ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • Cruel {Baekhyun ft.sehun chanyeol kris kai luhan} 。

    ลำดับตอนที่ #13 : + Cruel + Number Nine

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 56




    Number Nine

                “ขอบคุณนะจงอิน...” เสียงหวานเอ่ยปากขอบคุณน้องรหัสคนสนิทที่อาสาพาเขามาส่งที่คอนโด คิมจงอินประคองร่างบางไว้ข้างกายตนเองจนมาถึงหน้าห้อง ถึงแม้ว่าตัวแบคฮยอนเองจะปฏิเสธความหวังดีแล้วก็ตาม แต่ความเป็นห่วงก็ทำให้จงอินเลือกที่จะทำเป็นไม่ได้ยินเสียงปฏิเสธเหล่านั้น

                “ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนไหม?”

                “พี่ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ขอเวลาพี่ทบทวนอะไรนิดหน่อยก็คงจะดี นายเองก็กลับไปเรียนได้แล้ว โดดเรียนมาส่งพี่แบบนี้ไม่ดีแน่เลย”

                “ขอแค่พี่ไม่เป็นอะไรผมก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแหละ” เพราะแววตาและน้ำเสียงจริงจังของจงอินทำให้แบคฮยอนทำตัวไม่ถูก จึงได้แต่ตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกักพลางก้มหน้าลงไม่ยอมสบตากัน

                “ขะ ขอบคุณนะจงอิน”

                “งั้น...ผมกลับแล้วนะ ถ้าพี่มีปัญหาอะไร พี่อย่าลืมนะว่าพี่ยังมีผมตกลงไหม?”

                “อื้อ” ยิ้มรับด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ แม้ภายในจริงๆ แล้วแบคฮยอนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความอบอุ่นที่ได้รับจะมาจากจงอินเพราะอะไร แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก ฝ่ามือหนาของคนเป็นน้องก็ช้อนคางเรียวเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนจะจุมพิตบางเบาลงไปที่หน้าผากมน

                “จะ จงอิน!” ตกใจจนเผลอถอยห่างออกมาสองสามก้าว จงอินยิ้มรับท่าทางคนขวัญอ่อนอย่างบางเบาและกล่าวลาในที่สุด

                “ขอโทษที่ทำให้พี่ตกใจ แต่พี่อย่าลืมว่ามีผมอยู่อีกคนหนึ่งนะครับ...ผมไปนะ” คล้อยหลังรุ่นน้องได้ครู่หนึ่งแบคฮยอนก็ปิดประตูห้องอย่างเหนื่อยใจ

     

              ...ขอโทษนะจงอิน ถึงนายจะทำให้ฉันรู้สึกมากแค่ไหน ฉันก็คงให้นายได้แค่คำว่าพี่น้อง...

     

              แบคฮยอนหอบความเหนื่อยล้าในใจตรงดิ่งไปยังห้องนอนของตน พลันขาเรียวก้าวเข้าไปในห้องก็พบกับเจ้าของห้องอีกคนกำลังนอนอยู่บนเตียงในความมืดมิด เพราะรูมเมทของเขาปิดม่านและปิดไฟทุกดวงจนหมด

                “ชานยอล...” เพียงแค่เห็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของตนกำลังนอนหลับยกแขนข้างหนึ่งก่ายหน้าผากเอาไว้ความคิดถึงก็พุ่งเข้าเต็มหัวใจของแบคฮยอนอย่างหนัก

     

              แบคฮยอนคิดถึง...

              คิดถึงเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว...

              แบคฮยอนคิดถึงปาร์คชานยอล...

     

                สาวเท้าเข้าไปยังเตียงนอนโดยเร็ว แบคฮยอนนั่งลงบนเตียงข้างๆ ชานยอล มือเรียวสวยค่อยๆ    จับแขนที่พาดอยู่บนหน้าผากของชานยอลออก ความเหนื่อยล้าและบอบช้ำเผยให้เห็นบนใบหน้าของชานยอล แบคฮยอนไม่รู้ว่าทำไมชานยอลถึงได้เป็นแบบนี้ เป็นเพราะเขาเองรึเปล่า? เป็นเพราะเขาไม่รับสายชานยอลตอนอยู่บ้านพักใช่ไหม?

