คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 2nd ll CHAN x BAEK ll 'Lucky'
Short Fic : EXO – CHANBAEK
‘Lucky’
“นาย...เป็นยังไงบ้าง?”
“หึ...”
3 เดือนก่อนหน้านี้...
สายแล้ว! ปาร์คชานยอลกำลังจะเข้าเรียนสาย! เมื่อเช้าเขาแค่ผลอยหลับไปนิดเดียวเอง กะว่าจะงีบต่อสักห้านาทีสิบนาทีเท่านั้น แต่โชคไม่เข้าข้างดันหลับเพลินตื่นมาอีกทีก็แปดโมงกว่าแล้ว! เช้านี้มีเรียนตอนเก้าโมงด้วยสิ ปาร์คชานยอลแทบวิ่งผ่านน้ำได้เลยเชียว
พลั๊กกกกก~
“อ๊ะ...ขอโทษครับ” กล่าวขอโทษทันทีที่ร่างกายสูงโปร่งวิ่งชนเข้ากับคนตัวเล็กที่กำลังเดินเร่งรีบไม่แพ้กันจนข้าวของของคนโดนชนนั้นร่วงลงพื้นกระจัดกระจายไปทั่ว...รวมทั้งของของตัวเขาเองด้วย
“มะ ไม่เป็นไรฮะ...” น้ำเสียงหวานเอื้อนเอ่ยอย่างเป็นมิตร บ่งบอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้ติดใจอะไรที่ถูกชนจนเสียหลักล้มลงก้นจ้ำเบ้าเช่นนี้ ทั้งสองคนต่างช่วยกันเก็บข้าวของที่ร่วงลงพื้นอย่างรีบร้อน เพราะดูเหมือนว่าทั้งสองกำลังจะเข้าเรียนสายด้วยกันทั้งคู่ ชานยอลก้มเก็บของทุกอย่างแล้วยัดใส่กล่องกระดาษของร่างบางก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเจ้าของเสียงหวานเพื่อกล่าวขอโทษอีกครั้ง
ฉับพลันที่มองเห็นใบหน้าเรียวเล็กที่มีผิวขาวใสบวกกับพวงแก้มยุ้ยน่าจับที่มีสีแดงระเรื่อ ดวงตาเรียวเล็กกำลังจ้องมองกล่องของตนแล้วจัดเรียงม้วนกระดาษให้อยู่รวมกันเป็นฝั่ง ทันทีที่คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นก็แทบทำเอาปาร์คชานยอลคนนี้หยุดหายใจ...
‘น่ารัก’
ไม่มีคำไหนจะเหมาะกับคนตรงหน้าอีกแล้วนอกจากคำนี้...ดวงตาคู่สวยจับจ้องไปยังใบหน้าของคนที่กำลังกลายเป็นรูปปั้นแล้วนึกขำ...อีกแล้วสินะ...ไม่ว่าใครที่ได้เจอเขาในระยะใกล้ก็ต้องเป็นแบบนี้ทุกราย...
“ขอบใจนะที่ช่วยเก็บของให้ ฉันไปล่ะแล้วก็ขอโทษจริงๆ...”
“...”
“...ขอโทษ...ที่ทำให้นายเข้าเรียนสายโดยสมบูรณ์แบบ…”
“ฮะ...ฮ้ะ!”
สาย! จน! ได้! ...เพราะนายหน้าหวานคนนั้นเลยเชียวววววววววว! ปาร์คชานยอลอยากจะฆ่าตัวเองให้ตายไปซะ ถ้าไม่ตื่นสายแล้วไม่มัวแต่จ้องหน้าเขาตัวเองก็คงจะเข้าเรียนและส่งรายงานการออกแบบภายในที่นั่งทำทั้งคืนจนดึกทัน! นอกจากจะโดนอาจารย์ดุที่มาสายแล้วว่าเป็นคนที่โตแล้วแต่ไม่มีความรับผิดชอบ ซ้ำยังโดนคิมจงแดเพื่อนซี้สุดโหดเฉ่งอีกระรอกใหญ่หลังจากที่เขาไม่ได้เอาดีวีดีมิยาบิตอนใหม่มาคืน...
อย่านะ! อย่าเพิ่งคิดว่าปาร์คชานยอลเป็นคนชอบดูหนังอย่างว่านะ! เปล่าเลย! ไอ้คิมจงแดต่างหากที่ดันมาเอาแผ่นหนังเอวีมาซ่อนไว้ในกระเป๋าของชานยอลเพื่อหลบแฟนของตัวเอง แล้วชานยอลผิดหรอถามจริง? ไม่เอาหนังลามกไปเขวี้ยงทิ้งก็ดีแค่ไหนแล้วเหอะ! อุตส่าห์เก็บเอาไว้ให้แค่ลืมนิดๆ หน่อยๆ ทำมาบ่นเป็นหมีกินผึ้งไปได้!
...แต่ว่านะ...คนอย่างปาร์คชานยอลไม่ใช่คนขี้ลืม เขาจำได้แม่นว่าหยิบออกมาแล้วด้วยนี่นา...
“เฮ้ยทำไมวันนี้คณะเราแลดูครึกครื้นวะชานยอล”
“จะไปรู้ไหมก็เพิ่งเดินออกมากับนายเนี่ย”
“คนเยอะจัง...เขามุงอะไรกัน...ไปดูกันเถอะ!”
“เฮ้ย!” คนตัวสูงร้องเสียงหลงเมื่อเพื่อนซี้ตัวดีพูดจบก็ลากแขนเขาตามมาด้วยเฉยเลย...ปาร์คชานยอลไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนะ! ถึงแม้ใจจริงจะอยากรู้ก็ตามเถอะ =.,=
“!” หลังจากถูกลากฝ่าฝูงชนมาปาร์คชานยอลก็ถึงกับช็อคค้าง...จุดประสงค์ของทุกๆ คนที่มายืนมุงกันตรงนี้...คือคนที่นั่งตรงโต๊ะม้าหินอ่อนสีสวยหน้าคณะเขาใช่ไหม?
“เฮ้~” นั่น! ‘นางฟ้าของปาร์คชานยอลโบกมือให้ใคร!’ ร่างสูงกรีดร้องในใจเมื่อเห็นว่าคนที่พบเจอเมื่อเช้ากำลังส่งยิ้มหวานชวนหลงใหลกับโบกมือน้อยๆ เรียกใครบางคน หัวใจกระตุกวูบเพราะรู้สึกอิจฉาใครคนนั้นจนเผลอกำหมัดแน่น แต่คิ้วเข้มของตนก็ต้องขมวดเป็นปมเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กนั่นกำลังเดินมาทางเขา หรือว่า...
...นางฟ้าจะชอบไอ้คิมจงแด!...
‘ไอ้แป๊ะนี่มีอะไรดี! ท่านชายปาร์คไม่ยอมมมมมมมมมมมม’
“นายตัวสูง...”
“ห้ะ?...ฉัน?” ตอบกลับอย่างงงๆ พร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยท่าทาง...เอ๋อเหรอ...ก็ไม่ให้เอ๋อได้ไงล่ะ นางฟ้าอย่างนายหน้าหวานเนี่ยนะจะคุยกับชายปาร์คผู้หล่อเหลา...ฝันกลางวันหรือเปล่าวะ?
“นายนั่นแหล่ะ นี่...ฉันเอาของนายมาคืนนะ”
“ขะ ของหรอ?”
“อื้อ...” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็ยื่นถุงผ้าใบเล็กๆ ที่ด้านหน้ามีลายลูกหมาขนปุยสีขาวปักอยู่ กระเป๋าลายน่ารักเหมือนเจ้าของเลยแฮะ
“ทีหลังนะ...ของแบบนี้เก็บไว้ดีๆ อย่าไปทำหล่นที่ไหนหรือยัดให้ใครมั่วซั่วอีกรู้ไหม...”
“หื้มมมม?” ยิ่งพูดก็ยิ่งงง ปาร์คชานยอลไม่เข้าใจนางฟ้าแสนสวยคนนี้ซักนิด...อ่า...ใช่สิ มนุษย์ธรรมดาจะพูดกับนางฟ้ารู้เรื่องได้ยังไงจริงไหม?
