ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [One piece][Zoro,Law x Robin] ♔ Three Times True

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 ♔ : kiss mark

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 58


    Chapter 2 : kiss mark

    หลังจากพวกลูฟี่ลงไปที่เกาะ คนทั้งสามก็แทบไม่ได้คุยกัน  ต่างคนต่างกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ และทำกิจกรรมอย่างปรกติ เช่น  โรบินที่นั่งอ่านหนังสือ โซโลที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราว

    แล้วความเงียบก็ถูกทำลายลง

    “กัปตันคร้าบ กัปตันนน” จู่ๆ หมีขั้วโลกที่นั่งมาบนเรือเล็กๆ ก็ตะโกนเรียกกัปตันหมวกลายจุดของตัวเอง

    “เบโปะ!!!” ลอว์ตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นลูกเรือตัวเอง “ซาจิกับเพนกวินล่ะ”

    “พวกเขาอยู่อีกฝากของเกาะครับ เรารอกัปตันอยู่ที่นั่น” เบโปะค่อยๆ ปีนขึ้นมาอยู่บนเรือ

    “ฉันคงต้องรอหมวกฟางกลับมาก่อน ฉันบอกพวกนั้นว่าจะเฝ้าเรือให้” ลอว์ตอบหน้านิ่งๆ

    “กัปตันครับ ขออนุญาตนะครับ” เบโปะพุ่งไปกอดกัปตันเรือที่รักของตัวเองและซุกหน้าลงกับคอของลอว์ก่อนจะไซร้(?) ด้วยความคิดถึง

    “น่ารักจังเลยนะ” นิโค โรบินเท้าคางมองหมีสีขาวตัวโตก่อนจะยิ้มให้น้อยๆ ส่วนเบโปะก็เขินที่มีสาวสวยส่งยิ้มให้

    “ไอ้หมีหื่นกาม” โซโลบ่นเพราะเห็นมันหน้าแดง

    สาวผมดำก้าวเดินมาหาหมีขั้วโลก ทำให้ลอว์ใช้โอกาสนี้ออกจากอ้อมกอดหนานุ่มของเบโปะ โรบินยืนตรงหน้าเบโปะและเอื้อมมือไปจับขนฟูๆ ของเบโปะ

    “นุ่มจังเลย”

    เบโปะสวมกอดโรบินท่ามกลางสายตาชายหนุ่มทั้งสอง โรบินเองก็ตกใจเล็กน้อยแต่สักพักเธอก็ปรับสีหน้าเป็นปรกติและยิ้มอยู่ในอ้อมกอดของหมีขาวตัวนั้น ส่วนลอว์ก็มองเห็นว่าหน้าอกของโรบินมันอยู่แนบกับพุงของเบโปะ

    อะ...ไอ้หมีหื่น

    โซโลมองหมีตัวนั้น กอดโรบินแล้วก็ยกดาบขึ้นก่อนจะปามันเฉียดเบโปะไปเล็กน้อย จนเบโปะต้องผละออกจากโรบิน และไปหลบอยู่หลังลอว์

    “โทษที ดาบหลุดมือ” โซโลแก้ตัว

    ไอ้ที่ทำไปนี่ไม่ใช่เพราะหึงนะ อย่าเข้าใจผิด แค่รำคาญไอ้หน้าขนก็แค่นั่นเอง เขาไม่ได้อิจฉามันเลยสักนิด ไม่เลยจริงๆ นะ

    “เฮ้ๆ จะกอดก็ต้องกอดให้ครบสิ” โซโลยันตัวลุกขึ้นยืนและเดินไปหาเบโปะพร้อมกับอ้าแขนกว้างรอรับอ้อมกอดอันร้อนแรงของเบโปะ

    เบโปะค่อยๆ เดินไปหาโซโลและสวมกอดเขา ส่วนนักดาบหนุ่มหลังจากที่กอดเบโปะก็ไม่สนอะไรอีกแล้ว เขาซุกใบหน้าลงบนหน้าท้องของเบโปะ สูดหายใจเข้าและได้กลิ่นหอมของโรบิน