                “ขอโทษนะชานยอล...” เสียงเล็กเอ่ยขณะที่นิ้วเรียวค่อยๆ ปัดปอยผมที่ปรกหน้าชานยอลอยู่ แนบแก้มลงบนอกอุ่นของเพื่อนสนิทเพราะแบคฮยอนโหยหาเหลือเกิน...โหยหาความอบอุ่นจากคนที่รักแบคฮยอนมากที่สุด

                “ทำไมไม่รับโทรศัพท์” จู่ๆ เสียงทุ้มนุ่มของคนที่น่าจะกำลังหลับอยู่ก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ แบคฮยอนเผลอสะดุ้งเพราะตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยังคงนอนกอดชานยอลอยู่เหมือนเดิม

                “ขอโทษนะ”

                “...”

                “ชานยอลไปไหนมา เมื่อเช้าฉันกลับมาแล้วไม่เจอนายเลย”

                “ไปมหาลัย”

                “...” แบคฮยอนเม้มปากแน่นเมื่อรู้สึกแปลกๆ กับน้ำเสียงและถ้อยคำที่คนตัวสูงตอบกลับมา...มันดูห้วนและเย็นชา แต่ถึงอย่างนั้นแบคฮยอนก็ยังคงทำใจดีสู้เสือชวนชานยอลพูดคุยต่อไป

                “แล้วอาจารย์ยกคลาสเหรอ ทำไมถึงกลับเร็วจัง”

                “เปล่า”

                “...”

                “ยังไม่ทันได้เรียน...”
                “หืม?...”

                “มีคนเอากระดาษใบหนึ่งมาให้ฉัน ฉันได้ข่าวว่ากระดาษแผ่นนั้นถูกส่งต่อมาจากคณะอื่นที่ดูวนกันเกือบทั้งมหาลัย”

                “กระดาษ?” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นถามชานยอลด้วยความสงสัย ชานยอลถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบกระดาษแผ่นที่ว่านั้นซึ่งตกอยู่ข้างเตียงอีกฟากยื่นให้แบคฮยอน

                “ทำไมมันยับขนาดนี้ล่ะ” แบคฮยอนบ่นพึมพำไปพลางคลี่กระดาษแผ่นนั้นออกมา เพราะกระดาษที่ชานยอลหยิบมาให้อยู่ในสถาพยับยู่ยี่คล้ายกับถูกขย้ำอย่างรุนแรง

                “นะ นี่!” ฉับพลันที่กระดาษถูกคลี่ออกมา ภาพที่ปรากฏก็ทำเอาแบคฮยอนปากระดาษทิ้งไปไกลๆ นัยน์ตาหวานสั่นระริกมองไปยังใบหน้าของอีกฝ่าย ชานยอลยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ใบหน้าที่แสนเย็นชาเป็นดั่งมีดที่กรีดหัวใจแบคฮยอน

                “ชะ ชานยอล...ฉันอธิบายได้ คะ คือ...”

                “ฉันคิดว่าศัตรูของฉันจะมีแค่ไอ้หน้าอ่อนเซฮุนคนเดียวซะอีกนะ”

                “มะ ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ”

                “ผู้ชายในรูปเป็นใครแบคฮยอน...มันเป็นใคร! มันเป็นใครถึงได้มีสิทธิ์ครอบครองร่างกายของนายนอกเหนือจากฉัน! เสียงทุ้มประกาศกร้าวราวกับสัตว์ดุร้าย ท่อนแขนแกร่งพุ่งเข้าจับไหล่บางแล้วทุ่มลงกับพื้นห้องจนแบคฮยอนต้องร้องโอดโอยเพราะความเจ็บปวด

                “ตอบฉันแบคฮยอน ตอบฉันว่ามันเป็นใคร!” ยังไม่ทันได้หายเจ็บดีที่ถูกทุ่มลงพื้น ชานยอลก็ลงมานั่งทาบทับกายบาง ฝ่ามือหนาบีบคางเรียวจนขึ้นสีแดงเต็มไปหมด แบคฮยอนพยายามแกะมือชานยอลออกเพราะรู้สึกเจ็บและพูดไม่ได้ ชานยอลยังคงตะโกนบอกให้คนใต้ร่างตอบคำถามอยู่อย่างนั้น น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าของแบคฮยอนร่วงสู่พื้นอย่างไม่ขาดสาย

     

              เขาจะตอบคำถามได้อย่างไร ในเมื่อชานยอลยังคงบีบปากเขาอยู่อย่างนี้?