“อ่า...ฉันต้องไปแล้ว ไว้เจอกันใหม่...ถ้ามีโอกาสนะ” พูดจบคนตัวเล็กก็ยกยิ้มให้เล็กน้อยแล้วหันหลังเดินกลับไปทิ้งให้คนตัวสูงยืนมองตาละห้อยรู้เศร้าใจที่ต้องแยกจากนางฟ้าหน้าตาจิ้มลิ้มนั่น…หลังจากร่างบางก้าวออกจากคณะวิศวะไปแล้วเหล่าเพื่อนผู้ชายที่ยืนมุงอยู่ก็กรูกันเข้ามาถามปาร์คชานยอลทันที
“เฮ้ย! แกรู้จักบยอนแบคฮยอนด้วยหรอวะ!”
“ห้ะ? บยอนแบคฮยอน...?”
“นั่นน่ะเดือนคณะนิเทศเลยนะเว่ย นี่นายแอบไปม่อเขาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”
“ดะ เดือนคณะ!”
“เอ้า...อย่าบอกนะว่านายไม่รู้จัก”
“หึ...” ปาร์คชานยอลส่ายหน้าช้าๆ...อยู่มาจนปีสามแล้วยังไม่รู้เลยว่าผ้ชายหน้าหวานคนนั้นเป็นถึงเดือนคณะนิเทศที่อยู่ถัดจากคณะเขาไปแค่สองตึกเท่านั้น...
“แล้วนั่นของอะไร!”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“เอ๊า! ก็หยิบออกมาดิวะ” เพื่อนหลายคนต่างพากันหงุดหงิดที่ชานยอลทำตัวเอ๋อตลอดเวลา ถึงจะหล่อและสูงแต่ลักษณะนิสัยส่วนตัวทำให้เขาพลาดตำแหน่งเดือนคณะ...ไปอย่างง่ายดาย =A=
“ฮะ เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!” ของในถุงผ้าร่วงลงพื้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนที่ยืนมุมต่างพากันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากกับสิ่งที่ได้เห็น
“มะ เมื่อกี้...แบคฮยอนบอกนายว่าอะไรนะชานยอล...”
“ฉันได้ยินว่าแบคฮยอนบอกนายว่าของๆ นายว่ะ...”
“แล้วอะไรอีกนะ...บอกว่าอย่ายัดให้ใครมั่วซั่วด้วย...”
“ขะ ของ...ของจงแดนะไม่ใช่ของฉ้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!” ร่างสูงหวีดร้องลั่นอย่างบ้าคลั่ง ก้มลงคว้าของที่ตกลงพื้นเมื่อครู่ขึ้นมาอย่างเดือดดาด แขนแกร่งยกขึ้นเต็มความสูงเตรียมพร้อมที่จะทุ่มของในมือลงพื้นเพื่อระบายความคับแค้นใจ แต่ติดตรงที่เพื่อนซี้ร้องห้ามเอาไว้ทัน
“มิยาบิเซตใหม่ซื้อมาแพงนะเว่ย อย่าปาลงพื้นนนนนนนนนนนนนน!”
...ฮึก...แล้วแบบนี้ปาร์คชานยอลจะกล้าสู้หน้านางฟ้าบยอนแบคฮยอนได้ยังไง!...
@คณะนิเทศศาสตร์
ปาร์คชานยอลบ้าไปแล้วแน่ๆ! นี่เขากำลังมายืนรอเดือนคณะคนสวยอยู่โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่อยากเจอนั้นมีเรียนถึงกี่โมง...แต่ปาร์คชานยอลก็ถ่อมาตั้งแต่เที่ยงเพื่อรอพบเจอเหมือนกันน่ะแหล่ะ
“เมื่อไรจะมานะ” บ่นพลางยกนาฬิกาเรือนหรูราคาแพงขึ้นดูเวลา ‘บ่ายสี่โมงเย็น’ =__________=;
“นี่เรามารอนานขนาดนี้ทำไมวะ...เฮ้อ...”
“มายืนถอนหายใจอะไรตรงนี้หรอ?”
“ฮะ เฮ้ย!...” ร่างสูงส่งเสียงร้องด้วยความตกใจทันที เมื่อจู่ๆ ก็ถูกใครบางคนสะกิดที่ไหล่เบาๆ เมื่อหันหน้ามาก็พบว่าคนสะกิดเป็นคนที่ตัวเองรออยู่หลายชั่วโมง
“อ้าวตกใจอะไร?”
“ทะ ทำไมนายมาอยู่ข้างหลังฉันล่ะ?”
“ก็เดินมาจากตึกนู้น...นายยังไม่ตอบคำถามฉันเลยว่ามาทำอะไร...มาหาแฟนหรอ?” ร่างเล็กถามพลางเอียงคอสงสัย แต่ท่าทางเหล่านั้นกลับเป็นอาวุธที่จู่โจมหัวใจของปาร์คชานยอลเป็นอย่างดี ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มชวนมองกำลังทำให้เขาคลั่ง...
“ปละ เปล่า...แล้วทำไมนานมาจากทางนั้นไม่ใช่ทางนี้ล่ะ”
“อ๋อ วันนี้ฉันต้องสอบภาคปฏิบัติน่ะ ก็เลยต้องไปเรียนที่อื่น ว่าแต่นายเถอะ ทะเลาะกับแฟนหรือไง ฉันมองเห็นนายจากกระจกที่ห้องตั้งแต่เที่ยงแล้ว”
“ฉันเอานี่มาคืนนายต่างหาก...” ว่าแล้วก็ยื่นถุงผ้าสีขาวที่ซักสะอาดและพับเป็นอย่างดีคืนให้แก่เข้าของที่แท้จริง
“ซักให้เรียบร้อยแล้วนะ แต่ว่า...”
“หื้ม?”
“คือ...ของที่นายเอามาคืนน่ะ...”
“หนังโป๊น่ะหรอ?” 0//0 ทำไมนางฟ้าของปาร์คชานยอลถึงได้พูดตรงเช่นนี้ ฮือออออออออออ ;_;
“เอ่อ...ใช่...คือจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ของฉันหรอกนะ”
“อือฮึ...”
“มันเป็นของจงแดเพื่อนสนิทฉันเอง”
“อาฮะ...”
“ก็...ก็เท่านั้นแหล่ะ”
“คิก...” ชานยอลยกมือขึ้นเกาท้ายทอยอย่างเงอะๆ งะๆ ก็น้ำเสียงกับแววตาขี้เล่นของคนตรงหน้านี่น่ารักไม่เบาเลยไงล่ะ คนอะไรนะ น่ารักน่าฟัดไปซะทุกส่วนเลย -//-
“แค่นี้เองหรอที่จะมาบอก? ความจริงแล้วไม่เห็นสำคัญตรงไหนเลย ถึงมันจะเป็นของนายหรือไม่ใช่ของนายฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก ยังไงซะของพวกนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?”
“อ่า...นั่นสิ”
“แล้วนี่ยังไม่กินอะไรตั้งแต่เที่ยงใช่หรือเปล่า?”
“อื้อ”
“งั้นไปหาอะไรกินกันไหม? เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง ตอบแทนที่นายอุตส่าห์มายืนรอฉันตั้งสี่ชั่วโมง”
“ดะ ได้หรอ?”
“ได้สิ...ป่ะ! ไปกัน~” ชานยอลสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อพบว่าคนตัวเล็กถือวิสาสะจับมือของเขาแล้วออกแรงดึงให้เดินตาม แต่ความจริงแล้ว...เขาอยากให้แบคฮยอนล่วงเกินร่างกายเขามากกว่านี้เสียอีก...
เราสองคนเลือกหาอะไรลงท้องภายในร้านอาหารอิตาลี่เล็กๆ ร้านหนึ่งใกล้มหาลัย แบคฮยอนเลือกที่นั่งมุมในสุดซึ่งดูห่างไกลจากผู้คน เขาให้เหตุผลว่าไม่อยากให้มีใครเห็นแล้วเอาไปพูดอะไรให้มันเป็นข่าวเสียวๆ หายๆ
ผมนั่งมองคนตัวเล็กทานลาซานญ่าอย่างเอร็ดอร่อยจนลืมไปว่าสปาเกตตี้ของตัวเองคงจะเย็นหมดแล้ว แบคฮยอนที่เหมือนจะรู้สึกได้ว่าถูกแอบมองอยู่ก็หันมาสบตากับคนตัวสูงพลางเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“นายไม่กินหรอ?”
