คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro
ทุกอย่างมันเริ่มขึ้นเพราะเขาคนนั้น...
แล้วมันจะจบลงด้วยเขาคนนี้ ที่พร้อมอยู่ข้างเธอ
“หิวจังเลย ซันจิขอข้าววว” กัปตันของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ลูฟี่ ลากเสียงยาวเพราะความหิว ทำให้ชายผมสีบลอนด์ทองเขกหัวเขาอย่างแรง
“นายเพิ่งกินข้าวไปไม่ใช่เหรอฟระ” ซันจิบ่นอย่างหัวเสียเมื่อเห็นกัปตันกินเป็นพายุ “ตอนนี้เสบียงก็ใกล้หมดแล้วด้วย พวกเราคงต้องเข้าเมืองไปซื้อของแล้วล่ะ”
“นั่นสิ โคล่าฉันก็หมดแล้วด้วย” แฟรงกี้สนับสนุน
“โรบินล่ะ” จะซื้ออะไรหรือเปล่า ชอปเปอร์ถามหญิงผมยาวที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ คนเดียว โรบินจึงส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงปฎิเสธคำชวนจากเรนเดียร์ตัวน้อย
“ฉันขออยู่เฝ้าเรือดีกว่า” โรบินปิดหนังสืออย่างเบามือ “ทุกคนไปกันเถอะ ไม่ต้องห่วง”
ทราฟัลก้า ดี วอเตอร์ ลอว์ นั่งกอดดาบอยู่เงียบๆ หันไปมองนิโค โรบินที่ส่งยิ้มอ่อนโยน เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าภายใต้รอยยิ้มมีความรู้สึกอย่างไรอยู่กันแน่ หน้ากากแสร้งยิ้มของผู้หญิงคนนี้ยากที่จะดูออก ถ้าเป็นการแสดงก็จัดว่าอยู่ในระดับว่าสุดยอดทีเดียว
“ฉันขออยู่ที่เรือก็แล้วกัน” เจ็ดเทพโจรสลัด(ชั่วคราว)พูดขึ้นลอยๆ
“โทราโอะด้วยเหรอ” ลูฟี่ถามย้ำอีกรอบ แต่สิ่งที่ได้กลับไปมีแต่ความเงียบ
“ดีจังเลยนะที่เมล็ดพันธ์ของเซาโรสามารถเติบโตมาได้ถึงขนาดนี้” บุคคลปริศนาเจ้าของผ้าปิดตาและจักรยานอันเป็นเอกลักษณ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่เขาขึ้นมาอยู่บนเรือได้
“อาโอคิจิ” โรบินถึงกับหน้าถอดสี “มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ตามกลิ่นปีศาจของโอฮาร่ามามั้ง” อดีตพลเรือเอกของกองทัพเรือล้มตัวลงนอนแล้วเอาผ้าปิดตาปิดตาไว้ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนบนเรือยกเว้นลอว์และบรู๊คที่ไม่รู้เรื่องปีศาจของโอฮาร่า
“นายมาที่นี่ทำไมกัน โรบินเป็นพวกพ้องของฉัน ฉันจะไม่ปล่อยให้นายทำร้ายโรบินเป็นครั้งที่สองแน่” ลูฟี่ตั้งท่าจะพุ่งตัวเข้าหาอาโอคิจิ แต่ถูกอุซปล็อคตัวเอาไว้ก่อน
“ตาเหมือนโอลิเวียร์” อาโอคิจิเลิกผ้าปิดตาออกและจ้องดวงตาสีน้ำเงินคู่สวย
“คนที่ถูกนายทิ้งไว้ให้ตายที่โอฮาร่านะเหรอ” โรบินเค่นเสียงหัวเราะอย่างฝืนๆ ทั้งที่ตาของตัวเองส่อความกลัวออกมาอย่างชัดเจน
“ฉันไม่ได้ทิ้งให้เธอตายก็ดีแล้วนี่”
“แต่นายก็ไม่ช่วยแม่ฉัน!!!” โรบินขึ้นเสียงใส่อาโอคิจิ ผู้ชายที่ทำงานให้รัฐบาลโลกคนนี้ฆ่าเซาโรเพื่อความยุติธรรมจอมปลอมของโลก แล้วยังทิ้งให้ทุกคนตายที่โอฮาร่า
“เธอยังทำใจเรื่องแม่ไม่ได้สินะ ถ้าแบบนั้นทำไมไม่เลือกตายไปซะตอนนี้เลยล่ะ”
“นั่นสินะ” โรบินยิ้มออกมาเล็กน้อยและค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง
“อย่าพูดอะไรบ้าๆ นะ” ลูฟี่ที่โกรธจัดตะโกนออกไป เขากลัวว่าจะต้องเสียเพื่อนไปอีกครั้งนึง ตอนนี้ไอ้บ้ากองทัพเรือนั่นกำลังยุให้เพื่อนเขาฆ่าตัวตายต่อหน้าเขา ใครมันจะไปทนไหว
