คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : Puppy Love รักนะครับ เจ้าหมาน้อยจอมดื้อ! : Chapter 16
Chapter 16
Chanyeol Part
แสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบกับใบหน้าเรียวเล็กของร่างบางในตอนนี้ทำให้ผมอดรู้สึกวูบไหวหวั่นใจอยากจะจูบคนตรง บยอนแบคฮยอนยามหลับนี่น่าจับปล้ำจริงๆ
“ฮื่อ...” ผมหัวเราะให้กับคนตัวเล็กเบาๆ หลังจากพบว่าเวลาเขานอนจะมีเสียงครางเหมือนลูกหมาก่อนที่เจ้าตัวจะหลับลึก แต่วันนี้ดูท่าจะพิเศษกว่าวันอื่น เพราะแบคฮยอนดันร้องหงิงๆ เป็นระยะๆ
เมื่อคืนหลังจากที่ผมเลือกที่จะเปิดใจรับฟังแบคฮยอนผมก็รู้ว่าเขาเป็นคนเก็บกดมากแค่ไหน แล้วผมก็รู้ว่าเขาเริ่มใจอ่อนให้กับลู่หานแล้ว แต่ถึงจะยังไงก็ช่าง ผมก็ยังไม่เชื่อเขาทั้งหมด เพราะคุณน้าลู่จินดูไม่น่าจะเป็นคนใจร้ายขนาดนั้น
ผมมองไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายเขาแล้วพบว่าที่แขนและข้อมือของแบคฮยอนมีรอยฃ้ำเป็นจ้ำๆ อยู่หลายแห่ง...สิ่งแรกที่ผมคิดคือน้าลู่จินเป็นคนทำร้ายแบคฮยอน หากแต่พิจารณาดูดีๆ แล้วรอยช้ำพวกนั้นคนที่สร้างไว้ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นเพราะผมเอง...ถ้าคืนนั้นผมไม่ใจร้อนวู่วามเหมือนคนบ้าคงไม่ทำอะไรรุนแรงกับคนตัวเล็กแบบนี้
ผมลูบไล้ฝ่ามือลงบนแก้มเนียนนุ่มของแบคฮยอนอย่างเบามือ ริมฝีปากที่เคยอวบอิ่มบัดนี้กลายเป็นริมฝีปากที่บวมเจ่อ มีรอยแผลเล็กๆ ที่มุมปาก ซอกคอขาวเต็มไปด้วยรอยจางสีกุหลาบที่ผมจงใจทำมันเอง...
“นายคงเจ็บมากสินะ...เรื่องเมื่อคืนนั้น”
“...”
“ฉัน...ขอโทษนะ”
“ฮื่อออออ” ผมสะดุ้งตกใจเล็กน้อยเมื่อจู่ๆ ร่างเล็กนี่ก็ครางออกมาอีกรอบพร้อมกับตวัดแขนมาโอบตัวผมไว้ ใบหน้าหวานทำหน้าตามู่ทู่เหมือนกับว่ากำลังฝันอะไรอยู่ ดูแล้วไม่น่าจะเป็นฝันดีเท่าไรแฮะ
“ฝันหรอแบคฮยอน?”
“อืออออออ ชานยอล...อย่า” ห้ะ! อะไรนะ? อะไรยอล ยอล? นี่แบคฮยอนฝันถึงผมหรอ?
“ชานยอลลลลล...ไม่เอา...อย่าสิ...”
“ฮะๆ นายฝันถึงฉันด้วย...พูดแบบนี้หมายความว่าไง” ผมพูดพลางเขยิบตัวเข้าไปแนบชิดกับแบคฮยอนแล้วยกมือขึ้นปัดปอยผมของเขาเบาๆ แบคฮยอนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอีกครั้งแล้วจู่ๆ คอเสื้อของผมก็ถูกข้อมือเล็กกระชากเข้าหาตัวอย่างเร็ว
พระเจ้าช่วย...คอแทบเคล็ด...
“บอกว่าอย่าไงวะ!”
“เฮ้ยๆ ตื่นเลยแบคฮยอน อย่าอะไร ฉันไปทำอะ...”
“อย่านะ!!!!!!!”
โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!~
“อ๊ากกกกกกกกกกก!”
“เฮ่ยยยยยย!”
