คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Puppy Love รักนะครับ เจ้าหมาน้อยจอมดื้อ! : Chapter 17
Chapter 17
Baekhyun Part
=___________= เซ็ง! บอกได้คำว่าว่าคุณหนูบยอนท่านนี้เซ็ง! จะไม่ให้ผมเซ็งได้ยังไงล่ะ ก็ในเมื่อตื่นเช้ามาก็โดนบังคับให้อาบน้ำ เสร็จแล้วก็โดนลากมาที่สนามบินขึ้นเครื่องมาประเทศไทยเนี่ย! ไอ้เสาไฟฟ้านั่นมันจอมเด็จการจริงๆ เลย ผมบอกว่าผมจะกลับบ้าน หมอนั่นก็ดันมาชวนให้ผมมาเที่ยวกับเขา พอผมบอกว่าไปไม่ได้เขาเลยจัดการไปชวนพี่ลู่หานกับคยองซูซะเสร็จสรรพแล้วหันมาขู่ผมว่าถ้าผมไม่ไปผมต้องอยู่บ้านกับยัยแม่มดนั่นสองต่อสอง!
แค่คิดก็สะพรึงงงงงงงงงงงงงง T_T
“ทำไมทำหน้างอล่ะ เรากำลังจะไปเที่ยวกันนะนายไม่ดีใจหรอ”
“ก็ผมโดนชานยอลลากมานี่นาฮยอง เป็นใคร ใครก็ต้องหงุดหงิด”
“ฉันโดนลู่หานลากมายังไม่หงุดหงิดเลย”
“หุบปากไปเลยไอ้เด็กบ้า!” ผมหันไปค้อนใส่เซฮุนที่มากับเราด้วยความขุ่นเคือง ถึงผมกับเด็กบ้านั่นจะเคลียร์กันแล้วแต่ก็ไม่วายจิกกัดกันอยู่ตลอดเวลา หนอยยยย ไอ้เด็กปากมอม!
“ถือว่าเรามาเที่ยวพักผ่อนกันไง นายบอกคุณชานยอลเองไม่ใช่หรอว่าอยากไปเที่ยวประเทศไทยอ่ะ”
“นายก็เงียบไปอีกคนเลยคยองซู! นายก็มากับจงอินอ่ะ นายมีคู่! พี่ลู่หานมีคู่! ทุกคนมากับแฟนกันหมดเลยอ่ะ ฮืออออออออ”
“มะ ไม่ใช่นะ ฉันกับคุณจงอินเราไม่ได้...”
“อ๋อหรอ! คนไม่ใช่แฟนที่ไหนเขาตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋แบบนายสองคนกันฮะ ไปทำงานจงอินก็ไปส่ง ตอนกลางวันคยองซูก็ทำกับข้าวให้ พอตกเย็นก็จูงมือกันเข้าบ้าน พวกนายยังจะกล้าปฏิเสธอีกหรอออออออ!”
“มะ ไม่ใช่จริงๆ นะ (.//.)”
“ฮะๆ ไม่เอาน่ะคยองซู ก็ยอมรับไปสิว่าเราเป็นแฟนกัน”
“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่จริงๆ คุณจงอินอย่าแกล้งผมสิครับ”
“นี่! ไปสวีทกันให้ไกลเลยไป๊!” โอ๊ยยยยยยยยย! บยอนแบคฮยอนจะเป็นลม คู่พี่ลู่หานก็ยืนดูดชานมแก้วเดียวกัน คู่คยองซูก็ยืนหยอกล้อกันไปมา แล้วผมล่ะ! ทำไมผมไม่มีคู่! แบบนี้ผมก็ต้องอยู่กับไอ้หื่นนั่นอ่ะดิ ไม่เอาหรอก ผมไม่ชอบอยู่ใกล้ชานยอล ผมเกลียดฉันชานยอล!
เกลียดดดดดดดดด
เกลียดดดด
เกลียด!
เกลียดที่เขาชอบทำให้หัวใจผมเต้นแรง!... (;____________;)
“นี่ปาร์คชานยอลนายจะยืนเงียบอีกนานไหมฮะ!” เมื่อผมสังเกตเห็นว่าคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีลากมาเมืองไทยยืนเงียบตั้งแต่ถึงสนามบินอินชอนแล้วผมจึงหันไปเหวี่ยงใส่คนข้างๆ ด้วยความหงุดหงิด
“...”
“นี่เป็นใบ้หรือไง!” ผมเริ่มโวยวายเมื่อชานยอลยังคงยืนนิ่งไร้ซึ่งการตอบสนองใดๆ ผมตัดสินใจที่จะโวยวายอีกครั้งแต่เสียงเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาก่อน พอได้ยินดังนั้นชานยอลก็เดินดุ่มๆ เข้าเกทไปเฉยๆ แล้วทิ้งให้ผมยืนนิ่งเป็นก้อนหินอยู่ที่เดิม...เป็นอะไรของเขาเนี่ยยยยย!