               

                เมื่อเห็นแบคฮยอนเอาแต่หลับตาร้องไห้พยายามแกะมือเขาออกไม่ยอมตอบคำถาม โทสะที่มีก็ยิ่งพลุ่งพล่าน ชานยอลจับแบคฮยอนให้ลุกขึ้นแล้วกดลงกับหัวเตียง ซุกไซร้ใบหน้าลงกับลำคอขาว ดูดเม้มอย่างหื่นกระหาย แบคฮยอนที่บอบช้ำทั้งกายและใจแทบไม่มีแรงขัดขืน แบคฮยอนอยากจะอธิบายแต่ความเลือดร้อนของชานยอลทำให้แบคฮยอนเจ็บไปหมด เพียงแค่เผยอริมฝีปากเล็กน้อยก็เจ็บราวกับมันจะแตกสลาย

     

              ชานยอลอารมณ์ร้อนเสมอ และไม่เคยคิดจะฟังแบคฮยอนก่อนเลย

     

                ชานยอลฉีกกระชากเสื้อผ้าของแบคฮยอนออกจนขาดวิ่น ขบเม้มผิวเนื้อขาวจนขึ้นสี แบคฮยอนพยายามรวบรวมแรงที่มีเอ่ยเสียงออกไปหวังว่าชานยอลจะได้ยินและรับฟังคำอธิบาย

                “ชาน ฮึก ชานยอล...ฉัน...ฉันถูกพี่คริสข่มขืน...” ร่างสูงหยุดชะงักการกระทำแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนตัวเล็กที่ร้องไห้ราวจะขาดใจตายอยู่รอมร่อ

                “ชานยอล...ฮึก...อ๊ะ...ชานยอล!” จากที่คิดว่าพายุลูกโตจะสงบลง กลับพัดพาโหมกระหน่ำความเจ็บปวดมาอีกครั้ง แบคฮยอนไม่เข้าใจ ทำไมชานยอลถึงเลือกที่จะข่มเหงร่างกายเขาเช่นเดิม

                “ชานยอล อย่า! ฮึก...ชานยอลขอร้องล่ะ...ฮืออออ” เสียงร้องไห้ดังขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ เจ็บไปหมดทั้งกายและใจ ชานยอลยังคงเอาตัวเองเป็นใหญ่และพยายามยัดเหยียดรสชาติกามารมณ์มาให้อย่างไม่หยุดหย่อน ปากบางยังคงพร่ำพูดถึงประโยคเดิมๆ อย่างเจ็บปวดใจ

              “ชานยอลอย่าทำฉัน ฉันโดนพี่คริสข่มขืน” พูดซ้ำๆ อย่างนั้นหวังว่าเสียงของเขาจะเข้าไปเตือนสติเพื่อนรักตัวเองได้บ้าง แต่เปล่าเลย ชานยอลทำให้เขารู้สึกถึงคำว่า โดนข่มขืน อีกครั้ง

                ราวกับสติที่มีลดเลือนหายไปเมื่อถูกกายหนามอบความเป็นเจ้าของอย่างป่าเถื่อน การควบคุมตัวเองของแบคฮยอนเริ่มถดถอยลงไปเรื่อยๆ เหลือแต่ความเจ็บปวดที่แปรเปลี่ยนเป็นความอาฆาตพยาบาทที่รบเร้าให้ต่อสู้

     

                อย่าไปทนนะแบคฮยอน มันทำให้เราเจ็บ มันไม่เห็นใจเรา ฆ่ามันแบคฮยอน ฆ่ามัน!

