คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : Puppy Love รักนะครับ เจ้าหมาน้อยจอมดื้อ! : Chapter 19
Chapter 19
Baekhyun Part
กลางคืนที่ท้องฟ้ามืดสนิท หากแต่ไม่มืดบอดไปเพราะมีแสงแวววับจากดาวดวงน้อยนับล้านดวงคอยส่งแสงระยิบระยับสลับกันไปมา ปาร์คชานยอลที่กำลังนอนหนุนตักบยอนแบคฮยอนอยู่คว้ามือคนตัวเล็กมากุมไว้แนบอกพร้อมหลับตาพริ้ม หากแต่แบคฮยอนก็รู้ว่าร่างสูงนั้นไม่ได้หลับ
หากคนอื่นมองเห็นภาพนี้คงจะคิดว่าเขาสองคนมีความสุขมากไม่ใช่น้อย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ดูเหมือนจะมีร่างสูงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อิ่มเอมไปกับสถานการณ์นี้ ต่างจากที่แบคฮยอนรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างหาเหตุผลไม่ได้
ทำไมผมรู้สึก...ใจคอไม่ค่อยดีเลยแฮะ....
“ชานยอล...” ผมเอ่ยเสียงเรียกชานยอลที่นอนเล่นบนตักผมให้รู้สึกตัว ฉับพลันชานยอลก็ลืมตาแป๋วขึ้นมามองหน้าผมด้วยรอยยิ้ม
“ครับผม...”
“ฉันว่าเรา...กลับโรงแรมกันดีไหม?”
“หืม?...นายเบื่อหรอ?” รอยยิ้มที่เคยปรากฏบนใบหน้าชานยอลแปรเปลี่ยนกลายเป็นคิ้วขมวดทันที ชานยอลลุกขึ้นจากตักผมแล้วหันมาจ้องหน้าผมด้วยความสงสัย
“เปล่าหรอก...ฉันแค่...ไม่รู้สิ อยู่ๆ ก็ใจไม่ดีขึ้นมาเฉยเลย....”
“เป็นอะไรไปหื้ม?” ชานยอลจับไหล่ของผมแล้วดึงให้หันมาสบตากับเขา น้ำเสียงและแววตาที่ส่งมานั้นฟังดูห่วงใยผมมาก...รู้สึกอุ่นใจแปลกๆแฮะ...
“ก็...ไม่รู้สิ แต่ว่ารู้สึกปวดหัวใจมากๆ เลย มันดูหนึบๆ นะ แล้วก็แบบ...เหมือนไม่มีความสุข...”
“อ่า...ถ้างั้นเรากลับกันก็ได้” ชานยอลยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยนแล้วลุกขึ้นยืน เขายื่นมือมาให้ผมจับแล้วดึงตัวผมขึ้น ชานยอลไม่ยอมปล่อยมือจากมือผม เขาบีบมันเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ
วินาทีนี้...ผมขอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายอบอุ่นสักวันก็แล้วกันนะ
“รับไหมคยองซู?”
“ยังไม่รับเลยครับพี่ลู่หาน”
“ให้ตายเถอะ! มัวแต่ทำอะไรกันอยู่นะ!”
“นั่นไงๆ มานู่นแล้ว!”
“แบคฮยอนนนนนนน!”
ผมสะดุ้งตกใจกับเสียงตะโกนของใครบางคนหลังจากที่ผมเพิ่งลงจากรถแท็กซี่ เมื่อผมมองไปหาต้นเสียงก็พบว่าเป็นพี่ลู่หานนั่นเองที่ร้องเรียกผม พี่ลู่หานวิ่งมาหาผมด้วยท่าทีร้อนรน ผมกับชานยอลมองหน้ากันครู่หนึ่งก่อนจะรีบเดินไปหาพี่ลู่หานเพิ่งจะได้เจอกันไวขึ้น
“แบคฮยอน!...”
“คะ ครับ? มีอะไรกันรึเปล่าทำไมดูรีบร้อนกันจัง”
“พ่อ...พ่อตกบันได...”
“!”
“แม่โทรมาบอกว่าพ่อหน้ามืดตกบันไดตอนนี้อยู่ไอซียู...” ราวกับมีฟ้าผ่า...หัวใจของผมกระตุกวูบเมื่อได้ยินข่าวร้ายจากพี่ลู่หาน....
ถึงว่า...ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ...