“ชะ ชานยอล...เมื่อกี้เสียงอะไรหรอ?” ตึงงงงงง!
“นาย! บยอนแบคฮยอน!”
“อะ อะไร?”
“นายถีบฉันตกเตียงงงงงงงงงงงงงงงง!” ผมตะโกนเสียงดังลั่นห้องด้วยความโมโห ลูกถีบมหัศจรรย์นั่นทำผมกลิ้งหลายตลบก่อนจะตกลงมาจากเตียง ก้นของผมกระแทกเข้าที่พื้นห้องอย่างหนักหน่วงทำเอากระดูกแทบร้าวววววว พระเจ้าช่วยบอกผมทีว่าไอ้คนตัวเล็กที่นั่งหน้ามึนบนเตียงนี่ไปเอาแรงมาจากไหนเยอะแยะ เมื่อวานยังเป็นลูกหมาตัวน้อยๆ ไม่มีเรี่ยมแรงในอ้อมกอดผมอยู่เลยเถอะ!
“ฉะ ฉันเนี่ยนะ? ฉันจะถีบนายตกเตียงได้ยังไง ฉัน...เฮ้ยยยยย พูดงี้แสดงว่านายนอนเตียงเดียวกับฉันหรอ!”
“=_=”
“ว่าไงฮะ!”
“อือ...”
“อะ อะ ไอ้บ้าปาร์คชานยอลลลลลล!”
“เฮ้ยยยยย อะไรเนี่ยยยย! โอ๊ยยย หยุดนะ อ๊ากกกกก!” ผมยกแขนขึ้นมาปัดป้องหมอนข้างใบใหญ่ที่กำลังฟาดเข้ากลางกบาลของผม พอยกมือปิดหัว คนตัวเล็กก็ฟาดเข้าที่สีข้าง พอเอามือปิดสีข้างคนตัวเล็กก็ฟาดหัวผม =______________=;
“ฮือออ ไอ้บ้า ไอ้คนโรคจิต ไอ้จอมฉวยโอกาส เมื่อคืนนายทำอะไรฉันฮะ นายจูบฉันจนหายใจไม่ออก นายหลอกฉัน นายหลอกให้ฉันตายใจ นายทำเป็นปลอบใจฉันแล้วนายก็จูบก็ไซร้ อ๊ากกกกกก ไอ้บ้าเอ๊ยยยยย เรื่องคืนนั้นยังไม่พอใช่ไหม ใช่ไหม ใช่...อุ้กกกกกก!” ผมรำคาญกับเสียงหวานที่กรีดร้องออกมาจนแสบแก้วหู ผมเลยตัดสินใจกระโจนเข้าใส่คนตรงหน้าแล้วผลักเขาลงกับเตียง
...ผลักแรงไปหน่อยมั้ง ดูสิ จุกเลย (;_;)
“ปละ ปล่อย!” พอตั้งสติได้คนตัวเล็กก็ส่งเสียงขู่ฟ่อๆ บอกให้ผมปล่อยเขาทันที แต่เรื่องอะไรจะปล่อยให้ลุกขึ้นมาทำร้ายร่างกายผมอีกล่ะ ผมน่ะ ทำร้ายเขาได้คนเดียว หึหึ
“เงียบก่อนแล้วฟังฉัน...เมื่อคืนนี้ ฉัน ไม่ ได้ ทำ อะ ไร นาย เลย” ผมพูดเน้นทีละคำเพื่อให้แบคฮยอนสบายใจเรื่องเมื่อคืน ไม่ใช่ว่ากลัวเขาจะคิดว่าผมเป็นพวกชอบฉวยโอกาสหรอกนะ เพียงแต่อยากให้เขาเชื่อใจว่าผมเองก็เป็นเพื่อนที่ดีได้เหมือนที่เคยพูดไว้...แม้เรื่องของคืนก่อนจะขัดๆ อยู่ก็เถอะ ==’
“แล้วนายมานอนเตียงเดียวกับฉันได้ไงเล่า!”
“ก็นายร้องไห้หนักหลังจากที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟัง ฉันก็แค่จูบนายจนนายเหนื่อยแล้วก็หลับคาอกฉัน พอฉันอุ้มนายวางลงเตียงนายเองต่างหากที่เป็นคนดึงตัวฉันไว้ให้นอนด้วย”
“มะ ไม่จริง!”