“คิก~ นายต้องง้อไอ้ตัวสูงแล้วล่ะ” พี่ลู่หานพูดไปพลางหัวเราะไปก่อนจะเดินจับมือกับเซฮุนเข้าเกทไปอีกคู่ ผมพึมพำออกมาด้วยความสงสัยเล็กน้อยกับคำพูดของพี่ลู่หาน
“ทำไมถึงต้องง้อวะ”
“ก็แบคฮยอนทำให้คุณชานยอลน้อยใจน่ะสิ นายต้องง้อนะ ><” ห้ะ! ผมทำ? ผมทำอะไรวะเนี่ยยยยยย ผมไม่ง้อหรอก! เรื่องอะไรล่ะที่คุณหนูบยอนต้องลดตัวไปง้อ เหอะ! อยากงอนก็งอนให้ได้ตลอดแล้วกัน!
จึกๆ~ (._.)
“ปาร์คชานยอลลลลล~”
“...”
“ปาร์คชานยอลสุดหล่อออออ หันมาคุยกับบยอนแบคหน่อยเร็วจ๊าาาาา”
“...” ไหนตอนแรกหมาตัวไหนบอกว่าจะไม่ง้อคนตัวสูงนี่วะ! ฮึ่ยยยยยย จะไม่ให้ง้อได้ไงล่ะก็ตั้งแต่นั่งเครื่องมาหมอนี่ก็นั่งเงียบเอาแต่อ่านหนังสือ ไม่พูดไม่คุย ไม่มองหน้าผมเลยสักนิด! ผมมันเป็นคนช่างพูดช่างคุยนะ จะให้มานั่งเงียบอมน้ำลายในปากมันก็ใช่เรื่อง! ผมเลยจำใจต้องมานั่งเกาะแขนเขย่าเรียกร้องความสนใจอยู่เนี่ย!
“อะไร” ได้ผล! แต่ไม่ใช่ผลดีเท่าไร =_________= เพราะชานยอลเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมก็จริง แต่สีหน้าและแววตานี่มันเย็นชาโคตรๆ! อ่า...ชานยอลมาโหมดนี้อีกแล้ว ผมไม่ชอบเลย...
“นี่...นายโกรธอะไรฉันหรอ นายงอนฉันใช่ไหม ฉันขอโทษนะ แต่ว่าอย่าทำแบบนี้สิ ฉันไม่ชอบนายก็รู้” คำพูดมากมายที่เตรียมจะแว้ดใส่คนตรงหน้ากลืนหายไปหมด มีเพียงแต่คำพูดที่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดออกมาแบบนี้...
“นายพูดแต่ว่าเพราะนายไม่ชอบนายก็เลยไม่อยากให้ฉันทำ แล้วนายเคยคิดจะทำตามในสิ่งที่ฉันชอบบ้างไหม?”
“ห้ะ?”
“การอยู่กับฉันมันน่ารังเกียจมากนักหรือไงนายถึงได้เอาแต่โวยวาย ถ้านายไม่ชอบอยู่ใกล้ฉัน ฉันก็จะไม่อยู่ใกล้นายโอเคไหมแบคฮยอน?” ผมอึ้งเล็กน้อยกับประโยคที่ชานยอลเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อปนน้อยใจ...นั่นสิ ผมเอาแต่โวยวายจนไม่นึกถึงคนที่ได้ยินเลยว่าเขาจะรู้สึกยังไง
เมื่อเห็นว่าผมนิ่งเงียบไม่ยอมตอบอะไร ชานยอลจึงเบือนหน้ากลับไปอ่านหนังสือตามเดิม ผมเม้มปากเป็นเส้นตรงด้วยความร้อนใจ เอาอีกแล้ว ชานยอลโหมดเย็นชาอีกแล้ว!
เอาล่ะ! ในเมื่อง้อด้วยคำพูดแล้วไม่หายงอนก็ต้องง้อด้วยการกระทำ!
Chu~ (>3<)
“O_o”
“(>//<)”
“นะ นาย! ทำอะไรของนายเนี่ย!”
“กะ ก็ง้อด้วยคำพูดแล้วนายไม่หายงอนนี่! ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วอ่ะ จูบนี้แทนคำขอโทษที่ทำให้นายเสียใจแล้วกัน!” ผมหลับหูหลับตาพูดออกไปอย่างไวโดยไม่มองหน้าคนข้างๆ ลำพังแค่จะอ้าปากพูดออกไปยังยากลำบากเลย ถ้าให้ผมมองหน้าเขาอีกผมต้องหัวใจวายตายแน่ๆ เลย! เอ็งกล้ามากบยอนแบคฮยอน ฮืออออออออ (;________________;)
“...” อ้าว...ทำไมชานยอลเงียบไป...หระ หรือว่าเขาจะยังไม่หายงอนผม? นี่ผมไม่รู้จะง้อยังไงแล้วนะ ถ้าลงทุนขนาดนี้ยังไม่หายงอนนี่ผมจะงอนเขากลับแล้วนะพูดจริงๆ!
