คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 ♔ : kiss mark
Chapter 2 ♔ : kiss mark
หลังจากพวกลูฟี่ลงไปที่เกาะ คนทั้งสามก็แทบไม่ได้คุยกัน ต่างคนต่างกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ และทำกิจกรรมอย่างปรกติ เช่น โรบินที่นั่งอ่านหนังสือ โซโลที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราว
แล้วความเงียบก็ถูกทำลายลง
“กัปตันคร้าบ กัปตันนน” จู่ๆ หมีขั้วโลกที่นั่งมาบนเรือเล็กๆ ก็ตะโกนเรียกกัปตันหมวกลายจุดของตัวเอง
“เบโปะ!!!” ลอว์ตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นลูกเรือตัวเอง “ซาจิกับเพนกวินล่ะ”
“พวกเขาอยู่อีกฝากของเกาะครับ เรารอกัปตันอยู่ที่นั่น” เบโปะค่อยๆ ปีนขึ้นมาอยู่บนเรือ
“ฉันคงต้องรอหมวกฟางกลับมาก่อน ฉันบอกพวกนั้นว่าจะเฝ้าเรือให้” ลอว์ตอบหน้านิ่งๆ
“กัปตันครับ ขออนุญาตนะครับ” เบโปะพุ่งไปกอดกัปตันเรือที่รักของตัวเองและซุกหน้าลงกับคอของลอว์ก่อนจะไซร้(?) ด้วยความคิดถึง
“น่ารักจังเลยนะ” นิโค โรบินเท้าคางมองหมีสีขาวตัวโตก่อนจะยิ้มให้น้อยๆ ส่วนเบโปะก็เขินที่มีสาวสวยส่งยิ้มให้
“ไอ้หมีหื่นกาม” โซโลบ่นเพราะเห็นมันหน้าแดง
สาวผมดำก้าวเดินมาหาหมีขั้วโลก ทำให้ลอว์ใช้โอกาสนี้ออกจากอ้อมกอดหนานุ่มของเบโปะ โรบินยืนตรงหน้าเบโปะและเอื้อมมือไปจับขนฟูๆ ของเบโปะ
“นุ่มจังเลย”
เบโปะสวมกอดโรบินท่ามกลางสายตาชายหนุ่มทั้งสอง โรบินเองก็ตกใจเล็กน้อยแต่สักพักเธอก็ปรับสีหน้าเป็นปรกติและยิ้มอยู่ในอ้อมกอดของหมีขาวตัวนั้น ส่วนลอว์ก็มองเห็นว่าหน้าอกของโรบินมันอยู่แนบกับพุงของเบโปะ
อะ...ไอ้หมีหื่น
โซโลมองหมีตัวนั้น กอดโรบินแล้วก็ยกดาบขึ้นก่อนจะปามันเฉียดเบโปะไปเล็กน้อย จนเบโปะต้องผละออกจากโรบิน และไปหลบอยู่หลังลอว์
“โทษที ดาบหลุดมือ” โซโลแก้ตัว
ไอ้ที่ทำไปนี่ไม่ใช่เพราะหึงนะ อย่าเข้าใจผิด แค่รำคาญไอ้หน้าขนก็แค่นั่นเอง เขาไม่ได้อิจฉามันเลยสักนิด ไม่เลยจริงๆ นะ
“เฮ้ๆ จะกอดก็ต้องกอดให้ครบสิ” โซโลยันตัวลุกขึ้นยืนและเดินไปหาเบโปะพร้อมกับอ้าแขนกว้างรอรับอ้อมกอดอันร้อนแรงของเบโปะ
เบโปะค่อยๆ เดินไปหาโซโลและสวมกอดเขา ส่วนนักดาบหนุ่มหลังจากที่กอดเบโปะก็ไม่สนอะไรอีกแล้ว เขาซุกใบหน้าลงบนหน้าท้องของเบโปะ สูดหายใจเข้าและได้กลิ่นหอมของโรบิน