“อะ เอ่อ...” เมื่อถูกจับได้ว่ากำลังทำตัวเป็นคนโรคจิตอยู่ก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก แบคฮยอนที่มองเห็นท่าทางเงอะงะเหล่านั้นก็อดขำไม่ได้
‘เป็นคนตลกดีเนอะ...’
“ว่าไง...ไม่กินหรอ? หรือว่าแอบมองฉันจนอิ่มไปแล้ว?”
“หะ ห้ะ!...นะ นายรู้”
“คิก...ปฏิเสธเป็นบ้างไหมเนี่ยนายยยย” ใบหน้าหวานยิ้มให้อย่างล้อเลียน ความจริงแบคฮยอนรู้ตัวมาตลอดแหล่ะ ว่าชานยอลแอบมองเขาอยู่ตลอดเวลา แต่มันก็เป็นเรื่องที่แบคฮยอนชินไปเสียแล้ว เพราะนอกจากชานยอลแล้วก็มีคนหลายคนซึ่งนับไม่ถ้วนเหมือนกันที่มักจะแอบมองแบคฮยอน ไม่ว่าจะในห้องเรียน โรงอาหาร หรือแม้กระทั่งในห้องน้ำของมหาลัย...ก็เขาเป็นถึงเดือนคณะนี่เนอะ
“มองไปกินไปก็ได้นี่นา นายเอาแต่มองฉันจนสปาเกตตี้เย็นหมดแล้ว เดี๋ยวก็กินไม่อร่อยหรอก”
“อ่า...ขอโทษทีนะ” ชานยอลกล่าวขอโทษที่เขาแอบมองจนทำให้แบคฮยอนต้องหยุดทานอาหารของตัวเอง แบคฮยอนส่ายหน้าเล็กน้อยกับนิสัยแปลกๆ ของเพื่อนใหม่ แต่เขาก็ถือว่าเป็นนิสัยที่น่ารักเลยทีเดียว
“แบคฮยอน...คือ...คือนายมีแฟนหรือยังหรอ?” จู่ๆ ก็โพล่งถามออกไปอย่างไม่รู้ตัว ชานยอลตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทันเมื่อปากไม่รักดีเผลอพูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกไป
“หื้ม...จะจีบหรอ?”
“อื้อ!” แบคฮยอนที่ถามออกไปด้วยความเป็นคนขี้แกล้งก็สำลักลาซอนญ่าทันที...อะไรนะ?
“นะ นายว่าไงนะ?”
“จีบ...ฉันจะจีบนายไง...”
“พูดกันตรงๆ อย่างนี้เลยหรอ?”
“ก็...ก็นายถามฉันตรงๆ ก่อนนี่” โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกก บยอนแบคอยากฆ่าตัวตาย ;_; เกิดมาไม่เคยเจอใครที่จะซื่อได้ขนาดนี้
“เอ่อ...ไม่ไวไปหน่อยหรอ?”
“ไม่หรอก ฉันจริงจังนะ...”
“...”
2 เดือนก่อนหน้านี้...
“แบคฮยอนนายอยู่ที่ไหนหรอ”
“อยู่...อยู่กับคยองซูน่ะ ขอโทษทีนะวันนี้ฉันคงไปกับนายไม่ได้จริงๆ”
“...งั้นหรอ...”
“อื้อ อย่างอนเลยนะ ไว้วันหลังฉันจะพาไปเที่ยวแทนคำขอโทษแล้วกันนะ บ๊ายบาย”
ตู๊ด...ตู้ด...ตู้ด...
อยู่กับคยองซูงั้นหรอ...แต่ฉันเพิ่งเห็นเขากับแฟนกำลังไปทานข้าวด้วยกันอยู่เลย
ไปเที่ยววันหลังงั้นหรอ...แต่นายพูดแบบนี้กับฉันมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้วนะ
แล้ว...แล้วฉันต้องรอไปถึงเมื่อไหร่กันล่ะ...
“เฮ้อ...” ร่างสูงถอนใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างอ่อนล้า ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าแบคฮยอนกำลังทำอะไร เขารับรุ้ตลอด แบคฮยอนเป็นถึงเดือนคณะจะไปไหนมาไหนกับใครก็เป็นข่าวซุบซิบทั้งนั่นแหล่ะ
แต่แบคฮยอนก็ไม่ผิดที่จะไปกับคนอื่น ก็ปาร์คชานยอลกับบยอนแบคฮยอนไม่ได้เป็นอะไรกัน
เบื่อ...
คำเดียวสั้นๆ ในตอนนี้ที่บรรยายความรู้สึกในใจของปาร์คชานยอลได้ดีที่สุด...นี่ก็รวมเป็นสองอาทิตย์แล้วที่เขาไม่ได้คุย ไม่ได้พบ ไม่ได้เจอคนตัวเล็ก ทุกครั้งที่ชานยอลโทรไปหาเดือนคณะคนดังก็มีแต่คำว่า ‘ไม่ว่าง ไม่ว่าง ไม่ว่าง’
ไม่ว่างมากับเขาแต่ว่างไปกับคนอื่น!
ปาร์คชานยอลเข้าใจว่าคนเป็นเดือนคณะก็ต้องมีคนเข้าหามากเป็นธรรมดา แต่หลังจากที่เขาเอ่ยปากขอจีบแบคฮยอน ตั้งแต่นั้นมาเขาก็แทบไม่ได้ไปไหนสองต่อสองด้วยกันอีกเลย
“ฉันว่านายต้องไปคุยกับพ่อหนุ่มน้อยเดือนคณะนั่นให้เป็นเรื่องเป็นราวนะ”
“หื้ม?” ชานยอลเลิกคิ้วมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างคิมจงแดที่พูดจาอะไรแปลกๆ
“นายดูนั่น” หันหน้ามองตามที่เพื่อนซี้บอกแล้วก็สะดุดเข้ากับ...ผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง สูงยาวเข่าดี
“อาฮะ...แล้วไงวะ?”
“หมอนั่นชื่อ หวงจื่อเทา”
“...”
“...เป็นกิ๊กใหม่แบคฮยอน”
“!!!”
“เมื่อวานไปดูหนังกันมา แล้วเห็นว่าวันนี้นัดไปดินเนอร์กันอีก”
“...”
“เฮ้ย เฮ้ย นั่นแบคฮยอนนายมานั่นแล้ว!” ไวกว่าความคิด ทันทีที่จงแดเพื่อนซี้ชี้ให้ดูถึงคนตัวเล็กที่ชานยอลรอคอยและคิดถึง เขาก็ไม่รีรอ ลุกขึ้นวิ่งไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
“อ๊ะ...” แรงกระชากที่ข้อมือบางจากทางด้านหลังทำให้คนตัวเล็กส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ
“แบคฮยอน...”
“ชะ ชานยอล...” เสียงหวานเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างหลุดลอยเมื่อเห็นว่าคนที่กระชากแขนของตนนั้นเป็นใคร ใบหน้าหวานแสดงความกังวลออกมาอย่างปิดไม่มิด ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร
“ใครน่ะแบคฮยอน”
“อะ เอ่อ...คนรู้จักครับ” ตอบออกไปพร้อมกับกระชากมือตัวเองออกจากการเกาะกุมนั้น ชานยอลได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
คนรู้จักงั้นหรอ?
“งั้นหรอ....งั้นเราไปกันเถอะ”
“ครับ...”
แบคฮยอนเดินหนีชานยอลไปแล้ว ทิ้งให้ชานยอลยืนหน้าชากับสิ่งที่ได้รับรู้เมื่อครู่....อะไรนะ?...คนรู้จักอย่างนั้นหรอ?...ไม่ได้เจอหน้ากันนี่ลดความสัมพันธ์เหลือแค่ ‘คนรู้จัก’ เท่านั้นเองหรอ?
“ชานยอลนาย...โอเคไหมวะ” จงแดที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ เดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนซี้เบาๆ ด้วยความเป็นห่วง ก็นะ...โดนปฏิเสธเข้าไปจังๆ แบบนั้น เป็นใคร ใครก็รับไม่ได้ล่ะว้า...
“ไม่เป็นไร...”
“แน่นะ...”
“อื้อ ฉันว่าจะลองไปคุยกับแบคฮยอนอีกครั้งดู...”
“เป็นไงวะ ได้เจอเขาบ้างยัง?”
“...”