ผมค่อยๆ เงยหน้าไปมองคนที่ผมเพิ่งขโมยจูบแก้มเมื่อสักครู่นี้อย่างช้าๆ เพื่อดูว่าที่เขาเงียบไปเป็นเพราะอะไร หรือว่าจะโกรธที่ผมถือวิสาสะไปจูบแก้มเขาทั้งๆ ที่เราเป็นผู้ชายเหมือนกัน...ตะ แต่ว่า...แต่ว่าที่หมอนั่นทำกับผมมันมากกว่านี้อีกนะ ผมยังไม่เห็นโกรธเขาเลย!
“นายมองหน้าฉันแบบนี้หมายความว่าไง นายจะไม่ยกโทษให้ฉันใช่ไหม ได้! งั้นนาย...”
“ฉันยังไม่ได้พูดสักหน่อยว่าไม่ยกโทษ...”
“แล้วนายจ้องหน้าฉันทำไม!” ผมพูดพลางมองหน้าเขาด้วยสายตาเอาเรื่อง ผิดกับชานยอลเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่ริมฝีปากหนาจะหยักยิ้มมุมปากเล็กน้อย...อย่างร้ายกาจ
“ฉันแค่จะบอกว่าที่นายทำเขาไม่ได้เรียกว่าจูบ...”
“...”
“...เขาเรียกว่า ‘หอมแก้ม’ ... ส่วน ‘จูบ’ …เขาทำกันแบบนี้ต่างหาก...”
“!” ไม่ทันที่ผมจะได้ไตร่ตรองคำพูดของคนตรงหน้า ริมฝีปากหนาที่ผมจ้องมองเมื่อสักครู่ก็โฉบเข้ามาครอบครองริมฝีปากบางของผมอย่างร้อนแรง ดุดัน ปลายลิ้นหนาตวัดเข้ามาชิมความหอมหวานในโพรงปากบางอย่างหื่นกระหาย ผมพยายามผลักอกกว้างของร่างสูงออกไปพร้อมกับก่นด่าด้วยความโมโห
แต่ทว่า...ยิ่งต่อว่ายิ่งเท่ากับเป็นการเปิดทางให้เรียวลิ้นของคนตัวสูงสอดแทรกเข้ามาได้ง่ายขึ้น แล้วฉกชิงความนุ่มนวลจนทำให้ผมแทบจะขาดสติไปกับความเย้ายวนที่ถูกยัดเยียดให้...
สมองที่ขาวโพลน หูตาที่ฝ้าฟาง ร่างกายที่อ่อนยวบไร้เรี่ยวแรงเพราะถูกดูดไปกับรสจูบที่ได้ลิ้มรส...ทุกสัมผัสที่ได้รับมอมเมาผมให้เคลิบเคลิ้มไปกับสิ่งที่ชานยอลมอบให้
จากจูบตอนแรกที่ร้อนแรงถูกปรับให้เบาบางเป็นจูบที่แสนหวานละมุนละไมพร้อมกับฝ่ามือหนาที่ประคองใบหน้าหวานให้อยู่ในการควบคุม แต่ก่อนที่จะจมดิ่งไปกับสิ่งที่กระทำอย่างลืมตัว มือหนาของคนรุกก็เริ่มไล่ต่ำลงมาลูบไล้ไหล่บางจนทำให้ร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนถึงกับสะดุ้งแล้วได้สติ
“อะ อื้ออออออ!” ผมส่งเสียงต่อต้านออกไป หลังจากที่นึกได้ว่าเราจูบกันนานเกินไปแล้ว และบนเครื่องบินก็ไม่ได้มีแค่เราสองคน! แม้มันจะเป็นคลาสสูงสุดเลยก็ตาม...
“(.//.)” เมื่อผละออกจากอ้อมแขนของปีศาจหื่นกามได้แล้วผมก็นั่งก้มหน้างุดๆ ด้วยความขวยเขิน...ให้ตายสิ นี่ผมทำอะไรลงไป โอ้พระเจ้าาาา ผมแทบจะเอาหน้ามุดเก้าอี้ทะลุพื้นเครื่องบินได้อยู่แล้ว…จะจ้องหน้ากันอีกไหนไหมเนี่ยยยยยย (;_________;)
“ทีนี้รู้แล้วหรือยัง?”
“ระ รู้อะไร”
“หึๆ...รู้รึยังว่าอันไหนเขาเรียกว่า ‘หอม’ แล้วอันไหนเขาเรียกว่า ‘จูบ’ น่ะ” เสี้ยวหนึ่งของหางตาไม่รักดีของผมมองเห็นได้ถึงรอยยิ้มอันชั่วร้ายจากผู้ชายที่นั่งข้างๆ ผม...ไอ้บ้า! โดนขนาดนี้ถ้าแยกแยะไม่ได้ก็โง่เกินคนแล้วล่ะ โฮกกกกกกกกกกกกกกกกก (TOT)
โอ้พระเจ้า อะไรมันจะซวยซ้ำซวยซ้อนอย่างนี้ นี่ผมไปก่อบาปอะไรไว้ที่ไหนเนี่ยทำไมผมต้องเจอแต่เรื่องเลวร้ายตลอดเลยด้วย! ... ก็จะไม่ให้เลวร้ายได้ไงล่ะ ตั้งแต่เมื่อคืนก็โดนชานยอลนอนกอดไม่ยอมปล่อยแถมหอมแก้มผมหลายรอบจนแก้มแทบช้ำ พอตอนอยู่บนเครื่องก็โดนขโมยจูบ แล้วตอนนี้ยังต้องนอนห้องเดียวกับไอ้หื่นนี่อีก? ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหลวมตัวนอนกับเขาจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...