     

                อยากจะส่ายหน้าให้ความคิดที่มีในจิตใจ แต่กระนั้นฝ่ามือเรียวกลับเลือกที่ไขว่คว้าหาตัวช่วยเพื่อพาตัวเองให้รอดพ้นจากความเจ็บปวดที่พบเจอ

                เพล้ง!~ โคมไฟสวยหรูบนหัวเตียงทำหน้าที่ของมันได้ดีอย่างน่าแปลกใจ เพราะเพียงกระชากมันออกมาแล้วฟาดลงยังศรีษะของคนใจร้ายเพียงแค่ครั้งเดียวชานยอลก็ร้องโอดโอยถอดถอนความเป็นชายออกจากกายบางและกลิ้งตกพื้นลงไป

                “แบคฮยอน!” ราวกับสัตว์ป่าคำรามเมื่อถูกทำร้ายร่างกาย ชานยอลพยายามลุกขึ้นและฉุดกระชากแบคฮยอนหวังจะทำร้ายเช่นเดิม หากแต่คนที่อ่อนแออย่างแบคฮยอนเมื่อมาถึงจุดที่เรียกว่าจนมุมจึงต้องสู้เพื่อความอยู่รอด ชานยอลนา...แบคฮยอนขอโทษ

     

                ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก! ปึ้ก!

     

              ปาร์คชานยอลแน่นิ่งไปแล้ว

              รูมเมทคนเดียวของเขาไม่ตอบโต้อะไรแล้ว...

     

              แต่...

              เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขายังหายใจอยู่...

     

              และแบคฮยอนจะไม่ก้มหน้ายอมรับความเจ็บปวดแค่เพียงคนเดียวอีกต่อไป!

     

                “ชานยอล...อาบน้ำกันนะ” จัดการลากคนที่หมดสติแน่นิ่งอยู่กับพื้นไปยังห้องน้ำที่เคยมีความทรงจำร่วมกัน สถานที่ที่ชานยอลเคยพาแบคฮยอนมาอาบน้ำอย่างอบอุ่น สถานที่ที่ชานยอลบังคับขืนใจเขาตอนที่หึงหวงเขากับเซฮุน และก็คงเป็นสถานที่สุดท้ายที่เราจะได้เห็นหน้ากัน

                แบคฮยอนจัดการลากชานยอลมานอนลงในอ่างอาบน้ำ มือเรียวดึกจุกปิดรูระบายน้ำในอ่างออกมา เอื้อมตัวไปเปิดวาล์วน้ำที่อยู่เหนือศรีษะชานยอลให้น้ำไหลลงมาเอื่อยๆ แล้วเลื่อนผ้าม่านปิดอ่างเอาไว้ก่อนจะผละออกมาผลัดผ้าแล้วเริ่มอาบน้ำชำระคราบเลือดที่ติดตามตัว

                เพียงไม่นานแบคฮยอนก็ได้ยินเสียงกุกกักมาจากด้านหลังผ้าม่านที่ตนเองเป็นคนเลื่อนผิดชานยอลเอาไว้ ชานยอลคงทรมาณกับสิ่งที่ต้องเจอ แต่มันก็เหมาะสมดีแล้วนี่เมื่อเทียบกับความทุกข์ที่แบคฮยอนเคยมี อีกอย่าง...ชานยอลจะได้ไม่ต้องอยู่บนโลกที่มีแต่ความเจ็บปวดใบนี้อีกต่อไปแล้วยังไงล่ะ...

                “ฮึก...” ถึงอย่างนั้นหยดน้ำใสๆ ก็ยังคงไหลออกมาปะปนกับสายน้ำจากฝักบัว แบคฮยอนกอดตัวเองไว้ท่ามกลางความหนาวเหน็บ คิดถึงอ้อมกอดอุ่นๆ จากรูมเมทตัวสูง แต่เพราะชานยอลเลือกเอง ชานยอลเลือกที่จะกอดแบคฮยอนแน่นจนไม่มีอากาศหายใจก่อนเอง แบคฮยอนจึงจำเป็นต้องตะเกียกตะกายหาอากาศเอง...

     

                ขอโทษอีกครั้งนะชานยอล...ขอโทษ...

              น้ำร้อนที่เปิดให้มันคงร้อนมากสินะ แต่อีกไม่นานนายก็คงจะไม่รู้สึกอะไรแล้วล่ะ...

              หลับให้สบายนะ เพื่อนรักของฉัน...