“อ่า...ถือช่อดอกไม้กลับมาแบบนี้แสดงว่าไม่เจออีกแล้วสิ”
“อืม...” คิมจงแดส่ายหน้าเบาๆ แสดงถึงความเบื่อหน่าย เป็นเวลากว่าสามวันแล้วที่เพื่อนโย่งของเขาซื้อดอกไม้ช่อโตหวังจะไปขอคุยกับเดือนคณะสุดสวยแบคฮยอนนั่น
แต่ก็ต้องเดินคอตกพร้อมกับช่อดอกไม้เหี่ยวๆ และใจช้ำๆ เหมือนเดิมทุกวัน
ก็ไอ้บ้าเดือนคณะหวงจื่อเทาขับรถไปรับไปส่งแบคฮยอนคนสวยเช้าเย็นจนเพื่อนรักเขาไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้แบคฮยอนเลยซักครั้ง
คิมจงแดล่ะสงสารไอ้ละอ่อนน้อยนี่จริงๆ เกิดมาไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับคนอื่นเขา พอเริ่มจะมีความรักก็ดันรักซะสูง ไปคว้าเดือนคณะสุดฮอตมาซะงั้น...แล้วเป็นไง?...ก็ต้องมานั่งเศร้าแบบนี้
คิมจงแดเพลีย =_=
“แบคฮยอนไม่เต็มใจ...”
“อะไรนะ?” หันหน้ามองคนข้างๆ ด้วยความประหลาดใจ ชานยอลที่ยืนเหม่อ หน่วยตาคมที่ทอดมองออกไปอย่างไม่รู้จุดหมายก็พึมพำออกมาทำให้คนที่เป็นห่วงอยู่ถึงกับถามย้ำด้วยความสงสัย
“นายเห็นแบบนี้ฉันไหมจงแด...แบคฮยอนน่ะ อยู่กับหมอนั่นดูไม่มีความสุขเลยซักนิด”
“เฮ้...นายบ้าไปแล้ว...”
“ฉันเห็นเขามีท่าทางแปลกๆ ดูกระอักกระอ่วนใจยังไงชอบกล ฉันคิดว่าเขาต้องโดนจื่อดำอะไรนั่นบังคับแน่ๆ”
“ไอ้บ้า นายประสาท....”
“ฉันต้องช่วยเขา...ฉันต้อง...”
“เฮ้ยไอ้เชี่ยชานยอล! นี่มึงเป็นบ้าไปแล้วหรอวะ” ความหงุดหงิดก่อขึ้นในใจของจงแดจนเก็บไม่อยู่ เผลอพูดหยาบคายใส่เพื่อนรักตัวเองไปอย่างลืมตัว เพื่อนตัวสูงเองก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะตอนนี้ในหัวของเขามีแต่แบคฮยอนคนเดียวเท่านั้น
“อะไร? ฉันพูดตามที่ฉันเห็น”
“ฉันเห็นว่าแบคฮยอนเขามีความสุขดี นายไม่เห็นหรอว่าสองคนนั้นเดินโอบไหล่กันขึ้นรถทุกวันน่ะ! คนโดนบังคับบ้าอะไรจะยิ้มแก้มปริตาหวานย้อยขนาดนั้นฮะ! นายหลงเขาจนเพี้ยนไปแล้วนะ ให้ตายเถอะ!”
“ฉันไม่ได้เพี้ยน! ฉันจะพิสูจน์ให้นายเห็นว่าแบคฮยอนน่ะถูกไอ้เลวนั่นบังคับจริงๆ!”
พลั่ก!
นะ นี่ไอ้เพื่อนบ้าตัวดีกล้าเดินชนไหล่กันเลยหรอวะ! เออ! แล้วฉันจะคอยดูนายผิดหวังกลับมาแล้วกันไอ้หอกชานยอลซื่อบื้อ!
@คณะนิเทศศาสตร์
“ไอ้เชี่ย ไอ้ควาย ไอ้ซื่อบื้อ ไอ้หอกหัก ไอ้...โอ้ยยยยย!” ถ้อยคำก่นด่านับร้อยถูกสบถออกมาอย่างนับไม่ถ้วน เพราะสุดหล่ออย่างคิมจงแดกำลังหัวเสียกับความดื้อด้านของเพื่อนตัวสูงจนแทบจะทนไม่ไหว ทำไมน่ะหรอ? ก็ตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นแม้แต่เงาหัวของไอ้หอกชานยอลน่ะสิ โทรไปก็ไม่รับ จนถึงเวลาพักเที่ยงแฟนสุดน่ารัก ‘มินซอก’ ของเขาก็โทรมาฟ้องว่าเห็นชานยอลไวๆ ที่คณะเขา...ก็คณะนิเทศฯน่ะแหล่ะ
แล้วแน่นอนว่ามันก็ต้องเดือดร้อนผู้ชายนิสัยดีอย่างคิมจงแดต้องมาวิ่งวุ่นตามหามันน่ะสิ!
ไม่ใช่อะไร แค่จงแดกลัวว่าเพื่อนของเขาจะเผลอไปทำอะไรใครเขา...คือมันคงสู้เขาไม่ได้ Orz
“ครับ?”
“จงแด เมื่อกี้เพื่อนเราโทรมาบอกว่าเห็นชานยอลเดินไปทางสวนหลังคณะ จงแดลองไปดูนะ เผื่อชานยอลจะอยู่ที่นั่น”
“ครับผม...คิดถึงมินซอกนะ”
“บ้า!”
ปลายสายโทรศัพท์ถูกตัดไปแล้วจงแดได้แต่ยิ้มบางๆ พร้อมกับส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ ถึงจะได้ยินเสียงมินซอกแฟนสุดที่รักแล้วก็ยังอดว้าวุ่นไม่ได้ ไอ้บ้าชานยอล =_=
“อ่า...” เสียงหวานใสเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อหลีกหนีความวุ่นวายในโรงอาหารได้ การเป็นเดือนคณะไม่ได้น่าดีใจอย่างที่ใครๆ คิดหรอกนะ :’( แบคฮยอนเลือกที่จะหลบความวุ่นวายมาแอบทานอาหารกลางวันคนเดียวที่สวนหลังคณะแห่งนี้ ใบหน้าหวานฉีกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลงมือแกะกล่องข้าวอย่างคนมีความสุข แต่ทว่า...แบคฮยอนยังหนีความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นเมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนเรียกขึ้นมา
“แบคฮยอน”
“อ๊ะ!” คนตัวเล็กที่ถือกล่องข้าวอยู่ในมือสะดุ้งตกใจจนกล่องข้าวสีสวยแทบหก...ก็เสียงที่ได้ยินน่ะ...เสียงมันคุ้นๆ นี่นา...
แบคฮยอนตั้งสติเล็กน้อยแล้วพยายามคิดว่าเขาคงจะหูฝาดไป แต่ทันทีที่ได้หันไปมองต้นเสียงกลับทำให้หัวใจคนตัวเล็กกระตุกวูบ
“นะ นาย!”
“...”
“มาที่นี่ได้ยังไง!”
“ที่สาธารณะ...ใครๆ ก็เข้ามาได้”
“มะ ไม่ใช่สิ...นายหาฉันเจอได้ยังไง!”
“พูดแบบนี้...แสดงว่าจงใจหลบหน้ากันจริงๆ สินะ” ใช่น่ะสิ! ใครมันจะไปอยากเจอหน้านายกันเล่า!
“นายไม่ควรมาเจอฉันชานยอล กลับไปซะ ถ้าพี่จื่อเทาเห็นนายจะ...”
“ฉันรู้ว่านายไม่เต็มใจไปกับมันใช่ไหมแบคฮยอน”
“ฮะ?”
“ตลอดเวลา...นายไม่ได้เต็มใจไปไหนมาไหนกับมันใช่ไหม? ฉันรู้สึกได้ว่านายกำลังฝืน...”
“นายพูดอะ...”
“”นายบอกฉันมาสิแบคฮยอน มันบังคับข่มขู่อะไรนาย...”
“บ้าไปแล้วหรือไงชานยอล! มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องไม่มีความสุขเวลาอยู่กับพี่จื่อเทานะ เพราะฉันน่ะ...”
“แล้วฉันล่ะ...”
“!”
“นายเอาฉันที่รักนายหมดหัวใจไปไว้ตรงไหน นายเอาปาร์คชานยอลที่ตามจีบ ตามโทร ตามง้อนายนับเดือนไปไว้ที่ไหน ความรักความจริงใจจากฉันมันไม่สามารถเข้าไปถึงหัวใจนายเลยงั้นหรอ...”