“แบคฮยอน!” จู่ๆ แข้งขาผมก็อ่อนแรง ร่างกายของผมทรุดลงไปกับพื้น แต่โชคดีที่ชานยอลยืนอยู่ข้างผมเอื้อมมือมารับตัวผมไว้ทัน
“ใจเย็นๆ นะแบคฮยอน...ไหวไหม?” ผมพยักหน้าช้าๆ โอเคผมว่าผมไหว...แต่แค่...รู้สึกช็อค...งั้นมั้ง...ผมพยายามพยุงร่างกายตัวเองให้ยืนขึ้นแต่มันก็ทำไม่ได้...บ้าไปแล้ว...ปกติผมแข็งแรงจะตาย
“พ่ออาจจะไม่ได้เป็นอะไรมากก็ได้ พ่อเราแข็งแรงอยู่แล้วนี่ พี่ขอโทษที่ตื่นตูมไป แต่แบคฮยอนไม่ต้องคิดมากหรอกนะ พี่เชื่อว่าพ่อเราไม่ได้เป็นอะไรมาก”
“งั้นเราเลื่อนไฟล์ทบินกลับเกาหลีให้เร็วที่สุดเลยโอเคไหม?”
“...”
“ไม่ต้องกังวลไป เรามาเที่ยวกันใหม่ก็ได้ ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงพ่อของนาย เดี๋ยวฉันจะโทรไปจองตั๋วกลับให้”
“ขอบคุณนะชานยอล” ผมยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อชานยอลเข้าใจความคิดของผม ผมพยายามจะเดินด้วยตัวเองอีกครั้ง แต่ก็ผิดคาด...ผมล้มลงไปกองกับพื้นทันทีที่ชานยอลปล่อยมือจากไหล่ผม
นี่ผมเป็นอะไร?
“ฉันว่านายยังไม่หายช็อค...ขี่หลังฉันดีกว่านะ”
“ฮะ?...บะ บ้าหรอ ไม่เอาหรอก เดี๋ยวฉันก็เดินได้แล้ว” ผมปฏิเสธทันทีเมื่อชานยอลยื่นข้อเสนอแสนจะชวนขนลุกมาให้...ให้ขี่หลังนี่นะ?...เขินแย่
“ขี่หลังชานยอลไปเถอะแบคฮยอน พี่ว่านายไม่ไหวจริงๆ นะ ไหนๆ ก็นอนห้องเดียวกันให้ชานยอลแบกไปน่ะดีแล้ว...หรือจะให้อุ้มแบบอุ้มเจ้าสาวเข้าไปแทนล่ะ?”
“เอ่อ...”
“ขึ้นมาเร็ว” ชานยอลไม่รอให้ผมตอบคำถาม เขาเลือกที่จะนั่งลงหันหลังให้ผมแล้วสั่งให้ผมขี่หลังเขา...ผมมองหน้าของคยองซูเพื่อถามความคิดเห็น สิ่งที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มสดใสที่บ่งบอกให้รู้ว่า ‘ขี่หลังชานยอลน่ะ ดีสุดแล้ว’
ชานยอลแบกผมเข้าโรงแรมท่ามกลางสายตาผู้คนนับสิบ ให้ตายเถอะ อายชะมัด -//- ผมไม่รู้จะหลบสายตาพวกนี้ยังไงจึงได้แต่ฟุบหน้าลงไปกับหลังชานยอลเพื่อหลีกหนีความอายนี้
แต่ว่านะ...ตัวชานยอลนี่หอมจังเลย >.<
ผมต้องบ้า! บ้า! บ้า! บ้าไปแล้วแน่ๆ! ใครก็ได้บอกผมทีว่าผมเป็นลูกอกตัญญูมากใช่ไหม? นี่พ่อผมกำลังป่วยแต่ผมกลับ...หัวใจพองโตกับผู้ชายที่แบกผมเข้าห้องเนี่ยนะ? บ้าไปแล้ว!
“ปวดหลังไหม?” ทันทีที่ชานยอลปล่อยตัวผมลงจากหลังเขาบนเตียงผมก็ถามเขาออกไปด้วยความเป็นห่วง ชานยอลแบกผมตั้งแต่หน้าโรงแรม ยืนรอลิฟต์ก็นาน กว่าลิฟต์จะขึ้นมาถึงชั้น 24 ที่เราอยู่ กว่าจะเดินมาจนสุดทางเพื่อมาถึงห้อง แล้วกว่าจะพาผมมานั่งที่เตียงอีก...แข็งแรงเป็นบ้าเลย
“นิดนึงแหล่ะ...”
“ให้ฉันนวดให้ไหม?”