     

              เช้านี้เป็นเช้าที่อากาศแจ่มใสสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับคนบางคนอย่างบยอนแบคฮยอนแล้วคำว่าแจ่มใสมันหายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ มือเรียวจับสายสะพายของกระเป๋าเป้แน่น เดินผ่านสายตาเสียดแทงและเสียงซุบซิบนินทานับร้อยไปยังห้องเรียนวิชาแรกของวัน

               

                หลังจากอาบน้ำเสร็จเมื่อหลายวันก่อน แบคฮยอนเก็บของส่วนตัวย้ายออกมาอยู่ที่อพาร์ทเม้นต์เก่าๆ ซึ่งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของตนนัก ตาเรียวมองไปรอบๆ ห้องเรียนอย่างเหนื่อยหน่ายใจ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ที่นั่งข้างๆ ของแบคฮยอนไม่มีใครนั่งเลย ราวกับเขาเป็นตัวน่ารังเกียจ ทุกคนตีห่างและเลือกที่จะไม่พูดคุยกับเขาเพียงเพราะกระดาษแผ่นเดียวที่มีรูปเขาและคริสนอนเปลือยเปล่าอยู่

     

              แบคฮยอนคิดว่านี่มันไม่ใช่นิยาย ทำไมชีวิตเขาถึงต้องเป็นแบบนี้...แต่นี้แหละคือเรื่องจริง เรื่องจริงที่เขาหลีกหนีมันไปไม่ได้

     

                “นี่บยอนแบคฮยอน...ฉันไม่อยากจะเสวนากับคนที่นอกใจแฟนแบบนายเท่าไรหรอกนะ แต่อาจารย์แจกุกฝากให้มาถามว่าปาร์คชานยอลไปไหน เขาไม่เข้าเรียนมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสาวคนหนึ่งที่จำได้ว่าเคยพูดคุยกับเขาอยู่บ้าง ถ้าจำไมผิดล่ะก็น่าจะชื่ออึนจองล่ะมั้ง

                “...”
                “ว่าไง? ชานยอลไปไหน ฉันจำได้ว่าเขาเป็นรูมเมทกับนายด้วยนี่ เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด”

                “ไอ้ฉันล่ะก็นึกว่านายจะเป็นแฟนกับชานยอลเสียอีก แต่สุดท้ายนายก็เป็นแฟนกับน้องเซฮุน และล่าสุดนายก็ไปนอนกับพี่คริส นายนี่เป็นคนยังไงกัน หรือว่าจริงๆ ควบสาม?”

                “ควบสี่รึเปล่า เห็นอาทิตย์ก่อนน้องจงอินก็พาออกไปตอนนายทะเลาะกับเซฮุน แล้วหลายวันมานี้ก็เห็นจงอินทานข้าวกลางวันกับนายด้วย เสน่ห์แรงจังเลยนะ”

                “นี่พูดจาดีๆ หน่อยสิยุนอา มินอาพูดอะไรให้เกียรติเจ้าตัวที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้บ้าง” อึนจองหันไปเอ็ดเพื่อนสาวของเธอที่จู่ๆ ก็โผล่พรวดเข้ามาแล้วพูดจาร้ายกาจใส่ผม ถ้าผมจำไม่ผิด สองสาวฝาแฝดยุนอากับมินอานี่จะเป็นต้นตอข่าวซุบซิบอยู่เสมอเลยสินะ...

                “แหมอึนจองล่ะก็ ตัวเธอเองก็สงสัยเหมืนพวกฉันไม่ใช่หรือไง ว่าไงล่ะแบคฮยอนตกลงชานยอลหายไปไหน แล้วนายเลือกใครกันแน่” ยุนอายื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม สีหน้าของเธอแสดงออกว่าอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมากเลยล่ะ ผมไม่อยากมีเรื่องกับใครจึงได้แต่กำมือแน่นเก็บความโกรธเอาไว้ในใจ

                “ชานยอล...กลับบ้านเกิดไปแล้ว

                “หืม? บ้านเกิด...ฉันนึกว่าชานยอลเกิดในโซลนะเนี่ย เป็นเด็กต่างจังหวัดหรอกเหรอ แล้วเขาจะกลับมเมื่อไรล่ะ”

                “เขา...ไม่กลับมาอีกแล้วล่ะ”