“แต่ฉันจะไม่ยอมตายเด็ดขาด ความหวังของทุกคนที่ไม่สามารถทำได้ ฉันจะทำมันเอง ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินหาฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าประวัติศาสตร์ที่ว่างเปล่าเป็นยังไง”
มันไม่มีอะไรที่ต้องเสียสำหรับเธออีกแล้ว ครอบครัว คนที่ผูกพัน ไม่สิ ยังเหลืออีกอย่างนึงที่เธอจะเสียไปไม่ได้...คือพรรคพวก ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตนี้เธอก็ยอม เธอติดหนี้ชีวิตกับกัปตันไว้นี่ ชีวิตนี้เธอพร้อมจะให้เขาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
“เป็นคนที่ดิ้อด้านซะจริงนะ” อาโอคิจิกระโดดขึ้นไปนั่งบนขอบเรือ “แล้วฉันจะมาเยี่ยมเธออีกแน่ นิโค โรบิน”
อาโอคิจิกระโดลดงทะเลไป
เดี๋ยวก่อนสิ ข้างล่างมันทะเลไม่ใช่เหรอ อาโอคิจิกินผลปิศาจนี่ เขาต้องจมน้ำแน่ๆ เลย ถึงเขาจะเป็นอดีตพลเรือเอกแต่เขาก็ช่วยชีวิตของเธอไว้นี่ โรบินที่เพิ่งนึกได้ว่าเคยถูกอาโอคิจิช่วยไว้วิ่งไปที่ขอบเรือแล้วตั้งท่าจะกระโดดลงไป แต่ก็ชะงักไว้เพราะมีใครบางคนรั้งเอวบางไว้ได้ก่อน
“คิดจะฆ่าตัวตายหรือไง” โซโรถามแล้วอุ้มตัวนักโบราณคดีผมดำออกให้ห่างจากขอบเรือ
“อาโอคิจิจะจมน้ำนะ!” โรบินตวาดใส่ “เห็นแก่เพื่อนมนุษย์หน่อยสิ”
“ถ้ามันจะจมมันก็คงจมน้ำแข็งของตัวเองนั่นแหละ” ซันจิบอกแล้วก้มลงมองทะเลที่กลายเป็นพื้นน้ำแข็งไปเรียบร้อยแล้ว “ถ้าโรบินจังตามไปอาจจะโดนมันทำร้ายเอาก็ได้”
“ตอนนี้พื้นกลายเป็นน้ำแข็งแบบนี้เราคงไปไหนไม่ได้แน่ คงต้องรอให้น้ำแข็งละลายลงก่อน” แฟรงกี้บอกทุกคน “เป็นพลังที่ซุปเปอร์จริงๆ”
“เท่าที่ดูพื้นน้ำแข็งหนาไม่ค่อยมากนะครับ ถ้าเดินไปขึ้นฝั่งคงพอได้” บรู๊คพูดขึ้นลอยๆ
“นั่นสินะ ถ้าไม่ไปเราคงต้องเอาปลาจากแท็งค์มากินก่อนล่ะ” ซันจิปล่อยควันบุหรี่ออกจากปากพร้อมกับบอกความเห็นให้ฟัง “แล้วแกจะอุ้มดรบินจังไปถึงเมื่อไหร่ฟระ ไอ้หัวมอส”
โซโลนึกขึ้นได้ว่าเขายังอุ้มโรบินอยู่จึงปล่อยเธอลงกับพื้นแล้วเมินไป เขาจึงไม่เห็นรอยยิ้มที่โรบินส่งมาให้ แต่แล้วเขาก็เหลือบตาไปมองคนผมยาว พอได้เห็นรอยยิ้มเขาก็หันหน้าหนีทันที ไอ้รังสีสีชมพู(ในจินตนาการของโซโล)นี่มันคืออะไรฟระ
“คุณนิโครู้จักกับอาโอคิจิด้วยเหรอ” ลอว์หันมามองโรบินด้วยความแปลกใจ
“ก็นิดหน่อยจ้ะ” โรบินตอบลอว์อย่างยิ้มๆ
ยัยนี่ยิ้มให้ทุกคนจริงๆ ทำไมเขาถึงคิดว่ายัยนี่ยิ้มให้เขาคนเดียวได้นะ คิดมากเป็นผู้หญิงไปได้นะ
“ฉันขอตัวพักหน่อยนะ รู้สึกเพลียๆนิดหน่อยจ้ะ” โรบินเดินผ่านหน้าโซโลไปเฉยๆ โดยไม่หันกลับมามองคนทั้งสองที่จับตาดูเธออยู่เลย
อาโอคิจิ...คิดอะไรอยู่นะ
โรบินส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดออกไป แล้วเธอก็มองเห็นแต่ความมืดจนต้องเอามือยันกำแพงไว้ไม่ให้ล้ม หน้ามืดตอนนี้เนี่ยนะ ไม่ได้เด็ดขาด ต้องไม่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง
“คุณนิโคเป็นอะไรหรือเปล่า” ลอว์ที่มองโรบินมาตลอดแทบจะถลามารับตัวโรบินไว้
“สะดุดนิดหน่อยจ้ะ ไม่เป็นอะไรหรอก” เธอโกหกคำโตออกไป
คุณนิโคสะดุดอากาศเหรอ ตรงนั้นเป็นพื้นโล่งเลยนะ ประหลาด
ความคิดเห็น