีกข้างให้แบคฮยอน บ่นอุบอิบก่อนจะพองแก้มให้อีกฝ่ายหอมราวกับตัวเองเป็นเด็กตัวน้อยๆ
“หอมเร็วๆ แรงๆ เลยครับ ไม่งั้นผมงอนนานแน่ๆ”
“แล้วตกลงพี่เป็นอะไรบอกผมได้ไหม?”
“เปล่าหรอกก็แค่เครียดเรื่องเรียน”
“ผมไม่เชื่อครับ”
“เซฮุนนา”
“เราเป็นแฟนกันนะ ถ้าพี่มีปัญหาอะไรแล้วไม่บอกผมแบบนี้เราจะเรียกว่าแฟนได้ไง? อีกอย่างเราก็ไม่ใช่แค่แฟน แต่เราเป็นตั้งแฟนเลยนะครับ”
“...” แบคฮยอนได้แต่เม้มปากแน่น ชั่งใจว่าจะบอกเซฮุนดีไหมเรื่องคริส แต่ถ้าหากเซฮุนไม่เชื่อล่ะ? เพราะเซฮุนบอกเองว่าคริสคือรุ่นพี่ที่เขาเชื่อใจมากที่สุด แล้วระหว่างคริสกับแบคฮยอนล่ะ เซฮุนคงจะเลือกเชื่อรุ่นพี่ที่รักกันนานมากกว่าเชื่อแฟนที่เพิ่งคบกันได้เดือนเดียวอยู่แล้ว
“ถ้าพี่ไม่บอกผมก็ไม่เป็นไร แต่เอาเป็นว่าวันนี้พี่ไปนอนกับผมโอเคนะ? พอดีเลยศุกร์เสาร์อาทิตย์”
“อ่า...ชานยอลคง..”
“ชานยอลก็คงเข้าใจ พี่กับผมเป็นแฟนกันนะ เขาเป็นแค่เพื่อน เขาไม่มีสิทธิ์โกรธในเรื่องส่วนตัวของพี่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพี่ต้องไปนอนที่คอนโดผม”
“อะ อือ”
“ดีมากครับคนดี”
จุ้บ~ พูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปมอบจุมพิตบางเบาแต่แฝงไปด้วยความหอมหวานให้คนตัวเล็ก เรียกสีแดงระเรื่อปรากฏบนแก้มใสอย่างช่วยไม่ได้
รถยนต์คันหรูเปลี่ยนเป้าหมายจากที่จะมาส่งหวานใจที่คณะกลายเป็นออกตัวเลยคณะแล้วมุ่งหน้าไปสู่คอนโดเจ้าของรถแทน โดยที่ไม่รู้เลยว่าใครบางคนต้องยืนกำหมัดมองคนสองคนพลอดรักกันในรถหน้าคณะอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว...
“ทำรายงานเสร็จหรือยังครับ นี่จะเที่ยงคืนแล้วนะ”
“เสร็จพอดีเลย”
“แล้วนี่เป็นอะไรอีกครับ สีหน้าพี่ดูไม่ค่อยดีเลยนะ ปวดหัวหรอ” เอื้อมมือหนาของตัวเองแตะเบาๆ ที่หน้าผากมน แบคฮยอนเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเซฮุนแล้วก็อดยิ้มดีใจไม่ได้ที่มีคนเป็นห่วงตัวเองมากขนาดนี้ มือบางยกขึ้นจับฝ่ามือหนาของคนตรงหน้าเปลี่ยนมาแนบแก้มเนียนนุ่มของตัวเองแทน
“ไม่ได้เป็นอะไร มีเซฮุนดูแลพี่ขนาดนี้ก็ไม่กล้าป่วยแล้ว”
“ปากหวานจริงครับ ขอชิมได้ไหม”
“ง่า...อย่ามาเล่นมุขนี้นะ พอเลยไม่ยุ่งด้วยแล้ว” สะบัดหน้าอย่างงอนๆ ที่ถูกเด็กเจ้าเล่ห์จ้องจะเอาเปรียบเขาอีกแล้ว
“ว่าแต่ไม่มีใครโทรมาหาพี่หรอ”
“!” เซฮุนหน้าตึงไปทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น มือถือของแบคฮยอนเซฮุนขอเอามาเก็บไว้กับตัวเมื่อราวๆ หลายชั่วโมงก่อน โดยอ้างว่าคนตัวเล็กจะได้มีสมาธิอยู่กับงาน
“ถ้าพี่หมายถึงชานยอลล่ะก็ไม่ครับ”
“พี่ไม่ได้หมายความว่า...”
“ไปอาบน้ำดีกว่านะครับ ผมรอที่จะได้นอนกอดพี่แทบไม่ไหวแล้วนะ” เปลี่ยนเรื่องแทบจะทันที เซฮุนออกแรงดันหลังแบคฮยอนให้เดินเข้าห้องน้ำไป หอมแก้มนิ่มอีกครั้ง ก่อนจะละตัวเดินออกมายังระเบียงห้อง
โทรศัพท์มือถือของคนตัวเล็กถูกหยิบขึ้นมาดู มิสคอลร้อยกว่าสายที่โทรเข้ามาทำให้เซฮุนยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
‘169 miss call Chanyeol’
ยกยิ้มได้ไม่นานโทรศัพท์เครื่องหรูก็สั่นขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เซฮุนไม่ได้ปล่อยทิ้งไว้เหมือนรอบก่อนๆ เขาหัวเราะน้อยๆ สไลด์หน้าจอตอบรับช้าๆ
“พี่แบคฮยอนอาบน้ำอยู่”
[!]
“เป็นอะไรไปครับ จำเสียงผมไม่ได้หรอ?”
[กะ แก!]