    ภาพนักดาบหน้านิ่งกอดหมีตอนอ้วนขนปุกปุยทำให้นักโบราณคดีสาวหัวเราะเสียงใสออกมาจากใจจริง แล้วยิ้มตาหยีจนลอว์ที่อยู่ข้างๆ หันมามองและเผลอยิ้มออกมาเพราะรอยยิ้มอันสดใสจนดูเหมือนเมฆหมอกที่อยู่ในใจของเธอหายไป

    เพราะเป็นเธอ...เขาถึงยิ้ม

    “ขำอะไรของเธอ” นักดาบตาเดียวผละออกจากเบโปะและมองไปที่หญิงสาวเพียงคนเดียวในตอนนี้

    “ก็คุณนักดาบน่ารักนี่นา” สาวผมยาวดำขลับยิ้มตอบโดยไม่รู้เลยว่าคำพูดของเธอทำให้ใจของเขาเต้นแปลกๆ เป็นความรู้สึกใหม่ที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน

    คำพูดไม่กี่พยางค์นั้นทำให้โซโลค่อยๆ คลี่รอยยิ้มออก

    “ฉันขอตัวก่อนนะ วันนี้ถ้าซันจิกลับมาไม่ทันพวกนายต้องกินอาหารฝีมือฉัน” นิโค โรบินหันหลังเดินเข้าไปในครัวก่อนจะส่งเสียงออกมาจากครัว “แต่ฉันไม่รับประกันเรื่องรสชาตินะ”

    ไม่นานเจ้าหมีตัวใหญ่ก็เดินเข้าไปในครัวพร้อมกับนักดาบผมเขียว สำหรับเบโปะคือไปช่วยโรบินทำอาหาร แต่สำหรับโซโลคือไปทำคะแนน...เอ้ย! ไปดูยัยนั่นทำอาหาร เผื่อยัยนั่นเกิดรำคาญหรือฉวยโอกาสนี้ใส่ยาพิษลงอาหารเขาก็ตายสิวะ

    “อ้าว คุณนักดาบมาทำอะไรล่ะ” โรบินในลุคแม่บ้านสวมผ้ากันเปื้อนที่โซโลไม่เคยคิดว่ามันจะเข้ากันได้ดีขนาดนี้ อีกทั้งเสื้อตัวในที่แนบเนื้อของโรบินทำให้เห็นสัดส่วนของเธอได้อย่างชัดเจน ทั้งหน้าอก เอว สะโพก ทุกส่วนของเธอลงตัวเหมือนพระเจ้าจงใจสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นคู่แข่งของจักรพรรดินีโจรสลัด เวลาเธอขยับตัวผมสีดำสนิทที่เธอมัดสูงไว้จะปลิวอย่างสวยงาม

    “จำเป็นที่ต้องรู้เหรอ” โซโลตอบเสียงห้วนและเบ้ปากนิดๆ

    “จ้าๆ” นิโค โรบินลงมือแล่เนื้อที่เหลืออยู่ทันที โดยมีเบโปะคอยช่วยอยู่ข้างๆ

    เสียงใบมีดกระทบกับเขียงเป็นจังหวะช่างเสนาะหูจริงๆ แม้ว่าเขาจะเคยเห็นไอ้กุ๊กห่วยทำอาหารอยู่หลายครั้งแต่กลับไม่รู้สึกดีเท่ากับตอนที่มองโรบินทำอาหาร ตอนนี้เหมือนสมองมันตัดขาดจากโลกภายนอกไปเรียบร้อยแล้ว ราวกับว่าในห้องนี้มีเพียงพวกเขาสองคน ไม่มีหมีปุ้มปุ้ยของไอ้พันธมิตรกิ๊กก๊อกนั่น ทุกสิ่งอื่นๆ เป็นเหมือนสีขาวดำ มีเพียงโรบินกับเขาเท่านั้นที่มีสีโดดเด่นกว่าสิ่งใดๆ

    โซโลกระดกเหล้าลงคอ เมื่อกี้คิดอะไรวะนั่น ภาพหลอน? เบลอ? เมา?