“จริง นายจูบกับฉันแล้วหลับคาอกฉันจริงๆ”
“อะ ไอ้บ้า เรื่องนั้นฉันรู้แล้วน่า...(.//.) แต่ที่ไม่จริงน่ะคือฉันไม่ได้ดึงนายไว้สักหน่อย!”
“โหยยยยย นั่นเรื่องจริงที่สุดในสามโลกเลยครับคุณภรรยา”
“ห้ะ! ภะ ภรรยาบ้าอะไรของนายน่ะ!”
“เอ้า! ความจำสั้นอีกแล้ว ก็เรื่องคืนนั้นไง นายเป็นเมียฉันแล้วนะ อยากให้ฟื้นความจำไหม?” คุณไม่ต้องสงสัยว่าทำไมผมพูดถึงเรื่องคืนก่อนได้โดยที่คนตัวเล็กไม่โกรธหรือโวยวายอะไรเลย ก็เพราะเมื่อคืนผมขอโทษเขาไปแล้ว ผมพูดความในใจออกไปทั้งหมดว่าผมไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็ยอมชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่างยอมให้เขาเตะ ต่อย หรือตีหรืออะไรก็ได้...แต่ก็นั่นล่ะ ผมดันไปขอโทษเขาในตอนที่เขากำลังเสียใจเรื่องอื่นอยู่เลยทำให้เขายกโทษให้อย่างง่ายดายแล้วก็ได้จูบมาโดยไม่ได้ตั้งใจ...แค่เจตนาทำนิดนึงเอง (=.,=)
“พะ พอเลยปาร์คชานยอล! พอฉันให้อภัยนายก็พูดใหญ่เลยนะ! อยากโดนโกรธอีกรอบหรือไงล่ะ!”
“ขอโทษคร๊าบบบบบบ คุณภรรยา ^[++]^”
“งื้ออออ! ยังจะมาแกล้งกันอีก ลุกออกไปเลยนะ มาคร่อมฉันแบบนี้มันอึดอัด!”
“อ่อๆ คร่อมแบบนี้อึดอัด คร่อมแบบไหนล่ะจะไม่อึดอัด? คร่อมแบบคืนก่อนไหม หรือจะนายจะออนท็อปดี...”
“อะ ไอ้บ้า!” แบคฮยอนยกมือขึ้นมาทุบอกผมเบาๆ เป็นเชิงบอกว่า‘พูดอะไรน่าอาย’ผมมองท่าทางการเขินอายแบบเด็กๆ ของแบคฮยอนแล้วรู้สึกว่าคนตรงหน้านี้ช่างน่าทะนุถนอมมากเสียจริงๆ ใบหน้าหวานที่แต้มไปด้วยสีชมพูระเรื่อลามไปถึงใบหู อ่า...นี่จะยั่วกันในท่านี้เลยใช่ไหมเนี่ย?
“ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ...” แบคฮยอนเอ่ยเสียงเบาก่อนจะเสหน้าไปทางอื่นไม่ยอมสบตากับผม บ้าจริง เขาจะรู้ไหมว่าการทำตัวแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึก...โอ๊ยยยยยยย
ฟึบบบบบบบบบ!~
“ปะ เป็นอะไรชานยอล...อยู่ๆ ก็เด้งตัวลุกขึ้นยืนซะเร็วเลย...โกรธฉันหรอ?” แบคฮยอนลุกขึ้นมายืนตามผมแล้วเอียงคอถามด้วยความสงสัย...แบคฮยอนเอ๊ยยยยยิ่งทำท่าทางใสซื่อยิ่งน่าปล้ำ! สงสารปาร์คชานยอลทีครับที่รักกกก (;_;)
“เปล่าๆ ว่าแต่นายเถอะ ละเมออยู่นั่นล่ะว่าอย่าๆ ไม่เอาๆ นายฝันอะไรฮะ?”
“O//O” พอผมถามออกไปเท่านั้นล่ะ คนตัวเล็กก็ทำตาโตเท่าไข่ห่านแถมแก้มที่แดงเมื่อครู่ก็แดงมากขึ้นกว่าเดิม ผมมองท่าทีร้อนรนของแบคฮยอนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจไม่เซ้าซี้เพราะว่า...ท่าทางน่ารักๆ แบบนั้นมันยากจะห้ามใจ!