ภาพนักดาบหน้านิ่งกอดหมีตอนอ้วนขนปุกปุยทำให้นักโบราณคดีสาวหัวเราะเสียงใสออกมาจากใจจริง แล้วยิ้มตาหยีจนลอว์ที่อยู่ข้างๆ หันมามองและเผลอยิ้มออกมาเพราะรอยยิ้มอันสดใสจนดูเหมือนเมฆหมอกที่อยู่ในใจของเธอหายไป
เพราะเป็นเธอ...เขาถึงยิ้ม
“ขำอะไรของเธอ” นักดาบตาเดียวผละออกจากเบโปะและมองไปที่หญิงสาวเพียงคนเดียวในตอนนี้
“ก็คุณนักดาบน่ารักนี่นา” สาวผมยาวดำขลับยิ้มตอบโดยไม่รู้เลยว่าคำพูดของเธอทำให้ใจของเขาเต้นแปลกๆ เป็นความรู้สึกใหม่ที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
คำพูดไม่กี่พยางค์นั้นทำให้โซโลค่อยๆ คลี่รอยยิ้มออก
“ฉันขอตัวก่อนนะ วันนี้ถ้าซันจิกลับมาไม่ทันพวกนายต้องกินอาหารฝีมือฉัน” นิโค โรบินหันหลังเดินเข้าไปในครัวก่อนจะส่งเสียงออกมาจากครัว “แต่ฉันไม่รับประกันเรื่องรสชาตินะ”
ไม่นานเจ้าหมีตัวใหญ่ก็เดินเข้าไปในครัวพร้อมกับนักดาบผมเขียว สำหรับเบโปะคือไปช่วยโรบินทำอาหาร แต่สำหรับโซโลคือไปทำคะแนน...เอ้ย! ไปดูยัยนั่นทำอาหาร เผื่อยัยนั่นเกิดรำคาญหรือฉวยโอกาสนี้ใส่ยาพิษลงอาหารเขาก็ตายสิวะ
“อ้าว คุณนักดาบมาทำอะไรล่ะ” โรบินในลุคแม่บ้านสวมผ้ากันเปื้อนที่โซโลไม่เคยคิดว่ามันจะเข้ากันได้ดีขนาดนี้ อีกทั้งเสื้อตัวในที่แนบเนื้อของโรบินทำให้เห็นสัดส่วนของเธอได้อย่างชัดเจน ทั้งหน้าอก เอว สะโพก ทุกส่วนของเธอลงตัวเหมือนพระเจ้าจงใจสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นคู่แข่งของจักรพรรดินีโจรสลัด เวลาเธอขยับตัวผมสีดำสนิทที่เธอมัดสูงไว้จะปลิวอย่างสวยงาม
“จำเป็นที่ต้องรู้เหรอ” โซโลตอบเสียงห้วนและเบ้ปากนิดๆ
“จ้าๆ” นิโค โรบินลงมือแล่เนื้อที่เหลืออยู่ทันที โดยมีเบโปะคอยช่วยอยู่ข้างๆ
เสียงใบมีดกระทบกับเขียงเป็นจังหวะช่างเสนาะหูจริงๆ แม้ว่าเขาจะเคยเห็นไอ้กุ๊กห่วยทำอาหารอยู่หลายครั้งแต่กลับไม่รู้สึกดีเท่ากับตอนที่มองโรบินทำอาหาร ตอนนี้เหมือนสมองมันตัดขาดจากโลกภายนอกไปเรียบร้อยแล้ว ราวกับว่าในห้องนี้มีเพียงพวกเขาสองคน ไม่มีหมีปุ้มปุ้ยของไอ้พันธมิตรกิ๊กก๊อกนั่น ทุกสิ่งอื่นๆ เป็นเหมือนสีขาวดำ มีเพียงโรบินกับเขาเท่านั้นที่มีสีโดดเด่นกว่าสิ่งใดๆ
โซโลกระดกเหล้าลงคอ เมื่อกี้คิดอะไรวะนั่น ภาพหลอน? เบลอ? เมา?