    “คุณหมอไม่ทานขนมปังใช่ไหม” โรบินถามเบโปะทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่

    “ใช่ครับ”

    “งั้นก็ต้องหุงข้าวใช่ไหมเนี่ย” โรบินบ่นอุบ

    การทำอาหารนี่ยากกว่าที่เธอคิดค่อนข้างเยอะ แต่ดูจากโหงเฮ้งและความสามารถแต่ละคนแล้ คนที่พอจะทำอาหารได้บ้างก็มีแต่เธอและเบโปะเท่านั้น

    เพราะงั้นเธอถึงได้มาหุงข้าวอยู่นี่ไง!

    “คุณหมอล่ะ” โรบินถามโซโล

    “ไม่รู้” นักดาบตอบส่งๆ ไป

    โรบินชะงักไปสักครู่หนึ่งแล้วหุงข้าวต่อ สักพักหลังจากที่ข้าวสุกแล้วโรบินก็ลงมือทำข้าวปั้น จำนวนมากพอสมควรเพื่อรับมือกระเพาะของสามคนกับอีกหนึ่งตัว ขณะที่ทำเหงื่อก็ไหลจนเธอต้องยกแขนขึ้นเช็ดเหงื่อไม่ให้ตกลงไปในอาหารที่เธอทำ แม้ว่ามันจะเหนื่อยแค่ไหนแต่เธอก็ไม่ปริปากบ่นออกมาสักคำ จนกระทั่งข้าวปั้นฝีมือโรบินและเบโปะสำเร็จลุล่วง

    “คุณนักดาบช่วยลองชิมหน่อยได้ไหม”

    โซโลมองจานใส่ข้าวปั้นที่โรบินวางบนโต๊ะอย่างชั่งใจก่อนจะค่อยๆ หยิบมันเข้าปากและเคี้ยวมันอย่างช้าๆ ส่วนโรบินที่รับหน้าที่เป็นคนทำก็มองอย่างตื่นเต้น ถ้ามันไม่อร่อยขึ้นมาล่ะ? การทำอาหารครั้งนี้ไม่ใช่แค่เธอกินคนเดียว แต่มันรวมถึงอีกสามชีวิตที่ต้องกินฝีมือเธอด้วย

    “ก็ใช้ได้นี่” โซโลกัดอีกคำเข้าปาก

    “ว้าว! ดีจังเลย” คุณหมีช่วยไปตามคุณหมอให้ทีนะจ้ะ

    จากนั่นเบโปะก็เดินไปตามกัปตันของตัวเองมากินอาหาร แม้ว่ามือนี้เขาจะทำแค่อาหารง่ายๆ แต่การได้ทำให้กัปตันกินนี่ไม่ว่ากี่ครั้งเขาก็ดีใจเวลาเห็นกัปตันเคี้ยวอาหารของเขา

    นิโค โรบินเดินไปล้างมือโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าถูกสายตาคมของใครบางคนที่นั่งกินข้าวปั้นจ้องมองอยู่ แผ่นหลังของโรบินดูอบอุ่นในสายตาของโซโล เหมือนแม่บ้านกับสามี(?) เฮ้ยๆ! ผิดๆ ไม่ใช่แล้ว เขาไม่ได้คิดอะไรกับยัยนั่นจริงๆ นะ

    แล้วโรบินก็เดินมานั่งข้างๆ โซโล โซโลที่เห็นสิ่งบางอย่างสีข้าวติดอยู่ที่ข้างแก้มใสของคนข้างๆ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะใช้ลิ้นเลียเอาออก โรบินที่ตกจะจนสะดุ้งโหยงถูกมือแข็งแรงของโซโลประคองใบหน้าไว้ไม่ให้หันหนี ทันที่ที่ได้ลิ้มรสของวัตถุสีขาวนั่นเขาก็รู้ได้ทันทีว่านั่นคือเมล็ดข้าว