                “อ้าว! ทำไมล่ะ จะลาออกอย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมเขาไม่แจ้งอาจารย์ แล้ว...เฮ้! เดียวสิแบคฮยอน นายจะไปไหน เฮ้!” ผมลุกขึ้นและเดินหนีออกมาอย่างเสียมารยาท ผมไม่สามารถอยู่ทนฟังพวกเธอซักไซ้ไล่เรียงอะไรอีกต่อไป ถึงแม้ว่าผมเพิ่งจะมาถึงห้องเรียนก็ตาม แต่สภาพความรู้สึกของผมตอนนี้ ต่อให้นั่งอยู่ต่อก็คงเรียนไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ

                “อ๊ะ” ร้องขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าสันจมูกของตัวเองกระแทกเข้ากับแผ่นหลังของใครบางคนเข้า แบคฮยอนรีบถอยกลับมาตั้งหลักและก้มหัวกล่าวขอโทษอย่างรวดเร็ว

                “ขอโทษครับ พอดีผมรีบเลยไม่ทันสังเกตุ...จะ จงอิน” ยังไม่ทนจะเอ่ยปากขอโทษจบประโยคดี เจ้าของแผ่นหลังกว้างก็หันกลับมาพร้อมฉีกยิ้มราวกับดีใจที่ได้เจอหน้าเขา

                “พี่จะรีบไปไหน?” จงอินเอ่ยถามเมื่อเห็นว่านี่ก็ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว แต่พี่รหัสตัวเล็กของเขากลับเดินดุ่มๆ มาชนหลังเขาที่หน้าคณะ

                “กลับบ้านน่ะ”

                “อ้าว...พี่ไม่มีเรียนเหรอครับวันนี้?”

                “อืม...” รอยยิ้มบางถูกจุดขึ้นบนริมฝีปากของรุ่นน้องผิวเข้ม จงอินมองซ้ายมองขวาก่อนจะเอ่ยปากชวนแบคฮยอนให้ไปผ่อนคลาย

                “พรุ่งนี้วันเกิดซองยอล พี่ช่วยไปเลือกของขวัญเปนเพื่อนผมหน่อยสิ”

                “คือ...”

                “นะครับ...ถือซะว่าช่วยรุ่นน้องในคณะนะ...นะ” แบคฮยอนพยายามไม่มองหน้าจงอินเพราะเด็กน้อยคนนี้ช่างขี้อ้อนเหลือเกิน แม้ความจริงจะอยากกลับไปพักผ่อนเสียมากกว่าแต่เพราะความขี้อ้อนบวกกับที่ผ่านมาจงอินก็ดีกับแบคฮยอนตลอด แบคฮยอนเลยจำใจต้องพยักหน้ารับและยอมให้จงอินลากไปลากมาอยู่อย่างนั้น

     

              [ห้ะ พี่แบคฮยอนอยู่กับมึงเหรอวะ!]

              “เออดิ กำลังช่วยกูเลือกซื้อของกลับไปทำให้มึงอยู่”

              [หมายความว่าคืนนี้พี่แบคฮยอนจะอยู่เลี้ยงฉลองให้กูงั้นสิ?]

              “อันนี้ไม่แน่ว่ะ คือพี่แบค...”

              [เฮ้ยไม่ได้เลยๆ ให้กูคุยกับพี่รหัสมึงด่วนๆ] ส่งโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดของตนยื่นให้พี่รหัสคนสวย แบคฮยอนถอนหายใจเล็กน้อยและรับมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

              [พี่แบคฮยอนค้าบบบบบ คืนนี้อยู่ทำกับข้าวให้ผมหน่อยไม่ได้เหรอ]

              “คือพี่...”

              [เนี่ยเพื่อนๆ ก็อยากทานอาหารฝีมือพี่แบคนะ]

              “ซองยอล พี่ว่า...”

              [โหยยยย วันเกิดน้องสายเทคทั้งทีพี่ไม่อยู่เลี้ยงฉลองเลยน้อยใจนะเนี่ย]

              “...”