“ไม่! ฉันจะนอนกับคยองซู!”
“นี่พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม?”
“รู้เรื่อง! แต่ฉันจะนอนกับคยองซู!”
“พูดดีๆ ไม่ฟังอย่างนี้ต้องรวบหัวรวบหาง!”
“ฮะ เฮ้ยยยยยย!” ผมร้องด้วยความตกใจเมื่อชานยอลอุ้มผมพาดบ่าแล้วเดินเข้าห้องโดยไม่สนใจผมที่ดิ้นพราดสุดแรงเกิด
หนอย! พี่ลู่หานกับคยองซูก็เอาแต่มองแล้วหัวเราะอยู่นั้นแหล่ะ! ถ้าผมรอดไปได้ผมจะงับหัวให้สมองไหลเลยคอยดู!
ตุ้บ!~
“เฮ้ย...” พอเข้าในเขตห้องนอนปุ๊ปชานยอลก็เหวี่ยงผมลงที่เตียง จับข้อมือทั้งสองข้างของผมตรึงไว้เหนือหัว...ผมบอกแล้วว่านอนกับหมอนี่สองคนไม่ได้ T^T
“ชะ ชานยอลลุกไปเลยนะ!”
“กลัวหรอ?”
“เปล่าซักหน่อย!” ผมตวาดเสียงลั่นพร้อมจ้องตากับคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละ เรื่องอะไรจะบอกให้รู้ว่ากลัวล่ะ เสียฟอร์มคุณหนูแบคฮยอนแย่เลย!
“หึหึ...”
“ขำ ขำอะไรไม่ทราบ!” ให้ตายเถอะ! ผมแทบจะทนไม่ไหวแล้วนะ ไอ้บ้าปาร์คชานยอลนี่มัน ฟหกด่าสว!@#$%^&*()_
ฮึ่ยยยยยยยย! มาจ้องหน้ากันแล้วแสยะยิ้มเจ้าเลห์แบบนี้คืออัลไลลลลลลลลลล (;_;)
ผมเขิน!... T[]T
“ไปเที่ยวกันไหม?”
“ฮะ?...กะ ก็เรามาที่ไทยก็เพราะมาเที่ยวไม่ใช่หรือไง ถามอะไรแปลกๆ”
“หมายถึงว่าไปตอนนี้เลยไง...”
“ก็ไปสินายเลี้ยงใช่ไหมล่ะ”
“แน่นอนสิ ฉันเลี้ยงนายได้ทั้งชีวิตเลยล่ะ ^^”
ฉันเลี้ยงนายได้ทั้งชีวิต.
ฉันเลี้ยงนายได้ทั้งชีวิต..
ฉันเลี้ยงนายได้ทั้งชีวิต...
พูดบ้าอะไรฟระะะะะะะ บยอนแบคฮยอนอยากจะบ้าตายยยยยยยยยย (T//T)
“เฮ้ย! นายหน้าแดงอ่ะแบคฮยอน นายไม่สบายกะทันหันหรอ? นายตัวร้อนหรือเปล่าเนี่ย...”
“O_o” ผมสะดุ้งโหยงทันทีที่หน้าผากของคนด้านบนแนบชิดจรดลงหน้าผากของผม...ใกล้กันเกินไปล๊าวววววว~
“ย๊าาาาาา!~ นายทำบ้าอะไรของนายฮะปาร์คชานยอล!” ผมแผดเสียงตะโกนด่าชานยอลลั่นห้อง แต่ก็ได้แค่ด่า! ด่าแล้วก็อยู่เฉยๆ ไม่กล้าขยับ...ก็หมอนี่ไม่ยอมเอาหน้าผากออกไปจากผมเลยน่ะสิ
“เอ๊าาาาาา ก็ดูเหมือนนายจะไม่สบาย ฉันอยากรู้ว่านายตัวร้อนไหมก็ต้องอังดูสิ”
“ทำไมไม่ใช้มือ!”
“ก็มือล็อคแขนนายอยู่อ่ะ ไม่เห็นหรอ โง่จริง...” ดูมันทำ! นี่มันตอบหน้าตายมากเลยนะ นี่มันโง่จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่ผมสงสัยยยยยยยยยยย!
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยอย่ามาทำเนียนนะ! ปล่อยฉันแล้วลุกออกไปได้แล้วปากนายเหม็นสุดๆ ไปเลยอี๋~”
“-*- ถ้าปากฉันเหม็นจริงๆ นายคงไม่ยอมจูบกับฉันบนเครื่องหรอก...”
“อะ...ไอ้บ้า! มันไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย! ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ” ผมเริ่มออกแรงขยับตัวอีกครั้งเพื่อที่จะหลุดจากการถูกพันธนาการในท่าล่อแหลมแบบนี้...