“ฮะ?...นี่นายจริงๆ หรอแบคฮยอน?” ชานยอลลุกขึ้นจ้องหน้าผมแล้วทำตาโตราวกับว่าผมเป็นสิ่งมหัศจรรย์...
“อะไรของนาย”
“ปละ เปล่า...นวด...นายนวดเป็นหรอ”
“ตอนเล็กๆ เคยนวดให้พ่อน่ะ”
“อ่อ...งั้นรบกวนหน่อยนะ” ชานยอลยิ้มกว้างแบบที่เขาชอบทำแล้วเดินมานั่งหันหลังข้างๆ ผม ผมออกแรงบีบไหล่เขาเบาๆ เริ่มทุบไล่ไปเรื่อยๆ ผมเคยนวดให้พ่ออยู่หลายครั้งเมื่อตอนเด็กๆ ตอนที่เรายังรักกันมาก...เฮ้อออออ
“นายนวดเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
“อื้อ”
“นวดให้พ่อบ่อยหรอตอนเด็กๆ น่ะ”
“อื้อ”
“...”
“...”
“เหมือนเมียนวดให้ผัวเลย =.,=”
“อื้อ...เอ๊ะ”
“O_O”
“O//O”
“ฮะๆ...”
“ย่าห์!” ผมฟาดแรงตีเข้าไปที่ไหล่ของคนด้านหน้าไปทีนึงด้วยความขวยเขิน (?) บ้า! นี่ผมล่องลอยถึงขนาดไม่ฟัง ไม่ไตร่ตรองคำพูดของหมอนั่นเลยหรือไงกันนะ
“เจ็บนะเนี่ยฟาดมาได้!”
“ก็ใครใช้ให้นายพูดจาอะไรทุเรศแบบนั้นล่ะ”
“ก็แล้วใครตอบ ‘อื้อ’ ออกมาซะเสียงดังฟังชัดล่ะ”
“ก็!...” ...ก็อะไรวะครับ ;_;
“ก็อะไรล่ะ?”
“ไม่นวดแล้ว ไปเลย! ฉันจะนอน!”
“ไม่อาบน้ำหรอ เดี๋ยวฉันอาบให้ เดี๋ยวถูให้ทุกซอกทุกมุมเลย” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วชวนขนลุกราวกับเป็นน้ำเสียงของโจรปล้นสวาท =A= ...ไอ้บ้า!
“ไม่อาบเฟ้ย เดี๋ยวอาบพรุ่งนี้! ลุกไปเลยนะฉันจะนอน”
“ถ้านายไม่อาบฉันก็ไม่อาบ นายเน่าฉันก็เน่าอ่ะ”
“เรื่องของนาย! ฉันจะนอนแล้วหลบไปเลย” ผมออกปากไล่คนตัวสูงนี่แล้วยกแขนดันตัวเขาให้ออกไปจากเตียง ผมทิ้งตัวลงนอนภายใต้ผ้าห่มหนานุ่มอย่างดีของโรงแรม พยายามข่มตาหลับ...
นอนไม่หลับ (;_;) ... แล้วทำไมไอ้เสาไฟฟ้านั่นไม่ขึ้นมานอนล่ะ?
“ทำไมไม่ขึ้นมานอน” ผมโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มผืนใหญ่แล้วถามชานยอลที่ยืนกอดอกเก๊กเท่ห์อยู่ข้างเตียง
“^[++]^” ชานยอลยิ้มกว้างโชว์ฟันสวยให้ผม แล้วเดินไปยังฝั่งตรงข้ามของเตียง ชานยอลถอดเสื้อเชิ๊ตที่สวมใส่ออกแล้วพาดไว้ตรงโซฟาข้างเตียง ผมกระพริบตาปริบๆ มองดูคนตัวสูงยืนเปลือยท่อนบนอยู่...พระเจ้า...หัวใจเต้นแรงทำไมเนี่ย!
ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงจะโวยวายลั่นห้องไปแล้วที่เห็นเขาทำตัวรุ่มร่ามแบบนี้...แต่ผมก็ไม่รู้ทำไมผมถึงได้ไม่โวยวายออกไป...ไม่รู้เลย
“ไม่ถอดเสื้อไม่ร้อนหรอ?”
“ไม่...ฉันขี้หนาวนะ...”