“...”
“เพราะอะไรล่ะแบคฮยอน ทำไมนายถึงไม่มองฉันบ้าง”
“...”
“ทำไมนายถึงเลือกหมอนั่น....เพราะอะไร...”
“...”
“หรือว่ามัน...”
“....”
“ลีลาเด็ด”
“!!!”
เพียะ!~
“ฉันไม่คิดเลยนะว่านายจะเป็นคนทุเรศแบบนี้ปาร์คชานยอล...”
“...”
“บางทีนายอาจจะลืมไปว่านายไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องอะไรจากฉันอยู่แล้ว...”
“...”
“อย่าลืมสิ...เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
ฝ่ามือหนาของใครบางคนวางแหมะลงบนลาดไหล่ของคนตัวสูงแล้วบีบมันเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ เรียกความสนใจจากคนตัวสูงได้ไม่น้อย
“ไหวไหมเพื่อน?” เป็นคิมจงแดเองที่วิ่งตามหาชานยอลจนมาทันได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่พอดี หลังจากแบคฮยอนเดินจากไปทิ้งให้เพื่อนซี้ตัวดียืนนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งอยู่คนเดียว จงแดส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ใบหน้าของปาร์คชานยอลตอนนี้ไม่แสดงอะไรเลย...
ไม่แสดงอะไรนั่นแหล่ะที่น่ากลัว...ถ้าหากว่ามันจะโง่เง่าคิดสั้นขึ้นมาจะทำยังไง?
“เจ็บว่ะ...”
“เอาน่า...ไว้ฉันจะหาสาว...”
“ฉันเลิกรักแบคฮยอนไม่ได้จงแด...”
“ฮะ?”
“ไม่ได้...เลิกรักไม่ได้...”
“ทั้งๆ ที่เขาตบหน้านายแล้วจบด้วยคำพูดบาดใจขนาดนั้นน่ะนะ?”
“...”
“...”
“เฮ้อ...”
“เลิกไม่ได้จริงๆ...” จงแดถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความ...ไม่รูจะเรียกว่าความโง่เง่าหรือความมั่นคงในรักกันแน่...แต่ถ้าให้เดา...จงแดก็ขอเดาว่ามันเป็นความมั่นคงในรักที่โง่เง่าที่สุดเลยก็ว่าได้
เอาวะ! ในเมื่อเพื่อนกูไม่มีอะไรจะเสียแล้ว...ลองซักตั้งก็ไม่เป็นไร
“แน่ใจนะว่าเลิกรักไม่ได้?”
“อืม...”
“ไม่เป็นไร...เลิกรักไม่ได้...”
“...”
“ก็ไม่ต้องเลิก!”
1 เดือนก่อนหน้านี้...
“งื่อออออออ!”
“ฮิๆ...หงุดหงิดอะไรอีกแล้วแบคฮยอนนา...”
“ข่าวนั่น!” โพล่งออกไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว เวลานี้ใบหน้าหวานชวนน่าหลงใหลของเดือนคณะนิเทศฯคนดังไม่หลงเหลือรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ใช้โปรยเสน่ห์อีกแล้ว จะมีก็แต่หนุ่มน้อยน่าหวานที่ตอนนี้หวานจนบูดเบี้ยวไปหมด
อะไรที่ทำให้คนสวยอย่างบยอนแบคฮยอนหงุดหงิดได้ถึงขนาดนี้น่ะหรอ? หึ...จะอะไรซะอีกล่ะ...ก็หนีไม่พ้น ‘ปาร์คชานยอล’ คนเดิมน่ะแหล่ะ!
ลือหึ่ง! ปาร์คชานยอลสุดหล่อจากคณะวิศวะเลิกแล้ว! เลิกตามจีบเดือนคณะนิเทศฯหน้าหวานหันไปสนใจดาวคณะอกตู้มดีกรีเจ้าแม่โคนมแทน! ... แพ้ไป 1 แต้ม บยอนแบคฮยอนตกกระป๋องแล้ว!
พ่องงงงงงงงงงง! ข่าวบ้าอะไรวะฮะ!
ตกกระป๋องอะไรไม่ทราบ!
ปาร์คชานยอลต่างหากไอ้ผู้ชายเฮงซวย!
ไอ้ผู้ชายรักง่ายหน่ายเร็ว ผู้ชายไม่หนักแน่น!
อะไรอีกนะ? แพ้แล้วงั้นหรอ?
คนอย่างแบคฮยอนเนี่ยนะจะแพ้ยัยฮยอนอาอกภูเขาไฟนั่น!
นมโตแล้วไงวะ สู้ประตูหลังแบคฮยอนได้หรือเปล่า!
ตอนนี้มันยังบริสุทธิ์คับแน่นมากเลยนะเว่ย!
นมก็นมเหอะ เจอช่องทางสีหวานของแบคฮยอนเข้าไปแล้วจะเงิบบบบบบบบบบบ!
แล้ว...แล้วทำไมคนน่ารักใสซื่ออย่างบยอนแบคต้องมานั่งคิดอะไรที่ทุเรศ ทะลึ่ง ลามก แบบนี้ด้วยฟระ! นายทั้งนั้นแหล่ะปาร์คชานยอล! ฮึ่ยยยยยยยยย! ;__________;
“เอ้า~ แบคฮยอนทึ้งหัวตัวเองจนหนังศรีษะจะหลุดติดมือแล้วนะ ใจเย็นๆ สิ”
“เย็นได้ไงล่ะคยองซู ;_;”
“ปาร์คชานยอลคนหล่อทำให้บยอนแบคฮยอนคนสวยของเราเป็นได้ขนาดนี้เลยน้า~”
“มะ ไม่ใช่นะ คยองซูอย่าแกล้งสิ เพราะข่าวลือนั่นต่างหาก งือออออ”
“แบคฮยอนตกกระป๋องน่ะหรอ?”
“ฮื่อออออ คยองซูใจร้าย!”
“โอ๋...ก็แบคฮยอนกับฮยอนอาเป็นถึงดาวและเดือนคณะเรานี่นา จะคบใครก็เป็นข่าวทั้งนั้นแหล่ะ”
“แล้วตาทึ่มนั่นเกี่ยวอะไร? ทำไมต้องมาเป็นข่าวว่าทิ้งแบคด้วยล่ะคยอง~ ;_;”
“ก็ชานยอลตอนนี้เขาหล่อมากนี่นะ”
“แบคไม่เห็นว่าหมอนั่นจะหล่อตรงไหนเลย!”
“อื้ม...ไม่หล่อ...แต่หล่อมากกกกกก”
“ย๊า! คยองซูคนขี้แกล้ง!”
“ฮะๆ” น้ำเสียงหวานชวนเคลิ้มของเดือนคณะกับเพื่อนซี้สุดน่ารักดังขึ้นจนหนุ่มๆ สาวๆ ในคณะแอบมองแล้วยิ้มแก้มปริ แบคฮยอนที่หน้าตาน่ารักกำลังทำหน้ามุ่ยแต่ทำยังไงมันก็ยังออกมาดูน่ารักน่าจูบอยู่ดี ส่วนคยองซูเพื่อนสนิทที่น่ารักไม่แพ้กันก็ยิ้มตาหยีหยอกล้อเพื่อนตัวดีอย่างสนุกสนาน
คนแอบมองใจจะละลายเว้ยเฮ้ย
ตั้งแต่แบคฮยอนตบหน้าชานยอลไปวันนั้น คนตัวสูงก็หายไปจากชีวิตคนตัวเล็กไปราวๆ หนึ่งอาทิตย์ หลังจากนั้นไม่นานแบคฮยอนก็ได้ยินข่าวลือมาว่าชานยอลน่ะเปลี่ยนลุคใหม่
เปลี่ยนทรงผมที่แสนจะหยิกหยอยเป็นฝอยขัดหม้อให้กลายเป็นผมเหยียดตรง
เหอะ! แค่เปลี่ยนผมใหม่...ฮอตขึ้นกว่าเดิมเป็นบ้า!
ฮอตขึ้นมากจนแซงหน้าพี่จื่อเทาสุดหล่อของน้องบยอนซะอีก!
“เลิกทำหน้างอได้แล้วแบคฮยอนน้อยของคยองซู...”
“ก็มันน่าหงุดหงิดนี่นา...”