    “คะ...คุณนักดาบ” นิโค โรบินเอ่ยเสียงเบา

    ต่อให้ตอนนี้โรบินทายาพิษไว้ที่แก้ม เขาก็พร้อมที่จะตายอย่างไม่เสียดายชีวิตเลย เขาค่อยๆ ลากปลายลิ้นมาหยุดที่ต้นคอก่อนจะทำkiss mark บนผิวเนียนของโรบิน โรบินที่พอจะรู้ว่าเขาทำอะไรใช้พลังของผลฮานะ ฮานะผลักเขาออก

    “ทำอะไรน่ะ เราเป็นเพื่อนกันนะ!?” โรบินตวาดเสียงดัง

    “ฉันเคยบอกเหรอว่าฉันคิดว่าเธอเป็นเพื่อน” โซโลใช้ลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง “ฉันไม่เคยไว้ใจเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”

    “นั่นสินะ” โรบินลุกขึ้นและเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวอื่นที่อยู่ห่างออกไปจากโซโล เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

    แล้วลอว์กับเบโปะก็เปิดประตูเข้ามาท่ามกลางบรรยากาศอึมครึม โรบินที่นั่งเงียบๆ และดึงคอเสื้อขึ้นจนดูผิดปกติ กับโรโรโนอา โซโลที่นั่งเท้าคางอยู่เงียบๆ ทั้งสองคนนั่งนิ่งๆ ไม่มองหน้ากัน

    “เป็นอะไรกันเนี่ย” เบโปะถามท่ามกลางความเงียบ โรบินและโซโลหันมามองหน้ากันก่อนจะเบือนหน้าไปคนละทาง

    ลอว์ปิดปากเบโปะ แล้วส่งสายตาเป็นเชิงว่า อย่าถามอย่างเด็ดขาด มาให้เบโปะ

    “ขอโทษครับ”

    “ฉันขอตัวละ” โรบินเดินสวนทางกับลอว์ออกจากครัว

    แล้วด้วยความช่างสังเกต ลอว์มองเห็นรอยคล้ายรอยดูดโผล่พ้นคอเสื้อของโรบินออกมา ตอนนี้แหละที่เขารู้สึกอยากตาบอดจะได้ไม่เห็นของพวกนี้ให้ปวดใจตัวเอง

    ลอว์นั่งลงข้างๆ โซโลแล้วเขาก็โบกมือให้เบโปะออกไป ตอนนี้ในหัวของเขามีคำถามต่างๆประดังเข้ามาไม่ขาด เขาอยากรู้ความจริงเรื่องรอยนี่ และเขาต้องรู้ให้ได้ด้วย

    “นายทำรอยนั่นเหรอ” เจ็ดเทพโจรสลัดไม่โยกโย้ เขาถามตรงประเด็นที่ตัวเองสนใจโดยไม่คิดว่ามันจะเสียมารยาทหรือไม่

    “เออ ฉันทำเอง” โซโลยกขวดเหล้ากรอกใส่ปาก

    “นายคบอยู่กับเธอ?

    พรวด~

    ของเหลวที่เพิ่งดื่มเข้าไปพุ่งพรวดออกจากปากว่าที่นักดาบอันดับหนึ่งของโลก

    “เปล่า แล้วฉัน...ก็มีเรื่องจะถามแกเหมือนกัน” โซโลมองลอว์ที่นั่งฟังเฉยๆ “ฉันใจเต้นแปลกๆ บางที่ก็ใจเต้นรัว บางทีก็แทบหยุดเต้นไปเลย ฉันกำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นอะไร

    ลอว์ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย แล้วมองคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร

    “นายเป็นโรคหัวใจ”

    (อีนี่ฉลาดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องหัวใจ : ไรท์เตอร์)

    “ถึงตายหรือเปล่า

    “ก็มีโอกาสสูง” ลอว์มองข้าวปั้นแล้วหยิบมันขึ้นมากิน แม้ว่ารสชาติมันจะสู้ซันจิไม่ได้แต่พอนึกถึงคนทำแล้วเขากลับคิดว่ามันอร่อยกว่าของซันจิซะอีก