จริงๆ คือกลัวไอ้หื่นนี่ได้ยินเสียงหัวใจ...เต้นเป็นจังหวะแทงโก้เลยครับ (;_;)
“จริงๆ นายอยากใกล้ชิดฉันใช่ไหมถึงได้ทำรุ่มร่ามกับฉันแบบนี้น่ะ!” ในเมื่อพูดดีๆ ไม่ยอมปล่อย ก็ต้องหน้าด้านพูดแบบนี้ล่ะ ผมหวังว่าเขาจะเขินแล้วเลิกแกล้งผมซักที...
“ใช่ไง ฉันอยากใกล้ชิด และชิดใกล้~” พังงงงงงงงงงง! นี่ผมกะพูดให้เขาเขินนะ ไม่ใช่ให้เขามาสวนแล้วผมไปไม่ถูกแบบนี้!
“งื้ออออออ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” ผมพูดพลางเบะปากลงเล็กน้อยหลังจากที่ค้นพบแล้วว่า ‘ไม่มีวิธีใดหยุดยั้งปาร์ดชานยอลได้...นอกจากตัวเขาเอง’ ==;
“ฮะๆ...นายนี่ชอบทำตัวเหมือนเด็กๆ เลยนะ โอเคฉันไม่แกล้งนายแล้วก็ได้ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วไปเที่ยวกัน” ชานยอลพูดจบก็ละหน้าผากออกจากผมไปอย่างอารมณ์ดี...และดูเหมือนจะดีมากซะด้วย =_=; ใครกันแน่ที่ชอบทำตัวเหมือนเด็กๆ!
Chanyeol Part
เอาล่ะ...ไหนก่อนออกจากโรงแรมใครกันนะที่บ่นว่า ‘ไม่อยากมา’
ผมมองคนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆ แล้วก็อดขำไม่ได้กับพฤติกรรมที่เขาแสดงออก...ก่อนหน้านี้แบคฮยอนบ่นตลอดทางเลยว่าไม่อยากมาเที่ยวสวนสัตว์กับผม แต่พอมาถึงนี่คือ...
“ชานยอลลลลลล นายว่าอันนี้น่ารักไหม ><”
“ไม่นะ อันนี้เหมาะกับนายมากกว่า” ผมตอบคำถามเขาแล้วเอื้อมมือไปหยิบที่คาดผมหูหมาสีขาวมาสวมที่หัวให้แบคฮยอนแล้วส่งรอยยิ้มบางให้คนตรงหน้า
“ง่าาาาา หูหมางั้นหรอ?” แบคฮยอนยกมือขึ้นจับหูของที่คาดผมเล็กน้อยก่อนจะก้มลงไปส่องกระจกที่ตั้งอยู่บนโต๊ะของร้าน
“ถ้าฉันใส่หมานายจะใส่อะไรล่ะ?”
“จะบ้าหรอฉันโตแล้วนะ จะให้มาใส่อะไรเป็นเด็กไปได้” ผมสายหน้าอย่างเอือมๆ กับความคิดที่ไม่โตเป็นผู้ใหญ่สักทีของแบคฮยอน แต่ยังไม่ทันจะได้บ่นอะไรมาก จู่ๆ ที่คาดผมสีเหลืองลายจุดน้ำตาลก็ถูกส่งขึ้นมายังหัวของผม ทำไมหูนี้มันเหมือน...
“แฮ่~ หูยีราฟฟฟฟ (^-^)” ...ในใจก็คิดจะต่อว่าเขาอยู่หรอกที่ทำอะไรแลดูเหมือนเด็กสองขวบแบบนี้ แต่ผมเห็นรอยยิ้มหวานๆ ที่ร่างเล็กนี้ส่งมาให้ทำเอาหัวใจผมกระตุกวูบพูดไม่ออกเลยทีเดียว
บยอนแบคฮยอนน่ารักเกินไปแล้ว
“ทำไมนายซื้อแล้วนายไม่ใส่ล่ะ?” ผมหันไปถามเขาหลังจากที่เราเดินออกจากร้านค้านั้นมาแล้ว (ซึ่งเราใช้เวลานานมากๆ กว่าจะซื้อของเสร็จ เนื่องจากสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง ==’) แบคฮยอนเลือกที่จะซื้อหูหมาสีขาวที่ผมเลือกให้แล้วก็หูยีราฟที่ผมใส่อยู่ แต่มีเพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่ใส่ที่คาดผมหน่อมแน้ม เพราะแบคฮยอนเก็บหูหมาที่ซื้อมาใส่กระเป๋าเป้ไปอย่างหน้าตาเฉย
“นายบอกฉันว่าถ้าฉันยอมมาเที่ยวกับนาย นายจะทำตามฉันทุกอย่าง งั้นฉันขอสั่งให้นายใส่หูยีราฟจนกว่าฉันจะให้เอาออก”
-0- ได้ไงฟระ
“...เพราะว่าดูน่ารักมากเลยที่ใส่มัน (.//.)” ผมถลึงตามองแบคฮยอนทันทีที่เขาพูดจบ...อะไรนะ? ผมเนี่ยนะดูน่ารัก? แล้วเขาก้มหน้างุดๆ เพื่อกลบเกลื่อนความเขินนี่คืออะไร? ผมต้องเขินไม่ใช่หรอเฮ้ยยยย~
“ขอโทษนะคะคุณเป็นคนเกาหลีใช่ไหมคะ?” ผมขมวดคิ้วให้กับผู้มาใหม่ที่ผมไม่รู้จัก ผู้หญิงสามคนกำลังยืนยิ้มให้ผมกับแบคฮยอนอย่างอายๆ สำเนียงเปล่งๆ บอกให้ผมรู้ว่าเธอไม่ใช่คนเกาหลี ผมเพ่งตีความหมายของเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพอเดาๆ ได้ว่า ‘เป็นคนเกาหลีหรือเปล่า’
“ใช่ครับ มีอะไรหรอ?”
“ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ >//<” ผมเลิกคิ้วอย่างงงๆ กับประโยคต่อมา ถ่ายรูป?
“ถ่ายรูป?” พวกเขาไม่ได้พูดอะไรแต่พยักหน้าแทนคำตอบ ผมหันไปมองแบคฮยอนที่ยืนข้างๆ ผมเพื่อขอความคิดเห็นจากเขา แต่ก็ยิ่งทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นสายตาไม่พอใจจากคนตัวเล็ก...ทำอะไรผิดอีกแล้ววะ?
“จะทำอะไรก็ทำไปสิ! รีบๆ ด้วยฉันร้อน!” ว่าเสร็จแบคฮยอนก็เดินทำหน้ามุ่ยไปรออยู่อีกทาง ผมจึงหันมายิ้มให้กับสาวๆ พวกนี้อย่างมีมารยาท
“ได้ครับ” พอผมอนุญาตพวกเธอก็กรูกันเข้ามาถ่ายรูปกับผมหลายรูปเลยทีเดียว ทั้งผลัดกันถ่ายทีละคน ถ่ายรวม ถ่ายเดี่ยว ผมอึดอัดหายใจไม่ออกเล็กน้อยเพราะทุกคนเบียดผมแทบจะรวมร่างได้เลยทีเดียว ผมแอบรำคาญเบาๆ นะ =_=’ แต่เพื่อสุภาพสตรีแล้วผมก็ทำได้แค่ยิ้มๆ...อย่างน้อยๆ หน้าอกนุ่มๆ ของแต่ละคนก็ถูไถกับแขนของผมสนุกดี (^_____________________________^)
“ขอบคุณมากนะคะ ขอโทษที่ทำให้คุณกับแฟนคุณต้องงอนกัน แต่แฟนคุณน่ารักมากเลยนะคะ ตอนแรกฉันอยากจะถ่ายรูปกับเขามากกว่าคุณซะอีก แต่ดูท่าทางเขาจะเข้าใจผิดแล้วก็หึงคุณมากด้วย ขอโทษด้วยนะคะ (.//.)”
“แฟน? ผมไม่ใช่...”
“ดูสิคะ เขาหึงที่ฉันกระซิบกับคุณด้วย อ๊ายยยย น่ารักจังเลยค่ะ >< เขาต้องเป็นเคะใช่ไหมคะ? แล้วคุณก็เป็นเมะ? คุณต้องทะนุถนอมเขาให้มากนะคะ เพราะเขาตัวเล็กมากๆ เลย”
“คะ คุณครับ คือผมไม่...”
“งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณที่ให้ถ่ายรูปค่ะ เที่ยวเมืองไทยให้สนุกนะคะ สาวไทยสวยมากๆ ดูอย่างฉันเป็นต้นนะคะ ><”
“คะ คุณณณณณณ~” ไม่ทันแล้ว...ผมยังไม่ทันจะอธิบายเลยว่าผมไม่ใช่แฟนของแบคฮยอน ==’ นี่สาวไทยมองอะไรก็เป็นวายไปหมดหรือเปล่า? ผมไม่ใช่แฟนเขาสักหน่อย แล้วแบคฮยอนก็ไม่ใช่เคะ...แต่เดี๋ยวนะ...แบคฮยอนเป็นคนตัวเล็ก ขาว หน้าตาจิ้มลิ้ม แก้มนุ่ม ผิวเนียน เนื้อหอม...เคะได้นี่หว่า...
ผมสะบัดหัวตัวเองแรงๆ สองสามทีไล่ความคิดบ้าๆ ออกไปจากหัวสมองแล้วตรงดิ่งไปหาเจ้าของใบหน้าสวยที่บัดนี้ทำหน้างอเหมือนกำลังโกรธผมอยู่
“เฮอะ!” ดูเขาทำสิ ==; พอผมเดินมาใกล้ๆ ก็สะบัดหน้าเดินหนีไปเฉยเลย...นี่ผมทำอะไรผิดล่ะเนี่ย ผมไม่รู้จริงๆ นะ (;_;)
“เดี๋ยวสิแบคฮยอน ฉันทำอะไรให้นายโกรธไม่ทราบ?”
“เปล่า!”