“...” ชานยอลนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเดินขึ้นมาบนเตียงแล้วนอนข้างๆ ผม...ชานยอลกระตุกผ้าห่มออกจากตัวผมแล้วเหวี่ยงลงไปจากเตียง ผมเตรียมอ้าปากจะพ่นด่าเขาแต่ก็ต้องหุบปากแทบไม่ทันเพราะชานยอลกระเถิบตัวมาใกล้ๆ ผมแล้วคว้าตัวผมเข้าไปกอดจนใบหน้าผมแนบชิดกับแผ่นอกกว้างเข้าอย่างจัง
ให้ตาย...ผมพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียวเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกจู่โจมแบบนี้...แต่จริงๆ แล้วจะจู่โจมแบบไหนผมก็ตั้งตัวรับไม่ได้ทุกที!
“มะ มากอดฉันทำไมอ่ะ! ปล่อยนะเว่ยยยย” ผมพยายามดิ้นเพื่อหาทางออกจากอ้อมกอดอันตรายนี้ หากแต่นอกจากจะไม่หลุดไปง่ายๆ อย่างที่คิดไว้แล้ว ชานยอลก็ส่งเรียวขายาวมาทับตัวผมไว้อีก...
“งื้ออออออ! มากอดทำไม! ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“กอดแบบนี้อุ่นกว่าห่มผ้าตั้งเยอะ...ขี้หนาวไม่ใช่หรอเรา?”
“อะ...” ผมเงียบไปเพราะมันเป็นอย่างที่ชานยอลพูดจริงๆ...กอดกันแบบนี้อุ่นกว่าห่มผ้าอีกเป็นไหนๆ...
“นอนเถอะพรุ่งนี้ต้องกลับไปหาพ่อนายอีก พักผ่อนเอาแรงดีกว่านะ”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยไอ้หื่นกาม!” ผมตวาดลั่นแล้วทุบเข้าไปที่อกชานยอลแรงๆ หนึ่งที ชานยอลยกแขนยกขาออกจากตัวผมอย่างรวดเร็ว พร้อมดันตัวผมให้ออกห่างจากเขา แล้วเบะปากใส่ผมประหนึ่งว่าเขากำลังงอน...ตัวเท่าควายเนี่ยนะ? =_=;
ผมเลิกสนใจคนตัวใหญ่ที่ทำตัวปัญญาอ่อนข้างๆ แล้วนอนพลิกไปพลิกมาบนเตียง อ่า...ผมนอนไม่หลับเลย...คือแบบ...โรงแรมนี้ไม่มีหมอนข้าง!
ผมนอนไม่ได้ถ้าไม่ได้กอดหมอนข้าง T_____________T
“เป็นอะไรทำไมไม่นอน”
“โรงแรมนี้ไม่มีหมอนข้างหรอ?”
“ไม่รู้ดิ...แต่ถ้ามีก็เห็นนะ...ทำไม? นายจะเอามากั้นฉันกับนายหรือไง? ไม่ต้องห่วง คืนนี้ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกเพราะฉันงอนนายอยู่!” ห้ะ! พอชานยอลพูดจบก็พลิกตัวหันหลังให้ผม นี่แปลว่าถ้าไม่งอนก็ทำใช่ไหม? =_=; แล้วอะไร? ใครสั่งใครสอนให้ทำท่าทางติงต๊องแบบนี้
“ปัญญาอ่อน...” ผมบ่นพึมพำออกมาคนเดียว หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมงผมก็ยังคงนอนไม่หลับ ทำไมผมต้องติดหมอนข้างด้วยนะ
“นอนไม่หลับจริงๆ สินะ” จู่ๆ ชานยอลก็โพล่งประโยคอะไรไม่รู้งึมงำออกมา
“นายพูดอะไรชานยอล?” ผมพลิกตัวหันไปมองจ้องแผ่นหลังของชานยอลแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย ชานยอลไม่ตอบแต่พลิกหันหน้ากลับมาประจันหน้ากับผม เขาฉีกยิ้มกว้างให้ผมหนึ่งครั้ง
“นายนอนไม่หลับเพราะต้องการหมอนข้างใช่ไหม?”
“นะ นายรู้?”
“ถ้าไม่รังกียจ...ให้ฉันเป็นหมอนข้างของนายก็ได้นะ”
“ห้ะ! บ้าหรอ” ผมปฏิเสธเสียงแข็งกับข้อเสนอนั้น ชานยอลรู้ได้ไงว่าผมติดหมอนข้าง แล้วให้ตัวเองเป็นหมอนข้างของผมเนี่ยนะ? บ้าไปแล้ว (.//.)
“ถือซะว่าฉันเป็นหมอนช้าง...นอนไม่หลับเพราะไม่มีหมอนข้างไม่ใช่หรอ?”
“เอ่อ...”