“ทำไมต้องหงุดหงิดล่ะ แบคฮยอนเสียดายชานยอลใช่ไหมล่ะ”
“มะ ไม่ใช่ซักหน่อย! เสียหน้าต่างหากล่ะที่แพ้น่ะ!”
“หื้มมมมม? แบคฮยอนน้อย~ มานั่งทบทวนตัวเองเร็วเข้า ว่าที่เป็นอยู่เนี่ย เสียหน้า เสียดาย หรือเสียใจ”
โอเค.
โอเค..
โอเค...!
บยอนแบคฮยอนคนนี้ยอมรับแล้วว่าตอนนี้ตัวเอง เสียหน้า! เสียดาย! เสียใจ!
เสียหน้า! ที่โดนเป็นข่าวว่าแพ้ยัยปอดบวมนั่น
เสียดาย! ที่ผู้ชายหล่อๆ อย่างชานยอลหลุดมือไป
เสียใจ!...ที่วันนั้น...วันที่เขาตบหน้าชานยอลไป...
ไม่มีโอกาสได้บอกความรู้สึกและความจริงเลย...
ความจริงอะไรรู้ไหม?
ความจริงที่ว่า...บยอนแบคฮยอนน่ะ...แอบชอบปาร์คชานยอลน่ะสิ!
ตอนแรกเดือนคณะสุดฮอตอย่างเขาไม่คิดจะชอบใครจริงจังหรอกนะ ที่เห็นควงๆ ไปเที่ยวกับคนนู้นคนนี้นั่นเพื่อนทั้งนั้นแหล่ะ! แค่แบคฮยอนเป็นคนเฟรนด์ลี่ มันก็ไม่แปลกที่แบคฮยอนจะมีเพื่อนเยอะใช่ไหมล่ะ? แต่คนที่ไม่รู้นั่นล่ะเอาไปพูดกันเสียๆ หายๆ
ส่วนเรื่องที่แบคฮยอนไม่ค่อยมีเวลานั้นเขาผิดเองแหล่ะ ก็แค่ตั้งแต่ไปทานเข้ากันวันนั้นหัวใจเขาก็เริ่มเต้นแปลกๆ ปกติไม่เคยจะรู้สึกร้อนวูบวาบกับใครก็มาเป็นกับชานยอลคนแรก
อาจจะเพราะว่าชานยอลไม่เหมือนคนอื่นด้วยมั้ง...ดูเหมือนจะจริงใจแปลกๆ...
ไม่รู้สิ แต่แบคฮยอนแค่รู้สึกว่าชานยอลจริงใจและซื่อตรงกว่าคนอื่นมาก...
มากจนแบคฮยอนกลัว...กลัวว่าถ้าตกหลุมรักผู้ชายคนนี้แล้วจะถอนตัวไม่ขึ้น...
แต่โชคดันไม่เข้าข้างจู่ๆ หวงจื่อเทาลูกพี่ลูกน้องตัวดีก็เกิดคึกขึ้นมาเป็นพิเศษ จ้องจับผิดแบคฮยอนทุกฝีก้าว พ่อหนุ่มเมืองจีนนั่นน่ะ สายลับคนสนิทของป๊ะป๋าแบคฮยอนเลย...ถ้าป๊ะป๋ารู้ว่าแบคฮยอนกำลังมีความรักล่ะก็...ผู้ชายคนนั้นจะถูกเรียกตัวไปพบปะพูดคุยโดยทันที
แบคฮยอนก็แค่ไม่อยากให้อะไรๆ มันเร็วเกินไป ตัวเขาเองก็ยังไม่มั่นใจว่าชานยอลรักเขามากแค่ไหน พร้อมไหมที่จะไปเจอคนในบ้าน...แถมอีกอย่าง...ก็เพิ่งเจอกันได้สองเดือนกว่าเองนี่นะ...
พี่จื่อเทาก็บ้าชอบเร่งเร้า เกิดเขาพลั้งปากบอกไปว่าชอบชานยอลแน่นอนว่าชานยอลต้องได้ไปทานข้าวที่บ้านเขาแน่ มิหนำซ้ำพี่จื่อเทาคงจะประกาศให้ทั่วมหาลัยเพื่อแกล้งเขาเชียวล่ะ
และตอนนี้บยอนแบคฮยอนคนนี้กำลังจะลงแดงตายแล้วววววววววว ;_;
ไอ้บ้าชานยอลควงฮยอนอาโฉบผ่านหน้าเขาไปมาทุกวันๆ บางวันมีหอมแก้มโชว์อีก โอ้ย! บยอนเจ็บช้ำมากนะเฮ้ย! มาทำให้รักแล้วทิ้งกันไปง่ายๆ หรอ?
แล้วคิดว่าเขาจะยอมหรอ? คนอย่างบยอนแบคฮยอนเสียหน้าไม่ได้ เสียของรักไม่ได้ เสียปาร์คชานยอลไม่ได้!
โอเค...นับเค้าท์ดาวน์ถอยหลังสู้วันแย่งชิงได้เลย!
จะได้หรือเสีย...ก็แล้วแต่ชะตาล่ะนะ!
เอ๊ะโอ...ดูเหมือนชานยอลจะทำให้บยอนแบครักจนถอนตัวไม่ขึ้นจริงๆ ซะแล้วสิ ;_;
1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้...
เสียงเพลงเนื้อหายั่วยวนดังกึกก้องไปทั่วคอนโดหรูราคาแพง ปาร์ตี้น้ำเมาเล็กๆ ซึ่งไม่เล็กตามชื่อถูกจัดขึ้นเพื่อฉลองความสำเร็จในการออกค่ายอาสาครั้งนี้ โชคดีแค่ไหนที่โรงเรียนประถมที่เหล่านักศึกษามหาลัยชื่อดังมาทำกิจกรรมอยู่ในจังหวัดไม่กันดารนัก ทำให้หลังจากทำกิจกรรมเพื่อการกุศลเสร็จพวกเขาจึงได้เข้ามาพักในคอนโดหรูใจกลางเมืองของจังหวัด พ่อของรุ่นพี่คนหนึ่งในค่ายเป็นเจ้าของคอนโดแห่งนี้พอดีทำให้พวกเขาสามารถครอบครองห้องพิเศษทั้งชั้นที่ยังไม่มีใครซื้อ
สายตาหื่นกามตามแบบฉบับของผู้ชายแท้ๆ จ้องมองหนุ่มน้อยหน้าหวานดีกรีเดือนคณะที่บัดนี้นั่งกระดกไวน์ราคาแพงอย่างอย่างบ้าคลั่งด้วยอารมณ์ที่ดูผิวเผินก็รู้แล้วว่ากำลังหงุดหงิดอยู่
ถึงจะดูน่ากลัว...แต่ถ้าเมาเมื่อไหร่...ใครดวงดีสอยได้ก็กำไรชีวิตวะ!
เห็นสัดส่วนเย้ายวนภายใต้เสื้อผ้าสุดเซ็กซี่นั่นไหม?
มองดูรองเท้าราคาแพงคู่เฉียดแสนคู่นั้นสิ
ไหนจะกางเกงยีนสีดำรัดรูบมองเห็นกล้ามเนื้อขากับบั้นท้ายอวบอิ่ม
ยังไม่รวมเสื้อแขนกุดคอกว้างที่มีเสื้อซีทรูแขนยาวบางๆ ปิดเนื้อเนียนสวยอย่างยั่วยวนนั่นอีก
เรียวตาสวยถูกกรีดด้วยอายไลน์เนอร์ทำให้ดูหลงใหล
ไม่บ่อยนักที่เดือนคณะคนนี้จะกรีดอายไลน์เนอร์ เพราะถ้ากรีด...ก็อย่างที่เห็น
ท้ายที่สุดคงหนีไม่พ้นท่าดื่นไวน์แสนจะกระชากใจ...
นิ้วเรียวที่กรีนิ้วบรรจงจับแก้ว จรดริมฝีปากบางสวยลงบนปากแก้วช้าๆ...
ยกแก้ว เงยหน้า ดื่มทีละนิด หยาดน้ำสีสวยไหลออกจากริมฝีปากบางลงไปยังลำคอยาวระหงส์...
“ถ้าเมากูจอง!”
“ได้ไงกูจองแล้ว!”
“กูเห็นก่อนพวกมึงไอ้หื่น!”
“กูไม่เถียง กูรอต่อคิวคนสุดท้ายก็ได้!”