              [นะครับ...น้าๆๆๆๆๆ]

              “ก็ได้”

     

                เพราะทนลูกอ้อนของน้องสายเทคตัวเองไม่ไหว แบคฮยอนเลยต้องมานั่งจุ้มปุกรอซองยอลและเพื่อนๆ ของจงอินมาจัดปาร์ตี้กันหลังเที่ยงคืนที่คอนโดจงอิน จนจวนใกล้เที่ยงคืนแล้วแบคฮยอนจึงลุกขึ้นเข้าไปอุ่นอาหารรอรุ่นน้องในห้องครัว

                “พี่แบคฮยอนครับ เพื่อนๆ มาแล้วครับ” เข้ามาได้ไม่นานเจ้าของวันเกิดพร้อมเพื่อนๆ ก็กรูกันเข้ามา แบคฮยอนผลัดเปลี่ยนอุ่นอาหารบางอย่างสลับกับนำของที่อุ่นเสร็จแล้วออกไป ปาร์ตี้เล็กๆ นี้มีแอลกอฮอลอยูบ้างจึงทำให้รุ่นน้องบางคนถึงเนื้อถึงตัวเขาอยู่บ่อยๆ แบคฮยอนผละตัวออกห่างอย่างสุภาพและท้ายที่สุดแบคฮยอนก็ขอตัวเข้าไปดูแลภายในครัว

                “อ๊ะ!” สะดุ้งตัวอย่างเร็วเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกอดจากทางด้านหลัง เป็นซองยอลนั่นเองที่ทำตัวรุ่มร่ามใส่แบคฮยอน

                “พี่แบคฮยอน...ของขวัญผมล่ะ?”

                “มะ ไม่มีหรอก...”

                “ทำไมล่ะ ผมก็น้องเทคพี่คนนึงนะ” ดูเหมือนซองยอลจะดิ่มน้ำเมามากเกินไป เพราะใบหน้าที่แดงก่ำและการทรงตัวที่ไม่มั่นคงนั้นฉายชัดในแววตาของแบคฮยอน

                “นายเมาแล้วนะซองยอล”

                “ไม่ ผมไม่ได้เมา...ทำไมพี่ไม่มีของขวัญให้ผมล่ะ ผมเสียใจนะ” ก้าวถอยหลังหนีรุ่นน้องจนเอวชนขอบโต๊ะทำอาหาร แบคฮยอนเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อซองยอลเริ่มก้าวเข้ามาเรื่อยๆ และสายตาบ่งบอกถึงความต้องการอย่างปกปิดไม่มิด

                “เฮ้ซองยอลทำอะไรวะ?” เสมือนเสียงจากสวรรค์ที่เข้ามาช่วยแบคฮยอนไว้ได้ทัน เมื่อรุ่นน้องอีกสองคนก้าวเข้ามาในห้องครัว

                “ซองยอลเป็นอะไรก็ไม่รู้ ช่วยพี่ทีสิ”

                “มันคงอยากน่ะพี่”

                “อยาก?”

              “อยากเป็นผัวพี่ไง”

                “ห้ะ!” ตาเรียวเบิกกว้างเมื่อคำหยาบคายหลุดออกมาจากปากของรุ่นน้องที่คิดว่าจะช่วยเหลือตนได้ แบคฮยอนส่ายหน้ารัวและวิ่งเข้าไปยังมุมสุดของห้องครัว

                “อย่าเข้ามานะ! พวกนายจะทำอะไรน่ะ!” ถามเสียงหลงพร้อมกับอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มมากขึ้น เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้เพราะผู้ชายสามคนที่อยู่ตรงหน้าแสยะยิ้มให้ราวกับไม่ใช่รุ่นน้องคนเดิม

                “พี่อย่ามาเล่นตัวหน่อยเลย พี่มีผัวตั้งสามคนแล้วมีพวกผมเพิ่มเข้าไปอีกหน่อยจะเป็นไรไป”

                “นายพูดบ้าอะไร!

                “ผัวคนแรกก็แฟนเก่าพี่ไง คนที่สองก็รูมเมทพี่ คนที่สามก็ไอ้พี่คริสไงล่ะแหม แค่นี้ต้องให้รื้อฟื้น”

                “พะ พูดอะไร ชานยอลอะไร!” แบคฮยอนตกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อรุ่นน้องพวกนี้พาดพิงถึงเพื่อนสนิทเขา...ไม่มีใครรู้เรื่องระหว่างแบคฮยอนกบชานยอลหนิ!