“แล้วเดินหนีฉันทำไม” ผมวิ่งไปคว้าแขนเล็กแล้วดึงให้หันหน้ามาคุยกับผม แต่สงสัยผมจะแรงเยอะไปนิดเพราะแบคฮยอนถึงกับเสถลาหน้าซุกอกผมอย่างจัง
“ปล่อย!”
“ไม่ปล่อย...นายเป็นอะไรอีก ฉันทำอะไรให้นายโกรธไม่ทราบ ถ้านายไม่บอกฉันจะไม่รู้นะ!” ผมเริ่มขึ้นเสียงกับคนตัวเล็ก เพราะผมเองก็ไม่ชอบใจที่เขาจะมาเอาแต่ใจตัวเองใส่ผมแบบนี้บ่อยๆ
“ก็บอกว่าเปล่าไง! ปล่อยมือฉันนะ!”
“ถ้าไม่แล้วมาเดินหนีทำไม!” ผมตวาดใส่แบคฮยอนอย่างเหลืออดเมื่อผมชักจะทนไม่ไหวกับท่าทีง้องแง้งจากเขาอีกแล้ว
แบคฮยอนจ้องหน้าผมกลับ เขาก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมา เพียงแต่พยายามดึงแขนตัวเองออกจากมือของผมเท่านั้น ผมจ้องไปที่หน้าของเขาเพื่อสร้างความกดดันและบ่งบอกให้รู้ว่า ‘ผมจะไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาอีกแล้วนะ’
แบคฮยอนยังคงไม่ยอมพูดอะไร แล้วก็ยังออกแรงดึงแขนตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อผมเพ่งมองดีๆ ก็พบว่า...แบคฮยอนกำลังจะร้องไห้...ใบหน้าหวานที่เริ่มขึ้นสี ดวงตาที่แดงกร่ำ หยาดน้ำใสๆ เริ่มเอ่อคลอเต็มดวงตาคู่สวยทั้งสองข้าง
“ฉันเจ็บ...ฮึก...” แบคฮยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ฉับพลันหยดน้ำหยดเล็กๆ ก็ร่วงจากหางตาของคนตัวเล็ก ผมชะงักไปกับภาพที่เห็นจึงเผลอผ่อนแรงที่ข้อมือ ทำให้แบคฮยอนหลุดจากการเกาะกุมของผมได้สำเร็จ ร่างเล็กผละออกมาเช็ดน้ำตาตัวเองออกไปเล็กน้อยแล้ววิ่งหนีผมไป
ผมตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่จึงได้แต่ยืนมองแบคฮยอนที่วิ่งหนีออกห่างจากผมไปเรื่อยๆ ...ผมสะดุ้งรู้สึกตัวเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนเริ่มจะวิ่งไปไกลแล้ว
ผมออกแรงวิ่งตามแบคฮยอนอย่างสุดฝีเท้า แบคฮยอนวิ่งไปทางสวนสาธารณะที่หนึ่งในสวนสัตว์ซึ่งดูเหมือนจะไม่ค่อยมีคนมาเดินเล่นแถวนี้สักเท่าไร ต้องขอบคุณขายาวๆ ที่ทำให้ผมวิ่งตามคนตัวเล็กได้ทัน ผมตัดสินใจเอื้อแขนคว้าตัวแบคฮยอนเอาไว้แล้วโอบกอดจากด้านหลังทันทีเพื่อไม่ให้เขาหนีไปไหน
“ปล่อยนะ! ฮึก...” หัวใจผมเหมือนถูกบีบรัดทุกทีที่ได้ยินเสียงสะอื้นจากแบคฮยอน...ผมไม่ชอบเลยที่แบคฮยอนร้องไห้
“ฉันขอโทษนะ...ฉันบีบแขนนายแรงมากไปใช่ไหม?”
“ใช่! นายบีบจนกระดูกฉันแทบจะแตกละเอียดอยู่แล้ว! ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยคนนิสัยไม่ดี ไอ้คนชอบใช้กำลัง ปล่อยยยยยย!” แบคฮยอนออกแรงดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของผม แต่มีหรอที่คนอย่างปาร์คชานยอลจะยอมปล่อย? ไม่ มี ทาง!
“นายหึงใช่ไหมล่ะ?”
“ฮ้ะ!” ได้ผลแฮะ...เด็กดื้อคนนี้หยุดดิ้นได้สักที =.,=
“ก็ที่นายงอนฉันเพราะนายหึงใช่ไหมล่ะ”
“บะ บ้า! อย่ามาหลงตัวเองได้ไหม ที่ฉันทำหน้าบึ้งเพราะว่าฉันร้อนต่างหาก! เพราะนายน่ะแหล่ะมัวแต่ยืนเก๊กถ่ายรูปอยู่ได้ แถมยังมีกระซิบกระซาบอะไรกันอีก ถ้าถูกใจนักทำไมไม่หิ้วกลับโรงแรมไปด้วยเลยล่ะ!” แบคฮยอนพูดเร็วและรัวจนผมเกือบจะฟังไม่ทัน...แต่ผมว่าผมเข้าใจแล้ว ‘แบคฮยอนหึงผมจริงๆ ด้วย’
“ไม่เอาอ่ะ ผู้หญิงคนนั้นสุ้นายไม่ได้สักอย่าง นายทั้งตัวเล็กกว่า ขาวกว่า สวยกว่า หุ่นดีกว่า จับส่วนไหนก็นุ่มนิ่มน่าบีบไปทุกส่วน แบบนี้แหล่ะสเปคฉัน~”
“ย๊าาาาา!~ ไอ้โรคจิต! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ฉันต้องอยู่ห่างๆ จากนายสักร้อยเมตรถึงจะปล่อยภัยใช่ไหมเนี่ยยยยย!”