“ก็แล้วแต่นายนะ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร เพื่อนกันเรื่องแค่นี้ไม่คิดอะไรมากหรอก แต่ถ้านายคิดว่าข่มตาหลับได้ก็เรื่องของนาย” ชานยอลพูดพลางยักไหล่สบาย เขาพลิกตัวหันกลับไปเหมือนเดิม ผมมองแผ่นหลังของเขาแล้วครุ่นคิด...
เพื่อนกันเรื่องแค่นี้ไม่คิดอะไรมากหรอก เพื่อน...ใช่สินะเพื่อนกันไม่คิดอะไรมากนักหรอก
จึ๊กๆ ผมกระเถิบตัวเข้าไปใกล้ๆ ชานยอลแล้วส่งนิ้วเรียวไปจิ้มแผ่นหลังของเขาสองสามทีก่อนจะเอ่ยเสียงเรียกเขาเบาๆ
“ชานยอล...”
“หื้ม...”
“คือว่า...ขอ...ขอ...ขอนอนกอดนายหน่อยดิ” ตึงงงงงงงงงงงง! บยอนแบคฮยอนโคตรจะแรดเลยครับ T^T ขอนอนกอดผู้ชายด้วยกันเอง แถมยังเป็นเพื่อนกันอีก
“หึ...” ชานยอลสบถออกมาแล้วหันมายิ้มมุมปากให้ผม...คิดว่าหล่อมากไหมที่ทำน่ะ ==;
“อ่ะ...อยากกอดก็กระเถิบมา ฉันให้กอดฟรีๆ ไปเลยคืนนึง” ผมกระเถิบเข้าไปใกล้ๆ ตัวชานยอลตามที่เขาพูด ผมไม่อยากจะบอกหรอกนะว่าผมเขิน…
และเขินมาก!
แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อผมขาดหมอนข้างไม่ได้จริงๆ ถ้าชานยอลใจดียอมขนาดนี้แล้วผมไม่ตอบรับคงเสียน้ำใจแย่ใช่ไหมล่ะ นี่ผมเป็นคนดีมากเลยนะเห็นไหม >//<
ชานยอลยกแขนขึ้นมาพาดตัวผมเบาๆ มันไม่ทำให้ผมอึดอัดเพราะชานยอลรู้จักทิ้งระยะห่าง หากแต่เป็นผมเองที่ส่งมือเข้าไปกอดเอวหนานั้นไว้แล้วขยับตัวเข้าไปเบียดกับลำตัวของเขา
ก็ผมชอบความอบอุ่นง่ะ!
แล้วอกชานยอลแบบว่า...
อุ่นมากกกกกกกกกกกกกก X’D
เขาคงไม่ว่าอะไรหรอกเนอะ ก็เพื่อนกันให้กันได้ งี้เพื่อนกันก็ต้องทนเพื่อผมได้สิ ฮี่ๆ ผมไม่อยากจะเอาเปรียบเขาหรอกนะ แต่ว่าผมเบียดตัวชานยอลจนเขาคงจะอึดอัดบ้างแหล่ะ แต่ผมรู้ว่าชานยอลเป็นคนนิสัยดีไง แค่นี้ก็คงไม่ว่าอะไรหรอก...มั้ง >.<
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปุ้ง!~ ขอเม้นเยอะๆ นะคะ จะได้มาอัพไวๆ
ที่มาอัพแชพนี้ช้าเพราะรออยู่ว่าเมื่อไรแชพ 18 จะถึง 50 เม้นสักที Orz
ตอนนี้ปกฟิคยังไม่ได้น๊า พี่แบงคึเค้าต้องเทียวไปเทียวมาตปท.บ่อยๆ งานก็เยอะ
เลยทำให้ปกเสร็จช้าหน่อยนะคะ วันนี้ก็ 14 ธ.ค.แล้วเน๊อ เหลือเวลาอีก 6 วันเท่านั้นที่จะปิดจอง
แล้วก็ปิดโอน ใครยังไม่จอง ใครยังไม่โอนรีบหน่อยน๊า
แต่ถ้าใครยังเก็บเงินไม่ทันขอให้บอก ถ้ามีกันเยอะเดี๋ยวหมาน้อยจะเลื่อนวันโอนให้ก็ได้จ๊า ^^
ใครอ่านแล้วติดใจหรือตะขิดตะควงใจ (?) อยากคุยหรืออยากด่าไรท์เตอร์
ตามไปติชมได้ที่ >> ` หมาน้อยมาลามิวท์ <<
ความคิดเห็น