                “อ้าว...จงอินยังไม่ได้บอกพี่อีกเหรอ...วันนั้นมันโดดเรียนขึ้นไปดาดฟ้าแล้วก็โป๊ะเชะ...เจอพี่กำลังเข้าได้เข้าเข็มกับเพื่อนสนิทตัวเองอยู่เลย”

                “เหลวไหล! เอาอะไรมาพูด!

                “จะดูคลิปไหมล่ะ จงอินมันถ่ายไว้นะ พวกผมดูกันหมดแล้วสะโพกพี่แม่งสุดยอด...”

                “ไม่! ไม่! ไม่! ฮือออออ” กรีดร้องด้วยความทรมาณ แบคฮยอนไม่อยากได้ยินคำพูดหยาบคายที่เด็กพวกนี้กำลังพูด แบคฮยอนไม่อยากจะเชื่อว่าความไว้ใจจะกลับมาทำร้ายเขาอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่แบคฮยอนก็หวังว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น และครั้งนี้แบคฮยอนจะไม่ยอม จะไม่ยอมให้ใครมาย่ำยีหัวใจที่บอบช้ำตัวเองได้อีก

     

              คิมจงอินน้องรหัสที่เขาไว้ใจ

              คิมจงอินคนที่เขาคิดว่าแสนดี

              คิมจงอินที่ตอนนี้หายไปไหนก็ไม่รู้

              คิมจงอินคนเดียวที่รู้เรื่องเขากับชานยอล

     

              คิมจงอิน! นายมันน้องทรยศ!

     

              “เฮ้ยไปเว้ย จับแขนกับขาไว้อย่าให้มันหนีไปได้!

     

    ----------------------------------------------------------------------------------------

    น้องหมาขอเห่า: ปุ้งงงงงง!~ ในที่สุดก็เข็นตอนนี้ออกมาได้ซักที

    เหนื่อยมากเลยขอบอก ฮืออออออ อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วสิ?

    สำหรับใครที่อยากให้จบชานแบคอย่าเพิ่งถอดใจ ยังอ่านต่อได้อยู่นะคะ ;_;

    ชานยอลตายไปแล้วแต่สเปเชี่ยลพาร์ทยังมี สเปฯไม่ดราม่าแต่จะเผยให้เห็นถึงความลับ

    ความลับในไดอะรี่ของแบคฮยอน จะกล่าวถึงชานยอลกับแบคฮยอนเอาไว้

     

    ฟิคใกล้จบแล้วล่ะ (เหรอวะ? 55555) เค้ากะจะรวมเล่ม มีใครสนใจไหมคะ

    ถ้ามีคนสนใจเกิน 10 คนจะได้เปิดจองเป็นทางการ ถ้าไม่ถึง 10 คนก็จะได้นัดคุยกันหลังไมค์

    เพราะคิดอยู่เหมือนกันจะมีใครสนใจไหม ฟิคเรื่องนี้มันแบบ ฟหกด่สาวง อะเนอะ ;_;

    ตอนนี้เนื้อเรื่องทั้งหมดอยู่ที่ 120 หน้า A4 ไม่รู้แปลงเป็น A5 แล้วจะได้กี่หน้า

    ถ้ารวมตอนที่เหลือกับตอนพิเศษเขาไปก็น่าจะราวๆ 200 หน้า A4 ค่ะ (ลองคำนวณขั้นต่ำ)

    ราคาหนังสือก็คงไม่แพงก็ไม่น่าจะเกิน 250 – 320 บาทไหมอะ? (ราคารวมค่าส่ง)

    แต่อันนี้คือแค่มาสอบถามเฉยๆ นะคะ ถ้ามีคนสนใจจริงๆจะเปิดจองอีกที

    น่าจะเปิดจริงๆ ตอนปลายปีค่ะ ^^

     

    ปล.จริงๆ จะเขียนฉากฆ่าให้มันมากกว่านี้อยู่นะ ตั้งใจไว้แบบนั้น แต่คิดไปคิดมา

    เดี๋ยวที่รักทุกคนรู้ว่าเค้าโรคจิตเลยไม่เอาดีกว่า 5555555555555555

     

    #ficcruel 


    G Minor!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×