“หึหึ” ผมหัวเราะในลำคออย่างมีชัย ทำไมน่ะหรอ? ก็ดีใจกับความสำเร็จไงครับ หนึ่งแบคฮยอนเลิกร้องไห้ไปแล้ว สองแบคฮยอนไม่ได้ดิ้นแรงเหมือนตอนแรก และสาม...แบคฮยอนหน้าแดงแสดงความเขินเต็มที่เลยที่เดียวเชียวล่ะ
ณ จุดๆ นี้... ปาร์คชานยอล ‘วิน’ นะครับ ^[++]^
“ที่กระซิบกันไม่มีอะไรหรอก แค่ผู้หญิงคนนั้นเขาบอกว่านายเป็นเคะที่น่ารักมากกกกก เป็นแฟนที่เหมาะกันฉันมาก แล้วก็เป็นภรรยาที่โชคดีที่สุดในสามโลก!”
“มะ มันจะใช่ได้ยังไง! ฉันเป็นผู้ชายนะอย่ามามั่ว แล้วฉันไปเป็นภรรยานายตอนไหนไม่ทราบ นายขี้ตู่อีกแล้ววววว!”
“ตอนนั้นไง ตอนที่นายมานอนห้องฉัน เราได้กันตั้งหลายครั้ง!”
“อ๊ากกกกกกกกกก! นายพูดอะไรปาร์คชานยอล! ครั้งเดียวเท่านั้นเว่ย! แล้วฉันก็ไม่เต็มใจด้วย! ไอ้ทะลึ่ง ไอ้ลามก ไอ้@!#$%^&*()”
“อ๋อๆ นายไม่เต็มใจแต่นายแค่มีอารมณ์ร่วม เราได้กันแค่ครั้งเดียวแต่ว่าหลายรอบอย่างนี้ใช่ไหม? โอเคผมเข้าใจแล้วครับคุณภรรยา (^-^)”
“!”
“(^______________________^)”
“ย๊าาาาาาาาาาาาาาาาา! ไอ้ปาร์คชานยอลโรคจิตตตตตตตตต!”
“โอ๊ยเจ็บนะ เจ็บๆ ฮ่าๆ” ผมหัวเราะร่วนกับท่าทางโมโหที่ดูยังไงๆ ก็ไม่น่ากลัวสักนิด เพราะดูแล้วเหมือนลูกหมาตัวน้อยๆ กำลังหัดขู่เสียมากกว่า แบคฮยอนทุบแขนของผมที่ล็อคตัวเขาไว้หลายทีจนผมยอมปล่อยตัวเขาให้เป็นอิสระ พอได้โอกาสคุณหนูผู้เอาแต่ใจคนนี้ก็ทุบแขน ทุบไหล่ผมยกใหญ่
คนเขินเขาแก้เขินกันด้วยวิธีนี้ใช่ไหม?
บางทีการมาเที่ยวสวนสัตว์ก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดนะ ♥
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เย้ววววววววว~ ครบร้อยเปอร์ซักทีนะคะ 555555555555555
ใครอ่านแล้วเม้นต์ติให้หมาน้อยด้วยเน้~
เหมือนเดิมนะ กติกาในการอัพแชปต่อไปขึ้นอยู่กับจำนวนคอมเม้นต์ค่ะ
ฟิคใครจะจองกดจองไว้เลยนะคะ เดี๋ยววันที่ 1-15 ธ.ค.จะเปิดให้จอง+โอนเงินอย่างเต็มรูปแบบ
พร้อมบอกรายละเอียดของฟิค หน้าปก ของแถม โปสการ์ด ที่คั่น
ขอบอกนิดนึงว่าหน้าปกพี่แบงคึเป็นคนออกแบบให้นะคะ ><
หมาน้อยหน้าด้านไปรีเควสมา 55555555555555
ราคาฟิคบอกไว้เลยแล้วกันนะว่าราคา 350 บาท+ค่าส่ง 50 บาท
(ราคาฟิคแพงเพราะยอดจองมันน้อย 55555555555)
#ใครพลาดแล้วก็พลาดเลยนะเพราะอาจจะไม่รีปริ๊นและแน่นอนว่าหมาน้อยไม่ไปงานฟิค
เพราะหมาน้อยไม่ได้ดังเหมือนคนอื่นๆ เข้าใจเค้านะ? 555555555
ใครอ่านแล้วติดใจหรือตะขิดตะควงใจ (?) อยากคุยหรืออยากด่าไรท์เตอร์
ตามไปติชมได้ที่ >> ` หมาน้อยมาลามิวท์ <<
ความคิดเห็น