“เอาเถอะๆ ไม่ตอบก็ไม่เป็นไรแต่วันนี้รีบๆ อาบน้ำลงไปกินข้าวล่ะฉันจะรอ ป่านนี้คยองซูคงจัดสำรับกับข้าวไว้หมดแล้วมั้ง” ผมพูดทิ้งท้ายแล้วเดินออกจากห้องโดยเร็ว ทันทีที่ประตูห้องผิดลงผมก็หันหลังพิงกับประตูยกมือขึ้นทาบหน้าอกตัวเองเพื่อเช็คว่ามันโอเคอยู่ไหม
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก... ไม่! แม่งไม่ปกติที่สุดเลยครับ ฮือออออออออ
“บ้าๆๆๆ เราก็แค่แกล้งแบคฮยอนเล่นเฉยๆ แล้วทำไมหัวใจต้องเต้นรัวด้วยล่ะวะ...หรือว่าจะชอบแบคฮยอนแล้วจริงๆ?” ผมพูดกับตัวเองราวกับคนบ้า แต่มันคงไม่มีอะไรบ้าไปกว่าการที่ผมหัวใจเต้นแรงกับแบคฮยอนหรอก ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมยอมรับว่าผมชอบที่จะสัมผัสตัวเขา แต่ผมก็ไม่เคยเอ่ยปากว่ารัก หรือชอบ หรือรู้สึกยังไงนอกจากคำว่า ‘เพื่อนที่ดี’ แต่เรื่องในคืนก่อนผมก็ยอมรับแล้วขอโทษเขาไปแล้วว่าที่ทำไปเพราะความโมโห...ไม่ใช่ความรัก
ไม่ใช่ความรักงั้นหรอ?
แล้วที่หัวใจเต้นถี่รัวแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรกันวะ...
Baekhyun Part
“อ่าาาาา...” ผมยืนถอนหายใจอยู่หน้าบานประตูห้องมาสักพักนึงแล้ว...ทำไมน่ะหรอ? ก็ผมไม่กล้าไปเจอหน้าปาร์คชานยอลน่ะสิ! :’( ไอ้หมอนั่นสร้างรอยใหม่ให้ผมอีกแล้ว! เมื่อคืนเผลอแปปเดียวก็โดดดูดคอเลยล่ะ คนบ้าอะไรวะ หื่นใส่ตลอดดดดดด!
แกร๊กกกก~
“อ๊ะ...”
“โอ๊ะ...โทษทีฉันไม่รู้ว่านายยืนอยู่หลังประตู”
“...ขึ้นมาตามฉันหรอ?”
“อ่า...ใช่ๆ...แล้วก็...มีคนมาหานายด้วย”
“ห้ะ?...คงไม่ใช่...”
“ไม่ใช่ๆ...นายลงไปดูเองเถอะ” พูดจบชานยอลก็เดินมาดันหลังผมให้เดินไปยังห้องรับแขกของบ้าน พอถึงห้องโถงผมก็มองเห็นแขกผู้มาเยือนจากด้านหลัง...แล้วก็รู้ได้เลยว่าเป็นใคร...
...เขาคือคนที่ผมผลักตกบันได
ผมก้าวลงบันไดอย่างช้าๆ พร้อมกับร่างบางของใครคนนั้นก็พลิกหันมาทางผมอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ใบหน้าหวานมองเห็นผม รอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นอย่างเป็นมิตร...นี่เขา...ไม่ได้เกลียดผมไปแล้วหรอกหรอ?