“มีธุระอะไรกับแฟนผมหรือเปล่า ถ้ามีฝากบอกไว้ได้นะครับ แต่ถ้าจะคุยกับเจ้าของเครื่อง ขอบอกเลยว่าไม่!”
[ทำไมแบคฮยอนไม่กลับหอ]
“ก็บอกว่ามานอนกับผมไง” จงใจยั่วอีกคนโดยย้ำคำว่า ‘นอน’ เสียงดังหนักแน่น
[อย่าทำอะไรแบคฮยอนนะไอ้สารเลว]
“ทำอะไรครับ? ถ้าพี่หมายถึงทำร้ายร่างกายน่ะผมไม่ทำคนที่ผมรักอยู่แล้ว แต่ถ้าทำอย่างอื่นมันก็ไม่แน่ ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าคนรักของผมเขาจะยอมหรืออยากเองหรือเปล่า”
[ไอ้สัตว์นรก!]
“พูดแบบนี้ไม่ดีเลยนะครับ ทำตัวเป็นหมาบ้าไปได้ ของตัวเองหรือเปล่าก็ไม่ใช่”
[แก!]
“อ้อ...สามวันนี้คงไม่ต้องโทรมาตามนะครับพี่แบคฮยอนบอกว่าอยากจะนอนกอดผมให้หายใคร่”
[!]
“เข้าใจสถานะตัวเองได้แล้วนะครับ ว่าตัวเองมันก็เป็นได้แค่เพื่อน”
ติ้ด!~
ยั่วอารมณ์อีกฝ่ายได้เซฮุนก็กดวางสายแล้วปิดเครื่องทันที รอยยิ้มดั่งซาตานใจร้ายผุดขึ้นบนมุมปาก เสียงหัวเราะน้อยๆ ในลำคอบ่งบอกได้อย่างดีว่าเขานั้นกำลังมีความสุขแค่ไหน
สุขที่ได้อยู่ใกล้คนรัก และสุขที่ได้ทำให้ใครบางคนต้องร้อนรนราวกับโดนน้ำร้อนสาด
“มายืนหัวเราะตากน้ำค้างนอกระเบียงทำไมเซฮุน” เสียงหวานเอ่ยขึ้นจากด้านหลังพร้อมก็ท่อนแขนเรียวเล็กโอบกอดจากทางด้านหลัง เซฮุนยิ้มอีกครั้งหากแต่คราวนี้เป็นรอยยิ้มของเทพบุตรที่ยิ้มให้คนรักอย่างจริงใจ หมุนตัวกลับมาหาคนน่ารักแล้วอุ้มร่างบางเดินเข้าห้องทันที
“อ้ะ...ปล่อยพี่ลงเถอะเซฮุน พี่เดินเองได้”
“ใครใช้ให้พี่ใส่แค่เสื้อคลุมอาบน้ำออกมาล่ะ ไม่ปล้ำพี่ตั้งแต่ระเบียงก็ดีแค่ไหนแล้วครับ”
“เซฮุนทะลึ่ง!”
“ก็แล้วใครยั่วล่ะ”
“ไม่ได้ยั่วนะ แต่ว่าลืมไปเลยว่าไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน”
“งั้นใส่ชุดผมก่อนแล้วกัน เดี๋ยวผมไปหามาให้”
“ไม่เป็นไร ใส่ชุดคลุมอาบน้ำนอนก็ได้ ยังไงพี่ก็ไว้ใจเซฮุนอยู่แล้ว” แบคฮยอนย้ำชัดในความหมาย เซฮุนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อแบคฮยอนเลือกที่จะพูดห้ามเรื่องอย่างว่าในเชิงนี้
“อ่า...โอเคครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรพี่จนกว่าพี่จะพร้อม”
“อืม”
“แต่คืนนี้นอนกอดได้ใช่ไหม?”
“ให้กอดถึงเช้าเลย...คิก~”
“โธ่เว่ย!!!!!!!!!!!!!” หลังจากที่ถูกตัดสายไปแล้วโดนปิดเครื่องใส่ ชานยอลที่เป็นดั่งไฟอยู่แล้วก็เหมือนกับถูกราดด้วยเชื้อเพลิงอีกครั้ง ชานยอลปาข้าวของทุกอย่างที่อยู่ในห้องนั่งเล่น เศษแจกันและของจุกจิกต่างๆ เกลื่อนพื้นไปหมด แต่ก็ยังไม่สามารถบรรเทาความโกรธในจิตใจตัวเองได้
ชานยอลกำลังโกรธ...
โกรธ...ที่ตัวเล็กจูบกับคนอื่นในรถที่หน้าคณะ
โกรธ...ที่ตัวเล็กไม่ยอมลงจากรถแล้วกลับด้วยกัน
โกรธ...ที่ตัวเล็กไม่รับสาย
โกรธ...ที่คนรับสายคือโอเซฮุน
โกรธ...ที่ถูกอีกฝ่ายพูดยั่ว
แต่ทั้งหมดก็ไม่เท่า...
โกรธที่ตัวเล็กลืมนัดสำคัญ!
“นายไม่ได้แค่ทิ้งฉันไปแบคฮยอน...นายทิ้งแม้กระทั่งคำสัญญาที่ว่านายจะไม่ลืมฉัน”
-----------------------------------------------------------------------------------
น้องหมาขอเห่า : ครบแล้วค่ะที่รัก 100%
ส่วยเรื่องตอน Number Two ที่บอกว่ามี NC
ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะบรรยายออกมาในรูปแบบไหนดีเหมือนเดิม
รูปแบบที่ไม่ต้องแปะลิ้ง (ไม่บรรยายละเอียด) กับแบบแปะลิ้งโหลด (บรรยายทุกสัมผัส)
ความคิดเห็น