หึ! ให้มันได้อย่างนี้สิ! สายตากับความคิดบ้ากามพวกนี้ส่งมาหาแบคฮยอนไม่หยุด! แต่ไอ้คนที่ตั้งใจยั่วน่ะ มันหายหัวไปกับดาวคณะอกตู้มแล้ว!
เอ้อ! ยอมรับเลยว่าแพ้ผู้หญิงเป็นครั้งแรก!
ไอ้บ้าปาร์คชานยอลนะ! คนเขาอุตส่าห์ใช้เส้นสายขอเข้าค่ายอาสาเพราะเห็นว่าอาทิตย์นี้จะมีโปรแกรมมาซ่อมแซมตึกเรียนที่ต่างจังหวัด ที่ไหนได้ ยัยบ้าฮยอนอาก็ดันอยู่ชมรมนี้พอดี แผนแย่งชิงชานยอลกลับมาเลยใช้การไม่ได้ นอกจากจะต้องพับแผนเก็บแล้วยังต้องมาทนดูสองคนนั้นสวีทกันอีก
ฮึก! ยิ่งคิดยิ่งอยากร้องไห้!
แล้วปาร์ตี้ฉลองก่อนกลับโซลอย่างตอนนี้ นี่บยอนคนงามก็อุตส่าห์ฝืนใจกรีดอายแต่งกายรัดติ้วมาเบนความสนใจปาร์คชานยอลสุดฤทธิ์เลยนะ! แต่ไหงกลายเป็นไอ้บ้านั่นหนีหายไปกับยัยปอดบวมแล้วเหลือแต่เขาที่นั่งเหี่ยวเฉากินเหล้าเคล้ายาดองคนเดียว~
“จะกินให้เมาตายไปเลย!”
“เหตุผลล่ะ?”
“เฮ้ย!...นะ นาย!”
“สวัสดี J” อะ ไอ้หล่อปาร์คชานยอล! ไหนเมื่อกี้เห็นโอบเอวฮยอนอาเดินกลับห้องไปไงฟระ!
“ตกใจเลยหรอที่เห็นคนหล่อใกล้ๆ เนี่ย...”
“อะ อะไรนะ! พูดบ้าอะไรน่ะ” ตวาดออกไปพร้อมกับพวงแก้มยุ้ยที่เริ่มขึ้นสี...บอกแล้วว่าปาร์คชานยอลน่ะอันตรายต่อหัวใจเขามากๆ เลยล่ะ ;_;
“นี่เมาหรอเนี่ย?” ชานยอลเลิกคิ้วสูงพลางก้มหน้าเข้าใกล้คนตัวเล็กจนแบคฮยอนถึงกับตกใจทำหน้าเหวออย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ได้เมา!” แทบจะตะโกนกลับไปในทันที แบคฮยอนเริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของหัวใจตัวเองแล้ว ซ้ำปาร์คชานยอลคนเดิมที่เคยรู้จักก็หายไปแล้วด้วย
“แล้วทำไมหน้าแดง...”
“อ้ะ!...” พูดไม่พูดเปล่า ปาร์คชานยอลคนใหม่จอมเจ้าเล่ห์ที่มีแต่สายตาหื่นกามยังถือวิสาสะจับแก้มเขาลูบไล้โดยไม่ขออนุญาติอีก
แต่บยอนคนนี้ก็ไม่ได้ปัดมือออก งื้อ! ไม่ได้อยากให้จับนะ แต่มันเขินไม่ไหวแล้วต่างหาก ;_;
“แล้วทำไมใส่เสื้อผ้าแบบนี้ล่ะ ไม่หนาวหรอ?”
“หยะ อย่ามองนะ!” แขนเรียวเล็กยกขึ้นมากอดอกตัวเองอย่างรวดเร็วทนทีที่ได้ยินคำถามน่าอายเมื่อครู่ พร้อมกับสายตาที่เหมือนมองเห็นเนื้อเนียนขาวใต้ร่มผ้า
บยอนแบคไม่ไหวแล้วฮื่อ! ตั้งใจจะยั่วเขาแท้ๆ แต่พอโดนรุกเท่านั้นแหล่ะ ไปไม่เป็นเลยโธ่!
“หึๆ...กลับห้องเถอะเดี๋ยวฉันไปส่ง”
“มะ ไม่! คืนนี้ฉันตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องเมาให้ได้!”
“เฮ้...ถ้านายเมาแอ๋ไม่รู้เรื่องแบบนี้ฉันก็ทำอะไรกับนายไม่ได้น่ะสิ”
“อะ อะไรนะ!”
“...”
“อ๊ะ! ปล่อยนะ! อุ้มฉันทำไมไอ้บ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้นะเว้ย ชะ ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย!”
“อย่าแม้แต่จะคิด! ผัวเมียจะปรับความเข้าใจกัน คนอื่นอย่าเสือก!”
“มะ ไม่ใช่นะ ผมไม่ใช่เมียไอ้บ้านี้นะ ช่วยผมด้วยสิ คุณครับ!” แบคฮยอนพยายามดิ้นสุดแรงที่มี ทั้งทุบอก ชกไหล่ สะบัดขาไปมา หรือแม้กระทั้งส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมมหาลัยที่นั่งดริ้งกันอยู่ใกล้ๆ ให้ช่วย แต่ก็ไม่มีใครเลยที่กล้าพอจะยื่นมือมาช่วย
“ปาร์คชานยอลปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้น้า!~”
“เงียบ!”
“ยะ ยัยฮยอนอาอยู่ไหนกลับมาเอาแฟนเธอไปเก็บเดี๋ยวนี้! ปล่อยยยยยยยย!”
“...ฮยอนอา...เธอหลับไปแล้ว เราไปสนุกกันดีกว่านะครับคุณเดือนคณะสุดยั่ว!”
“ม่ายยยยยยยยยยยย!”
...ปัจจุบัน...
ตุ้บ!~
ร่างเล็กอ้อนแอ้นถูกโยนลงบนเตียงสีขาวสะอาดของเจ้าของห้องตัวสูงจนแทบจุก แต่กระนั้นความรู้สึกตื่นกลัวก็สั่งให้แบคฮยอนกัดฟันคลานเข่าหนีอย่างไม่คิดชีวิต แต่ทว่าคลานได้แค่ทีสองทีขาเรียวเล็กก็ถูกมือหนาของใครบางคนจับไว้แล้วกระชากให้มานอนหงายหน้ากลางเตียงพร้อมกับเคลื่อนกายคร่อมคนตัวเล็กจนไม่สามารถหนีไปไหนได้
ใบหน้าเหยเกที่แสดงถึงท่าทีเจ็บปวดไม่น้อยที่ถูกเหวี่ยงลงมาแบบนี้ ทำให้ปาร์คชานยอลต้องถามเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหม
“นาย...เป็นยังไงบ้าง?”
“หึ...”
“...”
“ก็จุกน่ะสิคนโง่!”
“หึ...” แสยะยิ้มชั่วร้าย ถ้ายังปากจัดด่าเขาได้แบบนี้แสดงว่าไม่เป็นอะไรมากสินะ ชานยอลส่งยิ้มร้ายให้คนใต้ร่างอกครั้งพลางยกมือข้างหนึ่งปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนสุด แบคฮยอนเห็นท่าทางเหล่านั้นได้แต่หลับตาปี๋ส่งคำถามเสียงอู้อี้ออกมา
“จะทำอะไรน่ะชานยอล!”
“....”
“...”
“เปล่าหนิ ก็แค่ปลดกระดุม....” พูดแค่นั้นก็หยัดตัวลุกขึ้นยืนตามเดิมก่อนจะเดินจากไปแล้วตะโกนกลับมาให้คนบนเตียงหัวใจกระตุกเล่นว่า
“นอนห้องฉันไปนะ ขอตัวไปปลุกฮยอนอาลุกขึ้นมาหาอะไรทำก่อนนอนดีกว่า”
อะไรนะ!
ไม่มีทางซะหรอก!
ตึกตึกตึกตึกตึก ปัง! กริ๊ก! แกร๊ก!
“ทะ ทำอะไรของนายน่ะแบคฮยอน?”
“วิ่งมาปิดประตูแล้วก็ล็อคไง J”
“ไม่ใช่! หมายถึงนายทำทำไม?”
“ไม่ให้ไป...”
“อะไรนะ?”
“ไม่! ให้! ไป!”