“แบคฮยอน (^------^)” สิ้นเสียงลู่หานก็วิ่งเข้ามาหาผมทันที เขาวิ่งเข้ามาแล้วดึงมือของผมไปกุมไว้อย่างอ่อนโยน ผมตกใจเล็กน้อยกับท่าทางที่ดูเหมือนเดิมของเขา เขายังคงใจดีแล้วก็เป็นมิตรกับผมเสมอ
“นายหายโกรธพี่แล้วหรือยัง”
“!” จากที่ตกใจอยู่แล้ว ผมกลับตกใจกับประโยคนี้เข้าไปอีก อะ อะไรกัน...ผมเองไม่ใช่หรอที่ควรจะเป็นคนถามเขา...ก็ผมเป็นคนทำให้ลู่หานเจ็บตัวนี่
“ทะ ทำไม...ฉันเป็นคนผลักนายนะ ฉันสิต้องเป็นคนถามว่านายโกรธฉันไหม”
“ไม่หรอก...ถ้าวันนั้นพี่ไม่เซ้าซี้ แบคฮยอนก็คงจะไม่โมโห แล้วอีกอย่าง...นายเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะผลักพี่ใช่ไหมล่ะ...” ผมพยักหน้าแทนคำตอบ สายตาผมเหลือบไปเห็นชานยอลที่กำลังยืนมองผมกับลู่หานอยู่ ชานยอลยิ้มให้ผมแล้วพูดโดยไม่มีเสียงออกมา ผมจับใจความได้ว่า ‘ขอโทษสิ’
“ขะ...ขอโทษนะ” ผมเอ่ยเสียงเบาหวิวราวกับพ่นลมหายใจ ผมนึกโทษตัวเองด้วยความสมเพช...แค่ขอโทษแค่นี้ก็ไม่กล้า...ถึงจะเป็นคำขอโทษที่แทบจะไม่มีเสียง แต่ลู่หานก็ฉีกยิ้มกว้างน้อมรับคำขอโทษ
รู้สึกดีจังแฮะ...
“ไม่เป็นไร พี่ไม่เคยโกรธแบคฮยอนเลยนะ ^^ แบคฮยอนอา...นาย...นายจะยอมให้พี่ได้เป็นพี่ชายของนายได้ไหม?” น้ำเสียงออดอ้อนที่ดูน่ารักและไม่เสแสร้งทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างมาบอกไม่ถูก แต่เมื่อเห็นผมยืนเงียบไม่ให้คำตอบอยู่นานท่าทางที่กำลังดีใจอยู่เมื่อครู่ก็หายไปทันที
“นาย...ยอมรับพี่เถอะนะ...พี่...รักนายมากจริงๆ นะ” ลู่หานพูดออกมาด้วยแววตาที่ดูหม่นลงเล็กน้อย เหมือนกำลังกลัวในคำตอบ
“ลู่หานรักนายมาก อยากมีน้องชายมาตลอด เขาอยากดูแลนาย ได้โปรด...เปิดใจให้เขาเถอะนะ”
คำพูดของชานยอลที่พูดกับผมเมื่อคืนดังขึ้นมาในโสตประสาทผมครั้งแล้วครั้งเล่า ผมเม้มปากเป็นเส้นตรง บ่งบอกให้รู้ว่าขณะนี้ผมกำลังเครียด ผมกำลังตัดสินใจ...
“ลู่...ลู่หาน...ลู่หานฮยอง...อ๊ะ” ผมพูดได้แค่นั้นร่างกายของผมก็ถูกสวมกอดจากคนตรงหน้าทันที ลู่หานดูเหมือนจะดีใจกับประโยคเมื่อครู่มาก เขากอดผมแน่นจนแทบจะรวมร่างกันได้ ใบหน้าหวานของลู่หานเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ผมรู้สึกว่ามัน...สวยมาก...สวย...ราวกับนางฟ้า...
“ขอบคุณนะ ขอบคุณ ขอบคุณที่ยอมรับพี่ ฮึก...”
“นะ นาย...เอ๊ย ฮยอง...ฮยองร้องไห้ทำไม”
“พี่ดีใจที่นายยอมรับพี่แล้ว ขอบคุณจริงๆ นะ ขอบคุณ...” ลู่หาน...ไม่ใช่สิ...พี่ลู่หาน...พี่ลู่หานพูดขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำแล้วและยังคงกอดผมไปร้องไห้ไปอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน...แต่แปลก...ผมกลับไม่รู้สึกรำคาญหรือเมื่อยเลย ผมกลับรู้สึกชอบ...ชอบและมีความสุข...การที่มีใครคนนึงรักเรามากทำให้มีความสุขขนาดนี้เชียวหรอ?...ผมโชคดีจัง
Chanyeol Part
“อะไรนะ!”
“นี่! อยู่ด้วยกันแค่นี้ทำไมนายต้องเสียงดังด้วยเล่า!”
“บ้าหรอ! นาย...นายจะกลับบ้านตัวเอง? แล้วคยองซูล่ะ แล้วฉันล่ะ?”