“คุณหมอไม่ทานขนมปังใช่ไหม” โรบินถามเบโปะทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่
“ใช่ครับ”
“งั้นก็ต้องหุงข้าวใช่ไหมเนี่ย” โรบินบ่นอุบ
การทำอาหารนี่ยากกว่าที่เธอคิดค่อนข้างเยอะ แต่ดูจากโหงเฮ้งและความสามารถแต่ละคนแล้ คนที่พอจะทำอาหารได้บ้างก็มีแต่เธอและเบโปะเท่านั้น
เพราะงั้นเธอถึงได้มาหุงข้าวอยู่นี่ไง!
“คุณหมอล่ะ” โรบินถามโซโล
“ไม่รู้” นักดาบตอบส่งๆ ไป
โรบินชะงักไปสักครู่หนึ่งแล้วหุงข้าวต่อ สักพักหลังจากที่ข้าวสุกแล้วโรบินก็ลงมือทำข้าวปั้น จำนวนมากพอสมควรเพื่อรับมือกระเพาะของสามคนกับอีกหนึ่งตัว ขณะที่ทำเหงื่อก็ไหลจนเธอต้องยกแขนขึ้นเช็ดเหงื่อไม่ให้ตกลงไปในอาหารที่เธอทำ แม้ว่ามันจะเหนื่อยแค่ไหนแต่เธอก็ไม่ปริปากบ่นออกมาสักคำ จนกระทั่งข้าวปั้นฝีมือโรบินและเบโปะสำเร็จลุล่วง
“คุณนักดาบช่วยลองชิมหน่อยได้ไหม”
โซโลมองจานใส่ข้าวปั้นที่โรบินวางบนโต๊ะอย่างชั่งใจก่อนจะค่อยๆ หยิบมันเข้าปากและเคี้ยวมันอย่างช้าๆ ส่วนโรบินที่รับหน้าที่เป็นคนทำก็มองอย่างตื่นเต้น ถ้ามันไม่อร่อยขึ้นมาล่ะ? การทำอาหารครั้งนี้ไม่ใช่แค่เธอกินคนเดียว แต่มันรวมถึงอีกสามชีวิตที่ต้องกินฝีมือเธอด้วย
“ก็ใช้ได้นี่” โซโลกัดอีกคำเข้าปาก
“ว้าว! ดีจังเลย” คุณหมีช่วยไปตามคุณหมอให้ทีนะจ้ะ
จากนั่นเบโปะก็เดินไปตามกัปตันของตัวเองมากินอาหาร แม้ว่ามือนี้เขาจะทำแค่อาหารง่ายๆ แต่การได้ทำให้กัปตันกินนี่ไม่ว่ากี่ครั้งเขาก็ดีใจเวลาเห็นกัปตันเคี้ยวอาหารของเขา
นิโค โรบินเดินไปล้างมือโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าถูกสายตาคมของใครบางคนที่นั่งกินข้าวปั้นจ้องมองอยู่ แผ่นหลังของโรบินดูอบอุ่นในสายตาของโซโล เหมือนแม่บ้านกับสามี(?) เฮ้ยๆ! ผิดๆ ไม่ใช่แล้ว เขาไม่ได้คิดอะไรกับยัยนั่นจริงๆ นะ
แล้วโรบินก็เดินมานั่งข้างๆ โซโล โซโลที่เห็นสิ่งบางอย่างสีข้าวติดอยู่ที่ข้างแก้มใสของคนข้างๆ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะใช้ลิ้นเลียเอาออก โรบินที่ตกจะจนสะดุ้งโหยงถูกมือแข็งแรงของโซโลประคองใบหน้าไว้ไม่ให้หันหนี ทันที่ที่ได้ลิ้มรสของวัตถุสีขาวนั่นเขาก็รู้ได้ทันทีว่านั่นคือเมล็ดข้าว