    “ถ้าฉันตายนายจะปกป้องโรบินแทนฉันใช่ไหม

    “...” ลอว์เงียบไปชั่วอึดใจและมองโซโลอย่างงุนงง

    “ก็กัปตันฝากยัยนั่นไว้กับฉัน ถ้าฉันเป็นอะไรก็ฝากนายด้วยแล้วกัน” โซโลลุกขึ้นและเดินมาตบบ่าลอว์

    “นั่นนายจะไปไหน”

    “เขียนจดหมาย ถ้าฉันตายก็ฝากมันให้ทุกๆ คนด้วย”

    หลังจากที่โซโลเดินออกไป ลอว์ก็นั่งกินข้าวปั้นกับเบโปะที่เดินกลับมาเพียงสองคน เบโปะถามเรื่องต่างๆ และเล่าว่าเขาถูกซาจิกับเพนกวินกดขี่ ลอว์ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ โดยไม่พูดสักคำ สิ่งที่เบโปะเล่านั้นไม่เข้าหัวเขาเลย ในหัวเขามีแต่รูปรอยนั่นที่คอของโรบิน

    คิดถึงตรงนี้แล้วใจเขาก็หายวาบ

    ลอว์ลุกขึ้นยืนตรงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

    “กัปตันจะไปไหนครับ” เบโปะที่เห็นลอว์ตั้งท่าจะเดินเอ่ยทัก

    “จะไปเขียนจดหมาย”

    เขาว่าเขาก็คงจะเป็นโรคหัวใจเหมือนโซโลนั่นแหละ โดยเฉพาะเวลาที่ได้อยู่ใกล้กับเธอคนนั้นด้วยยิ่งแล้วใหญ่

    นิโค โรบิน...ช่างเป็นผู้หญิงที่อันตรายจริงๆ
     

    โรบินส่องกระจกมองรอยที่เธอได้มาด้วยความไม่เต็มใจจากนักดาบที่เธอ(เคย)ไว้ใจ เขาไม่ควรทำแบบนี้กับเธอเลย

    โรบินใช้แป้งปิดรอยคล้ายรอยช้ำหรือที่เรียกกันว่า kiss mark (คิสมาร์ก) ไม่อยากให้ใครเห็นรอยตำหนินี้เลย

    ใจจริงแล้วเธออยากจะตบหน้าเขาสักที แต่ก็คงดูไม่ดีเพราะเธอเองก็ติดหนี้บุญคุณเขาเยอะพอสมควรเหมือนกัน เขาเข้ามารับดาบและปกป้องเธอหลายครั้ง กุญแจที่ปลดปล่อยเธอจากหินไคโรก็เป็นของที่เขาสู้มาเพื่อเธอ ถ้าไม่มีเขาที่เอนิเอสลอบบี้วันนั้น ตอนนี้เธออาจจะอยู่ที่อิมเพลดาวน์แล้วก็ได้

    โรบินลูบแก้มของตัวเองที่ถูกโซโลเลียก่อนจะเอาผ้าเช็ดเบาๆ

    เขาไม่ได้น่ารังเกียจสำหรับเธอ แค่ตอนนี้หัวใจของเธอได้มอบให้กับเขาคนนั้นเรียบร้อยแล้วนี่นา

    หัวใจแสนเย็นชาของเธอคนนี้...มีแต่เขาเท่านั้น

    ทั้งลอว์และโซโลไม่รู้เลยว่าหัวใจของโรบินไม่ได้ว่างอยู่อย่างที่ตัวเองคิด
     



    _______________________________________________________________________
    Girl Talks :
    บทต่อนี่น้อยจริงๆ - - ปมหนึ่งเดียวขอเงเรื่องออกมาแล้ว ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตาม(ถึงแม้ว่าเกิร์ลจะพิมช้าก็ตาม) ยังไงเกิร์ลจะพยายามอัพบ่อยๆ นะคะ 
     

    © simply ; theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×