“อ้าว...นายกับคยองซูก็อยู่ด้วยกันไปสิ ฉันแค่มาขออาศัยพักนึงเท่านั้นนายจำไม่ได้หรือไง -*-” ผมยืนจ้องหน้ากับคนตัวเล็กอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า...ไอ้เตี้ยนี่ขอมาอยู่แค่พักเดียวจริงๆ
แล้วผมเป็นบ้าอะไรมายืนหงุดหงิดใส่แบคฮยอนวะ!
“ประสาท -*-” แบคฮยอนมองผมด้วยหางตาแล้วเดินเข้าห้องของตัวเองไปเพื่อเตรียมตัวเก็บของ ผม...ผมไม่อยากให้เขาไปเลย ถ้าแบคฮยอนไปแล้วผมจะแกล้งใครล่ะ? ผมไม่ยอมหรอกนะมาอยู่ฟรี กินฟรี งานบ้านไม่ทำ ค่าเช่าบ้านก็ไม่จ่ายใครจะยอมให้ไปกัน! ... ผมต้องทำอะไรสักอย่าง!
“ฮัลโหล มีอะไรหรอครับคุณชานยอล”
“คยองซูคืนนี้ไม่ต้องเข้าห้องนะ นายไปนอนห้องไอ้จงอินแทน”
“ฮะ! อะไรนะครับ ทำไมครับ เกิดอะไรขึ้น!”
“ฉันจะนอนกับแบคฮยอน นายไม่ต้องเข้ามาขัดจังหวะ”
“เอ่อ...คุณชานยอลกับแบคฮยอน...”
“ไม่ต้องพูดมาก ถ้าไม่กล้านอนกับไอ้จงอินก็ไปนอนห้องฉันแค่นี้ล่ะสวัสดี” ผมกดตัดสายคยองซูทิ้งแล้วยกยิ้มอย่างพึงพอใจ...บยอนแบคฮยอน! ฉันไม่ยอมให้นายไปหรอกเฟ้ยยยยยยยย
“แบคฮยอนอาาาาา...”
“อะไรเล่า!”
“อยากไปเที่ยวไหม?”
“เหหหหหห?” แบคฮยอนงงๆ กับคำถามของผมเล็กน้อย เขาจึงวางมือที่จัดของใส่กระเป๋าหันมามองหน้าผมทันที
“ไปเที่ยวกัน ^^”
“ไปไหน?”
“อืม...เมืองไทยไหม?”
“เมืองไทยหรอ...ที่เขาบอกว่ามีช้างใช่ไหม” ได้ผลลลลลล! ดูเหมือนจะเบี่ยงเบนความสนใจได้ไม่น้อย ถ้าได้ไปเที่ยวด้วยกันอย่างน้อยๆ ผมก็น่าจะมีเวลาได้แกล้งเขาไปอีกหลายวัน (^-^) ...แล้วทำไมต้องอยากแกล้งแบคฮยอนใจจะขาดด้วยวะ =.,=
“ช้าง...ใช่ๆ! นายจะไปเที่ยวกับฉันไหม” แบคฮยอนทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่นึงแล้วบ่นพึมพำพึมพำว่าช้าง ช้าง ช้างอะไรสักอย่าง...
“ช้างงงงงงงง! ฉันอยากเห็นช้างงงงงงงง!” ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆ แบคฮยอนก็ลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นบนเตียง แล้วก็ตะโกนลั่นห้องเลยว่า ‘อยากเห็นช้าง’
เอาช้างชานยอลไปดูก่อนได้ไหมอ่ะ? =.,=
“อะ อะไร มองหน้าฉันแล้วทำหน้าหื่นใส่ฉันทำไมปาร์คชานยอล!” เมื่อรู้ตัวว่ามีคนจ้องมองอยู่เจ้าตัวก็หยุดการกระทำที่แลดูติงต๊องแล้วแว้ดๆ ใส่เหมือนอย่างที่ชอบทำเวลาเขิน
“ก็นายน่ารัก -0-”
“อะ ไอ้บ้า! -//-” พอได้ฉันเป็นเมียแล้วหื่นใส่ตลอดเลยนะไอ้โรคจิต
“อยากเห็นช้างก็ไปเที่ยวด้วยกันสิ ^^”
“ฮะ...นี่นายจะบ้าหรอฉันจะกลับบ้านแล้วนะ อ๊ะ...ทำอะไรเนี่ย” ผมไม่อยากได้ยินคำว่ากลับบ้านออกจากปากคนตัวเล็กอีก ผมจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปกอดแบคฮยอนจากด้านหลังแล้วซุกหน้าลงที่ซอกคอขาวเนียนของคนข้างหน้า
“ก็ไม่อยากให้กลับ...”