“นายบ้าไปละ...” ยังไม่ทันได้ต่อว่าคนตัวเล็กอย่างเต็มคำก็ถูกกระชากคอลงมารับจุมพิตเล็กๆ จากคนตรงหน้าเสียก่อน...
บยอนแบคฮยอนเมาหรอถึงได้จูบคนอย่างปาร์คชานยอลเนี่ย?
“นะ นาย!”
“ฉันจูบนายแล้ว ทีนี้นายก็เป็นของฉันแล้วปาร์คชานยอล!”
“ฮ้ะ?...”
“อย่าให้พูดอีกรอบได้ไหมมันเขินนะ!” หลับหูหลับตาตวาดอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก็แบคฮยอนน่ะ เคยแต่ถูกสารภาพรัก ไม่เคยสารภาพรักกับใครนี่! ครั้งแรกมันก็อายเป็นธรรมดาไม่ใช่หรอ!
“นาย...หึ...”
“...”
“พูดอะไรตอนนั้นก็ไม่ทันแล้ว วันนั้นนายปฏิเสธฉันเองนี่...”
“แต่ตอนนี้ฉันกำลังขอร้องให้นายกลับมาอยู่นะ!”
“มันไม่ทันแล้ว...”
“มันทันสิ! มันต้องทัน! นายจะเลิกรักฉันได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอชานยอล ฮึก! ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะเลิกรักฉันน่ะ ไม่เชื่อ! ฮึก!...” ร่างเล็กเปล่งเสียงออกไปจนสุดเสียง ชานยอลเองก็เกือบจะฟังไม่รู้เรื่อง เพราะแบคฮยอนนั้นพูดไปร้องไห้ไป ความรู้สึกวูบไหวก่อขึ้นในหัวใจของชานยอลช้าๆ มือหนายกขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าของคนที่ตนรักเบาๆ ราวกับว่าถ้าเขาเผลอจับแรงมันอาจจะช้ำได้
ชานยอลยิ้มให้แบคฮยอนอย่างอ่อนโยนเมื่อคนตัวเล็กช้อนสายตาขึ้นมองเขาอย่างออดอ้อน แต่สิ่งที่กระตุ้นภายในร่างกายของเขากลับส่งเสียงเรียกร้องให้ผละออกจากแบคฮยอนโดยเร็ว
“ถูกต้องแล้วฉันยังรักนายอยู่ รู้แบบนี้แล้วสบายใจได้แล้วใช่ไหม? เพราะฉะนั้นหลบไปซะ ฉันจะไปหาฮยอนอาแล้ว”
“ดะ ได้ไงกัน ไหนบอกว่ารักฉันแล้วทำไมยังต้องไปหาฮยอนอาอีก!” แบคยอนเหวใส่ชานยอลอย่างหงุดหงิดหลังจากได้ฟังประโยคที่ต้องการแล้ว แต่ก็ต้องมาดับมืดลงในประโยคต่อมา ฮยอนอาอีกแล้ว!
“แบคฮยอนฟังฉันนะ!”
“...”
“ฉันน่ะ...แพ้ไวน์องุ่น...แล้วฮยอนอารู้ก็เลยแกล้งแอบดื่มแล้วมาป้อนให้ฉันทางปาก”
“!”
“ฉันก็เลยมีท่าทีแปลกไปแบบตอนนี้...ฉันที่ดูเจ้าเลห์และแบดบอยน่ะ...”
“...”
“มันเป็นผลข้างเคียง...”
“...”
“แล้วที่สำคัญ...ไวน์องุ่นทำให้ฉันเกิดอารมณ์...”
“!!”
“ตอนนี้ฉันต้องการปลดปล่อยอย่างเร่งด่วน ฉันจำเป็นต้องไปหาฮยอนอา...”
“...”
“ฉันขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปก่อน ถ้าฉันนับหนึ่งถึงสามแล้วนายยังยืนขวางอยู่ล่ะก็...”
“...”
“...ฉังคงต้องทำกับนายแทนแล้วนะ”
“!!!”
“หนึ่ง”
“...”
“สอง”
“...”
“...เฮ้อ...จะไม่หลบใช่ไหม?”
“ทำสิ...ฉัน...จะช่วยนายเอง”
“...”
“ถะ ถึง...ถึงจะเป็นครั้งแรกของฉัน...แต่ฉันสัญญานะ...ว่าจะทำให้นายมีความสุข...”
“...”
“...ชาน...อื้อ!...” พูดเสียงหวานยั่วยวนโดยไม่รู้ตัวได้ไม่ทันไร ก็ถูกริมฝีปากหนาของคนตรงหน้าครอบครองราวกับสัตว์ป่าที่หิวโหย เรียวลิ้นร้อนถูกส่งเข้าไปเกี่ยวกระหวัดหาความหวานในโพรงปากของร่างเล็กไม่หยุดหย่อน ถึงจะตกใจที่ถูกจูบแบบใช้ลิ้นเป็นครั้งแรก แต่แบคฮยอนก็ยอมรับเลยว่ามันมีความสุขมากจริงๆ
ความหอมหวานและนุ่มนวลของกลีบปากสวยทำให้ปาร์คชานยอลแทบทนไม่ไหว ฟันคมกัดฉับลงบนริมฝีปากของคนตัวเล็กเบาๆ อย่างหยอกล้อ แบคฮยอนที่พยายามจูบตอบอย่างเงอะๆ งะๆ เพราะควมใสซื่อทำให้ชานยอลยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
หยาดน้ำใสที่เปรอะเปื้อนรอบบริเวณถูกคนใจดีอย่างปาร์คชานยอลใช้ปากซับจนหมด ฝ่ามือหนาซุกซนคว้าหมับเข้าที่ส่วนอ่อนไหวของร่างบางก่อนจะออกแรงบีบนวดเบาๆ เพื่อเป็นการยั่วยุ
แบคฮยอนถึงกับแข้งขาอ่อนเมื่อถูกรุกล้ำ จากเดิมที่ว่าร้อนลุ่มจนทรงตัวไม่ไหว พอถูกทำแบบนี้ก็ร้อนแรงจนยืนไม่อยู่
“อื้อ...ชาน...ยอล...อึก...อย่าจับ...” สิ้นเสียงหวาน เรียวขาเล็กก็แทบทรุดลงไปทันที แต่โชคยังดีที่ชานยอลโอบกอดเอวบางเข้ามาแนบตัวได้ทัน
แบคฮยอนหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อชานยอลเลิกแกล้งหยอกล้อกับส่วนอ่อนไหวแล้วเปลี่ยนไปช้อนตัวเขาขึ้นมาในอ้อมอกแทน
“ตรงนี้มันประตูไม่ถนัดหรอก...ไปบนเตียงดีกว่านะครับคนสวย...”
The end.
------------------------------------------------------------------------------------------
แอร๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
จบซักทีนะ ฮึก! อย่าเพิ่งฆ่าเค้านะที่ OS ตอนนี้ไม่มี NC ให้อ่านกัน
คือมันเหนื่อยมากจริงๆ ถ้าถามว่ามีไหม มันมีแน่นอน แค่หมาน้อยยังไม่พร้อมแต่ง
กะว่าจะลงอีกทีในเล่มไปเลยเป็นของพิเศษกับคนที่สั่ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับฟีดแบคนะคะ
ถ้าสมมติว่ายอดคอมเม้นต์เรื่องนี้มันเด้งเกินคาด
ก็อาจจะเปลี่ยนใจมาลงให้ในนี้ก็ได้ 55555555555555
เอาเป็นว่าเจอกันใหม่เรื่องหน้านะคะ
แลวก็ขอโทษด้วยที่ปล่อยให้รอกันนานมากกกกกกกก
แต่ยังไงก็มานะ! กิกิ
สถานี OS ต่อไป
รถไฟสายสีชมพูฮุนฮัน
และสีส้มเทาฮุน
#อย่างงที่มี OS คู่อื่นโผล่มาทั้งๆที่บทวามนี้คือชานแบค only
พอดีเดือนก่อนนึกคึกจัดเกมเล่นในทวิต ผู้ชนะสามารถรีเควสคู่ได้
ผลมันก็เป็นเช่นนี้แล... lol
ใครอ่านแล้วติดใจหรือตะขิดตะควงใจ (?) อยากคุยหรืออยากด่าไรท์เตอร์
ตามไปติชมได้ที่ >> ` หมาน้อยมาลามิวท์ <<
dgggggggggggggggggggggggg
:) Shalunla
ความคิดเห็น