“คะ...คุณนักดาบ” นิโค โรบินเอ่ยเสียงเบา
ต่อให้ตอนนี้โรบินทายาพิษไว้ที่แก้ม เขาก็พร้อมที่จะตายอย่างไม่เสียดายชีวิตเลย เขาค่อยๆ ลากปลายลิ้นมาหยุดที่ต้นคอก่อนจะทำkiss mark บนผิวเนียนของโรบิน โรบินที่พอจะรู้ว่าเขาทำอะไรใช้พลังของผลฮานะ ฮานะผลักเขาออก
“ทำอะไรน่ะ เราเป็นเพื่อนกันนะ!?” โรบินตวาดเสียงดัง
“ฉันเคยบอกเหรอว่าฉันคิดว่าเธอเป็นเพื่อน” โซโลใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง “ฉันไม่เคยไว้ใจเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
“นั่นสินะ” โรบินลุกขึ้นและเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวอื่นที่อยู่ห่างออกไปจากโซโล เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
แล้วลอว์กับเบโปะก็เปิดประตูเข้ามาท่ามกลางบรรยากาศอึมครึม โรบินที่นั่งเงียบๆ และดึงคอเสื้อขึ้นจนดูผิดปกติ กับโรโรโนอา โซโลที่นั่งเท้าคางอยู่เงียบๆ ทั้งสองคนนั่งนิ่งๆ ไม่มองหน้ากัน
“เป็นอะไรกันเนี่ย” เบโปะถามท่ามกลางความเงียบ โรบินและโซโลหันมามองหน้ากันก่อนจะเบือนหน้าไปคนละทาง
ลอว์ปิดปากเบโปะ แล้วส่งสายตาเป็นเชิงว่า ‘อย่าถามอย่างเด็ดขาด มาให้เบโปะ’
“ขอโทษครับ”
“ฉันขอตัวละ” โรบินเดินสวนทางกับลอว์ออกจากครัว
แล้วด้วยความช่างสังเกต ลอว์มองเห็นรอยคล้ายรอยดูดโผล่พ้นคอเสื้อของโรบินออกมา ตอนนี้แหละที่เขารู้สึกอยากตาบอดจะได้ไม่เห็นของพวกนี้ให้ปวดใจตัวเอง
ลอว์นั่งลงข้างๆ โซโลแล้วเขาก็โบกมือให้เบโปะออกไป ตอนนี้ในหัวของเขามีคำถามต่างๆประดังเข้ามาไม่ขาด เขาอยากรู้ความจริงเรื่องรอยนี่ และเขาต้องรู้ให้ได้ด้วย
“นายทำรอยนั่นเหรอ” เจ็ดเทพโจรสลัดไม่โยกโย้ เขาถามตรงประเด็นที่ตัวเองสนใจโดยไม่คิดว่ามันจะเสียมารยาทหรือไม่
“เออ ฉันทำเอง” โซโลยกขวดเหล้ากรอกใส่ปาก
“นายคบอยู่กับเธอ?”