“นะ นี่! นายนี่ชักจะเพี้ยนไปทุกวัน ผีเข้าผีออกหรือไงฮะ ตอนแรกนายก็ชอบกวนชอบแกล้ง ตอนนั้นนายก็น่ากลัว เย็นชา ตอนนี้นายก็มาทำตัวปัญญาอ่อนอีก...นายเป็นบ้าอะไรฉันปรับตัวไม่ทันนะเว่ย!”
“เป็นสามีนายไง”
“ย๊า! ปาร์คชานยอล!” แบคฮยอนตวาดเสียงดังแล้วออกแรงดิ้นฮึดฮัดอยู่ในอ้อมอกของผม...คงจะเขินสินะ ^__________________^
“ยิ่งนายดิ้นฉันก็ยิ่งได้กลิ่นหอมๆ จากตัวนาย”
“อะ อะไรนะ!”
“ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งอยากดม...ฟอดดดดดดดดดด”
“เฮ้ยยยยยยย!” แบคฮยอนสะดุ้งโหยงเมื่อผมสูดดมกลิ่นตัวของเขาจากซอกคอเข้าไปฟอดใหญ่...หน้าแดงเป็นลูกตำลึงแล้วก็ยังลามมาที่ใบหูอีก...น่างับจริงๆ เลย...
“งื้ออออ! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะชานยอล นายอย่ามารุ่มร่ามได้ไหมเนี่ย!”
“ทำไมล่ะ มากกว่านี้ก็เคยได้มาแล้วนี่นา...”
“ชานยอล!”
“โอเคๆ ปล่อยแล้วก็ได้...ไปเที่ยวกันไหม?”
“ไม่!”
“ไปดูช้างไง”
“ไม่!”
“นี่ๆ”
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!” อ๊ากกกกกก! ยกมือขึ้นปิดหูแทบไม่ทัน! เสียงของแบคฮยอนยังคงแหลมคงบาดแก้วหูอยู่เสมอ T^T
“โอเคๆ ไม่กวนแล้วก็ได้...คืนนี้ขอนอนกับนายได้ไหม?”
“ฮะ?...”
“ขอนอนด้วยดิ...นะๆ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนพลางทำท่าน่ารักๆ ใส่เขา แบคฮยอนดูตะลึงกับท่าทางที่แปลกไปของผมเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะร่าออกมา
“ฮ่าๆ นายจะบ้าหรอมาขอนอนทำไม ปกตินึกจะนอนก็นอนอยู่แล้วหนิ บ้านก็บ้านนาย สิทธิของนายทั้ง...ไม่!”
“หืมมมมมม?”
“ไม่ได้! นายจะนอนกับฉันไม่ได้!” ห้ะ? เมื่อกี้แบคฮยอนยังบอกว่าได้อยู่เลย...เป็นอะไรไปอีกเนี่ย ==’
“เอ้า! เมื่อกี้นายบอกว่าได้!”
“แต่ตอนนี้บอกว่าไม่!”
“แบคฮยอน!”
“อะไร!”
“นายอย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะ!”
“ทำไมล่ะ!”
“!”
“!” ไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาในขณะที่เราฟาดฟันกันทางสายตา! ใช่! เราสองคนกำลังยืนจ้องหน้ากันอยู่ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าทั้งผมและแบคฮยอนไม่จ้องกันด้วยสายตาอาฆาต
ประดุจดั่งใครกระพริบตาก่อนคนนั้นแพ้... ==;
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก แกร๊ก! ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก
“แว๊กกกกกก”
ตุ๊บ! ในเมื่อจ้องตากันไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผมจึงตัดสินใจวิ่งไปที่ประตูห้อง ล็อคกลอน แล้ววิ่งกลับมาอุ้มแบคฮยอนขึ้นบ่าแล้วเหวี่ยงลงพื้นเตียงอย่างรวดเร็ว! ...เหนื่อย ==’
“ปาร์คชานยอลลลลลลลล!” คนตัวเล็กที่ตอนนี้ถูกกักขังไว้ภายใต้วงแขนแข็งแกร่งของผมออกแรงดิ้นสุดแรงเกิด แขนและขาปัดป่ายไปมารวมถึงหัวทุยๆ ที่สั่นดุ๊กดิ๊กไปหมด...นี่คือกะจะเอาตัวรอดอย่างเดียวเลยใช่ไหมเนี่ย
หมั่นไส้ :’( ยกขาก่ายแมร่มเลย!
“อุ้ก...อ๊ากกกกกกกกกก ปาร์คชานยอลปล่อยนะเว่ยยยยยยย!”
“ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดแน่นอ่ะ เอาดิ”
“อ๊ากกกกกก อ๊อก! หะ หายใจไม่ออก แอ๊กกกกกก”
“หยุดดิ้นแล้วจะคลายกอดนะจะที่รัก”
“อื้อออออออ!” ถึงปากจะบอกว่า ‘อื้อ’ แต่ร่างกายยังคงดิ้กด๊อกแด๊กอยู่แบบนี้...
ฟอดดดดดดดดดดด~
“ย๊าาาาาาก! หยุดนะ หยุดๆๆๆๆ อย่ามาหอมแก้มฉัน ไม่เอา ไม่ ม่ายยยยยยย!”
“หยุดดิ้นก่อนแล้วจะหยุดแกล้ง! ฟอดดดดดดดดดดด”
“ฮื้อออออออ~ หยุดแล้ว!”
“ก็แค่เนี่ย...ฟอดดดดดดดด”
“เฮ้ยยยย! ก็หยุดดิ้นแล้วมาหอมอีกทำไม! >//<”
“ก็นายน่ารักอ่ะ หอมด้วย!”
“งื้อออออ! ปล่อยเลยนะมันหนัก!”
“ไม่!...ไหนๆ พรุ่งนี้ก็จะกลับบ้านแล้วคืนนี้ก็นอนให้ฉันกอดนายก่อนได้ไหมล่ะ...ครั้งสุดท้ายไง...”
“...”
“นะ...”
“อะ...อือ -///-” แก้มของแบคฮยอนตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีชมพูเปล่งปลั่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าคนในอ้อมกอดผมเขินมากแค่ไหน...
ผมยกขาที่ก่ายร่างบางออก แล้วกระชับอ้อมแขนให้คนตัวเล็กพลิกตัวเข้ามาใกล้ แบคฮยอนหลุบตาต่ำไม่ยอมสบตากับผม แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธอ้อมกอดของผม...นับว่าเป็นผลตอบรับทีดีเกินคาดเลยล่ะ
“ฝันดีนะ...แบคฮยอน”
“อื้อ...ฝันดี (.//.)”
อ่าาาาา ผมคิดว่าคืนนี้ผมคงได้ฝันดีที่สุดเท่าที่เคยฝันมาเลยล่ะ เพราะว่า...เพื่อนตัวน้อยของผมดูเหมือนจะกอดผมตอบด้วยล่ะครับ (^-^)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปุ้งงงงงงงงงงงง! หมาน้อยอัพให้ครบ 100% เลยน๊ารอบนี้~
จะบอกว่าจะขยันพิมพ์ฟิคอย่างจริงจังแล้วนะ! แต่จะไม่อัพลงถ้ายอดเม้นไม่เยอะ :’(
ขอบคุณรีดเดอร์หลายๆ คนที่แวะเวียนไปคุยเล่นกับหมาน้อยในทวิต
ขอบคุณมากนะคะ การที่มีแฟนฟิคมาชวนคุยทำให้หมาน้อยมีกำลังใจอย่างแต่งฟิคขึ้นเยอะเลย
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ^^
#ฟิคจะเปิดให้จอง+โอนเงินตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ใครอยากได้เก็บเงินไว้ 450 บาทน๊า (เผื่อไว้)
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า...เตรียมฟินกับชานแบค ฮุนฮัน ไคโด้ใน Chapter ต่อไปด้วยจ๊า X’D
ใครอ่านแล้วติดใจหรือตะขิดตะควงใจ (?) อยากคุยหรืออยากด่าไรท์เตอร์
ตามไปติชมได้ที่ >> ` หมาน้อยมาลามิวท์ <<
ความคิดเห็น