พรวด~
ของเหลวที่เพิ่งดื่มเข้าไปพุ่งพรวดออกจากปากว่าที่นักดาบอันดับหนึ่งของโลก
“เปล่า แล้วฉัน...ก็มีเรื่องจะถามแกเหมือนกัน” โซโลมองลอว์ที่นั่งฟังเฉยๆ “ฉันใจเต้นแปลกๆ บางที่ก็ใจเต้นรัว บางทีก็แทบหยุดเต้นไปเลย ฉันกำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นอะไร”
ลอว์ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วมองคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร
“นายเป็นโรคหัวใจ”
(อีนี่ฉลาดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องหัวใจ : ไรท์เตอร์)
“ถึงตายหรือเปล่า”
“ก็มีโอกาสสูง” ลอว์มองข้าวปั้นแล้วหยิบมันขึ้นมากิน แม้ว่ารสชาติมันจะสู้ซันจิไม่ได้แต่พอนึกถึงคนทำแล้วเขากลับคิดว่ามันอร่อยกว่าของซันจิซะอีก
“ถ้าฉันตายนายจะปกป้องโรบินแทนฉันใช่ไหม”
“...” ลอว์เงียบไปชั่วอึดใจและมองโซโลอย่างงุนงง
“ก็กัปตันฝากยัยนั่นไว้กับฉัน ถ้าฉันเป็นอะไรก็ฝากนายด้วยแล้วกัน” โซโลลุกขึ้นและเดินมาตบบ่าลอว์
“นั่นนายจะไปไหน”
“เขียนจดหมาย ถ้าฉันตายก็ฝากมันให้ทุกๆ คนด้วย”
หลังจากที่โซโลเดินออกไป ลอว์ก็นั่งกินข้าวปั้นกับเบโปะที่เดินกลับมาเพียงสองคน เบโปะถามเรื่องต่างๆ และเล่าว่าเขาถูกซาจิกับเพนกวินกดขี่ ลอว์ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ โดยไม่พูดสักคำ สิ่งที่เบโปะเล่านั้นไม่เข้าหัวเขาเลย ในหัวเขามีแต่รูปรอยนั่นที่คอของโรบิน
คิดถึงตรงนี้แล้วใจเขาก็หายวาบ
ลอว์ลุกขึ้นยืนตรงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“กัปตันจะไปไหนครับ” เบโปะที่เห็นลอว์ตั้งท่าจะเดินเอ่ยทัก
“จะไปเขียนจดหมาย”
เขาว่าเขาก็คงจะเป็นโรคหัวใจเหมือนโซโลนั่นแหละ โดยเฉพาะเวลาที่ได้อยู่ใกล้กับเธอคนนั้นด้วยยิ่งแล้วใหญ่
นิโค โรบิน...ช่างเป็นผู้หญิงที่อันตรายจริงๆ
โรบินส่องกระจกมองรอยที่เธอได้มาด้วยความไม่เต็มใจจากนักดาบที่เธอ(เคย)ไว้ใจ เขาไม่ควรทำแบบนี้กับเธอเลย
โรบินใช้แป้งปิดรอยคล้ายรอยช้ำหรือที่เรียกกันว่า kiss mark (คิสมาร์ก) ไม่อยากให้ใครเห็นรอยตำหนินี้เลย
ใจจริงแล้วเธออยากจะตบหน้าเขาสักที แต่ก็คงดูไม่ดีเพราะเธอเองก็ติดหนี้บุญคุณเขาเยอะพอสมควรเหมือนกัน เขาเข้ามารับดาบและปกป้องเธอหลายครั้ง กุญแจที่ปลดปล่อยเธอจากหินไคโรก็เป็นของที่เขาสู้มาเพื่อเธอ ถ้าไม่มีเขาที่เอนิเอสลอบบี้วันนั้น ตอนนี้เธออาจจะอยู่ที่อิมเพลดาวน์แล้วก็ได้
โรบินลูบแก้มของตัวเองที่ถูกโซโลเลียก่อนจะเอาผ้าเช็ดเบาๆ
เขาไม่ได้น่ารังเกียจสำหรับเธอ แค่ตอนนี้หัวใจของเธอได้มอบให้กับเขาคนนั้นเรียบร้อยแล้วนี่นา
หัวใจแสนเย็นชาของเธอคนนี้...มีแต่เขาเท่านั้น
ทั้งลอว์และโซโลไม่รู้เลยว่าหัวใจของโรบินไม่ได้ว่างอยู่อย่างที่ตัวเองคิด
_______________________________________________________________________
Girl Talks :
บทต่อนี่น้อยจริงๆ - - ปมหนึ่งเดียวขอเงเรื่องออกมาแล้ว ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตาม(ถึงแม้ว่าเกิร์ลจะพิมช้าก็ตาม) ยังไงเกิร์ลจะพยายามอัพบ่อยๆ นะคะ
ความคิดเห็น